บ่วงพราย
ขนมงจีนถูกส่งไปที่คฤหาสน์สีขาว ที่นั่นเป็นบ้านของคุณหลวง ทว่า...เธอได้พบกับวิญญานชายหนุ่ม ที่แม้แต่ที่อยู่และสถานที่ที่ตัวเองตาย ก็ยังไม่รูั้เลย แล้วเธอจะทำอะไรดีเนี่ย
Tags: รักหวานแหวว หวานซึ้ง พล็อดสนุก สนุกสนาน

ตอน: บทที่ 9 คุณแพงผู้อาฆาต

บทที่ 9
คุณแพงผู้อาฆาต

ขนมจีนมองฝ้าเพดานอย่างใช้ความคิด เธอไม่เข้าใจเลยถึงคำพูดของคุณหลวงในคืนนั้น เธอไม่รู้อะไรเลยสักอย่างเดียวรู้ตัวอีกทีก็ใส่กำไลแขนไว้แล้ว ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเธอไม่เข้าใจเลย เธอใส่ชุดเหมือนทาสเส้นผมยาวสลวยเนื้อตัวเปื้อนเลือด ดูเธออาฆาตแค้นมากกว่าที่จะตามรังควาน

เอากำไลของฉันมา

“กำไล...” ขนมจีนกระซิบแผ่ว “เราก็ถอดไม่ออกซะด้วยสิ”

ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งปวดหัว เธอลุกขึ้นเดินไปชั้นล่างเพื่อดูให้รู้แน่ เธอเปิดประตูลงบันไดไปชั้นล่างที่นั่นเหมือนมีห้อง ๆ หนึ่งที่คุณหลวงของเธอเคยบอกเอาไว้เมื่อสมัยตอนเธอยังเด็ก ๆ เธอกวาดตามองไปยังกำแสงแต่ก็ไม่เห็นมีรอยแยกหรือกลไกอะไรเลย

เธอหลับฝัน....

ฝันว่าตัวเองมายืนอยู่ใจกลางคฤหาสน์ ที่นี่คุณหลวงกำลังเถียงผู้หญิงผมยาว นุ่งเสื้อยุคโบราณและด้านข้างมีผู้ชายรูปงามนั่งอยู่เคียงข้างกัน เธอแปลกใจที่เห็นหญิงงามน้ำตามือคว้ามาจับข้อเท้าของคุณหลวง ปากก็พร่ำพรรณนาแบบถ้าตายก็ไม่ยอมไปไหน

“ได้โปรดเถอะ อย่าทิ้งฉันเลย ความผิดทุกอย่างฉันยอมรับเอง อย่าทิ้งฉันเลยนะคะ”

“บัดซบ เธอยังมีหน้ามาพูดอีก ไปให้พ้นนะ”

“ไม่ค่ะคุณท่าน ดิฉันเป็นเมียท่านนะคะ”

“แล้วไอ้นั่นล่ะมันเป็นใคร”

“เอ่อ...เขาก็แค่คนลากรถ เป็นขี้ข้าฉันไม่เอามันมาทำผัวหรอกค่ะ คุณท่านได้โปรดเถอะ”

“คนลากรถเรอะ บัดซบ”

“คุณท่าน ผมผิดไปแล้ว”

“ไอ้เวร พวกแกทำฉันซะเจ็บแสบนัก ไอ้นี่มันถึงขึ้นปีนขึ้นไปนอนกกชู้ตั้งครึ่งคืนก่อนจะกลับมาข้างล่าง ฉันรู้นะว่าพวกแกมันเลี้ยงไม่เชื่อง”

“คุณท่าน ท่านเข้าใจผิดนะคะ”

“คุณท่าน ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ได้โปรดให้อภัยผมด้วยเถอะครับ”

“ไปให้พ้นนะ”

“ไม่ค่ะ ฮือ ๆ อย่าไล่ฉันเลยนะคะ”

"เอากำไลงาช้างคืนมา มันไม่ใช่ของแกอีกต่อไปแล้ว มันเป็นของสำคัญของฉันที่ให้เมียของฉันเพื่อมีอำนาจบงการทุกอย่างภายในบ้าน เอาคืนมา” คุณหลวงตวาดกร้าว หญิงสาวหน้าซีดเผือด

“ไม่ค่ะ กำไลงาช้างนี่เป็นของฉัน”

“เอามา”

“ให้เขาไปสิ คุณแสง”

“ไม่ให้ มันเป็นของฉัน ได้โปรดเถอะคุณท่านกรุณาแก่ฉันด้วย”

“ฉันจะเอาไปให้คุณชบา ยังไม่รีบเอามาให้ฉันอีกเรอะ”

“คุณชบาเป็นเมียใหม่ของคุณท่าน แล้วฉันล่ะ คุณจะเอาฉันไว้ที่ไหน”

“เอามานี่”

“โอ้ย” คุณแสงหวีดร้องเมื่อถูกคุณหลวงฉุดกระชากลากถูกเอากำไลงาช้างออกไป สีหน้าของเธอซีดเผือดเม้มปากเข้าหันแน่น กำไลนั่นเป็นของล้ำค่าไม่ว่าใครได้ครอบครองก็จะเป็นของคุณนายใหญ่

“ฉันจะเอากำไลไปใส่ให้คุณชบา ส่วนแกฉันจะให้อภัยแล้วต้องออกไปให้พ้นหน้าฉัน ออกไ

“คุณท่าน..ได้โปรดเถอะ”

“ใครก็ได้เอานังแสงไปไว้ข้างนอก แล้วไม่ต้องเอากลับเข้ามาอีก”

“ไม่มมม”

ขนมจีนหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นชะตากรรมของคนมีชู้ เธอกรีดร้องเสียงดังเธอถูกผู้ชายหลายคนลากออกไป ซ้ำยังถูกเฆี่ยนหลายครั้งจนสลบเหมือด ฉับพลันภาพทั้งหมดในตัวเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นสภาพในห้องที่เป็นภาพคุณชบายิ้มละไม หน้าตาของเธอถอดแบบออกมาจากเธอไม่ผิดแม้แต่เส้นผม ขนมจีนนั่นเองที่เป็นคุณชบาหน้าตาของเธอและรอยยิ้มล้วนออกแบบมาจากขนมจีนทั้งสิ้น

“นั่นมัน...ฉันนี่นา”

“ฉันถอดมันออกมาให้เธอ เธอจะอยู่เคียงข้างฉันไปตลอดชีวิตได้ไหม”

“ค่ะ คุณท่าน...แล้วคุณแสงละคะ”

“อย่าไปพูดถึงมันอีกเลย มันเป็นชู้กับคนลากรถ ฉันไม่ฆ่ามันก็ดีถมไปแล้ว”

“น่าสงสารออกค่ะ”

“อย่าไปสงสารคนชั่วเลย เธอล่ะจะอยู่ข้าง ๆ ฉันตลอดไปหรือเปล่า”

“ไม่เห็นต้องถามนี่คะ ฉันจะอยู่กับคุณท่านตลอดไปเอง”

“กำไลนี่เป็นของตกทอดมาจากรุ่นคุณย่า ฉันสวมมันให้เธอเมื่อเธอสวมแล้วเธอจะเป็นใหญ่ในบ้าน ทรัพย์สินทุกอย่างให้เธอเป็นคนจัดการ เข้าใจหรือเปล่า”

“ค่ะคุณท่าน”

ทั้งคู่นั่งกอดกัน ที่หน้าต่างมีแววตาเคียดแค้นจ้องมองไปที่คนทั้งสอง เรียวปากเต็มไปด้วยเลือดเนื้อตัวมอมแมม เธอเม้มปากแน่น กำไลนั่นความจริงต้องเป็นของเธอ แต่แล้วนังชบาก็มาเอาไป คิดจะเป็นใหญ่ในบ้านคอยดูนะฉันจะทำให้แกทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็น

“นังชบา ฉันจะฆ่าแก” เธอกระซิบแผ่ว


“อืม...” เธอพลิกศีรษะไปมา ปากก็กระซิบว่าไม่ ๆ จนธีร์โน้มศีรษะลงมาหา

‘ขนมจีน คุณเป็นอะไรหรือเปล่า’

“ไม่นะ...อย่า”

‘ขนมจีน’ เขาปลุกเธอแรง ๆ

“ม่าย-ย-ย” เธอร้องเสียงดังผุดลุกขึ้นจากเตียงทันที เธอหายใจหอบด้วยความเหนื่อย “ฉันฝันหรือนี่”

‘คุณฝันเห็นอะไร’

ขนมจีนกลืนน้ำลายลงคอ

“ฉันฝันเห็นคุณแสง...แล้วก็ฝันเห็นคุณชบา” เธอกระซิบแผ่ว

‘คุณฝันเป็นคุณแสงหรือ’

“ใช่” เธอตอบ “เขาเคยเป็นเจ้าของกำไลอันนี้ แต่ว่า...คุณชบาในความฝันหน้าตาเหมือนฉันยังกับแกะ เขาได้รับกำไลแล้วทีนี้ฉันจะทำอย่างไรดี”

‘หน้าตาเหมือนคุณหรือ’

“ใช่...” เธอกระซิบแผ่ว “เขาหน้าตาเหมือนฉัน”

‘คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น กำไลนี่มันเป็นของคุณ...หรืออาจเป็นของคุณเมื่อในอดีตชาติ’ เขากระซิบแผ่ว ‘และคุณแสงก็มาตามเอาคืน’

“ฉันควรทำยังไงดี”

‘ไม่ต้องทำอะไร มันเป็นแค่อดีตไม่ใช่ความจริง คุณแค่อธิบายให้คุณแสงรู้ว่าเรื่องในอดีตเวลาล่วงเลยจนคุณจำอะไรไม่ได้อีกแล้ว เขาไม่มีสิทธ์มายุ่งเกี่ยว’

“งั้นก็แปลว่า ตัวฉันในอดีตชาติเป็นคนได้กำไลงาช้างนะสิ”

‘ถูกต้อง’

ขนมจีนกลืนน้ำลายลงคอ เธอเป็นคุณชบาเมื่อในอดีตชาติ แต่ว่าเวลาแต่เกือบสองร้อยปีเธอกลับมาเป็นลูกเป็นหลาน จะให้เธอเชื่อได้อย่างไร ในเมื่อเวลานั้นเธออายุแค่ยี่สิบกว่า

“หรือว่า...คุณชบา” เธอกระซิบแผ่ว

‘อะไรหรือ’

“เปล่า...ฉันแค่คิดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น ไม่มีอะไรหรอก” เธอเอ่ยเบา ๆ ก่อนเงยหน้ามองเขา “คุณล่ะ มาทำอะไรที่นี่”

คำถามที่ไม่คาดคิดหลุดออกจากปากของขนมจีน

‘เอ่อ...ผมก็มาตามดู รู้สึกว่าคงไม่เหมาะที่จะปล่อยให้อยู่คนเดียว’

“คุณตามฉันทุกคืนเลยเหรอ”

‘ใช่’

“ขอบใจมากนะ ที่อุตส่าห์มาดูแลฉัน”

ธีร์ถอนหายใจยาว

‘ไม่เป็นไร’ เขายิ้ม ‘เอาล่ะ คุณนอนก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวก็จะตีสี่แล้วผมจะปลุกคุณ’

“ไม่เอาล่ะ ฉันกลัวว่าจะฝันแบบนั้นอีก”

‘ฝันแบบเดิมน่ะหรือ’

“อืม” ขนมจีนพยักหน้า “ฉันกลัวว่าจะฝันแบบเดิม แล้วไม่มีคนคอยปลุก”

‘ผมไง ผมจะปลุกคุณ’

“แต่คุณไม่มีกายเนื้อ...ขอโทษนะ ที่ต้องพูดแบบนี้แต่ว่าฉันกลัวจริง ๆ”

‘งั้นหรือ’ ธีร์โน้มใบหน้าลงมาใกล้ ‘ถ้างั้นถ้าผมปลุกคุณด้วยวิธีอื่นล่ะ’

“อะไรนะ”

‘ถ้าผมจูบคุณ...คุณจะลืมตาหรือเปล่า’ ชายหนุ่มเอ่ยยิ้ม ทำเอาขนมจีนหน้าแดงจัด

“บ้า พูดอะไรบ้า ๆ ฉันซีเรียสนะ”

‘ผมก็ซีเรียสเหมือนกัน เอาเป็นว่าเมื่อกี้ตอนผมปลุกคุณ คุณก็ยังรู้สึกตัว พอมาอย่างนี้ทำเป็นกลัวว่าจะไม่ลืมตาอย่างนั้นแหละ’

“เอ่อ...คือฉัน”

‘เอาล่ะ นอนเสีย ถ้าผมปลุกคุณแล้วคุณไม่ตื่นผมก็จะจูบคุณ’

“บ้า อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ”

‘ผมจะจูบคุณถ้าผมนับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง..สอง..’ เขาเริ่มนับ แต่ขนมจีนไม่ยอมให้ชายหนุ่มนับถึงเลขสาม เธอก็ดึงผ้าห่มคลุมหัวทันทีหน้าใสเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ไม่กล้าโผล่หน้ามาให้เขาเห็นอีก ใบหน้าคมคายยิ้มละไมเขาแค่ขู่เธอเท่านั้น แล้วก็หายวับไปทันที...

ใต้ผ้าห่มขนมจีนหน้าแดงระเรื่อ

คนบ้า ชอบทำอะไรให้เธอปั่นป่วนหัวใจอยู่เรื่อยเลยเชียว....


“อะไรนะ เดี๋ยวก่อนสิ นี่ฉันหาเงินมาให้คุณตั้งสิบล้านกว่าแล้วนะ คุณยังไม่พอใจอีกเหรอ” คุณป้าผการ้องเสียงดัง หน้ามืดจะเป็นลมเสียให้ได้

“แม่ จะทำยังไงดีคะ”

“นี่ ฉันไม่มีให้คุณแล้วนะ จะเอาอะไรอีกนักหนา” ป้าผกาเริ่มโมโห “ถ้าคุณจะส่งลูกน้องมาละก็ ให้มันมาเลยฉันจะรออยู่ที่นี่แหละ ได้ตัวไปแล้วก็อย่ามาเผามาจี่กันก็แล้วกัน”

ป้าผกากดปิดโทรศัพท์แบบกระแทกหูเข้าให้

“เออ มาเลย ฉันจะคอยดู”

“แม่ ทำไมแม่พูดอย่างนั้นคะ”

“แกไปเก็บเสื้อผ้า แล้วออกไปกับเพื่อนสักสองสามวัน รีบไปสิ”

“อะไรนะคะ ละ...แล้วเพื่อนคนไหนจะไปกับหนูล่ะ”

“รีบไปเถอะน่า ก่อนที่พวกนั้นจะมา”

“โธ่ แม่..บอกแล้วว่าการเล่นไพ่น่ะไม่ได้ตายดี แล้วยังไม่เชื่ออีก”

“เอ๊ะ ฉันบอกให้เก็บเสื้อผ้ายายคนนี้นี่”

“โอ้ย หนูไม่ยุ่งด้วยแล้ว” พูดจบแววก็หมุนตัวขึ้นไปชั้นบน กะจะเก็บเสื้อผ้าไปพักร้อนสักอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วค่อยกลับมา ส่วนนานชิตได้แต่ทำหน้าซีเรียส

“แม่ แล้วผมล่ะ”

“แกก็ไปกับเพื่อนของแกน่ะสิ”

“เงินผมก็ไม่มี แล้วจะไปอยู่กับเพื่อนที่ไหนล่ะครับ” ตาชิตทำหน้าละเหี่ยทำท่ายักไหล่

คุณป้าผกาเม้มปากแน่น ควักเงินในกระเป๋าส่งให้ตาชิตสักหนึ่งหมื่น

“เอาเงินไปหนึ่งหมื่นแล้วอยู่กับเพื่อนสักสองสามวัน”

ตาชิตเอื้อมมือไปหยิบเงินแล้วเอามานับ

“แค่หนึ่งหมื่นจะไปพออะไร” เขาบ่นอย่างเอือมระอา

“แกจะไปหรือไม่ไป ฉันจะได้บอกให้เขามาเอาแกไปซ้อมให้น่วมเป็นผีเฝ้าวัดเลยเป็นไง” ป้าผกาตวาดแว้ด

“โธ่ คุณแม่...ไปก็ไป”

เมื่อจัดการกับลูกได้แล้ว คุณผกาก็นั่งลงบนโต๊ะทำท่าร้องไห้ปริ่มจะขาดใจรอให้เจ้าหนี้ส่งลูกน้องมาทวงหนี้เธอ เห็นน้ำตาแล้วจะใจอ่อน เธอร้องไห้ขอโทษขอโพยเสร็จสรรพก็ได้เวลาที่เจ้าหนี้จะบึ่งรถมอเตอร์ไซต์เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เธอร้องไห้ปานจะขาดใจ

“ว่าไงคุณผกา หนี้สินจำนวนยี่สิบล้านน่ะได้เมื่อไหร่”

“โถ พ่อคุณ ป้าไม่มีเลยลำพังหนี้สินป้าก็เยอะอยู่แล้ว ยังจะเอาอะไรอีก”

“ไม่มีเรอะ แล้วทำไมตอนนั้นป้าไม่คิด”

“ก็ป้าไม่รู้จะทำยังไง ตอนนั้นในหัวป้ามีแต่การเล่นไพ่ ฮือๆ แต่ถ้าพวกคุณจะเอาคนไปขัดดอกละก็ ป้ามีหลานสาวอยู่คน เขาอยู่ในบ้านข้าง ๆ นั้นล่ะ แต่ว่าขอเถอะนะอย่าเอาไปเลย” ป้าผการ่ำไห้

“มีหลานสาวอยู่คนเดียวเรอะ แล้วลูกป้าล่ะ”

“ฮือ ๆ เขาน่ะทิ้งป้าไปหมดแล้วไปไหนหมดก็ไม่รู้ ป้ามีแต่หลาน”

“เฮ้ย ไปเอาตัวมาซิ”

“อย่าเอาไปเลย สงสารป้าเถอะ” ป้าผการ้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าสงสาร “ป้าแก่แล้ว อย่ามาหลานสาวของป้าไปเลยหลานป้าอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวถัดจากที่นี่ไปสี่ห้าหลัง พ่อคุณทูนหัว”

“บอกหมดเลยนะยายแก่ แกนี่จะให้หลานใช้หนี้ใช่ไหมเนี่ย”

“เปล่านะ เปล่า หลานป้าไม่มีความผิดอะไร อย่าเอาไปเลย”

“เฮ้ย ไปเอาตัวมาซิ”

ขนมจีนหันไปทางรูปภาพด้านหลัง คล้ายจะมีเสียงใครเรียกให้หันกลับไปด้านหลัง...

“เสียงเรียกชื่อฉัน” เธอกระซิบแผ่ว

‘อะไรหรือ’

“ไม่รู้สิ เหมือนได้ยินเสียงเรียกชื่อฉันเลย”

‘คิดไปเองหรือเปล่า’

ขนมจีน

“ได้ยินอีกแล้ว...เสียงเหมือนคุณหลวง” เธอร้องอุทานแผ่ว เดินไปที่รูปภาพคุณหลวง “ฉันได้ยินเสียงคุณหลวงเรียกชื่อนะ แต่ไม่รู้ว่าจะใช่หรือเปล่า”

รีบหนีไป

“รีบหนีไป ไปไหนหรือคะ”

‘เขาพูดว่าอะไร’ ใบหน้าคมคายขมวดคิ้ว

“ไม่รู้สิ เขาพูดว่าให้รีบหนีไป”

“เฮ้ย มีใครอยู่หรือเปล่า” เสียงเรียกที่หน้าบ้านทำเอาขนมจีนหันกลับไปมอง เธอขมวดคิ้วใครนะมาเรียกเธออยู่ที่หน้าบ้าน

“มีใครเรียกชื่อฉัน” เธอกระซิบแผ่ว “ใครกันนะ”

อย่าเปิดนะ

“ใครคะ” เธอเปิดประตูออกไป แล้วก็ต้องเจอกับชายฉกรรจ์หน้าโหดดิบเถื่อนเหมือนผู้ร้ายในหนังละครน้ำเน่าตอนช่วงเวลาเย็น ขนมจีนนิ่วหน้าคิดไม่ออกว่าไปมีเรื่องกับชายพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“หลานคุณผกาอยู่ที่นี่หรือเปล่า” เสียงห้าว ๆ ดังขึ้น

“ฉันเอง พวกคุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”

“อืม...” มันชำเลืองมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “หน้าตาท่าทางก็ไม่เลว แบบนี้คงทำงานชดใช้หนี้ไปหลายตัง”

ขนมจีนกระพริบตาถี่ ๆ ทำงานใช้หนี้เหรอ

“ทำงานใช้หนี้ ทำงานอะไรคะ”

“ก็หนี้ที่คุณผกากู้ไปเล่นไพ่แล้วเสียตั้งยี่สิบล้านยังไงล่ะ” ชายคนนั้นหัวเราะเสียงแหบห้

“หนี้ยี่สิบล้าน มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย”

“เกี่ยวสิ ก็เขาบอกว่ามีเธอเป็นหลานสาวคนเดียว แล้วเธอก็ต้องทำงานชดใช้หนี้สินให้เขาด้วย”

“อะไรนะ”

“เฮ้ย จับมันมาซิ”

“เดี๋ยว นี่มันอะไรกัน ปล่อยนะ” ขนมจีนหน้าซีดเผือด ใช้หนี้แทนป้าผกาเหรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย “เดี๋ยวก่อน ป้าผกาบอกพวกแกเหรอว่าให้ฉันใช้หนี้ให้”

“ใช่”

“บ้าแล้ว นี่ปล่อยนะ” เธอร้องสุดเสียง จู่ ๆ ก็มีลมพัดแรงกระพือมาทางพวกมันด้วยความเร็วสูงสุด เธออุทานแผ่วเมื่อสายลมแรงจนหูอื้อ พัดพาเอาใบไม้ใส่พวกมันจนต้องถอยออกไปเอามือปิดหน้า เธอหน้าซีดเผือดเมื่อถูกสายลมเย็นโอบล้อมมือเอาไว้พร้อมเสียงตะโกนลั่น

‘รีบหนีไป’

“ธีร์ คุณจะไปไหน”

‘ออกไปจากที่นี่ก่อน เรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง’ เขาตะโกนลั่น

เธอรีบวิ่งหนีไปทางหลังบ้าน แต่พวกมันรีบวิ่งตามไปพร้อมเสียงตะโกนลั่น เธอคิดอะไรไม่ออกเลยไม่คิดว่าป้าผกาจะโยนความผิดเรื่องใช้หนี้มายังเธอ และไม่คิดว่าป้าผกาจะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้ เธอวิ่งหนีจนสุดฝีเท้าพร้อมได้ยินเสียงหัวเราะจากป้าผกาดังมาให้เจ็บใจ เธอวิ่งหนีไปแต่แล้วก็พลัดหกล้มกลิ้งลง จนพวกมันตามมาจนทัน

“ว้าย”

‘ขนมจีน’

“ปล่อยนะ จะทำอะไรน่ะ”

“ฉันจะเอาเธอไปขายใช้หนี้ มานี่นะ”

“ไม่ ฉันไม่ไป ปล่อยนะ” เธอร้องตะโกนจนถูกพวกมันต่อยเข้าที่ท้องจนทรุด ขณะที่ขนมจีนเม้มปากด้วยความจุกธีร์ก็ปรากฏกายตรงหน้าเธอแล้วพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้พวกมันเข้าถึงตัวเธอ พวกมันผงะถอยหลังหันไปมองหน้ากัน

‘อย่าเอาเธอไป ถ้าพวกแกไม่อยากตาย’

“เฮ้ย ผะ...ผี”

“ไอ้โง่ แกก็เอาสร้อยพระสวมคอมันสิ”

‘อ๊ากก’ ธีร์ร้องตะโกนลั่น เพราะพวกมันถอดเอาสร้อยพระที่สวมอยู่คล้องคอเขา ความร้อนและความเจ็บแปลบเข้าจู่โจมเขาจนกระทั่งทรุดลงกับพื้น

“ฮะ ๆ เป็นไงล่ะเป็นผีก็อยู่ส่วนผี คิดจะมาขัดขวางเรอะฝันไปเถอะ”

“ธีร์ คุณเป็นยังไงบ้าง”

‘ขนมจีน’ เขาตะโกน

“เอาตัวมันไป”

“ไม่นะ ม่าย-ย-ย” เธอร้องตะโกนสุดเสียง...

ร้านบาร์ชื่อดัง แววสวมชุดกระโปรงสั้นเหนือเข่าชุดดำเปิดไหล่ เส้นผมยาวสีน้ำตาลยาวสลวยแต่งหน้าฉูดฉาด นัยน์ตาของเธอทอประกายวาววับ เวลานี้เธอออกมานอกบ้านตามคำสั่งของแม่ แต่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหนมันก็อีกเรื่องหนึ่ง เธอไปอยู่แถวคอนโดกลางคืนก็ออกเที่ยว เธอยิ้มให้ชายหนุ่มมากหน้าหลายตาที่ค่อนข้างจะโสดหรือไม่โสดแต่ภรรยาไม่รู้มันก็อีกเรื่องหนึ่ง เธอดื่มไวน์นัยน์ตาพราวระยับ ยิ้มให้กับชายหนุ่มชุดสีขาวหน้าตาดีไว้ผมสั้น เขายิ้มให้เธอพร้อมทั้งชูแก้วเหล้าในมือขึ้น

“มาคนเดียวหรือครับ”

“ค่ะ แล้วคุณละคะ มาคนเดียวหรือเปล่า”

“ครับ คนโสดไร้คู่ก็ยังงี้”

“แหม..ใจตรงกันเลยนะคะ”

“คุณก็โสดหรือครับ”

“หรือคุณคิดว่าฉันมีแฟนละคะ” เธอยิ้มนัยน์ตาพราว

ชายหนุ่มยิ้มให้เธอพร้อมทั้งยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ดวงตาระริกไหว

“ผมว่าคนสวยอย่างคุณ ไม่น่าจะโสด”

“เหรอคะ ฉันว่าหนุ่มหล่ออย่างคุณก็ไม่โสดเหมือนกัน” เธอยิ้ม

ชายหนุ่มหัวเราะร่วน

“ผมทำงานเยอะนะครับ เลยไม่มีเวลาหาแฟนเท่าไหร่”

“ไร้แฟนแต่ไม่โสดใช่ไหมคะ”

“ประมาณนั้น”

“ฉันว่า...” เธอชำเลืองมองตาเขาพร้อมกับลูกไล้ไปตามคอเสื้อ “บางทีคุณอาจจะพบผู้หญิง ในค่ำคืนเดียวดายก็ได้นะคะ”

“ผมว่าหวังว่าอย่างนั้นเหมือนกัน”

แววเหยียดยิ้ม เวลานี้เธอเมามายและก็พร้อมจะไปไหนกับเขาได้ทุกเมื่อ...แต่ว่าวันนี้เธอไม่มีอารมณ์

“ถ้าอย่างนั้นทำไมเราไม่หาดูละคะ เผื่อว่าจะเจอได้บ้าง”

“ผมมันคนโสด ไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่” เขาแกล้งเซ่อ แต่ค่อนข้างถูกใจเธอ

“จริงเหรอคะ”

“จริงสิครับ”

“ใจตรงกันเลยค่ะ ถ้างั้น...นี่นามบัตร หวังว่าวันหลังเราคงจะได้เจอกันอีกนะคะ” เธอยิ้มหวานปานจะหยด สอดนามบัตรไว้ให้ที่กระเป๋าเสื้อเขาแล้วก็เดินจากไปชายตามามองครั้งสุดท้าย ชายหนุ่มถอนหายใจยาวพอดีมีโทรศัพท์ดังขึ้นเขาจึงกดโทรศัพท์รับ

“มีอะไร บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าโทรมาอีก” ชายหนุ่มหน้าตาดีทำหน้าเอือมระอา “อะไรนะ มีผู้หญิงหน้าตารูปร่างดีเข้ามาใหม่งั้นหรือ”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความสนใจ

“ก็ได้ เอาไว้ในห้อง เดี๋ยวฉันไป” เขายิ้มบาง ๆ...


....ขณะที่ธีร์กำลังหมดสติเพราะกำลังหมดไปเพราะพุทรานุภาพของพุทธคุณ ใบหน้าคมคายได้ยินเสียงเรียกชื่อของใครบางคนพร้อมกับมือที่เขย่าตัวแรง ๆ เขาลืมตาขึ้นช้า ๆ ท่ามกลางฝ้าที่พร่ามัว เขามองเห็นคุณหลวงของขนมจีนสวมชุดขาว สีหน้าค่อนข้างที่จะตกใจ ธีร์ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วและลุกขึ้นนั่งทันที

‘คุณคือคุณหลวงของขนมจีน’

‘ใช่ เธอถูกพุทรานุภาพของพระจนสลบไป’

‘แล้วนี่ขนมจีนถูกพาไปไหน’

‘ฉันรู้ และเธอต้องไปช่วยเขา เขากำลังจะถูกพาไปขายซ่อง’

‘ซ่อง คุณรู้ไปได้ยังไง’

‘ฉันรู้พฤติกรรมของลูกหลานที่นิสัยเลวก็แล้วกัน’ น้ำเสียงของคุณหลวงเข้มจัด ‘เธอต้องไปช่วยขนมจีน อย่าให้เขาถูกพาไปขายเด็ดขาด’

‘ผมไม่มีร่างกาย แล้วจะไปช่วยเธอได้ยังไง’

‘เธอมีร่างกาย ไม่ใช่ว่าไม่มี’

‘หมายความว่า...’

‘เธอมีร่างกายอยู่ที่โรงพยาบาล ได้เวลาที่เธอจะต้องเข้าร่างเหมือนเดิมแล้วรีบไปช่วยเขา’ น้ำเสียงของคุณหลวงมีแววเป็นห่วงขนมจีน

ธีร์ขมวดคิ้ว ถ้าอย่างนั้นทำไมที่ผ่านมาเขาจึงมองไม่เห็นคุณหลวงขนมจีนเลย

‘ทำไมที่ผ่านมา ผมถึงมองไม่เห็นคุณหลวง’

‘เวลาของคุณหลวงเหลือน้อยแล้ว ใกล้จะไปสู่สุคติเต็มที...ที่แสดงตัวให้เธอเห็นนี่ก็เต็มทีแล้ว’

‘ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ เขาอยู่ที่ไหน’

‘รีเบคก้าบาร์ ขนมจีนถูกพาไปที่นั่น’

‘แล้วคุณ..จะตามผมไปด้วยหรือเปล่า’

‘ฉันไม่สามารถไปได้ แต่เธอถูกติดตามให้ไปกับขนมจีนทุกเมื่อ จงกลับไปเข้าร่างแล้วรีบตามไปซะ’ คุณหลวงตะโกนลั่น ชายหนุ่มพยักหน้า

‘ระวังนะ ระวังเรื่องนางแสงด้วย’

‘อะไรนะ’

‘ระวังขนมจีนกำลังจะถูกอาฆาตจากวิญญาณร้าย’ ปลายประโยคคุณหลวงของขนมจีนก็หายวับไป ธีร์ไม่มีเวลาสนใจอีกแล้ว เวลานี้เขาต้องรีบกลับเข้าร่างที่โรงพยาบาลเพื่อไปช่วยเธอ...เขาพุ่งไปที่โรงพยาบาลไปสู่ชั้นบนที่ร่างกายเขานอนหมดสติอยู่ เขามองเห็นร่างของเขานอนหายใจเข้าออกอยู่บนเตียงจึงรีบพุ่งร่างเข้าสู่กายเนื้อทันที

....ธีร์รู้สึกว่าร่างกายและจิตกำลังจะรวมกันเป็นหนึ่ง ชายหนุ่มผสานเข้ากับร่างกายและกระตุกปลายนิ้วทันที ทำเอารินดาที่นอนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกตัวตื่น เธอมองมาที่ชายหนุ่มแล้วก็ต้องลืมตาโตเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มขยับเล็กน้อย

“คุณธีร์ คุณฟื้นแล้วเหรอ”

“อืม..”

“โอ พระเจ้า คุณฟื้นแล้ว” รินดาน้ำตาแทบไหล เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าธีร์จะฟื้นขึ้นมาจริง ๆ “ธีร์คะ คุณจะลุกไปไหน”

“ถอยไป ผมจะรีบไป”

“อะไรนะคะ” เธอหน้าซีดเผือด “คุณเพิ่งฟื้นนะคะ คุณจะไปไหน”

“ผมจะไปช่วยเธอ”

“ใครคะ ที่คุณจะไปช่วย” เธอตะโกนด้วยความโกรธ ธีร์หันมามองหน้ารินดาด้วยความรู้สึกผิดอย่างไม่น่าให้อภัย เขารักขนมจีนและไม่เหลือหัวใจไว้ให้ใคร

“ขนมจีน” เธอกระซิบแผ่ว “เธอถูกพาไปขาย ผมจะไปช่วยเธอ”

“ขนมจีน...เหรอคะ” เธอกระซิบแผ่ว “นี่คุณรู้ได้ยังไงคะ ว่าเธออยู่ที่นั่น”

“ผมรู้ก็แล้วกัน ขอโทษนะ...คุณรินดา”

รินดาส่ายหน้าทั้งน้ำตา ไม่มีเหลืออีกแล้วหัวใจที่รักเธอ

“แล้วฉันละคะ คุณเอาไปไว้ที่ไหน ฉันคนนี้ที่อยู่เป็นเพื่อนคุณคอยดูแลคุณทุกอย่าง คุณไม่เหลือหัวใจไว้ให้ฉันเลยหรือคะ”

“ผมขอโทษ” เขาไม่มีคำขอโทษใด ๆ มากไปกว่านี้อีกแล้ว “ผมรักขนมจีน”

“คุณธีร์” เธอจับแขนเอาไว้ “ได้โปรดเถอะ...ฉันรักคุณนะคะ”

“แต่ผมไม่ได้รักคุณ ขอโทษนะ”

“คุณธีร์” รินดาตะโกนทั้งน้ำตา ในขณะที่ธีร์วิ่งออกไป ไม่มีอีกแล้ว..หัวใจของเธอที่มีแต่เขา และไม่มีหัวใจเขาที่เธอครอบครองแต่เพียงผู้เดียว

ธีร์ไปแล้ว..

นำพาหัวใจของเขาไปด้วย....

“ที่นี่หรือเปล่านะ”

พี่นรารำพึงแผ่ว เขารู้มาจากเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ถึงเรื่องที่ไอ้ชัดป่วยเป็นโรคกระเพาะจนต้องมารักษาตัวที่โรงพยาบาล เขาจึงมาหาแต่ลืมไปว่าไม่ได้ถามห้อง เขาจึงเดินเข้าไปกะจะเข้าไปถามนางพยาบาลว่าเขาอยู่ห้องไหน แล้วจะได้เข้าไปถูก

“พยาบาลอยู่ตรงไหนนะ ดีล่ะเข้าไปถามข้างในดีกว่า”

รินดาน้ำตาไหล...เธอร้องไห้จนไม่รู้ว่าจะร้องได้อย่างนี้อีกหรือเปล่า เธอเดินออกมาจากโรงพยาบาลที่ไร้ร่างของธีร์อีกต่อไป หัวใจเธอมันว่างเปล่าไม่มีที่ว่างเหลือไว้ให้ใครได้อีก เธอรักเขา...รักจนไม่รู้ว่าจะลืมเขาได้หรือเปล่า เธอเดินลงมาจนกระทั่งเดินชนเข้ากับพี่นราถึงกำแสงจนล้มลงไป

“ขอโทษนะครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่นรารีบขอโทษ

“ไม่...เป็นไรค่ะ”

“คุณร้องไห้หรือ...ผมขอโทษจริง ๆ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ” รินดาพยายามจะลุกขึ้นแต่เซถลาไปสู่อ้อมกอดของพี่นรา เขาประคองร่างเธอเอาไว้

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ ฉัน...” น้ำตาของเธอไหลออกมาอีก

“ค่อย ๆ เดินนะครับ ผมว่าเราไปหาที่นั่งเพื่อสงบใจหน่อยดีกว่า” พี่นราประคองร่างคุณรินดาไปนั่งพักแถว ๆ ร่มไม้เธอน้ำตาไหลออกมาตลอดเวลา พี่นราเห็นน้ำตาผู้หญิงแล้วค่อนข้างสงสาร

“นี่ครับ” เขายื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอ รินดาเห็นแล้วยิ้มออกมาบาง ๆ

“ขอบคุณค่ะ ฉันนี่แย่จริง ๆ นะคะต้องรบกวนคุณอีกแล้ว”

“ไม่หรอกครับ คุณมีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็ระบายออกมาได้นะครับ”

“ขอบคุณค่ะ แต่..มันไม่มีประโยชน์อีกแล้ว”

“ทำไมละครับ”

“เพราะคนที่ฉันรัก เขาไม่มีหัวใจให้ฉันอีกต่อไปแล้ว” เธอเอ่ยเสียงเครือ

พี่นรามองหน้าคุณรินดา เธอช่างมีหน้าตาที่สะสวยนัยน์ตาเปื้อนน้ำตาก็ดูละมุนละไม ใครนะช่างใจร้ายทำกับเธอได้ลงคอ

“คุณก็เลยร้องไห้ขนาดนี้หรือครับ”

“ใช่ค่ะ ขอโทษนะคะ ที่ฉัน...”

“ไม่เป็นไรครับ ผมรับได้” เขายิ้มบาง ๆ

“ผ้าเช็ดหน้าของคุณ ฉันกลับทำเลอะเทอะหมดเลย”

“เอาไว้คราวหน้า คุณค่อยเอามาคืนผมนะครับ”

“แต่ว่า....ฉันคงไม่ได้มาอีกแล้วละค่ะ”

“ทำไมละครับ”

“เพราะคนที่ฉันรัก...เขาไปแล้ว ไปตามหาหัวใจของเขา”

พี่นรามองดูเธอแล้วรู้สึกว่าเธอช่างเป็นคนที่ปล่อยไว้คนเดียวไม่ได้ เธอบอบบางและน้ำตาไหลออกมาให้เห็น เขาเป็นผู้ชายแท้ยังรู้สึกสงสารเธอมากขนาดนี้

“คุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะครับ โลกนี้ยังมีคนอีกมากมายที่เป็นอย่างคุณ”

“ฉันรู้ค่ะ” เธอยิ้มบาง ๆ “แต่ไม่มีใครรู้สึกเหมือนอย่างฉันตอนนี้”

“ผมชื่อนรานะครับ ผมมาเยี่ยมเพื่อนที่เป็นโรคกระเพาะ แล้วคุณชื่อ...” เขาหวังให้เธอเอ่ยชื่อออกมา
“ฉันรินดาค่ะ”

“คุณรินดา...แม้ว่าโลกนี้จะไม่มีใครรู้สึกอย่างคุณ แต่คุณก็ไม่ได้อยู่แค่คนเดียวนะครับ คุณยังมีผมหรือใครอีกหลายคนที่เข้าใจคุณ ถ้าคุณพร้อมเปิดใจรับคนใหม่ ๆ” เขายิ้มอบอุ่น

รินดามองหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม

“เหรอคะ ถ้าเจอใครเป็นอย่างนั้นช่วยบอกฉันที”

“อะไรนะครับ”

“ฉันจะได้มีเพื่อนใหม่สักที ขอบคุณค่ะที่ช่วยฟังฉันพูด ขอตัวก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวครับ” พี่นราเรียกชื่อเธอเขารู้ว่าปล่อยเธอไว้คนเดียวไม่ได้ “แล้วเราจะได้พบกันอีกหรือเปล่า”

“คงไม่ได้เจอหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”

“ครับ”

....เธอเดินจากไป พี่นรายิ้มให้เธออย่างอบอุ่น เขารู้แค่ว่าเธอชื่อรินดาแต่ไม่รู้ว่าเธอพร้อมที่จะเปิดรับเพื่อนใหม่แล้วหรือยัง สำหรับเธอคงต้องอาศัยเวลาอีกเนิ่นนานกว่าจะลืมรักครั้งเก่าได้ แล้วเขาก็จะไม่ได้เห็นผ้าเช็ดหน้าที่เธอเก็บเอาไว้อีกนานเลยทีเดียว....

**************
บทนี้คุณป้า...สุด ๆ จริงๆค่ะ น่าสงสารคุณรินดาจัง



เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 มี.ค. 2556, 14:30:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 มี.ค. 2556, 14:30:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 1521





<< ตอนที่ 8 เจ้าชายนิทรา   บทที่ 10 โชคชะตาอาภัพ >>
เบลินญา 5 มี.ค. 2556, 14:32:59 น.
คุณ Auuuu >>> ร้ายเกินไปจริง ๆ ค่ะ
คุณ Zephyr >>> สุด ๆ ไปเลวค่ะ ^^


Auuuu 5 มี.ค. 2556, 18:28:45 น.
สุดๆนะป้า แย่มากกกก


Zephyr 9 มี.ค. 2556, 19:29:21 น.
อ้าว ป้า นั่นหลานนะ สายเลือดข้องเกี่ยวถึงจะไม่โดยตรงก็เหอะ
พี่ นรา เอิ่ม จีบสาวใหม่เหรอ เอ...


lookAme 17 มี.ค. 2556, 23:35:59 น.
เหอๆ หมดคำบรรยายกะป้าแกจริงๆ


จิรารัตน์ 22 มี.ค. 2556, 17:38:53 น.
โห.....พี่นราปะกันแห่มแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account