เรื่อง คืนรักร้อน ซ่อนเสน่หา (แก้วกรรณิกา VS ว่านนที)
เรื่อง คืนรักร้อน ซ่อนเสน่หา

by อัปสรา/คาลล่า ลิลลี

บทนำ

รายการวิทยุชื่อดังที่คนอกหักหรือกำลังมีความรักมักจะเปิดฟังกัน มีเรื่องราวจากทางบ้านมากมายที่โทรมาเล่าถึงปัญหา และปรึกษาเรื่องรักกับพิธีกรชื่อดัง ชีวิตปกติของแก้วกรรณิกาไม่ค่อยจะมีเวลาว่างมานั่งฟังอะไรแบบนี้ แต่ทว่าเมื่อเธอเปิดมาเจอคลื่นนี้ หัวข้อการสนทนาในคืนนี้ ต่างคนต่างเหงา หรือเรารักกัน มันทำให้เธอหยุดมือที่จะเปลี่ยนหาคลื่นต่อไป เพลงต้นเรื่องของรายการมันช่างตรงกับความรู้สึกของเธอที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ พิธีกรชายหญิงเริ่มดำเนินรายการจากนั้นก็มีสายจากทางบ้านโทรมาเล่าเรื่องราวของตนเองผ่านทางหน้าไมค์ แก้วกรรณิกานั่งฟังไปเรื่อยๆ อย่างสนใจใช่ว่าเธอคนเดียวเสียที่ไหนที่มีปัญหาเพราะความรัก คนอีกมากในสังคมที่ต้องเผชิญกับปัญหารักไม่ลงตัวหญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อฟังเรื่องเล่าของใครหลายๆคนและคิดถึงชีวิตรักที่ผ่านมา



จนกระทั่งมาถึงผู้หญิงคนหนึ่งน้ำเสียงของเจ้าหล่อนดูสดใสเหมือนคนกำลังมีความรักไม่ใช่คนอกหักเสียหน่อย เธอเล่าว่าเธอกำลังกลุ้มใจอย่างหนักเพราะปัญหารักไม่ลงตัว พิธีกรชื่อดังจึงถามคำถามว่า ปัญหาความรักที่ไม่ลงตัวของเธอนั้นคือปัญหาอะไร คนรักนอกใจหรือว่าเธอไม่ได้รักเขา หรือเขาไม่ได้รักเธอ พิธีกรให้เธอเล่าเรื่องของเธอ

“ต้องขอโทษนะคะที่จริงเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องของดิฉันหรอกค่ะ แต่เป็นเรื่องของเพื่อนสาวที่สุดแสนจะงี้เง่าของดิฉันค่ะ”

“ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แล้วโทรมาเล่าเรื่องชาวบ้านเขาทำไมยัยนี่ถ้าจะเพี้ยน” แก้วกรรณิกาฟังและบ่นสายจากทางบ้าน เบาๆแต่ก็ยังไม่เปลี่ยนคลื่นหนี ยังคงฟังต่อ


“เอ…..ไม่ใช่เรื่องของคุณแล้วมันทำให้คุณทุกข์ไปด้วยยังไงเหรอคะ” พีธีกรสาวในรายการถามขึ้น

“ทุกข์สิคะเพราะว่าบังเอิญยัยผู้หญิงงี่เง่าที่ไม่รู้ใจตัวเองเจ้าของเรื่องที่จะเล่าบังเอิญเป็นเพื่อนที่ฉันรักที่สุด และฉันรู้ดีว่าถ้าเธอพลาดจากความรักครั้งนี้เธอจะไม่มีความสุขตลอดไป”

พิธีกรจึงบอกให้คุณ ย นามสมมุติเล่าเรื่องความรักของเพื่อนสาวให้ฟัง


“ยัยนี่ท่าทางจะรักเพื่อน เอ๊ะหรือว่าเอาเพื่อนมาขายกันแน่รายการนี้เห็นว่าดังคนฟังกันครึ่งค่อนประเทศ”แก้วกรรณิกาล้มตัวนอนฟังบนเตียงนอนหรูหราสมศักดิ์ศรีทายาทไฮโซตระกูลดัง


จากนั้นเสียงจากสายทางบ้านก็เริ่มเล่าเรื่องเพื่อนสาวที่ให้นามสมมุติเธอว่าชื่อ น้อง ก ซึ่งมีคนรักอยู่แล้วและกำลังจะแต่งงานแต่ปรากฏว่าเธอเพิ่งจะรู้ว่าเธอไม่เคยรักว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเลย ที่ผ่านมามันแค่เป็นความผูกพันและความคาดหวังของผู้ใหญ่ แต่ที่สำคัญเธอได้มารู้ตัวว่าเธอเกิดหลงรัก และเผลอทั้งตัวและหัวใจให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่เคยพบหน้ากันแค่คืนเดียวแถมเขายังมีบุคลิกและหน้าตาเหมือนพวกเพล์บอย เธอโทษตัวเองเสมอว่าเป็นผู้หญิงใจง่ายในคืนนั้น และคิดว่าผู้ชายคนนั้นก็คงมองเธอว่าเป็นผู้หญิงใจง่ายเช่นเดียวกัน

“เอ่อ เจอกันแค่คืนเดียวเองเหรอคะ” พิธีกรสาวในรายการสดถามขึ้น


“คืนนั้นเพื่อนของดิฉันถูกวางยานอนหลับค่ะจากผู้ไม่ประสงค์ดี แล้วผู้ชายคนนั้นสมมุติว่าเขาชื่อคุณ ว ละกันนะคะเขาได้ช่วยเพื่อนของดิฉันเอาไว้ค่ะ แล้วมันก็เกิดเรื่องนั้นขึ้น แต่ดิฉันขอยืนยันว่าเพื่อนดิฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย เธอคบกับผู้ชายที่ไม่ได้รักแต่อาจเคยคิดผิดไปว่ารักถึงเจ็ด ปีแต่ไม่ยอมที่จะมีอะไรด้วยทั้งที่ได้หมั้นกันแล้ว จนผู้ชายคนนั้นแอบไปมีกิ๊กในที่ทำงานเดียวกัน”
“คบกับแฟนมาถึงเจ็ดปีไม่เคยมีอะไร แต่พบผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน พบกันคืนเดียวแล้วมีอะไรกัน” พิธีกรเองก็คงงงและตกใจเช่นกันแม้จะเคยฟังเรื่องทางบ้านมามากแล้วก็ตาม


“อย่างนี้เรียกว่าเกิดรักแบบสายฟ้าแลบหรือเปล่าคะ” พิธีกรสาวแซว


“เพื่อนของฉันเล่าว่าทันทีที่ตื่นขึ้นมาแล้วสบตาเขา ในวินาทีนั้นมันเหมือนฟ้าผ่าลงมาที่ร่างของเธอ หัวใจของเธอมันบอกว่าใช่เขาคนนี้ที่เธอรอ และต่อจากนั้นก็..................ขอไม่บรรยายนะคะ”

“แหะ แหะ .........เข้าใจค่ะ ถ้าบรรยายเราคงออกอากาศไม่ได้ แล้วยังไงต่อละคะ”


“เธอก็รู้สึกผิดมากรู้สึกว่าตัวเองได้ทรยศคู่หมั้น แม้เขาคนนั้นจะเคยทรยศความรักของเธอไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม”

“เท่าที่ฟังดูก็เหมือนกับว่าต่างคนต่างเผลอใจไปกับคนอื่น แล้วมันยังไงต่อคะ” พิธีกรสาวถาม


“เรื่องในคืนนั้นถ้าไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้จริงไหมคะ แต่เพื่อนของดิฉันเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้กับคู่หมั้นฟัง”


“ก็พังสิครับงานนี้” พิธีกรหนุ่มเอ่ยขึ้น


ส่วนคนฟังทางบ้านอย่างแก้วกรรณิกา จากที่กึ่งนอน กึ่งนั่งก็ลุกขึ้นมาฟังอย่างตั้งใจ............


+++++++++++++++++++++++++++++++

Tags: ว่านนที แก้วกรรณิกา

ตอน: ตอนที่ 3

ลืมนายว่านกันหรือยังคะ


ตอนที่ 3

“แก้วกรรณิกาออกมาจากห้องแต่งตัวเจ้าสาวเพราะต้องการพบยาหยีและที่สำคัญเมื่อครู่เบอร์โทรศัพท์ที่เธอจำได้แม่นแม้ว่าจะไม่เคยบันทึกมันเอาไว้ก็ตามดังขึ้นแต่เมื่อเธอหลบออกมาเพื่อจะกดรับสายแบตกลับหมดลงเสียก่อน

“ยาหยีนั่นเธอหรือเปล่า” แก้วกรรณิกาเห็นหญิงสาวร่างสูงหุ่นดีสวมชุดสีขาวหลังไวๆไปทางห้องน้ำจึงรีบตามเข้าไป

“ยาหยีทำไมมาช้าแบบนี้เธอกับฉันมีอะไรต้องเคลียร์กันตั้งเยอะ แล้วเมื่อคืนทำไมถึงต้องวางสายหนีด้วยยังไม่คุยกันไม่ทันจบเลย” แก้วกรรณิกาในชุดเจ้าสาวพูดรัวไม่เว้นระยะ แต่ต้องชะงักและหยุดพูดทันทีเมื่อใบหน้าที่หันมาไม่ใช่ยาหยีแต่เจ้าของชุดแซกสีขาวที่เปื้อนเลือดบริเวณชายกระโปรง

“เธอเองเหรอชลลี่ เธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง”

“ก็เข้ามาทางประตูยังไงละคะคุณหนูแก้วขาไม่หน้าถามอะไรโง่เหมือนหน้าตาเลย นังหน้าด้านแกคงมีความสุขมากนะที่กำลังจะได้ครอบครองผัวชาวบ้านเขาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย”ชลลี่เดินเข้ามาหาเจ้าสาวในชุดไทยที่สวยหมดจดพลางนึกอิจฉา

ไม่ใช่แก้วกรรณิกาจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของชลลี่หรือชลธิชาอดีตพนักงานต้อนรับของรีสอร์ทหรูที่ธนกิจเป็นเจ้าของแต่หญิงสาวได้หายตัวไปก่อนหน้านี้หลายเดือนแล้ว ธนกิจบอกกับเธอว่าเขาไม่ได้สนใจการหายตัวไปของชลลี่แม้แต่นิดเดียวหญิงสาวยั่วยวนเขาทำให้เผลอมีความสัมพันธ์ด้วยเขาไม่เคยคิดอะไรกับชลลี่มากกว่าคู่นอนชั่วคราวยิ่งทำให้แก้วกรรณิการู้สึกรังเกียจในความเห็นแก่ตัวของธนสิทธิ์ แต่แก้วกรรณิกายังไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วชลลี่กำลังตั้งครรภ์ลูกของธนสิทธิ์และเขาบังคับให้ชลลี่ไปทำลายเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองโดยบังคับว่าถ้าเธอไม่ทำเขาจะทำเอง เพราะพักหลังธนสิทธิ์เริ่มไม่พอใจชลลี่ที่เปิดเผยความสัมพันธ์จนเขาถูกแก้วกรรณิกาจับได้

“เธอก็รู้ว่าเขากับฉันเป็นคู่หมั้นกันมาก่อน เธอต่างหากที่รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังเอาตัวเข้ามาแทรกมันก็คงต้องแรกกับความเจ็บปวดบบนี้แหละ”

“แต่ฉันก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียตัวจริงของเขา ไม่ใช่ว่าที่เมียเหมือน...”สายตายยิ้มเยาะ “เหมืนเธอนังคุณหนูแก้วอย่านึกนะว่าฉันไม่รู้แกนะมันจืดชืดและเล่นตัวสารพัดเขาเล่าให้ฉันฟังหมดนั่นแหละ จะจับมือได้แต่ละทีก็สะบัดสะบิ้งจนเขาเบื่อ จะกอดจะจูบก็บ่ายเบี่ยงรอให้แต่งงานก่อนนี่มันสมัยไหนแล้วไม่คิดว่าสาวสังคมอย่างเธอจะหัวโบราณได้ขนาดนี้ ”

“ก็เพราะแบบนี้ไงเขาถึงเลือกฉันมากกว่าเธอชลลี่” แก้วกรรณิการยั่วโทสะเพราะไม่พอใจที่ชลลี่บุกรุกเข้ามาในบ้านอีกทั้งยังต่อว่าเธออย่างสาดเสียเทเสียอันที่จริงเธอต่างหากที่ควรจะต่อว่าหญิงสาวในเรื่องที่ผ่านมา

ชลลี่ปล่อยโฮยกมือขึ้นปิดหน้าและทรุดลงที่พื้นห้องน้ำเมื่อคำผรุสวาทของอีกฝ่ายแทงใจดำใช่เพราะความง่ายผู้ชายถึงทิ้งเธอ “ใช่สิก็เธอมันรวยเขาเลือกเธอก็เพราะเธอมันลูกผู้ดี ไม่ใช่ลูกชาวนาเหมือนฉัน มันจะไปส่งเสริมบารมีให้เขาได้อย่างไร แต่ลูกของฉันไม่ควรจะต้องเกิดมาแบบไม่มีพ่อไม่ใช่เหรอ ในเมื่อตลอดเวลานอกจากเขาฉันก็ไม่เคยมีใครจริงๆนะ ทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนี้”

ถ้าชลลี่มาอาละวาดใส่เธอแก้วกรรณิกาจะร้องเรียกให้คนข้างล่างมาจับหญิงสาวโยนออกไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่เมื่อชลลี่พูดเหมือนกับว่าเธอกำลังท้องและร้องไห้อย่างหนักทำให้แก้วกรรณิกาหยุดความคิดนั้นเอาไว้และถามออกไป

“นี่เธอท้องกับเขาจริงเหรอ”

“เธอไม่รู้จริงๆเหรอข่าวฉันออกจะดังวันนี้ยังขึ้นหน้าหนึ่งเลยในเมื่อเขาไม่ให้ฉันพบหน้า ฉันก็ต้องทำ”

“ข่าวอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง”

“ใช่สิ เธอจะรู้เรื่องได้ยังไงก็เธอคงนอนหลับฝันหวานที่จะได้แต่งงานในวันนี้ เลยไม่รู้ว่าเมื่อคืนฉันกับลูกในท้องกำลังจะโดดตึกฆ่าตัวตาย ฉันทำแบบนั้นเพราะต้องการแก้แค้นที่เขาสั่งให้ฉันไปทำแท้ง เธอคงไม่รู้ล่ะสินะว่าแขกที่มางานเขาคุยเรื่องฉาวโฉ่นี้กันอย่างสนุกปากถึงเจ้าสาวที่เจ้าบ่าวไปทำผู้หญิงท้อง” จากที่ร้องไห้น่าสงสารเมื่อครู่ชลลีก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะออกมาเบาๆราวกับคนวิกลจริตแน่ล่ะสภาพที่ชลลี่เผชิญทั้งการที่พ่อของลูกสั่งให้ไปทำแท้ง ครอบครัวก็ตราหน้าว่าเป็นลูกอกตัญญูใจง่ายท้องไม่มีพ่อชลลี่แทบจะไม่เหลือที่ยืนสำหรับตนเอง


“แต่ทำไมเขาเลือกเธอนะเหรอคงเป็นเพราะฐานะ และชื้อสายผู้ดีเก่าที่เชิดหน้าชูตาเขาได้อย่าคิดว่าเขารักแกเพราะคนอย่างไอ้ธนสิทธิ์มันไม่เคยรักใครแม้แต่ลูกของมัน” ปลายประโยคมีน้ำเสียงขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัดแววตาแสดงความเกลียดชังออกมา


“หมายความว่ายังไง”

“มันสั่งฉันไปทำแท้งเถื่อน มันตีราคาชีวิตลูกของมันด้วยเงินจำนวนหนึ่งหมื่น” จากนั้นชลลี่ก็ปล่อยโฮเสียงดังจนแก้วกรรณิกาตกใจและใจอ่อนรีบเข้าไปปลอบ


“จริงเหรอที่เขาไล่เธอไปทำแท้ง”

“ไม่ต้องเชื่อฉันก็ได้มีตาก็ดูเอาเอง”

ชลลี่ส่งโทรศัพท์เครื่องหรูที่ธนกิจเคยซื้อให้ก่อนจะรู้ว้าเธอตั้งท้องภาพไม่ชัดเจนแต่เสียงคมชัดมาก ชลลี่แอบบันทึกเอาไว้ตอนที่ธนกิจบังคับให้เธอไปทำแท้งเขาบอกว่าถ้าเธอไม่ทำเขาจะทำเอง

แก้วกรรณิกามือสั่นไม่ใช่เพราะเสียใจที่ธนกิจไปทำผู้หญิงท้องทั้งที่กำลังจะเป็นสามีของเธอ แต่เกลียดความเลวของธนสิทธิ์ที่ฆ่าได้แม้กระทั่งลูกของตัว


“หมามันยังรักลูกมัน แต่ธนกิจลูกของตัวยังจะฆ่าได้แล้วนับประสาอะไรที่เขาจะรักเรา” แก้วกรรณิกาพูดออกมาเบาๆ


“ใช่หมามันยังรักลูกมัน แต่ไอ้ธนกิจมันไม่รักฉันแล้วยังไม่รักลูกของมันอีก คนแบบนี้สมควรตาย”

“ฆ่าเขาเธอก็ต้องไปอยู่ในคุกแล้วลูกของเธอล่ะ”

“ใช่ ฉันไม่อยากจะไปคลอดลูกในคุก ไม่...ไม่นะ” สายตาชลลี่หวั่นวิตก


“ที่เธอบุกเข้ามาในนี้เพื่ออะไรชลลี่” เพราะแก้วกรรณิกาไม่เห็นอีกฝ่ายจะมีอาวุธติดมาด้วย

“ฉะ...ฉันมาทำไมนั่นนะเหรอ ฮือออ...”หญิงสาวร่ำไห้ “ฉันก็จะมาบอกเธอแต่หากเธอยังดื้อดึงที่จะแต่งงานกับคนเลวนั่นฉันก็จะแฉว่ามันทำฉันท้องกลางงานแต่งเธอ

“เธอไม่อยากให้เขากับฉันแต่งงานกันใช่ไหม”

“ถึงฉันจะเกลียดมันแค่ไหน แต่นายธนกิจก็เป็นสามีคนแรกของฉันและยังเป็นคนเดียวอยู่เธออยากให้สามีตัวเองไปแต่งงานกับคนอื่นไหมล่ะ”

“แน่นอนฉันย่อมไม่ชอบ และฉันเองก็ไม่ชอบใช้สามีร่วมกันกับใครด้วย”

“หมายความว่ายังไง” ชลลี่มีแววตาประหลาดใจ

“ก็บอกแล้วไงว่าคนอย่างฉันก็ไม่ชอบใช้สามีร่วมกันกับใคร” แก้วกรรณณิกายิ้มเย็นอย่างตัดใจอะไรได้บางอย่างพร้อมทั้งกระซิบบอกอะไรบางอย่างกับชลลี่

เสียงฝีเท้าเดินมาทางห้องน้ำทำให้แก้วกรรณิกาบอกให้ชลลี่หลบไปก่อนจากที่ชลลี่จะเข้ามาป่วนงานเพื่อแก้แค้นกลายเป็นว่าเธอได้กำเช็คถึงห้าแสนกลับออกไป ที่จริงเธอคิดว่าแก้วกรรณิกาหรอกเธอแต่แก้วกรรณิกาหายไปไม่ถึงหนึ่งนาทีกลับมาพร้อมเงินสดปึกหนึ่งกับเช็คจำนวนมากที่สุดเท่าที่ชลลี่เคยได้รับมา

“เธอให้ฉันจริงๆเหรอ” แววตาไม่อยากเชื่อว่าเช็คและเงินสดจะเป็นของเธอ

“ใช่มันเป็นของเธอกลับลูก แต่เธอต้องรักษาสัญญานะว่าเธอจะทำตามที่ฉันขอร้อง” แม้ว่าเคยหมั่นไส้กับคุณหนูผู้รวย เลิศ เชิด คนนี้มาก่อนแต่เมื่อรับเงินมาแล้วคนอย่างชลลี่ย่อมทำตามสัญญาใครดีกับเธอ เธอก็จะดีตอบแต่ใครมาร้ายชลลี่ก็ต้องคิดเอาคืน
“ตกลงฉันให้สัญญา”

“เธอสัญญากับฉันแล้วนะชลลี มีคนมาแล้วฉันจะออกไปรับหน้าแล้วจากนั้นเธอก็หาทางลอบออกไปก่อนนะ”

“ตกลง”
“ลูกแก้ว ๆ ลูกแก้วจ๋า อยู่ที่ไหนพิธีใกล้จะเริ่มแล้วนะลูก” เสียงของคุณหญิงเจ้าของบ้านดังไปทั่วชั้นสองเหมือนราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่อันที่จริงแล้วเธอทั้งกลัวและกังวลกับศพในบ้านแต่จะให้พิธีแต่งงานล้มไม่ได้ ไม่อย่างนั้นสินสอดนับสิบล้านคงไม่ได้มาอยู่ในกำมือเธอถ้าเป็นแบบนั้นรับรองว่าชีวิตของเธอคงจะหาไม่


“แก้วอยู่นี่ค่ะคุณแม่” แก้วกรรณิกาเดินออกมาจากห้องน้ำจากนั้นเข้าไปเกาะที่เอวมารดาและพาเดินออกไปด้านอื่น

“ลูกแก้วที่แท้ก็เข้าห้องน้ำอยู่นี่เอง”

“คือแก้วรู้สึกปวดท้องค่ะคุณแม่ เหมือนจะท้องเสีย”

“ตายล่ะลูกสาวฉันจะมาท้องเสียอะไรกันวันแต่งงาน มานี่มาแม่จะพาไปหายาทานรีบกินเข้าไปเลยนะก่อนพิธีจะเริ่มขึ้น” แก้วกรรณิกาจีงรีบเดินตามมารดาไป
+++++++++++++++++++++++++++

เมื่อพิธีแต่งงานของสองตระกูลดังกำลังจะเริ่มขึ้นขบวนขันมากที่จัดมาสมฐานะเจ้าสาวไฮโซตระกูลเก่าแก่ ขันหมากขบวนยาวที่จัดพิธีถูกต้องตามประเพณีไทยเจ้าบ่าวในชุดไทยเหมือนชุดราชประแตนพร้อมญาติมิตรขบวนขันหมากที่แต่งมาอย่างงดงามเจ้าบ่าวมีสีหน้าแช่มชื่น ก็แน่ล่ะคืนนี้เขาจะได้เข้าหอกับผู้หญิงที่เขาคิดว่าเหมาะสมกับเขามากที่สุดไม่ว่าจะเป็น หน้าตา ฐานะ ชาติกูลแก้วกรรณิกาเหมาะสมกับสาวสวยมากมายที่เขาเลี้ยงดูไว้แก้เหงาเพราะไม่สามารถแตะต้องคนรักได้คืนนี้แหละเข้าหอแล้วเขาจะไม่ยอมให้เธอบ่ายเบี่ยงเป็นอันขาด

ว่านนทีในชุดเสื้อยืดสีดำกางเกงลายทหารสวมแว่นตายี่ห้อดังแบกเป้ใบย่อมดูเผินๆเหมือนนักท่องเที่ยวแบ็คแพคก้าวลงมาจากรถแท็กซี่


“ไม่ต้องทอน”

“ขอบคุณครับ” แท็กซี่จากไปด้วยความสงสัยเล็กน้อยชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งตัวเหมือนไม่ได้มางานแต่งงานแต่งตัวยังกับทหารผ่านศึก ก็เขารีบมานี่แถมไม่ได้ตั้งใจมาเป็นแขกในงานจึงตั้งใจให้ถึงที่หมายอย่างรวดเร็วที่สุด


เมื่อเจ้าบ่าวผ่านประตูเงินประตูทองเข้าไปแล้ว คาดว่าซองที่เจ้าบ่าวมอบให้กับคนกั้นประตูคงจะเป็นจำนวนไม่น้อยได้ยินสาวๆที่เข้ามากั้นประตูกรี๊ดกร๊าดกันจนมาถึงพิธีสำคัญเมื่อคุณหญงไปบุตรสุดที่รักลงมาจากห้องมาส่งให้เจ้าบ่าวลูกเคยที่คุณหญิงภูมิใจนักเพราะคือถังเงินถังทองในวันข้างหน้าของเธอ


“แม่ฝากหนูแก้วให้พ่อธนกิจช่วยดูแลด้วยนะจ้ะ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้น้องนะลูก”

ธนกิจรับมือของแก้วกรรณิกามากุมเอาไว้ “ผมจะรักแก้วกรรณิกาให้เหมือนที่คุณแม่รัก และรักมากกว่าชีวิตของผม” คำพูดนั้นพูดไปตามประสาคนปากหวานแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเองจะทำได้หรือไม่ ท่ามกลางญาติมิตร เพื่อนพ้องของทั้งสองฝ่ายที่มาร่วมพิธีและแสดงความยินดีเมื่อธนกิจสวมแหวนเพชรประจำตระกูลไปที่นิ้วนางข้างซ้ายท่ามกลางเสียงชื่นชมที่เจ้าสาวแสนสวยได้รับแหวนเพชรเม็ดงามเกือบห้ากะรัตมาเป็นแหวนแทนใจของเจ้าบ่าว พรั่งพร้อมไปด้วยทองแท่งอีกยี่สิบบาท เงินสดอีกสิบล้าน


“น่าอิจฉายัยแก้วจริงๆนะยาหยี”เพื่อนสาวคนหนึ่งพูดขึ้นเบาๆ

“น่าห่วงมากกว่า”

“พูดอะไรแบบนี้ยาหยี นี่มันงานมงคลยัยแก้วนะยะ” เพื่อนคนหนึ่งพูดเบาๆ

“พวกแกไม่ดูหน้ายัยแก้วบ้างว่าดีใจแค่ไหนกับการถูกแม่ขอร้องแกมบังคับให้แต่งงาน” เมื่อก่อนอาจจะใช้ว่าแก้วกรรณิการักธนกิจอย่างจริงใจแต่หลังจากเกิดเรื่องคืนนั้นขึ้นยาหยีมั่นใจว่านับแต่นั้นมาใจของแก้วกรรณิกาไม่ได้อยู่กับธนกิจอีกต่อไปยาหยีจึงเป็นห่วงกับการแต่งงานครั้งนี้ของเพื่อนรักว่าจะไปไม่ถึงฝั่งต้องเลิกล้างกลางคันใครอาจอิจฉาดีแก้วกรรณิกาจะได้แต่งงานพร้อมสินสอดมากมายกับหนุ่มไฮโซนักธุรกิจดังแต่ยาหยีเห็นแต่แววพังอย่างเดียวหากธนกิจไม่เลิกเจ้าชู้


ผู้กองปันสะกิดแขนภรรยาสาวเป็นการเตือน “ที่รักยังไงก็งานมงคลเขาเราคงธรรมอะไรไม่ได้แล้ว ในเมื่อเจ้าตัวเขาตัดสินใจแล้ว”

ยาหยีหยิกแขนสามีและกระซิบเบาๆ “ก็นายว่านนทีเพื่อนคุณนั่นแหละ คนอะไรก็ไม่รู้ไม่รู้จักสู้เพื่อตัวเอง ป่านนี้ไปซ่อนตัวอยู่ในกระดองเต่าที่ไหนก็ไม่รู้” หญิงสาวทำหน้ามุ่ยแต่เมื่อผู้กองปันถอนหายใจและเงยหน้าขึ้นมาก็สะดุดตากับผู้ชายในชุดทหารพราน


“ไอ้ว่าน” เขาเผลออุทานออกมาเสียงดังจนคนในงานหันมามองรวมถึงเจ้าสาวที่กำลังเข้าสู่พิธีรดน้ำสังข์


“นายว่าน” หญิงสาวเผลอยิ้มก่อนจะหุบยิ้มลงและเปลี่ยนท่าที ส่วนเจ้าบ่าวของเธอมีสีหน้าไม่พอใจอย่างไม่เก็บอารมณ์


“ใครเชิญมันมาวะ”เขาสบถเบาๆถ้าวันนี้ไม่ใช่เจ้าบ่าวเขาคงจะเดินเข้าไปชกผู้มาใหม่เสียเดี๋ยวนี้"ไอ้แขกไม่ได้รับเชิญ"
++++++++++++++++++++++++++++++++++++







อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ม.ค. 2556, 22:30:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ม.ค. 2556, 14:24:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 2105





<< ตอนที่ 2 ลางร้าย   ตอนที่ 4 >>
pattisa 29 ม.ค. 2556, 23:26:44 น.
นายว่านจะช่วยเเก้วยังไง รอค่ะ


อัปสรา 29 ม.ค. 2556, 23:28:49 น.
สวัสดียามดึกค่ะ ช่วยยังไงดีนะ ติ๊กต๊อก คนเขียนคิดก่อนเน้อ 555


คิมหันตุ์ 29 ม.ค. 2556, 23:33:28 น.
หายไปนานเลยค่าเกือบจำไม่ได้แน่ะ ^^


violette 29 ม.ค. 2556, 23:46:26 น.
โอยยย คิดถึงคู่นี้มากกกกกก ค่ะ รอมานานนน รออ่านต่อนะคะ
นายว่านมาช่วยหนูแก้วทันมั้ยเนี่ย


konhin 30 ม.ค. 2556, 03:13:46 น.
ติ๊ก ต๊อก เจ้าสาวจะหนีงานแต่งหรือโดนพาหนีกันแน่ ฮ่าๆๆ


อัปสรา 30 ม.ค. 2556, 08:15:40 น.
สวัสดีทุกคนค่ะ ขอบคุณมากมายที่เข้ามาให้กำลังใจมาอ่านมาเม้นต์กันค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account