แผนรักพันใจ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 15

สุจิราขว้างโทรศัพท์มือถือลงบนที่นอนนุ่นก่อนจะกระแทกตัวลงนั่ง หอบตัวโยนพยายามระงับอารมณ์ผิดหวังจากการถูกปฏิเสธ กระนั้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงของมารดาดังจากหน้าห้องนอนเธอก็ยังไม่อาจควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติได้

"ประตูไม่ได้ล็อคค่ะแม่"

"เป็นอะไรจินนี่ ใครทำอะไรลูก" คุณสโรชาอ่านออกทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของลูกสาว เธอหย่อนตัวลงนั่งข้างสุจิรา "ไหนบอกแม่สิ เกิดอะไรขึ้น"

"พี่นินน่ะสิคะแม่ จินนี่โทร.ไปชวนมากินข้าวบ้านเราพรุ่งนี้ เขาก็บ่ายเบี่ยง ไม่รู้อะไร จินนี่พยายามใจเย็นแล้วนะคะ ไม่วู่วาม ไม่แสดงอาการอยากให้เขามาเกินงามแบบที่แม่สอน แต่เหมือนพี่นินเขาไม่สนใจจินนี่ยังไงก็ไม่รู้"

"ใจเย็น ๆ นะจ๊ะ พี่เขาอาจจะงานยุ่งก็ได้"

"พี่นินเขาอาจจะไปขลุกอยู่กับแม่นางแบบคนนั้นก็ได้มั้งคะ" สุจิรากระแทกเสียง "บางทีผู้หญิงที่ดูเปรี้ยว แรงแบบนั้นอาจจะเป็นรสนิยมของพี่นินเขาก็ได้"

"ไม่มีทางที่คุณญาเขาจะยอมรับผู้หญิงแบบนั้นเป็นสะใภ้หรอกจ๊ะ แม่มั่นใจ และถ้าจะมีใครที่เหมาะสม คนนั้นต้องเป็นจินนี่ของแม่เท่านั้น"

"จินนี่ชักไม่แน่ใจ จินนี่ชอบพี่นินนะคะแม่ ชอบมากด้วยแล้วคุณแม่ก็บอกว่าเราเหมาะสมกัน ทุกอย่างมันก็ดูลงตัวไปหมด แต่ทำไมพี่นินถึงปฏิเสธจินนี่ล่ะคะแม่ จินนี่ไม่ดีตรงไหน"

อารมณ์ขุ่นมัวเมื่อครู่เย็นลง หากแทนที่ด้วยความรู้สึกไม่มั่นคงเหมือนกับสิ่งที่เธอวาดหวังไว้อาจไม่เป็นไปตามที่คิด หญิงสาวไม่รู้จักคำว่าผิดหวังและไม่ต้องการจะเรียนรู้คำนั้นแม้แต่น้อย

"ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ จินนี่...ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่เราหวัง"

คุณสโรชาเอ่ยอย่างหนักแน่น ให้คำมั่น ผู้เป็นแม่เองก็ไม่เคยคิดถึงความพ่ายแพ้และไม่คิดว่าจะต้องฝึกให้ลูกสาวได้รู้จักกับความผิดหวังเช่นกัน



ธนินกำลังจะเข้านอนเพื่อเตรียมตัวไปเป็น 'นักเรียน' ในห้องเรียนของจารุดา หลังจากตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาเพียรต่อสายถึงเธอเช้า กลางวัน เย็น แม้บางครั้งหญิงสาวจะไม่รับสาย แต่เมื่อใดที่รับเธอก็พูดคุยด้วยอย่างดี ไม่มีน้ำเสียงเย็นชาแต่อย่างใด ชายหนุ่มอดแปลกใจตัวเองไม่ได้ที่ตอนนี้กลับกลายเป็นฝ่ายที่ต้องนึกถึงการหาเวลาโทรหาใครสักคน เพราะปกติผู้หญิงมักเป็นฝ่ายโทรหาเขาเสียมากกว่า การได้เอ่ยราตรีสวัสดิ์เพียงสั้น ๆ กลับทำให้ตัวเบาอย่างประหลาด

โอเค...เขาจะไม่ปฏิเสธตัวเองอีกต่อไปว่าหลงเสน่ห์ป้าเฉิ่มเข้าแล้ว แบบที่หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้ว่าทำไมด้วย

อารมณ์ละมุนถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะปังที่หน้าประตู ตามด้วยน้ำเสียงเอาเรื่องของคุณธนัญญา ธนินพอจะคาดเดาเหตุของอารมณ์ขุ่นเคืองนั้น เขาทอดถอนใจเพราะรู้ดีว่าไม่อาจหลบเลี่ยงการเผชิญหน้าได้แน่ ขยับตัวลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู

"พรุ่งนี้จะไปไหนตานิน"

"อะไรกันครับแม่ ทำไมดูหงุดหงิดจัง"

"แม่ถามเราน่ะ ว่าพรุ่งนี้เราจะไปไหน วันอาทิตย์เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยจะอยู่บ้าน แล้วอย่ามาโกหกว่าติดงานอะไรนะ แม่โทรเช็คกับเลขาฯ เราแล้วว่าเราเคลียร์งานวันอาทิตย์ทั้งหมด ให้ลูกน้องติดต่อประสานงาน"

"ผมก็มีธุระนิดหน่อยน่ะครับแม่"

"ธุระอะไร"

"ก็...ธุระส่วนตัวน่ะครับ"

"นี่อย่าบอกนะว่าเรื่องแม่นางแบบนั่นยังไม่จบอีก...ก็แม่..." คุณธนัญญาเหมือนจะเอ่ยอะไรต่อแต่แล้วกลับชะงักไปเล็กน้อย

"โอ๊ย...ผมกับนิกาไม่ได้ติดต่อกันสักพักแล้วครับ ไม่รู้เขาหายไปไหน" ธนินตอบมารดาแล้วเอะใจกับท่าทีของคุณธนัญญาเมื่อครู่ "แม่...รู้อะไรเรื่องนิกาเหรอครับ"

"อะไรตานิน จู่ ๆ ก็มาจับผิดแม่ แม่กำลังซักเราอยู่นะเรื่องที่ไม่ยอมรับนัดน้อง น้องเค้าเสียใจมากรู้ไหม คุณบัวเขากลุ้มใจมาก"

"นี่เพื่อนคุณแม่โทรมาเล่าให้ฟังเหรอครับ"

"เปล่า เขาก็โทรมาคุยทั่วไปนั่นแหละ แต่แม่จับน้ำเสียงได้ว่าคุณบัวเขากำลังไม่สบายใจอะไรอยู่ แม่ก็เลยซักจนได้ความ"

"พรุ่งนี้ไปไหน ทำอะไรบอกแม่มาเดี๋ยวนี้"

"ผมมีเรื่องส่วนตัวต้องไปทำจริง ๆ ครับ ถ้าแม่อยากให้ผมรับนัดน้องจินนี่ เดี๋ยวผมโทรไปขอนัดน้องวันที่ผมว่างก็ได้"

"ให้แน่นะ จะเหลวไหลไม่ได้นะตานิน กับหนูจินนี่แม่หมายมั่นปั้นมือไว้มาก คุยกับคุณบัวเขาจริงจัง" คุณธนัญญาย้ำ "นินเลิกทำตัวลอยไปลอยมาได้แล้ว แล้วเรื่องหนีไปนอนคอนโด แม่สั่งห้ามไว้เลย ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องแน่ เข้าใจใช่ไหม"

"เข้าใจครับแม่"

คุณธนัญญาพยักหน้าเหมือนจะพอใจ หากดวงตายังมีแววสงสัยใคร่รู้ ธนินพยายามทำตัวให้นิ่งไม่เป็นที่สังเกตอะไร เขาถึงกับเป่าปากออกมาอย่างโล่งใจหลังจากส่งมารดาที่หน้าห้องแล้ว



คุณจอมขวัญซึ่งกำลังคุยโทรศัพท์กับคุณบัณทัตชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องตามด้วยเสียงเรียกของผู้เป็นน้า เธอลดเสียงพูดลงบอกกับปลายสาย

"พี่ทัด น้าจันทร์เรียกแล้ว เอาไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะคะ"

"ฝันดีนะขวัญ"

"พี่ทัดก็เหมือนกัน"

น้าสาวของจารุดากดตัดสายวางโทรศัพท์มือถือไว้บนหัวนอนแล้วรีบเดินไปเปิดประตูให้คุณยายจันทร์ เมื่อเห็นแววตาจับผิดของหญิงชรา เธอถึงกับต้องกลั้นใจเล็กน้อยก่อนเอ่ยถาม

"มีอะไรเหรอจ๊ะน้าจันทร์"

"ฉันมีเรื่องจะถามสักหน่อย"

คุณยายจันทร์เอ่ยพลางหับบานประตูไม้ ราวกับจะกั้นการสนทนาของทั้งสองให้รู้กันอยู่เพียงในห้องเท่านั้น

"เรื่องอะไรกันจ๊ะ"

"เรื่องสองพ่อลูกคู่นั้น"

"สองพ่อลูกคู่ไหนเหรอจ๊ะ"

แม้จะรู้แก่ใจดีแต่คุณจอมขวัญต้องทำไขสือ คุณบัณทัตขยันพาลิลลี่มาที่สวนอาหารแทบจะเรียกได้ว่าวันเว้นวันตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ครั้งแรกนั้นคุณยายจันทร์เอนหลังนอนพักผ่อนอยู่จึงไม่ทราบเรื่อง แต่ครั้งหลังมานี้หญิงชรารับรู้แทบทุกครั้งและมีบางครั้งที่นางเดินไปร่วมโต๊ะกับสองพ่อลูกด้วย

คุณจอมขวัญรู้ดีว่าผู้เป็นน้าคงต้องการจับสังเกตตนกับคุณบัณทัต แม้ว่าจะพยายามทำตัวเป็นปกติแต่ก็ไม่แน่ใจว่าหญิงชราจะระแคะระคายถึงความรู้สึกที่เธอพยายามซ่อนไว้เพียงใด

"จะมีสองพ่อลูกคู่ไหนอีกล่ะ ก็หนูลิลลี่กับพ่อนั่นแหละ เห็นเทียวมาเกือบทุกวัน ทุกครั้งต้องเรียกเธอไปนั่งคุยด้วยนานสองนาน"

"หนูลิลลี่อยากเรียนทำอาหารน่ะจ๊ะ พะ..." หญิงกลางคนเกือบจะหลุดเรียกคำนำหน้าชื่อบัณทัตอย่างสนิทสนมด้วยความประหม่าต่อสายตาผู้เป็นน้า "พ่อของหนู่ลิลลี่เขาก็สนับสนุน แต่หนูลิลลี่ไม่อยากไปเรียนตามโรงเรียน แล้วช่วงที่ไปทำงานเทศกาลอาหารหนูลิลลี่เขาก็แวะมาบ่อย ก็เลยพอจะคุ้นขวัญกับหนูจาอยู่บ้าง รบเร้าให้คุณบัณทัตพามาบ่อย ๆ คุณบัณทัตเองก็ตามใจลูก"

"ตามใจไม่เข้าเรื่อง แกก็เหมือนกัน ไม่ต้องไปเอาอกเอาใจเด็กมากนักก็ได้" คุณยายจันทร์ว่า ก่อนจะหรี่ตามองอย่างจับผิด "หรือว่าไม่ได้อยากจะเอาใจเด็ก อยากจะเอาใจพ่อเด็กมากกว่าเสียละมั้ง"

"น้าจันทร์" คุณจอมขวัญตกใจ ร้องเรียกคุณยายจันทร์พลางยกมือขึ้นทาบอก หากยังมีสติพอจะใช้ประโยชน์จากอาการตระหนกที่เกิดขึ้นนั้นได้ "คิดได้ยังไงกันจ๊ะ ขวัญไม่ใช่เด็กสาว ๆ แล้วนะ ขวัญสัญญากับน้าจันทร์เอาไว้ว่าจะอยู่กับน้าจันทร์ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหน"

"ฉันก็แค่พูดไปอย่างนั้น ทำตกอกตกใจไปได้" หญิงชราส่ายหน้า "คงไม่คิดอยากจะมีผัวเอาตอนนี้หรอกนะ"

คนเป็นหลานได้แต่นิ่ง ทว่าดูเหมือนคุณยายจันทร์จะมีเรื่องอื่นอีก นางเดินไปหย่อนตัวนั่งลงบนเตียงนอนของหลานสาว

"แล้วยัยจาล่ะ"

"ยัยจา ทำไมเหรอจ๊ะน้าจันทร์"

"ฉันว่าช่วงนี้หลานฉันดูแปลก ๆ ยังไงชอบกล ใจลอย ๆ"

"ขวัญไม่ทันได้สังเกต"

เพราะมัวแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องคุณบัณทัตทำให้คุณจอมขวัญละเลยที่จะจับสังเกตท่าทีของหลานสาวและคนในบ้านไปเสียสนิท

"มัวแต่ทำอะไรอยู่ล่ะ ปกติแกไม่เคยละเลยเรื่องในบ้านนะ ใครมีปัญหา ใครไม่สบายใจอะไรก็รู้เห็นก่อนใคร"

"ช่วงนี้ขวัญเหนื่อยน่ะจ๊ะน้าจันทร์ ไม่รู้เป็นอะไร"

"ก็ไปหามดหาหมอตรวจเสียหน่อยก็แล้วกัน อย่าชะล่าใจไปล่ะ แล้วถ้ามีเวลาก็ลองไปเลียบเคียงถามหลานดูหน่อย"

คุณจอมขวัญยิ้ม นึกขันผู้เป็นน้า คุณยายจันทร์เข้มงวดกับหลานยายไม่เท่ากับที่คอยควบคุมดูแลหลานน้าอย่างเธอ เมื่อใดที่ต้องการรู้อะไรก็มักจะไม่ถามไถ่จารุดาด้วยตัวเอง แต่ให้เธอเป็นสื่อกลาง

"แล้วขวัญจะลองถามให้ก็แล้วกันนะจ๊ะน้าจันทร์ แต่วันนี้หลานสาวน้าคงไม่มีเวลาเหม่อล่ะมั้ง เพื่อนเขามาค้างด้วยทั้งคน ขวัญว่าป่านนี้คงคุยกันเพลินไปแล้วล่ะ"

"ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ ที่จริงหลานเราคงฟังพ่อนิคมคุยซะมากกว่า รายนั้นคุยเก่งเหลือใจ"

"งั้นน้าจันทร์ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้แล้วนะ เดี๋ยวขวัญจัดการให้เอง น้าจันทร์ไปนอนพักผ่อนดีกว่านะ นี่ก็ดึกมากแล้ว"

หญิงชราพยักหน้าเบา ๆ ทั้งยังได้คำตอบที่พึงพอใจแล้วจึงยอมกลับห้องแต่โดยดี คุณจอมขวัญเดินมาส่งผู้เป็นน้าไม่ทันจะปิดประตูห้องสนิทเสียงเตือนข้อความของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

ข้อความสั้นมีเพียงคำว่า "คิดถึงเสมอ" เท่านั้น หากคำนั้นซึมซาบผ่านเข้าไปในหัวใจและสร้างความสุขเปี่ยมล้นได้อย่างประหลาด



นิคมนั่งเท้าค้างอยู่บนเตียงนอนภายในห้องนอนรับรองแขกบนเรือน สายตาจับจ้องจารุดาอย่างจับผิด เพื่อนสนิททำทีเหมือนไม่รับรู้อะไรและสุดท้ายก็เป็น 'คนสวยอย่างเธอ' ที่ต้องออกปากก่อน

"นี่จะนั่งนิ่งไปอีกนานไหม"

"แล้วจะให้ทำอะไรล่ะ"

"พูดความจริงสิ"

"ความจริงอะไรอีกล่ะนิกกี้คนสวยจ๋า" จารุดาเฉไฉ "เธอจะถามอีกกี่ครั้งฉันก็จะตอบว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขา ที่เขามาวอแวกับฉันเพราะคิดว่าฉันอาจจะใจอ่อนยอมขายที่ให้ ส่วนฉันก็ใช้เขาเป็นเครื่องมือสั่งสอนจินนี่ ก็เท่านั้นเอง"

"ความใกล้ชิดเนี่ยอันตรายนะจ๊ะ เดี๋ยวจะหาว่าคนสวยไม่เตือน"

"มันไม่มีอะไรหรอกนิกกี้"

"ให้จริง...จะยอมเชื่อเหมือนเชื่อลิงออกลูกเป็นมะพร้าวเลยเอา"

"หยุดพูดเรื่องนี้ซะทีเถอะนิกกี้ มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่"

เมื่อจารุดายืนยันหนักแน่น นิคมก็ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่ใช่เพราะยอมรับในคำปฏิเสธนั้นแต่หากรู้นัยจากสีหน้าท่าทางและน้ำเสียงของเพื่อนสาว และแน่ใจแล้วว่าจารุดากังวลเรื่องใดอยู่กันแน่

ที่ว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้เนี่ย เพราะมันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมล่ะยัยจาเอ๊ย...ถ้าเกิดว่ารักกันขึ้นมาจริง ๆ คงต้องเตรียมฝ่าด่านสิบแปดอรหันต์ของคุณยายจันทร์เอาไว้เถอะ

แม้ใจจะคิดเช่นนั้นแต่นิคมก็ไม่อยากจะเอ่ยอะไรให้เพื่อนไม่สบายใจหากยังอดไม่ได้ที่จะแสร้งเปรยเพื่อจับพิรุธจารุดา

"ถ้าเธอกับคุณธนินหล่อล่ำไม่อินเลิฟกันจริง ๆ ก็ดีเหมือนกัน"

"หมายความว่ายังไงเหรอนิกกี้" หญิงสาวขมวดคิ้ว ก่อนเบิกตาโตอย่างตกใจ "อย่าบอกนะว่าเธอคิดจะ..."

"จะบ้าเหรอยัยจา ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นย่ะ" นิคมหยุดสูดลมหายใจเข้ายาวลึกก่อนเอ่ยสิ่งที่คิดไว้ "ฉันว่าดีเพราะฉันคิดว่ายังไงซะคุณยายจันทร์ไม่มีทางยอมแน่ เกิดคุณธนินหลงรักเธอขึ้นมาจริง ๆ คุณยายคงได้วิ่งไล่เอาโน่นนี่ปาให้หัวแตกกันไปข้าง"

"ฉันไม่ห่วงเรื่องยายโกรธหรอกนิกกี้ แต่กลัวว่ายายจะเสียใจล้มป่วยมากกว่า"

"ทำไมล่ะ"

"น้าขวัญเล่าให้ฟังว่าตอนเกิดเรื่องกับแม่ ยายจันทร์ตรอมใจล้มหมอนนอนเสื่ออยู่นาน ต้องคอยปรนนิบัติดูแลตั้งนาน"

"แล้วก็เลยเถิดต้องดูแลมาจนถึงป่านนี้ มีเหย้ามีเรือนไม่ได้ ดีไม่ดีจะลามมาถึงเธอที่หมดสิทธิแต่งงานมีครอบครัวเหมือนกัน อย่างนั้นใช่ไหม"

จารุดาชะงักเหมือนจะรู้นัยของนิคม

"เรื่องแต่งงานมีครอบครัว มีคนรัก ฉันก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว"

"หลอกใครน่ะหลอกได้ แต่หลอกตัวเองมันยากนะยัยจา"

"ฉันก็ไม่ได้หลอกใครสักหน่อย ไม่เชื่อก็ตามใจ" หญิงสาวว่าแล้วผุดลุกขึ้น "ฉันไปนอนดีกว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นไปสอนแต่เช้า"

"แน่ะ...หนีเลยนะ"

"ไม่ได้หนี จะไปนอน เธอเองก็นอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นไปดูร้านรวงของตัวบ้าง อะไรกันปล่อยปละให้คนอื่นดูแลร้านอยู่ได้"

"ฉันก็แค่ทำร้านขำ ๆ ไม่ให้ได้ชื่อว่าคนไม่มีงานการทำเท่านั้นแหละย่ะ พรุ่งนี้ก็กะว่าจะเข้าร้านอยู่แล้ว นาน ๆ เชฟใหญ่จะไปแสดงฝีมือสักที ลูกค้าต้องปลาบปลื้มมากแน่ ๆ"

สองเพื่อนสนิทยืนมองกันอยู่คนละฝั่งประตูห้อง จารุดากับนิคมสนิทสนมกันมานานจนพอรู้ว่าต่างฝ่ายต่างไม่ได้พูดความในใจทั้งหมด จารุดาไม่ได้พูดความรู้สึกที่แท้จริงของตนเอง ส่วนนิคมก็ไม่ได้บีบบังคับให้จารุดาตอบสิ่งยังค้างคาใจ สิ่งที่ทั้งคู่ทำก็เพียงโบกไม้โบกมือบอกราตรีสวัสดิ์กันเท่านั้น



เช้าวันรุ่งธนินย่องลงจากชั้นสองของบ้านอย่างระแวดระวัง มองซ้ายมองขวาเมื่อเท้าแตะพื้นโถงหน้าบันได สะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเด็กรับใช้สาวดังจากด้านหลัง

"คุณนิน...หาใครเหรอคะ"

"คุณแม่อยู่ไหม"

"ออกไปข้างนอกเมื่อครู่นี่เองค่ะ คุณผู้ชายก็ออกไปตีกอล์ฟแต่เช้าเหมือนกันค่ะ"

"ขอบใจนะ" ธนินเอ่ยกับเด็กรับใช้ก่อนเดินผ่านโถงกว้างสู่ประตูทางออก ตรงไปที่รถยนต์คู่ใจที่จอดอยู่ในที่จอดรถ เดินทางตรงไปยังโรงเรียนสอนทำอาหารโดยไม่ทันสังเกตว่ารถยนต์ของมารดาซึ่งจอดติดเครื่องรออยู่นั้นขับตามเขามาห่าง ๆ

ดังนั้นหลังจากเวลาเรียนช่วงเช้าและออกมาจากห้องธนินจึงถึงกับขาแข็งเมื่อเจอคุณธนัญญายืนกอดอกมองอยู่หน้าห้อง จารุดาที่เดินคุยกับชายหนุ่มออกมาจากห้องเองก็ชะงักเล็กน้อย

"เอ่อ...คุณจาครับ นี่คุณแม่ผม"

หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้ ผู้ใหญ่กว่ารับไหว้พลางจับตามอง 'ผู้หญิง' ของลูกชาย ธนินไม่ใช่คนที่ชอบทำอาหาร ทำขนม การที่จะมาลงเรียนต้องมีเหตุผลบางอย่างและเหตุผลนั้นคงจะเป็นผู้หญิงคนนี้

"ฉันคงต้องไปพักก่อนนะคะ คุณนินแล้วเจอกันช่วงบ่าย"

จารุดาเดินเลี่ยงไปทางห้องพักรับประทานอาหารที่จัดไว้เป็นสัดส่วนเฉพาะพนักงานและผู้สอนของโรงเรียน ทิ้งให้ธนินยืนยิ้มทำใจดีสู้เสือ...เสือที่กำลังมองเหยื่อเหมือนพร้อมจะตะปบได้ทุกเมื่อเสียด้วย



เย็นวันนั้น ธนินกลับไปถึงบ้านก็เจอกับสถานการณ์เครียดเพราะถูกคุณธนัญญาเรียกสอบสวนซ้ำพร้อมกับผู้เป็นพ่อ คุณบัณฑิตนั่งหน้าซีดเซียวเมื่อเจอภรรยาจับได้เรื่องที่วางแผนให้ลูกชายคนเล็กเข้าไปตีสนิทกับจารุดาเพื่อเจรจาขอซื้อที่ดิน จำเลยที่สองอย่างธนินก็นั่งตัวลีบ มองหน้าแม่ก็ไม่ได้มองหน้าพ่อก็ไม่ติด คุณธนัญญาซักความจนสามียอมรับแล้วจึงประกาศคำตัดสินใจ

"ทำแบบนี้ไม่ถูกนะ ทั้งสองคนนั่นแหละ"

"เอ่อ...ใจเย็น ๆ นะคุณ"

"เย็นไหวเหรอคะ" คุณธนัญญาเสียงเขียว "ไปหลอกผู้หญิงเค้าแบบนั้นมันไม่ดีเลย คุณไม่น่าคิดให้ลูกทำ"

ธนินระบายลมหายใจยาวกำลังใจชื้นที่ดูเหมือนคุณธนัญญาจะพุ่งเป้าไปทางผู้เป็นพ่อมากกว่าตน

"เราก็เหมือนกันตานิน"

"เอ่อ...คุณแม่ครับ"

"แล้วยังไงกันล่ะทีนี้ ยังไงก็ไม่ยอมให้ทำเรื่องแบบนี้ต่อไปแล้วนะ ไหนจะหนูจินนี่กับคุณบัวอีกล่ะ ถ้าเกิดเค้ารู้เรื่องนี้ขึ้นมาจะว่ายังไง เค้าจะมองเราไม่ดีได้นะ "

ผู้พิพากษาประจำบ้านประกาศโทษและบอกทางแก้ไขเสร็จสรรพ คุณธนัทนั้นได้แต่ถอนใจ ยอมรับชะตากรรม

"เรื่องที่ดินนั่น ที่จริงผมก็คิดว่าจะซื้อเก็บเอาไว้ เผื่อในอนาคตสำหรับการขยับขยาย เพิ่มสาขาของห้าง เราเล็งไว้หลายที่ ถึงจะไม่ได้ไปสร้างบนที่แปลงนั้นแต่ซื้อเก็บไว้อีกหน่อยราคาคงจะงาม" คุณบัณฑิตเอ่ยกับภรรยาก่อนหันมาทางลูกชาย "ว่าไงล่ะเจ้านิน โล่งใจแล้วสิ ต่อไปก็ไม่ต้องทนไปหาทางทำความรู้จักกับผู้หญิงที่ตัวไม่ได้ชอบแล้วนะ"

คุณธนัทลุกขึ้นเหมือนคิดว่าเรื่องจะจบ "คุณก็อย่าตีโพยตีพายอีกเลย เอาเป็นว่าเราสองคนยอมยุติแผนทั้งหมด"

"คุณพ่อคุณแม่ครับ"

ธนินเรียกพ่อแม่ที่กำลังขยับจะลุกตามกัน คุณธนัญญาหย่อนตัวกลับลงบนเก้าอี้นวมดึงผู้เป็นสามีให้นั่งลงตาม จับสังเกตอากัปกิริยาของลูกชายอย่างสงสัยใคร่รู้

"มีอะไรอีกตานิน"

"เรื่องที่จะไปขอซื้อที่จากคุณจา ผมยอมยุติโดยดี" ธนินเป่าปากคล้ายปลงใจได้ "แต่เรื่องคบหากับคุณจา...ผมคงทำไม่ได้ครับ"

คำพูดของธนินเหมือนจะหยุดคุณธนัญญาและคุณบัณฑิตไปครู่หนึ่งก่อนที่สองสามีภรรยาจะโพล่งคำถามออกมาเกือบจะพร้อมกัน

"อะไรนะตานิน"

"อะไรนะเจ้านิน"

"ผมชอบคุณจาจริง ๆ ครับ"

"หนูจาเนี่ยนะ...แกชอบหนูจาได้ยังไง เค้าไม่น่าจะใช่แบบที่แกชอบด้วยซ้ำ ถ้าเป็นหนูจินนี่ที่แม่เขาเลือกให้ก็ว่าไปอย่าง" คุณบัณฑิตส่ายหน้า "พ่อว่าแกน่าจะเชื่อแม่นะ หนูจินนี่เหมาะสมกับแกทุกอย่าง"

"พ่อครับ" ธนินไม่เชื่อหูตัวเอง "นี่พ่อเห็นด้วยกับแม่เรื่องหาคู่ให้ผมด้วยเหรอเนี่ย"

"เชื่อแม่ไว้ดีที่สุดนะเจ้านิน"

"แม่ว่าไงครับ"

คุณธนัญญามองสามีคล้ายจะจับสังเกตอะไรบางอย่างก่อนบอกลูกชาย "หนูจินนี่เหมาะที่สุดที่จะเป็นสะใภ้แม่ พ่อยังสนับสนุนแม่เพราะฉะนั้นนินเลิกคิดเรื่องหนูจารุดาคนนั้นได้แล้ว"

"ผมทำไม่ได้ครับ ผมขอโทษนะครับแม่"

ธนินปฏิเสธเสียงแข็งก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีจากวงสนทนาไป คุณบัณฑิตขยับจะเรียกลูกชายแต่ถูกภรรยาดึงเอาไว้ เมื่อเห็นสายตาคลางแคลงใจของคุณธนัญญา หนุ่มใหญ่ก็ชะงักไปเล็กน้อย...ก่อนจะตัดสินใจบอกภรรยาถึงเหตุผลที่ตนสนับสนุนให้ธนินเลือกมองสุจิรามากกว่าที่จะสานสัมพันธ์ต่อกับจารุดา






กมลภัทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ก.พ. 2556, 17:46:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ก.พ. 2556, 17:46:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 2944





<< ตอนที่ 14   ตอนที่ 16 >>
กมลภัทร 11 ก.พ. 2556, 17:49:00 น.
แล่นแต๊ >>>> ธนินจะอ่วมด้วยสิครับ ^^

lovemuay >>>> ลำบากนิดหน่อยครับ

ของขวัญ >>>> แต่จะผ่านคุณยายง่าย ๆ รึเปล่าสิครับ

nunoi >>>> แผนรักพันคอ(คนเขียน) ช่วยกันลุ้นต่อด้วยนะครับ ไป ๆ มา ๆ ปมเยอะแฮะ

นกอุมาพร >>>> ยินดีครับ...ติดแนวแฟนตาซีคุณนกมานานแล้ว ยังเขียนไม่ออกสักที

panon >>>> กองเชียร์เยอะเหมือนกันนะครับ หนูจาเนี่ย ^^


lovemuay 11 ก.พ. 2556, 20:23:31 น.
นั่นสิ ก็เข้าใจพ่อเค้าอยู่ เลยหนูจา หนทางคงลำบากมิใช่น้อย
พ่อเค้าคงไม่อยากจะให้ลูกต้องเจ็บปวด


ของขวัญ 12 ก.พ. 2556, 01:46:17 น.
งานนี้คุณนิน ท่าทางจะต้องรับศึกหนักนะคะเนี่ย


panon 12 ก.พ. 2556, 09:32:42 น.
โดนข้าศึกโจมตีหลายด้านจริงวุ้ยคุณนิน


porpla 16 ก.พ. 2556, 21:33:00 น.
พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกดีค่ะ เป็นกำลังใจให้ทั้งนางเอก พระเอก แล้วก็คุฯกมลภัทรด้วยค่ะ :)


น้องอุด้ง 18 ก.พ. 2556, 10:55:59 น.
โอววว คุณนินกุมขมับหละทีนี้โดนกดดันหลายด้านเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account