บุหงาราคี by น้ำจันทร์ อัญจรี
“บัดซบ!”
เปรมินทร์สบถลั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เจ้าหล่อนวางไว้ถึงขนาดนี้
“อะ เอ่อ...”
อรัญญิการ์ติดอ่างกะทันหัน ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวด้วยความอับอายรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมด้วยความทุลักทุเล ทว่า เมื่อหามันพบก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะมันขาดวิ่นหาดีไม่ได้
“เอ้านี่ ใส่ซะ แล้วก็ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน!”
เขาร้องสั่ง ควานหากางเกงมาสวมลวกๆ ขณะที่มืออีกข้างเสือกไสเสื้อเชิ้ตตัวเมื่อคืนให้หล่อน อรัญญิการ์รับมาสวมก็พบว่ามันไม่สามารถปกปิดเนื้อกายได้สักเท่าไรเลย
“คุณเปรมคะเอมี่...”
“อย่ามาแก้ตัว ฉันไม่อยากฟัง!!!”
เขาสบถเสียงกร้าวจ้องใบหน้าซีดเผือดเขม็ง นางฟ้าแสนบริสุทธิ์เมื่อคืนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อลืมตาตื่นหล่อนจะกลายร่างเป็น แม่มด...แม่มดน้อยเอมี่ที่เขาไม่ปรารถนา

Tags: ผ่านพิจารณา Touch Publishing รอวางแผง

ตอน: บทที่ 13 ชู้ไม่รู้ตัว 100%+บทที่ 14 สร้อยทับทิม


กุหลาบขาวดอกหนึ่งถูกดึงทึ้งออกจากช่อดอก ดวงตาคู่คมวาวโรจน์ด้วยความโกรธระคนแขยง ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาเขาต้องเร่งเบือนหน้าหนี บิดาของเขากำลังกอดกันแนบแน่นกับแม่นางฟ้าปาฏลี ทุเรศ! คนหนึ่งรึ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ อีกคนก็ดีแสนดีเป็นนางฟ้านางสวรรค์ของประชาชน ทั้งสองน่าจะมีสติไตร่ตรองถูกผิดหรือสมควรมิสมควร ไม่ใช่ว่าอยากที่ไหนก็คว้าร่างกันและกัน มากกกอดหน้าไม่อายอย่างนี้ อุบาทว์!
หม่อมหลวงเปรมินทร์ปาเจ้าดอกมัทนาสีสะอาดลงสู่พื้นแล้วเร่งฝีเท้าหลีกไปให้ห่างภาพตรงหน้า
เขาขยะแขยงเกินกว่าจะยืนมองคนทั้งสองพลอดรักกัน วันนี้มันเป็นวันหายนะของเขาหรืออย่างไร ทำไมอะไรๆ มันถึงจู่โจมเข้าสู่สมองมากมายขนาดนี้ แล้วเขาจะหยุดคิดเรื่องไหนก่อนดี เรื่องที่อ้อมขวัญก่อไว้ เรื่องสร้อยเส้นนั้นของอรัญญิการ์ หรือว่าเรื่องที่หล่อนบอกว่าท้องกับเขา หรือว่าจะเป็นเรื่องล่าสุดเมื่อสักครู่ แต่ที่แน่ๆ ที่บิดาบอกว่าแม่ใหม่เขาจะอาจจะชื่ออรัญญิการ์ เขาคิดว่าคงไม่ใช่แล้วกระมัง

รังแม่มด สองวันถัดมา
ปาฏลีเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าให้คนที่เอาแต่นอนซมในห้องนอนของตัวเอง เธอตัดสินใจดีแล้วและปรึกษาบิดาถึงเรื่องหลานในท้อง ท่านแนะนำให้เธอหาที่อยู่ใหม่ให้อรัญญิการ์ ซึ่งเธอก็หาได้แล้ว เป็นสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิด แม้แต่ตัวเธอเอง บิดาที่รักท่านสอนเธอด้วยประโยคสั้นๆ ว่าชีวิตคนเรานี้สั้นนักอย่ามัวแต่ทิฐิเข้าหากันเพราะหากไม่มีกันและกันบนโลกใบนี้แล้ว แม้เราจะมาเสียใจร้องไห้คร่ำครวญในภายหลัง คนที่เรารักก็ไม่กลับมา
ยี่สิบปีที่ผ่านมา เธอจมอยู่กับความแค้น โกรธเคืองชิงชัง เธอลืมไปว่าเปรมินทร์ก็คงเช่นกัน เขาคงชิงชังเธอและมารดาที่มาพรากบิดาไปจากเขา เช่นนี้แล้ว เธอก็ไม่เห็นว่าจะมีส่วนใดเลยที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น หากเธอยังชิงชังรังเกียจพี่ชายเพียงคนเดียวต่อไป เธอจะปล่อยวางและทำทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุข อย่างน้อยก็เพื่อลบร่องรอยความปวดร้าวที่เขาเคยได้รับจาการกระทำของมารดาเธอ อีกนัยหนึ่งก็เพื่อที่เธอจะได้ชดเชยความรักที่ขาดหาย ให้แก่เขาด้วย แม้ว่ามันจะทำได้ ยากเย็น ก็ตาม

แม่มดคนงามตื่นจากนิทราอันหม่นเศร้าไร้ความสุข เธอลุกขึ้นมานั่งมองหมอนหนุนใบเก่งที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตา เธออยากรู้ว่าสิ่งใดหนอที่หล่อหลอมเป็นหัวใจของเปรมินทร์ มันถึงได้เยือกเย็นและแข็งกระด้าง ปฏิเสธได้กระทั่งสายโลหิตของตัวเอง แต่กระนั้นหัวใจที่ไม่เคยรักดีดวงนี้ ก็ยังจงรักภักดีต่อเขา มันเหมือนว่าหัวใจดวงนี้ก่อเกิดขึ้นมาเพื่อเขาเท่านั้น มันไม่สามารถเกลียดชังพ่อของลูกได้จริงจังเลยสักขณะจิต คอยแต่จะหาข้อแก้ต่าง แก้ตัวให้เขาอยู่ร่ำไป น่าเวทนาเหลือเกิน
“เราจะย้ายห้องวันนี้” นางฟ้าคนงามเอ่ยขึ้นทันทีที่เข้ามาเจอเพื่อนรัก หล่อนไม่ได้เหลือเค้าแม่มดน้อยสุดยั่วยวนเลย มันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงด้วยซ้ำ
“หมายความว่ายังไง ฉันเบลอจนไม่เข้าใจสิ่งที่แกบอก” แม่มดแสนโทรมถามกลับ
“อีกไม่กี่วัน ฉันต้องเดินทางแล้ว และคงอีกหลายเดือนกว่าจะได้กลับมา บางทีอาจจะมาไม่ทันวันที่หลานคลอด หลังจากวัน แถลงข่าว ชีวิตแกจะเปลี่ยนอีกรอบ ฉันไม่อยากให้แกอยู่อย่างโดดเดี่ยวและไม่มีฉันคอยเป็นทัพหน้าจัดการพวกเหยี่ยวข่าวทั้งหลาย แกจะได้อยู่อย่างสงบเท่าที่แกปรารถนา และไม่ต้องลำบากใจหากคุณชายจะเคี่ยวเข็ญให้แกเข้าไปอยู่ในวัง เข้าใจไหมเอ็ม”
แม่มดน้อยส่ายหน้าอีกครั้ง
“เหตุผลอะไร? คุณชายถึงจะเลิกล้มความพยายามที่จะเอาหลานๆ เข้าวังมัทนาฯ”
“ก็เหตุผลที่ว่า หลานๆ อยากอยู่ใกล้ๆ พ่อของเขาน่ะสิ” ปาฏลีเดินเขาไปนั่งข้างๆ เพื่อนรักโอบไหล่บอบบางที่ห่อเข้าหากัน ไม่ตั้งเด่นเป็นสง่าเหมือนในอดีต
“เราจะไปอยู่คอนโด คุณเปรม”
คราวนี้อรัญญิการ์สามารถหลุดออกจากภวังค์ เธอมองเพื่อนรักราวกับจะถามว่าเธอฟังผิดหรือเปล่า
“แกจำสร้อยที่ฉันให้แกใส่ได้ไหม” ปาฏลีถาม อรัญญิการ์พยักหน้า เธอขยับร่างเล็กน้อยเพื่อจะได้หันมาเผชิญหน้ากับเพื่อนสาว เพราะสังหรณ์ใจว่าแม่เพื่อนคนดีต้องมีเรื่องเคลียร์กับเธอแน่ๆ
“นั่นเป็นสร้อยของแม่ฉัน ฉันตามหาเขามาตลอดและฉันก็เจอเขา เจอนานแล้วด้วย” อรัญญิการ์ใจเต้นตึกตัก หัวใจของเธอปานจะกระโดดออกมาจากอก เธอยินดีที่เพื่อนรักได้เจอบิดาที่หล่อนตามหามายี่สิบกว่าปี ทั้งที่ไม่มีเบาะแสอะไรเลย
“ฉัน...ไปหาเขามาแล้ว วันที่ให้แกสวมสร้อยเส้นนี้ เขาก็อยู่ที่นั่นด้วย”
อรัญญิการ์ใจเต้นถี่ และยิ่งเต้นถี่ยิบเมื่อเพื่อนรักเปิดล็อกเกตให้อ้าออก เผยให้เห็นภาพบุคคลสองคนที่อยู่ในนั้น คนหนึ่งเธอไม่เคยเห็นหน้าคงเป็นมารดาของเพื่อน แต่สำหรับอีกคนเธอจำได้ ถึงแม้ตอนนี้ท่านจะมีอายุมากกว่ารูปในล็อกเกตก็ตาม
“โอ...แป๋ม! นี่แก กับคุณชายเมทัต เป็น พ่อลูกกัน! ถ้าอย่างนั้น คุณเปรม!”
เธอพูดไม่ออก เปรมินทร์เป็นพี่ชายแม่นางฟ้า เป็นไปได้อย่างไร!?
“เขาเป็นพี่ฉันเอง ที่แกเห็นฉันไม่ลงรอยกับเขาก็เพราะว่าฉันชิงชังที่เขามาพรากพ่อไปจากฉัน แต่ฉันลืมคิดไป ว่าฉันก็พรากพ่อมาจากเขาเหมือนกัน แต่ที่ฉันแค้นใจมากนั่นก็เพราะว่า ตอนที่พ่อจากไป แม่ฉันท่านอ่อนแอมากเกินกว่าจะทนไหว ท่านล้มป่วยและสิ้นใจ กระนั้นท่านก็ยังบอกฉันว่าท่านผิดเองที่แย่งพ่อมาจากแม่ของคุณเปรม วันนี้ฉันปลงแล้วล่ะ แกคงสงสัยว่าทำไมฉันคิดได้เร็วขนาดนี้ นั่นเพราะว่า...ความสุข มันอยู่กับเราไม่นาน พ่อคงไม่มีความสุขหากฉันกับพี่ชายยังบาดหมางชิงชังกันไม่จบไม่สิ้น ฉันจะยอมถอยเอง ฉันจะมอบความรักคืนให้เขา ความรักที่พ่อละเลยไม่เคยให้เขา ฉันจะทำมันให้ได้ แม้ว่ามันจะยากมากแค่ไหนก็ตาม”
แม่มดคนงามร่ำไห้ เธอซึ้งในน้ำใจของเพื่อนรัก เธออยากให้เปรมินทร์มาได้ยินคำนี้เหลือเกิน เขาช่างโชคดีที่ได้แม่นางฟ้าปาฏลี เป็นน้องสาว เขาโชคดีจริงๆ

บทที่ 14
สร้อยทับทิม
โรงแรม Rose
พรึบ!!!
หนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันใหม่ถูกขว้างออกไปเพราะความโกรธจัด คุณชายเมทัตมองหน้าบุตรชายที่รักด้วยความหนักใจ เขากำลังเข้าใจผิดอย่างมหันต์
“ท่านพ่อเห็นหรือไม่! เห็นหรือไม่ว่าหน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง ท่านพ่อจะทำอะไรทำไมไม่คิดถึงใจลูกบ้าง ป่านนี้ชาวบ้านจะเอาเรื่องนี้ไปโพนทะนาถึงไหนแล้ว ชื่อเสียงเอย ราชสกุลเอย คงต้องหมองมัวเพราะสองแขนที่ท่านพ่อโอบรัดร่างหล่อน ทุเรศสิ้นดี!”
เปรมินทร์ใส่อารมณ์กับบิดาที่รัก เมื่อภาพที่เขาเห็น เมื่อสองคืนก่อนมันแด่นหราอยู่กลางหน้าหนังสือพิมพ์ในเช้าวันนี้
“พรุ่งนี้ เราจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ พ่อเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจ ในความรักของเรา” คุณชายพูดกำกวมไม่แน่ชัด ด้วยว่าในห้องมิได้มีเพียงท่านและบุตรชายแต่ยังมีผู้หวังดีที่ชื่ออ้อมขวัญอยู่เคียงข้างเขา ผู้หวังดีที่นำเอาหนังสือพิมพ์มาให้เขาถึงที่
“ท่านพ่อ! นี่ท่านพ่อจะยกย่องหล่อนออกหน้าออกตาอย่างนั้นหรือ ท่านพ่อคิดอะไรอยู่ เหตุใดจึงไม่ไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ ปาฏลีหล่อนอายุน้อยกว่าลูกด้วยซ้ำ เป็นลูกท่านพ่อ เป็นน้องสาวลูกยังได้ แล้วท่านพ่อยังจะ...”
“นั่นสิเปรมินทร์ หล่อนเป็นน้องสาวลูกยังได้ แล้วยังไงล่ะ พ่อรอฟังอยู่” คุณชายยังเอ่ยเสียงเรียบเรื่อย ไม่ได้โกรธเคืองบุตรชายนั่นเพราะรู้ดีแก่ใจว่าเขาเข้าใจผิด
“อย่างน้อยก็น่าจะเห็นแก่เกียรติของท่านแม่ ถึงแม้ท่านพ่อจะไม่เคยรักใคร่ไยดีก็ตาม” เปรมินทร์ประชดบิดาแล้วหันหน้าออกสู่วิวนอกบานกระจกซึ่งมีเพียงยอดตึกเท่านั้น บิดาที่รักกำลังจะทำร้ายจิตใจเขาอีกแล้ว



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 มี.ค. 2556, 13:02:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 มี.ค. 2556, 13:02:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 7788





<< บุหงาราคี บทที่ 13 ชู้ไม่รู้ตัว 90%   บทที่ 14 สร้อยทับทิม 40% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account