ปาฏิหาริย์แห่งรัก...บนผืนแผ่นทราย
เจ้าชาย มกุฎราชกุมารหนุ่มรูปหล่อแห่งราชอาณาจักร อาหรับสุไลมาน แห่งผืนทรายอาระเบียน ชีคนาสเซอร์ บิน คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัลฟาราห์ ได้สูญเสียชายาอันเป็นที่รัก และลูกน้อยที่ถือกำเนิดก่อนกำหนดก็ใกล้จะตาย ด้วยปาฏิหาริย์ได้ชักพาให้ลูกศิษย์สาวของน้องชาย คือจัสมิน พยาบาลสาวสวยชาวยิวแห่งนครเยรูซาเล็มมาช่วยกู้ชีวิตเจ้าหญิงองค์น้อย เขาได้พบกับเธอ ด้วยความประหลาดใจว่าเธอมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับชายาเขาราวกับคนคนเดียวกัน
คู่พระนาง
ชีค นาสเซอร์ บิน คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัล ฟาราห์
เจ้าชายรูปงาม ร่างสูงโปร่ง เป็นมกุฎราชกุมารแห่ง ราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน เป็นชีคหนุ่มผู้แสนดี อ่อนโยน เจ้าน้ำตา แต่ไม่อ่อนแอ รักพี่น้อง มีความเป็นพ่อสูง มีความสามารถด้านกวี แต่ต้องสูญเสียชายาเอกไปก่อนวัยอันควร มีลูกสาว1 คนคือ เจ้าหญิงชิมาห์
จัสมิน
หญิงสาวชาวยิว จากนครเยรูซาเล็ม อ่อนหวาน อ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความฉลาด เข้มแข็ง กล้าหาญ เป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกเก็บมาจากทะเลทรายซีนาย ได้มาอาศัยอยู่กับแม่อธิการที่คอนแวนด์ ต่อสู้ชีวิต จนจบการศึกษาด้านพยาบาล จึงติดตามชีคกาลิด น้องช้ายชีคนาสเซอร์มาช่วยเหลือ เจ้าหญิงชีมาห์ ลูกสาวของชีคนาสเซอร์ที่คลอดก่อนกำหนดแล้วหัวใจล้มเหลว เธอมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับ อมีนาห์ ชายาเอกของชีคนาสเซอร์ เพราะแท้จริงแล้ว เธอคือ เจ้าหญิง จัสมีนาห์ น้องสาวฝาแฝดของอมีนาห์ ที่ถูกลักพาตัวไปปล่อยกลางทะเลทรายซีนายตั้งแต่แรกเกิด
คู่พระนาง
ชีค นาสเซอร์ บิน คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัล ฟาราห์
เจ้าชายรูปงาม ร่างสูงโปร่ง เป็นมกุฎราชกุมารแห่ง ราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน เป็นชีคหนุ่มผู้แสนดี อ่อนโยน เจ้าน้ำตา แต่ไม่อ่อนแอ รักพี่น้อง มีความเป็นพ่อสูง มีความสามารถด้านกวี แต่ต้องสูญเสียชายาเอกไปก่อนวัยอันควร มีลูกสาว1 คนคือ เจ้าหญิงชิมาห์
จัสมิน
หญิงสาวชาวยิว จากนครเยรูซาเล็ม อ่อนหวาน อ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความฉลาด เข้มแข็ง กล้าหาญ เป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกเก็บมาจากทะเลทรายซีนาย ได้มาอาศัยอยู่กับแม่อธิการที่คอนแวนด์ ต่อสู้ชีวิต จนจบการศึกษาด้านพยาบาล จึงติดตามชีคกาลิด น้องช้ายชีคนาสเซอร์มาช่วยเหลือ เจ้าหญิงชีมาห์ ลูกสาวของชีคนาสเซอร์ที่คลอดก่อนกำหนดแล้วหัวใจล้มเหลว เธอมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับ อมีนาห์ ชายาเอกของชีคนาสเซอร์ เพราะแท้จริงแล้ว เธอคือ เจ้าหญิง จัสมีนาห์ น้องสาวฝาแฝดของอมีนาห์ ที่ถูกลักพาตัวไปปล่อยกลางทะเลทรายซีนายตั้งแต่แรกเกิด
Tags: อาหรับ ทะเลทราย โรแมนติก
ตอน: บทที่ 2 ข่าวร้ายที่เกี่ยวพันกับบุคคลในความฝัน
ชีคกาลิด บิน คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัลฟาราห์ ชีคหนุ่มแห่งราชอาณาจักรอาหรับ สุไลมาน อยู่ในชุดกันดูร่าสีขาวบริสุทธิ์ คลุมศีรษะด้วยผ้าคลุมสีขาว รัดด้วยเชือกครอบศีรษะ ดูรวมแล้วสง่างามสมกับเป็นเจ้าชายอาหรับ ออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้าท่าทางที่บ่งบอกถึงความโล่งอกโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการนำเสนอวิทยานิพนธ์นั้นผ่านไปด้วยดี วิทยานิพนธ์อันทรงคุณค่าของชีคหนุ่มนั้น ประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลผลงานทางวิชาการแพทย์ดีเด่นประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง เขายิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความภาคภูมิใจและดีใจที่จะได้กลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อไปรับตำแหน่งมหามนตรีด้านการแพทย์และสาธารสุข แห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน สร้างความภาคภูมิใจให้กับราชวงศ์ อัลฟาราห์
“ ท่านพ่อ ท่านพี่นาสเซอร์ ผมทำสำเร็จแล้วครับ”
แม่อธิการนำทีมแพทย์และพยาบาลออกจากห้องประชุมและยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อแสดงความยินดีกับชีคกาลิด จัสมินและมารีย์อยู่ในชุดพยาบาลวิชาชีพ สีฟ้าสลับขาวยาวกรอมเท้า คลุมฮิญาบสีเดียวกับชุดแต่งกาย ดูสวยงามน่ารัก ชีคกาลิดจึงทอดสายตามอง จัสมิน สาวยิวผู้น่ารัก ด้วยความภาคภูมิใจในตัวศิษย์เอกเกียรตินิยมเหรียญทอง
“หม่อมฉันและทีมแพทย์ พยาบาล ขอแสดงความยินดีกับท่านชีคกาลิด สำหรับวิทยานิพนธ์ที่ประสบความสำเร็จ จนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ และสร้างความภาคภูมิใจให้กับสถาบันการแพทย์ ของเรา” แม่อธิการกล่าวแสดงความยินดี และถวายช่อดอกไม้แด่ชีคกาลิด
“ ถ้าไม่มีแม่อธิการ และนักศึกษาแพทย์ พยาบาล ผมก็ไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้เช่นกันครับ”
ชีคกาลิดรับสั่งอย่างนอบน้อม และหันไปมองจัสมิน สาวสวยตาคม ที่อยู่ในชุดพยาบาลวิชาชีพอย่างเต็มยศ เพราะเป็นวันแรกของการทำงานของเธอ หญิงสาวสวยส่งยิ้มพิมพ์ใจ ยื่นมือให้ชีคหนุ่มสัมผัสแทนความหมายของการแสดงความยินดี
“ ยินดีด้วยค่ะ หนูภูมิใจ ที่ได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ที่เก่งที่สุด ในตะวันออกกลาง”
“ ฉันเองก็ภูมิใจในตัวเธอเหมือนกัน วันนี้เป็นวันแรกของการทำงาน ขอให้เธอตั้งใจทำงานให้เต็มที่ ทำด้วยความรัก ความศรัทธาดั่งที่เธอได้ถวายตัวกับพระเจ้าเอาไว้ ขอพระเจ้าอวยพรให้เธอประสบความสำเร็จ ”
ระหว่างที่ ชีคกาลิด กำลังสนทนากับเหล่านักศึกษาแพทย์และพยาบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐในชุดอาบายาสีดำ นำเอกสารทางราชการของสถานทูตราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานประจำประเทศอิสราเอลมามอบให้กับชีคกาลิด เมื่อชีคหนุ่มเปิดเอกสารอ่านแล้วนั้น ก็ต้องพบกับเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจ เอกสารทางราชการนั้นรายงานถึงข่าวการสิ้นพระชนม์ของชีคคาอมีนาห์ ชายาเอกของ ชีค นาสเซอร์ บิน คาลิฟาห์ บินรามานห์ อัลฟาราห์ มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน พระเชษฐาคนเดียวผู้เป็นที่เคารพรักของชีคกาลิด
“ โธ่...อมีนาห์ ” ชีคกาลิด ครางออกมาด้วยความสะเทือนใจ
ชายาเอกสิ้นพระชนม์ ท่านพี่.....จะเป็นอย่างไรบ้าง ...
“ มีพระราชสาสน์ จากพระราชาธิบดี คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัลฟาราห์ ถึงท่านชีคด้วยเพคะ ”
หญิงสาวคลุมอาบายาสีดำ ส่งพระราชสาสน์จากเอเมียร์คาลิฟาห์ ให้กับชีคกาลิด ชีคหนุ่มจึงเปิดพระราชสาสน์ออกมาอ่าน ซึ่งมีใจความดังต่อไปนี้
กาลิด ลูกรัก
เมื่อลูกได้รับจดหมายของพ่อฉบับนี้ ลูกคงได้รับรู้ข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับราชวงศ์อัลฟาราห์แล้ว อมีนาห์ ชายาของ นาสเซอร์ พี่ชายของลูกต้องถึงแก่ความตาย เพราะตกเลือดจากการแท้งลูก ขณะที่ตั้งครรภ์ได้เพียงเจ็ดเดือน ทารกฝาแฝดจึงรอดชีวิตมาได้เพียงคนเดียว เด็กหัวใจเต้นอ่อนมาก นาสเซอร์ พี่ชายของลูกก็เศร้าโศกเสียใจจนล้มป่วย
ลูกรัก ถ้าลูกได้รับรู้ข่าวการสูญเสียครั้งนี้แล้ว พ่อขอให้ลูกเดินทางกลับราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานให้เร็วที่สุด เพื่อทำการผ่าตัดหัวใจช่วยชีวิตหลานสาวของลูก ช่วยเหลือพี่ชายของลูกให้พ้นจากความเศร้าโศกเสียใจกับการสูญเลียครั้งนี้ ลูกรัก ลูกคือความหวังของพ่อและพี่ชาย ขอให้ลูกเดินทางกลับมาโดยเร็วที่สุด
รักลูก
คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัลฟาราห์
เมื่อได้อ่านจดหมายจากพระบิดาแล้ว ชีคน้อยแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานถึงกับน้ำตาคลอ ความห่วงใยและสงสารพี่ชายนั้นเต็มอยู่ในหัวใจ การสูญเสียชายาเอกผู้เป็นที่รัก คงจะไม่เจ็บปวดเท่ากับหัวอกของผู้เป็นพ่อ ที่ต้องเห็นลูกน้อยที่คลอดก่อนกำหนดได้เพียงห้าวัน ต้องสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา
“ ท่านพี่นาสเซอร์..... ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ”
ชีคหนุ่มพร่ำรำพันด้วยความโศกเศร้าสะเทือนใจ รู้สึกห่วงใยและสงสารพระเชษฐาเป็นอย่างยิ่ง
ท่านพี่นาสเซอร์...ต้องเจ็บปวดกับการสูญเสียจนถึงกับตรอมใจแล้วจะให้น้องนิ่งอยู่เฉยได้อย่างไรกัน
ชีคหนุ่มสั่งผู้ติดตามให้เตรียมตัวกลับราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน จากนั้น เขาจึงเข้าพบแม่อธิการ ที่ห้องโถงวิหารศักดิ์สิทธิกลางนครเยรูซาเล็ม เมื่อแม่อธิการได้รับทราบข่าวการสูญเสียชายาเอกของมกุฎราชกุมารราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน หัวใจนักบุญผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาของแม่อธิการจึงเศร้าสลดอย่างบอกไม่ถูก
“ โอ...ช่างบุญน้อยเหลือเกิน หม่อมฉันขอแสดงความเสียใจด้วยนะเพคะ ขอองค์พระอัลเลาะห์ทรงเล้าโลมพระทัย มกุฎราชกุมารนาสเซอร์ พระเชษฐาของท่านชีคด้วย ” แม่อธิการถึงกับน้ำตาไหลรินด้วยความสะเทือนใจ
“ที่ผมเข้ามาพบแม่อธิการในวันนี้ ผมมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากแม่อธิการ”
ชีคกาลิด รับสั่งขอความช่วยเหลือจากมาอธิการด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ ท่านชีคประสงค์ให้หม่อมฉันช่วยเหลือสิ่งใด หม่อมฉันยินดี ”
“ การกลับราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานครั้งนี้ ผมมีสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำ คือการผ่าตัดหัวใจของหลานสาว ที่คลอดก่อนกำหนดได้ประมาณห้าวัน ที่นั่นไม่มีพยาบาลห้องผ่าตัดที่เชี่ยวชาญเลย ”
ชีคกาลิดนิ่ง ถอนใจ แล้วจึงสื่อสารสาระสำคัญถึงสิ่งที่ต้องการจากแม่อธิการช้าๆชัดๆ
“ ผมขออนุญาต....พาจัสมินและมารีย์ไปประจำการที่โรงพยาบาลแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน เพื่อช่วยผมในการผ่าตัดครั้งนี้ ”
แม่อธิการถึงกับสะดุ้งตกใจ และนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ชีคหนุ่มร้องขอ จัสมินและมารีย์เธอทั้งสองเป็นสาวชาวยิว จะไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ต่างศาสนาได้อย่างไรกัน เมื่อทั้งสองคนนี้เติบโตขึ้นภายใต้ประเพณี วัฒนธรรม ภาษา และศาสนาแบบยิว แม่อารยะธรรมของยิวและอาหรับจะมีต้นกำเนิดจากที่เดียวกัน มีความละม้ายคล้ายคลึงกัน แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองเชื้อชาติก็มีความขัดแย้งกันมานานตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล ในเยรูซาเล็มแม้จะมีการปะปนกันระหว่างชาวยิวกับชาวอาหรับ แต่ก็มีความผสมผสานกลมกลืนเหมือนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งจัสมินและมารีย์ ก็เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของยิวและอาหรับมามากพอสมควร แต่ถ้าเธอทั้งสองคนต้องจากอ้อมอกเยรูซาเล็มไป จะอยู่รอดปลอดภัยหรือไม่ แม่อธิการถอนหายใจด้วยความรู้สึกลำบากใจและอดเป็นห่วงทั้งสองสาวไม่ได้
“ หม่อมฉันเกรงว่าจะ..”
“ หากแม่อธิการเกรงว่าสองสาวจะไม่ปลอดภัย เมื่อต้องจากเยรูซาเล็มไปอยู่แดนอาหรับ ผมขอรับรองด้วยเกียรติของรัชทายาทอันดับสองของราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน ว่าจะดูแลจัสมินและมารีย์เป็นอย่างดี จัสมินและมารีย์จะอยู่ที่อาหรับสุไลมาน ในฐานะข้าราชการของราชอาณาจักร ”
เมื่อชีคหนุ่มยืนยันหนักแน่นถึงเพียงนี้แม่อธิการจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน แม้หัวใจของแม่อธิการจะห่วงใยทั้งสองสาวมากเพียงใด ก็ไม่สามารถขัดต่อความต้องการของท่านชีคกาลิดผู้สูงศักดิ์ได้
“ หม่อมฉันต้องถามความสมัครใจของเด็กทั้งสองคนก่อน ”
“ ผมจะภาวนาขอให้เธอทั้งสองคนไม่ขัดข้องนะครับ เพราะการผ่าตัดช่วยชีวิตเด็กทารกคนนี้ ผมขาดเด็กสาวทั้งสองคนไม่ได้จริงๆ ”
จัสมินและมารีย์กับการเป็นพยาบาลวิชาชีพวันแรก ก็ต้องเผชิญกับภาระงานที่หนักหนาสาหัส เนื่องจากที่เวสแบงก์ ฉนวนกาซ่า มีเหตุการณ์การปะทะกันระหว่าทหารยิวและทหารอาหรับ เหล่าทหารชาวยิวและทหารอาหรับที่บาดเจ็บต่างถูกนำมารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนครเยรูซาเล็มจำนวนมาก มนุษยธรรม เมตตาธรรมนั้นมันมิได้แบ่งไว้สำหรับชนชาติใดชาติหนึ่ง พยาบาลชาวยิวก็ไม่สามารถเลือกช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเฉพาะชนชาติยิวเท่านั้น เพราะจรรยาบรรณวิชาชีพพยาบาล ต้องช่วยเหลือมนุษย์ทุกชนชาติไม่สามารถเลือกที่รักมักที่ชังได้
“โธ่ จะรบกันทำไมนักหนา พอเจ็บแล้วก็ต้องมารักษาที่เดียวกัน “
มารีย์ทำแผลไปบ่นไป ผู้บาดเจ็บจากการปะทะมีมากมาย ทั้งยิวทั้งอาหรับก็พอๆกัน
“ ทำไมต้องขัดแย้งกันไม่รู้จักจบจักสิ้น ” จัสมินพูดต่อด้วยความสงสัย
“ อาหรับและยิวถือกำเนิดจากบิดาคนเดียวกันคือ นบีอิบรอฮิม พระยาห์เวห์และพระอัลเลาะห์ ก็เป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องขัดแย้งกันตลอดเวลา ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงยุคปัจจุบัน ”
ชายชาวอาหรับได้ยินคำพูดของจัสมิน ก็รู้สึกประหลาดใจ หญิงสาวสวยผู้นี้เธอเป็นชาวยิว แต่สามารถพูดภาษาอารบิคได้ดีเหมือนกับเป็นเจ้าของภาษา ถ้าไม่เห็นว่าเธอกำลังช่วยทำแผลให้เขา เขาคงจะจัดการทำไม่ดีไม่ร้ายเธอแน่นอน
“ เธอพูดอะไรของเธอ” ชายอาหรับตวาดด้วยความโมโห เมื่อรู้ตัวว่าถูกด่าว่า
“เจ็บจวนจะตายอยู่แล้วยังจะทำกร่าง ถ้าฉันไม่ยำเกรงพระเจ้าที่ฉันได้ถวายตัวรับใช้ ฉันจะเอายาพิษกรอกปากนายเสียให้ตายคามือ”
จัสมินตวาดกลับ ทำให้ชายอาหรับผู้นี้ต้องยอมเธอ เพื่อนพยาบาลและทหารยิวต่างก็พากันหัวเราะขำขันแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ คนสวยนี่ ดุจริงๆ”
เมื่อเสร็จสิ้นจากการทำงาน จัสมินและมารีย์ก็พากันไปดื่มกาแฟโบราณที่ร้านกาแฟโบราณข้างวิหารศักดิสิทธิ์ จัสมินเล่าถึงความฝันประหลาดที่เธอได้ฝันเมื่อคืนก่อนหน้านี้ อย่างละเอียดให้กับมารีย์ฟัง เพราะเธอและมารีย์เป็นเพื่อนรักกันที่สามารถสนทนาปรึกษาหารือกันได้ทุกเรื่องโดยที่ไม่มีความลับต่อกัน เมื่อมารีย์ได้ฟังเรื่องราวความฝันจากจัสมิน เธอรู้สึกสังหรณ์ใจ ว่าเจ้าหญิงอาหรับในความฝันของจัสมินจะเป็น
“ อมีนาห์ ” ชายาเอกของมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน ความฝันของจัสมินนั้นจะต้องเกี่ยวพันกับการตายของอมีนาห์อย่างแน่นอน
“มารีย์ นี่เธอกำลังบอกฉันว่า ฉันกำลังฝันถึงคนที่ตายไปแล้วอย่างนั้นหรือ”
จัสมินร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกความหวาดกลัวนั้นกระหน่ำกล้ำกรายเข้ามาหาเธอเพียงชั่วขณะจิต
“ท่านชีคกาลิด เคยรับสั่งให้ฉันฟังว่า ชีคคาอมีนาห์ พระชายาเอกของเจ้าชายมกุฎราชกุมาร มีรูปร่างและหน้าตาที่เหมือนเธอราวกับเป็นคนคนเดียวกัน และเรื่องราวความฝันของเธอที่เธอเล่าให้ฉันฟัง มันก็ตรงกันกับเรื่องเล่าของท่านชีคกาลิด ดังนั้น เจ้าหญิงอาหรับที่หน้าตาเหมือนเธอ ก็ต้องเป็นชีคคาอมีนาห์”
จัสมินตกใจจนแทบสิ้นสติ เป็นไปได้อย่างไร ชีคคาอมีนาห์มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอเล่า ทำไมเธอต้องฝันถึงบุคคลคนนี้ แม้หน้าตาเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยรู้จักกันเลย มิหนำซ้ำ ในความฝันนั้น ชีคคาอมีนาห์ดูผูกพันกับเธอมากมาย ราวกับมีส่วนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด หล่อนเรียกเธอว่า “จัสมีนาห์” และขอร้องให้ช่วยลูกสาวของหล่อน ท่ามกลางความหวาดกลัว ความสงสัย และความประหลาดใจต่อเรื่องราวความฝันเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา กระตุ้นให้เธอฉุดคิดถึงกำเนิดของเธอ ว่าเหตุใดเธอจึงมีส่วนที่เหมือนกับชีคคาแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน ทันใดนั้นเอง มีแม่ชีจากโบสถ์ยิวมาตามจัสมินและมารีย์ให้เข้าไปพบแม่อธิการที่วิหารศักดิ์สิทธ์
ณ วิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของโบสถ์ยิว กลางนครเยรูซาเล็ม แม่อธิการนั่งอธิษฐานอยู่กลางห้องโถงของวิหาร หญิงสาวสวยทั้งสองคนที่อยู่ในชุดพยาบาล เดินเข้ามาพบแม่อธิการอย่างสำรวม แม่อธิการโอบกอดทั้งสองสาวด้วยความรักความห่วงใย
“ แม่อธิการเรียกลูกทั้งสองให้เข้าพบ มีอะไรให้ลูกทั้งสองรับใช้หรือคะ”
เสียงหวานทุ้มใสของจัสมินเอ่ยถามขึ้นอย่างนุ่มนวล ทำให้แม่อธิการถึงกับน้ำตาคลอ และบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของทั้งสองสาว
“ จัสมิน มารีย์ ลูกคงได้รับทราบถึงข่าวร้ายในครอบครัวของท่านชีคกาลิดแล้วใช่ไหมลูก”
แม่อธิการเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เราสองคนทราบเรื่องราวจากราชองครักษ์ของท่านชีคกาลิดแล้วค่ะ คาดว่าท่านชีคคงจะเสด็จกลับนครอาหรับสุไลมานในวันพรุ่งนี้” มารีย์ตอบด้วยเสียงนุ่มนวลเช่นเคย
ลูกเอ๋ย ทั้งสองคนคงจะยังไม่รู้สินะ ว่าท่านอาจารย์กาลิด จะพาลูกทั้งสองคนกลับราชอาณาจักรสุไลมานด้วย แม่เป็นห่วงยิ่งนัก....แม่อธิการถอนใจอย่างลำบากและอึดอัดใจ ที่จะต้องบอกความจริง
“ จัสมิน มารีย์ ท่านชีคทรงรับสั่งกับแม่ ไม่ใช่แค่เรื่องการสิ้นพระชนม์ของพระชายาอมีนาห์ เพียงเท่านั้น ยังมีอีกเรื่อง ที่ท่านร้องขอกับแม่ คือขอให้ลูกทั้งสองตามเสด็จไปราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน เพื่อทำการผ่าตัดให้กับชีคคาองค์น้อย ที่คลอดก่อนกำหนดโดยเร็วที่สุด เพราะเวลานี้ ชีคคาน้อยหัวใจเต้นอ่อนมาก และที่นั่นก็ขาดพยาบาลห้องผ่าตัดที่มีฝีมือ”
เมื่อได้ยินเรื่องราวที่แม่อธิการได้สื่อสารออกมา จัสมินจึงตกใจจนแทบสิ้นสติ เรื่องราวที่ได้ยินได้ฟัง ช่างตรงกับความฝันประหลาดของเธอเหลือเกิน ชีคคาอมีนาห์ คุกเข่าร่ำไห้ อ้อนวอนขอให้จัสมินช่วยชีวิตลูกสาวที่กำลังใกล้ตาย จัสมินน้ำตาร่วงด้วยความสะเทือนใจ เมื่อเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ในความฝัน และความจริงที่ได้รับรู้ในวันนี้
“ จัสมิน..ร้องไห้ทำไม เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” มารีย์กุมมือมิน และถามด้วยความห่วงใย
“ ตรงกับความฝันของฉันเหลือเกิน ”จัสมินกระซิบมือเรียวบางปาดน้ำตาที่ไหลริน แม่อธิการเห็นจัสมินร้องไห้จึงโอบกอดด้วยความห่วงใย
“จัสมิน..หนูเป็นอะไรหรือเปล่าลูก..ร้องไห้ทำไม”
“ เอ่อ..หนู..สงสารพี่ชายของท่านอาจารย์กาลิดค่ะ เสียพระชายาไปแล้ว ลูกที่คลอดก่อนกำหนดก็หัวใจเต้นอ่อนมาก หากชีคคาน้อยสิ้นใจ หัวใจของเจ้าชายมกุฎราชกุมารคงแทบสลาย ถ้าต้องสูญเสียลูกไปอีกคน”
จัสมินยิ้มตอบด้วยแววตาที่แสนเศร้า ความตกใจ ความสะเทือนใจ ที่เรื่องราวความฝันที่เกี่ยวพันกับความจริงที่ได้รับรู้ มันช่างน่าสะเทือนใจนัก เธอจะต้องช่วยชีคคาน้อย ตามคำขอร้องของชีคคาอมีนาห์ให้ได้ หากจะปล่อยให้ชีคคาน้อยสิ้นใจ ชีคกาลิด อาจารย์ที่เธอเคารพรักก็คงจะเสียใจมากเช่นกัน
“แล้วหนูตัดสินใจอย่างไรลูก จัสมิน”
“ หนูตัดสินใจแล้วค่ะ ว่าจะติดตามท่านอาจารย์กาลิด ไปทำงานที่ราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน”
หญิงสาวสวยตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่น บ่งบอกถึงการตัดสินใจของเธอที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่แล้ว แม้ว่าแม่อธิการจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอก็ตาม
“จัสมิน..คิดให้ดีก่อนนะลูกนะ แม้ว่าในเยรูซาเล็มและปาเลสไตน์ จะมีชาวอาหรับและยิวปะปนกัน มีความขัดแย้งกันบ้าง แต่ก็ผสมผสานกลมกลืนเป็นผืนทรายแผ่นเดียวกัน เพราะเราต่างก็เป็นชาวปาเลสไตน์ แต่ดินแดนที่หนูจะไปในมันเป็นถิ่นทะเลทรายอาระเบียน ที่มีแต่ชาวอาหรับล้วนๆ แตกต่างทั้งชาติพันธุ์ ภาษา ศาสนา แล้วหนูจะอยู่ได้อย่างไร”
“ หนูไม่กลัวค่ะ เพราะหนูกับมารีย์ใช้ภาษาอารบิคได้คล่องแคล่ว เราสองคนเรียนรู้ ประเพณี วัฒนธรรมของอาหรับมามากมาย เอาตัวรอดได้สบายอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยิว หรืออาหรับ เราล้วนเป็นลูกแห่งทะเลทราย มีพระยาห์เวห์ หรืออัลเลาะห์ที่เป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน มีบิดาคนเดียวกัน คือ อิบรอฮิม แม่คะ...ชีวิตของคนเป็นสิ่งที่สำคัญนัก หนูไม่สามารถปล่อยให้เด็กคนหนึ่งตายไปได้โดยที่ไม่ทำอะไรเลย ”
จัสมินยืนยันด้วยน้ำตาที่ไหลพรากอาบสองแก้มนวล ไม่ว่าจะอย่างไร เธอจะต้องช่วยชีคคาน้อยให้รอดปลอดภัย
“ มารีย์ล่ะลูก ...ว่าอย่างไร”
“ จัสมินกับหนูเป็นเพื่อนรักในพันธะสัญญา เราไม่สามารถแยกจากหรือทอดทิ้งกันได้ ไม่ว่าจะทุกข์ หรือจะสุข จะสบายหรือจะยากลำบาก หนูยินดีที่จะอยู่เคียงข้างจัสมิน ทุกๆที่ค่ะ”
มารีย์จับมือจัสมินแน่น หญิงสาวน้ำตาไหลในความรักและความเสียสละของมารีย์ เพื่อนรักที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอแม่อธิการจึงวางมือเป็นศีรษะของหญิงสาวทั้งสอง และอธิษฐานมอบเธอสองคนไว้ในการดูแลของพระเจ้า
“ ลูกทั้งสองช่างมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ยินดีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดย ไม่มีอคติในความแตกต่างของชาติพันธุ์ ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ได้โปรดคุ้มครองปกป้องรักษาไข่มุกงามแห่งเยรูซาเล็มทั้งสองคนนี้ ให้อยู่รอดปลอดภัยในราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานด้วยเถิด ”
“ ท่านพ่อ ท่านพี่นาสเซอร์ ผมทำสำเร็จแล้วครับ”
แม่อธิการนำทีมแพทย์และพยาบาลออกจากห้องประชุมและยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อแสดงความยินดีกับชีคกาลิด จัสมินและมารีย์อยู่ในชุดพยาบาลวิชาชีพ สีฟ้าสลับขาวยาวกรอมเท้า คลุมฮิญาบสีเดียวกับชุดแต่งกาย ดูสวยงามน่ารัก ชีคกาลิดจึงทอดสายตามอง จัสมิน สาวยิวผู้น่ารัก ด้วยความภาคภูมิใจในตัวศิษย์เอกเกียรตินิยมเหรียญทอง
“หม่อมฉันและทีมแพทย์ พยาบาล ขอแสดงความยินดีกับท่านชีคกาลิด สำหรับวิทยานิพนธ์ที่ประสบความสำเร็จ จนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ และสร้างความภาคภูมิใจให้กับสถาบันการแพทย์ ของเรา” แม่อธิการกล่าวแสดงความยินดี และถวายช่อดอกไม้แด่ชีคกาลิด
“ ถ้าไม่มีแม่อธิการ และนักศึกษาแพทย์ พยาบาล ผมก็ไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้เช่นกันครับ”
ชีคกาลิดรับสั่งอย่างนอบน้อม และหันไปมองจัสมิน สาวสวยตาคม ที่อยู่ในชุดพยาบาลวิชาชีพอย่างเต็มยศ เพราะเป็นวันแรกของการทำงานของเธอ หญิงสาวสวยส่งยิ้มพิมพ์ใจ ยื่นมือให้ชีคหนุ่มสัมผัสแทนความหมายของการแสดงความยินดี
“ ยินดีด้วยค่ะ หนูภูมิใจ ที่ได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ที่เก่งที่สุด ในตะวันออกกลาง”
“ ฉันเองก็ภูมิใจในตัวเธอเหมือนกัน วันนี้เป็นวันแรกของการทำงาน ขอให้เธอตั้งใจทำงานให้เต็มที่ ทำด้วยความรัก ความศรัทธาดั่งที่เธอได้ถวายตัวกับพระเจ้าเอาไว้ ขอพระเจ้าอวยพรให้เธอประสบความสำเร็จ ”
ระหว่างที่ ชีคกาลิด กำลังสนทนากับเหล่านักศึกษาแพทย์และพยาบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐในชุดอาบายาสีดำ นำเอกสารทางราชการของสถานทูตราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานประจำประเทศอิสราเอลมามอบให้กับชีคกาลิด เมื่อชีคหนุ่มเปิดเอกสารอ่านแล้วนั้น ก็ต้องพบกับเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจ เอกสารทางราชการนั้นรายงานถึงข่าวการสิ้นพระชนม์ของชีคคาอมีนาห์ ชายาเอกของ ชีค นาสเซอร์ บิน คาลิฟาห์ บินรามานห์ อัลฟาราห์ มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน พระเชษฐาคนเดียวผู้เป็นที่เคารพรักของชีคกาลิด
“ โธ่...อมีนาห์ ” ชีคกาลิด ครางออกมาด้วยความสะเทือนใจ
ชายาเอกสิ้นพระชนม์ ท่านพี่.....จะเป็นอย่างไรบ้าง ...
“ มีพระราชสาสน์ จากพระราชาธิบดี คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัลฟาราห์ ถึงท่านชีคด้วยเพคะ ”
หญิงสาวคลุมอาบายาสีดำ ส่งพระราชสาสน์จากเอเมียร์คาลิฟาห์ ให้กับชีคกาลิด ชีคหนุ่มจึงเปิดพระราชสาสน์ออกมาอ่าน ซึ่งมีใจความดังต่อไปนี้
กาลิด ลูกรัก
เมื่อลูกได้รับจดหมายของพ่อฉบับนี้ ลูกคงได้รับรู้ข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับราชวงศ์อัลฟาราห์แล้ว อมีนาห์ ชายาของ นาสเซอร์ พี่ชายของลูกต้องถึงแก่ความตาย เพราะตกเลือดจากการแท้งลูก ขณะที่ตั้งครรภ์ได้เพียงเจ็ดเดือน ทารกฝาแฝดจึงรอดชีวิตมาได้เพียงคนเดียว เด็กหัวใจเต้นอ่อนมาก นาสเซอร์ พี่ชายของลูกก็เศร้าโศกเสียใจจนล้มป่วย
ลูกรัก ถ้าลูกได้รับรู้ข่าวการสูญเสียครั้งนี้แล้ว พ่อขอให้ลูกเดินทางกลับราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานให้เร็วที่สุด เพื่อทำการผ่าตัดหัวใจช่วยชีวิตหลานสาวของลูก ช่วยเหลือพี่ชายของลูกให้พ้นจากความเศร้าโศกเสียใจกับการสูญเลียครั้งนี้ ลูกรัก ลูกคือความหวังของพ่อและพี่ชาย ขอให้ลูกเดินทางกลับมาโดยเร็วที่สุด
รักลูก
คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัลฟาราห์
เมื่อได้อ่านจดหมายจากพระบิดาแล้ว ชีคน้อยแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานถึงกับน้ำตาคลอ ความห่วงใยและสงสารพี่ชายนั้นเต็มอยู่ในหัวใจ การสูญเสียชายาเอกผู้เป็นที่รัก คงจะไม่เจ็บปวดเท่ากับหัวอกของผู้เป็นพ่อ ที่ต้องเห็นลูกน้อยที่คลอดก่อนกำหนดได้เพียงห้าวัน ต้องสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา
“ ท่านพี่นาสเซอร์..... ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ”
ชีคหนุ่มพร่ำรำพันด้วยความโศกเศร้าสะเทือนใจ รู้สึกห่วงใยและสงสารพระเชษฐาเป็นอย่างยิ่ง
ท่านพี่นาสเซอร์...ต้องเจ็บปวดกับการสูญเสียจนถึงกับตรอมใจแล้วจะให้น้องนิ่งอยู่เฉยได้อย่างไรกัน
ชีคหนุ่มสั่งผู้ติดตามให้เตรียมตัวกลับราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน จากนั้น เขาจึงเข้าพบแม่อธิการ ที่ห้องโถงวิหารศักดิ์สิทธิกลางนครเยรูซาเล็ม เมื่อแม่อธิการได้รับทราบข่าวการสูญเสียชายาเอกของมกุฎราชกุมารราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน หัวใจนักบุญผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาของแม่อธิการจึงเศร้าสลดอย่างบอกไม่ถูก
“ โอ...ช่างบุญน้อยเหลือเกิน หม่อมฉันขอแสดงความเสียใจด้วยนะเพคะ ขอองค์พระอัลเลาะห์ทรงเล้าโลมพระทัย มกุฎราชกุมารนาสเซอร์ พระเชษฐาของท่านชีคด้วย ” แม่อธิการถึงกับน้ำตาไหลรินด้วยความสะเทือนใจ
“ที่ผมเข้ามาพบแม่อธิการในวันนี้ ผมมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากแม่อธิการ”
ชีคกาลิด รับสั่งขอความช่วยเหลือจากมาอธิการด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ ท่านชีคประสงค์ให้หม่อมฉันช่วยเหลือสิ่งใด หม่อมฉันยินดี ”
“ การกลับราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานครั้งนี้ ผมมีสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำ คือการผ่าตัดหัวใจของหลานสาว ที่คลอดก่อนกำหนดได้ประมาณห้าวัน ที่นั่นไม่มีพยาบาลห้องผ่าตัดที่เชี่ยวชาญเลย ”
ชีคกาลิดนิ่ง ถอนใจ แล้วจึงสื่อสารสาระสำคัญถึงสิ่งที่ต้องการจากแม่อธิการช้าๆชัดๆ
“ ผมขออนุญาต....พาจัสมินและมารีย์ไปประจำการที่โรงพยาบาลแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน เพื่อช่วยผมในการผ่าตัดครั้งนี้ ”
แม่อธิการถึงกับสะดุ้งตกใจ และนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ชีคหนุ่มร้องขอ จัสมินและมารีย์เธอทั้งสองเป็นสาวชาวยิว จะไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ต่างศาสนาได้อย่างไรกัน เมื่อทั้งสองคนนี้เติบโตขึ้นภายใต้ประเพณี วัฒนธรรม ภาษา และศาสนาแบบยิว แม่อารยะธรรมของยิวและอาหรับจะมีต้นกำเนิดจากที่เดียวกัน มีความละม้ายคล้ายคลึงกัน แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองเชื้อชาติก็มีความขัดแย้งกันมานานตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล ในเยรูซาเล็มแม้จะมีการปะปนกันระหว่างชาวยิวกับชาวอาหรับ แต่ก็มีความผสมผสานกลมกลืนเหมือนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งจัสมินและมารีย์ ก็เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของยิวและอาหรับมามากพอสมควร แต่ถ้าเธอทั้งสองคนต้องจากอ้อมอกเยรูซาเล็มไป จะอยู่รอดปลอดภัยหรือไม่ แม่อธิการถอนหายใจด้วยความรู้สึกลำบากใจและอดเป็นห่วงทั้งสองสาวไม่ได้
“ หม่อมฉันเกรงว่าจะ..”
“ หากแม่อธิการเกรงว่าสองสาวจะไม่ปลอดภัย เมื่อต้องจากเยรูซาเล็มไปอยู่แดนอาหรับ ผมขอรับรองด้วยเกียรติของรัชทายาทอันดับสองของราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน ว่าจะดูแลจัสมินและมารีย์เป็นอย่างดี จัสมินและมารีย์จะอยู่ที่อาหรับสุไลมาน ในฐานะข้าราชการของราชอาณาจักร ”
เมื่อชีคหนุ่มยืนยันหนักแน่นถึงเพียงนี้แม่อธิการจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน แม้หัวใจของแม่อธิการจะห่วงใยทั้งสองสาวมากเพียงใด ก็ไม่สามารถขัดต่อความต้องการของท่านชีคกาลิดผู้สูงศักดิ์ได้
“ หม่อมฉันต้องถามความสมัครใจของเด็กทั้งสองคนก่อน ”
“ ผมจะภาวนาขอให้เธอทั้งสองคนไม่ขัดข้องนะครับ เพราะการผ่าตัดช่วยชีวิตเด็กทารกคนนี้ ผมขาดเด็กสาวทั้งสองคนไม่ได้จริงๆ ”
จัสมินและมารีย์กับการเป็นพยาบาลวิชาชีพวันแรก ก็ต้องเผชิญกับภาระงานที่หนักหนาสาหัส เนื่องจากที่เวสแบงก์ ฉนวนกาซ่า มีเหตุการณ์การปะทะกันระหว่าทหารยิวและทหารอาหรับ เหล่าทหารชาวยิวและทหารอาหรับที่บาดเจ็บต่างถูกนำมารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนครเยรูซาเล็มจำนวนมาก มนุษยธรรม เมตตาธรรมนั้นมันมิได้แบ่งไว้สำหรับชนชาติใดชาติหนึ่ง พยาบาลชาวยิวก็ไม่สามารถเลือกช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเฉพาะชนชาติยิวเท่านั้น เพราะจรรยาบรรณวิชาชีพพยาบาล ต้องช่วยเหลือมนุษย์ทุกชนชาติไม่สามารถเลือกที่รักมักที่ชังได้
“โธ่ จะรบกันทำไมนักหนา พอเจ็บแล้วก็ต้องมารักษาที่เดียวกัน “
มารีย์ทำแผลไปบ่นไป ผู้บาดเจ็บจากการปะทะมีมากมาย ทั้งยิวทั้งอาหรับก็พอๆกัน
“ ทำไมต้องขัดแย้งกันไม่รู้จักจบจักสิ้น ” จัสมินพูดต่อด้วยความสงสัย
“ อาหรับและยิวถือกำเนิดจากบิดาคนเดียวกันคือ นบีอิบรอฮิม พระยาห์เวห์และพระอัลเลาะห์ ก็เป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องขัดแย้งกันตลอดเวลา ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงยุคปัจจุบัน ”
ชายชาวอาหรับได้ยินคำพูดของจัสมิน ก็รู้สึกประหลาดใจ หญิงสาวสวยผู้นี้เธอเป็นชาวยิว แต่สามารถพูดภาษาอารบิคได้ดีเหมือนกับเป็นเจ้าของภาษา ถ้าไม่เห็นว่าเธอกำลังช่วยทำแผลให้เขา เขาคงจะจัดการทำไม่ดีไม่ร้ายเธอแน่นอน
“ เธอพูดอะไรของเธอ” ชายอาหรับตวาดด้วยความโมโห เมื่อรู้ตัวว่าถูกด่าว่า
“เจ็บจวนจะตายอยู่แล้วยังจะทำกร่าง ถ้าฉันไม่ยำเกรงพระเจ้าที่ฉันได้ถวายตัวรับใช้ ฉันจะเอายาพิษกรอกปากนายเสียให้ตายคามือ”
จัสมินตวาดกลับ ทำให้ชายอาหรับผู้นี้ต้องยอมเธอ เพื่อนพยาบาลและทหารยิวต่างก็พากันหัวเราะขำขันแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ คนสวยนี่ ดุจริงๆ”
เมื่อเสร็จสิ้นจากการทำงาน จัสมินและมารีย์ก็พากันไปดื่มกาแฟโบราณที่ร้านกาแฟโบราณข้างวิหารศักดิสิทธิ์ จัสมินเล่าถึงความฝันประหลาดที่เธอได้ฝันเมื่อคืนก่อนหน้านี้ อย่างละเอียดให้กับมารีย์ฟัง เพราะเธอและมารีย์เป็นเพื่อนรักกันที่สามารถสนทนาปรึกษาหารือกันได้ทุกเรื่องโดยที่ไม่มีความลับต่อกัน เมื่อมารีย์ได้ฟังเรื่องราวความฝันจากจัสมิน เธอรู้สึกสังหรณ์ใจ ว่าเจ้าหญิงอาหรับในความฝันของจัสมินจะเป็น
“ อมีนาห์ ” ชายาเอกของมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน ความฝันของจัสมินนั้นจะต้องเกี่ยวพันกับการตายของอมีนาห์อย่างแน่นอน
“มารีย์ นี่เธอกำลังบอกฉันว่า ฉันกำลังฝันถึงคนที่ตายไปแล้วอย่างนั้นหรือ”
จัสมินร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกความหวาดกลัวนั้นกระหน่ำกล้ำกรายเข้ามาหาเธอเพียงชั่วขณะจิต
“ท่านชีคกาลิด เคยรับสั่งให้ฉันฟังว่า ชีคคาอมีนาห์ พระชายาเอกของเจ้าชายมกุฎราชกุมาร มีรูปร่างและหน้าตาที่เหมือนเธอราวกับเป็นคนคนเดียวกัน และเรื่องราวความฝันของเธอที่เธอเล่าให้ฉันฟัง มันก็ตรงกันกับเรื่องเล่าของท่านชีคกาลิด ดังนั้น เจ้าหญิงอาหรับที่หน้าตาเหมือนเธอ ก็ต้องเป็นชีคคาอมีนาห์”
จัสมินตกใจจนแทบสิ้นสติ เป็นไปได้อย่างไร ชีคคาอมีนาห์มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอเล่า ทำไมเธอต้องฝันถึงบุคคลคนนี้ แม้หน้าตาเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยรู้จักกันเลย มิหนำซ้ำ ในความฝันนั้น ชีคคาอมีนาห์ดูผูกพันกับเธอมากมาย ราวกับมีส่วนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด หล่อนเรียกเธอว่า “จัสมีนาห์” และขอร้องให้ช่วยลูกสาวของหล่อน ท่ามกลางความหวาดกลัว ความสงสัย และความประหลาดใจต่อเรื่องราวความฝันเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา กระตุ้นให้เธอฉุดคิดถึงกำเนิดของเธอ ว่าเหตุใดเธอจึงมีส่วนที่เหมือนกับชีคคาแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน ทันใดนั้นเอง มีแม่ชีจากโบสถ์ยิวมาตามจัสมินและมารีย์ให้เข้าไปพบแม่อธิการที่วิหารศักดิ์สิทธ์
ณ วิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของโบสถ์ยิว กลางนครเยรูซาเล็ม แม่อธิการนั่งอธิษฐานอยู่กลางห้องโถงของวิหาร หญิงสาวสวยทั้งสองคนที่อยู่ในชุดพยาบาล เดินเข้ามาพบแม่อธิการอย่างสำรวม แม่อธิการโอบกอดทั้งสองสาวด้วยความรักความห่วงใย
“ แม่อธิการเรียกลูกทั้งสองให้เข้าพบ มีอะไรให้ลูกทั้งสองรับใช้หรือคะ”
เสียงหวานทุ้มใสของจัสมินเอ่ยถามขึ้นอย่างนุ่มนวล ทำให้แม่อธิการถึงกับน้ำตาคลอ และบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของทั้งสองสาว
“ จัสมิน มารีย์ ลูกคงได้รับทราบถึงข่าวร้ายในครอบครัวของท่านชีคกาลิดแล้วใช่ไหมลูก”
แม่อธิการเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เราสองคนทราบเรื่องราวจากราชองครักษ์ของท่านชีคกาลิดแล้วค่ะ คาดว่าท่านชีคคงจะเสด็จกลับนครอาหรับสุไลมานในวันพรุ่งนี้” มารีย์ตอบด้วยเสียงนุ่มนวลเช่นเคย
ลูกเอ๋ย ทั้งสองคนคงจะยังไม่รู้สินะ ว่าท่านอาจารย์กาลิด จะพาลูกทั้งสองคนกลับราชอาณาจักรสุไลมานด้วย แม่เป็นห่วงยิ่งนัก....แม่อธิการถอนใจอย่างลำบากและอึดอัดใจ ที่จะต้องบอกความจริง
“ จัสมิน มารีย์ ท่านชีคทรงรับสั่งกับแม่ ไม่ใช่แค่เรื่องการสิ้นพระชนม์ของพระชายาอมีนาห์ เพียงเท่านั้น ยังมีอีกเรื่อง ที่ท่านร้องขอกับแม่ คือขอให้ลูกทั้งสองตามเสด็จไปราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน เพื่อทำการผ่าตัดให้กับชีคคาองค์น้อย ที่คลอดก่อนกำหนดโดยเร็วที่สุด เพราะเวลานี้ ชีคคาน้อยหัวใจเต้นอ่อนมาก และที่นั่นก็ขาดพยาบาลห้องผ่าตัดที่มีฝีมือ”
เมื่อได้ยินเรื่องราวที่แม่อธิการได้สื่อสารออกมา จัสมินจึงตกใจจนแทบสิ้นสติ เรื่องราวที่ได้ยินได้ฟัง ช่างตรงกับความฝันประหลาดของเธอเหลือเกิน ชีคคาอมีนาห์ คุกเข่าร่ำไห้ อ้อนวอนขอให้จัสมินช่วยชีวิตลูกสาวที่กำลังใกล้ตาย จัสมินน้ำตาร่วงด้วยความสะเทือนใจ เมื่อเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ในความฝัน และความจริงที่ได้รับรู้ในวันนี้
“ จัสมิน..ร้องไห้ทำไม เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” มารีย์กุมมือมิน และถามด้วยความห่วงใย
“ ตรงกับความฝันของฉันเหลือเกิน ”จัสมินกระซิบมือเรียวบางปาดน้ำตาที่ไหลริน แม่อธิการเห็นจัสมินร้องไห้จึงโอบกอดด้วยความห่วงใย
“จัสมิน..หนูเป็นอะไรหรือเปล่าลูก..ร้องไห้ทำไม”
“ เอ่อ..หนู..สงสารพี่ชายของท่านอาจารย์กาลิดค่ะ เสียพระชายาไปแล้ว ลูกที่คลอดก่อนกำหนดก็หัวใจเต้นอ่อนมาก หากชีคคาน้อยสิ้นใจ หัวใจของเจ้าชายมกุฎราชกุมารคงแทบสลาย ถ้าต้องสูญเสียลูกไปอีกคน”
จัสมินยิ้มตอบด้วยแววตาที่แสนเศร้า ความตกใจ ความสะเทือนใจ ที่เรื่องราวความฝันที่เกี่ยวพันกับความจริงที่ได้รับรู้ มันช่างน่าสะเทือนใจนัก เธอจะต้องช่วยชีคคาน้อย ตามคำขอร้องของชีคคาอมีนาห์ให้ได้ หากจะปล่อยให้ชีคคาน้อยสิ้นใจ ชีคกาลิด อาจารย์ที่เธอเคารพรักก็คงจะเสียใจมากเช่นกัน
“แล้วหนูตัดสินใจอย่างไรลูก จัสมิน”
“ หนูตัดสินใจแล้วค่ะ ว่าจะติดตามท่านอาจารย์กาลิด ไปทำงานที่ราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน”
หญิงสาวสวยตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่น บ่งบอกถึงการตัดสินใจของเธอที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่แล้ว แม้ว่าแม่อธิการจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอก็ตาม
“จัสมิน..คิดให้ดีก่อนนะลูกนะ แม้ว่าในเยรูซาเล็มและปาเลสไตน์ จะมีชาวอาหรับและยิวปะปนกัน มีความขัดแย้งกันบ้าง แต่ก็ผสมผสานกลมกลืนเป็นผืนทรายแผ่นเดียวกัน เพราะเราต่างก็เป็นชาวปาเลสไตน์ แต่ดินแดนที่หนูจะไปในมันเป็นถิ่นทะเลทรายอาระเบียน ที่มีแต่ชาวอาหรับล้วนๆ แตกต่างทั้งชาติพันธุ์ ภาษา ศาสนา แล้วหนูจะอยู่ได้อย่างไร”
“ หนูไม่กลัวค่ะ เพราะหนูกับมารีย์ใช้ภาษาอารบิคได้คล่องแคล่ว เราสองคนเรียนรู้ ประเพณี วัฒนธรรมของอาหรับมามากมาย เอาตัวรอดได้สบายอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยิว หรืออาหรับ เราล้วนเป็นลูกแห่งทะเลทราย มีพระยาห์เวห์ หรืออัลเลาะห์ที่เป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน มีบิดาคนเดียวกัน คือ อิบรอฮิม แม่คะ...ชีวิตของคนเป็นสิ่งที่สำคัญนัก หนูไม่สามารถปล่อยให้เด็กคนหนึ่งตายไปได้โดยที่ไม่ทำอะไรเลย ”
จัสมินยืนยันด้วยน้ำตาที่ไหลพรากอาบสองแก้มนวล ไม่ว่าจะอย่างไร เธอจะต้องช่วยชีคคาน้อยให้รอดปลอดภัย
“ มารีย์ล่ะลูก ...ว่าอย่างไร”
“ จัสมินกับหนูเป็นเพื่อนรักในพันธะสัญญา เราไม่สามารถแยกจากหรือทอดทิ้งกันได้ ไม่ว่าจะทุกข์ หรือจะสุข จะสบายหรือจะยากลำบาก หนูยินดีที่จะอยู่เคียงข้างจัสมิน ทุกๆที่ค่ะ”
มารีย์จับมือจัสมินแน่น หญิงสาวน้ำตาไหลในความรักและความเสียสละของมารีย์ เพื่อนรักที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอแม่อธิการจึงวางมือเป็นศีรษะของหญิงสาวทั้งสอง และอธิษฐานมอบเธอสองคนไว้ในการดูแลของพระเจ้า
“ ลูกทั้งสองช่างมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ยินดีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดย ไม่มีอคติในความแตกต่างของชาติพันธุ์ ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ได้โปรดคุ้มครองปกป้องรักษาไข่มุกงามแห่งเยรูซาเล็มทั้งสองคนนี้ ให้อยู่รอดปลอดภัยในราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานด้วยเถิด ”
พลอยพัด เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.พ. 2556, 11:23:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.พ. 2556, 11:24:11 น.
จำนวนการเข้าชม : 1225
| << บทที่ 1 เยรูซาเล็ม นครแห่งศรัทธา | จากเยรูซาเล็ม...สู่ดินแดนอาหรับสุไลมาน >> |