บ่วงพราย
ขนมงจีนถูกส่งไปที่คฤหาสน์สีขาว ที่นั่นเป็นบ้านของคุณหลวง ทว่า...เธอได้พบกับวิญญานชายหนุ่ม ที่แม้แต่ที่อยู่และสถานที่ที่ตัวเองตาย ก็ยังไม่รูั้เลย แล้วเธอจะทำอะไรดีเนี่ย
Tags: รักหวานแหวว หวานซึ้ง พล็อดสนุก สนุกสนาน

ตอน: บทที่ 3 เสียงกระซิบอย่างอ่อนโยน

บทที่ 3
เสียงกระซิบอย่างอ่อนโยน

“ธีร์ จะมาก็ช่วยออกไปห่าง ๆ หน่อยได้ไหม”

ธีร์อยู่ในชุดเสื้อยืดสีน้ำเงินกางเกงยีน รองเท้าหนัง จนเธอกระพริบตาถี่ ๆ ใบหน้าของเขาที่เคยหมองลงกลับเข้มขึ้นทีละน้อย คิ้วดกหนารับกับจมูกโด่งเป็นสัน เรียวปากสีชมพูระเรื่อ ถ้าไม่คิดว่าเขาเป็นเพียงวิญญาณเธอก็คงอดหวั่นไหวไม่ได้จริง ๆ

“ได้บุญแล้วเหรอ”

‘ใช่ ขอบใจมากนะ’

ขนมจีนค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีนะที่บุญช่วยให้เขามีเสื้อผ้าแบบดี ๆ ไม่อย่างนั้นล่ะก็เธอได้เป็นตากุ้งยิงแน่เลย

“ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่น่ะ”

‘ไม่รู้สิ ความทรงจำมันดูเหมือนเลือน ๆ ราง ๆ ยังไงก็ไม่รู้’

“แปลว่า นายมาอยู่ที่นี่โดยไม่รู้ตัวงั้นสิ”

‘คงอย่างนั้น'

“บ้าจริง ๆ เลย” เธอถอนหายใจยาว “ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ต้องอยู่กับนายแค่สองคนน่ะสิ...แต่ว่า คืนที่แล้วมาวันแรกฉันเห็นคุณหลวงด้วยนะ นายรู้จักคุณหลวงหรือ

‘ใครเหรอ’

“คุณหลวงฉันไง”

‘ผมรู้แต่ว่า...ผมอยู่ที่นี่คนเดียว เป็นระยะเวลายาวนานมาก’

“แปลว่า นายอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้คุยกับใครเลยเหรอ”

‘ใช่’

ขนมจีนมองหน้าเขา ผู้ชายคนนี้คงอยู่มานานมาก มากเกินกว่าที่เธอจะรู้ด้วยซ้ำ เธอมองเห็นเขาเป็นวิญญาณที่ดูเหมือนไร้ที่พึ่งพิง จะไล่ไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ได้ จะให้เขาอาศัยอยู่กับเธอมันก็ยังไง ๆ อยู่

“แปลว่า นอกจากบ้านหลังนี้นายไม่มีที่ไปเลยเหรอ”

‘ใช่’

ขนมจีนเม้มปากแน่น จะว่าไปแล้วคนกับวิญญาณก็อยู่คนละภพนี่นา

“จะว่าไปแล้ว นายก็มาอยู่ก่อนฉัน เอาเป็นว่าฉันอนุญาตให้นายอยู่ร่วมบ้านเดียวกับฉันก็ได้นะ”

‘จริงเหรอ’ ฟังดูน้ำเสียงเขามีชีวิตชีวา ‘ถ้าอย่างนั้น ช่วยหาร่างผมให้ทีสิ’

“อะไรนะ” เธอกระพริบตาถี่ ๆ “จะให้ฉันหาร่างนายเนี่ยนะ”

‘ใช่ ผมมีความรู้สึกว่าร่างกายของผมมันยังอยู่ เพียงแต่ว่าผมหามันไม่เจอเท่านั้น ถ้าคุณอยากให้ผมอยู่ด้วย ก็ต้องช่วยตามหาร่างให้ผม โอเคหรือเปล่า’

“บ้า พูดบ้า ๆ ร่างกายป่านนี้ไปลอยอังคารที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แล้วฉันจะตามหาร่างกายของนายได้ยังไง”

‘ไม่หรอก มันยังอยู่ลางสังหรณ์ผมมันบอก เพียงแต่หาไม่เจอเท่านั้น’

“เดี๋ยวก่อน นายบอกว่าจำไม่ได้ใช่ไหมว่ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ยังไง”

‘ใช่’

“แล้วฉันจะไปหาได้ยังไงล่ะ” เธอร้องเสียงดัง

‘คุณจะต้องหาเจอแน่ ลางสังหรณ์ผมมันบอกว่าคุณจะต้องเจอ’ เขายิ้มบาง ๆ

“จะบ้าเหรอ”

‘โอเคนะ แล้วก็ขอบคุณมาก ที่อุตส่าห์ทำบุญไปให้ ไม่อย่างนั้นล่ะตาเป็นกุ้งยิงแน่ ๆ’

ขนมจีนหน้าแดงจัดไปถึงใบหู

“บ้า ใครจะไปดู วิญญาณชีกอนี่”

‘ขอบคุณนะครับ’

ก่อนที่ขนมจีนจะอ้าปาก ธีร์ก็โน้มใบหน้าเข้ามาหอมแก้มเธอ สัมผัสเย็นเฉียบและอ่อนโยน จนทำให้เธอหน้าแดงจัดไปถึงใบหู ก่อนเธอจะต่อว่าเขาธีร์ก็หายวับไปทันที

“ใครให้มาหอมแก้มฉัน ตาบ้า” เธอโวยทันทีเอาหลังมือถูแก้มเบา ๆ “วิญญาณเขาไม่มีตัวตนสักหน่อย ทำไมต้องหน้าแดงด้วยก็ไม่รู้”


...กลางคืน เธอหลับสนิทราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขนมจีนหลับและฝันถึงความฝันที่มีเธอยืนอยู่ตรงกลางคฤหาสน์ร้าง และมันก็สว่างไสวไปด้วยแสงจันทร์สีนวล เธอเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ มันสว่างไสว และเธอก็ยืนอยู่กลางแสงจันทร์สลัว ที่แขนของเธอมีกำไลงาช้างแกะสลักเธอก้มมองมันดูเหมือนว่ามันจะสว่างไสวเรืองแสง

“ที่นี่ที่ไหนกันนะ” เธอพึมพำ

เธอมองเข้าไปในคฤหาสน์สีขาว มองเห็นซากปรักหักถังของมันจนตะไคร่ขึ้นเป็นสีเขียว ภายในมีแสงสว่างเรือง ๆ คล้ายกับว่าไม่มีใครเข้ามานานมาก และเธอก็เอื้อมมือปัดซากเถาวัลย์เดินเข้าไปใจกลางพืชพรรณสีเขียวอ่อนเรืองแสง ภายในมีหินอ่อนสีขาว เธอเดินเข้าไปมองดูอักษรย่อที่เขียนขึ้นบนหินอ่อน มันสลักเป็นอักษรโบราณแต่เธอก็อ่านมันออก มันเขียนว่า

คุณชบา

“คุณชบา...ชื่อของใครกัน” เธอสงสัย

เธอชะงักกึกเพราะขาของเธอถูกดึงไว้แน่น เงาดำ ๆ ที่ขาเธอเริ่มเลื้อยขึ้นมายังเอวและหน้าอก

“อะไรน่ะ” เธอร้องอุทาน

ขนมจีนสะดุ้งตื่นจากความฝัน ในขณะที่โดนลากลงจากขอบเตียง เธอสะดุ้งโหยงก้มลงมองดูขาและมันก็ถูกดึงลงจากเตียงและฉุดกระชากลากถู เธอกรีดร้องเสียงดังมือทั้งสองเกาะขอบเตียงเอาไว้ไม่ให้ถูกดึงลงไป แต่เรี่ยวแรงมหาศาลจนเธอถูกฉุดกระชากลงจากที่นอน

“กรี้ด” เธอร้องเสียงดัง “อย่านะ”

ขณะที่เธอกำลังร้อง มือที่สวมกำไลงาช้างก็ปัดไปโดนเงาดำ เธอได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเสียงร้องโหยหวน เธอขนลุกตั้งชันและเงาดำ ๆ ก็ถอยห่างทันที ขนมจีนก้มลงมองกำไลงาช้างเธอมันเปล่งแสงราวกับถูกของร้อน และขาของเธอก็หลุดออกจากการยึดเหนี่ยว ร่างบางรีบถอยห่างออกไปถึงหัวเตียงใจเต้นตึกตัก

“นี่มันอะไรกัน” เธอรำพึงแผ่ว ในใจยังเต้นรัวไม่หาย

คืนนั้นเธอนอนไม่หลับเลย....

เธอนอนกอดหมอนข้างจนถึงตอนเช้า สมองของเธอทั้งโกรธและอับอายนายธีร์มาก ที่เขามายึดจับข้อเท้าเธอเอาไว้ ถ้าไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใครกันล่ะ

แสงแดดยามเช้ามาเยือน เธอเดินลงบันไดมาชั้นล่างแล้วเรียกชื่อเขา

“นายธีร์ ออกมานะ นายอยู่ที่ไหน”

เธอมองไปรอบ ๆ กาย และเขาก็อยู่ด้านหลังของเธอ

‘มีอะไรเหรอครับ’

ขนมจีนสะดุ้งเฮือก นี่เขามาอยู่ใกล้เธอขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

“จะอะไรซะอีกล่ะ คุณมาแกล้งฉันทำไม”

‘แกล้งอะไรล่ะครับ’

“ก็คุณอยากมาจับข้อเท้าฉัน แล้วลากลงจากเตียงยังไงล่ะ” เธอร้อง

เจ้าของขมวดคิ้วมุ่น

‘จับขาคุณ’

“ก็ใช่น่ะสิ”

‘เดี๋ยวก่อน ไอ้เรื่องจับขาแล้วลากลงจากเตียงเหมือนหนังผีน่ะ ผมไม่ทราบนะครับ...แต่เรื่องจับขาแล้วกดลงกับที่นอนนี่อันนี้ผมไม่ได้ทำนะครับ’

“นายธีร์จะบ้าเหรอ ใครบอกว่านายจับกดกับที่นอนกันล่ะ” ขนมจีนแก้มแดงระเรื่อ “เมื่อคืนน่ะคุณเป็นคนจับขาฉันแล้วลากลงจากเตียงต่างหาก ถ้าไม่ใช่นายแล้วใครจะทำ”

‘ผมหรือ’

“ใช่น่ะสิ”

ธีร์กอดอดขมวดคิ้ว แน่ล่ะเขาไม่ใช่คนที่ทำและไร้ความรับผิดชอบ แต่คราวนี้น่ะมันต่างออกไป

‘ผมสาบานได้ ว่าผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคุณเลย คนที่ทำอาจเป็นคนอื่น’

“คนอื่นเหรอ....ใครกันล่ะ” จริงสินะเมื่อคืนเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงผู้หญิงนี่นา

‘ผมก็ไม่รู้ ผมไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกับคุณ ก็เลยไม่ทราบ’

“อะไรนะ นี่นายคิดจะโกหกงั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่นายแล้วใครกันล่ะ”

‘อันนี้ผมไม่ทราบ แต่ถ้าหากคุณยังข้องใจไม่หาย คืนนี้ผมจะอยู่กับคุณก็ได้ เผื่อว่าจะรู้อะไรได้บ้าง’

ขนมจีนอึ้งไปพักใหญ่ จะให้ธีร์อยู่ในห้องเดียวกับเธอน่ะเหรอ แล้วถ้าหากเขาใช้อ้างเพื่อจะอยู่ในห้องเดียวกับเธอล่ะ ไม่น่านะ...เพราะว่าวิญญาณกับมนุษย์อยู่คนละภพนี่นา เธอยังจะกลัวอะไรอีก

“คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอ แล้ว...เสียงแปลก ๆ ที่ฉันได้ยินล่ะ”

‘เสียงอะไร’

“ไม่รู้สิ แต่ว่าฉันได้ยินเสียงร้องโหยหวนฟังคล้าย ๆ ผู้หญิง มันฟังไม่เหมือนคุณเลย”

‘คุณหลวงของคุณหรือเปล่า บางทีเสียงกรีดร้องโหยหวนอาจฟังเข้าใจผิดก็ได้นะ’

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่คิดว่าไม่น่าจะใช่หรอก...คุณหลวงใจดีมากอยู่ดี ๆ เขาไม่น่าจะมาแกล้งกันแบบนี้หรอก”

‘อืม...เอาอย่างนี้สิ คืนนี้ให้ผมเข้าไปอยู่ในห้องเดียวกับคุณ เวลาเกิดอะไรขึ้นมาเรียกผม แล้วผมจะมาอยู่เคียงข้างคุณเอง’

อยู่เคียงข้างเหรอ...

คำ ๆ นี้มันฟังดูเหมือนว่าเขาเป็นเจ้าชายของเธอเลย

ขนมจีนอมยิ้ม บางทีเขาก็เป็นวิญญาณที่ดีเหมือนกันนะ

“คุณ...จะมาอยู่เป็นเพื่อนฉันจริง ๆ น่ะเหรอ”

‘อืม’

“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไง ว่าคุณอยู่ด้วย”

‘ผมจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา หรือจะให้นอนด้วยผมก็ไม่ว่านะ’ เขายิ้มบาง ๆ

“คุณธีร์ นี่ฉันซีเรียสนะ”

‘ผมก็ซีเรียสเหมือนกัน เอาเป็นว่าผมจะอยู่ข้างคุณ ขอเพียงคุณเรียกผมก็จะมาหาคุณตลอดเวลา’

คำพูดของเขา ช่างมีความหมายกับเธอเหลือเกิน

“ก็คงอย่างนั้น” เธอยิ้ม “ฉันจะออกไปข้างนอกก่อน คุณจะไปด้วยไหมล่ะ”

‘ผม...ออกไปข้างนอกไม่ได้’

“ทำไมล่ะ” เธอขมวดคิ้ว

‘ไม่รู้เหมือนกัน ผมอาจอยู่กับคุณเฉพาะเวลาที่คุณอยู่กับบ้าน’

ขนมจีนกัดริมฝีปากแน่น แปลกจังเลยที่เธอรู้มาวิญญาณมักตามไปได้ทุกที่ไม่ใช่เหรอ ขณะที่เธอคิดอยู่นั้นร่างบางก็คิดออกว่า ถ้าเธออนุญาตให้เขาตามไป บางทีธีร์อาจจะตามเธอไปได้ทุกที่ไม่ใช่เหรอ

“เอาอย่างนี้สิ ฉันอนุญาตให้คุณไปด้วยดีหรือเปล่า”

‘ทำได้ด้วยหรือ’

“ได้สิ ฉันเคยได้ยินว่ามนุษย์สามารถให้วิญญาณที่ตามไปได้ทุกที่ทุกเวลา ถ้าคุณยอมไปด้วยน่ะนะ”

‘ดีเหมือนกัน’

“เอาล่ะ ขอให้วิญญาณคุณธีร์ไปกับฉันได้ทุกที่” ขนมจีนออกปาก แล้วก้าวเดินออกไปนอกประตูรั้ว “คราวนี้ถึงตาคุณเดินออกมามั่งแล้วละนะ”

ธีร์สูดลมหายใจลึก เขาค่อย ๆ ก้าวเดินออกไปจากประตูรั้วเป็นแสงเรือง ๆ จากนั้นก็ออกไปข้างนอกเป็นครั้งแรก ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้ม และมันทำให้ขนมจีนรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย น่าเสียดายถ้าเขาเป็นคนก็คงมีรอยยิ้มที่สวยที่สุดเท่าที่เธอรู้จัก

‘ขอบใจมากนะ ทีนี้ผมก็สามารถไปกับคุณได้ทุกที่’

“อืม ฉันอยากไปซื้อของ คุณจะเอาอะไรหรือเปล่าล่ะ”

‘ผมไม่ต้องการ’

“ขอโทษนะ ฉันไม่น่าถามคุณเลย”

‘ไม่เป็นไร เชิญครับคุณผู้หญิง’

เธอเดินออกไปสยามพารากอน ที่นี่มีร้านมากมายมีทั้งเสื้อผ้าสยามพารากอนสร้างขึ้นบริเวณโรงแรมสยามอินเตอร์คอนติเนนตัลเดิม เป็นอาคารสูง 8 ชั้น ตัวอาคารจะใช้แก้วตกแต่งเป็นหลัก มีลิฟต์แก้วที่ใช้กระจกทั้งหมดโรงภาพยนตร์ระดับหกดาว รอยัลพารากอนฮอลล์ พื้นที่สำหรับจัดนิทรรศการจัดงานคอนเสิร์ต และกิจกรรมต่างๆ บริเวณชั้น 5 คิดแซเนีย กรุงเทพ เมืองจำลองสำหรับเด็กจากประเทศเม็กซิโก สร้างในพื้นที่เดิมของโรงละครสยามโอเปร่า ขนมจีนเดินดูของในร้านต่าง ๆ เธอเดินคนเดียวแต่มีแขก(ที่ไม่ได้รับเชิญ) ไปด้วย

“เสื้อตัวนี้สวยนะ ไม่สนบ้างเหรอ” เธอพูดเบา ๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน

‘ก็ดีนะ แต่ผมไม่ชอบแนวนี้’

“ทำไมล่ะ”

‘ก็ไม่ชอบ เลยไม่ใส่’

ขนมจีนมองหน้าคนพูด ทำอย่างกับว่าตัวเองมีให้เลือกเยอะอย่างนั้นแหละ เธอเดินดูของตามซุปเปอร์มาเก็ต เอาแต่ดูยี่ห้อจนกระทั่งเดินชนกับผู้ชายที่กำลังเดินมาเข้าอย่างจัง

“อุ้ย” ขนมจีนอุทานแผ่ว เกือบจะหน้าคะมำถ้าหากว่าอีกฝ่ายไม่จับไว้

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“เดินประสาอะไร ทำไมไม่...” เธออ้าปากค้างเมื่อเห็นอีกฝ่ายสวมแว่นตา “พี่นรา”

“ครับ เราสองคนรู้จักกันด้วยเหรอ”

“เอ่อ...เปล่าค่ะ”

จะให้เธอบอกได้ยังไงล่ะ ในเมื่อตอนเรียนมหาลัยเพื่อสองปีที่แล้ว เธอกับเพื่อน ๆ มอบช่อดอกไม้กับของขวัญวันวาเลนไทให้กับพี่นรา ที่ทั้งหุ่นดีเรียนเก่ง พี่เขาเก่งคณิตศาสตร์เก่งดนตรี จนเธอกับเพื่อน ๆ ที่มอบช่อดอกไม้แอบกรี้ดกันแทบตายจนกระทั่งเขาเรียนจบการศึกษา

“พี่นรา มาทำอะไรที่นี่คะ” เธอแก้เก้อ

“ผมเหรอ ผมมาเลือกดูของฝาก จะให้ผู้อำนวยการน่ะ”

“ผู้อำนวยการของพี่ ท่าจะเป็นคนใหญ่โตนะคะ”

“อืม ผมก็เดินดูแต่หาไม่เจอ”

“อ๋อ อยู่ตรงโน้นค่ะ ถัดจากของใช้ในครัวเรือนตรงนั้นนะค่ะ”

“ครับ...ว่าแต่น้องเคยเป็นนักศึกษามหาลัยจุฬาเหรอครับ”

“ค่ะ ฉันชื่อขนมจีนเพิ่งจบมาเมื่อปีที่แล้ว รุ่นน้องพี่นราสองปีนะค่ะ”

“ถึงว่าสิ...ผมคุ้น ๆ หน้าคุณอยู่”

ธีร์เหยียดยิ้ม นักศึกษามีใครบ้างก็ไม่รู้ ดูท่านายนรานี่จะความจำดีน่าดู

‘หมอนี่ความจำดีน่าดูเลย’ เขาบอกยิ้ม ๆ

เธอชำเลืองมองเขา เป็นทำนองว่าให้หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ

“พี่นราทำงานอะไรเหรอคะ” เธอยิ้ม ๆ

“ผมเป็นตากล้องอิสระ รับทำงานให้สื่อโฆษณาน่ะ”

******************
โอ้ พระรองออกมาแล้ว ^_^




เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ก.พ. 2556, 08:12:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ก.พ. 2556, 08:12:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1634





<< วิญญานแปลกหน้า   บทที 4 สุภาพบุรุษผู้แสนอ่อนโยน >>
จิรารัตน์ 8 ก.พ. 2556, 13:06:23 น.
เด๋วหลังตรุษจีนจะมาอ่านจ้า


Zephyr 16 ก.พ. 2556, 16:13:55 น.
ตกลงนายธีร์นี่พระเอกใช่มั้ยคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account