รักหลัง...วันวิวาห์
หล่อนไม่ได้ชอบผู้หญิง แต่ไม่ได้รักผู้ชาย และเกลียดเกย์ที่สุด

เขาไม่ชอบผู้ชาย แต่ไม่ได้รักผู้หญิง และไม่ปฏิเสธทอม

แล้วทั้งสองจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องมาแต่งงานกัน




หากเป็นโลกนิยายรักหวานหยดคงปิดท้ายด้วยฉาก
ที่หล่อนกำลังเผชิญ แต่นี้ชีวิตจริงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันแค่การเริ่มต้น ตอนจบจะงดงามตระการตา หรือโศกสลดยิ่งกว่านิยายฆาตรกรรม หล่อนคงได้แต่ปล่อยวาง แต่หญิงซันไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค อะไรจะมาก็เชิญ


ในเมื่อสวรรค์มีอำนาจกำหนดคู่ชีวิต หล่อนก็มีสิทธิสร้างสรรค์ส่วนที่เหลือด้วยกำลังสติปัญญา



“แล้วเจ้าสาวแกเป็นไง พอจะทำให้แกหันมาชอบผู้หญิงได้มั้งเปล่าวะ"
“รู้จักกันมาแต่เล็ก น่าจะรู้ว่าฉันไม่ได้ชอบผู้หญิง"
“แกนะเฮ้อ บ้าชัดๆ คนอย่างแกก็มีในโลกนี้ด้วย แล้วอย่างนี้น้องเขาไม่ตกนรกทั้งเป็นเหรอว่ะ แต่งกับคนอย่างแกนะ รู้ว่าไม่ชอบแต่ก็ยังไปรับหมั้น ทำตามคำขอของแม่ไม่ผิดหรอก แต่แกกำลังทำร้ายผู้หญิงไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกคนเลยนะ"
“พูดไปนายอาจหาว่าฉันแก้ตัว แต่จะบอกให้รู้ ว่าที่เจ้าสาวฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย"
“ว่าไรนะ"
“ได้ยินไม่ผิดหรอก"
“แล้วแกสองคนก็แต่งกันทั้งที่ทั้งคู่ไม่มีทางจะรักกันได้ บ้าพอกันเลยวะ อวยพรให้มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองเลย"
“ทำไมแกไม่คิดอีกอย่าง เพราะการที่ฉันได้แต่งกับคนที่ไม่สามารถรักผู้ชายได้ก็ดีออก อย่างน้อยเธอคนนั้นก็ไม่ไปแย่งผู้หญิงอีกคนที่อาจจะเป็นคนรักของนาย และการที่เขาไม่รักผู้ชายก็ยิ่งดี เพราะก็คงไม่มีทางมารักกันเชิงชู้สาวได้ แต่เราอาจอยู่ร่วมกันในรูปแบบของเพื่อนพี่น้อง ดูแลกันและกัน อยู่กันแบบนั้นอย่างมีความสุข
แม่ฉันแม่เขาก็มีความสุขที่จะเห็นเราแต่งงานกัน เหตุผลแค่นี้ไม่พอที่จะทำให้ฉันตกลงแต่งงานกับเขาอีกเหรอ อีกอย่างถ้าฉันไม่ยอม หม่อมแม่หาใครไม่รู้มา แล้วบังเอิญว่าเธอคนนั้นสามารถรักผู้ชายได้ ฉันไม่เรียกว่าทำร้ายผู้หญิงคนนั้นหรือ"
“ฉันนะอยากให้คนประหลาดอย่างแกตกหลุมรักว่าที่ภรรยาเหลือเกิน แล้วถ้าให้ดี ตอนนั้นขอเจ้าหล่อนยังชอบผู้หญิงอยู่นะ ฉันละจะสมนำ้หน้าแกเลย"
“ไม่หรอก ฉันทิ้งเรื่องความรักเชิงชู้สาวไปนานมากแล้ว มันอาจจะไม่เคยมีติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิดก็ได้"

แม่เจ้า นี่เจ้าพี่รู้จักแต่รักเชิงชู้ชายตั้งแต่จำความได้ แล้วระหว่างที่เราแต่งงานกันเจ้าพี่จะไม่ไปหาเหยื่อนอกบ้านกินเหรอ

Love looks not with the eyes but with the wind ...




เกริ่นไปเยอะแยะมากมาย แต่ดูไม่บอกอะไรเนอะ แต่นี่กำลังจะบอกและ--->
คำเตือน 1 นิยายเรื่องนี้ปราศจากนางร้าย ไร้ฉากรุนแรงและสารตกค้าง อันพาให้จิตใจเศร้าหมอง
2 ชื่อบรรดาตัวละครมาจากจินตนาการอันไร้ทิศทาง แลสถานที่รวมถึงทฤษฎีบ้าบอที่ยกมาควรทำการศึกษาข้อมูลก่อนนำไปใช้
3 อาจได้ฮาเป็นระยะตามอัตภาพ พร้อมหมั่นไส้ตัวละครเป็นพักๆเพราะไม่ได้ดังใจ
สุดท้าย ระวัง...คุณอาจตกลงหลุมรัก...ถ้าคุณขุดมันลึกพอ (เกี่ยวไรกะนิยายปะ อันสุดท้าย...บอกเลยว่าไม่ แค่ทั่วๆไปแหละ )

ถ้าพร้อมแล้วก็...เชิญเลยจ้า
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 2 Romanee-Conti 1/2

บทที่ 2 Romanee-Conti















“เอา Pumpkin Soup แล้วก็ Scallops, homemade pasta with leeks ค่ะ"

“ผมขอกระเพราไก่ไข่ดาวครับ"








หญิงซันเรียกประชุมด่วนทันทีเพื่อนัดแนะจุดนัดพบในการช่วยกันถกปัญหายิ่งใหญ่ระดับชาติ ว่าด้วยเรื่อง" วิธีกำจัดเกย์ ล้มงานวิวาห์" โดยการโทรศัพท์เยือนเพื่อนรักทีละคน ยัยจิ๊บโดนคนแรก

"ว้ายอกอีแป้นจะแตกหล่อนเนี่ยนะจะแต่งงาน"

“เออซิ" สาวหมวยหน้าคมสะบัดเสียงใส่ พร้อมกับร่ายยาวถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆในห้องอาหาร และย้ำให้ปลายสายไปหาหนังสือพิมพ์ดู พร้อมกับขอร้องแกมบังคับให้มาช่วยกันวางแผนในวันรุ่งขึ้น

“เออ ร่วมกับแกมาตั้งแต่แรกแล้วนิ"

เเน่นอนยัยจิ๊บยอมทันที เพราะเจ้าหล่อนเป็นฟรีแลนส์ ทำธุรกิจครอบครัวโรงงานสีข้าวเพื่อการส่งออก ว่างเมื่อไรก็ได้ นอนเฉยๆ ยังมีกินด้วยซ้ำ ในบรรดาเพื่อน จิ๊บนะโชคดีสุด

รายต่อมากีรติ หรือ ครีม ตอนนี้เธอได้เป็นคุณครูดังหวัง เวลาของเธอจึงหมดไปกับการเรียนการสอนเหล่าเด็กน้อยที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ทำให้ว่างเฉพาะเสาร์อาทิตย์ เลยอดหวั่นใจไม่ได้ว่าจะถูกปฏิเสธ แม้ว่าการประชุมลับครั้งนี้หล่อนจะเลือกเอาวันธรรมดาหลังเลิกงานแล้วก็ตาม แต่ผิดคลาดเมื่อหญิงซันเล่าที่มาที่ไปจบ ครีมก็ตบปากรับคำปุบ สมใจหญิงซันยิ่งนัก

สุดท้ายทีเด็ดแม่คุณนี่เก่งสุดในกลุ่ม ทั้งบู๊และบุ๋น ยูโด คาราเต้ได้หมด การเรียนระดับหัวกระทิชาววัง หน้าตาไม่ต้องพูดถึง สวยเฉี่ยวอย่าบอกใคร ชื่อเสียงเรียงนามไพเราะเพราะพริ้ง เหมาะสมกับหล่อนที่สุด พิชชาภรณ์ ชื่อยาวไม่มีชื่อเล่น เลยเรียกกันสั้นๆว่า ยาพิษ เพราะเธอเป็นตัวอันตรายของแท้ ปัจจุบันกำลังเรียนอยู่คณะเเพทย์ เพราะถึงเธอจะร้ายก็ร้ายกับศัตรูที่บังอาจมาล้ำเส้นกันก่อน แต่ถ้าไประรานใครเขา เธอคนนี้ไม่มีวันทำ และด้วยจิตใจอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้พ้นทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ อาชีพนี้ก็จัดว่าเหมาะกับคุณเธอที่สุดแล้ว

“มีไรจ๊ะว่าที่เจ้าสาว" นั่นไง ทักมาคำเเรกก็ตรงจุดจนอาทิตยาถึงกับเงียบไป ผิดกับสองรายก่อนที่รับสายแล้วกล่าวสวัสดี

“แหมการข่าวดีเยี่ยมไม่เปลี่ยนนะ เรียนหมอว่างอ่านหนังสือพิมพ์ ซุบซิบดาราด้วยเหรอ" หล่อนว่าตามจริง นึกมั่นไส้เล็กๆ ได้ข่าวว่าแม่คุณอยู่เวรถึงเที่ยงคืนเกือบทุกวัน เรียนหนักจนกินข้าววันละมื้อ ยังมีเวลาทำอย่างอื่นอีก

“โอ๊ย ข่าวแกนะ พาดตัวโตกินพื้นที่หนึ่งในสี่ของหน้าหนังสือพิมพ์รายวันเชียวนะ สะดุดตาขนาดนั้น และถึงจะแต่งชายฉันก็จำแกได้ แถมสร้อยที่แกใส่ก็กระเด้งออกมาเจิดจรัสล่อตา อีกต่างหาก จะมีผู้ชายคนไหนเขาใส่กันของแบบนี้" หล่อนจำได้ว่าไม่ได้ใส่โชว์ แค่ใส่ติดคอไว้อุ่นใจด้านในเสื้อตลอดเวลาก็เท่านั้น...แล้วถ้าเช่นนี้มันออกมาอย่างไร...และตั้งแต่เมื่อไรกัน

“ถึงกับอึ้งเลยเหรอ ฉันว่าหม่อมเจ้าจันทรมาศว่าที่สามีของแกไม่เบานะ ไม่รู้ซิฉันว่ามันแปลกๆ และจากเรื่องที่แกเล่าลงเฟสบุ๊คกลุ่มลับของพวกเรานี่ จะว่าไงดี แกน่าจะเป็นฝ่ายกำชัยแต่ทุกอย่างกลับพลิกไปหมด พิลึกจริงๆ" อาทิตยาคิดตามก็ต้องยอมรับว่าเป็นอย่างที่คุณยาพิษว่ามา เจ้าพี่จันทรุปราคามาเหนือเมฆสุดๆ ขนาดหล่อนที่เป็นเจ้าแม่วางแผนที่ไม่เคยพลาดซักครั้งยังล้มไปแล้วสอง

“แล้วตกลงแกว่างเปล่า วันพรุ่งนี้ เพราะมะรืนฉันต้องรับศึกซึ่งๆหน้า แถมชนักติดหลังที่บังอาจแต่งชายไปหลอกเจ้าพี่จันทรุปราคานั่นอีก"

“เออว่างก็ได้ เดี๋ยวแลกเวรเอา "

“ขอบใจนะ"

“เออๆ นี่ๆ ยังไม่เป็นแฟนกันแกก็มีนิกเนมให้เขาด้วยน่ารักวะ" หล่อนนึกสงสัยกับคำของคุณเพื่อนได้ไม่นาน เสียงหัวเราะก๊ากดังๆก็เข้ามาในสาย ราวกับมีคนมายืนขำข้างๆ ก่อนจะตามมาด้วยคำเฉลยที่หล่อนได้แต่ส่ายหัวไปมา

“ก็เจ้าจันทรุปราคาไง" บอกแล้วว่าเพื่อนหล่อนคนนี้น่ารัก...น่ารักษา เอาเถอะ ถึงอย่างนี้คุณเธอก็จะมาช่วยเป็นกุนซือให้


ชื่อของหญิงซันไม่ว่าจะชื่อจริงหรือชื่อเล่นหมายถึงดวงอาทิตย์ที่มอบความอบอุ่นให้แก่สรรพสิ่งบนพื้นโลก เธอจึงเป็นผู้ที่ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข ด้วยความเรียบง่ายตรงไปตรงมา แต่ความสบายใจยามอยู่ใกล้เสมือนดังคำสาป ไม่ว่าจะมีผู้ชายเข้ามากี่คน สุดท้ายก็กลายเป็นเพื่อนไปเสียหมด มันไม่ใช่การเลิกราเคล้าน้ำตา แต่เป็นการจบด้วยมิตรภาพ เพราะที่สุดแล้วตัวหล่อนเองก็ไม่สามารถคิดเป็นอื่นกับใครเขาได้เหมือนกัน ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากโรคประหลาดติดตัว"กลัวผู้ชายแบบไร้เหตุผล" ตั้งแต่อยู่อนุบาล จนต้องเข้าทำการรักษาเป็นกิจจะลักษณะอยู่ถึงสามปีจึงดีขึ้นเป็นที่พอใจของทีมแพทย์ เมื่อเด็กหญิงสามารถกลับมาคุยเล่นกับเพื่อนต่างเพศได้บ้าง

แต่อาการก็กำเริบขึ้นอีกช่วงมอปลายด้วยภาพยนต์คู่เกย์เรื่องหนึ่งที่ไม่ได้มีฉากอะไรมากไปกว่าการสัมผัสริมฝีปากอย่างดูดดื่มของชายสองคน ตอนดูแรกๆไม่เป็นไร แต่พอให้หลังมาสองวัน ดันเจอของจริงเข้ากับตาระหว่างเพื่อนชายและอดีตแฟนคนแรก จำได้ว่าหญิงซันอาเจียนยู่ตรงนั้นก่อนจะวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนหาแก๊งเพื่อนรักที่งงเป็นไก่ตาแตกว่าหล่อนไปมุดอะไรมากลิ่นถึงเน่าแบบนี้ และนับจากนั้นมาบรรดาสมัครพรรคพวกก็รู้เรื่องความกลัวผู้ชายขึ้นหัวของหญิงซันจนเอามาเล่นเป็นมุขตลกฮาครืนกันอยู่หลายวัน โดยที่เจ้าหล่อนนั่งนิ่งหน้าบูด

หลังจากนั้นอาทิตยาก็ยังสามารถคบหาดูใจกับใครจนคบเป็นแฟนได้บ้าง ทว่าอยู่กันไม่นานก็ลาจาก แต่ก็ยังสามารถกลับมาเป็นพูดคุยกันได้เหมือนเดิมทุกราย นับมาถึงปัจจุบันก็ปาเข้าไปห้าคน ตั้งแต่มอปลาย จนจบมหาลัย

และรายสุดท้ายที่เพิ่งเซโน หล่อนถึงอุบัติคำขวัญใหม่ เกลียดผู้ชายยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ เพราะหลังจากเลิกกันวันเดียว แฟนเก่าก็ควงเพื่อนชายให้เห็น หญิงซันถึงกับผงะตอนเจอ รายนั้นยังมีหน้ามาขอบคุณที่หล่อนทำให้รู้ว่าที่จริงเเล้วนิยมเพศเดียวกัน ล่ำลาธรรมดาไม่พอยังถือวิสาสะเข้ามาหอมแก้มอย่างสนิทสนม เล่นเอาอาทิตยายืนรากงอกไปหลายนาที

พอสติกลับมาได้ก็วิ่งหาห้องน้ำไปทั่วห้าง ขัดถูจนใบหน้าแดงเถือก แสบจนนำ้ตาคลอ ทำไมชีวิตสาวสวยหมวยเริ่ดต้องมาพลีแก้มขาวๆให้อีคนชอบไม้ป่าเดียวกันด้วย ซำ้ร้ายนี่ครั้งแรก แต่ผู้ชายที่บังอาจเอาจมูกมาชนแก้มสวยๆ ที่หญิงซันอุตส่าห์ทะนุถนอมกะให้มันบริสุทธิ์ผุดผ่องไปจนวันตาย ดันเป็นชายไม่จริง ฮึ หล่อนเกลียดผู้ชายทุกคน ชาตินี้ไม่แต่งงานเด็ดขาด โดยเฉพาะคู่หมั้นคู่หมายที่ฟันธงว่าไม่เกย์ก็ตุ๊ด


อาทิตยาจอดรถที่ร้านอาหารเจ้าประจำที่นัดแนะกับสองสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มใจหญิง หล่อนมาถึงก่อนเพื่อน เมนูอาหารยังไม่ได้เปิดสาวหมวยก็ขยับปากไฟแลบเพราะมากินที่นี่บ่อยๆ อะไรอร่อยไม่อร่อยรู้หมด

“อ่อขอด่วนนะจ๊ะ ฉันหิว"

“ค่ะ" บริกรสาวรับคำ ก่อนจะกลับมาใหม่พร้อมน้ำส้มเปรี้ยวพิเศษ

เพื่อนๆทยอยกันมาที่ละคน ยัยจิ๊บมาถึงคนแรกก็คว้าน้ำส้มของหล่อนไปกินหน้าตาเฉย เจ้าของได้แต่ส่งตาขวางๆไปให้ ก่อนจะเรียกพนักงานมาสั่งเพิ่มเหมือนเดิมอีกสองแก้ว

“เอ่อพอดีฉันร้อนนะ อากาศกรุงเทพนะแกก็รู้" หล่อนปรายตามองคนที่แก้ตัวนำ้ขุ่นๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไรเพราะแค่มาช่วยกันก็ถือว่าดีมากแล้ว

“ฉันมาคนแรกเรอะ"

“ก็เห็นๆกันอยู่ว่าเป็นฉัน"

“ไม่นับแก เพราะแกเป็นตัวตั้งตัวตี เดี๋ยวครีมกับยาพิษก็มา นี่อีกตั้งยี่สิบนาที แกนั้นแหละที่มาเร็วเกิน"

“แกก็มาเร็ว" หญิงซันย้อนบ้าง

“กลัวบางคนจะนั่งเหงาเท่านั้นแหละ" นี่ถ้ายัยจิ๊บเป็นผู้ชายจริงๆ หญิงซันคงเป็นแฟนกับมันไปแล้ว คนอะไรโคตรน่ารักชะมัด ไม่เคยปล่อยหล่อนทำอะไรตามลำพังซักครั้ง ทุกเรื่องมีมันอยู่ด้วยตลอด จำได้ว่าตอนสมัยมอต้นเคยมีคนถามด้วยว่ากำลังจีบหล่อนอยู่หรือเปล่า นายเมธีในตอนนั้นหรือนางสาวนิรมิตในปัจจุบันถึงกับกรี๊ดไปสองรอบ นี่ถ้าคนถามไม่ใช่เพื่อนห้องเดียวกัน คงโดนประเคนพระหัตถ์แถมด้วยบาทาไปแล้ว นี่ถือว่าโชคดีที่ได้ยินแค่เสียง

ทำไมผู้ชายแท้ๆมันหาดียากนัก แล้วทำไมคนดีๆถึงกลายเป็น...พวกชอบไม้ป่าเดียวกันไปหมด แล้วอย่างนี้หม่อมแม่ยังจะประเคนลูกสาวสุดสวยให้ไปอีก ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมต้องเป็นเขา แถมยังรีบร้อนอีกต่างหาก

กีรติ กับพิชชาภรณ์เดินทางมาถึงใกล้เคียงกัน แต่ก็ยังมาก่อนเวลาห้านาที เพราะทุกคนรู้ดีว่าเจ้าของเรื่องร้อนใจ

“พรุ่งนี้เจ้าพี่พาไปสวีตที่ไหน" มาถึงว่าที่คุณหมอก็เข้าประเด็นทันที หญิงซันกำลังจิบน้ำส้มถึงกับสำลักไอโขกๆ จนเพื่อนๆพากันกั้นการระอองนำ้ที่ออกจากปากหล่อนเป็นทิวแถว

“โทษที พอดีฉันเวลาน้อยกลัวจะช่วยแกได้ไม่นาน" คุณหมอรีบขอโทษขอโพยพร้อมอธิบาย เมื่อรู้ว่าคำพูดเมื่อครู่เป็นเหตุให้อาทิตยากลายเป็นปลาพ่นนำ้ นำ้หูนำ้ตาไหล จนตาแดงกำ่ไปหมด

“ร้านนี้แหละ" คนถูกแกล้งว่าพลางเช็ดหน้าเช็ดตา

ที่เหลือพยักหน้ารับรู้ ก่อนครีมจะถามขึ้นมาบ้าง "แล้วซันจะทำไง"

“ก็มาแหละ"

“พวกเรารู้แล้ว หมายถึง แกจะขอให้เขาช่วยยกเลิกงานแต่งไหม" คุณยาพิษว่าคิ้วขมวดจนชนกันอยู่กลางหน้าผาก สายตาคมๆก็หันมาจ้องเอาคำตอบจากหล่อน นี่เอามาช่วยคิดไม่ได้ช่วยตั้งคำถามเพราะถ้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร ไม่เปลืองค่าโทรศัพท์ อันเชิญท่านทั้งหลายมาอยู่ที่นี้หรอก คนจนตรอกคิดอย่างไม่ชอบใจก่อนจะตอบออกไปทันที

“ไม่รู้ เพราะถ้ารู้จะรบกวนพวกแกทำไมเล่า หม่อมแม่ฉันจะเลื่อนขึ้นเร็วกว่านี้ก็ได้ ถ้ายังก่อเรื่องอีก"

“งั้นแกก็รอแต่งงานอีกสามเดือนข้างหน้า" ยัยยาพิษสวนกลับรวดเร็วพอๆกับอาทิตยา นี่ลากคุณหมอในอนาคตมาจากโรงพยาบาลมันสูญเปล่าใช่ไหม

“พิชชาภรณ์ พอน่า ครีมว่าเราเข้าเรื่องกันดีกว่า คือเรื่องของเรื่องแม่ของซันต้องการให้เเต่งงานกับหม่อมเจ้าจันทรมาศเพราะอยากวางซันให้อยู่ในมือของคนที่สามารถรักและดูแลลูกสาวต่อจากท่านได้ ฉะนั้นเราต้องหารอยรั่วของข้อนี้ ทำยังไงก็ได้ให้เจ้าพี่ดูไม่เป็นอย่างที่แม่ซันต้องการ เราอาจพลาดบางประเด็นที่จะทำให้รู้ว่าเจ้าพี่ของซันชอบผู้ชายไปก็ได้นะ" ทุกคนพนักหน้าคล้อยตาม จนหญิงซันแอบเถียงในใจ ไม่ทราบว่าประเด็นไหนที่พลาด ตั้งแต่รูปใส่เดรสแต่งหน้าเสียหวาน นัวเนียกับชายด้วยกันหม่อมแม่ก็ไม่ยอมรับ ท้ายสุดลงทุนด้วยตัวเองดันถูกจับแต่งงานอีก ไม่ไหว เอาประเด็นใหม่เถอะ

“เรื่องที่ซันทำไว้สองเรื่องที่ไปแอบถ่ายรูปเจ้าพี่จู่จี๋กับคู่ขานั่นก็เก็บไว้ก่อนเพื่อเราสามารถเอามาใช้ได้ ส่วนเรื่องที่ปลอมตัวไป ตามในข่าวก็ชั่งมันเถอะ ถือว่าผ่านไปแล้ว อย่าเก็บมาคิดเลย" คุณครูครีมมอบยิ้มสดใสหลังจากจบประโยค เธอนุ่มนวลอ่อนหวานและมีเหตุผลเสมอตามประสาพวกโลกสวยงามตลอดเวลา

“เฮ้อ" หญิงซันได้แต่ถอนหายใจเมื่อคิดไม่ตก

“หยุด เดี๋ยวแก่เร็ว" ยัยจิ๊บร้องห้าม คนหมดอะไรตายอยากไม่ได้โต้ตอบ ได้แต่คิดในใจ แกลองมาเจอบ้างไหมละ ขี้คร้านจะทำทุกนาทีด้วยซ้ำ

“รู้เเล้ว ซันแกฟังฉันดีๆนะ วันพรุ่งนี้แกแต่งตัวธรรมดา แต่แต่งหญิงนะ เดี๋ยวมีปัญหากับหม่อมแม่อีก เปิดศึกหลายทางไม่ดี แล้วพอเจอเจ้าพี่แกก็คุยทุกอย่างตามปกติไปก่อน อย่าพลีพลาม อย่าพูดเรื่องในผับเป็นอันขาด แม้ว่าตอนนี้ฉันเริ่มคิดว่าเขาเองอาจจะรู้ว่าเป็นแกแต่แรก" ว่าที่เจ้าสาวคิดตามคำบอกกล่าวของคุณยาพิษ จริงๆก็ว่าวันนั้นมันแปลกๆ เจ้าพี่มองที่หล่อนนานที่สุด แต่มันน่าจะเป็นเพราะแต่งชายไม่ใช่รึ แต่...มันแปลก...แปลกตรงที่สร้อยมันดันมาอยู่นอกเสื้อนี่แหละ แม้ว่าตอนนั้นสติจะหลุดแต่รับรองหญิงซันไม่บ้าควักมันออกมาโชว์ ถ้าไม่ใช่หล่อนก็มีแต่หม่อมเจ้าจันทรุปราคาคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้

“คิดได้แล้วซินะซัน"คุณยาพิษยิ้มกว้างส่งให้ หล่อนได้แต่พยักหน้ารับคำ แกมันเจ๋งจริงวะ ว่าที่คุณหมอ

“ต่อเลยแล้วกัน ดังนั้นเรื่องนี้ฉันว่าเจ้าพี่แกรู้เห็นเป็นใจ เรื่องงานแต่งงานของแกกับเขาแน่ๆ แต่จะด้วยเหตุผลกลใด ฉันไม่รู้ ข้อมูลตอนนี้ไม่มากพอจะให้ทำอะไรได้ ที่แน่ๆคือเขาไม่ปฏิเสธการแต่งงาน มีแกคนเดียวจากสี่ที่ไม่เล่นด้วย ทีนี้ทุกอย่างมันจะยากหน่อยแม่แก แม่เขา และเขา ทุกคนเที่ยวบินสูงทั้งนั้น ถ้าแผนเราไม่แน่นพอจะล้มไม่เป็นท่า" พิชชาภรณ์พักจิบน้ำเงียบไปพักใหญ่ก็ว่าต่อ

“เอาเป็นว่า ตอนนี้แกเนียนๆไหลตามน้ำไปก่อน ขอเวลาฉันหาข้อมูลบางอย่างแล้วเราค่อยว่ากัน"

“คือก็ไม่ได้อยากเร่งนะ แต่ฉันจะโดนจับแต่งงานอีกสามเดือนข้างหน้า ถ้าไม่รีบฉันคงถูกจับแต่งงานอยู่กินกับเจ้าพี่ชอบเล่นหนังสดจนต้องอาเจียนทุกวัน หรือไม่ก็ลงนรกจบชีวิตจากการโดนบรรดาชายชู้เจ้าพี่ฆ่าตาย" เสียงฮาครืนดังสนั่น หล่อนอยากจะบอกว่ามันไม่ขำเลย เเต่ก็อดหัวเราะไปด้วยไม่ได้ พลางมองหน้าเพื่อนๆที่ประดับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า อยู่ท่ามกลางคนที่รักมันอบอุ่นอย่างนี้เองซินะ

“แล้วถ้าเจ้าพี่ถามถึงเรื่องวันนั้น แกจะให้ฉันตอบยังไง ไอ้เรื่องที่ฉันแต่งชายไปล่อให้เขาเปิดเผยโฉมหน้าแล้วจูบกันเนี่ย" คิดแล้วขนลุก จะทำไงดีเจ้าพี่จันทรุปราคาจะเอาหล่อนถึงตายหรือเปล่านะ หญิงซันยังไม่ได้เที่ยวรอบโลกกับหม่อมเเม่ ยังไม่ได้เป็นนักบัญชีมือหนึ่งของเมืองไทย ท่านยมอย่าเพิ่งเอาลูกช้างไปเลยได้โปรดเถอะ

“ก็บอกไปว่า แกชอบผู้หญิง พอดีตอนนั้นก็ตกใจที่เจ้าพี่กลายเป็นผู้ชายเหมือนกัน"

“แล้วไงต่อ ถ้าเขาตอบกลับว่าฉันน่าจะหยุดที่รู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิงละ แต่นี่กับต่อความ ดันให้เขาลบหน้าอีก"

“ก็บอกไปซิ ว่าแกคิดว่าเขาโกหก แล้วก็กลัวจะเสียเชิงชายถ้าเชื่อตั้งแต่แรก"

“อีเจ้าพี่จันทรุปราคาจะเชื่อไหมละ"

“หรือแกจะตอบแบบอื่น"

“ไม่รู้วะ ตามแกแล้วกัน ปวดหัวโว้ย จะแต่งงานทั้งที ทำไมต้องโชคดีแต่งกับเกย์วะ"

“มองโลกในแง่บวก แกก็โชคดีจะตายไป ได้สามีพร้อมภรรยา ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งไงแก" เพื่อนชายใจสาวหัวเราะร่วน หล่อนมองกลับตาวาว ท่าจะอยากตายศพไม่สวย แม่ยิ่งโมโหอยู่ หญิงซันตั้งท่าจะตบกะโหลกเพื่อนจิ๊บ เสียดายคุณครูสาวเข้ามาห้ามเสียก่อนไม่งั้นเสร็จแน่มือชั้นนี้แล้วไม่เคยพลาด

“หยุดทั้งสองคนแล้วฟังต่อ เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียว ในการเตรียมพวกแก เพราะฉันต้องกลับไปเขียนรายงานส่งอาจารย์" ทีนี้ทั้งวงหันมามองคุณยาพิษตาโตเป็นไก่ห่าน พยายามจริงจังกันสุดขีด เพราะเดี๋ยวถ้าแม่คุณของขึ้นทุกชีวิตจะมีปัญหาตามไปด้วย

“ฉันมีสอนทุกวันนะ"ครีมว่า

“รวมถึงวันหยุดด้วยเหรอ และพอดีว่าพรุ่งนี้วันเสาร์นะ" ยัยยาพิษหรี่มองมา จนครูครีมน่าเจื่อน แม่นี่เคยสู้รบตบมือจะใครเขา เอาเป็นตัวห้ามทัพจะเหมาะกว่า

“บอกให้ฟังฉัน แล้วห้ามถามอีกจนกว่าจะฟังจบโอเค" ทุกคนพยักหน้าหงึกหงัก รู้โดยทั่วกันว่าอย่าให้ว่าที่คุณหมอวีน เพราะมันคือหายนะแท้ๆ ใครจะอยากมีเรื่องกับนักยูโดสายดำ

“ส่วนที่บอกให้จูบทั้งๆที่รู้ว่าคือหม่อมเจ้าจันทรมาศ ก็บอกไปว่ากลัวเขารู้ว่าแกเป็นใคร และถ้าตานั่นมันย้อนกลับมาว่าวิ่งหนีก็สิ้นเรื่อง ก็ตอบกลับไปนะ อย่างเจ้าพี่ไม่เถล่อถล่าไปไหนมาไหนคนเดียว ฉะนั้นถ้าจู่ๆวิ่งหางจุกตูดออกมาก็โดนจับอยู่ดี สู้รอให้เคลิ้มแล้วค่อยออกมาง่ายกว่า ถึงตอนนั้นคนอื่นๆก็ไม่สนใจว่าเป็นแค่คนแปลกหน้า เพราะคงคิดกันว่าแกเป็นกิ๊กเขาอีกคน" สุดยอดแหะ หัวมันดีจริง ลื่นอย่างกับปลาไหลใครได้เป็นว่าที่ภรรยาต้องคิดให้จงหนักเลยทีเดียว

“น่าจะมีเท่านี้แหละมั้งที่อีตานั่นจะเอาจากแกได้ ถ้าอะไรที่มันนอกเหนือ แกก็ใช้มารยาเอาบ้างแล้วกัน จากที่แกเล่าวันนั้นฉันว่าแกก็ทำได้โอนะ ถ้าไม่มาตายตอนจบตอนโดนว่าที่สามีประกบปาก"อาทิตยามองตาขวางพลางคิดในใจ เออ ไม่เจอมั้งให้มันรู้ไป เจ้าพี่นะชั้นเชิงขั้นเทพชัดๆ

“ส่วนเธอสองคน" พิชชาภรณ์หันมาที่นิรมิตและกีรติ จ้องทีละคนก่อนจะกล่าว

“เก็บข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าพี่ผิดเพศให้มากที่สุด สังเกตให้ได้ทุกรายละเอียด ดูด้วยว่ามีใครตามมาบ้าง ถ้าทำได้ถ่ายรูปไว้ก็ดี"

“สุดท้ายยัยซัน เธอต้องจับสังเกตให้ได้ว่าที่สามีแกชอบเพศผู้หรือเมีย แกจะทำยังไงฉันไม่สน แต่ต้องได้ผลในสองสัปดาห์ หวังว่ามันจะไม่ยากเกินไป สำหรับสิ่งที่ฉันให้พวกแกจัดการ" หญิงซันถึงกับอึ้ง หน้าที่ของหล่อนทำไมง่ายขนาดนั้น ไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว เจ้าพี่จันทรุปราคาแต๋วแตกขนาดนี้จะต้องเอาหลักฐานอะไรอีก

“ฉันรู้ว่าแกจะบอกว่า เจ้าพี่แกมันเกย์เกินร้อย แต่เชื่อเถอะ มันมีอะไรมากกว่านั้น" หล่อนอยากจะเถียงนัก...คุณหมอค่ะ ถ้าจะใช้ทฤษฎียังไม่ถึงยี่สิบห้ามาอธิบายการเปลี่ยนแปลงทางเพศที่แม่คุณเคยพยายามเจียระไนว่า อย่างยัยจิ๊บยังมีลุ้นจะกลับชายได้อยู่เพราะอายุยังไม่เกินเกณฑ์ ดูเอาเถอะเพื่อนเเต๋วขนาดนี้ คุณเธอยังมีหวัง แต่ขอโทษ หม่อมเจ้าจันทรมาศพ้นเบญจเพศมานานโข กู่ไม่กลับแล้วจ๊ะ

“เจ้าพี่จันทร์อับของแกอายุยี่สิบหกทำไมชั้นจะไม่รู้" ยัยยาพิษหันมาทำตาวาว ก่อนจะว่าต่อ

“แต่เชื่อเซ้นส์ฉัน ว่าที่สามีในอนาคตของแกไม่ได้ชอบผู้ชาย" อาทิตยามองเพื่อนรักตาขวางพลางนึกในใจ ถ้ามั่นใจขนาดนั้นเอาไปแต่งเองไหมคะ


“ตาแกนะหยุดด่าฉันเสียที แล้วเจ้าพี่แกนะไม่ใช่สเปคฉัน ไม่ต้องเอามาถวาย" หยะแม่คุณยาพิษ

อาทิตยาสวมเดรสเกาะอกสีขาวมุกยาวพอเข่า ลำคอระหงส์ประดับสร้อยประจำตัวแสดงตัวตนเช่นเคย ที่ครั้งหนึ่งเป็นหลักฐานให้หล่อนต้องเข้าแดนประหาร ผมสั้นๆถูกทำให้เก๋ไก๋ โดยการตีให้ฟูก่อนจะกล้าเป็นหมวยเล็กๆไว้เหนือศีรษะ ติดด้วยเพชรเม็ดเล็กรูปดาวสามดวง จริงๆมันต้องมีห้าด้วย เพราะหม่อมแม่อยากประกาศศักดาลูกข้าเจ้าของร้านเพชร กว่าจะสู้รบปรบมือกับคุณท่านให้เหลือสามดวงก็เล่นเอาเส้นเสียงสาวหมวยแทบพัง

“สวยสมเป็นลูกแม่และ" มากกว่านี้ก็ไปแสดงลิเกดีกว่า อาจจะสงสัยหม่อมแม่แต่งให้หญิงซันขนาดนี้ตัวเองจะขนาดไหน ก็...ง่ายๆคือเรืองแสงทั้งตัว แม้เดือนมืดก็เห็นหม่อมท่านได้แต่ไกล

ถึงเวลานัดพอดิบพอดีแต่หล่อนกับมารดาเพิ่งจะแต่งตัวเสร็จ ดูหม่อมท่านจะไม่รีบด้วยซ้ำจนบุตรสาวต้องร้องเตือน

“เราต้องทำตัวให้มีคุณค่าซิ อะไรที่ต้องรอนะมันดูมีค่านะ" หม่อมแม่ไปเอาความคิดแบบนี้จากไหนกัน หญิงซันไม่เห็นด้วยอย่างแรง เราควรตรงต่อเวลา แม้จะเป็นคนที่ไม่อยากเจอก็เถอะ หล่อนถือเรื่องนี้สำคัญพอๆกับเรื่องความเป็นความตาย ก็เพราะความยืดยาดอืดอาดไม่ใช่เหรอที่พรากพ่อไปโดยไม่ทันล่ำลา

“โธ่ ไม่เอาน่า ไปๆ" หม่อมแม่หันมาหาลูกสาวหน้าบูด ก่อนจะลูบหัวทุยๆของคนตรงเวลาพอเป็นพิธี


มาครบแล้วนะคะ ^ ^ เจอกันพรุ่งนี้ใน Romanee-Conti 2 แล้วเราจะไปเจอเจ้าพี่จันทราอับแสงกัน


หากใครมีอะไรสงสัย หรืออยากวิจารณ์ ตามสบายเลยนะคะ ยินดี และดีใจที่สุดดด

ขอบคุณทุกคอมเม้นและ ดีใจที่จะติดตามนะคะ



เด่นเดือน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ก.พ. 2556, 17:09:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ก.พ. 2556, 17:34:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 1330





<< บทที่ 1 Neutral Grain Spirit 2/2   บทที่ 2 Romanee-Conti 2 >>
aom 28 ก.พ. 2556, 19:29:55 น.
ชอบคุณหมอจังคร้า


เด่นเดือน 2 มี.ค. 2556, 08:14:06 น.
ขอบคุณค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account