นางบำเรอตีทะเบียน By อัญจรี น้ำจันทร์
คำโปรยหน้า

บุพเพฤาชะตา ที่นำพามาพบเจอ

หน้าที่เมียบำเรอ เขาให้เธอจำขึ้นใจ

ฉากหน้าแสนโสภา ภรรยานิตินัย

ฉากหลังนั่งร้องไห้...นางบำเรอตีทะเบียน



คำโปรยหลัง

เมื่อความรักที่มีไม่ได้รับความเห็นชอบจากมารดาที่รัก

วาโย จึงต้องหาใครสักคนมาแก้แค้นผู้เป็นมารดาให้สมกับที่ท่านกีดกันเขาและสาวคนรักออกจากกัน

ละอองดาว คือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น เพราะหล่อนไม่ใช่ไฮโซ ไม่ใช่ลูกผู้ลาภมากดี

หล่อนเป็นเพียงแค่ โสเภณี ที่เขาบังเอิญถูกชะตา

วาโยไม่รอช้าจดทะเบียนตีตรากับหล่อนเพื่อประชดมารดาในทันที

โดยหารู้ไม่ว่าแม่โสเภณีที่เขาซื้อมาหล่อนยังไร้ ราคี!



สามปีให้หลังเมื่อสัญญานางบำเรอสิ้นสุดลง ละอองดาวดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธะสัญญาที่ไร้รัก

แต่ทว่าสามีผู้หลงใหลในเรือนร่างคุณภรรยา กลับไม่ยอมหย่าให้!



เวลาต่อมา

เมื่อสตรีที่วาโยรักนักรักหนากำลังจะดับดิ้นสิ้นลมหายใจ เขาจึงอยากจะได้ใบหย่าไปให้สาวเจ้าชื่นชม

แต่ทว่า ตอนที่เธออยากหย่าเขาไม่ยอมหย่าให้ ตอนนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้มันไป เช่นกัน!

ความเจ็บปวดใดๆ ที่สามีเคยทำไว้กับภรรยา นาทีนี้ก็เตรียมตัวรับความเจ็บปวดเช่นนั้นกลับไป สองเท่าตัว!




ชื่อเดิม โสเภณีตีทะเบียน -> คมทันฑ์สิเน่หา -> มาจบที่ นางบำเรอตีทะเบียน ค่า
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำหรือดัดแปลงแก้ไข ใครอุบอิบเอาของเขาขอให้แฟนทิ้งแฟนมีหญิงใหม่ สาธุ ^/\^

เตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ นิยายอัพถึงบทที่ 15 นะคะ อาจจะแถมให้ถึง 16 ถ้าคนอ่านช่วยกระหน่ำไลค์ แต่เรื่องอัพจบคงไม่อัพจบค่าเพราะนิยายเรื่องนี้อัพมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ยังให้กำลังใจกันด้วยดี ป,ล ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยจร้า นักเขียนตัวน้อยยังด้อยประสพการณ์ ^/\^
Tags: ตีพิมพ์สำนักพิมพ์ธราธร

ตอน: บทที่ 7 ศัตรูตัวจริง 50%

นางบำเรอตีทะเบียน


เอี๊ยดดด!!!
เสียงเบรกลากล้อของรถยนต์คันหรูดังสนั่น วาโยแตะเบรกด้วยความตกใจเมื่อละอองดาวบอกว่าหล่อนกำลังจะอาเจียน ร่างอรชรเปิดประตูรถลงไปโก่งคอเอาน้ำลายเหนียวๆ ออกจากกระเพาะ
ละอองดาวแทบไม่มีแรงจะยืน วาโยที่ลงรถตามมาติดๆ รีบโผเข้าคว้าร่างที่จวนล้มไว้ได้ทัน
นางวิภาปราดลงจากตัวรถ นางไม่ลืมหยิบขวดน้ำแร่ที่มีอยู่ติดมือมาด้วย
วาโยช่วยละอองดาวยกขวดน้ำเพื่อบ้วนปาก ดีที่ตรงนี้เป็นเส้นทางที่ไม่มีคนพลุกพล่านเขาจึงไม่ต้องทนกับสายตาของคนแปลกหน้าที่อาจจ้องมองมา
“ดีขึ้นหรือยังแม่ดาว หล่อนอยากกลับไปนอนโรงพยาบาลไหมเดี๋ยวฉันจะกลับไปอยู่เป็นเพื่อน”
ละอองดาวส่ายหน้าให้แม่สามี สรรพสิ่งรอบกายมืดมิดไร้แสงใดๆ และหลังจากวาโยขานชื่อเธอเป็นหนสุดท้ายเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
วาโยอุ้มละอองดาวที่หมดสติกลับขึ้นรถอีกครั้ง นางวิภาเองก็รีบไม่แพ้กัน ทว่าพอวาโยตั้งท่าจะเลี้ยวรถกลับโรงพยาบาลนางกลับสั่งห้ามแล้วให้เขาพาหล่อนกลับบ้านแทน
“คุณแม่แน่ใจนะครับว่าเธอยังโอเค ผมว่าน่าจะพากลับไปส่งโรงพยาบาล” วาโยค้านในสิ่งที่มารดาร้องสั่ง แต่สองมือเขายังบังคับพวงมาลัยรถยนต์ให้ไปในทิศทางที่มารดาต้องการ ทว่า พอถึงสี่แยกหลักที่เลี้ยวขวาอยู่ทุกวันเขาก็จำต้องเลี้ยวซ้ายเพราะต้องไปส่งนิลอรที่บ้านก่อน เจ้าหล่อนนั่งเงียบไปเลยตั้งแต่มารดาเขากับละอองดาวขึ้นมานั่งบนรถด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่อาการปกติของคนท้อ...”
นางวิภาเหมือนจะจงใจหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้น มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาเกามุมปากยิกๆ ด้วยว่าอยากพูดออกไปให้จบๆ แต่ถ้าพูดให้จบมันก็ไม่ตื่นเต้นสะใจนะสิ
“คุณแม่ว่าอะไรนะครับ” วาโยชักสงสัย มารดาที่รักจงใจเอ่ยให้เขาเคลือบแคลงในอกอีกแล้ว
“เปล่านี่ ฉันไม่ได้พูดอะไร หรือหล่อนว่ายังไงฮึแม่อร?” นางวิภาหันไปเล่นงานคนที่เอาแต่นั่งเงียบๆ นางรู้เท่าทันหมดนั่นล่ะว่าท่าทีเงียบๆ อย่างนี้ มันเงียบเหมือนน้ำนิ่งไหลลึกถ้าใครเผลอว่ายเข้าไปก็ติดกับหลงอยู่ในวังน้ำวนด้านล่างเท่านั้นเอง
“ปะ...เปล่านี่คะ อรไม่ได้ยินอะไรค่ะคุณแม่” นิลอรเอียงคอตอบอย่างน่ารักและนอบน้อมที่สุดเท่าที่สาวเอาแต่ใจอย่างเธอจะทำได้ แต่มันมิได้ส่งผลดีกลับมาเลย เพราะคนที่ได้รับคือนางวิภาฉายาแม่ผัวจอมจิก (กัด)
“อะแฮ่มๆ ฉันว่าฉันมีลูกชายแค่สองคนนะ ส่วนลูกสะใภ้ก็มีแค่คนเดียว ไม่ต้องเรียกซะสนิทอย่างนั้นก็ได้ ฉันเกรงใจ หึๆ” นางวิภายิ้มหยัน นางออกตัวว่าไม่ยอมนับญาติกับยัยนิลอรขนาดนี้ก็ให้มันรู้ไปสิว่าเจ้าหล่อนยังจะดันทุรัง
นิลอรคอแข็งในบัดดล หล่อนขยับท่านั่งเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยวาจาหวานแสบไส้โต้กลับนางวิภา
“เดี๋ยวอีกหน่อยก็เป็นค่ะ ยังไงซะพี่โยก็ต้องแต่งงานกับพี่นุตอยู่ดี จริงไหมคะพี่โย”
วาโยไม่ตอบแต่เหลือบมองนิลอรทางกระจกมองหลังแล้วยิ้มให้เล็กน้อยเพื่อไม่ให้หล่อนเสียหน้า เขาไม่อาจยอมรับหรือปฏิเสธออกมาได้ในตอนนี้ และพอหันกลับมามองถนนอีกครั้งหางตาด้านซ้ายก็แลเห็นคนป่วยแอบเช็ดน้ำตาเบาๆ ละอองดาวฟื้นขึ้นมาตั้งเมื่อไหร่กัน แต่ถ้าจะให้เขาเดาล่ะก็คงนานพอให้หล่อนได้ยินสิ่งที่นิลอรเอ่ยออกมา
ละอองดาวกล้ำกลืนความเจ็บปวดไว้ในใจตอนนี้เธอแน่ใจแล้วว่า นิลอร ไม่ใช่คนรักของวาโย แต่เป็นผู้หญิงอีกคนที่เป็นพี่สาวเจ้าหล่อน แต่เชื่อไหมว่าความเจ็บแปลบที่หัวใจมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
“แวะปั๊มข้างหน้าหน่อยนะเจ้าโย แม่จะอาเจียน วันนี้แกเอาขยะขึ้นรถมาด้วยหรือไงทำไมมันเหม็นเน่าอย่างนี้นะ”
นางวิภาสูดจมูกฟุดฟิดพร้อมยื่นปลายจมูกคมๆ ของนางไปพิสูจน์กลิ่นตรงนั้นตรงนี้ ก่อนจะหยุดกึกที่หัวไหล่ของนิลอรแล้วกรีดนิ้วขึ้นมาปิดรูจมูกทั้งสองข้างพลางเบะปากอย่างรังเกียจ ไม่แยแสว่านิลอรจะเอียงไหล่หลบด้วยความไม่ชอบใจ
“อ้อ รู้ละ อย่างนี้นี่เอง”
นางวิภาพูดกับบุตรชายทางกระจกมองหลัง วาโยได้แต่ส่ายศีรษะกับท่าทีของมารดา เขาไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ปล่อยให้เลยตามเลย
นิลอรกัดฟันข่มความโมโห สองมือที่วางบนตักกำหมัดแน่นแม้ว่าสีหน้าใต้เงาสลัวของแสงไฟรายทางจะไม่มีสิ่งใดผิดปกติ เธอจะจดจำความอับอายที่ถูกเหยียดหยามดูแคลนในครานี้เอาไว้ และสัญญาว่าถ้าไม่สิ้นลมหายใจไปเสียก่อนจะต้องเอาคืนยายแก่ที่ชื่อวิภาแน่นอน
“คุณโย” เสียงที่ดังแทรกความเงียบทำให้วาโยหันไปมองเล็กน้อย ดูเหมือนว่าละอองดาวกำลังต้องการบางอย่าง
“อะไร?” เขาถาม
“ดาว...หิว” เธอตอบเสียงอ่อย วาโยไม่ได้ตอบว่าอะไรเพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มข้างหน้า
“แม่ดาวหล่อนหิวรึ ตาโยแกรีบแวะหาข้าวให้เมียกินเลยนะห้ามให้ยัยดาวหิวไส้กิ่วเป็นอันขาด อันนี้ฉันจะถือว่าเป็นคำสั่งนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”
“อะไรจะขนาดนั้นครับคุณแม่ ตอนนี้คุณแม่มาเข้าข้างลูกสะใภ้แล้วหรือ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” บุตรชายถามกลับเพราะสังเกตมาหลายครั้งแล้ว มารดาที่รักดูจะเอาอกเอาใจและปฏิบัติต่อละอองดาวดีขึ้นกว่าแต่ก่อน บางทีอาจมีเรื่องอะไรที่เขายังไม่รู้และมารดาจงใจไม่เปิดเผย
“ก็ตั้งแต่...”
“คุณแม่อยากจะลงไปเข้าห้องน้ำไหมคะ ดาวรบกวนซื้อขนมปังให้หน่อยค่ะ ดาวลุกไม่ไหว”
นางวิภาคันปากยิบๆ อยากพูดต่อให้จบ นึกเคืองลูกสะใภ้ที่ชอบขัดคออยู่เรื่อย นางจะอวดแม่นิลอรเสียหน่อยว่าพี่สาวขี้โรคของเจ้าหล่อนไม่มีทางมาแทรกกลางระหว่างสามีภรรยาได้ เพราะทั้งคู่กำลังจะมีลูกด้วยกันมีหลานให้นาง แต่จนแล้วจนรอดนางก็ไม่ได้พูดอยู่ดี
“โอย...ไม่ลงหรอก หล่อนมีผัวก็ใช้ผัวโน่นไป ฉันขี้เกียจ” นางวิภาโยนให้บุตรชายรับไปดื้อๆ วาโยบังคับพวงมาลัยรถยนต์ให้เข้าไปจอดสนิทยังตำแหน่งที่ต้องการ แล้วเปิดกระจกรถเพื่อสั่งความกับพนักงานเติมน้ำมันที่ยืนรอท่าอยู่ ก่อนหันกลับมามองคนป่วยแล้วถามหล่อนว่า
“จะกินอะไรล่ะ?”
น้ำเสียงที่ทอดถามนั้นห้วนสั้นอย่างคนที่กำลังรำคาญ ละอองดาวจึงไม่ตอบคำถามและหันหน้าเข้าหาประตูรถที่อยู่ซ้ายมือทันที
“ดาว...ฉันถามว่าเธอจะกินอะไร?” วาโยยังถามอยู่เช่นเดิม แน่นอนว่าน้ำเสียงที่ใช้ก็มิได้เปลี่ยนแปลงด้วย
“แกจะฆ่าเมียแกรึตาโย พูดดีๆ เหมือนกับที่แกพูดกับแฟนแกไม่ได้รึไงยะ!”
คำพูดที่แม่สามีประชดประชันลูกชายทำเอาลูกสะใภ้ปวดหนึบที่กลางหัวใจจนมิอาจเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ มันทั้งเจ็บยอกแสลงใจทั้งน้อยใจระคน และพอความแง่งอนอยากให้เขางอนง้อสูญสลายไป ความจริงบางอย่างก็ดึงเธอให้กลับมาสู่โลกของความจริง เธอไม่มีสิทธิ์งอนใส่สามีในเมื่อเธอไม่ใช่คนที่เขารัก มันไม่มีวันที่เขาจะงอนง้อ แล้วเธอจะงอนไปเพื่ออะไร
“ดาว...ทานอะไรก็ได้ค่ะคุณโย คุณแม่อย่าเพิ่งโมโหสิคะ คุณโยยังไม่ได้ทำอะไรดาวซะหน่อย”
ละอองดาวแก้ต่างให้สามีก่อนที่เขาจะถูกมารดาว่าแล้วสุดท้ายเขาก็เอาอารมณ์บูดๆ มาลงที่เธออยู่ดี เธอโดนทั้งขึ้นทั้งล่องวันยังค่ำนั่นล่ะ
“ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนหรอกย่ะ ฉันรู้ว่าหล่อนรักผัวหล่อนจนหน้ามืดตามัว แตะนิดหน่อยไม่ได้ เชอะ!” นางวิภาเชิดหน้าขึ้นสูงจนลูกชายที่ลอบมองอยู่เกรงว่ามารดาจะคอเคล็ด ตอนแรกนางเชิดหน้ามาทางที่นิลอรนั่งอยู่แต่พอเห็นใบหน้าสวยคมเท่านั้นนางก็รีบหันไปด้านตรงข้ามทันที
‘ยัยแก่เอ๊ย! คอเคล็ดขึ้นมาจะหัวเราะให้ดู เชอะ’
นิลอรค่อนขอดอยู่ในใจ นางวิภาทำท่ารังเกียจเธอจนออกหน้าออกตา น่าหมั่นไส้
“นี่เราทะเลาะกันอยู่หรือครับคุณแม่ ผมว่าคุณแม่นั่งเงียบๆ สักห้านาทีดีไหมครับเดี๋ยวความดันขึ้นผมขี้เกียจไปโรงพยาบาลอีกรอบ” วาโยประชดมารดา ท่านบ่นไม่หยุดเลยตั้งแต่ขึ้นรถมา
“ไม่ต้องมาแช่งฉัน ฉันอยากบ่นอยากแขวะมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับแก โน่น ไปหาอะไรมาให้เมียแกกินโน่นไป ตาโย”
นางวิภาไม่ได้โกรธบุตรชายแม้แต่น้อยที่เขาประชดประชัน นางถือว่าอย่างน้อยก็ยังดีที่มีเสียงเขาให้นางได้ยิน มันดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อนที่อยู่บ้านเดียวกันแล้วได้ยินแต่เสียงลมหายใจของเขา
“คุณแม่เอาอะไรไหมครับผมจะได้ซื้อมาให้ แล้วเราล่ะเอาอะไรหรือเปล่า” วาโยถามมารดาแล้วหันไปถามนิลอรบ้าง ก่อนผลักประตูรถออกแล้วก้าวลงไป
“อรขอชาเขียวสักขวดก็ดีค่ะพี่โยขา” นิลอรบอกเสียงใสน่ารัก วาโยรับคำแล้วเดินลิ่วๆ ไปเข้าร้านสะดวกซื้อซึ่งเปิดบริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
“อ้าว! ไปซะแล้วฉันว่าจะเอากาแฟแก่ๆ สักถ้วย ตาโยคงไม่ใจดีหยิบชาเขียวมาให้ฉันหรอกนะ ฉันกินไม่เป็น มันเหมาะกับคนแถวนี้ที่ชอบทำหน้าตาซื่อใสไร้เดียงสา ฉันมันแก่แล้วกระเดือกไม่ลง” นิลอรหน้าตึงทันที คำว่าคนแถวนี้นางวิภาจงใจหันมาทางตนเพื่อประชดประชันแน่นอน
“คุณแม่ขา ดาวว่าคุณแม่เก็บแรงไว้ฉีกผ้าอ้อมดีกว่านะคะ ดาวขอล่ะค่ะ” ละอองดาวหาทางให้นางวิภาสงบปาก และก็จริงดังคาดนางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้นิลอรได้นึกสงสัย
ละอองดาวยิ้มให้กับกระจกข้างรถ ความเคลือบแคลงสงสัยคงเกาะกินใจสาวสวยคนนี้เข้าให้แล้ว เห็นได้จากดวงตาที่ฉายแววสงสัยใคร่รู้คู่นั้นและหากว่าแสงสว่างในรถมีมากกว่านี้เธอคงเห็นมันได้อย่างชัดเจน
วาโยกลับมาอีกครั้งในเวลาไม่ถึงสิบนาที พนักงานยังเติมน้ำมันไม่เสร็จด้วยซ้ำ น้ำมันรถหมดเกือบเกลี้ยงถังดีนะที่เขาเป็นคนขับเพราะถ้าน้องชายใช้รถคันนี้ในวันนี้ล่ะก็ได้ไปจอดอยู่ข้างทางแน่ๆ เพราะขานั้นถนัดแต่ขับไม่ถนัดตอนจ่ายค่าน้ำมัน
“ชาเขียวจ้ะอร” เขาส่งน้ำชาเขียวในขวดพลาสติกให้น้องสาวก่อนจะส่งมะขามสามรสให้มารดา
“อะไรเนี่ย แกจะให้ฉันกินมะขามตอนเที่ยงคืนเนี่ยนะ!?”
“เคี้ยวๆ ไปครับคุณแม่ เดี๋ยวนั่งหลับไปผมขี้เกียจอุ้มขึ้นตึก” วาโยกล่าวเรียบๆ แต่มารดายังทำปากขมุบขมิบไม่เลิก
วาโยส่งซาลาเปาร้อนๆ สองลูกในถุงให้ละอองดาว เขาว่ามันน่าจะรองท้องได้ดีกว่าขนมปังบางๆ ที่หล่อนชอบรับประทาน
“ดาวจะกินขนมปัง” หล่อนบ่นเล็กน้อย วาโยเลยหันมาปรามด้วยสายตา ละอองดาวไม่ชอบทานทุกอย่างที่ทำจากเนื้อหมูนั่นแหละเขารู้ดี
“ทานเข้าไป ผอมจนจะปลิวตามลมอยู่แล้ว” วาโยว่าแล้วเริ่มสตาร์ทเครื่องอีกครั้งหลังจากจ่ายเงินกับพนักงานปั๊มเรียบร้อยแล้ว ถ้าวันนี้คนรถที่บ้านไม่ลาป่วยเขาคงไม่ต้องลำบากขับรถเอง แต่ก็ช่างเถอะ นานๆ จะได้ขับสักที

รถยนต์คันงามจอดลงตรงหน้ารั้วบ้านหลังกะทัดรัดที่มีต้นไม้ดอกไม้นานาพรรณผุดขึ้นจนแน่นสวนด้านหน้า ขนาดละอองดาวมองผ่านกระจกรถท่ามกลางแสงสลัวเลือนรางในยามค่ำคืนหล่อนยังสัมผัสได้ถึงความสวยงามของพรรณไม้ วาโยเองก็คงจะหลงเสน่ห์เจ้าใบเขียวๆ นี่กระมังเขาถึงได้มาที่นี่ทุกครั้งที่ลืมตาตื่น เธออุตส่าห์เนรมิตเรือนไม้หอมให้เป็นเรือนที่รายล้อมด้วยมวลบุปผาในแบบที่เขาโปรดปราน แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่งดงามพอให้ใจเขาปรารถนาอยู่ดี
นางวิภาเอนหลังหลับสนิทไปตั้งแต่ออกจากปั๊ม เวลายังไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำแต่ตอนนี้นางส่งเสียงกรนน้อยๆ บอกทางภาษากายว่าเข้าสู่นิทรารมย์อันแสนสุขไปแล้ว
“คุณแม่หลับไปแล้ว” ละอองดาวบอกสามีเมื่อเขากลับออกมาจากบ้านหลังงามของนิลอรแล้วขึ้นรถมานั่งประจำที่นั่งคนขับ
ชายหนุ่มเหลือบมองมารดาเล็กน้อย เขาปิดไฟดวงที่เพิ่งเปิดขึ้นตอนนิลอรลงจากรถเพื่อให้มารดาได้หลับอย่างเป็นสุขโดยไม่มีแสงสว่างใดๆ ไปรบกวน
“ทำไมยังไม่กิน” เขาถามคนที่นั่งถือห่อซาลาเปาสองลูกเอาไว้
“ดาว...ไม่ชอบกินเนื้อหมู มันแหยะๆ” เธอบอกความจริง ปกติเธอก็ไม่ค่อยรับประทานเนื้อหมูอยู่แล้วเขายังจะซื้อมาแกล้งเธอทำไม
“นั่นไส้ถั่วแดง” เขาสารภาพความจริงให้หล่อนฟัง ละอองดาวยิ้มได้ก่อนจะเริ่มส่งซาลาเปาเข้าปาก วันนี้เธอรู้สึกว่าซาลาเปาสองลูกนี้เป็นซาลาเปาที่อร่อยที่สุดในโลกเลยทีเดียว เพราะคนที่ซื้อมาให้เอาความใส่ใจแพ็คมาให้เป็นของแถมนั่นเอง
“ขอบคุณนะคะ” เธอตอบเบาๆ เขาหันมามองคนที่กำลังเอร็ดอร่อยกับซาลาเปาที่เขาซื้อมาให้แล้วนึกเอ็นดู ตอนพาไปนั่งรับประทานในห้องอาหารหรูๆ ล่ะก็รับประทานได้เพียงเล็กน้อยแถมยังทำหน้าบูดหน้าบึ้งเหมือนถูกบังคับให้ไป แต่...ความจริงหล่อนก็ถูกบังคับให้ไปจริงๆ นั่นล่ะ
“คาดเข็มขัดด้วยสิ” เขาสั่งเพราะว่าหล่อนมิได้คาดเข็มขัดนิรภัย แต่ละอองดาวส่ายหน้าดิก
“ไม่เอา มันทับท้องดาวดาวอึดอัด” หล่อนสารภาพ แต่สามีส่ายหน้าอย่างระอาแล้วโน้มกายไปดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ภรรยาสาวจนเรียบร้อย โดยไม่ลืมฉกฉวยรางวัลที่เขาสมควรจะได้นั่นคือการหอมแก้มนวลสองฟอดใหญ่ๆ
“คุณโย! ทำอะไรเนี่ย!” ละอองดาวตาโตด้วยความตกใจริมฝีปากน้อยๆ ก็ร้องออกมาอย่างลืมตัว จู่ๆ วาโยก็หอมแก้มเธอซะอย่างนั้น ดีนะที่นิลอรลงรถไปแล้วแถมแม่สามีก็หลับอุตุไม่อย่างนั้นเธอคงได้อายมากกว่านี้
“ก็หอมแก้มเมียมันผิดตรงไหน” เขาว่าเสียงฮึดฮัดประหนึ่งขัดใจที่หล่อนร้องออกมาเหมือนจะว่าที่เขาหอมแก้ม ละอองดาวมองสามีตาปริบๆ สงสัยวันนี้วาโยคงทำงานหนักกระมังถึงได้มีท่าทีแปลกๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยรุ่มร่ามกับเธอต่อหน้าใคร แต่ถ้าในห้องนอนละก็ว่าไปอย่างเพราะเขามันพวกบ้าพลัง จัดเต็มทุกกระบวนท่า
“ก็ปกติคุณโย...ไม่เคยทำนี่นา” เธอตอบเสียงอ่อยแล้วตั้งหน้าตั้งตากินต่อไม่รอฟังคำแก้ต่างของเขาเพราะมั่นใจว่า เขาไม่มีวันแก้ต่างให้กับสิ่งที่เขาตั้งใจทำ
รถยนต์คันงามเคลื่อนออกจากหน้ารั้วบ้านของสองศรีพี่น้องไปนานแล้ว แต่เรือนร่างสูงโปร่งระเหิดระหงปานนางแบบของนิลอรยังคงยืนตัวสั่นอยู่ที่เดิม หล่อนยังไม่ได้ก้าวเข้าไปในตัวบ้านแต่ยืนอยู่หน้าประตู ซึ่งใกล้พอที่จะได้เห็นฉากกุ๊กกิ๊กของสามีภรรยาที่อยู่ในรถ ทั้งสองคงคิดว่าไม่มีใครเห็นกระมังถึงได้กล้าทำอย่างนั้น ช่างไม่อายฟ้าอายดิน ทุเรศ!
สองมือของสาวผิวน้ำผึ้งกำแน่นเข้าหากันจนเส้นเลือดปูดโปน พี่โยบอกว่ารักพี่สาวเธอมิใช่หรือ แล้วทำไมถึงยังกล้ากอดจูบหอมแก้มยัยละอองดาว!
“พี่โยนะพี่โย ถ้าเล่นไม่ซื่อกับความรู้สึกของพี่นุตล่ะก็ อรไม่เอาพี่ไว้แน่ๆ ยัยดาวเปื้อนดินนั่นด้วย คิดว่าตัวเองเหมาะสมกับพี่โยแล้วหรือถึงกล้าเผยอหน้าชูคอเคียงคู่เขา น่าสมเพช หล่อนมันก็แค่เมียตีทะเบียนเท่านั้นเอง เชอะ!”
ริมฝีปากคลี่ยิ้มร้ายกาจเมื่อคิดถึงละอองดาวในข้อนี้ เจ้าหล่อนก็ไม่ได้ความรักจากพี่โยเช่นเดียวกับเธอนั่นล่ะ ไม่มีใครได้หัวใจของพี่โยนอกจากพี่สาวของเธอเอง และหล่อนกำลังจะจากโลกนี้ไปพร้อมหัวใจของพี่โยเช่นกัน ไม่ยุติธรรมกับเธอเลย...
หยาดน้ำตารินหลั่งมาไม่ทันรู้ตัว นิลอรปัดความคิดชั่วร้ายออกไปจากหัวเพื่อจะได้ดึงความเศร้าหมองตรอมตรมในเรื่องพี่สาวมาทำความรู้จักทักทายเอาไว้ให้ชิน อีกไม่นานความอ้างว้างก็จะตามติดเธอเป็นเงา ไม่มีพี่สาวแสนดี ไม่มีเสียงเอ็ดน้องให้เธอน้อยใจ ไม่มีเสียงหัวเราะยามหยอกล้อชิดใกล้ เพราะอีกไม่นานก็จะไม่มีแล้วพี่สาวที่ชื่อ...วีนุตตรา

ใครยังไม่ลงชื่อจองรีบเลยน้า าาาาาาาาาาาาา

จองนิยายได้ที่หน้าแฟนเพจ น้ำจันทร์ มาฬฏี แต่ยังไม่ต้องโอนเงินจร้าาา ตอนนี้ ยอดจอง 290 เล่มแล้วววววววว ปกยังไม่มาเลยยยย ขอบคุณทุกท่านมากมายจร้า
http://www.facebook.com/notes/น้ำจันทร์-มาฬฏี/เปิดจอง-บุหงาราคี-vs-นางบำเรอตีทะเบียน-งดจองหัวใจใกล้เกินเอื้อม-จะแจ้งบัญชีให้โอ/536041153081224#
เปิดจอง บุหงาราคี VS นางบำเรอตีทะเบียน งดจองหัวใจใกล้เกินเอื้อม จะแจ้งบัญชีให้โอนเงินเมื่อหนังสือได้ราคานะค้าช่วงนี้รอๆๆๆๆ

***
นิยายทุกเล่มสามารถสั่งได้ตอนที่บุหงาราคีหรือนางบำเรอตีทะเบียนมานะคะ ตอนนี้ไม่เหลือเลยค่า หมดแล้วววว ทุกคนที่อัญลงชื่อจองจะได้รับข้อความจากอัญนะค้าาา ตรวจสอบด้วย ใครไม่มีแสดงว่าอัญเข้ากล่องข้อความของท่านไม่ได้จร้า รบกวนติดต่ออัญทางข้อควา...
อ่านต่อ ...



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 มี.ค. 2556, 10:27:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 มี.ค. 2556, 10:27:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 11671





<< บทที่ 6 ลูกสะใภ้ข้า! อย่าแตะ 100%   บทที่ 7 ศัตรูตัวจริง 100% >>
Lilly 10 มี.ค. 2556, 10:28:52 น.
ใครยังไม่จองรีบเลยน้า


ลิลลี่ 10 มี.ค. 2556, 19:17:38 น.
ชอบแม่สามีมาก นางฮามาก555555555555

เฮ้อแล้วเมื่อไหร่วาโยจะรู้ซักที หันมาดูแลดาวบ้าง ไมาใช่เอาแต่ดูแลอีกคน


มะเหมี่ยว 10 มี.ค. 2556, 19:53:34 น.
แม่สามีสุดยอดรักลูกสะใภ้
รออ่านยุนะจร้า


Lilly 10 มี.ค. 2556, 20:54:35 น.
เดี๋ยวจัดให้จร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account