แผนซ่อนรัก
เมื่อคู่หมั้นกำลังจะกลายเป็นของคนอื่น สาวน้อยก็ต้องสวมบทบาทเป็นนางมารร้ายเพื่อปกป้องดวงใจ แต่ความรักไม่ใช่เรื่องของคำว่ามาก่อนหรือเป็นเจ้าของเสมอไป เธอจะทำอย่างไรกับรักแรกครั้งนี้
Tags: หวานแหวว

ตอน: รักนี้ต้องสู้

ศารีนาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะมีความหน้าด้านหน้าหน้าทนได้มากขนาดนี้ วันนี้เธอบุกมาหาชนาที่โรงแรมของเขา แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเดินมาพร้อมแรงเหวี่ยง เธอท่องกลับไปกลับมาว่า รัก รัก เพราะว่าความรักที่เธอมีให้ชนาต่างหาก เธอไม่ใช่คนผิด เธอแค่มาทวงสิทธิ์ที่เธอมี แล้วทำไมเธอต้องกลัวด้วย คนที่กลัวควรเป็นยัยสาวไทยคนนั้นต่างหาก เธอมีอคติกับคำว่าคนไทยไปโดยปริยาย ร่างบางแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยเดรสสีน้ำเงิน ผมยาวดำขลับปลิวไปมาตามการก้าวเดิน พอมาถึงห้องคู่หมั้นโดยไม่ต้องขออนุญาตร่างแน่งน้อยก็ก้าวเข้าห้องผู้บริหารด้วยความเคยชิน สายตาคมหวานมองไปที่โต๊ะผู้บริหาร เขาคือคนที่เธอทุ่มจิตใจให้ไปทั้งหมด ความรักที่เธอมีให้เขา แต่เขากลับทำร้ายโดยการเลือกคนอื่น แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
“พี่ชนา รีนามีเรื่องจะพูดด้วย”ศารีนาเปิดฉากก่อนเมื่อเห็นร่างหนายืนที่มุมหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปราวๆสามเมตร
“ผมไม่ใช่ชนา”คนที่เธอคิดว่าเป็นคู่หมั้น แต่กลับกลายเป็นคนแปลกหน้าซึ่งเธอไม่เคยเห็นมาก่อน
“คุณเป็นใคร เข้ามาที่ห้องนี้ได้อย่างไร แล้วพี่ชนาไปไหน”ศารีนายิงคำถามเป็นปืนกลให้กับคนที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
“เอาเป็นว่าผมได้รับเชิญให้มาที่ห้องนี้อย่างเป็นทางการ” อีกฝ่ายตอบหน้าเฉย สายตาคมเข้มแบบลูกครึ่งเอเชียผสมตะวันตก จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าคมคาย
“นี่คุณว่าฉันเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างนั้นหรือ”ศารีนาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
“ผมเปล่าพูด แต่คุณยอมรับออกมาเองต่างหากครับ คุณ…” เขาหลิ่วตาเล็กน้อยบอกอาการเป็นนัยๆว่าเขาอยากจะรู้ว่าเธอชื่อเสียงเรียงนามอะไร แต่อากัปกริยาของเขามันยั่วโมโหเธอชัดๆ และเธอก็ไม่อยากจะพูดมากความกับเขาในช่วงที่เธออารมณ์ไม่ดี
“ฉันเป็นใครไม่เกี่ยวกับคุณ ฉันมาหาพี่ชนา” ศารีนารู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่ต้องเรียกชื่อของเขา เธอรู้สึกว่าน้ำตามันพร้อมจะไหลออกมาทุกๆครั้งที่เธอคิดถึงเขา หรือแม้กระทั่งเอ่ยชื่อเขา
“ผมรู้แล้วว่าคุณสำคัญไม่อย่างนั้นเลขาหน้าห้องคงไม่กล้าปล่อยคุณเข้ามาที่นี่หรอก ที่ผมพูดเป็นสิ่งที่ถูกต้องไหมครับ” เขายังเล่นลิ้นซึ่งปกติแล้วไม่ใช่วิสัยของเขาเลย
“ถ้ารู้ว่าฉันสำคัญ แล้วคุณบอกฉันได้แล้วใช่ไหมว่าพี่ชนาอยู่ที่ไหน?”
“คุณนี่ยังไง ก็เพิ่งจะบอกผมว่าคุณเป็นคนสำคัญ แล้วยังจะมาถามผมอีกว่าพี่ชนาไปไหน สรุปว่าคุณอาจจะไม่ใช่คนสำคัญของเขาก็ได้นะ” เขาไม่ได้มีความหมายอื่นแอบแฝง แต่ศารีนากลับตีความไปอีกทาง ใช่สิ! ตอนนี้เธอไม่ใช่คนสำคัญของเขาแล้วนี่นา นี่คือความจริงที่ตอกย้ำเธอมาสองเดือนแล้ว แต่ทำไมเธอยังไม่อยากจะยอมรับความจริง ไม่มีทาง! เธอจะไม่ยอมตกเป็นรองเด็ดขาด
“ฉันเป็นคู่หมั้นของพี่ชนา สำคัญไหมล่ะ” ศารีนายักไหล่บ่งบอกว่าเธอเป็นต่อเขา
“อ๋อครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ แต่เท่าที่ได้ยินมาตอนนี้ชนารักกับผู้หญิงที่เป็นหลานสาวของผม ผมหมายถึงพลอย หรือว่าบางทีข่าวกรองอาจจะผิด”ชายหนุ่มลูบครางทำท่าทางครุ่นคิด
“ที่แท้ก็พวกเดียวกัน ฉันถามจริงๆเถอะว่าหลานสาวคุณอาจจะสะกดคำว่าอายไม่เป็นละมั้ง ก็เลยเที่ยวแย่งคู่หมั้นของคนอื่นแบบนี้”ศารีนาไม่อยากเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ ทำไมโลกมันถึงกลมแบบนี้ก็ไม่รู้
“ผมว่าเรื่องความรักเป็นเรื่องของคนสองคนต่างหากครับ คนนอกอย่างเราอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลยเสียจะดีกว่า”
“คนนอกอย่างคุณและยัยหลานสาวของคุณต่างหากละมั้งที่เข้ามายุ่งเกี่ยว ไม่ใช่ฉัน คุณก็รู้เห็นเป็นใจใช่ไหม หวังอะไรจากพี่ชนาล่ะถึงได้เกาะเสียแน่น จนไม่รับรู้ว่าเขามีคู่หมั้นอยู่ จิตใจของพวกคุณทำด้วยอะไร”
“ผมรู้มาว่าคุณทำตัวร้ายกับหลานสาวผมด้วยการกระทำ คุณคิดว่าถ้าชนารู้เขาจะยังรักคุณอยู่ไหม”
“นี่”ศารีนาหน้าแดง แต่เรื่องอะไรล่ะที่เธอจะยอมรับ
“ผมรู้ และที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อจะปกป้องหลานสาวของผม จากผู้หญิงที่ไม่ยอมรับความจริงว่าเขาทั้งสองคนรักกัน”
“ไม่จริง พี่ชนาแค่หลงยัยนั่น”ศารีนาพูดไปก็เหมือนจะปลอบใจตัวเองมากกว่า ทุกคนก็บอกกับเธอว่า พวกเขารักกัน นั้นหมายความว่าเธอไม่ใช่คนที่จะสามารถเคียงข้างเขาได้อีกต่อไป
“คุณก็เห็นอยู่ ทำไมไม่ยอมรับความจริง การระรานไม่ได้ทำให้ชนากลับมาหาหรอกนะครับ”
“คอยดูแล้วกันว่าพี่ชนาจะกลับมาหาฉันหรือเปล่า” ศารีนาตอบไปตามอารมณ์ที่อยากจะเอาชนะเท่านั้น ในบางครั้งการยอมรับความจริงก็เป็นเรื่องยากเกินจะทำได้
“อย่าคิดร้ายกับหลานสาวของผม เพราะเธออ่อนโยนไม่ใช่คนที่ร้ายกาจอย่างใครบางคน”
“นี่คุณว่าฉันอย่างนั้นเหรอ คุณกล้าดียังไง คนที่ร้ายกาจคือหลานสาวคุณต่างหาก ไม่ใช่ฉัน ได้ยินไหมว่าไม่ใช่ฉัน” แรงตะโกนทำเอาหนุ่มหล่อถึงกับตกใจ คู่หมั้นเพื่อนรักของเขาร้ายกาจได้ขนาดนี้เชียวหรือ
“ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมชนาเลือกหลานสาวของผม ไม่ใช่คู่หมั้นที่แสนร้ายกาจอย่างคุณ”
“กรี๊ด ไอ้คนบ้า” เสียงอย่างกับลำโพงสิบตัวดังขึ้น พร้อมกับอาการเด็กขี้โมโหกระทืบเท้า
“คุณเป็นใคร กล้าดียังไงมาต่อว่าฉันแบบนี้ คนบ้า คนปากไม่ดี คนๆๆ” ศารีนามองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ สายตาสวยดุพิฆาตยิ่งกว่าเปลวไฟมองเขาอย่างกับจะฆ่าแกงกันให้ตายไปข้างหนึ่ง
“ผมแค่พูดความจริงเท่านั้น ชนาสารภาพกับคุณแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาคิดอย่างไรกับคุณ” ศารีนาอยากจะลืมว่าสองเดือนที่แล้วชนามาพบเธอและสารภาพว่าเขารักสาวไทยลูกครึ่งอิตาเลี่ยน
“นี่คุณรู้เรื่องนี้ได้ไง อ๋อ หลานสาวของคุณคงคาบข่าวรายงานกันไม่ให้พลาดสักช๊อตเลยละสิ” ศารีนาต่อว่าอีกฝ่ายในความสู่รู้
“ผมแค่อยากจะเตือนสติคุณก็เท่านั้น การวิ่งตามผู้ชายมันออกจะดูไม่งามนัก”อีกฝ่ายต่อว่าเธอแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย
“นั้นสินะ แบบฉันเรียกว่าไม่งามแต่แบบหลานสาวคุณก็งามหน้ามากกว่ามั้งที่แย่งของคนอื่นหน้าด้านๆ”
“แต่คนที่ชนาเลือกคือพลอยไม่ใช่คุณ”ไกรฤกษ์พูดความจริง แต่อีกคนเต้นเป็นเจ้าเข้าเพราะว่าความจริงนั้นช่างเจ็บปวดเสียนี่กระไร
“อย่าคิดว่าฉันจะหลีกทางนะ เสียเขาไปฉันก็จะเอาคืน” น้ำตาปริ่มดวงตาคู่สวย แต่เจ้าตัวพยายามกำมือแน่นเพื่อไม่ให้เขาเห็นความอ่อนแอ เธออ่อนแอตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยผ่านเรื่องยากลำบาก ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะหนักกว่าทุกครั้งที่เธอประสบพบเจอ ศารีนาก็ไม่แน่ใจนักว่าเธอจะผ่านอุปสรรคโดยที่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้หรือเปล่า อาการสั่นน้อยๆเริ่มเกิดขึ้น สายตาเริ่มพร่ามัว ไม่มีทางที่เธอจะให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว เธอจะต้องชนะมันให้ได้ มือบางกุมหน้าอก พยายามสูดลมหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ
“อย่ามาเรียกร้องความสนใจ วิธีนี้ใช้กับผมไม่ได้” เขารู้เท่าทันพวกผู้รีนาที่พยายามเรียกร้องความสนใจ ชีวิตของเขาผ่านผู้รีนามาก็ใช่ว่าจะน้อยๆ อาการที่สาวน้อยกำลังทำอยู่ก็ไม่ผิดจากผู้หญฺงที่เขาเคยเจอนักหรอก มารยาร้อยเล่มเกวียนใช้กับคนอย่างเขาไม่ได้หรอก
“นี่คุณ อย่าเอามาตรฐานต่ำๆจากหลานสาวของคุณยัดเยียดให้ฉัน จำไว้”
“มันจะมากไปแล้วนะ” มือหนาฉุดแขนเรียวบอบบาง
“ปล่อยฉันนะ คุณกล้าดียังไงมาว่าทำแบบนี้กับฉัน” ไกรฤกษ์เหมือนอยู่ในมนต์สะกดเมื่อจ้องใบหน้าสาวน้อยที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงคืบ ปากแดงตาแดงแสดงให้เห็นว่าโมโหมาก
“ผมไม่ได้กล้าอะไรหรอกครับ แต่ผมแค่อยากจะปราบพยศคุณเท่านั้น คุณไม่ใช่เด็กแล้ว การเรียกร้องความสนใจแบบนี้ผู้ชายที่ไหนก็ดูออก หรือบางที่อาจจะเรียกว่าการยั่วยวนให้ท่า”
“คนบ้า ฉันไม่สิ้นคิดขนาดนั้นหรอกนะ แค่ถูกคู่หมั้นทรยศแต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะโง่ ฉันอาจจะโง่ที่ปล่อยให้เนื้อเข้าปากเสือ ฉันอาจจะโง่ที่ปล่อยให้ยัยนั้นมาฝึกงานที่นี่ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไร้สมองถึงขนาดอ่อยศัตรูหรอก ฉันมีศักดิ์ศรีพอ ไม่เหมือนหลานสาวของคุณหรอก”



วีดาฟียา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.พ. 2556, 15:29:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.พ. 2556, 15:29:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1186





<< แค้นเกินพิกัด   ทวง! >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account