ลิขิตรักในสายลม # จุฬามณี
รัก หวานๆ ขม ของสาวไทยกับหนุ่มมาเลย์
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 21.
ตอนที่ 21
กลับจากไปรับประทานอาหารมื้อเย็นหลังจากที่ลงมาจากเกนติ้งแล้ววรรณรดาก็โทรขึ้นมาเช็คว่าขวัญชีวีอยู่ที่ห้องพักหรือเปล่า และพอรู้ว่าขวัญชีวีกลับมาแล้ว หลังจากส่งณิชกานต์เข้าห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า วรรณรดาก็เดินมาเคาะประตูเรียก พอเข้าห้องมาแล้ววรรณรดาที่มีใบหน้าสดชื่นก็เดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา...
“ทริปเกนติ้งเป็นอย่างไรบ้าง ยายนิดแผลงฤทธิ์แผลงเดชอะไรหรือเปล่า” ขวัญชีวีที่อยู่ในชุดคลุมกิโมโนสีขาวของโรงแรมถามแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียงนอน
“ไม่นะ ทุกอย่างราบรื่นดี ว่าไปแล้วเขาก็โอเคนะ”
“หมายความว่าไง”
“สำหรับดา เขาก็ดีนะ คือ เขาดูเป็นตัวของตัวเองดี ตอนแรกคิดว่าเขาจะมาเพื่อตามตื๊อพี่ปุ้ม แต่เอาเข้าจริง ๆ เขาก็ไม่ได้อะไรกับพี่ปุ้มมากมาย ไม่ได้อี๋อ๋อจนน่าเกลียด ไม่ได้ขัดขวางเมื่อเห็นดาใกล้ชิดพี่ปุ้ม”
“อาจจะเป็นเพราะพี่รุตตามมาด้วย ก็เลยลังเล โลเล ไม่กล้าพุ่งเข้าชนพี่ปุ้มอย่างเต็มแรง” ด้วยไม่ได้เห็นพฤติกรรมของณิชกานต์กับตา อคติที่มีมาก่อนหน้านั้นก็ยังคงอยู่กับขวัญชีวีเช่นเดิม
“อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้”
“แล้วนี่เขาทำอะไร”
“อาบน้ำ เดี๋ยวคืนนี้จะไปข้างนอกกัน ขวัญจะไปด้วยกันไหม คุณมาร์คจะพาพี่รุตเที่ยวถิ่นเขา”
ขวัญชีวีส่ายหัวปฏิเสธในทันที
“แล้ววันนี้คุณมาร์คพาไปไหนมาบ้าง ไปกินข้าวเย็นที่ไหนกันมา”
“ขวัญว่าดารู้หมดแล้วนะ”
“อร่อยไหม”
หลังจากที่ตื้อขอความรักจากขวัญชีวีแล้วไม่ประสบความสำเร็จ หลินฮันหมิงก็ชวนขวัญชีวีออกไปเที่ยวฆ่าเวลา โดยเขาพาหญิงสาวไปยังหอคอยกัวลาลัมเปอร์ (KL TOWER) เพื่อชมเมืองกัวลาลัมเปอร์ในมุมสูง ไปดูตึกแฝดสูงระฟ้าหรืออาคารเปโตนาสสัญญาลักษณ์ของเมืองอีกมุมหนึ่ง กับรับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารบนหอคอย เพราะวันนี้ ช่วงอาหารเย็นเขาไม่ได้เซ็ทมื้ออาหารต้อนรับทีมงานเหมือนเมื่อวาน ด้วยอยากให้ทีมงานได้ออกเที่ยวเตร่ในเมืองนี้ตามอัธยาศัย
“ทุกอย่างหวานหมดเลย...” ใบหน้าของขวัญชีวีมียิ้มแบบคนเจ้าเล่ห์ซ่อนอยู่
“สรุปว่างานของคุณมาร์คสำเร็จตามแผน”
“แผนอะไร”
“จีบขวัญชีวี วัชระประสิทธิ์ไปเป็นคู่ชีวิต”
“ชีวิตรักของคนสองคนมันไม่จบง่าย ๆ แบบในนิยายหรอกดา มันต้องให้กาลเวลาพิสูจน์ใจเขาอีกเยอะเหมือนกัน”
“พูดเหมือนกับว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา”
“ขวัญว่า มันยังไม่ถึงเวลาที่จะตกลงเป็นแฟนกัน ผูกมัดกันด้วยคำว่ารัก เพราะขวัญเองก็ยังไม่ได้เลิกกับพี่ปุ้มอย่างเป็นทางการ ขวัญอยากคบหากับเขาแบบเพื่อน แบบญาติไปก่อน เพราะอย่างไรเขาก็เป็นหลานคุณย่าซิ่วอิน”
“ระวังคุณนิดจะเปลี่ยนใจฉกเขาไปนะ”
“แต่ฟังจากน้ำเสียงของดา ขวัญว่าตอนนี้ยายนิดโอนเอนไปทางพี่รุตแล้วแหละ ดาเบาใจได้เลย”
“พี่รุตบอกกับดาว่า เขาไม่ยอมเซเยสตกลงเป็นแฟนกับพี่รุต ก็แสดงว่าเขาไม่ได้สนใจที่เงิน”
“เล่นตัวเรียกราคาละซิ”
“ขวัญอคติกับเขามากไปหรือเปล่า”
“ไปเที่ยวด้วยกันวันเดียว ออกรับแทนกันเลยนะ”
“ดารับเขาเป็นเพื่อนดาอีกคน ดาก็ไม่อยากเป็นคนกลางที่ต้องมานั่งอึดอัด”
“นางฟ้าจริง ๆ” ว่าแล้วขวัญชีวีก็ลุกขึ้นเดินไปยังหน้ากระจกหยิบหวีมาแปลงผมพลางสำรวจใบหน้าตัวเอง ส่วนวรรณรดาก็นั่งนิ่งมองใบหน้าของขวัญชีวีในกระจกก่อนจะเปรยออกมาว่า
“ถ้าขวัญไม่ไปเที่ยวด้วยกัน งั้นดาไปกับพวกเขานะ”
“ตามสบายเลยจ้า ไม่ต้องห่วงขวัญหรอก เที่ยวให้สนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลย แต่ว่าพรุ่งนี้จะไปไหนกันหรือเปล่า”
“นอนตื่นสาย ๆ แล้วก็ เก็บตก สถานที่สำคัญ ๆ ในเมืองนี่แหละ ยังไม่ได้มีเป้าหมายอะไรกันหรอก บางทีอาจจะไปดูขวัญทำงานก็ได้”
“ขวัญไม่อนุญาตให้ตามไปกองถ่ายนะ...มาเพื่อเที่ยวก็จงออกไปเที่ยวให้คุ้มค่ากับเวลาที่มี”
“ขวัญไม่นึกอยากไปกับพวกเราบ้างเหรอ”
“อยาก แต่ว่าขวัญคิดว่า อย่างไรแล้ว มาเลเซียกับขวัญคงหนีกันไม่พ้นหรอก”
บอกเป็นนัย ๆ ไปแล้วขวัญชีวีก็นึกขึ้นมาได้ “อ้อ แล้ววันนี้เป็นไง พี่ปุ้มเล่นได้ไหม...”
“ได้ ได้เยอะด้วย พี่ปุ้มเลยเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารค่ำพวกเรา กินกันซะพุงกางเลย”
ช่วงที่วรรณรดาขอตัวไปยังห้องพักของขวัญชีวีที่อยู่ติดกันนั้นหญิงสาวได้ชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ เมื่ออาบน้ำเสร็จช่วงที่กำลังเป่าผมให้แห้งณิชกานต์ก็ต้องละเครื่องเป่าผมที่มีอยู่ในลิ้นชักตรงเคาน์เตอร์กระจกก่อนจะเดินไปยังโทรศัพท์มือถือของวรรณรดาที่ส่งเสียง...
“คุณแม่” ณิชกานต์อ่านชื่อที่ปรากฏอยู่ที่หน้าจอ ใจหนึ่งก็อยากจะรับสายและบอกว่า วรรณรดานั้นออกไปข้างนอก แต่อีกใจณิชกานต์ก็รู้ว่าระบบโรมมิ่งที่วรรณรดาเปิดไว้นี้เมื่อรับสายนั้นจะเสียค่าใช้จ่ายแพงอยู่เหมือนกัน ณิชกานต์ปล่อยให้โทรศัพท์ของวรรณรดาดังจนกระทั่งเงียบไป และมันก็ดังขึ้นมาอีก...
“สวัสดีค่ะคุณแม่ ดาไม่อยู่ค่ะออกไปห้องขวัญ” ณิชกานต์ตัดสินใจกดรับสายตัดรำคาญ...และอีกใจ ณิชกานต์ก็คิดว่าแพงแค่ไหนวรรณรดาจ่ายได้อยู่แล้ว...
“แล้วเธอเป็นใคร”
“ณิชกานต์ค่ะ”
“ณิชกานต์ไหน”
“ณิชกานต์ หาญกล้าค่ะ”
“ณิชกานต์ หาญกล้าไหน...อ๋อ...อ้าว ไปกับเขาด้วยเหรอ”
“คุณแม่มีธุระอะไรกับดาเหรอคะ หรือจะให้ดาโทรกลับ นิดจะได้บอกดา” ด้วยไม่อยากให้วรรณรดาเสียค่าใช้จ่ายตามจำนวนนาทีที่รับสาย ณิชกานต์จึงต้องรวบรัด ไม่ยอมบอกเล่าว่า งานนี้เธอมาด้วยทำไม
“แล้วเธอไปกับเขาได้อย่างไร พักห้องเดียวกับดาเหรอ”
“ค่ะ พักอยู่กับดา”
“แล้วดาทำอะไรบ้าง”
“ก็ไปเที่ยวค่ะ”
“ไปเที่ยวไหนกัน ไปกับใครบ้าง”
“วันนี้ไปเกนติ้งกันมาค่ะ”
“วิศรุตก็ไปด้วยใช่ไหม ได้ยินมาว่าวันนี้วิศรุตเขาไปมาเลเซีย”
“ค่ะ...”
“วรรณรดากับปวุฒิเขามีทีท่าต่อกันอย่างไรบ้าง”
“อ่อ ๆ” ณิชกานต์อึก ๆ อึก ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้รับคำถามนี้....
“เล่าให้ฉันฟังหน่อย”
“ก็...ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ ปกติดีค่ะ”
“มันต้องมีซิ ไม่ใช่เพราะปวุฒิวรรณรดาคงไม่ทิ้งงานไปอย่างนี้หรอก” น้ำเสียงนั้นบอกให้รู้ว่าหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก และข้อความถัดมา ก็ทำให้ณิชกานต์ที่ถือโทรศัพท์ฟังอยู่ก็ถึงกับนิ่งอึ้ง
“บอกดาด้วยนะว่า แม่ไม่มีวันยอมรับลูกเขยดาราหรอก ดาจะต้องแต่งงานกับคนที่แม่เห็นสมควรเท่านั้น...อย่าลืมล่ะ บอกดาด้วยนะ”
“คุณดาคะเมื่อกี้คุณแม่คุณดาโทรมา แล้วนิดก็เผลอไปรับสายเข้า” ณิชกานต์ทำหน้าสำนึกผิดขณะรายงานเรื่องให้วรรณรดาที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาได้รับรู้
“คุณแม่ว่าอย่างไรบ้างคะ”
“คุณแม่คุณดาถามว่าคุณดากับพี่ปุ้มมีทีท่าอย่างไรต่อกันบ้าง แต่นิดก็บอกว่า ไม่มีอะไร”
“คุณแม่คิดว่าดากับพี่ปุ้มชอบกันค่ะ”
“แล้วความจริงเป็นอย่างไรคะ” อันที่จริงณิชกานต์พอดูออกว่า วรรณรดานั้นรู้สึกอย่างไรกับปวุฒิแต่หญิงสาวต้องถามเพื่อความแน่ใจ
และวรรณรดาเองก็ไม่อมพะนำเก็บงำความรู้สึกไว้ ด้วยอยากให้ณิชกานต์เห็นใจความรู้สึกของตนกับต้องการผลักณิชกานต์ไปให้วิศรุตที่ดูว่าจะจริงจังกับณิชกานต์เสียแล้ว และเมื่อได้เที่ยวด้วยกันวรรณรดาก็รู้สึกว่าณิชกานต์นั้นคบหาได้ทีเดียว
“ดาชอบพี่ปุ้มข้างเดียว ส่วนพี่ปุ้ม คุณนิดก็น่าจะรู้ว่าเขารักขวัญแค่ไหน” วันนี้แม้ปวุฒิจะยิ้ม หัวเราะ ดูมีความสุข แต่วรรณรดาก็รู้สึกได้ว่า เขามีความเศร้าซ่อนเร้นอยู่ และเมื่อวิศรุตชวนดื่มเบียร์ระหว่างมื้ออาหารค่ำ เขาไม่ปฏิเสธ ปวุฒิดื่มไปไม่น้อย และเวลาที่เขาเมา วรรณรดายอมรับว่าดวงตาของเขานั้นหวานเยิ้มชวนมองขึ้นไปอีก แต่มันก็แฝงความเศร้าชวนให้สงสารเห็นใจเพิ่มขึ้นด้วย
“พี่ปุ้ม รักขวัญมากนะ”
“ใช่ รักมากจนไม่มีใจเผื่อไว้ให้ใครเลย” น้ำเสียงของวรรณรดาผะแผ่ว
“แต่ว่าขวัญก็คงจะมาเป็นสะใภ้มาเลเซียแน่ ๆ แล้วใช่ไหม” เมื่อเห็นว่าวรรณรดาพร้อมจะระบายความอึดอัดใจ ณิชกานต์จึงต้องล้วงความลับที่มั่นใจว่าขวัญชีวีจะต้องบอกเล่าอะไรให้เพื่อนสนิทรับรู้มาบ้างแล้ว
“คงจะเป็นอย่างนั้น” ยอมรับแล้ววรรณรดาก็ทรุดตัวลงนั่งบนที่นอนสีหน้านั้นเต็มไปด้วยความหนักใจ
“เมื่อพี่ปุ้มเป็นโสดแล้วคุณดาคิดว่าจะเข้าไปแทนที่ขวัญชีวีได้ไหม”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ดาไม่สวย”
“แต่คุณดาเป็นคนดี”
“วัดจากตรงไหนคะ”
“คุณดาก็น่าจะรู้ดีว่า นิดตามมาพี่ปุ้มมาเที่ยวทำไม แต่คุณดาก็ยังไม่ตีหน้ายักษ์ตั้งตัวเป็นศรัตรูกับนิด นับถือน้ำใจค่ะ”
“บางทีดาอาจจะเป็นปากหวานก้นเปรี้ยวก็ได้นะคะ ไม่เห็นหรือไงว่า ดาทำให้พี่รุตตามมาสมทบอีกคน”
“พอรู้อยู่ค่ะ แต่ว่าไปแล้วมันก็เป็นประโยชน์ของนิดนะคะ ประโยชน์ที่ไม่ได้คาดหวังไว้เลยสักนิด”
“หวั่นไหวกับพี่รุตบ้างไหม...”
“ทำไมดาชอบพี่ปุ้มละ เมื่อเราชอบใครสักคนไปแล้ว คนที่เข้ามาทีหลัง ก็จะต้องเป็นเหตุผลอื่น สำหรับพี่รุตของคุณดานั้นก็คือความร่ำรวยและโอกาสที่นิดจะสบายไปตลอดชาติ แต่อีกนั่นแหละ นิดก็ไม่รู้ว่า คุณรุตเขาเล่น ๆ หรือมีอะไรแอบแฝง บอกตรง ๆ ว่า ใจของนิดเอง ยังรู้สึกดี ๆ กับพี่ปุ้มมากกว่า”
“ชอบคุณนิดจังเลย”
“แต่ถ้าคุณดามั่นใจว่า จะเข้าไปแทนที่ขวัญได้และช่วยสมานแผลใจพี่ปุ้มได้ นิดก็จะถอยให้นะคะ แต่บอกไว้ก่อนว่า ไม่ใช่เพราะคุณรุตแน่นอน"
“ทำไมคะ”
“ความรักครั้งก่อน ๆ ทำให้นิด รู้สึกเบื่อ ๆ อยาก ๆ กับความรักเหมือนกันค่ะ บางทีก็อยากมี บางทีก็คิดว่าไม่มีก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วอยากเจอคนรักเราจริง ๆ และรักเรามาก ๆ มากกว่า เรารักเขาค่ะ งง ไหมคะ”
“ไม่งงหรอกค่ะ เข้าใจ”
สองสามสาวมองหน้ากันแล้วยิ้มนิด...
“ปัญหาของคุณดากับพี่ปุ้มในตอนนี้ ก็คือ แม่คุณดาดูจะไม่ปลื้มพี่ปุ้มนะคะ”
“ค่ะ”
“ถึงพี่ปุ้มจะเป็นดารา มีคนรู้จักมากมาย แต่พื้นฐานพี่ปุ้มกับสมบัติที่พี่ปุ้มมี เทียบกับคุณดาไม่ได้เลย คุณดาจะฝืนความต้องการของแม่ได้หรือคะ”
วรรณรดานิ่งครุ่นคิด
“นิดไม่อยากให้พี่ปุ้มเจ็บซ้ำสองนะคะ เจ็บเหมือนที่นิดเคยเจ็บ”
“คุณนิด คุณนิดกำลังจะบอกว่า”
“ถ้าคุณดารู้ดีว่า จุดจบระหว่างคุณดากับพี่ปุ้มจะเป็นอย่างไร คุณดาอย่าคิดสานความสัมพันธ์กับพี่ปุ้มในเชิงชู้สาวต่อไปเลยค่ะ นิดสงสารพี่ปุ้ม”
เสียงเคาะประตูห้องทำให้ขวัญชีวีต้องรีบลุกจากเตียงนอนไปยังหน้าประตูใช้สายตาแนบไปกับตาแมวแม้จะเห็นว่าเป็นปวุฒิ ขวัญชีวีก็แสร้งถามเสียงดังไปว่า “ใครคะ”
“พี่ปุ้มเอง” ปวุฒิตอบกลับมา ขวัญชีวีเปิดประตูแต่ก็ไม่ได้ปลดโซ่ออก พบว่าปวุฒิอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีกรมท่ากางเกงยีนหน้านวลเหมือนกับว่าจะออกไปเที่ยวกับหมู่คณะ แต่ขวัญชีวีก็หาได้ไว้ใจเขาหรือคิดจะให้เขาเข้ามาคุยธุระในห้องพัก
“มีอะไรคะพี่ปุ้ม”
“เปิดประตูให้พี่หน่อยซิ”
“ขวัญอยู่คนเดียวค่ะ ไม่เหมาะสมแน่ ๆ พี่ปุ้มมีอะไรหรือคะ”
“อยากคุยด้วยหน่อย วันนี้ยังไม่ได้คุยกันเลยนะ”
“จะออกไปเที่ยวไม่ใช่เหรอคะ”
“ไม่ไปด้วยกันเหรอ”
“พรุ่งนี้ยังมีงานอีกวันค่ะ ขวัญพักผ่อนดีกว่า ไม่อยากให้ตาโหล อิดโรย กลัวงานออกมาไม่ดีค่ะ”
“ขวัญสบายดีนะ”
“ค่ะสบายดี”
“พี่เป็นห่วงขวัญนะ ยังเหมือนเดิมกับขวัญ ใครก็ไม่สามารถทำให้พี่เปลี่ยนใจได้”
ด้วยมีแอลกอฮอล์ลวิ่งพล่านในกระแสเลือดทำให้เสียงของเขาค่อนข้างดัง... ดังจนกระทั่งหลินฮันหมิงที่ออกมาจากลิฟท์โดยตั้งใจไปหาวิศรุตที่ห้องพักซึ่งอยู่ในชั้นเดียวกันและอยู่ติดกับห้องของปวุฒิได้ยินเข้า
“พี่ปุ้มเมาแล้วแน่ ๆ เลย เหล้าหรือเบียร์คะ” ขวัญชีวีแสร้งทำเป็นอารมณ์ดีกลบเกลื่อนนัยที่เขาจงใจระบายออกมา
“เบียร์...แพงกว่าบ้านเรานะ แต่ใช้ได้เลยทีเดียว”
“แล้วจะไปกันกี่ทุ่มคะ นี่ดึกแล้วนะ”
“รอให้คุณรุตมาเคาะประตูเรียกน่ะ คิดถึงขวัญก็เลยเดินมาคุยด้วยหน่อย....”
“ขวัญจะนอนแล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
“พี่รบกวนใช่ไหม”
“เที่ยวให้สนุกนะคะ แต่อย่าดื่มให้มากนัก อย่าลืมว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านเมืองเรา ดูแลตัวเองด้วย”
“ห่วงพี่ด้วยเหรอ”
“ทำไมจะไม่ห่วงละคะ พี่ปุ้มก็เหมือนพี่ชายของขวัญนั่นนะคะ”
ปวุฒิใช้สายตาเยิ้มมองขวัญชีวีแล้วพยักหน้าหงึก ๆ เป็นเชิงว่าเข้าใจรับรู้ความในใจของหญิงสาว ขวัญชีวีงับประตูห้อง ปวุฒิจึงหันหลังกลับและเขาก็พบว่าหลินฮันหมิงก้าวเท้าเดินมาหยุดที่หน้าห้องของวิศรุต
“คุณมาร์ค” ปวุฒิรีบเรียกเขาไว้ หลินฮันหมิงชะงักมือที่จะเคาะประตูห้องของวิศรุตไว้ ปวุฒิรีบเดินไปหาในทันที ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อดวงตาจ้องหลินฮันหมิงเขม็งแต่เขาก็ไม่ได้เมาจนประคองตัวไม่ได้
“มีอะไรกับผมเหรอครับ”
“คุณแน่มาก”
“ครับ”
“ผมยอมแพ้ ผมยอมแพ้”
หลินฮันหมิงยิ้มแหย ๆ แต่ก็ไม่ยอมวางตาเพราะกลัวว่าคนเมาที่กำลังมีความผิดหวังเสียใจจะขาดความยับยั้งชั่งใจ จนผลีผลามทำเรื่องที่เขาเองก็คาดเดาไม่ได้
“ยอมแพ้เรื่องอะไรครับ”
“เรื่องขวัญนะซิ ผมรู้นะว่าคุณเอาขวัญมาถ่ายงานที่นี่ทำไม”
“เอ่อ มันเป็นเงื่อนไขของบริษัทครับนะครับ”
“เหรอ...เป็นบริษัทที่กล้าลงทุนมาก ลงทุนกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียด้วย โฆษณาถ่ายที่ไหนก็ได้ แต่จะต้องมาถ่ายที่นี่...”
เสียงของปวุฒิทำให้วิศรุตที่อยู่ในห้องต้องเปิดประตูออกมา
“อ้าว มาร์ค คุณปุ้มคุยอะไรกันครับ พร้อมแล้วใช่ไหม เดี๋ยวผมโทรหาสองสาวก่อน มาเข้ามาในห้องก่อนครับ” เมื่อวิศรุตตัดบท ทั้งหลินฮันหมิงและปวุฒิจำต้องเดินเข้าไปในห้องของวิศรุต
ช่วงที่รอวรรณรดาอาบน้ำณิชกาต์ก็ใช้โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่ออินเตอร์เนตไวไฟของโรงแรมแล้วโพสต์รูปที่ได้ถ่ายในวันนี้ลงใน instagram และ facebook เพื่อให้แฟนคลับที่พร้อมจะกลายร่างเป็น ‘สื่อ’ หรือสื่อที่แฝงตัวมาอยู่ในรูปแบบของ ‘เพื่อน’ และ ‘แฟนคลับ’ นั้นรับรู้เรื่องราวระหว่าง มาเที่ยวกับมาเลเซียกับปวุฒิและผองเพื่อน
ซึ่งนับไปแล้วการคบหากับวิศรุตและวรรณรดา ลิ้มวรรักษ์ มีแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น
เพราะต่อไปโอกาสที่ขวัญชีวีเคยมีเคยได้จากวรรณรดาเธอก็จะได้บ้าง
และถ้างานนี้ วรรณรดายอมถอยทัพเพราะคำพูดของเธอ ก็เท่ากับว่าเธอไม่ได้สร้างศัตรูหัวใจทิ้งไว้ และกับวิศรุต เธอก็ไม่ได้เสียคะแนนนิยม
เพราะดูแล้ว เขาชอบคนที่เปิดเผยมีเหตุผลรองรับการกระทำมากกกว่าคนที่มีแต่ความสวย และที่เธอไม่ยอมเดินไปบนสะพานที่ไม่รู้ลึกๆ กับเจตนาในการทอดมาของเขา นั่นก็ใช่ว่าเธอจะผิด เพราะใคร ๆ ก็รู้ดีว่า ก่อนหน้านั้นเธอมีใจให้ปวุฒิ
และความมั่นคงในใจของเธอจะช่วยเสริมส่งให้เธอดูดี
แต่ในขณะเดียวกันหากว่าวรรณรดาฝืนความต้องการของแม่ได้สำเร็จโดยมีปวุฒิอยากรวยทางลัดร่วมมือด้วย และถ้าวิศรุตจริงใจกับเธอ เธอก็จะยอมให้เขาเล่นบทดามหัวใจของคนที่กลายเป็นผู้เสียสละเพื่อความสุขของวรรณรดา...
ขวัญชีวีที่นั่งกินอาหารเช้าอยู่ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมเงยหน้าจากจานสลัดเมื่อวรรณรดาและณิชกานต์พากันเดินเข้ามาหา และเพียงแวบเดียวที่มองเห็น ขวัญชีวีรู้สึกว่าณิชกานต์สามารถพิชิตใจของวรรณ รดาได้แล้ว ทั้งสองดูสนิทสนมกันมาก ความรู้สึกว่าเพื่อนเก่าแก่ของตนกำลังเทใจให้เพื่อนใหม่ทำให้ขวัญชีวีรู้สึกริษยาขึ้นมา
“นึกว่าจะไม่ทันขวัญซะแล้ว” แม้จะนึกขวาง ๆ ว่าเมื่อวานขวัญชีวีไม่ยอมเดินมาหาที่ห้องมาทักทายกันก่อนที่เธอจะออกไปเที่ยวในยามค่ำคืน แต่ณิชกานต์ก็สลัดมันทิ้งไปได้ เพราะจุดมุ่งหมายของณิชกานต์คือตัว ปวุฒิ ซึ่งขวัญชีวีดูจะมีอิทธิพลกับปวุฒิอยู่ไม่น้อย และวันหนึ่งข้างหน้า หากขวัญชีวีขยับขยายฐานะมาเป็นมาดามอยู่ที่มาเลเซีย เธอกับปวุฒิหากลงเอยกันได้ จนได้เป็นผู้จัดละครเจริญรอยตามรุ่นพี่ เธอก็อาจจะได้พึ่งพาขวัญชีวี คิดถึงกาลข้างหน้าแล้ว การปั้นหน้าซ่อนความขุ่นมัวจึงต้องเกิดขึ้น และณิชกานต์ก็ทำได้ดีทีเดียว
“ทีมงานนัดสามโมงน่ะ เป็นไงเมื่อคืน สนุกกันมากไหม”...
“ก็ดี พี่ปุ้มยังไม่ได้ลงมาใช่ไหม” ณิชกานต์แสร้งกวาดตามองหา ทั้งที่จริง ๆ แล้วหญิงสาวก็พอเดาได้ว่า เช้านี้เขาไม่มีทางลุกจากที่นอนได้แน่ ๆ
“ไม่เห็นมี ได้โทรปลุกหรือเปล่า”
“ตอนแรกคุณดาว่าจะปลุก แต่นิดว่า ไม่มีทางลุกจากเตียงได้แน่ ๆ เมาซะขนาดนั้น ปล่อยให้นอนเอาแรงก่อนดีกว่า เพราะวันนี้ ไม่มีโปรแกรมรัดตัวเหมือนเมื่อวาน”
“พี่รุตก็ยังไม่ลงมาสงสัยจะยังไม่ตื่นเหมือนกัน” วรรณรดาพูดเสียงเบา
“แล้ววันนี้จะไปไหนกัน”
“รอสองหนุ่มก่อน แต่ว่าจะเก็บ ๆ แถว ๆนี้แหละ ว่าไปแล้วบ้านเขาก็ไม่ได้มีที่เที่ยวอะไรมากมายเลยเนอะ” วรรณรดาพูดยืดยาว
“ไปหาอะไรมากิน อย่ามัวแต่นั่งคุย” ขวัญชีวีตัดบท วรรณรดาและณิชกานต์จึงได้ลุกไปตักอาการ โดยทิ้งกระเป๋าสะพายไว้ที่เก้าอี้ให้ขวัญชีวีเฝ้าอยู่ในที
และเมื่อสองสาวลุกไปแล้ว วิศรุตก็เดินยิ้มเห็นฟันขาวเข้ามา ขวัญชีวีละแก้วน้ำส้มยิ้มทักทายเมื่อวิศรุตเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ว่างอีกตัว
“ยังไม่ได้เจอกันเลย มาเลเซียเป็นไงบ้างครับ”
“ก็ดีค่ะ”
“ขวัญดีอยู่คนเดียวเพราะมาทำงาน ได้เงิน”
“คนมาเที่ยวใช้เงินน่าอิจฉากว่าค่ะ แล้วนี่พี่รุตจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่คะ กลับพร้อมกันหรือเปล่า”
“พี่จะกลับเย็นนี้แหละ”
“แล้วจะมาทำไม”
“ขวัญก็น่าจะรู้ว่าพี่มาทำไม”
“ไม่รู้ค่ะ...ยังแปลกใจอยู่เลยว่า จะมาทำไม” ขวัญชีวีแสร้งเล่นลิ้นบ้าง
“มาเป็นกว้างขวางคอ เป็นจระเข้ขวางคลอง แต่ทำไปทำมา กลายเป็นวัวพันหลักซะแล้ว แต่ว่าไปพี่ว่ามันก็คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปนะ”
“เจอรักแท้ที่นี่เหรอคะ”
วิศรุตพยักหน้ายอมรับดวงตาวิบวับเลยทีเดียว
“ดีใจกับนิดด้วย ตกถังข้าวสารสบายไปเลย”
“แต่เขาไม่ยอมตกง่าย ๆ นี่ซิ พี่เลยเครียดไปเลย”
“ก็พยายามซิคะ อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ”
“เขาใจแข็งชะมัดเลย แล้วดูซิยายดาก็อี๋อ๋อสนิทสนมกับคุณนิดไปซะแล้ว ดีไม่ดี พี่ว่ายายดาจะเล่นบทเสียสละอีกแน่ ๆ” เมื่อวานแม้ณิชกานต์จะแยกตัวไปเที่ยวสวนสนุกกับเขาแต่ว่าหญิงสาวก็ระมัดระวังตัว ไม่ได้โปรยเสน่ห์ให้เขา ไม่ทำเหมือนกับว่าเงินของเขาคือพระเจ้า และเมื่ออยู่กันพร้อมหน้าสี่คน ณิชกานต์ก็ไม่ได้ทำตัวสนิทชิดเชื้อกับปวุฒิให้วรรณรดารู้สึกแย่ ๆ
ขวัญชีวีถอนหายใจเบา ๆ เมื่อรู้ว่า แผนที่อุตส่าห์วางไว้น่าจะพังเพราะความใจอ่อนของวรรณรดา
“หนักใจเรื่องอะไร”
“ขวัญก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยนี่แหละคะ นอกจากนี้ก็แล้วแต่พวกเขาเถอะ”
“แต่พี่เองก็ยังมีเรื่องต้องช่วยไอ้เจ้ามาร์คอีกไม่น้อยเลยนะขวัญ...” บอกแล้ววิศรุตก็ถอนหายใจหนัก ๆ
“เรื่องอะไรละคะ”
“ก็ขวัญเล่นไปยื่นเงื่อนไขว่า มันจะต้องอยู่เมืองไทยกับขวัญเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนา”
“ขวัญยังไม่ได้ยื่นอะไรเลยนะคะ” ขวัญชีวีรีบแก้ตัว
“เบื่อจริง ๆ พวกดาราสาว ๆ สวย ๆ เนี่ย ฉลาดล้ำลึกกันนัก ไม่รู้กินอะไรกัน”
“กินบทละครค่ะ ต้มน้ำกิน จะกินบ้างไหมละคะ”
ขวัญชีวีหัวเราะขำ วิศรุตส่ายหัวก่อนจะลุกขึ้นไปตักอาหารบ้าง
กลับจากไปรับประทานอาหารมื้อเย็นหลังจากที่ลงมาจากเกนติ้งแล้ววรรณรดาก็โทรขึ้นมาเช็คว่าขวัญชีวีอยู่ที่ห้องพักหรือเปล่า และพอรู้ว่าขวัญชีวีกลับมาแล้ว หลังจากส่งณิชกานต์เข้าห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า วรรณรดาก็เดินมาเคาะประตูเรียก พอเข้าห้องมาแล้ววรรณรดาที่มีใบหน้าสดชื่นก็เดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา...
“ทริปเกนติ้งเป็นอย่างไรบ้าง ยายนิดแผลงฤทธิ์แผลงเดชอะไรหรือเปล่า” ขวัญชีวีที่อยู่ในชุดคลุมกิโมโนสีขาวของโรงแรมถามแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียงนอน
“ไม่นะ ทุกอย่างราบรื่นดี ว่าไปแล้วเขาก็โอเคนะ”
“หมายความว่าไง”
“สำหรับดา เขาก็ดีนะ คือ เขาดูเป็นตัวของตัวเองดี ตอนแรกคิดว่าเขาจะมาเพื่อตามตื๊อพี่ปุ้ม แต่เอาเข้าจริง ๆ เขาก็ไม่ได้อะไรกับพี่ปุ้มมากมาย ไม่ได้อี๋อ๋อจนน่าเกลียด ไม่ได้ขัดขวางเมื่อเห็นดาใกล้ชิดพี่ปุ้ม”
“อาจจะเป็นเพราะพี่รุตตามมาด้วย ก็เลยลังเล โลเล ไม่กล้าพุ่งเข้าชนพี่ปุ้มอย่างเต็มแรง” ด้วยไม่ได้เห็นพฤติกรรมของณิชกานต์กับตา อคติที่มีมาก่อนหน้านั้นก็ยังคงอยู่กับขวัญชีวีเช่นเดิม
“อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้”
“แล้วนี่เขาทำอะไร”
“อาบน้ำ เดี๋ยวคืนนี้จะไปข้างนอกกัน ขวัญจะไปด้วยกันไหม คุณมาร์คจะพาพี่รุตเที่ยวถิ่นเขา”
ขวัญชีวีส่ายหัวปฏิเสธในทันที
“แล้ววันนี้คุณมาร์คพาไปไหนมาบ้าง ไปกินข้าวเย็นที่ไหนกันมา”
“ขวัญว่าดารู้หมดแล้วนะ”
“อร่อยไหม”
หลังจากที่ตื้อขอความรักจากขวัญชีวีแล้วไม่ประสบความสำเร็จ หลินฮันหมิงก็ชวนขวัญชีวีออกไปเที่ยวฆ่าเวลา โดยเขาพาหญิงสาวไปยังหอคอยกัวลาลัมเปอร์ (KL TOWER) เพื่อชมเมืองกัวลาลัมเปอร์ในมุมสูง ไปดูตึกแฝดสูงระฟ้าหรืออาคารเปโตนาสสัญญาลักษณ์ของเมืองอีกมุมหนึ่ง กับรับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารบนหอคอย เพราะวันนี้ ช่วงอาหารเย็นเขาไม่ได้เซ็ทมื้ออาหารต้อนรับทีมงานเหมือนเมื่อวาน ด้วยอยากให้ทีมงานได้ออกเที่ยวเตร่ในเมืองนี้ตามอัธยาศัย
“ทุกอย่างหวานหมดเลย...” ใบหน้าของขวัญชีวีมียิ้มแบบคนเจ้าเล่ห์ซ่อนอยู่
“สรุปว่างานของคุณมาร์คสำเร็จตามแผน”
“แผนอะไร”
“จีบขวัญชีวี วัชระประสิทธิ์ไปเป็นคู่ชีวิต”
“ชีวิตรักของคนสองคนมันไม่จบง่าย ๆ แบบในนิยายหรอกดา มันต้องให้กาลเวลาพิสูจน์ใจเขาอีกเยอะเหมือนกัน”
“พูดเหมือนกับว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา”
“ขวัญว่า มันยังไม่ถึงเวลาที่จะตกลงเป็นแฟนกัน ผูกมัดกันด้วยคำว่ารัก เพราะขวัญเองก็ยังไม่ได้เลิกกับพี่ปุ้มอย่างเป็นทางการ ขวัญอยากคบหากับเขาแบบเพื่อน แบบญาติไปก่อน เพราะอย่างไรเขาก็เป็นหลานคุณย่าซิ่วอิน”
“ระวังคุณนิดจะเปลี่ยนใจฉกเขาไปนะ”
“แต่ฟังจากน้ำเสียงของดา ขวัญว่าตอนนี้ยายนิดโอนเอนไปทางพี่รุตแล้วแหละ ดาเบาใจได้เลย”
“พี่รุตบอกกับดาว่า เขาไม่ยอมเซเยสตกลงเป็นแฟนกับพี่รุต ก็แสดงว่าเขาไม่ได้สนใจที่เงิน”
“เล่นตัวเรียกราคาละซิ”
“ขวัญอคติกับเขามากไปหรือเปล่า”
“ไปเที่ยวด้วยกันวันเดียว ออกรับแทนกันเลยนะ”
“ดารับเขาเป็นเพื่อนดาอีกคน ดาก็ไม่อยากเป็นคนกลางที่ต้องมานั่งอึดอัด”
“นางฟ้าจริง ๆ” ว่าแล้วขวัญชีวีก็ลุกขึ้นเดินไปยังหน้ากระจกหยิบหวีมาแปลงผมพลางสำรวจใบหน้าตัวเอง ส่วนวรรณรดาก็นั่งนิ่งมองใบหน้าของขวัญชีวีในกระจกก่อนจะเปรยออกมาว่า
“ถ้าขวัญไม่ไปเที่ยวด้วยกัน งั้นดาไปกับพวกเขานะ”
“ตามสบายเลยจ้า ไม่ต้องห่วงขวัญหรอก เที่ยวให้สนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลย แต่ว่าพรุ่งนี้จะไปไหนกันหรือเปล่า”
“นอนตื่นสาย ๆ แล้วก็ เก็บตก สถานที่สำคัญ ๆ ในเมืองนี่แหละ ยังไม่ได้มีเป้าหมายอะไรกันหรอก บางทีอาจจะไปดูขวัญทำงานก็ได้”
“ขวัญไม่อนุญาตให้ตามไปกองถ่ายนะ...มาเพื่อเที่ยวก็จงออกไปเที่ยวให้คุ้มค่ากับเวลาที่มี”
“ขวัญไม่นึกอยากไปกับพวกเราบ้างเหรอ”
“อยาก แต่ว่าขวัญคิดว่า อย่างไรแล้ว มาเลเซียกับขวัญคงหนีกันไม่พ้นหรอก”
บอกเป็นนัย ๆ ไปแล้วขวัญชีวีก็นึกขึ้นมาได้ “อ้อ แล้ววันนี้เป็นไง พี่ปุ้มเล่นได้ไหม...”
“ได้ ได้เยอะด้วย พี่ปุ้มเลยเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารค่ำพวกเรา กินกันซะพุงกางเลย”
ช่วงที่วรรณรดาขอตัวไปยังห้องพักของขวัญชีวีที่อยู่ติดกันนั้นหญิงสาวได้ชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ เมื่ออาบน้ำเสร็จช่วงที่กำลังเป่าผมให้แห้งณิชกานต์ก็ต้องละเครื่องเป่าผมที่มีอยู่ในลิ้นชักตรงเคาน์เตอร์กระจกก่อนจะเดินไปยังโทรศัพท์มือถือของวรรณรดาที่ส่งเสียง...
“คุณแม่” ณิชกานต์อ่านชื่อที่ปรากฏอยู่ที่หน้าจอ ใจหนึ่งก็อยากจะรับสายและบอกว่า วรรณรดานั้นออกไปข้างนอก แต่อีกใจณิชกานต์ก็รู้ว่าระบบโรมมิ่งที่วรรณรดาเปิดไว้นี้เมื่อรับสายนั้นจะเสียค่าใช้จ่ายแพงอยู่เหมือนกัน ณิชกานต์ปล่อยให้โทรศัพท์ของวรรณรดาดังจนกระทั่งเงียบไป และมันก็ดังขึ้นมาอีก...
“สวัสดีค่ะคุณแม่ ดาไม่อยู่ค่ะออกไปห้องขวัญ” ณิชกานต์ตัดสินใจกดรับสายตัดรำคาญ...และอีกใจ ณิชกานต์ก็คิดว่าแพงแค่ไหนวรรณรดาจ่ายได้อยู่แล้ว...
“แล้วเธอเป็นใคร”
“ณิชกานต์ค่ะ”
“ณิชกานต์ไหน”
“ณิชกานต์ หาญกล้าค่ะ”
“ณิชกานต์ หาญกล้าไหน...อ๋อ...อ้าว ไปกับเขาด้วยเหรอ”
“คุณแม่มีธุระอะไรกับดาเหรอคะ หรือจะให้ดาโทรกลับ นิดจะได้บอกดา” ด้วยไม่อยากให้วรรณรดาเสียค่าใช้จ่ายตามจำนวนนาทีที่รับสาย ณิชกานต์จึงต้องรวบรัด ไม่ยอมบอกเล่าว่า งานนี้เธอมาด้วยทำไม
“แล้วเธอไปกับเขาได้อย่างไร พักห้องเดียวกับดาเหรอ”
“ค่ะ พักอยู่กับดา”
“แล้วดาทำอะไรบ้าง”
“ก็ไปเที่ยวค่ะ”
“ไปเที่ยวไหนกัน ไปกับใครบ้าง”
“วันนี้ไปเกนติ้งกันมาค่ะ”
“วิศรุตก็ไปด้วยใช่ไหม ได้ยินมาว่าวันนี้วิศรุตเขาไปมาเลเซีย”
“ค่ะ...”
“วรรณรดากับปวุฒิเขามีทีท่าต่อกันอย่างไรบ้าง”
“อ่อ ๆ” ณิชกานต์อึก ๆ อึก ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้รับคำถามนี้....
“เล่าให้ฉันฟังหน่อย”
“ก็...ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ ปกติดีค่ะ”
“มันต้องมีซิ ไม่ใช่เพราะปวุฒิวรรณรดาคงไม่ทิ้งงานไปอย่างนี้หรอก” น้ำเสียงนั้นบอกให้รู้ว่าหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก และข้อความถัดมา ก็ทำให้ณิชกานต์ที่ถือโทรศัพท์ฟังอยู่ก็ถึงกับนิ่งอึ้ง
“บอกดาด้วยนะว่า แม่ไม่มีวันยอมรับลูกเขยดาราหรอก ดาจะต้องแต่งงานกับคนที่แม่เห็นสมควรเท่านั้น...อย่าลืมล่ะ บอกดาด้วยนะ”
“คุณดาคะเมื่อกี้คุณแม่คุณดาโทรมา แล้วนิดก็เผลอไปรับสายเข้า” ณิชกานต์ทำหน้าสำนึกผิดขณะรายงานเรื่องให้วรรณรดาที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาได้รับรู้
“คุณแม่ว่าอย่างไรบ้างคะ”
“คุณแม่คุณดาถามว่าคุณดากับพี่ปุ้มมีทีท่าอย่างไรต่อกันบ้าง แต่นิดก็บอกว่า ไม่มีอะไร”
“คุณแม่คิดว่าดากับพี่ปุ้มชอบกันค่ะ”
“แล้วความจริงเป็นอย่างไรคะ” อันที่จริงณิชกานต์พอดูออกว่า วรรณรดานั้นรู้สึกอย่างไรกับปวุฒิแต่หญิงสาวต้องถามเพื่อความแน่ใจ
และวรรณรดาเองก็ไม่อมพะนำเก็บงำความรู้สึกไว้ ด้วยอยากให้ณิชกานต์เห็นใจความรู้สึกของตนกับต้องการผลักณิชกานต์ไปให้วิศรุตที่ดูว่าจะจริงจังกับณิชกานต์เสียแล้ว และเมื่อได้เที่ยวด้วยกันวรรณรดาก็รู้สึกว่าณิชกานต์นั้นคบหาได้ทีเดียว
“ดาชอบพี่ปุ้มข้างเดียว ส่วนพี่ปุ้ม คุณนิดก็น่าจะรู้ว่าเขารักขวัญแค่ไหน” วันนี้แม้ปวุฒิจะยิ้ม หัวเราะ ดูมีความสุข แต่วรรณรดาก็รู้สึกได้ว่า เขามีความเศร้าซ่อนเร้นอยู่ และเมื่อวิศรุตชวนดื่มเบียร์ระหว่างมื้ออาหารค่ำ เขาไม่ปฏิเสธ ปวุฒิดื่มไปไม่น้อย และเวลาที่เขาเมา วรรณรดายอมรับว่าดวงตาของเขานั้นหวานเยิ้มชวนมองขึ้นไปอีก แต่มันก็แฝงความเศร้าชวนให้สงสารเห็นใจเพิ่มขึ้นด้วย
“พี่ปุ้ม รักขวัญมากนะ”
“ใช่ รักมากจนไม่มีใจเผื่อไว้ให้ใครเลย” น้ำเสียงของวรรณรดาผะแผ่ว
“แต่ว่าขวัญก็คงจะมาเป็นสะใภ้มาเลเซียแน่ ๆ แล้วใช่ไหม” เมื่อเห็นว่าวรรณรดาพร้อมจะระบายความอึดอัดใจ ณิชกานต์จึงต้องล้วงความลับที่มั่นใจว่าขวัญชีวีจะต้องบอกเล่าอะไรให้เพื่อนสนิทรับรู้มาบ้างแล้ว
“คงจะเป็นอย่างนั้น” ยอมรับแล้ววรรณรดาก็ทรุดตัวลงนั่งบนที่นอนสีหน้านั้นเต็มไปด้วยความหนักใจ
“เมื่อพี่ปุ้มเป็นโสดแล้วคุณดาคิดว่าจะเข้าไปแทนที่ขวัญชีวีได้ไหม”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ดาไม่สวย”
“แต่คุณดาเป็นคนดี”
“วัดจากตรงไหนคะ”
“คุณดาก็น่าจะรู้ดีว่า นิดตามมาพี่ปุ้มมาเที่ยวทำไม แต่คุณดาก็ยังไม่ตีหน้ายักษ์ตั้งตัวเป็นศรัตรูกับนิด นับถือน้ำใจค่ะ”
“บางทีดาอาจจะเป็นปากหวานก้นเปรี้ยวก็ได้นะคะ ไม่เห็นหรือไงว่า ดาทำให้พี่รุตตามมาสมทบอีกคน”
“พอรู้อยู่ค่ะ แต่ว่าไปแล้วมันก็เป็นประโยชน์ของนิดนะคะ ประโยชน์ที่ไม่ได้คาดหวังไว้เลยสักนิด”
“หวั่นไหวกับพี่รุตบ้างไหม...”
“ทำไมดาชอบพี่ปุ้มละ เมื่อเราชอบใครสักคนไปแล้ว คนที่เข้ามาทีหลัง ก็จะต้องเป็นเหตุผลอื่น สำหรับพี่รุตของคุณดานั้นก็คือความร่ำรวยและโอกาสที่นิดจะสบายไปตลอดชาติ แต่อีกนั่นแหละ นิดก็ไม่รู้ว่า คุณรุตเขาเล่น ๆ หรือมีอะไรแอบแฝง บอกตรง ๆ ว่า ใจของนิดเอง ยังรู้สึกดี ๆ กับพี่ปุ้มมากกว่า”
“ชอบคุณนิดจังเลย”
“แต่ถ้าคุณดามั่นใจว่า จะเข้าไปแทนที่ขวัญได้และช่วยสมานแผลใจพี่ปุ้มได้ นิดก็จะถอยให้นะคะ แต่บอกไว้ก่อนว่า ไม่ใช่เพราะคุณรุตแน่นอน"
“ทำไมคะ”
“ความรักครั้งก่อน ๆ ทำให้นิด รู้สึกเบื่อ ๆ อยาก ๆ กับความรักเหมือนกันค่ะ บางทีก็อยากมี บางทีก็คิดว่าไม่มีก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วอยากเจอคนรักเราจริง ๆ และรักเรามาก ๆ มากกว่า เรารักเขาค่ะ งง ไหมคะ”
“ไม่งงหรอกค่ะ เข้าใจ”
สองสามสาวมองหน้ากันแล้วยิ้มนิด...
“ปัญหาของคุณดากับพี่ปุ้มในตอนนี้ ก็คือ แม่คุณดาดูจะไม่ปลื้มพี่ปุ้มนะคะ”
“ค่ะ”
“ถึงพี่ปุ้มจะเป็นดารา มีคนรู้จักมากมาย แต่พื้นฐานพี่ปุ้มกับสมบัติที่พี่ปุ้มมี เทียบกับคุณดาไม่ได้เลย คุณดาจะฝืนความต้องการของแม่ได้หรือคะ”
วรรณรดานิ่งครุ่นคิด
“นิดไม่อยากให้พี่ปุ้มเจ็บซ้ำสองนะคะ เจ็บเหมือนที่นิดเคยเจ็บ”
“คุณนิด คุณนิดกำลังจะบอกว่า”
“ถ้าคุณดารู้ดีว่า จุดจบระหว่างคุณดากับพี่ปุ้มจะเป็นอย่างไร คุณดาอย่าคิดสานความสัมพันธ์กับพี่ปุ้มในเชิงชู้สาวต่อไปเลยค่ะ นิดสงสารพี่ปุ้ม”
เสียงเคาะประตูห้องทำให้ขวัญชีวีต้องรีบลุกจากเตียงนอนไปยังหน้าประตูใช้สายตาแนบไปกับตาแมวแม้จะเห็นว่าเป็นปวุฒิ ขวัญชีวีก็แสร้งถามเสียงดังไปว่า “ใครคะ”
“พี่ปุ้มเอง” ปวุฒิตอบกลับมา ขวัญชีวีเปิดประตูแต่ก็ไม่ได้ปลดโซ่ออก พบว่าปวุฒิอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีกรมท่ากางเกงยีนหน้านวลเหมือนกับว่าจะออกไปเที่ยวกับหมู่คณะ แต่ขวัญชีวีก็หาได้ไว้ใจเขาหรือคิดจะให้เขาเข้ามาคุยธุระในห้องพัก
“มีอะไรคะพี่ปุ้ม”
“เปิดประตูให้พี่หน่อยซิ”
“ขวัญอยู่คนเดียวค่ะ ไม่เหมาะสมแน่ ๆ พี่ปุ้มมีอะไรหรือคะ”
“อยากคุยด้วยหน่อย วันนี้ยังไม่ได้คุยกันเลยนะ”
“จะออกไปเที่ยวไม่ใช่เหรอคะ”
“ไม่ไปด้วยกันเหรอ”
“พรุ่งนี้ยังมีงานอีกวันค่ะ ขวัญพักผ่อนดีกว่า ไม่อยากให้ตาโหล อิดโรย กลัวงานออกมาไม่ดีค่ะ”
“ขวัญสบายดีนะ”
“ค่ะสบายดี”
“พี่เป็นห่วงขวัญนะ ยังเหมือนเดิมกับขวัญ ใครก็ไม่สามารถทำให้พี่เปลี่ยนใจได้”
ด้วยมีแอลกอฮอล์ลวิ่งพล่านในกระแสเลือดทำให้เสียงของเขาค่อนข้างดัง... ดังจนกระทั่งหลินฮันหมิงที่ออกมาจากลิฟท์โดยตั้งใจไปหาวิศรุตที่ห้องพักซึ่งอยู่ในชั้นเดียวกันและอยู่ติดกับห้องของปวุฒิได้ยินเข้า
“พี่ปุ้มเมาแล้วแน่ ๆ เลย เหล้าหรือเบียร์คะ” ขวัญชีวีแสร้งทำเป็นอารมณ์ดีกลบเกลื่อนนัยที่เขาจงใจระบายออกมา
“เบียร์...แพงกว่าบ้านเรานะ แต่ใช้ได้เลยทีเดียว”
“แล้วจะไปกันกี่ทุ่มคะ นี่ดึกแล้วนะ”
“รอให้คุณรุตมาเคาะประตูเรียกน่ะ คิดถึงขวัญก็เลยเดินมาคุยด้วยหน่อย....”
“ขวัญจะนอนแล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
“พี่รบกวนใช่ไหม”
“เที่ยวให้สนุกนะคะ แต่อย่าดื่มให้มากนัก อย่าลืมว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านเมืองเรา ดูแลตัวเองด้วย”
“ห่วงพี่ด้วยเหรอ”
“ทำไมจะไม่ห่วงละคะ พี่ปุ้มก็เหมือนพี่ชายของขวัญนั่นนะคะ”
ปวุฒิใช้สายตาเยิ้มมองขวัญชีวีแล้วพยักหน้าหงึก ๆ เป็นเชิงว่าเข้าใจรับรู้ความในใจของหญิงสาว ขวัญชีวีงับประตูห้อง ปวุฒิจึงหันหลังกลับและเขาก็พบว่าหลินฮันหมิงก้าวเท้าเดินมาหยุดที่หน้าห้องของวิศรุต
“คุณมาร์ค” ปวุฒิรีบเรียกเขาไว้ หลินฮันหมิงชะงักมือที่จะเคาะประตูห้องของวิศรุตไว้ ปวุฒิรีบเดินไปหาในทันที ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อดวงตาจ้องหลินฮันหมิงเขม็งแต่เขาก็ไม่ได้เมาจนประคองตัวไม่ได้
“มีอะไรกับผมเหรอครับ”
“คุณแน่มาก”
“ครับ”
“ผมยอมแพ้ ผมยอมแพ้”
หลินฮันหมิงยิ้มแหย ๆ แต่ก็ไม่ยอมวางตาเพราะกลัวว่าคนเมาที่กำลังมีความผิดหวังเสียใจจะขาดความยับยั้งชั่งใจ จนผลีผลามทำเรื่องที่เขาเองก็คาดเดาไม่ได้
“ยอมแพ้เรื่องอะไรครับ”
“เรื่องขวัญนะซิ ผมรู้นะว่าคุณเอาขวัญมาถ่ายงานที่นี่ทำไม”
“เอ่อ มันเป็นเงื่อนไขของบริษัทครับนะครับ”
“เหรอ...เป็นบริษัทที่กล้าลงทุนมาก ลงทุนกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียด้วย โฆษณาถ่ายที่ไหนก็ได้ แต่จะต้องมาถ่ายที่นี่...”
เสียงของปวุฒิทำให้วิศรุตที่อยู่ในห้องต้องเปิดประตูออกมา
“อ้าว มาร์ค คุณปุ้มคุยอะไรกันครับ พร้อมแล้วใช่ไหม เดี๋ยวผมโทรหาสองสาวก่อน มาเข้ามาในห้องก่อนครับ” เมื่อวิศรุตตัดบท ทั้งหลินฮันหมิงและปวุฒิจำต้องเดินเข้าไปในห้องของวิศรุต
ช่วงที่รอวรรณรดาอาบน้ำณิชกาต์ก็ใช้โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่ออินเตอร์เนตไวไฟของโรงแรมแล้วโพสต์รูปที่ได้ถ่ายในวันนี้ลงใน instagram และ facebook เพื่อให้แฟนคลับที่พร้อมจะกลายร่างเป็น ‘สื่อ’ หรือสื่อที่แฝงตัวมาอยู่ในรูปแบบของ ‘เพื่อน’ และ ‘แฟนคลับ’ นั้นรับรู้เรื่องราวระหว่าง มาเที่ยวกับมาเลเซียกับปวุฒิและผองเพื่อน
ซึ่งนับไปแล้วการคบหากับวิศรุตและวรรณรดา ลิ้มวรรักษ์ มีแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น
เพราะต่อไปโอกาสที่ขวัญชีวีเคยมีเคยได้จากวรรณรดาเธอก็จะได้บ้าง
และถ้างานนี้ วรรณรดายอมถอยทัพเพราะคำพูดของเธอ ก็เท่ากับว่าเธอไม่ได้สร้างศัตรูหัวใจทิ้งไว้ และกับวิศรุต เธอก็ไม่ได้เสียคะแนนนิยม
เพราะดูแล้ว เขาชอบคนที่เปิดเผยมีเหตุผลรองรับการกระทำมากกกว่าคนที่มีแต่ความสวย และที่เธอไม่ยอมเดินไปบนสะพานที่ไม่รู้ลึกๆ กับเจตนาในการทอดมาของเขา นั่นก็ใช่ว่าเธอจะผิด เพราะใคร ๆ ก็รู้ดีว่า ก่อนหน้านั้นเธอมีใจให้ปวุฒิ
และความมั่นคงในใจของเธอจะช่วยเสริมส่งให้เธอดูดี
แต่ในขณะเดียวกันหากว่าวรรณรดาฝืนความต้องการของแม่ได้สำเร็จโดยมีปวุฒิอยากรวยทางลัดร่วมมือด้วย และถ้าวิศรุตจริงใจกับเธอ เธอก็จะยอมให้เขาเล่นบทดามหัวใจของคนที่กลายเป็นผู้เสียสละเพื่อความสุขของวรรณรดา...
ขวัญชีวีที่นั่งกินอาหารเช้าอยู่ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมเงยหน้าจากจานสลัดเมื่อวรรณรดาและณิชกานต์พากันเดินเข้ามาหา และเพียงแวบเดียวที่มองเห็น ขวัญชีวีรู้สึกว่าณิชกานต์สามารถพิชิตใจของวรรณ รดาได้แล้ว ทั้งสองดูสนิทสนมกันมาก ความรู้สึกว่าเพื่อนเก่าแก่ของตนกำลังเทใจให้เพื่อนใหม่ทำให้ขวัญชีวีรู้สึกริษยาขึ้นมา
“นึกว่าจะไม่ทันขวัญซะแล้ว” แม้จะนึกขวาง ๆ ว่าเมื่อวานขวัญชีวีไม่ยอมเดินมาหาที่ห้องมาทักทายกันก่อนที่เธอจะออกไปเที่ยวในยามค่ำคืน แต่ณิชกานต์ก็สลัดมันทิ้งไปได้ เพราะจุดมุ่งหมายของณิชกานต์คือตัว ปวุฒิ ซึ่งขวัญชีวีดูจะมีอิทธิพลกับปวุฒิอยู่ไม่น้อย และวันหนึ่งข้างหน้า หากขวัญชีวีขยับขยายฐานะมาเป็นมาดามอยู่ที่มาเลเซีย เธอกับปวุฒิหากลงเอยกันได้ จนได้เป็นผู้จัดละครเจริญรอยตามรุ่นพี่ เธอก็อาจจะได้พึ่งพาขวัญชีวี คิดถึงกาลข้างหน้าแล้ว การปั้นหน้าซ่อนความขุ่นมัวจึงต้องเกิดขึ้น และณิชกานต์ก็ทำได้ดีทีเดียว
“ทีมงานนัดสามโมงน่ะ เป็นไงเมื่อคืน สนุกกันมากไหม”...
“ก็ดี พี่ปุ้มยังไม่ได้ลงมาใช่ไหม” ณิชกานต์แสร้งกวาดตามองหา ทั้งที่จริง ๆ แล้วหญิงสาวก็พอเดาได้ว่า เช้านี้เขาไม่มีทางลุกจากที่นอนได้แน่ ๆ
“ไม่เห็นมี ได้โทรปลุกหรือเปล่า”
“ตอนแรกคุณดาว่าจะปลุก แต่นิดว่า ไม่มีทางลุกจากเตียงได้แน่ ๆ เมาซะขนาดนั้น ปล่อยให้นอนเอาแรงก่อนดีกว่า เพราะวันนี้ ไม่มีโปรแกรมรัดตัวเหมือนเมื่อวาน”
“พี่รุตก็ยังไม่ลงมาสงสัยจะยังไม่ตื่นเหมือนกัน” วรรณรดาพูดเสียงเบา
“แล้ววันนี้จะไปไหนกัน”
“รอสองหนุ่มก่อน แต่ว่าจะเก็บ ๆ แถว ๆนี้แหละ ว่าไปแล้วบ้านเขาก็ไม่ได้มีที่เที่ยวอะไรมากมายเลยเนอะ” วรรณรดาพูดยืดยาว
“ไปหาอะไรมากิน อย่ามัวแต่นั่งคุย” ขวัญชีวีตัดบท วรรณรดาและณิชกานต์จึงได้ลุกไปตักอาการ โดยทิ้งกระเป๋าสะพายไว้ที่เก้าอี้ให้ขวัญชีวีเฝ้าอยู่ในที
และเมื่อสองสาวลุกไปแล้ว วิศรุตก็เดินยิ้มเห็นฟันขาวเข้ามา ขวัญชีวีละแก้วน้ำส้มยิ้มทักทายเมื่อวิศรุตเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ว่างอีกตัว
“ยังไม่ได้เจอกันเลย มาเลเซียเป็นไงบ้างครับ”
“ก็ดีค่ะ”
“ขวัญดีอยู่คนเดียวเพราะมาทำงาน ได้เงิน”
“คนมาเที่ยวใช้เงินน่าอิจฉากว่าค่ะ แล้วนี่พี่รุตจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่คะ กลับพร้อมกันหรือเปล่า”
“พี่จะกลับเย็นนี้แหละ”
“แล้วจะมาทำไม”
“ขวัญก็น่าจะรู้ว่าพี่มาทำไม”
“ไม่รู้ค่ะ...ยังแปลกใจอยู่เลยว่า จะมาทำไม” ขวัญชีวีแสร้งเล่นลิ้นบ้าง
“มาเป็นกว้างขวางคอ เป็นจระเข้ขวางคลอง แต่ทำไปทำมา กลายเป็นวัวพันหลักซะแล้ว แต่ว่าไปพี่ว่ามันก็คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปนะ”
“เจอรักแท้ที่นี่เหรอคะ”
วิศรุตพยักหน้ายอมรับดวงตาวิบวับเลยทีเดียว
“ดีใจกับนิดด้วย ตกถังข้าวสารสบายไปเลย”
“แต่เขาไม่ยอมตกง่าย ๆ นี่ซิ พี่เลยเครียดไปเลย”
“ก็พยายามซิคะ อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ”
“เขาใจแข็งชะมัดเลย แล้วดูซิยายดาก็อี๋อ๋อสนิทสนมกับคุณนิดไปซะแล้ว ดีไม่ดี พี่ว่ายายดาจะเล่นบทเสียสละอีกแน่ ๆ” เมื่อวานแม้ณิชกานต์จะแยกตัวไปเที่ยวสวนสนุกกับเขาแต่ว่าหญิงสาวก็ระมัดระวังตัว ไม่ได้โปรยเสน่ห์ให้เขา ไม่ทำเหมือนกับว่าเงินของเขาคือพระเจ้า และเมื่ออยู่กันพร้อมหน้าสี่คน ณิชกานต์ก็ไม่ได้ทำตัวสนิทชิดเชื้อกับปวุฒิให้วรรณรดารู้สึกแย่ ๆ
ขวัญชีวีถอนหายใจเบา ๆ เมื่อรู้ว่า แผนที่อุตส่าห์วางไว้น่าจะพังเพราะความใจอ่อนของวรรณรดา
“หนักใจเรื่องอะไร”
“ขวัญก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยนี่แหละคะ นอกจากนี้ก็แล้วแต่พวกเขาเถอะ”
“แต่พี่เองก็ยังมีเรื่องต้องช่วยไอ้เจ้ามาร์คอีกไม่น้อยเลยนะขวัญ...” บอกแล้ววิศรุตก็ถอนหายใจหนัก ๆ
“เรื่องอะไรละคะ”
“ก็ขวัญเล่นไปยื่นเงื่อนไขว่า มันจะต้องอยู่เมืองไทยกับขวัญเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนา”
“ขวัญยังไม่ได้ยื่นอะไรเลยนะคะ” ขวัญชีวีรีบแก้ตัว
“เบื่อจริง ๆ พวกดาราสาว ๆ สวย ๆ เนี่ย ฉลาดล้ำลึกกันนัก ไม่รู้กินอะไรกัน”
“กินบทละครค่ะ ต้มน้ำกิน จะกินบ้างไหมละคะ”
ขวัญชีวีหัวเราะขำ วิศรุตส่ายหัวก่อนจะลุกขึ้นไปตักอาหารบ้าง

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 มี.ค. 2556, 12:29:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 มี.ค. 2556, 12:29:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 1930
<< 20. | 22. >> |

จุฬามณีเฟื่องนคร 15 มี.ค. 2556, 12:31:09 น.
ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจนะครับ //วันพุธที่ 3 1200-1300 น.จะมีงานเปิดตัวนิยายชุดอาเซียนที่เวทีกลาง ศูนย์ประชุมสิริกิติ์...เีรียนเชิญเพื่อนนักอ่านทุกท่านนะครับ(ถ้าว่าง)... วันที่ 4 ยังไม่รู้กี่โมง ผมเข้าบู๊ธสถาพรครับ
ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจนะครับ //วันพุธที่ 3 1200-1300 น.จะมีงานเปิดตัวนิยายชุดอาเซียนที่เวทีกลาง ศูนย์ประชุมสิริกิติ์...เีรียนเชิญเพื่อนนักอ่านทุกท่านนะครับ(ถ้าว่าง)... วันที่ 4 ยังไม่รู้กี่โมง ผมเข้าบู๊ธสถาพรครับ


คิมหันตุ์ 16 มี.ค. 2556, 01:40:57 น.
โอ้ว รับทราบค่ะ สนุกค่ะ น่าลุ้นทุกคู่
โอ้ว รับทราบค่ะ สนุกค่ะ น่าลุ้นทุกคู่

Zephyr 16 มี.ค. 2556, 19:57:07 น.
เอิ่ม คงไม่หักมุมใช่มั้ยคะ ฮ่าๆๆๆ เริ่มกลัว
เออ นิดเธอร้ายเนียนๆนะ อุตส่าห์รู้สึกดีกับเธอนิดนึง แต่.... เอ้ออออออ มาแนวนี้ชักจะแหยงๆเธอละ
เอิ่ม คงไม่หักมุมใช่มั้ยคะ ฮ่าๆๆๆ เริ่มกลัว
เออ นิดเธอร้ายเนียนๆนะ อุตส่าห์รู้สึกดีกับเธอนิดนึง แต่.... เอ้ออออออ มาแนวนี้ชักจะแหยงๆเธอละ