โองการแช่งรัก
เกิดมาตั้ง 29 ปีอยากมีแฟนกับเขาสักทีทำไมมันยากยิ่งกว่าตามหามักกะลีผล ก็เธอทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งเริ่ด! แต่ทำไมไม่มีใครตกหลุมเลยสักคน มันต้องมีใครแอบมาแช่งชักหักกระดูกเอาไว้ให้อกหักรักคุดตลอดชาติแน่ๆ!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 5. คุณคือคนแรก



“ไม่! อย่ามาแตะตัวฉันนะ!” เมถุนแว้ดขึ้น เมื่อเห็นหนุ่มตัวดำเตี้ยม่อต้อเดินดุ่มๆ เข้ามา พร้อมรอยยิ้มที่โชว์ฟันหลอน่าหวาดกลัว มากกว่าจะดูสบายใจ

“อ้าว...เจ็บจนเดินเองไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ก็หาผู้ช่วยให้นี่ไง อย่าเรื่องมาก” อิชยายิ้มมุมปาก

“อ๊าย อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ!” เสียงแหลมที่ดังอยู่แล้ว ยิ่งแผดให้ทะลุทะลวงเข้าไปใหญ่ เมื่อมือสากๆ ของไม้ขอน ยื่นมาใกล้ต้นแขนเลอะโคลนของตนเอง ท่ามกลางสายตาขบขันของทุกคนที่มองอยู่ โดยเฉพาะเพลินตาที่รู้สึกสะใจกว่าทุกคน

“โธ่...คุณจูนครับ ให้ไมเคิลช่วยเถอะ เจ็บขนาดนี้แล้วไม่ต้องเกรงใจไมเคิลหรอก” ไม้ขอนบอกเสียงแผ่ว อดสงสารสาวสวยที่เจ็บจนหน้าซีดไม่ได้ โชคยังดีที่ได้นายตะโกนเรียกเขามาช่วย ไม่เช่นนั้นเมถุนคงลำบากกว่านี้แน่

“ฉันไม่ได้เกรงใจ! ฉัน...”

“จะให้ไมเคิลช่วย หรือจะลุกเอง” อิชยาเอ่ยเสียงเรียบ ทว่าดวงตาคมกริบกลับฉายแววขบขัน เมื่อเห็นฝ่ายนั้นทำท่าทางขยาดหวาดกลัวผู้ช่วยส่วนตัวของเขา จนหน้าซีด

“ไปให้พ้นนะ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ!” เมถุนโวยวายหนักขึ้น เรียกรอยยิ้มน้อยๆ ของคนที่กลายร่างเป็นไม้กันหมาได้เป็นอย่างดี

“ไมเคิล...ช่วยที คุณจูนเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว รีบหน่อยแล้วกัน” สิ้นเสียงทุ้มๆ ผู้ช่วยหนุ่มในมาดขุนช้างก็ยิ้มกว้าง ปรี่เข้าไปช้อนตัวของเมถุนขึ้นมา ท่ามกลางเสียงเอ็ดตะโรของเจ้าตัวที่ดังเสียยิ่งกว่าลำโพงเครื่องเสียงงานวัด

“อ๊าย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” หญิงสาวตกใจ จนกระโดดพรวดมายืนด้วยขาของตัวเองบนพื้นอย่างมั่นคง ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมาอย่างฉงนใจ

“อ้าว...ไม่เจ็บแล้วเหรอคะน้องจูน” พี่บีที่รู้เช่นเห็นชาติกันมาก่อน เปรยขึ้นดังๆ

“จะ...เจ็บค่ะ แต่...ยืนไหว” เมถุนพูดกระท่อนกระแท่น ด้วยกลัวว่าจะเผลอแสดงอาการของคนปกติออกไปให้รู้กันถ้วนหน้า

“เฮ้อ...ค่อยโล่งอกหน่อย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมประคองคุณจูนไปส่งที่บ้านพักแล้วกันนะครับ” คีตะแย้มยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นไม่เป็นอะไรมาก ก่อนร่างสูงโปร่งจะเคลื่อนตัวเข้าไปหา พร้อมประคองร่างระหงที่ทำเป็นเดินกะเผลกๆ ไปยังบ้านพักของเธออย่างห่วงใย

อิชยามองตามหลังเพื่อนและนางแบบสาว โดยมีผู้จัดการร่างท้วมตามไปไม่ห่างอย่างระอาใจ ไม่รู้ว่าเหตุใดคีตะถึงได้ใจดีกับผู้หญิงคนนี้นัก ทั้งที่เจ้าตัวก็น่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้มีจิตใจบริสุทธิ์ที่จะเข้าหา บางทีเขาก็ไม่เข้าใจเพื่อนคนนี้เช่นกัน เพราะแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อน ทว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็เป็นเพียงเพื่อนในคณะเดียวกัน แต่อยู่คนละกลุ่ม ไม่ได้สนิทชิดเชื้อจนตบหัวลูบหลังได้ ดังนั้นหากว่าคีตะเกิดชอบของแปลกอย่างเมถุนขึ้นมา เขาเองก็คงต้องหลีกทาง ปล่อยให้เพื่อนไปเผชิญชะตากรรมที่เลือกเอง

ขอให้โชคดีนะไอ้คี หลังจากนี้ฉันคงไม่ขวางทางรักแกแล้วว่ะ เดี๋ยวจะมีคนหาว่าฉันทำไปเพราะหวงของแปลกเปล่าๆ

ทว่าไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่จ้องคนที่เพิ่งเดินจากไป เพลินตาที่ยืนเม้มปากสนิท ก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมาเสียเดี๋ยวนั้น ที่คีตะให้ความสำคัญกับมารหัวใจ มากกว่าจะเข้ามาถามไถ่อาการของเธอ เป็นเหตุให้นางแบบสาวยิ่งเกิดอาการหวงก้างมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว จากที่เพียงแค่สนใจคีตะในฐานะเจ้าของนิตยสารเนื้อหอมวัยสามสิบสามปีที่ยังโสด ตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอยากครอบครอบเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เพื่อกันท่าผู้หญิงอีกคนให้อกกลัดหนองช้ำชอกจนตาย



“ไม่เจ็บตรงไหนแล้วจริงๆ นะครับ” คีตะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง หลังเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าขอเลื่อนนัดคุยงานออกไปเป็นวันพรุ่งนี้ เนื่องจากทางนั้นติดธุระด่วนอย่างกะทันหัน จึงทำให้เขามีเวลาดูแลนางแบบสาวที่เพิ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินออกมาจากห้องก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้หน้าบ้านพัก ขณะเขานั่งจิบกาแฟรออยู่ก่อนแล้วในยามบ่ายแก่ๆ เช่นนี้

“ไม่หรอกค่ะ แค่นี้เอง จูนไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ” เมถุนยิ้มน้อยๆ ใจจริงก็นึกอยากจะบอกอยู่เหมือนกันว่า เจ็บมาก...เจ็บจนอยากจะให้เขามาดูแลใกล้ๆ ทว่าพอคิดถึงเรื่องงานแล้วก็ทำไม่ได้ เพราะหากเธอเจ็บปานนั้น มีหวังกองถ่ายคงได้วุ่นวายเลื่อนเวลาออกไปเพื่อรอให้ดีขึ้น แล้วหมายเลขสิบสามผู้อ่อนโยนของเธอ ก็ต้องมารับภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็นอีกด้วย

“อย่าชะล่าใจครับ เอาเป็นว่าถ้าเกิดคุณจูนรู้สึกแย่ขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็โทร.หาผมได้ตลอดเวลา” พูดแล้ว ก็ยื่นนามบัตรของตัวเองให้คนที่เผยยิ้มน่ารักออกมา ก่อนจะพูดต่อ “เบอร์ในนี้เป็นเบอร์ส่วนตัวของผม มีไม่กี่คนที่รู้ รับไว้นะครับ”

“จูนจะรับไว้ค่ะ” พยายามอย่างมากที่จะไม่แสดงอาการดีใจออกนอกหน้า จนหนุ่มผู้นี้ไหวตัว แล้วชิ่งหนีจากเธอไปก่อน

“ถ้ารู้สึกแย่ขึ้นมาต้องโทร.นะครับ ผมเป็นห่วง”

“ไว้ถ้าจูนรู้สึกแย่จะโทร.หาคุณคีเป็นคนแรกเลยค่ะ” เมถุนยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงคำว่า ‘แย่’ ในพจนานุกรมของตัวเอง มันมีมากมายเสียจนขี้เกียจนับ อย่างเช่น ดีใจจะแย่ ร้อนจะแย่ คิดถึงจะแย่ ก็ใช่!

ได้ยินดังนั้นชายหนุ่มก็นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมา พร้อมเอ่ยคำพูดที่ทำให้คนฟังเลือดสูบฉีดไปทั้งร่าง

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมไม่ไว้ใจคุณเลย บอกเบอร์คุณมาดีกว่าครับ ผมจะเป็นฝ่ายโทร.หาเอง” คีตะพูดพลางก้มมองโทรศัพท์ในมือ ขณะกำลังปลดล็อก จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตสีหน้าดีใจของอีกฝ่ายที่ดูราวกับคนถูกลอตเตอรี่รางวัลแจ็กพ็อตสิบครั้งซ้อน

ผู้ชายขอเบอร์! เกิดมาเพิ่งเคยถูกขอเป็นครั้งแรก ดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ

“คุณคีรู้ตัวรึเปล่าคะ ว่าคุณเป็นผู้ชายคนแรกที่มาขอเบอร์จูน” อย่างไม่รู้ตัว...หญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงความดีใจ ก็เผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไปจนหมด

“คุณจูนว่าอะไรนะครับ?” คิ้วเข้มของชายหนุ่มเลิกขึ้นเล็กน้อย ทว่าเรียวปากหยักกลับยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เมื่อเห็นใบหน้าของคนเพิ่งได้สติเปลี่ยนสีเป็นเข้มขึ้น

“โอ๊ยตายแล้ว!” เมถุนยกมือขึ้นอังแก้มร้อนฉ่าทั้งสองของตัวเองเอาไว้อย่างขวยเขิน ไม่ได้อยากให้เขามารู้ความจริงอันน่าอายเช่นนี้สักนิด

“ผมดีใจสำหรับการเป็นคนแรกที่ขอเบอร์คุณจูน ว่าแต่จะยอมให้เบอร์ผมรึเปล่าครับ” คีตะพูดจาอย่างสุภาพ ไม่เยาะเย้ย จาบจ้วง หรือขบขัน ทำให้คนฟังนั่งมองตาปริบๆ กับความสมบูรณ์แบบอันหาที่เปรียบไม่ได้ของเขา

“ยอมหรือไม่ยอมมันสำคัญด้วยเหรอคะ ยังไงถ้าคุณคีจะเอาเบอร์จูน ก็หาได้ง่ายๆ อยู่แล้ว” หญิงสาวที่ยิ้มแก้มแทบแตก หยั่งเชิงหนุ่มหล่อตรงหน้าว่าเขาจะเปิดใจให้เธอสักกี่มากน้อย

“แต่ผมอยากจะขอจากเจ้าตัวมากกว่า จะได้เป็นการขออนุญาตไปด้วย” ชายหนุ่มยิ้มละมุน เพียงแค่นั้นเมถุนก็รู้แล้วว่าเส้นทางของหมายเลขสิบสามนั้นไม่ได้ยากเย็นอย่างที่คิด

“คุณคีเล่นพูดมาขนาดนี้ ถ้าไม่ให้จูนก็ใจดำแย่สิคะ” อันที่จริงอยากให้จนตัวสั่น ตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก ก่อนจะบอกเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวไปให้ชายหนุ่มที่คอยอยู่ด้วยอาการกระหยิ่มยิ้มย่อง

“เอาเป็นว่าไว้ผมจะโทร.หานะครับ” ดวงตาคมกล้าของคีตะทอแสงละมุนออกมา จนคนที่มองอยู่อดใจสั่นไม่ได้

“ค่ะ” เมถุนรับคำ ส่งสายตาหวานฉ่ำไปอย่างอ้อยอิ่ง

“งั้นเดี๋ยวผมออกไปธุระข้างนอกก่อน คุณก็พักผ่อนเยอะๆ นะครับ”

“เห็นจะไม่ได้ค่ะ เพราะจูนว่าจะออกไปเดินดูบรรยากาศยามเย็นของเมืองนี้สักหน่อย เคยมาแต่ตอนกลางวัน เลยอยากออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”

“แต่ผมว่าคุณจูนควรพักผ่อน”

“โธ่...คุณคีคะ จูนรู้ตัวดีว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก เพลินก็ไม่ใช่คนอ้วนอะไร แถมพื้นข้างล่างยังเป็นน้ำอีก รับรองว่าไม่มีส่วนไหนในร่างกายบุบสลายแน่ค่ะ” ถึงอีกฝ่ายจะยืนยันหนักแน่น ทว่าเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี แต่พอได้สบตาใสๆ ไร้พิษสงของเธอเข้า คีตะก็อดส่ายหัวไปมาพร้อมรอยยิ้มไม่ได้

“แล้วไปกับใครครับ”

“ตอนแรกว่าจะไปกับพี่บีค่ะ แต่เผอิญรายนั้นมีธุระกลับไปจัดการที่กรุงเทพฯ จูนเลยกะว่าจะไปเที่ยวคนเดียวเปิดหูเปิดตา”

เมถุนพูดหน้าซื่อตาใส จนคนฟังอดเป็นห่วงไม่ได้ เมื่อรู้ว่าเธอวางแผนออกไปเดินเที่ยวเล่นในยามค่ำเพียงผู้เดียว แต่ชายหนุ่มหารู้ไม่ว่าภายในใจของคนหน้าซื่อตอนนี้ แทบจะกู่ร้องให้ก้องว่า ออกไปกับฉันบัดเดี๋ยวนี้!

ให้ออกไปเดินเที่ยวตามข้างทางเจอแดดร้อนๆ เนี่ยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะอยากใกล้ชิดกับผู้ชาย อย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นฉันเอาผิวสวยๆ ออกไปอวดให้ใครเห็นฟรีๆ หรอก ฝันไปเถอะ!

“งั้นเอางี้ดีกว่าครับ” คีตะที่นั่งนิ่งเคาะนิ้วเรียวยาวกับหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่นานก็พูดขึ้น “คุณจูนรอผมอยู่ที่รีสอร์ตนี้ก่อน ไว้เสร็จธุระแล้ว ผมจะรีบมารับ น่าจะไม่เกินหกโมงเย็น รอไหวไหมครับ”

“คุณคีจะเป็นคนพาจูนไปเที่ยวเหรอคะ” ดวงตาคมเฉี่ยวกะพริบปริบๆ ช้อนมองคนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างกันด้วยท่าทางประหลาดใจ

“ครับ ผมไม่ไว้ใจให้คุณจูนออกไปเที่ยวคนเดียว รอผมก่อนนะ” สุ้มเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความห่วงใยที่อีกฝ่ายคาดว่าไม่น่าจะฟังผิด ได้ยินเพียงเท่านี้หัวใจดวงน้อยๆ ก็พองฟูคับอก

“ถ้างั้นจูนจะรออยู่ที่นี่นะคะ”

“แล้วผมจะรีบกลับ” คีตะพูดพลางส่งยิ้มให้ ก่อนจะขอตัวออกไปเพื่อทำธุระอย่างที่บอก ปล่อยให้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บิดตัวไปมาด้วยความปลาบปลื้มกับความอ่อนโยนของผู้ชายนามว่าคีตะอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

“สรุปแล้วพี่จะต้องไปกรุงเทพฯ อย่างที่น้องจูนบอกคุณคีรึเปล่าเนี่ย” พี่บีที่แอบฟังอยู่นานในห้องด้านใน พูดพร้อมกับปรากฏตัวขึ้นด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม ที่พอจะเดาออกว่าฝ่ายนั้นคงจะมีใจให้นางแบบสาวของเธอเช่นกัน

“ก็แหม...พี่บี ถ้าจูนไม่พูดอย่างนั้นมีเหรอหมายเลขสิบสามจะยอมไปส่งจูนเที่ยว” เมถุนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อหวนนึกถึงใบหน้าคมคายที่มีรอยยิ้มประดับเอาไว้อยู่ตลอดเวลาของฝ่ายนั้น

“แล้วคราวนี้จะเอายังไงคะน้องจูน” ผู้จัดการสาวประเภทสองเปิดประเด็น พร้อมทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้แทนที่คีตะ จ้องมองหญิงสาวนัยน์ตาพราวอย่างสนอกสนใจ

“ก็ไม่เอาไง แต่ถ้าจูนไม่ได้แต่งงานกับหมายเลขสิบสาม จูนก็จะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้นพี่บี” สิ้นเสียงของเมถุน บีก็พยายามอย่างมากที่จะไม่กรอกตาไปมาอย่างหน่ายใจ เพราะประโยคนี้ได้ยินมาตั้งแต่หมายเลขหนึ่งแล้ว

ไม่เบื่อบ้างเหรอยะ พูดประโยคเดิมซ้ำซากจำเจ แล้วก็ชวดทุกราย!

“รู้สึกเหมือนเพิ่งจะได้ยินประโยคนี้ไปนะคะ” บีแอบกัดคนพูดไม่ได้ แม้จะทำงานด้วยกันมานาน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ต่อมหมั่นไส้ของเธอลดลงแต่อย่างใด มีแต่จะยิ่งพอกพูนใหญ่โตขึ้นทุกที เนื่องด้วยแม่สาวคนนี้เป็นคนที่ไม่เคยเห็นหัวใครในสายตา แม้กระทั่งเธอที่เป็นผู้จัดการส่วนตัว

“โธ่พี่บี อย่าเพิ่งว่าจูนสิ เพราะจูนมีเซ้นต์ว่าผู้ชายของจูนจะหยุดอยู่แค่หมายเลขสิบสามนี่แหละ” เมถุนทำปากยื่น เมียงมองผู้จัดการส่วนตัวที่นั่งข้างกันอย่างหมายมั่น หญิงสาวรู้ดีว่าที่บีทำงานด้วย ก็เพราะผลประโยชน์มากมายที่แบ่งสัดส่วนกันอย่างลงตัว ไม่ได้เป็นเพราะหลงใหลได้ปลื้มในนิสัยของแต่ละคน ซึ่งเธอก็ไม่ได้สนใจในส่วนนั้น รู้ดีว่าวงการนี้มันมีเพียงแค่ภาพมายาสมชื่อของมัน ฉะนั้นหากใครไม่จริงใจกับเธอ เธอก็ไม่เคยคิดจะมอบความจริงใจให้เช่นกัน

“แล้วสรุปว่าพี่ต้องไป หรือไม่ต้องไปคะกรุงเทพฯ เนี่ย” พี่บีตัดบท ด้วยขี้เกียจฟังอีกฝ่ายพร่ำเพ้อพรรณนาถึงเป้าหมายให้เสียเวลา

“จะไปทำไมให้เมื่อยคะ พี่บีก็อยู่ที่นี่แหละ เพียงแค่เย็นนี้หลบหน้าหลบตาคุณคีไม่ให้เขาเจอได้ก็เท่านั้น” หญิงสาวจีบปากจีบคอพูดอย่างเหนื่อยใจ ทำไมจะต้องมานั่งอธิบายเรื่องง่ายๆ พวกนี้ให้ฟังด้วย กรรมของคนฉลาดกว่าจริงๆ...

“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวไปพักก่อนนะ เมื่อคืนได้นอนแค่นิดหน่อยเอง” พูดแล้วก็ทำท่าลุกขึ้น แต่กลับถูกนางแบบสาวคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน

“เดี๋ยวก่อนพี่บี รอแป๊บนึง” สิ้นเสียงหวานๆ เจ้าตัวก็ผลุบหายเข้าไปในห้อง ก่อนจะออกมาพร้อมกับขวดโหลใสที่เต็มไปด้วยดอกไม้แห้งๆ ที่เธอชอบพกติดตัวไปด้วยทุกที่

“อะไรคะ?” คนร่างท้วมส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างนึกสงสัย

“ชาดอกคาโมมายล์ ช่วยทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นค่ะ” ว่าแล้วก็ยื่นโหลแก้วนั้นไปให้คนที่ทำหน้าไม่อยากจะเชื่ออยู่

“ให้พี่เหรอคะ?” บีถามย้ำอีกรอบอย่างไม่แน่ใจ

“ก็ใช่สิคะ พี่บีจะได้หลับสบายๆ ไง ดอกคาโมมายล์มีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลาย เอาไปลองดูสิ จูนชอบมากเลย มันช่วยให้จูนหลับง่ายขึ้นเยอะ”

ได้ยินดังนั้นบีก็ยิ้มกว้าง ยื่นมือออกไปรับขวดโหลจากนางแบบสาวอย่างยินดี ที่เธออุตส่าห์มีน้ำใจเอาชาส่วนตัวมาให้ เพราะกลัวจะนอนไม่อิ่ม หารู้ไม่ว่าเหตุผลที่แท้จริงของคนที่ฉีกยิ้มกว้างอยู่นั้น สวนทางกับสิ่งที่เธอจินตนาการราวฟ้ากับเหว

เมถุนยิ้มกริ่ม เมื่อเห็นอีกฝ่ายรับชาจากเธอไปอย่างง่ายดาย ด้วยกลัวว่าพี่บีจะไม่หลับไม่นอน แล้วออกมาเดินเพ่นพ่านให้คีตะจับได้ จนเสียแผน เธอเลยยอมสละชาดอกคาโมมายล์เกรดเอบวกที่รักยิ่งให้ไป

“ขอบใจนะน้องจูนสำหรับชา เดี๋ยวพี่จะไปลอง” พูดเสร็จ ก็เดินจากไปพร้อมขวดชาในมือ ปล่อยให้หญิงสาวมองตามอย่างกระหยิ่มใจที่อะไรๆ ก็ดูจะเข้าแผนไปเสียหมด ยกเว้นอยู่อย่างเดียวคือ สายมาดร้ายของคู่อริที่ทอดมองมายังเธอ จากบ้านพักอีกหลังที่ปลูกอยู่ไม่ไกลนัก

แทนที่เมถุนจะไม่ใส่ใจกับสายตาที่เต็มไปด้วยความริษยานั่น แล้วเดินกลับไปพักเอาแรงในห้อง แต่เธอกลับหันไปจ้องตอบ พร้อมกับยักไหล่ให้อย่างไม่แคร์ ก่อนจะทำปากเป็นคำพูดได้ความว่า ‘เธอแพ้’ จนฝ่ายนั้นโมโหขึ้นสมอง กระแทกเท้าเดินเข้าห้อง ปิดประตูดังปัง จนคนที่มองอยู่ต้องหัวเราะขึ้นมา

นางมารร้าย...เธอนี่แหละ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก

แต่ก่อนที่จะได้เดินเข้าไปพักผ่อนอย่างที่ตั้งใจ สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างเล็กๆ ของคุณยายที่เคยเจอกันไปเมื่อคืน กำลังเดินท่อมๆ ไปทางโรงเรือนผักปลอดสารพิษอีกครั้ง เห็นแล้วเมถุนก็รีบสาวเท้าตามไปติดๆ เพราะยังคงสงสัยว่าคุณยายเป็นใครกันแน่...




ดารานิล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 มี.ค. 2556, 17:50:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ต.ค. 2556, 13:47:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 1525





<< 4. เจ้าหญิงผู้น่าสงสาร   6. เรือลำเดียวกัน >>
ตถตา 27 มี.ค. 2556, 18:20:38 น.
ดีใจด้วยนะครับ
พูดถึงเรื่องนี้(ไม่ได้อ่านแต่ต้น) พล็อตน่าจะสนุก เพราะที่เขียนในเว็บบอร์ดที่ว่า
นางเอกชวด ผู้ชายมา สิบสองคน น่าหนุกๆ
ชักคันไม้คันมืออยากเขียนมั่งจัง


Gingfara 27 มี.ค. 2556, 20:40:12 น.
อั๊ย น่ารักๆๆๆ นี่ดินางเอกอินเทรน


พันธุ์แตงกวา 27 มี.ค. 2556, 20:55:31 น.
ลุ้นแทนหนูจูน ฮ่าๆๆ ท่าทางคุณคีมีใจตรงกันซะแล้ว แต้ละแล่นแต แต่ละแล่นแต


goldensun 27 มี.ค. 2556, 22:27:44 น.
คีจะจริงใจกับจูนรึเปล่า หรือแผนมา ก็แผนไป เพราะจูนก็ดูไม่จริงใจกับใครเลย
อิชจะอดใจไม่ขวางได้หรือคะ


anOO 28 มี.ค. 2556, 18:38:58 น.
นายคีตะ ทำตัวไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่เลยแหะ
หรือว่าจูนจะสมหวังกับผู้ชายหมายเลข สิบสี่มากกว่า


Zephyr 6 เม.ย. 2556, 14:30:07 น.
เอ คีตะ แปลกๆนะ มันง่ายไปอ่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account