จุมพิตอัคคี (ภาคต่อหัวใจใกล้เกินเอื้อม) by น้ำจันทร์ อัญจรี
วางแผง 28-3-56 งานหนังสือบูธทัชนะคะ C1 บูธ M 20

จุมพิตอัคคี
(ภาคต่อหัวใจใกล้เกินเอื้อม)

เมรภัทร เอวะโยธิน
น้องพาย เธอเก่ง เธอสวย เธอเซ็กซี แต่เธอไร้หัวใจ

เดลลอร์ฟ เจมส์
เดลทุกอย่างทำเพื่อ สตรีรัก ไม่ได้ใจร้าย แต่ไม่ยอมรามือ

หลังจากที่ จิตาภา พกพาความแค้นที่มีต่อ เมธาวีและธีรภัทรคนรักมานานหลายปี
(อ่านเรื่องของภาคแม่ได้ใน หัวใจใกล้เกินเอื้อม สามารถหาซื้อได้ในงานหนังสือมีนานี้ และที่ร้านซีเอ็ด นายอินทร์ เพราะหน้าเว็บ สำนักพิมพ์ Touch Publishing หมดสต็อกแล้วค่ะ 15-3-56 )
เวลานี้ก็ถึงเวลาสะสาง นางให้หลานชายบุญธรรม คือเดลลอร์ฟ มาขืนใจ เมรภัทร ลูกสาวของเมธาวี โดยแผนการนั้นมีอยู่ว่าเดลจะต้องเอาโรงแรมทิพย์ธารามาขึ้นกับเจมส์ให้ได้แล้วเดลจะได้รางวัลเป็น การแต่งงาน กับ เจนนิตา ลูกสาวของนาง หารู้ไม่ว่า ลูกสาวที่หวงยิ่งกว่าไข่ในหินกำลังปลูกต้นรักอย่างเงียบๆ กับภีรภัทร น้องสาวของเมรภัทร ลูกอีกคนของเมธาวี

เดลลอร์ฟถูกเมรภัทรซ้อนแผน หล่อนเสแสร้งให้เขารักในบทบาทของน้องพาย ผู้หญิงที่เป็นเพียงเหยื่อในแค้นครั้งนี้ เดลลอร์ฟหลงน้องพายหัวปักหัวปำ เขาโอนทุกอย่างให้น้องพาย แม้แต่หุ้นของเจมส์ เพราะเขาเกรงว่าหากวันหนึ่งถูกปองร้ายจากศัตรู น้องพายกับลูกของเขาจะได้ไม่ลำบาก หารู้ไม่ว่า คนที่สั่งการให้มือสังหารมายิงตัวเองคือเมรภัทรภรรยาที่แสนดีนั่นเอง
********** วางแผง 28-3-56 งานหนังสือ ระดับชาติศูนย์ศิริฯ*************

ไรเตอร์รั่วๆ แต่จริงใจ ^_^

เข้ามาแล้วไซร้ไยไม่กดถูกใจละเจ้าคะ

^_^ งุงิงุงิ อ้อนๆๆๆๆๆ












Tags: สำนักพิมพ์ ViVa ในเครือ Touch

ตอน: บทที่ 7 มารยาเจ้าหญิง


สิบนาทีผ่านไป
เดลลอร์ฟเดินวนไปเวียนมา อยู่หน้าห้องน้ำ เสียงอาเจียนราวกับจะเอาเครื่องในออกมากองด้านนอก ดังบาดหัวใจเขาอยู่เนืองๆ เหตุใดความทรมานของศัตรูจึงทำให้เขาทรมานเช่นนี้
“เมรภัทร! ถ้าเธอไม่เปิดประตู ฉันจะพังมันเข้าไปเดี๋ยวนี้!”
เดลลอร์ฟตะโกนผ่านบานประตู
เมรภัทรกรอกตาขึ้นฟ้า
“บ้าอำนาจ” หล่อนพึมพำแผ่วเบา ก่อนที่มือเรียวจะรีบเก็บ โทรศัพท์ เครื่องบางลงกระเป๋ากางเกง
ใช่! น้องพายของเดล หล่อนไม่ได้อาเจียน
เสียงอาเจียนราวจะขาดใจเมื่อครู่ดังออกมาเครื่องมือสื่อสารของเมรภัทรต่างหาก หล่อนรีบปรับสีหน้าท่าทางให้เข้ากับสถานการณ์
ประตูห้องน้ำเปิดออกมาในที่สุด
“พาย! เธอ!”
เดลลอร์ฟพูดไม่ออก เมรภัทรใบหน้าซีดเซียวจนน่าใจหาย เขารีบเข้าประคอง แต่หล่อนขัดขืนทั้งที่ตัวเองไม่มีแรงจะยืน
“ปล่อยนะ!” เสียงหวานตวาด ทว่าแผ่วเบาด้วยไร้เรี่ยวแรง และไม่กี่อึดใจต่อมา น้องพายคนดีก็สิ้นฤทธิ์ในอ้อมแขนของเดลลอร์ฟ
“เธอตัวร้อน” น้ำเสียงเขาดูร้อนรนไม่น้อย เมรภัทรไม่ตอบ เธอตัวร้อนนั่นเรื่องจริง มันร้อนตั้งแต่บ่ายแล้ว
“ฉัน ฉันขอโทษเรื่องเมื่อครู่นี้” เดลรีบเอ่ยออกมา มันอาจทำให้หล่อนรู้สึกดีขึ้น เขาคิดอย่างนั้น
สมองของเมรภัทรเร่งประมวลผลเร็วรี่ ตอนนี้ น้องพายของเดล หล่อนควรทำอย่างไร?
“ฉัน...ฉันหิวข้าวจัง เราไปทานข้าวดีกว่านะเดล ฉันหิวจนจะเขมือบช้างได้ทั้งตัวแล้ว”
เมรภัทรบอกเขาหน้าระรื่น ยิ้มให้เขาราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
เดลลอร์ฟงุนงง หล่อนไม่โกรธเขามันก็ดี แต่หล่อนทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามนี่สิ เขาตั้งรับไม่ทัน
“เธอไม่โกรธแล้วหรือ”
“โกรธสิ แต่โกรธแล้วได้อะไร?” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเนือยๆ ส่งให้ ก่อนจะเอ่ยประโยคเด็ดที่กลั่นกรองออกมาจากมันสมองของเจ้าหญิง
“คนไม่รักกัน ความรู้สึกจากหัวใจ มันสื่อไปไม่ถึงกันหรอก ถึงฉันเจ็บปวดทรมานแค่ไหน นายก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บไปกับฉันอยู่ดี แล้วฉันจะทรมานตัวเองไปทำไม จริงไหมล่ะเดล” น้ำตาใสๆ ไหลมาคลอหน่วยตาคู่สวย เมรภัทรเค้นมันออกมาจากในอก วันนี้เธอร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลแล้ว
เดลลอร์ฟสะดุดลมหายใจ เขาปล่อยร่างในอ้อมแขนให้เป็นอิสระ แล้วทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งในหัวก็กู่ก้องร้องถามหัวใจเขา
‘จริงหรือเดลลอร์ฟที่นายไม่ได้รู้สึกอย่างที่หล่อนว่า จริงหรือเดลลอร์ฟ ที่นายไม่ทรมานเวลาที่เห็นหยดน้ำตาเปื้อนหน้าของหล่อน จริงหรือ?’
เสียงโทรศัพท์ร้องดังขึ้นในกระเป๋ากางเกงของเมรภัทร หล่อนมีท่าทางตกใจเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย
“ค่ะสี่ทุ่มหรือคะ ว่างค่ะ ค่ะได้ค่ะ ดีใจที่ได้ร่วมงานกันนะคะ ทิพย์ธารา ยินดีต้อนรับค่ะ”
เสียงหวานหยอดไปตามสาย พูดพลางยิ้มพลางราวกับว่ากำลังอยู่ในอารมณ์รื่นเริงนักหนา
เดลลอร์ฟหน้าตึง ทำไมหล่อนต้องยิ้มด้วยเวลาเจรจากับคนที่อยู่ปลายสาย มิหนำซ้ำยังจะนัดกันออกไปข้างนอกดึกดื่นอีก
“ค่ะ อีกสองชั่วโมงเจอกันนะคะ” เมรภัทรวางสายคู่ค้าคนสำคัญ เดลลอร์ฟหน้าบึ้งทันทีตอนที่เธอคุยโทรศัพท์แล้วทำเสียงอ่อนเสียงหวาน
‘โธ่เอ๋ยเดลลอร์ฟ นายรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังมีอาการ หมาหวงก้าง เอ...แล้วอย่างนี้ ก้าง จะทำอย่างไรดีล่ะ หึๆๆๆ’
เมรภัทรหัวเราะเยาะเขาอยู่ในใจ ก่อนจะหันหลังเพื่อเดินกลับเข้าห้อง ทว่า...
“เดี๋ยว! เธอจะไปไหน? ไปข้างนอกกับคนที่เธอคุยด้วย อย่างนั้นหรือ?”
เดลลอร์ฟคว้าข้อมือหล่อนเอาไว้พร้อมๆ กับบีบมันอย่างแรง
“ใช่! แล้วทำไมนายต้องบีบข้อมือฉันด้วยฉันเจ็บนะ!”
เมรภัทรเผลอตวาดเสียงดัง พอรู้ตัวก็รีบกลบเกลื่อน
“เอ่อ แล้วทำไมนายต้องทำท่าทางอย่างนี้ด้วยเล่า เดี๋ยวฉันก็เข้าใจผิด คิดว่านาย หึง ฉันหรอก”
“ไม่มีทาง! ทำไมฉันต้องหึงเธอ ในเมื่อ เราไม่ได้รักกัน!”
เขาตอกกลับเมรภัทรด้วยความโกรธ โกรธหรือ? แล้วเขาโกรธหล่อนเรื่องอะไรล่ะ
เจ้าหญิงหิมะขบกรามแน่น ไม่รักอย่างนั้นหรือเดลลอร์ฟ ก็ได้! ไม่รักก็ไม่รัก น้องพายของนายหล่อนจะทำให้นายรักให้ได้คอยดู
เมรภัทรตีหน้าเศร้า เลิกดิ้นรนขัดขืน ความเจ็บปวดที่ข้อมือเพราะเขาบีบมันแน่น ทำให้ครานี้เธอหลั่งน้ำตาออกมาได้อย่างง่ายดาย
“รู้แล้ว...หึๆ รู้แล้วน่า อย่าย้ำได้ไหม มันเจ็บนะ เดล...” น้องพายคนดี แค่นยิ้มเย้ยหยันตัวเองขณะที่หยาดน้ำตาไหลรินอาบแก้มซีดเซียว
เดลลอร์ฟพินิจวงหน้าของเจ้าหญิงหิมะด้วยใจสั่นไหว หล่อนทำให้เขารู้สึกผิดอีกแล้ว หล่อนทำได้อย่างไร!
ขณะที่เดลลอร์ฟ กำลังสับสนกับความคิดและความรู้สึกของตัวเอง น้องพายแสนดีก็ก้มหน้าก้มตาสะอื้นฮักๆ จนชายหนุ่มทนไม่ไหวรั้งร่างของหล่อนมากอดปลอบ มือหนาลูบหลังหล่อนแผ่วเบาเพื่อส่งผ่านไออุ่นทดแทนคำขอโทษที่ควรเอ่ย
น้องพายคนดียกยิ้มที่มุมปาก เห็นทีวันนี้ต้องยั่วคนปากแข็งแต่ใจอ่อน ให้ยอมรับความจริงเสียหน่อยแล้ว เริ่มด้วยอะไรดี เริ่มด้วย จุมพิตอัคคี ดีไหม จุมพิตเร่าร้อนราวเปลวเพลิงจากเจ้าหญิงหิมะ ประหลาดดีแท้ แต่เชื่อเถอะ เดลลอร์ฟเขาต้องชอบมัน
เมรภัทรผละจากอ้อมกอด หล่อนเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาของน้องพาย ดวงตาเป็นประกายเต็มไปด้วยความรัก ริมฝีปากสีชมพูซีดจางเผยอน้อยๆ ราวกับรอคอยบางอย่างจากเขา
เดลลอร์ฟใช้สองมือประคองใบหน้าของหล่อนเอาไว้ ค่อยๆ โน้มริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของหล่อน
เมรภัทรครางฮือ หล่อนตวัดเรียวลิ้นรุกไล่ลิ้นสากของเขาอย่างหิวกระหาย เดลเริ่มได้ใจเมื่อหล่อนสนองตอบ เขาเกี่ยวเอวบางลงมานั่งบนตักของตัวเอง
คนทั้งสองกอดรัดกันบนเก้าอี้เพียงตัวเดียว เสื้อผ้าอาภรณ์ปลิวว่อน บ้างตกบนพื้น บ้างตกบนเก้าอี้ใกล้ๆ แม้แต่ชั้นในตัวจิ๋วของสาวเจ้าก็หล่นลงพอดิบพอดีบนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาของฝ่ายชายที่วางอยู่บนโต๊ะด้านหลัง
เดลลอร์ฟอุ้มเอาร่างเปล่าเปลือยของเมรภัทร ไปจัดการหล่อนต่อในห้องนอน เสียงครางอืออาดังสอดประสานกับเสียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่ง หมู่ดาวพร่างพราวกระพริบแสงแข่งกับแสงจันทร์เป็นประกายงดงาม ทว่ายังไม่อาจเทียบเทียมกับแสงไฟยามตกกระทบหยาดเหงื่อของเดลลอร์ฟ ขณะโรมรันบนเรือนกายขาวผ่องของเมรภัทร

สองชั่วโมงผ่านไป
เจ้าหญิงหิมะจ้องร่างเปล่าเปลือยของสามีทางพฤตินัยอยู่ข้างเตียง ครู่ต่อมาก็ย้ายสายตามายังแก้วน้ำแร่ที่วางอยู่ มันหมดเกลี้ยงตั้งแต่เปลวเพลิงแห่งราคะรอบสุดท้ายจบลง เขาคงกระดกมันทันทีที่เธอเดินเข้าห้องน้ำ
เมรภัทรเดินออกจากห้องนอนเพื่อตามหาชิ้นส่วนของความใคร่ มันตกเรี่ยราดอยู่บนพื้นบนโต๊ะ น่าสมเพชสิ้นดี ไม่เคยนึกเลยว่าต้องเอาร่างกายเข้าแลกเพียงเพราะนิสัยไม่ยอมใครของตัวเอง ถ้าบิดามารดารู้เข้า ท่านคงใจสลายที่ลูกสาวกระทำเรื่องน่าละอายอย่างนี้
หญิงสาวเดินเก็บเสื้อผ้าไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงโต๊ะที่เขานั่งอยู่เมื่อสองชั่วโมงก่อน มือเรียวหยิบชั้นในชิ้นล่างมาถือไว้ มันช่างหล่นพอเหมาะพอดีบนจอคอมพิวเตอร์แบบพกพาของเขา
เมรภัทรหัวเราะในลำคออย่างเจ้าเล่ห์ ตัวผู้ นี่หนอ พอเจอมารยาหญิงเข้าหน่อยก็อ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟ หลงลืมแม้กระทั่ง ปิดล็อก เครื่องมือสื่อสารของสำคัญของตัวเองให้เรียบร้อย
ริมฝีปากเผยยิ้มเหยียดหยัน ขณะปรายหางตาไปมองคนที่หลับสนิทบนเตียงกว้าง
‘เสร็จ! น้องพายตามระเบียบ’
ยานอนหลับที่เมรภัทรผสมในน้ำแร่ขวดนั้น คงออกฤทธิ์ถึงเช้า หล่อนนั่งลงบนเก้าอี้หวายแล้วค่อยๆ สำรวจ เอกสารของเจมส์ทาวเวอร์ ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของเดลลอร์ฟ
เมรภัทรจดจ่ออยู่หน้าไอแพดเป็นเวลาหลายชั่วโมง เมื่อได้ข้อมูลที่น่าเป็นประโยชน์ หล่อนก็ต่อสายถึงน้องชายเพื่อจัดการกับข้อมูลที่ว่า
นาฬิกาบนผนังตีบอกเวลาเกือบตีห้า เธอมองไปยังเตียงกว้างอีกหน ประตูที่เปิดเอาไว้ทำให้เห็นว่าเดลลอร์ฟยังไม่ตื่น แต่หากเขาตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาต้องควานหาคือเจ้าสิ่งนี้แน่นอน แล้วเธอจะทำอย่างไรดีล่ะ เขาต้องรู้แน่ว่ามีคนใช้เจ้าเครื่องนี่
เจ้าหญิงหิมะครุ่นคิดชั่วครู่ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นเสื้อผ้าของตัวเองและของชายหนุ่มที่กองอยู่บนพื้น เธอโยนไอแพดลงบนกองผ้า ก่อนเดินกลับเข้าไปในห้อง และกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซักอีกสองชุด เธอหอบเอาเสื้อผ้ากองใหญ่ที่มีเครื่องไอแพดซุกอยู่ข้างในเดินลงบันไดไปยังด้านหลังของบ้านพัก เมื่อถึงลานปูนโล่งกว้างที่มีไว้สำหรับซักตากเสื้อผ้า เมรภัทรก็จัดการโยนทั้งหมดในอ้อมแขนลงไปในกะละมังใบย่อม ก่อนจะโรยด้วยผงซักฟอกและเปิดน้ำจากก๊อกเติมลงไปจน ล้น กะละมัง
“แค่นี้ นายก็ไม่รู้ว่าใครทำอะไรกับของของนาย เดลลอร์ฟ”
เมรภัทรกระหยิ่มยิ้มย่องกับกะละมังซักผ้า แต่เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เดลลอร์ฟก็ออกตามหาของของเขา
“พาย เธอเห็น...” ยังไม่ทันให้เขาได้พูดอะไรต่อ เมรภัทรก็ชูบางอย่างให้เขาดู หล่อนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้เดลลอร์ฟหลงเชื่อ แต่เขาหัวเสียเกินกว่าจะหลงคารมที่หล่อนปั้นแต่ง
“ฉันขอโทษ ฉัน”
“ทำไมไม่ดูดีๆ ฮะ! รู้หรือเปล่าว่าข้อมูลในนี้มันสำคัญมากแค่ไหน!?” เดลลอร์ฟฉุนจัด ดีที่เลขายังมีข้อมูลสำรอง แต่คงต้องรออีกหลายวัน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์แถมยังต่อยาววันหยุดประจำสัปดาห์อีก
“ไม่รู้! ฉันไม่ได้เปิดดูนี่ จะได้รู้ว่ามีโครงการพันล้าน หมื่นล้านแทรกอยู่ ฉันแค่อยากเอาเสื้อผ้าไปทำความสะอาด เพราะไม่มีแม่บ้านทำให้ แล้วอีกอย่างคือฉันอยากทำ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น หล่อนคงเอ่ยได้เต็มปากเต็มคำว่าอยากทำให้สามี แต่สำหรับฉันคงพูดได้แค่คำว่า ฉันอยากทำให้ผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันนอนด้วยเมื่อคืน!”
เมรภัทรตอกกลับรัวเร็ว ครานี้เป็นเดลลอร์ฟที่นิ่งอึ้ง เมรภัทรฉวยโอกาสนั้นวิ่งเข้าไปหยิบกระเป๋าถือแล้วก้าวฉับๆ ลงเรือน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถยนต์คันหรูของใครบางคนแล่นเข้ามาจอด
“เดี๋ยว! เธอจะไปไหน!?” เดลรีบถามเมื่อหล่อนใช้อารมณ์เกินเหตุ
“ไปทำงาน อย่าห้ามฉัน เพราะมันเป็นงาน ไม่ต้องรอกินข้าวเพราะวันนี้ ฉันจะค้างกับเค้า”
เมรภัทรบอกเสียงตะคอก และเดลลอร์ฟก็ได้ยินเต็มสองหู เขาจะปล่อยให้หล่อนไปค้างอ้างแรมกับผู้ชายคนอื่นนอกบ้านได้ยังไง ไม่มีวัน!
“คิดจะไปได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?” เขาคุกคามทั้งคำพูดและสายตา แล้วสุดท้ายร่างสูงใหญ่ก็รวบร่างบางขึ้นพาดบ่า
“กรี๊ดดด!!! ปล่อยฉันนะ! นายจะบ้ารึเดลลอร์ฟ” เมรภัทรกระหน่ำทุบตีแผ่นหลังเขา ชายหนุ่มใช้เท้าข้างหนึ่งถีบประตูห้องนอนแล้วโยนหล่อนลงไปบนเตียงอย่างแรง
เดลลอร์ฟหันหลังรีบออกไปนอกห้อง เขาปิดประตูล็อกหล่อนไว้ ส่วนคนที่มาบีบแตรรอเดลลอร์ฟก็เดินลงไปบอกเขาว่าหล่อนจะติดต่อกลับไปทีหลัง
เสียงรถแล่นออกไปแล้ว แต่เมรภัทรก็ยังไม่หยุดส่งเสียง
“เดลลอร์ฟ ไอ้ผู้ชายบ้าอำนาจ ปล่อยฉันออกไปเดี่ยวนี้นะ!”
หล่อนใช้ทั้งมือทั้งเท้า เตะถีบประตูเท่าที่ทำได้กระทั่งหมดแรงจึงกลับมาล้มตัวลงนอนและตื่นอีกทีตอนใกล้ค่ำ เดลเข้ามาปลุกเธอหรอก ไม่งั้นเธอคงนอนต่อเพราะรู้สึกจะปวดหัวและปวดท้องด้วย
“ตื่นแล้วหรือ?” เมรภัทรไม่มองหน้าเขา
“ฉันปวดหัว” บอกอย่างพาลๆ แผนการยั่วให้หึงได้ผลเกินร้อย มันเกินตรงที่เขาโยนโครมเธอลงมาบนเตียงนี่ล่ะ
“เป็นอะไร? หรือฉันโยนเธอแรงไปเลย สมองกระเทือน” เขาว่า แต่กลับเดินไปเอายาในรถขึ้นมาให้
“พาย...ลุกมากินยาก่อน” เขาปลุกเพราะหล่อนยังนอนนิ่ง
“ฉันปวดหัว เหมือนจะปวดท้องด้วย” เธอบอกเขาเสียงแหบ เดลลอร์ฟจัดการเปิดผ้านวมที่คลุมร่างหล่อนออก เพื่อจะดูว่าหล่อนปวดท้องตรงไหน แต่สิ่งที่เขาเห็น เขาแทบพูดไม่ออก
“พาย! อย่าเพิ่งหลับ ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล”
เมรภัทรมุ่นคิ้ว เธอแค่ปวดท้องธรรมดา จะพาไปโรงพยาบาลทำไม แต่พอลุกขึ้นนั่งก็ได้รู้ว่าบางอย่างผิดปกติ มีเลือดสดๆ หยดซึมเป็นวงขนาดเท่าฝ่ามืออยู่ใต้ฟูกที่เธอนั่งทับ
“อย่า! อย่าขยับเดี๋ยวฉันจะอุ้มเธอเอง”
เมรภัทรสาบานว่าคราวนี้หล่อนไม่ได้หลอกเขา เขาเข้าใจไปเอง
“ไม่เอา ไม่ไป! จะทำไม?”
“ไม่ไปได้ยัง เธอ! เธอเลือดออก!” เขาเริ่มสีหน้าไม่ดี หน้าซีดยิ่งกว่าเธอเสียอีก
เมรภัทรอยากฆ่าตัวตาย เขาเข้าใจว่าเธอแท้งลูกแน่ๆ เอาไงดีล่ะ เห็นได้ชัดเลยว่าเขาพร้อมจะยัดเธอใส่รถพาไปโรงพยาบาลได้ตลอดเวลา
“ฉัน! เอ่อ...อ่า อีกแล้วเหรอเนี่ย! แปลกจังทำไมรอบเดือนฉันมาบ่อยอย่างนี้”
“พาย! นี่เธอยังคิดว่าเธอมีรอบเดือนรึ? ฟังฉันนะ! เมื่อสามชั่วโมงก่อน ฉันโยนเธอลงบนเตียงนี้ อาจเป็นตอนนั้นที่เด็กในท้องเธอกระทบกระเทือน เพราะฉะนั้น ฉันคิดว่าเธอควรไปโรงพยาบาล” เขายืนยัน
“ฉันไม่ไป เพราะฉันไม่ได้เป็นอะไร วันสองวันก็หาย เดือนนี้เป็นมาสองหนแล้ว”
เมรภัทรสุมเพลิงแห่งความห่วงใยให้ลุกโชนในใจของเดล
“หมายความว่ายังไง!? แสดงว่าเธอเคยเลือดออกอย่างนี้ อย่างนั้นหรือ?”
เดลลอร์ฟหวั่นใจ หล่อนไม่ยอมเชื่อว่าตัวเอง ตั้งท้อง
“ใช่! เดี๋ยวก็หาย ถ้านายอยากช่วยก็ช่วยไปไกลๆ อย่ามาอยู่ใกล้ฉันเพราะฉันเหม็นขี้หน้า”
“พาย! เธออาจจะแท้งก็ได้” เขาไม่ละความพยายาม
“ก็ดี! ท้องไม่มีพ่อนี่!”
เมรภัทรเอามือกุมท้องหล่อนลุกลงจากเตียงถลกผ้าปูเตียงเปื้อนรอบเดือนทิ้งไปโดยที่เดลลอร์ฟไม่สามารถทำอะไรได้หล่อนคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำพออาบน้ำเสร็จออกมา เดลลอร์ฟก็ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว เธอเดินหาเขารอบเรือนก็ไม่เจอ
“หายไปไหนนะ” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองฉวยผ้าขนหนูเดินไปนั่งข้างหน้าต่างเพื่อจะให้ลมธรรมชาติพัดเป่าเส้นผมของเธอ แต่สายตาของเธอกลับเจอบางอย่าง เขา....เขากำลัง ซักผ้าปูที่นอน!
“เดลลอร์ฟ! นั่นนายคิดว่าตัวเองทำอะไรฮะ! วางมันลงเดี๋ยวนี้!”
เมรภัทรจะไม่ห้ามเลย ถ้าผ้าปูเตียงผืนนั้นมันไม่ได้เปื้อนรอบเดือนเธอ
“โอโฮ! พาย! ส่งเสียงร้องด่าฉันได้ขนาดนี้ฉันเชื่อแล้วว่าเธอมันหัวแข็งและเด็กในท้องก็คงหัวแข็งตามไปด้วย ตอนเด็กคลอดฉันว่าเธอตัดสายสะดือเองก็ได้นะ” เขาประชด ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเลือดซึมออกมาขณะตั้งครรภ์คงได้วิ่งโร่ไปโรงพยาบาลแล้ว
“ไม่! ถ้าฉันท้อง ฉันจะให้พ่อของลูกฉันเป็นคนตัดให้ เพราะว่าปากเขาคมยิ่งกว่ามีดหมอเสียอีก!”
ชายหนุ่มอมยิ้มกับผ้าปูเตียงในกะละมัง เขาทึกทักไปว่าเมรภัทรกำลังประชดเขากลับ ถ้าอย่างนั้นเท่ากับหล่อนยอมรับใช่ไหมว่าหล่อนกำลังตั้งท้องลูกของเขาอยู่จริงๆ
เมรภัทรมองคนที่บิดผ้าขึ้นตากด้วยใจสั่นไหว มันเกิดความรู้สึกแปลกๆ เวลาที่เขาทำอะไรให้โดยที่เธอไม่ได้บอกและมันเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายเสมอ
สิบนาทีต่อมา
“หิวแล้วค่า คุณพ่อบ้าน” เจ้าหญิงหิมะล้อเลียน เธอตั้งใจเลียนแบบความน่ารักสดใสของแฟนน้องชาย (เท่าที่จำได้จากที่เขาเคยเล่าให้ฟัง) วันนี้เธอสวมเพียงเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น ผมที่เคยรวบจนตึงก็ปล่อยลงแล้วถักเปียคู่ลดอายุหน้าเธอได้หลายปีเชียว
“หิวก็หากินเองสิ ยัยแกละ นึกว่าตัวเองเป็นเด็กมัธยมรึไงฮะ” เขายอกย้อนแล้วดึงหางเปียเธอเล่น
เมรภัทรหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ เดินลงส้นตึงตังลงไปห้องครัว อุตส่าห์ลงทุนทำตัวเด็กอย่างที่เขาชอบ เขาไม่ชมไม่เป็นไรยังมาว่าอีก เจ็บใจนัก!
“ใครจะไปน่ารัก น่าเอ็นดูเหมือนน้องสาวนายล่ะ หล่อนสวย หล่อนสดใส แต่ฉันมันเย็นชา ไร้หัวใจใช่ไหม ฮึ่ม!”
เมรภัทรจับมีดมาหั่นผักฉับๆ มันน่าจะเรียกว่าสับเสียมากกว่า
“สับผักให้หมูกินหรือไง มันเละหมดแล้ว” เสียงที่ร้องมาจากด้านหลังทำให้เมรภัทรหลุดออกจากภวังค์ เธอก้มมองผักบุ้งบนเขียงก็เห็นว่ามันเละอย่างที่เขาว่าจริงๆ
‘เมรภัทรเอ๋ย มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมเธอไม่รู้ตัวเลย’
“เป็นอะไร?” เขาถามต่อเมื่อหล่อนยังเงียบ
เมรภัทรเอามือทาบบนหน้าท้อง ก่อนจะใช้แผนสอง
“ฉัน...ฉันคิดว่าตัวเองหิวมากผิดปกติ ฉันกำลังหิว และ...ฉันจะต้องหาอะไรกินเดี๋ยวนี้!”
เจ้าหญิงหิมะไม่พูดเปล่า หล่อนขอกุญแจรถจากเขาเพื่อจะได้ขับออกไปข้างนอก
ชายหนุ่มรู้สึกผิด หล่อนคงผิวมากเพราะไม่ได้อยากอาหารแค่คนเดียว ในท้องแบบบางของหล่อนนั้นมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องการอาหารเช่นกัน
“ฉันขับเอง ไปขึ้นรถเถอะ” เมรภัทรลอบยิ้มเมื่อแผนการได้ผล
‘นายอยากปากเสียทำไมเดล ฉันจะใช้ความรู้สึกอันอ่อนไหว เล่นงานหัวใจนายไปเรื่อยๆ คอยดู!’

เจ้าหญิงหิมะตื่นตาตื่นใจกับตลาดสดตรงหน้า เธอไม่เคยนึกรังเกียจกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามทางระบายน้ำ หรือวาจาภาษาพ่อขุนของบรรดาแม่ค้า เพราะว่ามัน...จริงใจ เกลียดก็บอกว่าเกลียด ไม่ชอบใจก็พาลใส่ ตบตีกัน นี่สิรสชาติของชีวิต ไม่ใช่อยู่บนหอน้ำแข็งเช่นเธอ ถึงแม้คนคนนั้นเธอจะเกลียดมากแค่ไหน แต่พอเจอหน้ากัน เธอก็ทำได้เพียงยิ้มให้เท่านั้น
เดลลอร์ฟยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นเมรภัทรยิ้มกว้างอวดฟันขาวสวย เขาจอดรถตรงลานจอด ซึ่งเบียดกับคันอื่นเกินไปเล็กน้อย แต่เขาคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะเขากะว่าจะรีบรับประทานอาหารให้เสร็จและซื้อของสดอีกเล็กน้อยแล้วรีบกลับทันที
“ชอบหรือพาย” เธอพยักหน้า ยิ้มทั้งตาทั้งปาก แล้วก้าวลงจากรถ ดีที่เธอตัวเล็กจึงลอดช่องว่างระหว่างตัวรถออกมาได้
“อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?”
เขาหยุดถามเมื่อเดินมาเจอร้านอาหารหลายร้านที่ตั้งอยู่เยื้องกับตลาดสด
เมรภัทรนิ่งคิด ถ้าตอนนี้น้องพายกำลังท้องหล่อนจะอยากรับประทานอะไรหนอ
“อะไรก็ได้ รีบไปเถอะ หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว” หล่อนขอตอบแบบกลางๆ แล้วกัน
เดลลอร์ฟคลี่ยิ้ม เขาถูกเจ้าหญิงหิมะลากขึ้นไปบนร้านอาหารร้านแรกที่ตั้งอยู่บริเวณนั้น ทั้งสองสั่งอาหารประหนึ่งว่าจะมีคนมาเพิ่ม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็หมดเกลี้ยงในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
“นี่เป็นอีกครั้งที่ฉันกินเหมือนกับชูชกซึ่งมันแปลกมากๆ ปกติฉันกินข้าวนิดเดียว” เมรภัทรออกตัว
“อืม...บางทีอาจมีคนช่วยเธอกินกระมัง” เดลเย้าสาวเจ้า เขาจะทำอย่างไรหล่อนถึงจะยอมรับออกมาตรงๆ ว่ากำลังตั้งครรภ์
“งั้นคงเป็นพยาธิงูเหลือมแล้วล่ะ คิกๆ” เมรภัทรหัวเราะชอบใจ คราวนี้เธอมิได้เสแสร้งแกล้งทำ อาจเป็นเพราะอาหารอร่อยถูกปากเลยพลอยทำให้เธออารมณ์ดีไปด้วย
ขณะที่ทั้งสองสนทนากันเพื่อคั่นเวลาขนมหวานที่สั่งไว้ก็มาเสิร์ฟ สองถ้วยนี้เขาเป็นคนสั่งเพราะว่าอยากพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของตัวเองด้วย
“บัวลอยครับ แล้วก็สละลอยแก้ว” ชายหนุ่มมองขนมหวานสองถ้วยที่พนักงานนำมาเสิร์ฟ เมรภัทรนั่งมองมันตาปริบๆ ทำใจกับบัวลอยไข่หวานตรงหน้าตัวเอง
“เป็นอะไรรึเปล่า” เขาถาม
“คือ...ฉันไม่เอาบัวลอยนะ มันเลี่ยน เปลี่ยนกันได้ไหม ฉันอยากกินสละลอยแก้ว” หล่อนพูดแล้วยิ้มทั้งตาทั้งปาก ยื่นมือรับเอาถ้วยขนมหวานที่เขาส่งให้
“อร่อยไหม” เธอพยักหน้า ดีกว่าบัวลอยถ้วยนั้นแน่นอน กินเข้าไปเอวคงหนาขึ้นมาเป็นนิ้วๆ
“พาย...”
“หือ”
“คิดว่าตัวเอง ท้อง บ้างหรือปล่า” หล่อนทำท่าสะดุ้งเล็กน้อยให้สมบทบาท ก่อนจะตีหน้าเศร้าแล้วทำเป็นอิ่มขนมหวานขึ้นมาดื้อๆ ทั้งที่อยากรับประทานต่อ
“ทำไมนายถึงถามล่ะ ฉันจะท้องหรือไม่ท้องนายก็ไม่เกี่ยวอยู่แล้ว หน้าที่นายคือมาทำร้ายฉันทั้งร่างกายและจิตใจ ค่าตอบแทนที่นายได้คือการแต่งงานกับผู้หญิงที่นายรัก ส่วนฉัน ถ้าท้องจริงๆ ก็ได้อับอายขายขี้หน้า” เธอจงใจประชดประชันด้วยถ้อยคำที่ฟังแล้วเหมือนด่าเขาอยู่เป็นนัย
“ฉันบอกแล้วว่าฉันแต่งงานกับเธอได้นะพายเพื่อรับผิดชอบลูก ฉันไม่อยากเห็นแกเป็นเด็กกำพร้า”
เขาเปรยเสียงเศร้า เขาไม่อยากแต่งงานกับเมรภัทร เขาแค่อยากรับผิดชอบหล่อนเท่านั้น
“ถ้านายบอกว่ารักฉัน ฉันจะแต่ง แม้ว่าฉันรู้ว่าฉันต้องเจอกับอะไรบ้างหลังแต่งกับนาย แต่ฉันพร้อมจะสู้เพื่อครอบครัวของเรา” เมรภัทรพูดเพียงเท่านั้น แต่เขานั่งเงียบเธอเลยขอไปเข้าห้องน้ำ ห้าทีต่อมาก็เสร็จธุระ ทว่าระหว่างทางเธอเจอเข้ากับลูกค้าหนุ่มที่มาใช้บริการที่ทิพย์ธารา ทั้งสองจึงหยุดยืนคุยกันเป็นนาน จนเดลลอร์ฟตามมาเจอและมันทำให้เขาไม่พอใจอย่างยิ่งยวด
“พาย! จะกลับหรือยัง เร็วเข้า เราต้องไปซื้อของเข้าบ้านด้วยนะ!” เขาร้องสั่งกลายๆ บุรุษที่ยืนอยู่กับหล่อนมีสีหน้าลำบากใจ แต่ช่างหัวมันสิ มัวยืนคุยกันอยู่ได้ไม่รู้หรือไงว่าคนนั่งรอมัน....ขัดใจ!
“จ้า! จ้า!” เมรภัทรรับมุกอย่างไว นาทีนี้ถ้าเธอไม่เอาใจพ่อเดลขาของน้องพาย มีหวังพ่อขย้ำน้องพายจนป่นปี้คามือแน่ๆ
เมรภัทรรีบขอโทษขอโพยลูกค้าก่อนจะรีบวิ่งตามพ่อเดลออกนอกร้าน
“มาแล้วๆ จะรีบทำไมนักหนายังไม่ได้ซื้อของกินเลย” เมรภัทรบ่นอุบ ทำเป็นลืมว่าเขากำลังอยู่ในโหมดมึนตึง
“เดล...เดล เดล!”
“..................” ไม่ตอบ คนที่ถูกถามไม่ยอมตอบ เขาเดินเร็วๆ ไม่ยอมรอหล่อนกระทั่งมายืนสงบสติอารมณ์อยู่ข้างรถ
“เดล...นายโกรธฉันเรื่องอะไร?” เธอถามเขาอย่างหวาดๆ กระไอแห่งความเคืองขุ่นหมุนวนปนกับอากาศรอบๆ ร่างเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ เขาคง หึงน้องพาย เข้าแล้ว
‘หึๆ ชนะเลิศนะหนูพาย เอาให้พ่อเดลไปไหนไม่รอดหมอบอยู่แทบเท้าหล่อนให้ได้ จัดการซะ!’
เมรภัทรร้องสั่งน้องพายอยู่ในใจ แต่เธอไม่รู้จะทำไงดีในเมื่อการออดอ้อนทำแล้วไม่ได้ผล
ขณะนั้น ลูกค้าที่เมรภัทรรู้จักก็เดินออกจากร้านอาหารพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขา เธอก้มศีรษะให้เล็กน้อยกำลังจะอ้าปากสั่งลา แต่เธอไม่มีเสียงเล็ดลอดออกไปแม้แต่น้อย เพราะเจ้าของมือหนาคว้าบังคับเอาท้ายทอยเธอให้แหงนเงยแล้วบดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างบ้าคลั่งจนหายใจแทบไม่ทัน
“อื้อ...อ่อย!” เสียงอู้อี้ร้องบอกเขาเท่าที่ทำได้ สองมือทุบแผ่นอกหนาแต่เขาไม่สะเทือนเลยแม้แต่น้อย
เดลลอร์ฟใช้สองมือบังคับท้ายทอยและศีรษะหล่อนไม่ให้ขยับได้ เขากดจูบลงไปบนกลีบปากเย้ายวน...เนิ่นนาน หากไม่กลัวว่าจะขาดใจตายทั้งคู่แล้วล่ะก็ เขาคงจูบหล่อนต่ออีกแน่ๆ
ทั้งสองหอบหายใจแรง จ้องหน้ากันไม่ลดละ เดลลอร์ฟคาดว่าคงได้รับฝ่ามือเป็นรางวัล แต่เขาคิด ผิด! ผิดมากด้วย
“พอใจแล้วยัง? ถ้าพอใจแล้วก็รีบไปซื้อของเลย เร็วสิ! ชาวบ้านมองใหญ่แล้ว ฉันอายนะ!”
เมรภัทรหน้าแดง เธอกำลังอายจริงๆ ไม่ได้แกล้ง เธอคาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าประกาศความเป็นเจ้าของต่อหน้าคนที่เธอรู้จัก สงสัยว่าน้องพายคงจะเข้าไปอยู่ในใจของเขาบ้างแล้วล่ะ เสร็จน้องพายอีกแล้ว!



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 มี.ค. 2556, 08:42:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มี.ค. 2556, 08:42:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 1323





<< บทที่ 6โกยคะแนน (นางเอกจะแหลไปหน้ายยยย)   บทที่ 8 ทุ่มสุดตัว 50% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account