นางบำเรอตีทะเบียน By อัญจรี น้ำจันทร์
คำโปรยหน้า
บุพเพฤาชะตา ที่นำพามาพบเจอ
หน้าที่เมียบำเรอ เขาให้เธอจำขึ้นใจ
ฉากหน้าแสนโสภา ภรรยานิตินัย
ฉากหลังนั่งร้องไห้...นางบำเรอตีทะเบียน
คำโปรยหลัง
เมื่อความรักที่มีไม่ได้รับความเห็นชอบจากมารดาที่รัก
วาโย จึงต้องหาใครสักคนมาแก้แค้นผู้เป็นมารดาให้สมกับที่ท่านกีดกันเขาและสาวคนรักออกจากกัน
ละอองดาว คือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น เพราะหล่อนไม่ใช่ไฮโซ ไม่ใช่ลูกผู้ลาภมากดี
หล่อนเป็นเพียงแค่ โสเภณี ที่เขาบังเอิญถูกชะตา
วาโยไม่รอช้าจดทะเบียนตีตรากับหล่อนเพื่อประชดมารดาในทันที
โดยหารู้ไม่ว่าแม่โสเภณีที่เขาซื้อมาหล่อนยังไร้ ราคี!
สามปีให้หลังเมื่อสัญญานางบำเรอสิ้นสุดลง ละอองดาวดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธะสัญญาที่ไร้รัก
แต่ทว่าสามีผู้หลงใหลในเรือนร่างคุณภรรยา กลับไม่ยอมหย่าให้!
เวลาต่อมา
เมื่อสตรีที่วาโยรักนักรักหนากำลังจะดับดิ้นสิ้นลมหายใจ เขาจึงอยากจะได้ใบหย่าไปให้สาวเจ้าชื่นชม
แต่ทว่า ตอนที่เธออยากหย่าเขาไม่ยอมหย่าให้ ตอนนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้มันไป เช่นกัน!
ความเจ็บปวดใดๆ ที่สามีเคยทำไว้กับภรรยา นาทีนี้ก็เตรียมตัวรับความเจ็บปวดเช่นนั้นกลับไป สองเท่าตัว!
ชื่อเดิม โสเภณีตีทะเบียน -> คมทันฑ์สิเน่หา -> มาจบที่ นางบำเรอตีทะเบียน ค่า
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำหรือดัดแปลงแก้ไข ใครอุบอิบเอาของเขาขอให้แฟนทิ้งแฟนมีหญิงใหม่ สาธุ ^/\^
เตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ นิยายอัพถึงบทที่ 15 นะคะ อาจจะแถมให้ถึง 16 ถ้าคนอ่านช่วยกระหน่ำไลค์ แต่เรื่องอัพจบคงไม่อัพจบค่าเพราะนิยายเรื่องนี้อัพมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ยังให้กำลังใจกันด้วยดี ป,ล ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยจร้า นักเขียนตัวน้อยยังด้อยประสพการณ์ ^/\^
บุพเพฤาชะตา ที่นำพามาพบเจอ
หน้าที่เมียบำเรอ เขาให้เธอจำขึ้นใจ
ฉากหน้าแสนโสภา ภรรยานิตินัย
ฉากหลังนั่งร้องไห้...นางบำเรอตีทะเบียน
คำโปรยหลัง
เมื่อความรักที่มีไม่ได้รับความเห็นชอบจากมารดาที่รัก
วาโย จึงต้องหาใครสักคนมาแก้แค้นผู้เป็นมารดาให้สมกับที่ท่านกีดกันเขาและสาวคนรักออกจากกัน
ละอองดาว คือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น เพราะหล่อนไม่ใช่ไฮโซ ไม่ใช่ลูกผู้ลาภมากดี
หล่อนเป็นเพียงแค่ โสเภณี ที่เขาบังเอิญถูกชะตา
วาโยไม่รอช้าจดทะเบียนตีตรากับหล่อนเพื่อประชดมารดาในทันที
โดยหารู้ไม่ว่าแม่โสเภณีที่เขาซื้อมาหล่อนยังไร้ ราคี!
สามปีให้หลังเมื่อสัญญานางบำเรอสิ้นสุดลง ละอองดาวดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธะสัญญาที่ไร้รัก
แต่ทว่าสามีผู้หลงใหลในเรือนร่างคุณภรรยา กลับไม่ยอมหย่าให้!
เวลาต่อมา
เมื่อสตรีที่วาโยรักนักรักหนากำลังจะดับดิ้นสิ้นลมหายใจ เขาจึงอยากจะได้ใบหย่าไปให้สาวเจ้าชื่นชม
แต่ทว่า ตอนที่เธออยากหย่าเขาไม่ยอมหย่าให้ ตอนนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้มันไป เช่นกัน!
ความเจ็บปวดใดๆ ที่สามีเคยทำไว้กับภรรยา นาทีนี้ก็เตรียมตัวรับความเจ็บปวดเช่นนั้นกลับไป สองเท่าตัว!
ชื่อเดิม โสเภณีตีทะเบียน -> คมทันฑ์สิเน่หา -> มาจบที่ นางบำเรอตีทะเบียน ค่า
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำหรือดัดแปลงแก้ไข ใครอุบอิบเอาของเขาขอให้แฟนทิ้งแฟนมีหญิงใหม่ สาธุ ^/\^
เตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ นิยายอัพถึงบทที่ 15 นะคะ อาจจะแถมให้ถึง 16 ถ้าคนอ่านช่วยกระหน่ำไลค์ แต่เรื่องอัพจบคงไม่อัพจบค่าเพราะนิยายเรื่องนี้อัพมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ยังให้กำลังใจกันด้วยดี ป,ล ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยจร้า นักเขียนตัวน้อยยังด้อยประสพการณ์ ^/\^
Tags: ตีพิมพ์สำนักพิมพ์ธราธร
ตอน: บทที่ 10 กวางน้อยน่ารักนายยักษ์เลยจับกิน 100% งานนี้ได้เสีย!
นางบำเรอตีทะเบียน
“อย่าเอาอะไรให้ผู้หญิงคนนี้อีกถ้ายังอยากทำงานอยู่ที่นี่ ฉันไม่ใจดีเหมือนท่านประธานใหญ่หรอกนะ ฉันเอาแต่ใจมากพอที่จะไล่พนักงานคนหนึ่งออกเพราะมันดันสะเออะเอาผ้าเช็ดหน้าให้ ผู้หญิงของฉัน!”
บอสใหญ่สาดซัดวาจาเข้าใส่ลูกน้องหนุ่มด้วยพายุอารมณ์ที่ประเดประดังเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ เขาไม่อาจควบคุมมันได้เมื่อแลเห็นสิมันตรายืนจ้องตากับบุรุษอื่นที่ไม่ใช่เขา มิหนำซ้ำยังส่งแววตาห่วงหาอาทรให้แก่กันและกันจนเขาอยากอาเจียน ไม่เพียงเท่านั้น นายวิญผู้จัดการฝ่ายบัญชีของเขายังบังอาจเอาผ้าเช็ดหน้าสั่วๆ ของมันมาห่อมือน้อยๆ ของแม่สมันตัวน้อย หล่อนเป็นของเขาในทุกๆ ความหมายไม่ว่าหล่อนจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และถ้าพูดกันยากนักก็คงต้องใช้กำลังบังคับให้หล่อนยอมรับโดยดุษฎี
“ปล่อยนะ! ฉันเจ็บนะคุณยักษ์ พี่วิญช่วยกวางด้วย พี่วิญ!”
สิมันตราร้องขอบุรุษหนึ่งเดียวที่หล่อนพอจะพึ่งพาได้ ด้วยว่าตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน ทั้งชั้นนี้จึงเหลือเพียงพนักงานไม่กี่คนเท่านั้น และแน่นอนว่าไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แม้แต่พี่วิญ
“ขอโทษด้วยนะกวาง พี่มันต่ำต้อยเกินไป คงช่วยกวางไม่ได้ พี่ขอโทษจริงๆ”
วิญบอกผ่านสายลมแห่งความเจ็บช้ำหวังว่ามันจะพัดพาไปหาร่างน้อยที่กำลังถูกยัดเข้าลิฟต์ กุมภัณฑ์แสดงออกว่าหัวเสียจนน่าขนลุก เขาไม่เคยต้องรองรับอารมณ์นายหนุ่มคนนี้เลย วันนี้เป็นวันแรกและเขาหวังว่ามันจะไม่มีครั้งต่อไป
ทางด้านสิมันตราพอหลุดออกจากห้องแคบๆ ชวนหูอื้อของลิฟต์โดยสารก็ถูกลากเข้ามายังห้องนอนที่เธอคุ้นเคยดี
กุมภัณฑ์แทบโยนร่างกวางน้อยทุ่มลงบนฟูกทันทีที่เห็น เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่เอื้อมมือไปบีบคอขาวๆ ของหล่อน
“กรี๊ด!...ฉันเจ็บนะ!”
หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงร่างทั้งร่างล้มไปนอนบนเตียง เขาสะบัดมือหนาที่เกาะกุมข้อมือบางๆ ของเธอออก การกระทำรุนแรงและรวดเร็วทำให้ฝ่ามือของคนเจ็บประทับลงไปบนผิวผ้าปูที่นอน มันจะไม่เจ็บปวดเลยหากแผลที่พุพองบางส่วนจะไม่หลุดติดผ้าปูตอนที่เธอพยายามยกฝ่ามือขึ้นมาพิจารณา
สิมันตราเจ็บจนชาน้ำตาร่วงพรู เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งหัวใจ
“อย่าคิดทำอะไรกับผู้ชายคนไหนที่ไม่ใช่ฉัน อย่ามองตา อย่าคุยด้วยถ้าไม่จำเป็น และอย่ารับของสั่วๆ ของใครหน้าไหนทั้งนั้นฉันถือว่านี่คือคำสั่งและเธอต้องปฏิบัติตามสถานเดียว”
“บ้าอำนาจที่สุด ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบนะ คุณจะได้มาบงการว่าฉันต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ ฉันมีอิสระมากพอๆ กับที่ฉันยังจำได้ว่ายังใช้จมูกตัวเองหายใจ จำเอาไว้!”
“กวาง! ฉันพยายามแล้วนะที่จะไม่รุนแรงกับเธอ ฉันใกล้จะบ้าเพราะสิ่งที่กำลังเป็นอยู่นี่ ช่วยบอกฉันดีๆ สักคำ หรือสารภาพหน่อยเถอะว่าเธอกับไอ้หมอนั่นไม่ได้ทำ...ทำเรื่องที่ฉันไม่ชอบใจ ช่วยบอกฉันทีเถอะ”
กุมภัณฑ์อธิบายเท่าที่เขาเข้าใจโดยหวังว่าหล่อนจะเข้าใจด้วย และสิมันตราก็โง่เซ่อเกินกว่าจะตามเขาทัน
“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังว่าเรื่องไหนคุณชอบหรือไม่ชอบ คุณมันบ้าอำนาจไม่ได้ดั่งใจก็ใช้กำลัง คุณมันไร้สมองใช้แต่อารมณ์เป็นใหญ่ไม่ยอมรับฟังชาวบ้าน ทำตัวเหมือนเด็กมีปัญหา ถามจริงๆ เถอะเพิ่งถอดแพมเพิร์สเมื่อวานนี้หรือไงห๊ะ!”
สิมันตราโต้กลับด้วยแรงอารมณ์เช่นกัน พลางใช้หลังมือปาดน้ำตาเท่านี้จะทำได้ เขาใช้ตาตุ่มคิดหรืออย่างไรว่าเธอจะทำเรื่องอย่างว่ากันในห้องครัวของออฟฟิศข้างล่าง คุณชักจะโมโหแล้วพาลมากเกินขอบเขตแล้วกุมภัณฑ์
“ยัยกวาง!? นี่เธอ! เธอหาว่าฉันเป็นเด็กเพิ่งจะถอด... ยัยบ้า! เธออยากลองดีกับฉันรึไงห๊ะ!”
“ไม่เลย ฉันไม่อยากลองดีลองชั่วอะไรกับใครทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ฉันอยากมากที่สุดคือลุกไปตบหน้าคุณสักฉาดแล้วหนีไปให้ไกลจากเรื่องเลวร้ายน่าบัดซบนี่ ฉันอยากหนีหน้าผู้ชายห่วยๆ เฮงซวยอย่างคุณ ฉันเกลียดคุณที่สุดเลยคุณยักษ์ เกลียดๆๆๆ ...อื้อ...”
เสียงตัดพ้อด่าทอถูกริมฝีปากคมๆ ดูดกลืนจนหมดสิ้น กุมภัณฑ์โน้มกายลงมาสอดแทรกเรียวลิ้นอุ่นร้อนในโพรงปากของสิมันตราอย่างจาบจ้วงรุนแรง สติที่มีเหลือเล็กน้อยคอยแต่ย้ำว่าเปลื้องผ้าหล่อนออกซะแล้วสั่งสอนหล่อนให้รู้สำนึก และร่างกายสารเลวก็ทำตามที่สมองสั่งการทันที
ไม่นานเสื้อผ้าอาภรณ์ของสองร่างก็ปลิวว่อน สิมันตราพยายามขัดขืนทว่าเรี่ยวแรงถูกความเจ็บไข้ได้ป่วยดูดกลืนไปจนหมดสิ้นแล้ว หล่อนได้แต่ปล่อยกายให้เป็นไปตามแรงขับเคลื่อนของธรรมชาติ ความเจ็บปวดแทรกเข้ามาหนักหนาราวมีมีดพร้ามาเฉือนเนื้อแล่กายออกเป็นชิ้นๆ วูบหนึ่งเธอรู้สึกว่ากุมภัณฑ์เจ็บปวดกับสิ่งที่ทำลงไป แต่เขาก็ตระหนักได้เช่นเดียวกันว่าหากหยุดตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เช่นนี้แล้ว บทลงทัณฑ์มันจึงดำเนินต่อไปอย่างเร่าร้อนและรุนแรง
สามชั่วโมงผ่านไป
หญิงสาวลืมตาขึ้นมาช้าๆ ด้วยความปวดแสบที่กระบอกตาทั้งสองข้าง เธอร้องไห้ไปนานเท่าไหร่ไม่อาจรู้แต่เชื่อเถอะว่าความสูญเสียที่แหลกลาญลงไปด้วยมือเขามันมากยิ่งกว่าหยดน้ำตาหลายล้านเท่าทีเดียว ตอนนี้ที่นอนอีกฝั่งไร้ร่างเจ้าของเพราะกุมภัณฑ์นั่งอยู่ข้างเตียงและกำลังทำแผลที่ฝ่ามือให้อย่างอ่อนโยน แน่นอนว่าหลังจากที่เขาใช้อาวุธอันทรงพลังแห่งบุรุษเพศกระหน่ำแทงที่ใจกลางร่างกายเธอ แต่ช่างน่าขันนักที่มันส่งความเจ็บร้าวทรมานมาถึงหัวใจ เจ็บปวดชอกช้ำสุดพรรณนา เขาจะรู้ไหมว่าความทุกข์ระทมที่ถูกชายที่รักข่มขืนมันมีมากมายเพียงไร เขาจะรับรู้บ้างไหม...
“ฉันจะไม่ขอโทษเพราะฉันตั้งใจ” กุมภัณฑ์พูดออกมาแล้วอยากกัดลิ้นตัวเองจริงๆ อุตส่าห์ซ้อมในใจเสียดิบดีว่าหากหล่อนฟื้นขึ้นมาคำแรกที่เขาจะพูดคือคำว่าขอโทษ แล้วเป็นไงล่ะ ขอโทษแบบนี้หล่อนคงอยากลุกขึ้นมาจูบตอบแทนด้วยบาทากระมัง
“ฉันเกลียดคุณที่สุดผู้ชายสารเลว”
สิมันตราเขม้นมองนัยน์ตาคมกล้าของกุมภัณฑ์อย่างไม่สะทกสะท้าน หล่อนเจ็บปวดรวดร้าวมากเกินกว่าจะนอนร้องไห้ให้เขารังแกเฉยๆ งานนี้ทำร้ายเขาคืนด้วยการตบไม่ได้ก็ขอทำร้ายจิตใจเขาด้วยวาจาก็แล้วกัน
“ขอบคุณที่เธอยังไม่อยากฆ่าฉัน” ตลกร้ายประโยคแรกที่หลุดออกจากริมฝีปากหยักคู่นั้นทำเอาสิมันตราต้องแสยะยิ้มออกมา หล่อนยันกายลุกขึ้นนั่งสองมือดึงผ้านวมขึ้นมาปิดทรวงอกอวบอิ่มที่ถูกฝ่ามือร้อนผ่าวของเขาบีบบี้จนเหลวอ่อน
“เสียใจด้วยคุณยักษ์ ถ้าฉันมีปืนสักกระบอกสมองคุณคงทะลุไปนานแล้ว!”
กุมภัณฑ์หัวเราะหึๆ ในลำคอ ริมฝีปากคลี่ยิ้มอวดเขี้ยวเสน่ห์ด้วยความพอใจ อย่างน้อยหล่อนก็ไม่ได้อ่อนแอเกินไปนัก เขาพอใจทีเดียวที่หล่อนลุกมาต่อว่าเขาได้
ชายหนุ่มจับมืออีกข้างของกวางน้อยมาบรรจงทายาแล้วพันด้วยผ้าพันแผล เจ้าหล่อนก็ช่างให้ความร่วมมือดีแท้ด้วยการขัดขืนในทุกๆ วิถีทาง
“ฉันจะบีบยาเข้าปากเธอถ้าเธอยังดื้อไม่ยอมให้ฉันทายาให้” เขาขู่เสียงทุ้มต่ำจนเกือบเย็นชา สิมันตราจำต้องนิ่งเพราะไม่อาจรองรับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเขาได้ ถ้าเขาโมโหแล้วมาลงกับเธอด้วยวิธี...เธอคงได้เปลืองตัวอีกหลายรอบแน่ๆ
“เจ็บไหม” เขาถามต่อ มุมปากหยักมีรอยยิ้มเล็กน้อย
“ตรงไหนล่ะ” สิมันตราเล่นลิ้น ตอนนี้เธอเจ็บปวดทั้งร่างกายและหัวใจแต่ดูเหมือนว่าอย่างหลังจะเข้าขั้นโคม่าถ้าจะให้ดีน่าจะเข้าห้องผ่าตัดไปเลย
“ทุกตรงนั่นล่ะ”
คำพูดกำกวมของกุมภัณฑ์ทำเอาสิมันตราหน้าแดงซ่าน หญิงสาวดึงมือกลับมาเมื่อเขาทำแผลให้เสร็จเรียบร้อย หล่อนค่อยๆ ขยับกายจะลงจากเตียงแต่เสียงห้าวดุก็ขัดขึ้นอีกจนได้
“ฉันยังไม่อนุญาตให้เธอไปไหนทั้งนั้น!”
“เป็นพ่อฉันรึถึงมาออกคำสั่ง อย่าคิดว่าสิ่งที่คุณทำลงไปมันจะทำให้ฉันตกเป็นเบี้ยล่างนะ ไม่มีวันซะหรอก” กวางน้อยโต้กลับเสียงเครือ นัยน์ตาวาววับด้วยหยาดน้ำใสไม่มีกริ่งเกรงคนตรงหน้า หล่อนไม่อยากอ่อนแอเพราะพ่ายแพ้ในโชคชะตาเลยต้องทำตนว่าเข้มแข็งไม่แยแสสิ่งที่เสียไป
“เธอหาเรื่องใส่ตัวเอง ช่วยไม่ได้” เขามีท่าทีอ่อนลงเมื่อเห็นความพยายามของกวางสาว สิมันตรากำลังต่อสู้กับความอ่อนแอในอก หล่อนกำลังกลบเกลื่อนด้วยการเสแสร้งว่าเข้มแข็ง หยดน้ำตานั่นไงที่เป็นหลักฐานชั้นดี
“ฉันไม่ได้หาเรื่องใส่ตัว คุณต่างหากที่หาเรื่องมาให้ฉัน คนใจบาปหยาบช้าป่าเถื่อน!”
กุมภัณฑ์ลุกพรวดพราดขึ้นทันใด พอกันทีกับการประณามหยามเหยียดที่หล่อนโยนโครมมาให้ เขาจะไม่ทนมันต่อไปแล้ว!
“เอาสิ! อยากบีบคอฉันก็เชิญเลย ฉันไม่มีทางสู้ได้อยู่แล้ว เอาเลย!” สิมันตราตะโกนใส่หน้าคนที่ยืนจังก้าอยู่ข้างเตียง หล่อนไม่ได้หลับตาเพื่อรอการมาของมัจจุราช มันทรมานเกินไปสู้ตาต่อตาอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าเธอจะตายเธอก็ขอรับรู้ทุกลมหายใจด้วยสองตา
ร่างสูงใหญ่ตรงหน้ามิได้นำพาสองมือไปกอบกุมลำคอระหงตามที่เจ้าของร่างร้องขอ เขาทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามนั่นคือการย่อกายลงเพื่อ...คุกเข่า
“ฉันบอกแล้วว่าฉันจะไม่ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำลงไป...เพราะฉันตั้งใจ แต่ที่เธอเห็นฉันคุกเข่าในตอนนี้เพราะฉันอยากให้เธอรู้ว่าฉันเจ็บปวดกับทุกๆ ความเจ็บปวดของเธอ ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน ไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าฉันจะมีความรู้สึกบ้าๆ นี่ด้วย ฉัน...ไม่รู้อะไรเลย ฉันแค่อยากให้เธอหยุดร้องไห้เสียทีเถอะ น้ำตาเธอมันจะท่วมใจฉันอยู่แล้ว ได้โปรดเถอะสิมันตรา...”
“คุณมันขี้ขลาดที่สุดเลย ฉันเกลียดคุณ! ผู้ชายเฮงซวย!”
สิมันตราสาดวาจาคมๆ ใส่กุมภัณฑ์จนทั่วร่าง แต่น่าประหลาดใจเหลือคณาที่ชายหนุ่มมิมีทีท่าว่าจะเคืองโกรธ เขายินดีกับคำประณามหนนี้อย่างล้นเหลือจนต้องเผยยิ้มระบายความอิ่มเอมแน่นอก
“ดี! เกลียดฉันให้มากๆ เข้า เพราะตราบใดที่เธอยังเกลียดฉัน เธอก็จะจดจำฉันจนวันตาย จริงไหมกวาง...”
สิมันตราพูดไม่ออกเขาคิดได้ลึกซึ้งกว่าเธอมากนัก แล้วทำไมเธอต้องมาฟังสิ่งที่เขาพร่ำเพ้อด้วย เธอต้องรีบไปจากขุมนรกนี้ จะมัวรีรออะไรเล่าสิมันตรา รีบไปจากที่นี่เสียที
หญิงสาวรวบผ้านวมพันกายแล้วลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ทั้งอาการเจ็บแปลบยังส่วนที่ไม่ควรเอ่ยถึงทั้งผ้านวมผืนหนักหนาที่เป็นอุปสรรคในการก้าวเดินมันทำให้เธอมีสภาพเหมือนถังน้ำมันเดินได้ ถ้ากลิ้งได้เธอคงกลิ้งไปแล้ว
กุมภัณฑ์รีบลุกไปขัดขวางการกระทำของเจ้าร่างบาง หล่อนจะบ้าหรืออย่างไร หล่อนจะไปไหนได้หลังจากผ่านเหตุการณ์บอบช้ำออกปานนั้น เขารู้ว่าหล่อนคงเจ็บไม่น้อยเพราะเขาก็ไม่ได้ออมแรงเลย
“อย่าไป...อย่าไปเลยนะกวาง ฉันขอร้อง”
พ่อยักษ์ใหญ่กลับมาใช้น้ำเสียงออดอ้อนเว้าวอน เขาดึงร่างที่ถูกพันเป็นมัมมี่ของสิมันตรามากกกอดอย่างหวงแหนมิแยแสแม้ว่าเจ้าของร่างจะดิ้นรนขัดขืนสักปานใด เขายืนกอดหล่อนแน่นๆ ยินดีให้หล่อนประทุษร้ายเท่าที่ร่างกายหล่อนจะเอื้ออำนวย
เมื่อสิ้นสุดการลงทัณฑ์ของสิมันตรา กุมภัณฑ์ก็จัดการอุ้มร่างที่อ่อนแรงขึ้นไปนอนบนเตียงส่วนเขาก็เกยร่างอยู่เหนือหล่อน
“อย่าร้องไห้...เมื่อไหร่จะเลิกร้องไห้เสียที เธอเสียใจมากเลยหรือที่เสียพรหมจรรย์ให้ฉัน ฉันไม่คู่ควรกับมันใช่ไหม” ดวงตาคมมีแววเศร้าตรมฉายชัดขึ้นมาทีละน้อย แล้วในที่สุดมันก็สะท้อนชัดเจนอยู่ในคลองจักษุของหญิงสาว กุมภัณฑ์จับสองมือที่พันด้วยผ้าพันแผลของสิมันตรามากอบกุมใบหน้าตนเอง นัยน์ตาสองคู่จดจ้องกันอยู่ประหนึ่งว่าสามารถสื่อสารกันได้ด้วยสิ่งอื่นที่มิใช่วาจา แต่แล้วสิมันตราก็เป็นฝ่ายเปิดเผยสิ่งที่อัดอั้นตันใจมาตลอดเมื่อคืนนี้
“เราจะไม่แต่งงานกันใช่ไหม” หล่อนถามแล้วน้ำตาร่วงพรู ทำเอากุมภัณฑ์งงหนักเข้าไปร้อยเท่าตัว แทนที่หล่อนจะบังคับให้เขาแต่งงานเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่หล่อนกับพูดราวกับว่าไม่อยากให้มีการแต่งงานเกิดขึ้นเสียอย่างนั้น
“แต่งสิ นั่นล่ะคือสิ่งที่ฉันต้องการที่สุดในตอนนี้ เธออย่าได้คิดเชียวว่าฉันพูดออกไปเพราะอยากรับผิดชอบ เพราะต่อให้ฉันพรากพรหมจรรย์ผู้หญิงสักร้อยคนแต่ถ้าร้อยคนในนั้นไม่มีเธอฉันก็ไม่มีวันยอมแต่งด้วยเด็ดขาด รู้อย่างนี้แล้วเธอคงไม่ปฏิเสธใช่ไหม”
หญิงสาวเงยหน้าชุ่มน้ำตาขึ้นมองคนที่เอื้อนเอ่ยประโยคกินใจหนนี้ เธอจะพูดอะไรได้ล่ะในเมื่อความดีใจถูกความเป็นจริงกลบไว้จนมิดไม่เห็นแม้เงาด้วยซ้ำ
“ไม่ได้หรอกคุณยักษ์ เรา...เราแต่งงานกันไม่ได้...แต่งงานไม่ได้”
กุมภัณฑ์กอดร่างที่เอาแต่เพ้อว่าไม่อาจแต่งงานกับเขาได้ หล่อนจะรู้หรือไม่ว่าได้ทำให้หัวใจเขาบวมเป่งจวนระเบิด พูดออกมาได้อย่างไร นี่เขาขอหล่อนแต่งงานแล้วนะ
“อะไรทำให้เธอมั่นใจล่ะกวางว่าเราแต่งงานกันไม่ได้ ในเมื่อฉันไม่เห็นอุปสรรคสักกระผีก ถ้าต้องจับเธอมัดมือมัดเท้าสวมชุดเจ้าสาวฉันก็ไม่รีรอหรอกนะ” เขากล่าวด้วยความมาดมั่นทำเอาคนที่สะอื้นน้อยๆ ในอ้อมแขนต้องปล่อยเสียงร้องไห้ดังยิ่งกว่าเดิม
“คุณยักษ์ขา เราแต่งงานกัน...ไม่ได้หรอก ฮึกๆ แต่งไม่ได้ฮือ...”
สองมือของกุมภัณฑ์เฝ้าปลอบประโลมคนที่สะอื้นไห้ในอ้อมแขน เขาค่อยๆ ดันร่างหล่อนลงไปนอนบนเตียงอีกรอบเพื่อปลอบขวัญคนที่ขวัญเสียให้คลายสะอื้น เขาไม่รู้ว่าสิ่งใดดลใจให้สิมันตราคิดอย่างนั้นแต่ที่แน่ๆ เขาไม่มีวันปล่อย เมีย ตัวเองเป็นโสดอีกแล้ว ไม่ว่าพรุ่งนี้อะไรจะเกิดขึ้นสิมันตราต้องแต่งงานกับเขา สถานเดียวเท่านั้น
Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 มี.ค. 2556, 19:25:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 มี.ค. 2556, 19:25:27 น.
จำนวนการเข้าชม : 18566
<< บทที่ 10 กวางน้อยน่ารักนายยักษ์เลยจับกิน 80% | บทที่ 11 ภรรยาสายฟ้าแลบ 40% >> |
mhengjhy 21 มี.ค. 2556, 20:58:16 น.
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี
kaelek 21 มี.ค. 2556, 21:18:03 น.
ฟินมากๆ ค่ะ
ฟินมากๆ ค่ะ
ลิลลี่ 21 มี.ค. 2556, 23:22:50 น.
อ้ายยยยยยย ทำไมเราไม่เาียใจแทนน้องกวางน้อย กลับดีใจมากกว่า5555555
คุณยักษ์น่ารักซะขนาดนี้ อย่าาปล่อยให้เมียลอยนวลล่ะ ยังไงก็ต้องแต่ง55555
อ้ายยยยยยย ทำไมเราไม่เาียใจแทนน้องกวางน้อย กลับดีใจมากกว่า5555555
คุณยักษ์น่ารักซะขนาดนี้ อย่าาปล่อยให้เมียลอยนวลล่ะ ยังไงก็ต้องแต่ง55555