นางร้ายยอดรัก (ชื่อเิดิมพิศวาสรักกำมะลอ)
‘ภัทรศยาภา’ นางร้ายสาวที่มุ่งหมายอยากมีผู้ชายดีๆ สักคนไว้ข้างกาย เล็ง ‘วิรุฬห์’ พระเอกหนุ่มชื่อดังเอาไว้มั่นเหมาะ คิดการใหญ่หาทางเล่นละครด้วยกันสักเรื่องเพื่อเป็นข่าว แต่ผิดคาดเมื่อดันกลายเป็น 'เดนนิส' ดาวร้ายตัวฉกาจที่เธอไม่ชอบขี้หน้าเสียได้

หญิงสาวยิ่งตกที่นั่งลำบากเมื่อตกเป็นข่าวคาวๆ กับเขา จนต้องยอมเป็นแฟนหลอกๆ เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

หัวใจจ๋า...อย่าเผลอใจให้นายตัวร้ายเชียว!

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 1 พ่อพระหรือเสือร้าย



บทที่ 1



ร่างสวยในชุดเกาะอกสีชมพูสดโดดเด่นท่ามกลางเตียงนอนสีขาวสะอาดตา มิใช่เพราะสีชุดจัดจ้าน แต่เป็นเรือนร่างที่มีสัดส่วนเว้าโค้งยั่วยวนต่างหากเล่า ผิวขาวเนียนละเอียดน่าสัมผัส เนินอกอวมอิ่มล่อตา เรื่อยมายังเรียวขางาม กระโปรงจะสั้นไปไหน แม่คุณเอ๊ย! เดนนิสทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอบ่งบอกถึงความถูกใจ หุ่นของเธอดีอย่างนี้นี่เอง นิตยสารหลายฉบับจึงติดต่อขอถ่ายแบบชุดว่ายน้ำกันเป็นทิวแถว อยากจะรู้นัก ว่าหากตื่นมาแล้วเจ้าหล่อนรู้ว่าเรือนร่างที่เคยสงวนไม่ให้ใครได้เห็น ปรากฏแก่สายตาของเขาหมดแล้ว จะโวยวายเสียงดังแค่ไหน

เดนนิสก้าวไปทรุดกายลงนั่งบนเตียงนอน เอื้อมมือปัดปอยผมอ่อนนุ่มให้พ้นใบหน้าหวาน ริมฝีปากเธอช่างน่าลิ้มลอง แต่ชายหนุ่มก็อดกลั้นใจไว้ เกรงว่าหากเผลอใจเริ่มต้นไปแล้ว จะหยุดยั้งตนเองไว้ไม่อยู่ ไม่เคยสักครั้งที่เขาจะลงมือทำอะไรๆ คนไม่มีสติ เท่าที่ผ่านมาผู้หญิงทุกคนต่างเต็มใจสนุกด้วยกันอย่างไม่มีข้อผูกมัดทั้งนั้น แต่กับเธอคนนี้ชักไม่มั่นใจตัวเอง

กลิ่นเหล้าที่โชยเข้าจมูกทำให้รู้ว่าตัดสินใจไม่ผิดที่คิดแกล้งเจ้าหล่อน เสื้อผ้าเหม็นขนาดนี้นอนไม่สบายตัวแน่ คงต้องช่วยเปลี่ยนให้เสียแล้ว

นายตัวร้ายยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์...

เดนนิสกลับเข้ามาในห้องนอนของตนเองอีกครั้งหลังจากไปค้นหาเสื้อผ้าของแอลลี่เพื่อมาเปลี่ยนให้หญิงสาว ได้ชุดแสคสบายๆ มาหนึ่งตัว แม้รูปร่างของภัทรศยาภาจะอวบอิ่มกว่าแอลลี่ แต่ก็น่าจะพอใส่ได้

หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงรัวขณะมองเรือนร่างของหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง เธอสวย หุ่นดี มีเสน่ห์แม้ในยามไม่มีสติเช่นนี้ หากเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าออก จะอดใจไหวหรือไม่ ยังไม่ไว้ใจตัวเอง

แปลกใจจริง มิใช่ว่าไม่เคยเห็นเรืองร่างผู้หญิง แต่กลับตื่นเต้นจนมือไม้สั่นทีเดียวที่จะได้ยลของสวยงามตรงหน้า นี่สินะ...ที่เขาว่ากันว่าของยิ่งยากยิ่งอยากได้

มือหนาเอื้อมไปด้านหลัง เลื่อนซิปเกาะอกลง เสียงครูดของซิปสะท้านหัวใจ เนื้อนวลขาวผ่องพ้นผ่านสาบเสื้อ เดนนิสพลิกร่างบางให้นอนหงายดังเดิมก่อนจะค่อยๆ ดึงเกาะอกลงมา ชายหนุ่มแทบหยุดหายใจเมื่อพบว่าช่วงบนของหญิงสาวมีเพียงซิลิโคนชิ้นเล็กปิดไว้เท่านั้น

โอ้...สวรรค์โปรดเขาแล้ว

“สวย...” เขาเพ้อออกมา ขณะดวงตาแพรวพราวลุ่มลึกยังจับจ้องไม่กะพริบ นึกอยากลูบไล้ แต่กลัวอดใจไม่อยู่จึงต้องพยายามระงับใจไว้

ตัดสินใจดึงชุดเกาะอกต่ำลงมา ผ่านหน้าท้องแบนราบ สะโผกผายเย้ายวน จนท้ายที่สุดก็หลุดพ้นเรือนร่างงดงาม ดาวร้ายหนุ่มหายใจถี่กระชั้น

“สวยอะไรอย่างนี้”

ชายหนุ่มตาพร่าไปหมด หัวใจเต้นกระหน่ำ คล้ายควบคุมตนเองไม่ได้ มือไม้คอยแต่จะเอื้อมไปหาร่างงดงามตรงหน้าหลายครั้ง

เขากำลังเป็นบ้าเพราะเธอ!

ความรู้สึกข้างในตีกันยุ่งเหยิง สัญชาติญาณดิบตะโกนให้จัดการร่างงามซะ ทว่าคุณธรรมความดีกระซิบเล็กๆ ว่ากำลังจะทำร้ายคนไม่มีทางสู้

“ยัยแม่มดตัวร้าย เธอกำลังทำให้ฉันปวดหัว” เดนนิสเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันว่าคนหลับใหล ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันหน้าหนีภาพนางยั่ว!

รวบรวมสติได้แล้วจึงหันกลับมาอีกครั้ง เธอเริ่มกอดตัวเองด้วยความหนาว จึงรีบนำชุดที่เตรียมไว้มาสวมใส่ให้แทน ใส่ไป มือก็สั่นไปอย่างน่าด่าตัวเองนัก กับแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวย หุ่นดี น่าฟัด เท่านั้นเอง มันจะอะไรนักหนา

เมื่อภัทรศยาภาอยู่ในชุดน่ารักสดใสของแอลลี่ก็ดูอ่อนวัย น่าเอ็นดูไปอีกแบบ จะว่าไป เจ้าหล่อนแต่งอะไรก็สวยทั้งนั้น เขามองข้ามเธอไปได้อย่างไร อ้อ...คงเป็นเพราะสายตาหยามเหยียดที่เธอชอบส่งมาให้ยามพบกัน จึงพานไม่ชอบหน้า แต่นับจากวันนี้ คงต้องคิด ‘อะไรๆ’ กับแม่เสือดาวร้อนแรงคนนี้ใหม่

เดนนิสเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ เอื้อมหยิบผ้าห่มคลุมร่างสวยสะคราญ จับมือเรียวให้มาวางซ้อนกัน เสร็จสรรพก็โน้มตัวเข้าไปใกล้ ขนาดเมาเหล้า กรุ่นกลิ่นความหอมยังฟุ้งกระจาย

และแล้วริมฝีปากอุ่นร้อนก็แตะสัมผัสกลีบปากนุ่มละมุนเบาๆ สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะกระซิบริมหู

“นี่คือรางวัลแห่งความอดทนของฉัน ยัยแม่มด!”



ทันทีที่รู้สึกตัว ราวสมองโดนทุบ ทั้งปวดทั้งหนักอึ้งไปหมด ดวงตาคู่สวยปรือแล้วปรืออีก จนในที่สุดก็ขืนลืมตาตื่นขึ้นมาได้ กะพริบถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสภาพให้ชัดเจน และแล้ว ภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้ร่างบางแทบหายงัวเงียเป็นปลิดทิ้ง สภาพห้องนอนเรียบหรูแบบนี้ ไม่ใช่ห้องของเธอแน่นอน แล้วตอนนี้ เธออยู่ที่ไหนกัน!

ภัทรศยาภาลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพลางกวาดตามองไปรอบๆ ห้องอีกครั้งอย่างงุนงง คล้ายลืมความปวดหัวเสียสิ้น ลักษณะการตกแต่งห้องน่าจะเป็นคอนโด และที่สำคัญ ข้าวของน้อยชิ้นภายในนี้ บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นห้องของผู้ชาย!

“ใครพาเรามาที่นี่”

ยังไม่ทันค้นหาคำตอบให้ตัวเอง ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก ภัทรศยาภาหันขวับไปมอง สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาทำเอาหัวใจแทบหยุดเต้น

ร่างสูงโปร่งพันผ้าขนหนูหมิ่นแหม่ปิดเพียงช่วงล่าง เปลือยอกแกร่งกำยำที่มีไรขนประปราย โชว์ซิกแพ็คสวยงามอย่างคนที่บริหารร่างกายอยู่เสมอ เดนนิสละมือที่ถือผ้าขนหนูเช็ดผมลงมาก็เห็นว่าภัทรศยาภาตื่นนอนแล้ว ชายหนุ่มจึงฉายยิ้มหวานให้พร้อมเอ่ยทักทาย

“มอร์นิ่ง ตื่นนานยัง”

เสียงพูดของเขาทำให้คนถูกทักหายตกตะลึง ได้สติขึ้นมาจึงรีบก้มลงสำรวจร่างกายตนเอง แล้วก็พบว่าเธออยู่ในชุดใครก็ไม่รู้ หากให้เดาที่นี่คือคอนโดของเขา ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอก็ต้องเป็นเขา!

“กรี๊ด!” หญิงสาวกรีดร้องออกมาสุดเสียง

นายนี่ข่มขืนเธอ!

ภัทรศยาภาทั้งเสียใจ ตกใจ และโกรธจนเลือดขึ้นหน้า นายนี่เป็นดาวร้ายทั้งในจอและนอกจอจริงๆ เลวไม่มีชิ้นดี

ทั้งที่พยายามหวงเนื้อหวงตัว ไม่ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ ละครที่ต้องใส่เสื้อผ้าเปิดเผยเกินไปก็ไม่รับ แต่นายคนนี้บังอาจนัก

“คุณจะร้องหาพระแสงอะไร” เดนนิสถามหน้าเครียด เสียงของเธอทำให้แสบแก้วหูไปหมด

“นายบ้า! เลวที่สุด คุณทำกับฉันอย่างนี้ได้ยังไง”

“ผมทำอะไร ผมแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ” เดนนิสรีบปฏิเสธพลางโบกไม้โบกมือยืนยัน

ให้ตาย! เรื่องใหญ่เสียแล้วสิ ภัทรศยาภาคิดเลยเถิดไปว่าเขาข่มขืนเธอ หาเรื่องให้ตัวเองแล้วไหมล่ะ

“ไอ้คนไม่มีความรับผิดชอบ”

หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงมายืนประจันหน้ากับเขาก่อนจะตวัดมือเรียวที่ใบหน้าคมสุดแรง

เผียะ!

“ทำอะไรของคุณ” เดนนิสถามกลับอย่างโมโห มือหนาลูบใบหน้าที่คล้ายจะชาไปชั่วขณะ แรงตบของเธอหนักไม่น้อย เขาก็แค่แกล้งเล่นนิดหน่อย ทำโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หากคนที่มาเจอเธอเมาแอ๋สลบไปไม่ใช่เขา ป่านนี้คงไม่มีเหลือ ใจดีขนาดนี้ยังถูกทำร้าย ให้ตายเถอะ ผู้หญิง!

“ฉันต้องถามคุณมากกว่าว่าทำไมถึงทำแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่นเครือด้วยแรงอารมณ์ มือน้อยกำแน่น

“ผมไม่ได้ทำอะไร” ดาวร้ายหนุ่มปฏิเสธ แต่สีหน้าไม่ได้ดูสำนึกผิดสักนิด กลับเจ้าเล่ห์อย่างไม่น่าไว้ใจ ก่อนว่าต่อเสียงเย็น “แต่ถ้าคุณอยากให้มันเกิดขึ้นจริงๆ ก็ได้ ไหนๆ ก็ตบผมไปแล้วนี่ คงต้องเอาคืนให้สาสมกับความเจ็บหน่อยล่ะมั้ง”

“นี่ อย่ามาทำอะไรบ้าๆ นะ” สายตาลอกแลกไปมาด้วยความระแวงระวัง

“คุณไม่เชื่อผมเองนะแพม” ไม่เพียงพูดเปล่าแต่สิงโตหนุ่มกำลังสาวเท้าเข้ามาหาลูกแกะน้อยเรื่อยๆ ไล่ต้อนจนร่างบอบบางถอยไปจนชิดผนังห้อง เขายิ้มร้าย เมื่อกักขังร่างบอบบางไว้ได้ด้วยแขนกำยำ

“กรี๊ด! ถอยออกไปนะไอ้คนเลว” ภัทรศยาภาไล่เสียงลั่น นัยน์หวาดหวั่นราวแกะน้อยระวังภัย แผงอกเป็นมัดๆ ที่มีไรขนปกคลุมบางเบาทำให้ใจสาวสั่นรัวราวมีคนตีกลองอยู่ข้างใน เธอไม่เคยถูกคุกคามแบบนี้มาก่อนในชีวิต!

“คุณเองนะ ที่ต้องการแบบนี้”

“ไม่! ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแน่ คอยดูนะ ฉันจะไปแจ้งตำรวจจับคุณเข้าคุก” หญิงสาวขู่ฟ่อ เสียใจก็เสียใจ แต่เธอต้องต่อสู้กับนายนี่ให้ถึงที่สุด เท่าที่เสียไปก็มากเกินพอ หากเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอคงรับไม่ได้แน่

สิ้นเสียงแว๊ดๆ คนถูกขู่ก็หัวเราะออกมาดังลั่น ส่ายหน้าน้อยๆ ราวกับระอาสาวตรงหน้า ยิ่งเหมือนเติมเชื้อเพลิงให้กับกองไฟในอกของภัทรศยาภา

“คุณกล้าหรือ” เขาท้าทาย

“ฉันจะต้องจัดการกับคนเลวๆ อย่างคุณให้ได้!”

“แต่ก่อนอื่น ฉันขอจัดการเธอก่อนแล้วกันนะแม่เสือสาว”

ว่าจบ ใบหน้าคมก็โน้มเข้าหา กลิ่นหอมจรุงใจโชยมายั่วใจ แต่ก่อนที่ริมฝีปากจะจรดลงแก้มใส ชายหนุ่มก็มีอันต้องร้องโอยออกมา เมื่อเล็บยาวเฟื้อยจิกเข้าที่ต้นแขนแล้วออกแรงกดจนห้อเลือด

“นี่คุณ ผมเจ็บนะ”

“แต่ฉันเจ็บกว่าคุณไม่รู้กี่ร้อยเท่า ไอ้คนเลว คุณพรากพรหมจรรย์ฉัน!”

“พรหมจรรย์...” เดนนิสถึงกับครางออกมาด้วยความพึงพอใจ นี่ก็หมายความว่าภัทรศยาภายังบริสุทธิ์ หากเขาได้ครอบครองเธอเป็นคนแรกล่ะ จะดีแค่ไหนกันนะ

ภัทรศยาภาถือโอกาสที่เขากำลังทำท่าทางยินดี รีบวิ่งออกจากห้องไป ทว่าเพียงก้าวเท้าเท่านั้น ร่างบางก็ลอยหวือเมื่อแขนแข็งแรงตวัดรัดเอวบางขึ้นมา

“กรี๊ดๆ ปล่อยฉันนะไอ้คนเลว ปล่อยฉัน” ภัทรศยาภาทุบตีร่างแกร่งพัลวัน ดีดดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดพ้นพันธนาการของเขา แต่ก็ไม่เป็นดังหวัง

“ต้องคุยกันให้เข้าใจก่อน ผมถึงจะปล่อยคุณ” เดนนิสต้องการเคลียร์เรื่องนี้ให้ถูกต้อง เมื่อครู่เขาอาจจะโมโหจึงอยากแกล้งเธอ แต่คงไม่ดีแน่หากภัทรศยาภากลับออกไปพร้อมกับความเข้าใจผิด

“ฉันไม่อยากเสวนากับคนเลวๆ อย่างคุณ แค่นี้ฉันก็รังเกียจคุณจะแย่แล้ว ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”

“รังเกียจงั้นหรือ เดี๋ยวก็จูบให้หายรังเกียจซะนี่”

“ไม่! อย่านะ”

“ถ้าไม่อยากให้ผมจูบก็หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่หยุดอาจจะมากกว่าจูบก็ได้ ลองไหมล่ะ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ทำท่าจะเคลื่อนใบหน้าเข้ามาประชิด หญิงสาวรีบเบี่ยงหลบทันที ก่อนจะยอมนิ่งสงบ

“หยุดแล้วๆ อย่าทำอะไรฉัน” ภัทรศยาภาร้องบอกเสียงแผ่วอย่างลูกแมวน้อยเชื่องๆ ยอมให้เดนนิสโอบกอดอยู่อย่างนั้น เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความกลัว เมื่อคืนไม่รู้เรื่องรู้ราว หากเขาทำอะไรตอนนี้ เธอคงรับไม่ได้

“ว่าง่ายๆ บ้างก็ดี จะได้ไม่เหนื่อย”

“ฉันอยากกลับแล้ว” น้ำเสียงอ้อนวอนอ่อนหวาน ดวงตาคมซึ้งที่มีหยาดน้ำแวววาวช้อนขึ้นมามอง ช่างดูน่าสงสารนัก จนชายหนุ่มแกล้งไม่ลง

“ผมจะให้กลับ หลังจากฟังผมอธิบายก่อน”

“ค่ะๆ” หญิงสาวรีบรับปาก

“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณนะแพม อย่าเข้าใจผิด”

“เอ่อ...ค่ะ”

“เชื่อผมแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ”

“ดีมากครับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ปะ...ปล่อยฉันเสียทีนะคะ ฉันอยากกลับแล้ว” เสียงอ้อนวอนยังคงหวานจนหัวใจชายหนุ่มเริ่มสั่น หากให้คุกเข่าลงตรงหน้าก็คงยอมศิโรราบ

วงแขนแข็งแรงคลายลง ปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ แต่ทันทีที่แม่ตัวแสบตั้งตัวได้ คุณเธอก็ออกแรงผลักจนหนุ่มแข็งแรงอย่างเขาก้นจ้ำเบ้าลงพื้น

“เฮ้ย! อะไรกัน”

“ฉันไม่มีวันเชื่อคุณหรอก จำเอาไว้อย่ามายุ่งกับฉันอีก ฉันเกลียดคุณ!”

ร่างบางด่าเสร็จก็ฉวยแว่นกันแดดของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง แล้วรีบผุนผันออกไปทันที ก่อนที่ตาบ้าจะตั้งหลักได้

“ยัยบ้าเอ๊ย! แสบใช่ย่อย จะบอกอะไรให้ ถ้าผมทำอะไรคุณจริงๆ อย่าว่าแต่วิ่งเลย แม้แต่ลุก จะลุกจากเตียงไหวหรือเปล่าก็ยังไม่รู้!”



ภัทรศยาภายังร้องไห้ไม่หยุด หลังกลับมาจากคอนโดของเดนนิส หญิงสาวก็ตรงเข้าไปอาบน้ำ ขัดถูทุกสัดส่วนให้สะอาดที่สุด จนมานอนเศร้าอยู่บนเตียงนอนแล้วก็ยังไม่หยุดร้องไห้เสียที

ไม่น่าเลย...เธอไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย

หญิงสาวนึกย้อนไปที่หน้าผับ ซึ่งเธอไปดื่มฉลองให้กับเพื่อนนางแบบคนหนึ่งที่กำลังจะโกอินเตอร์ จนแยกย้ายกันกลับ ภัทรศยาภาเดินหารถยนต์ของตนเอง ด้วยความเมาจึงจำไม่ได้ว่าจอดไว้ตรงไหน เดินเรื่อยมาก็เห็นรถยนต์ของวิรุฬห์ที่เธอจำได้แม่นยำแล่นผ่านมาพอดี แม้จะเมามายแค่ไหน ทว่าความคิดดีๆ ก็ผุดขึ้นมา เธอกะว่าจะแกล้งทำเป็นเซมาขวางหน้ารถเขาเพื่อให้ชายหนุ่มพากลับคอนโด ที่ทำอย่างนี้มิใช่ว่านางร้ายสาวอยากเสียตัวให้กับพระเอกหนุ่ม เธอรู้ดีว่าคนอย่างวิรุฬห์เป็นสุภาพบุรุษพอ ไม่เคยมีข่าวคาวๆ เกิดขึ้น จึงตกลงใจทำตามความคิดของตนเอง แต่เมื่อมายืนขวางหน้ารถแล้วกลับเมาจนหมดสติไปเสีย และสุดท้ายก็มาจบที่บนเตียงกับเดนนิส

“โอย...” หญิงสาวครวญอย่างไม่อยากเชื่อในโชคชะตา ทำไมเมื่อคืนเดนนิสต้องขับรถของวิรุฬห์กลับด้วย ทำให้พลาดท่าแก่เขาจนได้

เธอสู้อุตส่าห์รักษาเนื้อรักษาตัว แม้จะใช้ชีวิตเสเพลอยู่บ้าง นั่นก็เพื่อภาพลักษณ์เรื่องงาน จริงๆ แล้วภัทรศยาภาไม่อยากเสียตัวให้ใครฟรีๆ อย่างนางร้ายคนอื่นๆ แม้แต่การเปิดเผยเรือนร่าง เธอก็ไม่ต้องการ หญิงสาวอยากเก็บไว้ให้เจ้าบ่าวที่เธอรักได้เชยชมเพียงผู้เดียว แต่นายเดนนิสกลับทำลายทุกอย่างลงจนสิ้น ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...

ที่เดนนิสปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรคงเพราะเขาไม่ต้องการจะรับผิดชอบ หากเธอโวยวายออกสื่อขึ้นมา ชีวิตดาวร้ายคงดับสนิท ผู้ชายอะไร ไม่มีดีสักนิด ตอนนี้ภัทรศยาภาก็ได้แต่วาดหวังว่าวิรุฬห์คงไม่ถือสาเรื่องพรหมจรรย์ในคืนวันแต่งงาน ไม่อย่างนั้น ผู้ชายดีๆ ที่อยากร่วมชีวิตด้วยคงหายไปในพริบตา

ไอ้คนเลว! เธอเกลียดเขาที่สุด

ชาตินี้เธอจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก ไม่มีวัน!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ภัทรศยาภาหลุดจากภวังค์ความเคียดแค้น มือบางที่กำผ้าปูที่นอนแน่นคลายออก เพิ่งรู้ตัวว่าเธอกำจนยับยู่ด้วยความโมโหอยู่นานทีเดียว ร่างบางลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องต้อนรับแขกผู้มาเยือนที่รู้ดีว่าเป็นใคร

“ออกมาคุยกับพี่เดี๋ยวนี้เลยค่ะคุณน้องแพม”

เสียงเข้มดุของเชอร์รี่ ผิดวิสัยสาวประเภทสองผู้รักษาภาพลักษณ์ดังขึ้น เจ้าของห้องยืนอึ้งด้วยความงุนงง เกิดเรื่องอะไรขึ้น ปกติเชอร์รี่ไม่เคยดุเธอเสียงลั่นแบบนี้มาก่อน

“มีอะไรหรือคะ”

“ออกมาค่ะ!” สั่งเสร็จ เชอร์รี่ก็เดินแน่วๆ ไปนั่งไขว้ห้างรอที่โซฟาด้านนอก ผู้ที่คิดว่าตนเองตกเป็นจำเลยต้องเดินตามต้อยๆ ออกมาอย่างไม่เข้าใจ

เธอว่าจะหาคนปลอบใจให้คลายความเศร้าเสียหน่อย เชอร์รี่ก็ดันมาดุใส่อีก ทำไมชีวิตถึงเลวร้ายถึงเพียงนี้กันนะ เมื่อไรกัน ที่คนอย่างภัทรศยาภาจะมีความสุขจริงๆ เสียที

ทันทีที่ทรุดกายลงนั่ง หนังสือพิมพ์ก็ถูกวางฉับตรงหน้า พร้อมคำสั่งจากเชอร์รี่

“ดูซะ”

เสียงสั่งทำให้เริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่าใครเป็นจ่ายเงินเดือนใครกันแน่ แต่อย่างไรหญิงสาวก็นับถือเชอร์รี่มาก เขาเปรียบเสมือนผู้ให้ชีวิตใหม่แก่เธอก็ว่าได้

ภัทรศยาภากวาดตามองข่าวในหน้าบันเทิงลวกๆ เพียงไม่นานก็พบภาพหนึ่งที่ทำให้ใจแทบร่วง นั่นมันภาพของเดนนิสที่กำลังอุ้มเธอขึ้นรถ!

ไล่สายตามาที่ข้อความก็พบสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่า

…‘เดนนิส’ อุ้มนางร้ายสาว ฉกเลี้ยวเข้าคอนโด...

พาดหัวข่าวว่าน่าตกใจแล้ว รายละเอียดของข่าวน่าตกใจยิ่งกว่า เพราะบอกชนิดละเอียดยิบอย่างน่ากลัว ‘ผู้หวังดี’ ตรงไหน? ได้พบเห็นเดนนิสอุ้มเธอขึ้นรถ เมื่อสะกดรอยตามไปจึงพบว่า ชายหนุ่มพาเธอไปยังคอนโดของเขา

“บอกพี่หน่อยสิคะ นี่มันอะไรกัน”

“คือว่า...แพม”

“ไหนบอกพี่ว่าจะไปฉลองให้ซาร่า แล้วทำไมถึงไปต่อกับเดนนิส”

“พี่เชอร์รี่ฟังแพมก่อนนะคะ แพมไม่ได้ตั้งใจจะไปกับเขา”

“โอเคค่ะ เล่าทุกอย่างมาให้พี่ฟัง” เชอร์รี่บอกพลางถอนหายใจเฮือกอย่างหนักใจ ข่าวคาวๆ แบบนี้มีแต่จะดับลูกเดียว เขาไม่ต้องการให้ดาราสาวที่ปั้นมากับมือต้องกลับไปสู่จุดเดิมอีก

“แพมเมาค่ะ เห็นว่าเป็นรถของวิรุฬห์จึงกะจะให้เขาพามาส่งคอนโด แต่กลายเป็นว่าเดนนิสขับรถคันนั้นมา แล้วตอนนั้นแพมไม่ไหวแล้วจึงเมาพับไป นายเดนนิสจึงฉวยโอกาสกับแพม” หญิงสาวเล่ามาถึงจุดนี้ น้ำตาก็ไหลพรากออกมาอย่างสุดกลั้น

“โถ! เพราะอยากได้วิรุฬห์เป็นแฟนแท้ๆ เชียว ถึงต้องมาเกิดเรื่องเกิดราวแบบนี้ แล้วนี่เดนนิสว่ายังไงบ้าง เขาจะรับผิดชอบน้องแพมไหม” เชอร์รี่ก็ถามไปอย่างนั้นเอง เขาพอจะรู้อยู่ว่าเดนนิสใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ เปลี่ยนผู้หญิงง่ายยังกับเปลี่ยนเสื้อผ้า ดารา นางแบบก็คงเสร็จชายหนุ่มไปหลายคน อย่างนี้จะมารับผิดชอบอะไรกับภัทรศยาภา ที่ก็ไม่ได้มีอะไรต่างกับผู้หญิงพวกนั้น

“หึ! นายนั่นเลวมากๆ ค่ะพี่เชอร์รี่ พอแพมโวยวาย เขาก็แก้ตัวว่าแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย นายเดนนิสคงกลัวว่าแพมจะเรียกร้องให้รับผิดชอบ ผู้ชายอะไร เลวที่สุด” หญิงสาวด่าอย่างเคียดแค้นใจ

“หรือว่าเขาจะแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณน้องแพมเฉยๆ”

“พี่เชอร์รี่คิดเหรอคะว่าเสือผู้หญิงอย่างเดนนิส จะปล่อยให้แพมนอนทอดร่างอยู่เฉยๆ โดยตัวเองไปนอนที่โซฟาอะไรทำนองนี้ นี่ไม่ใช่ละครนะคะ ที่สำคัญ นายนั่นไม่ใช่พระเอกด้วย ถ้าเป็นวิรุฬห์ แพมยังพอเชื่อบ้าง”

“ก็จริงค่ะ” ผู้จัดการส่วนตัวหัวใจสาวพยักหน้าหงึกๆ อย่างเห็นด้วย

“แพมไม่ได้ทำตัวเหลวไหลนะคะ แพมจะทำลายชีวิตตัวเองทำไม นายเดนนิสนั่นต่างหากที่ทำลายชีวิตแพม”

“เฮ้อ...” เชอร์รี่ถอนหายใจออกมาแรงๆ เขายังคิดไม่ตกว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ลงตัวได้อย่างไร ข่าวลงหนังสือพิมพ์ทุกฉบับแบบนี้ ทางผู้ใหญ่คงเพ่งเล็งภัทรศยาภาแล้ว

“พี่เชอร์รี่ต้องช่วยแพมนะคะ แพมไม่เหลือใครแล้ว” หญิงสาวขอร้องเสียงอ่อนอย่างน่าสงสาร หลังพาตัวเองมานั่งที่โซฟาตัวเดียวกับผู้จัดการสาวประเภทสอง เอียงหน้าซบลงที่ไหล่อย่างคนต้องการที่พึ่ง

“พี่ไม่ทิ้งคุณน้องแพมหรอกค่ะ” เชอร์รี่ปลอบใจพลางลูบศีรษะหญิงสาวเบาๆ ภัทรศยาภามีชีวิตที่น่าสงสารมามากพอแล้ว เขาจะไม่มีวันให้ผู้ที่เปรียบเหมือนน้องสาวต้องจมดิ่งลงสู่เหวนรกดังเดิมอีกเป็นแน่

“ขอบคุณนะคะ แล้วแพมควรทำยังไงต่อดีคะ แพมกลัว”

“ไม่ต้องทำอะไรค่ะ”

“หมายความว่ายังไงคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างงุนงง

“คุณน้องแพมไปพักผ่อนก่อนดีกว่าค่ะ เรื่องนี้พี่จะจัดการเอง”

“จัดการ...จัดการยังไงคะ”

“ให้เป็นธุระของพี่เถอะค่ะ เชื่อใจพี่นะคะ” เชอร์รี่ลูบมือบางเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ จนนางร้ายสาวยอมพยักหน้ารับแต่โดยดี


///////////////////////////////////////////////////////////////////////////

โอ้....เดนนิสช่างเป็นพ่อพระเสียจริงๆ
มาลุ้นกันนะคะว่าพี่เชอร์รี่จะจัดการให้ดีขึ้นหรือยุ่งเหยิงยิ่งกว่าเดิม อิอิ




จรดปลายรุ้ง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.พ. 2556, 08:12:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.พ. 2556, 08:12:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1708





<< บทนำจ้า - แรกพบก็ผิดฝาเสียแล้ว 100 %   บทที่ 2 งานเข้า!!! >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account