มลทินสวาทมาเฟีย
เขาต้องก้าวเข้ามาเป็น ‘มาเฟีย’ เพราะถูกบังคับด้วยคำว่า ‘ความกตัญญู’ ต้องหันหลังให้ชีวิตสุขสงบ มาผจญกับคนเลวสารพัดรูปแบบ มือต้องเปื้อนเลือด เท้าต้องเดินข้ามซากศพของศัตรูและคู่แข่ง เพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าพ่อมาเฟียแห่งเกาะฮ่องกง
เธอคือลูกสาวของอดีตหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่โดนลูกน้องคนสนิททรยศจนถูกฆ่าตาย เมื่อขาดผู้ปกป้องเธอจำต้องเข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงาของเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ บุญคุณของเขามากมายล้นฟ้า หากต้องแลกด้วยชีวิตและพรหมจรรย์เพื่อตอบแทนบุญคุณเธอก็พร้อมยอมทำ

Tags: นิยาย มาเฟีย รวิญาดา ผการุ้ง

ตอน: ตอนที่ 3. เจ้าพ่อมาเฟีย 100%

ตอนที่ 3. เจ้าพ่อมาเฟีย 100%



รถตู้สีขาวคันหนึ่งแล่นไปบนถนน ภายในรถคันนั้นมีร่างของผู้หญิงสองคนเด็กชายคนหนึ่งและชายแก่คนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นสารถี นำพาสามแม่ลูกตระกูลจางออกมาจากบ้านของซื่อเหวินหลัวหนึ่งในสมาชิกอาวุโสคนสำคัญคนหนึ่งของแก๊งค์มังกร โดยไม่ได้บอกกล่าวเจ้าของบ้านให้รับรู้ด้วยเกรงอีกฝ่ายจะพลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วย หลังจากสามแม่ลูกได้รับความช่วยเหลือให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคนทรยศอย่างหย่งเซิ่ง ที่นำสมุนของตนบุกเข้าไปถล่มบ้านตระกูลจางสังหารจางเหวินหัวหน้าแก๊งค์มังกร เพื่อแย่งชิงอำนาจและก้าวขึ้นเป็นผู้นำของแก๊งค์มังกร

“หลินหลิน เราจะไปอยู่ที่ไหนกันลูก” นางกุ้ยหลันผู้เป็นมารดาเอ่ยถามบุตรสาวที่นั่งเงียบมาตลอดทาง

จางหลินหลินหญิงสาวในวัยยี่สิบ หันมามองหน้ามารดาที่นั่งอยู่ด้านหลังของรถพร้อมน้องชายที่นอนหลับซบบนตักมารดา ดวงตาเรียวยาวทอดมองคนในครอบครัวทั้งสองด้วยแววตาอ่อนโยน

“หนูจะพาแม่กับอาหลงออกนอกประเทศค่ะ เรามีบ้านพักที่คุณพ่อซื้อไว้ที่อังกฤษ ถ้าเราไปถึงที่นั่นเราจะปลอดภัยค่ะ”

“แล้วพวกนันมันจะตามไปทำอะไรเราไหมลูก ตอนนี้เราไม่มีใครดูแลแล้ว คุณพ่อก็...” คนเป็นแม่น้ำตาคลอเมื่อนึกถึงสามีที่จากไป

จางเหวินเป็นหัวหน้าแก๊งค์มังกรมาสี่ปีแล้ว ปีนี้เขาจะออกจากตำแหน่งตามข้อตกลงของแกนนำของแก๊งค์ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนกันขึ้นดำรงตำแหน่งคนละสี่ปี แต่หย่งเซิ่งหนึ่งในแกนนำที่อยู่ในอันดับสุดท้ายกลับรอคอยการขึ้นสู่อำนาจไม่ไหว เขาจัดการส่งคนไปลอบสังหารหยวนเปียวผู้ซึ่งจะมารับตำแหน่งแทนจางเหวินและคืนเดียวกันนั้นก็นำกำลังบุกถล่มบ้านตระกูลจางสังหารหัวหน้าแก๊งค์คนปัจจุบัน ปัดกวาดคนที่ขวางทางให้ลงนรกอย่างเหี้ยมโหด โดยไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีตที่จางเหวินเคยส่งเสริมอดีตลูกน้องคนนี้ ให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นหัวหน้าแกนนำของแก๊งค์แม้แต่น้อย

“แม่คะ หนูจะพยายามขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคุณพ่อนะคะ คุณลุงฟรานเชสโก้ท่านเคยบอกว่ายินดีช่วยเหลือเราทุกอย่าง” หลินหลินบอกให้มารดาคลายใจ

หญิงสาวซ่อนความหนักใจไว้ภายใต้ท่าทางเรียบนิ่งอย่างคนที่รู้จักควบคุมอารมณ์ ขอเพียงเธอสามารถพามารดากับน้องชายออกจากฮ่องกงได้อย่างปลอดภัย เธอยินดีเสียสละความสุขทั้งชีวิตของตัวเองยอมแต่งงานกับริคคาโด้ ลูกชายของฟรานเชสโก้มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลของอิตาลี่ ตามที่อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอแลกกับการให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเธอ อำนาจบารมีของฟรานเชสโก้จะเป็นเกราะคุ้มกันภัยให้แม่กับน้องของเธอได้ หลินหลินจำต้องเลือกทำแบบนี้

“แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องแม่กับอาหลง” หญิงสาวให้สัญญากับมารดาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จริงจังย้ำชัดถึงความตั้งใจจริงของตน

กุ้ยหลินพยักหน้าให้ลูกสาว สีหน้าผ่อนคลายความตึงเครียดลง นางหันไปดูแลลูกชายที่นอนหลับอยู่บนตัก ลูบศีรษะของจางหลงเบาๆ ด้วยความห่วงใย หลายปีที่ผ่านมานางแทบไม่ได้ดูแลลูกชายกับลูกสาวเลย จางเหวินส่งลูกทั้งสองไปอยู่อังกฤษตั้งแต่ชั้นประถม ให้เรียนโรงเรียนประจำเพื่อความปลอดภัยของลูกๆ นางจะได้พบหน้าลูกเพียงปีละสองครั้งในช่วงปิดเทอม แต่สี่ปีที่ผ่านมาจางเหวินไม่ยอมให้ลูกกลับมาบ้าน เขาห่วงความปลอดภัยของลูกๆ เกรงว่าจะกลายเป็นเป้าให้ศัตรูทำร้าย ตำแหน่งหํวหน้าแก๊งค์มังกรทำให้ครอบครัวของนางต้องอยู่บนความหวาดระแวง อำนาจในมือไม่ได้ช่วยให้คนมีอำนาจอยู่อย่างสงบสุข แต่กลับสร้างความทุกข์และความพินาศให้ เมื่อคนที่ต้องการแย่งชิงอำนาจส่งคนมาทำร้าย นางได้แต่หวังว่าตัวเองและลูกๆ จะหนีพ้นจากคนชั่วเหล่านี้ บั้นปลายชีวิตจะได้พบกับความสงบสุขเสียที

“คุณหนูครับ มีรถตามเรามาครับ”

อาจงคนขับรถชะลอความเร็วของรถ เมื่อเห็นรถคันหนึ่งแล่นตามหลังมา ถนนช่วงนี้ห่างจากตัวเมือง ค่อนข้างร้างผู้คน ประสบการณ์ยาวนานจากการติดตามจางเหวินผู้เป็นนาย ทำให้อาจงระแวงตามสัญชาติญาณของนักฆ่า แม้เขาจะย่างเข้าสู่วัยชราแต่ก็ใช่จะหมดพิษสง ชายแก่ดึงปืนที่เหน็บเอวออกมาถือไว้ ประคองพวงมาลัยรถด้วยมือข้างเดียว ขณะหันมาบอกคุณหนูใหญ่ของตน ที่หยิบปืนออกมาเช่นกันว่า

“ระวังตัวด้วยครับคุณหนู ผมจะขับให้เร็วขึ้น ถ้ารถคันนั้นไม่ใช่รถของพวกมัน คงไม่ตามเราไปแน่” อาจงตัดสินใจเร่งความเร็วของรถ

หลินหลินกระชับปืนในมือแน่น หันมามองมารดาและน้องชายที่ตื่นขึ้นมาจากเสียงเรียกอย่างห่วงใย “อาหลง ดูแลแม่ด้วย” เธอบอกน้องชายเสียงกร้าว

เด็กชายพยักหน้าให้พี่สาว ด้วยวัยเพียงสิบสองแต่จางหลงเคยถูกบิดาเคี่ยวเข็ญให้ฝึกการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กๆ พร้อมพี่สาวจึงมีทักษะพอตัว แม้ไม่ได้เก่งกาจมากมายนักก็สามารถปกป้องดูแลตนเองได้ระดับหนึ่ง เด็กชายดึงปืนกระบอกเล็กจากเอวมาถือไว้ มืออีกข้างกุมมือมารดาเหมือนต้องการปลอบโยนให้คลายความหวาดหวั่น

รถที่แล่นตามหลังมาเร่งความเร็วจนตามติดด้านหลัง ส่อแววอันตรายอย่างที่หวาดระแวง หลินหลินหันไปมองกระจกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มือน้อยจับปืนจนเหงื่อซึม หัวใจเต้นรัวด้วยความเครียดจัด ไม่นึกว่าคนของหย่งเซิ่งจะหูไวตาไวถึงขนาดนี้ เธอกับครอบครัวเลือกเดินทางออกจากบ้านตระกูลซื่อในช่วงค่ำ แอบลอบออกมาโดยไม่บอกให้ซื่อเหวินหลัวรู้ เกรงจะมีสายของหย่งเซิ่งแฝงตัวอยู่

เปรี๊ยง เปรี๊ยง เปรี๊ยง !!!

รถที่ตามมาเริ่มเปิดฉากระดมยิงเข้าใส่รถคันหน้า เมื่อมาถึงบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำซึ่งปลอดผู้คน เป้าหมายคือการทำให้รถเสียหลักเพราะจงใจยิงใส่ล้อรถ ซึ่งได้ผลยางรถถูกกระสุนเจาะจนยางแบนไปข้างหนึ่ง รถที่แล่นด้วยความเร็วสูงเสียหลักตกลงจากสะพาน ลงสู่แม่น้ำเบื้องล่าง

ตูม!!!

รถตู้ดิ่งลงกระแทกผืนน้ำจนน้ำแตกกระจาย ความหนักและแรงกระแทก ทำให้รถจมดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำอย่างรวดเร็ว คนในรถพยายามตั้งสติหาทางออกจากรถ เพื่อเอาตัวรอด แรงอัดของน้ำทำให้ประตูเปิดไม่ออก จำเป็นต้องทุบกระจก นั่นทำให้น้ำจากด้านนอกรถ ไหลทะลักเข้ามาภายใน หลินหลินพาตัวเองมุดผ่านช่องหน้าต่างรถออกมา หญิงสาวใช้ด้ามปืนทุบกระจกรถเพื่อช่วยให้มารดากับน้องชายออกมาจากรถ อาจงเองก็ช่วยพยุงนายหญิงที่หมดสติจากการตกลงมาเมื่อครู่ พร้อมนายน้อยของตนที่พากันช่วยพยุงให้ขึ้นสู่ผิวน้ำโดยเร็ว ปล่อยคุณหนูใหญ่อย่างหลินหลินว่ายน้ำเพียงลำพัง

หญิงสาวขยับกายแหวกน้ำพาตัวเองตามติดแม่และน้องชายเพื่อขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งเมื่อขาข้างหนึ่งของเธอเกิดเป็นตระคริวขึ้นมา ผืนน้ำมืดมิดจนอาจงไม่เห็นว่าเธอกำลังจะจมน้ำ หลินหลินรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายพยุงตัวเองไม่ให้จมดิ่งลงไป อากาศกำลังจะหมดลงร่างบางดิ้นทุรนทุรายแสบร้อนไปทั้งอก ลมหายใจเฮือกสุดท้ายถูกพ่นออก พร้อมกับสติรับรู้ที่กำลังจะขาดหายไป

“คุณพ่อ... ช่วยหนูด้วย...” เธอเรียกหาบิดาอย่างคนสิ้นหวัง

ร่างบอบบางสิ้นเรี่ยวแรงพร้อมกับอนุสติสุดท้ายกำลังหลุดลอยออกจากร่าง หลินหลินหลับตาลงปลดปลงกับชะตากรรมของตัวเอง ก่อนจะสิ้นการรับรู้ร่างน้อยก็ถูกมือหนาของใครคนหนึ่งโอบรัดไว้ หญิงสาวสะดุ้งกับสัมผัสนั้นสติเริ่มกลับคืน หัวใจเต้นแรงด้วยความหวังเมื่อรู้ว่ามีคนมาช่วยเธอจากเงื้อมมือมัจจุราชแล้ว ดวงตาคู่สวยลืมขึ้นอย่างยากลำบาก ใต้น้ำมืดมิดเกินไปจนมองไม่เห็นอะไร รับรู้ได้เพียงแต่สัมผัสของคนตัวโตที่กำลังพาร่างของเธอขึ้นสู่เบื้องบน สติสุดท้ายหลุดหายไปเมื่อร่างบางโผล่พ้นผิวน้ำ

ร่างหนาของหลี่เจิ้งค่อยๆ ประคองร่างบางของหญิงสาวขึ้นจากน้ำ เขาอุ้มร่างไร้สติวางบนตลิ่งแล้วหันไปมองรอบกาย ก่อนจะถอนหายใจแรงเมื่อได้ยินเสียงปืนยังดังลั่นจากการปะทะของลูกน้องของเขากับคนของหย่งเซิ่งที่ดังอยู่ไม่ไกล จุดปะทะห่างจากบริเวณนี้หลายสิบเมตร มาเฟียหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่เขาเพิ่งช่วยขึ้นมาจากน้ำ ความมืดของราตรีทำให้มองใบหน้าของเธอไม่ชัด แสงสว่างของดวงจันทร์วันเพ็ญส่องลฃงมาบางตามองเห็นเป็นเงาสลัวราง เขาแตะชีพจรที่บริเวณคอของเธอมันเต้นแผ่วมาก ท้องป่องขึ้นเล็กน้อยคงกินเข้าไปเยอะ หลี่เจิ้งขยับลุกขึ้นพลิกร่างของเธอให้นอนคว่ำ โดยเอามือของเธอสอดใต้ท้องแล้วยกมือของเธอดันหน้าท้องยกชายโครงให้สำรอกน้ำออกมา หญิงสาวกระตุกเกร็งและสำรอกน้ำออกมาหลายครั้ง แต่ยังไม่ยอมฟื้น

หลี่เจิ้งพลิกร่างไร้สติให้นอนหงาย ก่อนจะตัดสินใจปฐมพยาบาลเบื้องต้น ด้วยการผายปอด... ฝ่ามือหนาช้อนใต้ต้นคอเล็กยกให้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มือข้างหนึ่งบีบจมูกเล็กนั้นไว้ แล้วครอบริมฝีปากของตัวเองบนเรียวปากของเธอ พ่นลมร้อนๆ อัดลงไปอยู่หลายครั้ง ก่อนจะถอนปากออกสูดลมหายใจเข้าแล้วทำแบบเดิมซ้ำๆ

หลินหลินค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตาเรียวยาวกะพริบแรง สติเริ่มแจ่งชัดขึ้นทีละน้อย รับรู้ถึงอากาศร้อนๆ ที่ผ่านเข้าสู่คอของเธอ ใบหน้าของใครคนหนึ่งอยู่ใกล้หน้าเธอ ริมฝีปากของเขาประทับบนเรียวปากบางของเธอแนบสนิท ลมร้อนๆ ส่งผ่านเข้ามาในคอของเธอหลายต่อหลายครั้ง หลินหลินรับรู้ถึงฝ่ามือหนาที่ประคองต้นคอเธอและจมูกที่เจ็บจี๊ดเมื่อถูกปลายนิ้วบีบไว้แน่น หญิงสาวเริ่มรู้สึกอึดอัดเมื่ออากาศในร่างกายไม่ได้ถูกระบาย

แคก แคก แคก !!!

เมื่อริมฝีปากหนาคลายออก หลินหลินก็ไอเสียงดัง ขยับกายนอนตะแคงสำรอกน้ำออกมาอีก หญิงสาสูดลมหายใจแรงเติมอากาศที่ขาดหายไปสู่ปอด ก่อนจะเริ่มหายใจเป็นปกติอีกครั้ง

“เป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น พร้อมกับวงแขนแข็งแรงประร่างของเธอให้ลุกขึ้นนั่ง ฝ่ามือหนาลูบแผ่นหลังไปมา คล้ายปลอบโยนให้หายตกใจ

หลินหลินเงยหน้าขึ้นมองผู้ช่วยชีวิตของเธอ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของเขา แม้แสงจะไม่สว่างมากแต่พอเห็นโครงหน้ารางๆ ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ฝังอยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดสี่ปี เขาคือชายหนุ่มที่เธอเคยเจอที่โรงพยาบาลนั่นเอง

“คุณ... คุณช่วยฉันไว้เหรอคะ” เสียงของเธอแหบพร่าตะกุกตะกัก จากความตื่นเต้นแกมประหม่า

“ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม” ร่างสูงลุกขึ้นยืน ส่งมือช่วยดึงหญิงสาวให้ลุกขึ้นตาม น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งไม่อ่อนโยนนุ่มหูเหมือนเมื่อครู่

หลินหลินดึงมือออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่มอย่างขัดเขิน แก้มนวลร้อนวูบขึ้นมา ทั้งๆ ที่เนื้อตัวเย็นและเปียกชื้น

“เสียงปืนเงียบไปแล้ว คนของฉันคงจัดการพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว”

หลี่เจิ้งหันไปมองยังจุดที่มีการปะทะ เขาจับข้อมือของหญิงสาวพาเดินไปยังริมถนน เมื่อเห็นลูกน้องของเขานำรถแล่นมาจอดที่ข้างแม่น้ำ มาเฟียหนุ่มพยักหน้าให้ลูกน้องที่เปิดประตูรอ

“สถานะการณ์เป็นยังไงบ้าง” เขาเอ่ยถามหลังจากพาตัวเองและหญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถแล้ว

“คนของเราจัดการคนของหย่งเซิ่งเรียบร้อยแล้วครับ” ลูกน้องของเขารายงาน

“แม่กับน้องของฉัน...” หลินหลินถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เมื่อครู่เธอเพิ่งฟื้นจากจมน้ำสมองเบลอจนจำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ถึงได้ตั้งสตินึกอะไรออก ความห่วงใยมารดาและน้องชายแล่นเข้ามาจนร้อนรนไปหมด

“ใจเย็นๆ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปหาพวกเขา” หลี่เจิ้งกุมมือบางไว้ ปลอบโยนคนตื่นตระหนกให้คลายกังวล

ทันทีที่รถจอด หลินหลินก็รีบเปิดประตูลงมา หญิงสาวมองหาแม่กับน้องชายด้วยความห่วง ก่อนจะวิ่งไปหาอาจงกับน้องชายที่ยืนอยู่ ใบหน้าของจางหลงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ทำให้คนเป็นพี่ใจหายวาบ หัวใจหล่นไปกองบนพื้นเมื่อสายตามองเห็นร่างผู้ให้กำเนิดนอนนิ่งอยู่บนพื้น

“แม่ แม่คะ แม่เป็นอะไร” หลินหลินทรุดตัวลงประคองร่างมารดามากอดไว้แน่น เนื้อตัวเย็นชืดที่สัมผัส ทำให้หัวใจคนเป็นลูกตื่นตระหนก หญิงสาวหันไปมองน้องชายกับอาจง “อาจง อาหลงแม่เป็นอะไร”

“ผมขอโทษครับคุณหนู ผมช่วยคุณผู้หญิงไว้ไม่ทัน” อาจงปาดน้ำตาเอ่ยเสียงแผ่วโหย ดวงตาของชายชราระริกไหวด้วยความเสียใจ “คุณผู้หญิงถูกพวกมันยิงครับ”

“พี่หลินหลิน แม่จากเราไปแล้ว” จางหลงบอกพี่สาวทั้งน้ำตา

เด็กชายเข้ามากอดพี่สาวไว้แน่น ซบหน้ากับไหล่ของเธอพร้อมกับร้องไห้เสียงดัง เหตุการณ์ร้ายเมื่อครู่ยังฝังอยู่ในหัว ตอนที่คนร้ายระดมยิงเข้าใส่รถนั้น เขาเห็นมารดาสะดุ้งเฮือกซบตัวลงมากโอบกอดเขาไว้แน่น ท่านโดนยิงก่อนรถจะตกลงไปในน้ำ เมื่อเขากับอาจงพาร่างของมารดาขึ้นจากน้ำก็พบว่าไม่หายใจแล้ว พวกคนร้ายได้สังหารมารดาของเขาเหมือนที่สังหารบิดาของเขาก่อนหน้านั้น เด็กชายได้แต่เก็บความแค้นไว้ในใจ เมื่อไม่อาจจัดการคนชั่วได้ตามใจคิด

“หลินหลิน อาหลง ลุกขึ้นได้แล้ว” หลี่เจิ้งเดินตรงมาดึงแขนสองพี่น้องให้ลุกขึ้น เขาพยักหน้าให้ลูกน้องมาพาร่างของมารดาของทั้งคู่ไปวางไว้ริมตลิ่ง

“คุณจะทำอะไรกับคุณแม่” หลินหลินสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม ผวาตามร่างของมารดาแต่ถูกหลี่เจิ้งรั้งแขนไว้อีก

“การตายของแม่เธอจะไม่สูญเปล่า ฉันจำเป็นต้องปล่อยแม่เธอไว้ที่นี่ เพื่อให้พวกของหย่งเซิ่งเข้าใจว่าเธอสามแม่ลูกได้ตายไปจากโลกนี้แล้ว” หลี่เจิ้งบอกหญิงสาวเสียงขรึม

“ไม่นะ ฉันไม่ยอมให้แม่ถูกทิ้งไว้แบบนี้” หลินหลินสะบัดตัวดิ้นรนให้หลุด เมื่อเห็นคนของหลี่เจิ้งค่อยหย่อนร่างของมารดาลงไปในแม่น้ำ

จางหลงเองก็พยายามสะบัดตัวหนี จนหลี่เจิ้งต้องให้ลูกน้องคนหนึ่งจับตัวไว้ อาจงเป็นคนเดียวที่ยังสงบนิ่งเมื่อเข้าใจเจตนาของมาเฟียหนุ่ม ชายแก่เดินเข้ามาจับไหล่ของคุณหนูของตนไว้

“คุณหนูใหญ่ อย่าทำให้คุณเจิ้งลำบากใจเลยครับ คุณเจิ้งกำลังช่วยคุณหนูกับคุณชายน้อยอยู่นะครับ”

“ไม่ ฉันไม่ยอมทิ้งคุณแม่ ปล่อยฉันสิอย่าให้เขาทำกับคุณแม่แบบนั้น”

หญิงสาวไม่ยอมฟัง ดิ้นรนแรงขึ้นเมื่อเห็นร่างของมารดาจมลงสู่แม่น้ำต่อหน้า หัวใจของคนเป็นลูกเจ็บจนแทบแหลกสลาย ความสูญเสียครั้งนี้หนักหนาเกินแบกรับไหว หัวใจถูกบีบคั้นอย่างสาหัสจนเกินทน

“ไม่ กรี๊ด!!!” หลินหลินหวีดร้องสุดเสียง ก่อนจะทรุดฮวบสิ้นสติไปในอ้อมแขนของหลี่เจิ้ง

มาเฟียหนุ่มถอนหายใจแรง โอบประคองร่างบางมาแนบอก รู้สึกเห็นใจในโชคชะตาของเธอนัก วงการนี้อยู่ยากเหลือเกิน หากไม่ฆ่าเขาก็อาจโดนเขาฆ่า หากอ่อนแอก็ยากนักจะมีชีวิตยืนยาว เขาทอดสายตามองใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาวอย่างเวทนา ก่อนจะช้อนอุ้มร่างบางพาเดินขึ้นรถไป

“หลินหลิน ต่อไปนี้ฉันจะดูแลเธอเอง...” เขาบอกกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล มือหนาลูบศีรษะหญิงสาวอย่างอ่อนโยน

ฟ้าลิขิตให้เขาได้พบกับเธอ โชคชะตากำลังนำพาเธอให้ก้าวเข้ามาอยู่ภายใต้การปกป้องของเขา หลี่เจิ้งไม่อาจรู้ได้เลยว่าเด็กสาวคนนี้จะกลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งในชีวิตของเขาในอนาคต...

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ
รวิญาดา/ผการุ้ง



รวิญาดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.พ. 2556, 23:12:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.พ. 2556, 23:19:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 12590





<< ตอนที่ 3. เจ้าพ่อมาเฟีย 80%   ตอนที่ 4. สู่ร่มเงาตระกูลหลี 100% >>
เคสิยาห์ 16 ก.พ. 2556, 23:33:47 น.


คิมหันตุ์ 17 ก.พ. 2556, 01:41:09 น.
ยังไงต่อหล่ะเนี่ย?


เอื้อสิริ 17 ก.พ. 2556, 21:57:03 น.
เข้ามาอ่านแล้วจ้า


แว่นใส 17 ก.พ. 2556, 22:48:25 น.
มีเมียเด็กนะเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account