พักตร์อสูร
ชีวิตปกติสุขของเธอต้องสิ้นสลาย เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของเด็กหญิงคนหนึ่ง โชคชะตาหรือเวรกรรม ทำให้มาโผล่ในสถานการณ์ผัว1เมีย6 แถมต้องสู้รบเพื่อเอาตัวให้รอดอีก “ขอชีวิตเก่าฉันคืนมาเถิด”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 7 (ครึ่งหลัง 1/2)
(1) จะมาอัพอีกทีวันเสาร์นะคะ
(2) ขอบพระคุณมากๆ กับทุกๆ คอมเม้นท์ที่ทำให้คนเขียนงานคนนี้ได้รับทราบนะคะ อยากบอกให้รู้ว่าอ้อยซาบซึ้งและดีใจอย่างที่สุด กับการได้ยินเสียงของเพื่อนๆ ทุกท่านหลังจากได้อ่านนิยายที่อ้อยเขียน แม้อ้อยจะไม่มีเวลาตอบเพราะรีบปั่นต้นฉบับอยู่ แต่ก็หวังใจว่านักอ่านที่รักของอ้อยทุกท่านจะเข้าใจ เป็นแรงใจให้เขียนผลงานออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ ขอบพระคุณทุกกำลังใจที่ให้มาค่ะ
รักและเคารพ
อ้อย / สุชาคริยา
---------------------------------------------
การมาเยือนของพะลัญจะคหบดีผู้เป็นเจ้าหนี้ใหญ่ทำให้คนในมนสิการตกใจไม่น้อย เมื่อไม่มีใครล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้ว มนสิการ กำลังอยู่ในภาวะคับขันและสั่นคลอนเพียงใด
คณะผู้มาเยือนสิบกว่าชีวิตอยู่ที่เรือนใหญ่ อาหารคาวหวานล้วนต้อนรับเป็นอย่างดีมิมีขาดตก บ่าวบนเรือนถูกจำกัดขึ้นมาทำหน้าที่ดูแลไม่กี่คน แม้แต่จิตราก็ยังนั่งอยู่หน้าเรือนนอนของตยาวดี คอยดูแลอำนวยความสะดวกอยู่ห่างๆ
พะลัญจะเป็นชายวัยประมาณยี่สิบห้าหรือใกล้เคียงกับท่านโชติระเส หน้าตาของเขาหล่อเหลาเอาการ ผิวขาวจัด แต่งกายด้วยเสื้อสีเทาอ่อนมันเลื่อมคล้ายผ้าไหม เป็นเสื้อแขนยาวผ่าหน้า กลัดกระดุมผ้าแนวขวางฝีมือประณีต เนื้อผ้าชั้นดีบ่งบอกฐานะ นุ่งผ้าลอยชายทอลายสีเข้มผืนสวย คาดเข็มขัดทองคำฝังอัญมณีมีราคา ผมมุ่นมวยปักปิ่น นั่งพับเพียบอยู่ตรงหอนั่งนี้แล้ว
เขาผิดจากที่อุษามันตราคาดคิดไว้ว่าน่าจะมีอายุรุ่นคุณปู่มหิทธิคุณา เมื่อมองเลยไปยังคนในคณะของเขาที่นั่งอยู่ตรงเรือนชาน แต่ละคนก็ล้วนแต่งกายดีในระดับหนึ่งโดยมิได้ขึ้นมาบนหอนั่งขนาดกว้างที่ยกขึ้นสูงว่าพื้นเรือนนี้
“จักพักที่นี่สักคืน แล้วค่อยเดินทางต่อดีหรือไม่เจ้าข้าท่านพะลัญจะ”
โชติระเสกล่าวอย่างอารี ทว่านั่นก็ด้วยมารยาท การแต่งกายของเขาเช่นเดียวกับอาคันตุกะแต่ไม่ใส่เสื้อ ผมมวยเก็บไว้เรียบร้อยครอบด้วยกรอบทองคำลงยาปักปิ่นทองคำ อันมีนัยแสดงถึงฐานะที่ไม่ให้ใครดูถูกได้
“ข้าพเจ้าแค่เดินทางผ่านมาเท่านั้นเจ้าข้า ท่านโชติระเส จึ่งแวะมาเยี่ยมเยียน ค่ำนี้มีนัดหมายไว้แล้ว อย่าได้เดือดร้อนเลยเจ้าข้า เพียงเป็นธุระจัดหาอาหารคาวหวานรสเลิศเหล่านี้ ข้าพเจ้าก็ซึ้งในน้ำใจท่านโชติระเสยิ่งนัก”
เมื่อพะลัญจะกล่าวจบก็รับไหว้จากตยาวดีที่พาอุษามันตราขัดเข่าเข้ามาทักทายตามธรรมเนียมต้อนรับ เขามองมาที่เธอ อุษามันตรายกมือไหว้ พะลัญจะรับไว้พร้อมกับเอ่ยว่า
“นี่...แม่นายน้อยอุษามันตราผู้เลื่องชื่อ ใช่หรือไม่เจ้าข้า ท่านโชติระเส”
“บุตรีของข้าพเจ้าเป็นเพียงเด็กน้อยผู้ใส่ใจการงาน คำกล่าวอ้างย่อมเกินจริงเจ้าข้า ท่านพะลัญจะ” โชติระเสตอบ
ท่าทางนิ่งๆ ของผู้เจรจาทั้งสองทำให้อุษามันตราอึดอัดนัก โดยเฉพาะของพูดของผู้มาเยือนที่ว่า
“คำเล่าลือย่อมมีเหตุให้เล่าอ้าง แม้นมิเก่งกาจ แต่ใบหน้าวิลาส ดั่งอัปสรสวรรค์ ทั้งที่ยังเล็กนักมิถึงกาลเบ่งบานดั่งบุบผาแย้มรับแสงตะวัน มิผิดว่าถึงกาลอันเหมาะสมนั้น คงเลื่องชื่อนางผู้เลิศหล้ากว่าหญิงใดเป็นแน่แท้ ผ่านกี่หนาวแล้วเจ้าข้า แม่นายน้อยอุษามันตรา”
‘ไอ้บ้าชีกอ ท่าทางนิ่งๆ น้ำเสียงเรียบๆ แต่ดันมาพูดจาแบบนี้กับเด็กได้ไง เพิ่งจะหกขวบเองเว้ย!’
อุษามันตรานึกตอบในใจ เมื่อท้ายประโยค สีหน้าและแววตาของพะลัญจะแสดงความเอ็นดูชัดเจน ซึ่งการแสดงท่าทางเช่นนี้มีนัยไม่ธรรมดา ในสังคมนี้ไม่มีผู้มาเยือนคนใดกล้าเอ่ยปากกับเจ้าเรือนเช่นพะลัญจะอีกแล้ว
เธอได้แค่นิ่งเอาไว้ แม้ส่วนลึกจะไม่พอใจ ทว่าความกลัวชายคนนี้ก็รวมอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นคนนอกที่ได้พบเจอครั้งแรกและไม่ใช่คนในมนสิการ ได้พบเจอมนุษย์ผู้มีโลภะ โทสะ โมหะแบบชีวิตจริง มนุษย์ผู้ต่อสู้ดิ้นรน จนอยู่เหนือคนของคนในสังคมนี้ ไม่ใช่คนที่เป็นเพียงบ่าวหรือมีฐานะทางสังคมต่ำกว่า แต่เป็นคนที่มีฐานะเหนือกว่าและหวังจะได้ประโยชน์จากคนในมนสิการ ก็ทำให้ตะครั่นตะครอไม่น้อย
อุษามันตรากระทำเพียงมองพะลัญจะนิ่งๆ โดยไม่เปิดเผยความรู้สึกใด และไม่ให้คำตอบใดเช่นกัน
“ผ่านหกหนาวได้มินาน ยังเล็กนักเจ้าข้า” ตยาวดีเป็นผู้ตอบโดยใบหน้ายังก้มเอาไว้
“อีกมิกี่หนาวก็จักเป็นสาวแล้ว คงมิผิดไปจากที่ข้าพเจ้าคาดการณ์ไว้ดอก” แล้วหันไปคุยกับโชติระเส “ข้าพเจ้าส่งใบบอกแก่ท่านโชติระเส มิทราบว่าจักจัดการเช่นใดฤาเจ้าข้า”
“หนี้สินคงค้างอยู่ ข้าพเจ้ามีอาจหาเครื่องขัดดอกให้แก่ท่านพะลัญจะได้เจ้าข้า”
ทันใดนั้นหางตาของพะลัญจะก็แลมาที่เธอ แผ่นหลังของอุษามันตราร้อนวาบ รู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัย สายตาเหลือบแลของพะลัญจะยังคงมองขณะที่พูดกับโชติระเสว่า
“ข้าพเจ้าก็หาได้เร่งรัดเจ้าข้า...ท่านโชติระเส หากเราจักดองกันฉันญาติสนิทแต่บัดนี้ แลจบหนี้สินทั้งดอกแลต้นที่ตกลงไว้ ก็นับเป็นบุญของข้าพเจ้านัก ข้าพเจ้านั้นรอได้ มิได้เร่งร้อนแต่ประการใดเจ้าข้า”
‘อยากจับไอ้คนหมอนี่เข้าคุกจริงๆ เด็กตัวเล็กๆ มันก็ยังไม่เว้น’ แม้ในใจจะคิดแบบนั้น แต่ก็ยังคงนิ่ง สงบ สยบความเคลื่อนไหว ไม่แสดงอาการอะไรออกไปให้อีกฝ่ายรู้
โชติระเสก็ยังคงนิ่งเช่นเดียวกัน เขาตอบว่า “ขอบคุณท่านพะลัญจะยิ่งนักในไมตรีนี้ ข้าพเจ้าซาบซึ้ง แลจักเรียนให้ทราบว่า ข้าพเจ้าเตรียมการชำระหนี้สินทั้งหมดแล้ว จึงมิต้องเตรียมเครื่องขัดดอกเจ้าข้า คราแรกข้าพเจ้ามิทราบข่าวว่าผู้ร่วมคณะของท่านพะลัญจะมีเท่าใด จึงมิได้แจ้ง ด้วยเกรงความปลอดภัย แต่เมื่อเห็นว่ามีคนนับสิบในขบวนนี้ ข้าพเจ้าย่อมยินดีชำระหนี้สินทั้งหมดให้เสร็จสิ้นเจ้าข้า”
อุษามันตรากับตยาวดีหันมามองหน้าโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อความคิดนี้ท่านโชติระเสไม่เคยได้บอกกล่าวให้รู้มาก่อน
พะลัญจะขยับนั่งหลังตรง สายตามองที่พื้น ก่อนจะมองโชติระเส สีหน้าและแววตายังคงเรียบนิ่งยากแก่การคาดเดาอารมณ์ไม่เปลี่ยนเมื่อเขาพูดว่า “ข้าพเจ้ามิได้เร่งร้อนแต่อย่างใดนี่เจ้าข้า อีกทั้งหนี้สินระหว่างเราก็มิน้อย”
“ข้าพเจ้าเตรียมการไว้เสร็จสรรพหลายเพลาแล้วเจ้าข้า” โชติระเสพูดโดยไม่ยอมให้พะลัญจะได้พูดต่อเช่นกัน เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะเอ่ยบางอย่าง สีหน้าของโชติระเสไม่แสดงอารมณ์ใดเมื่อพูดต่อว่า “ท่านพะลัญจะกรุณารอเพียงครู่เถิด ข้าพเจ้าจักให้บ่าวยกมา แลนับเพื่อชำระหนี้ จักมิได้เป็นภาระอีกต่อไปเจ้าข้า” กล่าวจบก็ลุกขึ้น พยักหน้าให้ตยาวดีตามเข้าไปที่เรือนนอนของหล่อนซึ่งจิตรานั่งอยู่
ทั้งสามหายเข้าไปในห้อง เหลืออุษามันตรากับบ่าวบนเรือนใหญ่ไม่กี่คนไว้กับแขก ถ้าจะถามว่าตอนนี้เธอรู้สึกเช่นไร ก็บอกได้เพียงคำเดียวว่าในท้องนั้นปั่นป่วนเหลือเกิน มันร้อนวูบวาบๆ ตลอด โดยเฉพาะเพิ่งได้รู้ว่าที่นี่... ในโลกใหม่นี้ เธอยังเป็นเพียงกบในกลาของจริงและมีความรู้แค่หางอึ่งอย่างไม่ต้องคาดเดา
“ข้าพเจ้าทราบข่าว ว่าแม่นายน้อยอุษามันตราหัดเรียนเขียนอ่านกับท่านโชติระเส ข่าวที่ข้าพเจ้าได้ยินนี้ จริงหรือไม่เจ้าข้า”
เขาหันมาหาเธอโดยตรงแล้ว ไม่ได้แลเพียงหางตาเช่นก่อนนี้ แววตาของเขาที่เห็นไม่วับวาม แต่สัญชาตญาณกำลังบอกว่านี่แหละ คือท่าทางของเสือก่อนจะตะครุบเหยื่อแล้วกินอย่างเลือดเย็น ทว่าเหนือสิ่งอื่นใด ‘ข่าวนี้หลุดออกไปได้อย่างไรกัน’
อุษามันตราเงียบ ไม่ยอมตอบ ในหัวครุ่นคิดเพียงว่าในมนสิการไม่ปลอดภัยเสียแล้ว ก่อนจะตัดสินใจพูดว่า “จริงเจ้าข้า” โดยไม่หลบหน้า
รอยยิ้มพึงใจประดับที่มุมปากของพะลัญจะนิดหนึ่ง “นับว่าโชคดีเกินหน้าแม่หญิงผู้ใดในแคว้นเจ้าข้า สมแล้วที่เป็นถึงบุตรีภริยาเอกแห่งมนสิการ ท่านโชติระเสน่านับถือยิ่งนักที่ฉีกกฎประเพณี”
“คุณพ่อท่านมองการณ์ไกล จึงรู้ว่าควรทำเช่นไรเพื่อให้มนสิการปลอดภัยที่สุดเจ้าข้า”
พะลัญจะหน้าเปลี่ยนสีไปนิดหนึ่ง เขาแปลกใจเมื่อได้ฟังคำโต้ตอบ น้ำเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเด็กหญิงจริงอยู่ แต่ความมั่นใจกลับเต็มเปี่ยมผิดอายุ เขากลบเกลื่อนสีหน้าให้เป็นปกติดังเดิม แล้วกล่าวว่า “แม่นายน้อยอุษามันตราเก่งนัก ผู้ใดได้ผูกสมัครรับเข้าเรือน คงเสมือนได้ดวงแก้วมณีโชติ เป็นแน่แท้” เขาพูดโดยคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่เข้าใจความหมาย ทว่า
“นายท่านกล่าวเกินจริงแล้วเจ้าข้า ข้าพเจ้าเป็นเพียงเด็กน้อย ความรู้ยังด้อย งานเรือนยังอ่อนหัด ควรอยู่มนสิการจนกว่าคุณพ่อท่านจักเห็นควรเจ้าข้า” ขณะที่พูดประโยคนี้ เธอต้องก้มหน้าลงเพราะกลัวว่าสายตาจะแสดงอะไรมากเกินไป
และก่อนที่ต้องพูดคุยแก้ขัดมากกว่าที่ควรจะเป็น ท่านโชติระเสก็เดินออกมา

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ม.ค. 2556, 03:31:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ม.ค. 2556, 03:40:38 น.
จำนวนการเข้าชม : 2729
<< บทที่ 7 (ครึ่งแรก) | บทที่ 7 (ครึ่งหลัง 2/2) >> |


atua 24 ม.ค. 2556, 06:25:06 น.
อืม สั้นค่ะ ขอยาวๆอีกหน่อยได้ไหมค่ะ ค้างค่ะ แบบว่าชอบมากๆ แนวเรื่องแปลกดี อยากอ่านต่อค่ะ
อืม สั้นค่ะ ขอยาวๆอีกหน่อยได้ไหมค่ะ ค้างค่ะ แบบว่าชอบมากๆ แนวเรื่องแปลกดี อยากอ่านต่อค่ะ

imsoul 24 ม.ค. 2556, 07:07:46 น.
ลุ้นต่อไป
ลุ้นต่อไป

แว่นใส 24 ม.ค. 2556, 07:19:38 น.
รอตอนต่อไปค่ะ
รอตอนต่อไปค่ะ

oolong 24 ม.ค. 2556, 07:28:25 น.
Can't wait till Sat. !
Can't wait till Sat. !

อริสา 24 ม.ค. 2556, 07:49:29 น.
โล่งอกไปเปลาะนึงที่ท่านโชติระเสยอมลดอีโก้ แต่อุษามันตราเงียบไว้ดีกว่ายิ่งพูดก็แสดงถึงความฉลาดเกินเด็กท่าทางในบ้านจะมีสายลับต่อแต่นี้ต้องระวังตัวแล้ว
สนุกดีค่ะ อยากให้ถึงวันเสาร์เร็วๆ
โล่งอกไปเปลาะนึงที่ท่านโชติระเสยอมลดอีโก้ แต่อุษามันตราเงียบไว้ดีกว่ายิ่งพูดก็แสดงถึงความฉลาดเกินเด็กท่าทางในบ้านจะมีสายลับต่อแต่นี้ต้องระวังตัวแล้ว
สนุกดีค่ะ อยากให้ถึงวันเสาร์เร็วๆ

เดิมเดิม 24 ม.ค. 2556, 08:09:01 น.
ท่านโชติระเส ทำดีแล้ว
ท่านโชติระเส ทำดีแล้ว

โซดา 24 ม.ค. 2556, 08:31:55 น.
พะลัญต้องแวะเวียนมาจีบนายน้อยอุษามันตราแน่ๆเลย อิอิ
พะลัญต้องแวะเวียนมาจีบนายน้อยอุษามันตราแน่ๆเลย อิอิ

beeing 24 ม.ค. 2556, 08:53:38 น.
วันเสาร์ขอยาวกว่านี้นะค่ะ ขอทายว่าพะลัญจะต้องการเกี่ยวดองอุษามันตราให้ลูกชายแน่ๆเลย
วันเสาร์ขอยาวกว่านี้นะค่ะ ขอทายว่าพะลัญจะต้องการเกี่ยวดองอุษามันตราให้ลูกชายแน่ๆเลย


nunoi 24 ม.ค. 2556, 09:34:37 น.
อย่างนี้ท่านพะลัญ จะปล่อยอุษามันตรา เหรอเนี๊ยะ
อย่างนี้ท่านพะลัญ จะปล่อยอุษามันตรา เหรอเนี๊ยะ

wind 24 ม.ค. 2556, 09:59:35 น.
พูดซะขนาดนี้ เป็นใครก็อยากรับเข้าเรือนนะเนี่ย
พูดซะขนาดนี้ เป็นใครก็อยากรับเข้าเรือนนะเนี่ย

ariesleo 24 ม.ค. 2556, 12:02:51 น.
สนุกมากคะ อ่านรวดเดียวเลย
สนุกมากคะ อ่านรวดเดียวเลย


konhin 24 ม.ค. 2556, 19:37:33 น.
หึๆๆ หัวงูจริงๆด้วย
หึๆๆ หัวงูจริงๆด้วย

bansoi4 24 ม.ค. 2556, 20:47:49 น.
คุณอ้อยคะ จะขอรออ่านผลงานดีๆจากคุณนะคะ ขอบคุณค่ะ
คุณอ้อยคะ จะขอรออ่านผลงานดีๆจากคุณนะคะ ขอบคุณค่ะ

แพม 24 ม.ค. 2556, 20:59:56 น.
ยังไม่เจอพระเอกใช่ไหมคะ
ยังไม่เจอพระเอกใช่ไหมคะ

ree 24 ม.ค. 2556, 21:44:11 น.
เอ อย่างไรกัน หรือนายช่างใหญ่จะรับความช่วยเหลือจากตยาวดีแล้ว ถ้าใช่ก็คงจะหมดเคราะห์ไปได้เปลาะหนึ่ง
ดูท่า พะลัญจะผู้นี้จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคตเมื่อแม่นายน้อยอุษาโดขึ้นด้วยกระมัง
เอ อย่างไรกัน หรือนายช่างใหญ่จะรับความช่วยเหลือจากตยาวดีแล้ว ถ้าใช่ก็คงจะหมดเคราะห์ไปได้เปลาะหนึ่ง
ดูท่า พะลัญจะผู้นี้จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคตเมื่อแม่นายน้อยอุษาโดขึ้นด้วยกระมัง

Chii 25 ม.ค. 2556, 00:06:35 น.
เค้าชอบคุณพะลัญจะนิด ๆ แฮะ >______<
เค้าชอบคุณพะลัญจะนิด ๆ แฮะ >______<

คนที่รอมานาน 25 ม.ค. 2556, 02:12:26 น.
จะเอาเงินมาจากไหนใช้หนี้ทั้งหมดน้า พะลัญจะเนี่ยสงสัยจะอยากกินหญ้าอ่อน
จะเอาเงินมาจากไหนใช้หนี้ทั้งหมดน้า พะลัญจะเนี่ยสงสัยจะอยากกินหญ้าอ่อน