อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง # ชอนตะวัน (จบแล้ว)
สำหรับเรื่องนี้เป็นงาน y ครับ..ถ้าไม่ชอบกากบาทสีแดงขอบบนขวา แต่ถ้าชอบก็จะมีศาสนาประกอบกันไปด้วยครับ เรื่องนี้เขียนไว้นานแล้ว ตั้งแต่ปี 49

พิมพ์รวมเล่ม แบบปริ้น ออน ดีมาน
450 หน้า ราคาขาย 350 บาท พร้อมค่าจัดส่งครับ..

สอบถามเพิ่มเติม f_nakhon@hotmail.com


ปล. เคยโพสต์ในบล็อกเมื่อปี 50 มาแล้วหนึ่งครั้งครับ...
Tags: งาน y + ศาสนา

ตอน: 17

17.

จนกระทั่งทริปต้นเดือนสิงหาคม รุ่งแสงสุริยาทัวร์จึงได้ต้อนรับคุณแม่สิริฤดี ศิริรัตนวงศ์ คุณแม่วัยเฉียดหกสิบแล้วแต่ยังดูสาวของนายรุ่งโรจน์นายทุนใหญ่

แรกทีเดียวที่คุณแม่ไฮโซก้าวลงจากรถเบนซ์คันงามนั้น รุ่งโรจน์เองก็หยุดชะงักจากการเล่นกล้องแฮนดิแคม ด้วยคาดไม่ถึงว่าแม่จะกล้ามาในที่เช่นนี้

เขายกมือทำความเคารพ ก่อนจะเรียกให้แสงทองและสุริยา ลงมาจากรถ ทักทายยกมือไหว้นอบน้อม

สุริยาเองใจเต้นไม่เป็นส่ำ แต่สำหรับแสงทองดูหญิงสาวไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ ด้วยคงรู้ว่าไม่ได้มีความผิดใด ๆ เหมือนกับตน

“ทริปนี้ไปอ่างทองใช่ไหม ฉันอยากไปด้วยสักคน..อีกคนซิ..” คุณแม่ไฮโซ ซึ่งใส่เครื่องเพชรแพรวพราว ปรายตามองไปยังผู้หญิงอีกคนที่ยืนเคียงกัน

“ได้ครับ..มีครับ” สุริยาบอกดังนั้น แต่รุ่งโรจน์หันไปถามเสียงไม่พอใจว่า

“คุณแม่จะไปทำไม ถ้าคุณแม่อยากไป วันหลังก็ได้นี่ครับ บอกผม ผมจะพาไปเอง..”

“ฉันอยากดูธุรกิจการงานของแกหน่อยไม่ได้รึ นายรุ่ง..เห็นคุยนักคุยหนาว่าไปได้สวย สวยอย่างไรก็ค่าตั๋วแค่สี่ห้าร้อยกับราคาน้ำมันขนาดนี้ แค่คิดฉันยังคิดไม่ออกเลยว่ามันจะทำกำไรจากคนห้าสิบร้อยคนได้อย่างไร” คุณแม่ไฮโซดูมีอารมณ์อื่นแฝงอยู่มากกว่าที่พูดไว้อย่างแน่นอน..

เมื่อไล่คุณแม่ให้กลับบ้านไม่ได้ สุริยาจึงต้องขึ้นรถไปคุยกับลูกทัวร์ขาประจำให้ขยับไปด้านหลังสักนิด..เพราะมีแขกคนสำคัญมา..

ผู้ที่ต้องเปลี่ยนเบาะทำหน้าไม่พอใจ จนกระทั่ง สุริยายกมือไหว้ แล้วกระซิบบอกว่า

“มันจำเป็นจริง ๆ ครับ..งั้นทริปนี้ผมลดให้ครึ่งราคาแล้วกัน แต่ช่วยผมหน่อยเถอะนะ วันหลังผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟัง นะครับ ” แล้วขาประจำสองคนก็ลุกไปนั่งข้างหลังอย่างไม่สู้เต็มใจนัก..

จนกระทั่งได้เวลารถออก ผู้หญิงสวยสะดุดตากับลิ่วล้อจึงได้นวยนาดขึ้นรถ แถมก่อนจะนั่งยังปรายตาไปมองคนทั่วทั้งคันด้วยแววตาดูถูกดูแคลน

จนกระทั่งถึงคิวที่รุ่งโรจน์ต้องขึ้นบรรยาย เพราะได้ตกลงกันมาแล้วว่ารถสองคัน ต้องผลัดกันขึ้นพูดทั้งหมด จะให้ลูกทัวร์ติดอกติดใจใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้

สุริยาจะเน้นเรื่องพิธีกรรมในการไหว้พระ ทำบุญ ให้ทาน การวางใจให้ถูกทางสายกลางและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของพระพุทธศาสนา

แสงทองจะเน้นไปทางประวัติศาสตร์ของสถานที่ ประวัติความเป็นมาของจังหวัด กับของฝากประจำถิ่น

ส่วนรุ่งโรจน์จะเป็นกิจกรรม..เกมส์ออนทัวร์..แจกรางวัล

และเหตุที่ทำให้เขามาขลุกอยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืน คือสุริยากำลังพัฒนาคนทั้งคู่ให้เก่งในเรื่อง
พิธีกรรมและประวัติพระพุทธศาสนา รวมถึงหมวดธรรมที่ยากยิ่ง ๆ ขึ้นไป

คนสองคนรู้ว่ากำลังทำอะไร เป็นอะไร แต่คนอื่นนี่ซิ..

ไม่แปลกหากผู้เป็นแม่จะลุกขึ้นมาดูแล อยากรู้ความเป็นไปของลูกชายตัวเอง..ในวันนั้นดูรุ่งโรจน์จะเกร็งเป็นอย่างยิ่ง

“ผมอายคุณแม่”

“พี่ต้องทำให้ท่านเห็นให้ได้ว่าพี่พอใจกับอาชีพตรงนี้ พี่ต้องทำให้ท่านเห็นเหมือนกับเราสองคนเคยเห็น ว่าการเป็นผู้ให้ความสุขแก่คนอื่นได้เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง คุณแม่ของพี่มีความเป็นศิลปิน หนูเคยอ่านสัมภาษณ์ทั้งที่ไม่ชอบการแต่งเนื้อแต่งตัวและลีลาการพูดของท่าน หนูรู้ว่าท่านจะต้องเข้าใจพวกเรา”

แสงทองให้กำลังใจ

รุ่งโรจน์สามารถทำมันได้ดีเหมือนเมื่อวันวาน

เมื่อให้ปรบมือ ลูกทัวร์ปรบมือ เอียงซ้ายขวายืดเส้นยืดสายหรือว่าร้องเพลง เล่นทายปัญหาแจกรางวัลเป็นพวกพระของขวัญในวัดนั้น ๆ รุ่งโรจน์ทำได้ดีทีเดียวจนกระทั่งผู้เป็นแม่ต้องเรียกเข้าไปกอดจูบต่อหน้าคนทั้งคันรถ

แล้วรุ่งโรจน์ก็ดึงให้คุณแม่มาให้มีส่วนในกิจกรรม ด้วยคงรู้ว่า แม่ของตนถนัดเรื่องอะไร

และภาพนั้นก็ทำให้สุริยารู้สึกตื้นตันใจ คนที่โตมาในครอบครัวที่อบอุ่นนี่เล่าถึงได้เผื่อแผ่ความอบอุ่นให้คนอื่นได้ไม่ยาก

“แม่ลูกคู่นี้น่ารักเนอะ” สาวแก้วที่นั่งอยู่เคียงกัน คงจะมีความรู้สึกคล้าย ๆ กับสุริยา

“คุณแม่คุณรุ่งเขาไม่อยากให้คุณรุ่งมาทำทัวร์ คิดว่าเป็นอาชีพที่รองมือรองเท้าคนอื่นแต่เห็นไหมคุณรุ่งทำให้เรามีความสุขได้ ทำให้คนอื่นมีความสุขได้ จริง ๆ ต้นแบบแห่งความสุขนั้นไม่ได้มาจากใครที่ไหน ก็คือแม่ของเขาเอง แม่เขาเป็นศิลปิน เป็นตัวของตัวเอง ลูกจึงติดมา โดยที่คุณแม่คงไม่ได้ฉุกคิด...คุณแม่คุณรุ่งดูดีมีสไตล์ มันจึงติดไปถึงลูก คุณรุ่งจึงเป็นผู้ชายในฝันของคนหลาย ๆ คน”

“รวมถึงพี่ด้วยปะ” เด็กแก้วแกล้งเย้า..สุริยาไม่ตอบ

พอลงจากรถแวะที่วัดพิกุลทอง..สุริยาก็เล่าเรื่องที่รุ่งโรจน์ทำได้ดีจนคุณแม่ไฮโซยิ้มแก้มแทบปริ..และได้บอกเล่าในอีกมุมของคนมองโลกในแง่ดีให้แสงทองได้รับรู้

“คิดถึงแม่ ถ้าแม่ยังอยู่ หนูคงมีแม่กอด..พี่สุริยาโชคดีที่ยังมีแม่นะคะ” พูดพลางพยายามกั้นทำนบน้ำตา

แล้วคุณสิริฤดี ศิลปินไฮโซ เดินรี่เข้ามาถาม ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผิดตอนกำลังจะก้าวขึ้นรถมา โดยมีรุ่งโรจน์ตามประกบเกี่ยวก้อยกางร่มบังแดดให้

“เป็นอะไรล่ะแม่หนู มีน้ำหูน้ำตา”

“หนูคิดถึงแม่ค่ะ แม่หนูตายแล้ว..พี่รุ่งเป็นคนมีบุญ มีแม่ที่คอยให้ความรักห่วงใย..แต่หนูไม่มีใครแล้ว เหลือตัวคนเดียว” แล้วแสงทองก็ร้องห่มร้องไห้ยกใหญ่

จนกระทั่งสุริยากับรุ่งโรจน์ก็มองหน้ากันด้วยความงุนงง

บางที..ข้างหลังใบหน้าที่ยิ้มแย้มของคน ย่อมมีรอยอดีต รอยแผลเป็น คนซึ่งเพียงพานมาพบมองไม่เห็น จึงไม่รู้ว่า กว่าที่ใครบางคนจะมีใบหน้ายิ้มแย้มได้นั้น เขาต้องปรับใจให้สดชื่นแค่ไหน

แล้วคุณรุ่งฤดีก็ได้ทำในสิ่งที่ สุริยาเองไม่คิดว่าจะได้เห็น

“มาเป็นลูกสาวฉันไหม” ว่าแล้วก็ดึงแสงทองให้มากอดแล้วก็จูบเบา ๆ ที่เรือนผม

“เธอสวยน่ารักฉลาดทันคน ฉันชอบตั้งแต่เห็นวันนั้น..ฉันชอบแต่งตัว ฉันชอบเล่นตุ๊กตา เธอจะมาเป็นตุ๊กตาให้ฉันได้ไหม”

แล้วแสงทองก็ยิ้มทั้งน้ำตา

“ขอบคุณค่ะ หนูคงเป็นอย่างที่คุณ..ต้องการไม่ได้ ขอบคุณค่ะที่กรุณา”

“ถ้าเป็นลูกสะใภ้ฉันล่ะเป็นได้ไหม”

“คุณแม่” รุ่งโรจน์ร้องเตือนเสียงหลง คนเป็นแม่เพียงหันไปค้อนตาเขียวให้แล้วก็พูดว่า

“แม่ทุกคนรักลูกอยากให้ลูกเป็นในสิ่งที่ดีทีสุด แต่ถ้าลูกจะเลือกในสิ่งที่ไม่ดีให้กับชีวิตเป็นธรรมดาที่แม่จะต้องเข้ามาขวาง..แต่สุดท้ายก็ต้องตามใจกัน ลูกอยากเป็นอะไรแม่ไม่รู้ได้ แต่แม่ก็ต้องทำหน้าที่ของแม่ให้ถึงที่สุด แม่บอกตรง ๆ รุ่งโรจน์ แม่มาที่นี่มาเพื่อให้เห็นกับตาว่า ลูกเป็นอย่างที่คนอื่นมันเอาไปพูดกันหรือเปล่า..นี่เป็นครั้งแรกมั้งที่ลูกไม่ทำให้แม่ผิดหวัง..”

“คุณแม่”

“เมื่อเลือกจะทำงานนี้ก็ต้องตั้งใจทำงาน ทำให้ได้เหมือนป๊า..ทำให้เจริญก้าวหน้ามีเกียรติยศชื่อเสียง..ขอบใจเธอมากนะสุริยาที่ทำให้ลูกชายฉันเปลี่ยนไปได้จริง ๆ ขอบใจเธอด้วยแสงทอง ลูกชายฉันเคยพูดถึงเธอสองคนให้ฉันฟัง แต่ฉันไม่เชื่อ..ฉันมาเห็นกับตาแล้วฉันรู้ว่าเธอสองคนเป็นกัลยาณมิตรให้ลูกฉันได้จริง ๆ ..มีทริปไหนที่น่าสนใจก็บอกฉัน บางทีฉันกลุ้ม ๆ ขึ้นมา”

“มีเรื่องกลุ้มด้วยหรือคะ”

“มีกลุ้มแบบคนมีเงินนั่นแหละ เมื่อกี้สะดุดใจกับประโยคของเธอที่ว่า” คนพูดหันไปทางสุริยา..

“ความสุขของเรา บางทีมันก็ไม่ได้อยู่ตรงที่มีเงินเยอะแยะ แต่มันอยู่ที่เราได้ทำ ได้เป็น ในสิ่งที่เราอยากทำอยากเป็นหรือเปล่า ผมทำทัวร์เพราะผมรักการเป็นผู้ให้ ผมทำทัวร์วัดเพราะผมศรัทธาในพระพุทธศาสนา..ทุกคนที่มาบนรถคือ ญาติกัน มาเกิดร่วมผืนแผ่นดินเดียวกัน มีพระพุทธศาสนาปกครองใจเหมือนกัน..สัตย์จริง ผมไม่เคยคิดทำร้ายใคร ไม่เคยคิดว่าใครจะมาทำร้ายเรา..ดี ๆ ต่อกันไว้ ..ชาติหน้าเจอกันจะได้ดีต่อกัน ชวนกันทำความดีไปเรื่อย ๆ ..ซึ้งใจจัง ขอบใจเธอมากนะจ๊ะหนุ่มน้อย ที่สามารถพูดอะไรก็ไม่รู้ แต่สามารถพลิกใจผู้หญิงวัยใกล้ตายอย่างฉันได้”

สุริยายิ้มพลางยกมือพนม ด้วยท่าทางนอบน้อมและท่าทางแบบนี้ จึงแทบไม่เคยมีใครสักคนรังเกียจเดียดฉันท์หนุ่มน้อยได้ลงคอ

และคุณแม่ของรุ่งโรจน์ก็ทำในสิ่งที่รุ่งแสงสุริยาทัวร์ไม่เคยได้จากลูกทัวร์คนไหนเลย..

“ทิปจ้ะ..” แบงก์พันคนละ 5 ใบ สามคนก็ หมื่นห้า..

รุ่งโรจน์รีบคว้าหมับ ก่อนจะสะกิดให้คนทั้งคู่ที่มัวแต่ตกตะลึงรีบรับเงินไว้ แล้วก็กล่าวคำขอบคุณพร้อม ๆ กัน

“ทำตัวน่ารักกันไปนาน ๆ แล้วกัน..วันนี้ฉันกลับแล้ว” ว่าแล้วรถเบนซ์คันโก้ที่ขับตามมาตั้งแต่ นวนคร..ก็มาเกยอยู่ข้าง ๆ รุ่งโรจน์รีบไปเปิดประตูให้ พอคุณแม่จะก้าวขึ้นรถ พร้อมกับคนสนิท รุ่งโรจน์ก็จูบแม่ซ้ายขวาเหมือนตัวเองเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ทีเดียว

เมื่อรถแล่นออกไปแล้ว..เขาก็หันมายิ้มกับคนสองคน ก่อนจะยื่นมือมาให้ทั้งคู่ยื่นมาทับ แล้วก็พูดพร้อมกันว่า..

“เราคือหุ้นส่วน เราคือเพื่อนกัน เรามีหน้าที่ทำให้คนมีความสุข เราจะเปิดอกคุยกันเรื่องงาน เราจะไม่โกรธกัน ทะเลาะกัน เราก็จะรีบคืนดีกันโดยเร็ว รุ่งแสงสุริยาทัวร์จงเจริญ..เยสส”

“คุณแม่ ท่านเป็นคนแปลก ๆ อย่างนี้แหละ..อย่าไปถือสาท่านนะ” รุ่งโรจน์รีบออกตัวให้..

แสงทองสะบัดเงินไปมา พร้อมกับพูดว่า

“แปลก ๆ แบบนี้ชอบค่ะ แปลกบ่อย ๆ ก็ดีนะ”

“ถามจริง ๆ เถอะแสงทองเธอไปทำอะไรให้ท่านเอ็นดูขนาด”

แสงทองยืดอก พร้อมกับคุยโวว่า

“วันนั้นพอพี่บอกว่า ให้แสดงตัวว่ารู้จัก หนูก็กระดี๊กระด๊าเต็มที่ ร้องกรี๊ดกร๊าด แล้วก็บอกว่าเอ๊ะนี่คุณแม่พี่รุ่งโรจน์ใช่ไหมคะ ขอประทานโทษนะคะ ตัวจริง สวยกว่าในสื่ออีก ..หรือสาวขึ้นคะหนูจำไม่ได้เลย..ผิวก็เนี้ยนเนียน..หนูชมโฉมได้สักพัก หนูก็หยิบอัลบั้มที่เน้นแต่รูปพี่รุ่งทำกิจกรรมบนรถมาให้ท่านดู แล้วก็ชมยกใหญ่ว่า ตอนนี้ลูกทัวร์ติดพี่รุ่งกันแทบทุกคน..ลูกชายคุณแม่หล่อค่ะ น่ารัก น่าไปเป็นดารานายแบบ..และหนูก็แกล้งบอกไปว่า พี่รุ่งบอกว่าถ้าทัวร์ไปได้สวย อาจจะทำรายการโทรทัศน์ประเภทท่องเที่ยววัด ดูท่านสดชื่นขึ้นมา..แล้วท่านก็ถามหนูว่า หนูชอบลูกชายท่านไหม..หนูก็บอกว่าหนูเจียมตัวค่ะ หนูมันก็แค่คนบังเอิญโชคดี หมาน้อยริมทางที่พี่รุ่งกับพี่ยาผ่านมาแล้วก็เรียกให้มาร่วมวงด้วยก็เท่านั้น”

“พอแล้ว เธอนี่น่าไปเขียนบทละครนะ”

“ไม่ค่ะ ไม่ปรารถนา แต่ที่ต้องการก็คือพิธีกรรายการเที่ยวทั่วไทยไปกับแสงทองคนสวยที่สุด นี่อยากได้ค่ะ ถ้าพี่รุ่งเปลี่ยนใจจะทำ หนูยินดีนะ”

“ก็น่าสนใจนะ พิธีกรสามคนไปเลย ใช้เวลาถ่ายทำประมาณวันธรรมดาที่พวกเราไม่ได้ไปไหนลักษณะคุยกันอย่างนี้แหละ..ให้ดูเป็นธรรมชาติ” นายทุนเริ่มเห็นช่องทางรวย..

“อย่าเพิ่งคิดเลย เอาตอนนี้เถอะ ลูกทัวร์เรา เต็มรถแล้วมั้ง เจ้าแก้วมันถึงกวักมือเรียกหยอย ๆ นั่นน่ะ” สุริยาพูดจบ ทั้งสามก็รีบวิ่งอ้าวกลับไปที่รถบัสสองคันที่จอดต่อกันอยู่


รถบัสที่เช่ามาในวันนี้ เคลื่อนตัวออกไปแล้ว หลังจากที่ได้ช่วยกันขนขวดน้ำและกระติกน้ำแข็งไปเก็บไว้ในออฟฟิศ ทั้งสามคนก็เดินไปหาอาหารเย็นในย่านที่เป็นประเภทรถเข็นโต้รุ่งใส่ท้อง ขณะที่รอให้อาหารมานั้น พลันก็มีเด็กขอทานซึ่งจะเดินขอเงินตามโต๊ะมาหยุด..ยืนมอง แล้วก็..พร่ำว่า..

“ขอตังค์บ้างครับ ขอตังค์หนูหน่อย..ทำบุญกับคนยากจน..”

ทั้งสามคนสบตากัน ยิ้ม ๆ ด้วยรู้ว่า เด็ก ๆ เหล่านี้ ถูกบังคับจากพ่อแม่ให้มาดำเนินอาชีพที่ถือว่าต้องหน้าด้านหน้าทน ครั้นให้ไปก็เท่ากับเป็นการสนับสนุน แต่ถ้าไม่ให้ ขึ้นชื่อว่ามีคนมาอ้าปากขอแล้ว ก็ทำให้ตัดใจให้อย่างพระเวสสันดรไป

แสงทองควักให้หนึ่งบาท เด็กขอบคุณ ขณะที่เด็กกำลังจะเดินไปโต๊ะอื่น สุริยาก็เรียกไว้

“มานี่ก่อนหนู ..”

เด็กเดินกลับมาสีหน้ามีความหวัง
“ถ้าพวกพี่จะจ้างหนูทำอะไรสักอย่างหนูจะรับไหม..” เด็กไม่ตอบ

“พี่อยากรู้ว่าคืนหนึ่งหนู ขอเงินตามโต๊ะอาหารนี่ได้กี่บาท” เด็กก็ยังเงียบ จนแสงทองต้องเป็นฝ่ายพูดเอง.. “บอกพี่เข้าไปซิหนุ่ม พี่เขามีอะไรดี ๆ จะเสนอนะ เร็ว ๆ ซิ..เดี๋ยวพี่ให้อีกห้าบาท”

“คืนนึงได้ประมาณ 30 บาทบ้าง 50 บาทบ้าง”

รุ่งโรจน์ถอนหายใจออกมา..

“พ่อแม่หนูทำอะไร”

“พ่อขับมอไซด์รับจ้าง แม่ขายพวงมาลัยอยู่ตรงโน้น..”

“โอเคพาพี่ไปหน่อยได้ไหม..”

สุริยาหายไปสักพักก็เดินยิ้มกลับมา..

“ขอโทษนะที่ไม่ได้ถามความคิดเห็นก่อน..คือผมคิดว่า ในร้านรวงแถบนี้ตอนเย็นถึงค่ำ ๆ คนที่อยู่ละแวกนี้ออกมาหาอาหารกินไม่ใช่น้อย ..เห็นเด็กแล้วสงสาร จะช่วยเป็นเงินรึเราก็ยังไม่ได้ร่ำรวย ก็ประโยชน์เกื้อกูลเนอะ..ผมจะจ้างให้แกช่วยแจกเอกสารของเรา ทุกวัน ตั้งแต่เย็นถึงสามทุ่ม ไปยื่นให้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะสักโต๊ะละแผ่นเริ่มจากทริปหน้าวันแม่ และก็ทริปทุ่งกระเจียว..”

“ให้ทำทุกวัน” รุ่งโรจน์ถาม..สุริยาพยักหน้า

“แกจะได้มีรายได้ทุกวัน..ไม่ต้องเที่ยวให้ใครมาไล่ออกจากโต๊ะ สงสารแกจัง”

“ชินแล้วล่ะ พี่ยา หนูว่า ความด้านชานี่แหละจะทำให้แกโตมาแล้วไม่รู้สึกผิดหากถูกใครตำหนิมากกว่า”

“แต่มันก็เป็นไปได้..คนขี้ขอมักจะเสียนิสัย”

“แล้วคุณมั่นใจอย่างไรว่าแกจะไม่ขอเงินคนอื่นอีก”

“ก็วัดใจกัน ผมบอกแม่แกแล้วให้ไปรับเงินทุกเย็นจากร้านพี่สมใจ พร้อมกับเอกสาร วันต่อวัน..พี่สมใจอยู่แถวนี้มานานแล้ว คงจะรู้จักแม่เด็กอยู่บ้าง เห็นเคยเดินขายพวงมาลัยสำหรับไหว้พระเวลาบ่าย ๆ เย็น ๆ คงคุ้นกัน”

“ทริปวันแม่จะให้เตรียมดอกมะลิสำหรับติดอกด้วยใช่ไหม”

“เตรียม ปีที่แล้วก็มีการให้ลูกที่ควงมากับคุณแม่ มอบดอกมะลิช่อพิเศษให้คุณแม่ ช่อใหญ่หน่อย ส่วนคนอื่น ๆ ก็เป็นดอกเล็ก ๆ ติดหน้าอก ให้รู้ว่านี่วันแม่นะ ..ก็ปลาบปลื้มใจกันไป”

“แล้วพี่รุ่งจะขึ้นด้วยไหมทริปไหว้พระวันแม่ สิงห์บุรี อ่างทอง”

“ปกติวันแม่ก็จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เรื่องนี้พี่สาวผมเป็นเจ้ากี้เจ้าการอยู่ประจำ คุณแม่เองก็ให้ความสำคัญมาตั้งแต่พวกเราเด็ก ๆ แล้ว”

“ดีแล้วล่ะ ผมเองคงส่งเสื้อผ้ากับเงินกลับไปให้ ทำได้เท่านั้น..ไงทำท่าจะร้องไห้อีกแล้วเด็กขี้แย..” สุริยาแซวเมื่อเห็นสีหน้าของแสงทอง..

“..เงียบดีที่สุด..”

ขณะที่กำลังคุยไปเคี้ยวไป หนังสือพิมพ์รอบบ่ายก็เดินร้องเรียกขาย สุริยายกมือ..แต่คนที่จ่ายเงินคือแสงทอง ถ้าออกทริปด้วยกันแบบนี้ ส่วนใหญ่จะนำค่าอาหารมาทำบัญชี เป็นค่าใช้จ่ายต่อครั้งด้วย..

เมื่อหนังสือพิมพ์มาถึงมือ เป็นปกติของสุริยาที่ต้องอ่านหน้าดาราก่อนอื่น อ่านได้นิดก็รีบส่งให้รุ่งโรจน์..รุ่งโรจน์อ่านจบแล้วส่งให้แสงทอง..

“เจ๊สิริ..หน้าบานเป็นกระด้ง ทัวร์ไหว้พระของลูกรุ่งโรจน์ คนตรึม..สนใจร่วมทริปกับลูกชายเจ๊..เบอร์” อ่านจบแสงทองยิ้มในวงหน้า ส่วนลูกชายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้..

“ดังใหญ่แล้ว พรุ่งนี้ หนูรับโทรศัพท์สำรองที่นั่งไม่หวาดไม่ไหวซะมั้ง..”

“จริง ๆ จัดทัวร์ถูก ๆ โดยเอาดารามาเป็นแม่เหล็กก็น่าสนใจไม่น้อยนะ..คุณรุ่งรู้จักพวกดาราไม่ใช่รึ ลองทาบมาเล่นกับเราสักคน ทริปวันแม่พบกับลูกกตัญญูรู้คุณน้องปอมเป..ทริปนี้พบกับเปิ้ล จันทนาวรรณ..ทริปโน้นพบกับน้องหวาน” สุริยาเสนอด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน

“ก็ดีนะ..รับรองสงสัยในราคาเท่านี้รถเคลื่อนขบวนยาวเป็นยี่สิบคันละมั้ง แต่เราก็เตรียมตัว
ปิดบริษัทนะ เพราะค่าตัวพวกแม่คุณทูนหัวเหล่านี้ ไม่ได้ถูก ๆ เลย”

“แล้วพี่รุ่งไม่ไปเป็นอย่างที่คุณแม่พี่ต้องการล่ะ ได้เงินง่าย”

“บอกแล้วว่าไม่ชอบ..แค่ทุกวันนี้เดินไปไหนมีคนดันรู้จักมาขอลายเซ็นนี่ก็เบื่อจะแย่แล้ว โอเคไม่พูดเรื่องนี้แล้วนะ”

เมื่อไม่พูดถึง กินอิ่มก็แยกย้ายกันกลับที่พัก..ระหว่างทาง..รุ่งโรจน์ก็เปิดเพลงคุณรู้ไหมครับ ของพี่เบิร์ด+พี่เสก เนื้อหานั้นยังทำนองรัก ๆ ใคร่ ๆ ที่สุริยารู้สึกเบื่อไม่อยากที่จะได้ยินอีกแล้ว แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่ออารมณ์ของคนที่นั่งอยู่เคียงกันช่างสุนทรีย์ซะเหลือเกิน

‘คุณจะรู้บ้างไหม คืนนี้ผมนอนไม่หลับ คุณจะรู้ไหมครับ หน้าคุณลอยอยู่เต็มฟ้า อยากให้คุณโทรมาราตรีสวัสดิ์ พูดชัด ๆ ซักคำว่ารัก...แค่นี้คงไม่ลำบากเกินไป ใช่ไหมคุณ’

“ใช่ไหมคุณ..” รุ่งโรจน์พูดขึ้นมาลอย ๆ ขณะดับเครื่องยนต์..สุริยาไม่ตอบ เพียงก้าวลงจากรถแล้วก็ปิดประตูเบา ๆ แล้วเดินอมยิ้มมาที่หน้าลิฟท์โดย ไม่รอ ไม่สน ว่าในมือของรุ่งโรจน์จะถืออะไรมาบ้าง..เมื่อลิฟท์มาถึงก็รีบก้าวเข้าไปแล้วก็รีบกดปิดประตูก่อนคว้าโทรศัพท์มากดโทรออก

พอปลายเสียงรับสาย ก็บอกสั้น ๆ ว่า “ราตรีสวัสดิ์ครับ”..

พอไปถึงห้อง ก็รีบเปิดเพลงที่รุ่งโรจน์ชอบฟังเป็นประจำทิ้งไว้..หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ..

‘ฝากหัวใจให้กันเอาไว้ก่อน ที่เราจะต้องห่างเหินไป ..เผื่อว่าเราลำบากอยู่หนใด หัวใจก็ยังมีคนดูแล ..อาจจะมีบางคราว เราพบใครใหม่ เกิดหวั่นไหวไปตามประสาคนไกลกัน แต่เรายังมีใจ กันไว้ไม่หวาดหวั่น จะไม่เหลือดวงใจที่คิดเผื่อใคร สิ่งที่ฉันต้องการก็คือ ให้เราคอยดูเสมอ หากเราเผลอลืมไปแล้วดวงใจจะหาย หมั่นคอยดูแล แลรักษาดวงใจ เก็บเอาไว้จนวันที่ฉันเคียงคู่เธอ.. ’


แล้วทริปวันแม่ก็มาถึง โดยที่รุ่งโรจน์มีสีหน้าวิตกหลังจากที่วางโทรศัพท์จากคุณแม่คนสวยแล้ว..

“แม่ผมบอกว่าปีนี้จะพาพี่สาว พี่เขย พี่ชาย พี่สะใภ้ และหลานอีกบ้านละสองคน..ไม่รวมคุณพ่อ..จะไปทัวร์กับเรา..ง่ะ..”

“อุ๊.. แม่เจ้า..ทริปนี้ ตั้งแต่ข่าวออกไป..รายชื่อลูกทัวร์แปลก ๆ มาทั้งนั้นเลย..”

“.. รู้ไหมว่าคุณแม่ ไปชวนพวกรายการสีสันวันหยุด ตามไปถ่ายทำด้วย ประมาณว่า..บริษัทที่บ้านผมซื้อโฆษณาสนับสนุนช่วย ๆ กัน”

“แม่คุณนี่จริง ๆ เลย..” แสงทองกล่าวชม แต่สั่นศีรษะ ทั้งที่จริง ๆ แล้วแสงทองมากระซิบบอกกับสุริยาว่า “คุณแม่พี่รุ่งจะให้พวกตากล้องขึ้นรถไปด้วย ไปดูว่า วันหยุดนี้ คุณแม่กับลูก ๆ ไปเที่ยวที่ไหนกันอย่างไร แล้วก็ให้มีสัมภาษณ์คุณแม่คุณลูกที่ขึ้นทัวร์ครั้งนี้ด้วย และที่สำคัญ..ก็คือ คุณแม่พี่รุ่ง ชักชวนลูกทัวร์มาให้เกือบคัน แล้วก็สั่งให้เปลี่ยนจากรถทัวร์ปอ. 2 เป็นรถโค้ชอย่างดี ส่วนเงินที่เกินมาคุณแม่บอกว่าจะเพิ่มให้เอง ขออย่างเดียวขอให้มีภาพครอบครัวนี้ออกอากาศในอีกสัปดาห์ถัดมา”

สุริยาได้ยินแล้วมีสีหน้าหนักใจกับงานใหญ่ข้างหน้า..แต่ก็ดี สีสันวันหยุด สีสันของชีวิต เมื่อรู้ว่าจะต้องมีกล้องขึ้นมาบนรถทัวร์ด้วย ทั้งสามคนเริ่มอยู่ไม่สุข..

“ผมไม่ไปได้ไหม”

“ถ้าคุณไม่ไป คุณแม่คุณจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พี่ ๆ คุณอีกนะคุณรุ่ง..เตรียมตัวทำหน้าที่ไปเถอะ คิดเสียว่าช่วยกันเผยแผ่พระพุทธศาสนาทางอ้อมแล้วกัน แสงทองเธอพร้อมเรื่องข้อมูลทุกวัดนะ”

แสงทองบอกว่าพร้อม แต่สุริยายังไม่มั่นใจ ด้วยทางรายการโทรมาแจ้งว่า จะให้ทั้งสามคนเป็นคนพาไปเหมือนรายการสดประมาณนั้น โดยที่กล้องมีหน้าที่ถ่ายทำอย่างเดียว และเพื่อให้ข้อมูลกระชับ จึงต้องมีการสรุปสั้น ๆ

“มาซิ แสงทอง มาซ้อม วัดพระนอนจักรสีห์..สั้น ๆ นะ” สุริยาออกคำสั่ง

แสงทองไปยืนถือไมค์ พร้อมกับที่รุ่งโรจน์ใช้กล้องแฮนดิแคมถ่ายไว้..

“ยังไม่กระชับ สีหน้าเธอยังไม่ได้นะ อีกรอบซิ”

“นี่ไม่ใช่รายการโทรทัศน์ของเรานะ แค่ตาม ๆ คุณแม่คุณรุ่งกับครอบครัว มาเที่ยวในกิจการงานของลูกชายภาพที่ออกมาคงประมาณ 10 นาทีเห็นจะได้..” แสงทองเริ่มเบื่อ

“ไหง เธออยากเป็นดาราหน้ากล้องเป็นพิธีกรไง ตั้งใจซิ เงินทองจะได้ไหลมาเทมา งานนี้รับรองคุณแม่ผมติ๊บเธอหนักหรอก ให้ความร่วมมือดีนี่”

“เจ้าค่ะ” แล้วแสงทองก็ทำได้ดีอย่างที่รุ่งโรจน์ต้องการ

พอถึงคิวรุ่งโรจน์ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่สำคัญ..จุดขายของสีสันวันหยุดก็คือที่ แม่และพี่ ๆ น้อง ๆ รวมถึงหลาน ๆ มาเที่ยวกับกิจการของลูกชาย

แต่ครั้งนี้รุ่งโรจน์ไม่ให้ความร่วมมือในการซ้อม เหตุผลก็คือ

“ผมขอให้เขาถ่ายแบบธรรมชาติที่ผมเป็นดีกว่า มันคงดูเนียนกว่าการซ้อมไปแบบนี้..และนี่ก็คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ผมไม่อยากอยู่หน้ากล้อง..ผมอายที่ต้องทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ คนเดียว แล้วมีคนยืนดูเป็นสิบ ๆ คน”

ข้อนี้สุริยาเห็นด้วยเพราะตัวเอง เมื่อรู้ว่า จะมีกล้องตามขึ้นรถไปด้วย ก็ชักใจคอไม่ดี..กับภาพที่จะออกอากาศในครั้งนี้ ใจหนึ่งก็อยากให้เป็นธรรมชาติที่สุด เคยนำสวดมนต์ในตอนรถออก เคยแจกน้ำแจกผ้าเย็น ลูกอม ส้มสุกลูกไม้ เคยพาไปกินร้านเล็ก ๆ ริมทาง ย่านตลาดชุมชนที่มีของขายก่ายกอง ทริปนี้ขืนทำอย่างนั้นคงจะแย่..แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็คือจะบอกนโยบายของ ทัวร์คันนี้ให้คนอื่นได้รู้ว่า ที่ราคาถูกได้เนื่องจากตัดส่วนที่ฟุ่มเฟือยออก แต่เน้นไปที่สาระและความสนุกสนานกับความเป็นกันเอง

และในมื้อกลางวันที่สุริยากังวล แสงทองก็เข้ามาบอกว่า..

“คุณแม่บอกว่า จะเป็นเจ้ามือเลี้ยงทั้งสองคันเนื่องในโอกาสวันแม่ ให้ทางเราติดต่อร้านอาหารจองโต๊ะตามจำนวนคนได้เลย...” เมื่อได้ยินพร้อมกันสีหน้าของรุ่งโรจน์ดูเป็นปกติ..

“แม่ผมก็เป็นอย่างนี้แหละ ท่านใจใหญ่ไปทุกเรื่อง”

“คุณก็ได้นิสัยแม่คุณมา คุณไม่รู้รึ ผมบอกแล้วคนที่เกิดมารวย ลึก ๆ ในพื้นใจ มีลูกบ้าระห่ำกันทั้งนั้น ในชาติก่อนคงจะทำบุญสุนทานกันมาดี มาชาตินี้จิตดวงนั้นก็เลยส่งให้ใจใหญ่พื้นที่กว้างขวางเป็นที่นอนมาแห่งทรัพย์สมบัติ”

สุริยาพยายามสอดแทรกแต่รุ่งโรจน์ถอนหายใจออกมา

“ถ้าผมยอมเล่นละครสักเรื่อง ต่อไปทัวร์ของเราคงหากินได้ทั้งนิคม..แต่ไม่หรอก..ไม่ก็คือไม่”

สุริยาไม่ต่อความ ด้วยรู้ว่า แม่ลูกคู่นี้สูสีกัน



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 พ.ค. 2554, 09:55:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 พ.ค. 2554, 09:55:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 1600





<< 16   18 >>
อมลลดาOWOอมรรัตน์ 30 พ.ค. 2554, 14:36:36 น.
น่าติดตามค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account