ลิขิตรักในสายลม # จุฬามณี
รัก หวานๆ ขม ของสาวไทยกับหนุ่มมาเลย์
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 24.

ตอนที่ 24

เปิดประตูให้วรรณรดาแล้ว ขวัญชีวีก็เดินกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม วรรณรดาเข้าห้องมาแล้วก็รู้ว่า ณิชกานต์นั้นกำลังอาบน้ำอยู่

“พี่ปุ้มคุยอะไรด้วย” เสียงถามของขวัญชีวีไม่ดังนัก

“พี่ปุ้มขอโทษที่รักดาไม่ได้ พี่ปุ้มเลือกคุณนิด”

“แล้วดาเป็นอย่างไรบ้าง”

“ถามใจดา ก็รู้สึกหน่วง ๆ เจ็บแปลบนิด ๆ แล้วความยินดีที่มันมากกว่าก็ทำให้ดารู้สึกเบา รู้สึกว่าพี่เขาแมนดี แมนจนอดเสียดายแทนขวัญไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่รักพี่ปุ้ม”

“บ้า”

“พี่รุตของดาก็เลยผิดหวังอีกแล้ว รักชอบใคร ก็ไม่มีใครชอบ ทำไมอาภัพรักนักก็
ไม่รู้”

“เนื้อคู่ยังไม่มามั้ง พอถึงเวลามันก็จะมาเอง”

“จะปลอบดาว่าของดาก็อย่างนั้นด้วยใช่ไหม”

ขวัญชีวีไม่ตอบ แต่ว่ายื่นโทรศัพท์มือถือในมือที่เชื่อมต่อโปรแกรมอินเตอร์ไวไฟของโรงแรมให้วรรณรดา...เมื่อคว้าโทรศัพท์มาแล้ววรรณรดาจึงได้เห็นว่า ปวุฒิโพสต์รูปของตนที่ถ่ายกับณิชกานต์หลายต่อหลายรูปขึ้น Instagram โดยมีข้อความว่า ‘พบรักแท้ที่มะละกา มาเลเซีย’ ซึ่งการโพสต์แบบนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการตบหน้าขวัญชีวีอย่างแรงเช่นกัน

“ทำไมพี่ปุ้มทำอย่างนี้ล่ะ”

“เดี๋ยวขวัญโพสต์บ้างดีกว่า ขวัญก็พบรักแท้ที่มาเลเซียเช่นกัน” บอกวรรณรดาแล้วขวัญชีวีก็หัวเราะเสียงขื่น ๆ หลังจากนั้นขวัญชีวีก็ได้รับข้อความซึ่งเป็นคำถามจากกนกอรว่า

‘ขวัญมันเกิดอะไรขึ้น’

‘ก็อย่างที่พี่อรเห็นแหละค่ะ พี่ปุ้มเจอรักแท้แล้ว ขวัญก็คือรักเทียม รักหลอก ๆ อย่างที่เรารู้ ๆ กัน’

‘มันจะเป็นข่าวใหญ่ที่เมืองไทยนะแบบนี้ นักข่าวคุ้ยกันสนุกแน่ ๆ อัยยะ นี่มีโทรเข้ามาแล้ว ฉันตาย แน่ ๆ ปุ้มหนอปุ้มทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี’

‘พี่อรก็บอกไปว่า ตอนนี้ขวัญกับปุ้มอยู่มาเลเซีย เดี๋ยวกลับไปจะให้ข่าวเอง’

‘เอาอย่างนั้นนะ’

‘หรือไม่ พี่อรก็ถามพี่ปุ้มดูว่า ทำไมเขาทำแบบนั้น เขาก็ออนไลน์อยู่เหมือนกัน’
ช่วงที่ขวัญชีวีพิมพ์ข้อความโต้เติบกับกนกอร วรรณรดาก็รื้อกระเป๋าเตรียมตัวอาบน้ำ และพอณิชกานต์สวมชุดกิโมโนสีน้ำเงินของตนที่เตรียมมาเองออกมาจากห้องน้ำ ณิชกานต์ก็เอ่ยปากถามวรรณรดาทันทีว่า

“พี่ปุ้มคุยอะไรกับคุณดาเหรอคะ”

วรรณรดาพยักหน้าให้ณิชกานต์ตามตัวเองออกไปที่ระเบียงเพราะไม่อยากให้ขวัญชีวีได้ยิน ณิชกานต์ที่ผมยังชื้นน้ำอยู่แต่มีผ้าขนหนูซับผมเดินตามไปหยุดอยู่ข้าง ๆ สองสาวมองเนินเขาเซนต์พอลตรงหน้า ถนนที่ขวักไขว่ไปด้วยสามล้อถีบและนักท่องเที่ยวเมื่อตอนเย็นเงียบเหงา สายลมเย็น ๆ พัดโลมเลียผิวกายของทั้ง
สองคน

“พี่ปุ้มขอโทษที่ไม่สามารถรักดาได้ค่ะ”

พอวรรณรดาบอกด้วยน้ำเสียงปกติใบหน้าเรียบเฉย ณิชกานต์ก็ขนลุกซู่ขึ้นมา

“พี่ปุ้มบอกว่าพี่ปุ้มรักคุณนิดค่ะ ต่อไปคุณนิดจะคือผู้หญิงคนพิเศษของพี่ปุ้ม” ว่าแล้ววรรณรดาก็ยื่นโทรศัพท์ในมือของตัวเองไปให้ณิชกานต์เปิดดูรูปที่ปวุฒิโพสต์


เมื่อปวุฒิโพสต์รูปนั้นแล้วคนที่เห็นรูปและรู้ข่าวอีกคนก็วิศรุต เขาส่งข้อความผ่านโปรแกรมไลน์มาถามในทันที

‘เกิดอะไรขึ้นหรือดาทำไมปุ้มทำอย่างนั้น’

‘พี่ปุ้มเขาตัดใจจากขวัญได้แล้วค่ะ แล้วเขาก็ไม่อยากให้ความหวังดา เขาชัดเจนแบบนี้ดาก็สบายใจค่ะ’

‘แน่ใจนะ’

‘แล้วจะให้ดาทำอย่างไรคะ เขาไม่รักเราแบบชู้สาวก็ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับเขา แค่นี้ดาก็มีความสุขแล้วค่ะ พี่รุตเถอะเป็นอย่างไรบ้าง’

‘พี่ยังไม่ได้ถลำใจอะไรนักหนานี่ ถ้าเอาตรง ๆ ก็แค่เสียความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกนิดเดียวเอง พี่มันไม่หล่อนี่ แล้วกับผู้หญิงบางคน เงินก็ไม่สามารถซื้อได้ด้วย’

‘ขวัญเขาบอกว่าเนื้อคู่ของพี่ยังไม่มา’

‘สงสัยจะจริง พอรู้สึกชอบใครก็ปิ๋วไปทั้งหมด’

‘ค่ะ’

‘อย่างไรดาก็ต้องเข้มแข็งนะ แล้วก็ต้องเปิดใจให้คนอื่นบ้าง’

‘ค่ะ’

‘โดยเฉพาะ พจน์ สุขมโนรมย์ วันนี้พี่เจอเขาที่งานเปิดตัวนาฬิกา พี่ว่าเขาโอเคอยู่นะ ดู ๆ ไปแล้ว พี่ก็ว่า เขาเหมาะสมกับดาอยู่นะ’ กลับมาถึงเมืองไทยแล้ววิศรุตก็รีบกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปงานที่ได้รับเชิญมาทันที และวันนี้เขานอกจากกับพจน์ สุขมโนรมย์แล้ว เขายังถูกป้าสะใภ้กล่อมให้ช่วยกล่อมวรรณรดาต่ออีกที
ทีแรกเขาก็แบ่งรับแบ่งสู้พยามบ่ายเบี่ยง แต่พอมามีเรื่องนี้เกิดขึ้น เขาก็จำต้องช่วยพูดด้วย รู้แล้วว่ามันฝืนลิขิตไม่ได้ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นพรหมลิขิตก็ไม่ผิดอะไร เพราะพ่อแม่ก็คือพรหมของลูก และถ้าวรรณรดามีใครสักคนที่รักและต้องการในทันทีที่บอบช้ำ วรรณรดาก็จะไม่เจ็บปวดอย่างยาวนาน และพอได้เข้าไปสัมผัสกับพจน์ เขาก็รู้สึกได้ว่าพจน์นั้นปรารถนที่จะเกี่ยวดองกับลิ้มวรรักษ์โดยที่ไม่ได้ถูกฝืนใจ พจน์ชอบวรรณรดา ปรารถนาจะมาเป็นเป็นทองแผ่นเดียวกันกับลิ้มวรรักษ์อย่างแน่นอน

‘ดา ง่วงแล้วค่ะ ขอตัวนอนก่อนนะคะ กลับไปค่อยคุยกัน ฝันดีค่ะ’

กดออฟไลน์หนีการถูกไล่ต้อนแล้ว วรรณรดาก็วางโทรศัพท์ลงก่อนจะพลิกตัวไปหาณิชกานต์ที่นั่งพิมพ์ข้อความอยู่อีกเตียงโดยสีหน้านั้นมีความสุขเป็นอย่างมาก เพียงแค่นั้นวรรรณรดาก็พอเดาออกว่า ตอนนี้ ณิชกานต์กำลังใช้เครื่องมือสื่อสารนี้คุยอยู่กับใคร



‘ทำอะไรไม่ปรึกษาหารือกันเลยนะคะ แล้วนี่นิดจะตอบคำถามของสื่ออย่างไรละเนี่ย เมื่อกี้พี่บุษยาก็ข้อความมาถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น’ เมื่อขวัญชีวีกระโดดขึ้นเตียงนอนเตียงเดียวกับวรรณรดาไฟฟ้ากลางห้องก็ถูกปิดเหลือเพียงไฟแรงเทียนต่ำที่หัวเตียงของณิชกานต์ และเมื่อเห็นว่าปวุฒินั้นออนไลน์อยู่ณิชกานต์จึงต้องชวนเขาคุย เพราะเขาทำเรื่องสำคัญนี้โดยไม่ได้ปรึกษาเธอก่อน จะว่ามันเป็นเซอร์ไพรส์ก็ใช่ แต่ณิชกานต์ก็รู้ดีว่าผลที่ตามมาเมื่อกลับไปถึงเมืองไทยจะมีอะไรบ้าง

‘นิดไม่ดีใจหรือครับ’

‘ดีใจมากค่ะ...แต่นิดสงสารคุณดา’

‘พี่คุยกับคุณดาเรียบร้อยแล้ว คุณดาเธอเข้าใจดี’

‘คุณดาเป็นคนดีมากนะคะ’

‘เพราะคุณดาเป็นคนดีไง พี่ถึงต้องเปิดอกคุยกับคุณดาซะให้รู้แล้วรู้รอดไป ไม่ต้องอมพะนำความรู้สึกกันไว้ แล้วต่อไปเราก็จะยังเหลือเพื่อนนะ เพื่อนที่ดี’
ณิชกานต์รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาเมื่อปวุฒิ ใช้คำว่า ‘เรา’ ซึ่งต่อไป เธอจะมีเขาเป็นเพื่อนคู่คิด

‘พรุ่งนี้เราจะแยกคนอื่นเที่ยวนะ เราจะไปเดินเที่ยวกันสองคน’

‘ทิ้งให้คุณดาเป็นภาระของขวัญกับคุณมาร์คเขาอีก’

‘แต่คุณดาก็คงไม่อยากไปเป็นกว้างขวางความสุขเราหรอกนะ’

‘ทำตัวเหมือนเดิมไปก่อนดีกว่าไหมคะ อย่าเพิ่ง...’

‘อย่าเพิ่งอะไร’

‘ก็ยังเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม เหมือนเมื่อวาน คุณดาจะได้ไม่ลำบากใจ กลับเมืองไทยแล้ว เราก็ค่อยมีแต่เราเท่านั้น’

‘ไม่เอา พรุ่งนี้พี่มีอะไรจะเซอร์ไพรส์นิดอีก พี่ไม่อยากให้คุณดาอยู่ด้วย’

‘อะไรเหรอคะ’

‘มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้’

‘พี่ปุ้มอ่ะ’

‘ดึกแล้วนอนเถอะนะ’

‘ขอบคุณนะคะ’

‘ขอบคุณทำไม’

‘ขอบคุณที่เลือกนิด’

‘นิดเองก็เลือกพี่ไม่ใช่เหรอ คุณรุตรวยขนาดนั้นนิดไม่สนใจ พี่ต้องขอบคุณนิดเหมือนกัน’

ปวุฒิขอตัวนอนไปแล้ว แต่ณิชกานต์ยังดูรูปที่ปวุฒิโพสต์พร้อมข้อความพลางยิ้มกับความสุขที่คาดไม่ถึงของตัวเอง และเมื่อวางโทรศัพท์ลงณิชกานต์ก็เลื่อนตัวนอนตะแคงไปเห็นว่าวรรณรดานั้นยังคงนอนพลิกตัวไปมา



ขณะที่กำลังนั่งอ่านข้อมูลพม่าในอินเทอร์เน็ตเพียงออก็ได้รับข้อความจากวุฒินารทที่เพิ่งปิดร้านกลับมาคอนโดและเมื่อเห็นว่าเพียงออออนไลน์อยู่เข้าจึงถามไถ่เรื่องที่กำลังเป็นที่ฮือฮา

‘เห็นรูปที่ปุ้มมันโพสต์ในอินสตาแกรมหรือยัง’

‘เห็นแล้วค่ะ’

‘แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง’

‘ก็ดีค่ะ สำหรับออ พี่ปุ้มรักใครออก็รักด้วย’ เพียงออตอบไปแบบกำปั้นทุบดิน ส่งผลให้ทางวุฒินารทปล่อยให้หน้าจอค้างอยู่นานสองนาน และพักใหญ่ ๆ วุฒินารทก็พิมพ์ข้อความกลับมาว่า

‘พรุ่งนี้ไปไหน’

‘เรียนค่ะ มีติวตอนบ่าย ๆ’

‘เสร็จแล้วมาร้านซิ พรุ่งนี้พี่อยู่ร้าน’

‘มีอะไรน่าสนใจ’

‘คิดถึง’

คิดถึง คำเดียว สั้น ๆ ทำให้เพียงออต้องชะงักปลายนิ้วที่จะพิมพ์โต้ตอบ ครุ่นคิดว่าที่วุฒินารทบอกมาอย่างนั้นแท้จริงแล้วในใจของเขาเป็นอย่างไร และเพียงออก็ถามใจตัวเองเช่นกันว่ารู้สึกอย่างไรกับคำว่า ‘คิดถึง’ ของเขาซึ่งช่วงหลัง ๆ มานี้เพียงออรู้สึกว่า เขาใช้บ่อยขึ้น

และเพียงออรู้สึกได้ว่าเธอหวั่นไหว รู้สึกคำว่าคิดถึงนั้นมันทำให้อบอุ่นหัวใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับวุฒินารทนั้นเป็นเหมือนพี่เหมือนน้องกันมานาน หากจะเผยไต๋ออกไปว่าใจของเธอหวาบหวามไปกับความห่วงใยที่เขามีให้ มันก็จะทำให้ความสัมพันธ์ก่อนนั้นมีปัญหา

‘เงียบอีกแล้ว’

‘แล้วจะให้ออบอกอะไรอ่ะ’

‘ออคิดถึงพี่บ้างหรือเปล่าล่ะ’

‘…………’ เพียงออพิมพ์จุดไข่ปลาลงไปเพื่อให้เขาเติมคำตอบเอง แต่ในใจของเพียงออนั้นหญิงสาวรู้ดีว่า บางภวังค์ที่เผลอไผล เธอก็คิดถึงเขาอยู่เหมือนกัน และเพียงออก็ต้องรีบหันไปหาโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะเมื่อมีเสียงเรียกเข้า ชะโงกหน้าไปมองแล้ว เพียงออก็ขมวดคิ้ว แปลกใจว่าออนไลน์คุยกันแล้วยังจะต้องโทรมาอีกทำไม เพียงออปล่อยให้โทรศัพท์ดังอยู่อึดใจใหญ่ กระทั่งมั่งใจว่าเขามีเรื่องอยากคุยด้วยแน่จึงกดรับสาย

“มีอะไรหรือคะ”

“รับสายช้าจังเลย”

“ไปห้องน้ำมา”

“ไปทำอะไร”

“ถามได้ แล้วจะโทรมาทำไม พิมพ์ข้อความคุยกันก็ได้นี่”

“อยากได้ยินเสียงน้องออ”

“ทำอย่างกับไม่เคยได้ยิน” เมื่อไม่สามารถหลบเลี่ยงได้เพียงออจึงต้องเล่นบนกวนอารมณ์กลับไป

“ทำอะไรอยู่”

“อ่านหนังสือ หาข้อมูล อยู่บ้าน อยู่ในห้อง” เพียงออทำเสียงเหมือนกับว่า การที่เขาโทรมานั้นเป็นการรบกวนกัน แต่คำพูดที่สวนกลับมานั้นทำให้เพียงออแทบจะทิ้งโทรศัพท์ลงแต่ว่าหญิงสาวกำไว้จนแน่นพลางเม้มปาก

“ออ พี่รู้สึกแปลก ๆ กับออ...คือ เอ่อ ถ้าพี่บอกว่าพี่ชอบออ แบบ แบบไม่ใช่พี่น้องกันออจะโกรธพี่ไหม”

“พี่นารท”

“จะบอกว่าพี่รักออก็ได้นะ”

“พี่เมาหรือเปล่าเนี่ย”

“ไม่ได้เมา พี่ไม่ได้กินเหล้า ออรังเกียจพี่ไหม”

“ออเป็นน้องพี่ปุ้มนะคะ”

“เป็นน้องไอ้ปุ้มแล้วไง”

“ก็ พี่นารทเป็นเพื่อนพี่ปุ้ม”

“อันที่จริงพี่น่าจะบอกกับออต่อหน้านะไม่น่ารีบโทรมาบอกเลย”

“พี่นารท”

“พี่รักออนะครับ รัก หวง ห่วงใย บอกไม่ถูก แค่นี้นะ” แล้ววุฒินารทก็กดวางสายไป เพียงออวางโทรศัพท์ลงด้วยใบหน้าแดงระเรื่อแล้วก็สบถเบา ๆ ว่า “อีตาบ๊อง อีตาบ้า บอกรักผู้หญิงนี่ใครเขาทำกันอย่างนี้”


เสียงออดทำให้เพียงออต้องสะดุ้งตื่นและหญิงสาวก็รีบเปิดประตูห้องนอนเดินออกไปแง้มม่านตรงระเบียงดูว่าใครมากดออดและเมื่อเห็นว่าเป็นวุฒินารทที่อยู่ในชุดกางเกงยีนเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินลายขาวสวมแว่นตาสีดำในอ้อมกอดมีดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ยืนอยู่หน้าบ้านเพียงออก็รีบกระตุกม่านปิดลง...

“อีตาบ้าเอ้ย มาไม่บอกไม่กล่าว” เพียงสบถเบา ๆ ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดี
เสียงออดยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เพียงออจึงวิ่งลงมาข้างล่าง เดินไปคว้ากุญแจบนโต๊ะอาหาร เปิดประตูบ้านเดินออกไปสี่ห้าเก้าแล้วก็โยนกุญแจรั้วบ้านให้วุฒินารทเพราะไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธอที่อยู่ในชุดกางขาสั้นเสื้อยืดสีขาวตัวเก่าซีดยังไม่ได้อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน

“เปิดบ้านเข้ามาเลย ออขอตัวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” บอกวุฒินารทแล้วเพียงออก็รีบวิ่งเข้าบ้านเดินขึ้นชั้นบน วุฒินารทเปิดประตูรั้วและไม่ได้เอารถเข้าไปจอดที่ลานบ้าน แต่เขาก็เปิดประตูรถคว้าปิ่นโตที่เตรียมมาให้เพียงออออกมาด้วย

เพียงออหายขึ้นไปข้างบนนานเกือบครึ่งชั่วโมง พอเดินลงมาในชุดกางเกงยีนเสื้อยือคอโปโลสีชมพูอ่อนพร้อมกับกระเป๋าใส่หนังสือเรียน เพียงออก็พบว่าบนโต๊ะอาหารนั้นมีอาหารจัดใส่จานรออยู่พร้อม ส่วนคนจัดอาหารไว้ให้ก็ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ข้างรั้วบ้าน เพียงออยืนมองวุฒินารทอยู่อึดใจ แล้วเขาก็หันกลับมายิ้มให้ ก่อนจะเดินไปปิดก็อกน้ำเช็ดมือกับกางเกงแล้วเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับช่อกุหลาบสีแดงที่วางไว้บนเก้าอี้ข้างบ้าน

“ดอกไม้...”

เพียงออไม่กล้าจะถามว่าให้เนื่องในโอกาสอะไร ไม่กล้าขยับตัวทำอะไรทั้งสิ้น กุหลาบช่อนั้นและสายตากรุ้มกริ่มของวุฒินารททำให้เพียงออรู้สึกตัวชาขึ้นมา กระทั่งวุฒินารทเดินเข้ามาประชิดและยื่นกุหลาบให้ เพียงออจึงได้รู้สึกตัว

“พี่ให้ออครับ เนื่องในวันที่พี่มาบอกรักออด้วยตัวของพี่เอง”

“พี่นารทออยัง..” เพียงออขยับปากจะปฏิเสธแต่วุฒินารทพูดแทรกขึ้นว่า

“น่า ไม่ต้องเกรงใจรับไว้เถอะ ความรักเป็นสิ่งที่ดีออก็รู้”

เพียงออมีสีหน้าปริวิตกอย่างเห็นได้ชัด และด้วยยังไม่อยากผูกมัดกับเขา ซึ่งถือว่าเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์หน้าตาดีมีคนรู้จักทั่วบ้านทั่วเมืองเพียงออจึงต้องพูดเอาตัวรอดและให้ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องนั้นยังคงอยู่

“ออยังเด็ก ออยังเรียนไม่จบ ออยังไม่มีงานทำ ยังไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรเลย ยังต้องพึ่งพี่ปุ้ม ออคิดว่า”

“พี่โตแล้ว พี่เรียนจบแล้ว พี่ทำงานแล้วและพี่ก็พร้อมจะดูแลออตลอดไป” ดวงตากรุ้มกริ่มของวุฒินารททำให้เลือดสาวของเพียงออวิ่งพล่านไปทั่วร่างกาย และด้วยไม่อยากเขาเห็นว่าตนนั้นเขินกับคำพูดตรง ๆ ของเขา เพียงออจึงถือกุหลาบช่อใหญ่เดินไปที่โต๊ะอาหาร วางลงแล้วทรุดตัวลงนั่ง วุฒินารทตามมานั่งที่เก้าอี้ตัวตรงกันข้าม ยิ้มจาง ๆ อย่างมั่นใจว่าความรู้สึกดี ๆ ที่บอกกับหญิงสาวไปแล้วจะไม่เป็นหมันแน่ ๆ

“ออหิวหรือยัง”

“หิวแล้ว”

“งั้นก็กินข้าวซิ มีแต่ของชอบของออทั้งนั้นเลยนะ” ของชอบของเพียงออ คือแกงเขียวหวาน ทอดมันปลากราย บะช่อตำลึง และบัวลอยไข่หวาน ซึ่งตอนนี้ถูกจัดไว้ในถ้วยจานเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ตักข้าวสวยจากปิ่นโตมาใส่จานเท่านั้น

“หรือออจะกินข้าวร้อน ๆ พี่จะได้เอาไปอุ่นให้”

“พี่นารทเป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย”

“ขอให้ออชอบ พี่ก็เต็มใจจะทำ” สายตาของเขายังคงจ้องอยู่ที่ใบหน้าแดงระเรื่อ

“แต่ออ เอ่อ ออ” เพียงออพยายามครุ่นคิดหาทางบ่ายเบี่ยง แต่วุฒินารทก็รีบรวบรัด

“ตกลงเราเป็นแฟนกันนะ”

“เอาอย่างนั้นเหรอ คือออยังไม่พร้อม ออ”

“ออไม่ได้รักพี่อย่างนั้นซิ...”

เพียงออนิ่งอึ้ง เพราะความจริงย่อมรู้อยู่แก่ใจ ว่าใจของตัวเองก็มีเขาอยู่ไม่น้อย

“งั้นเราก็เป็นแฟนกันนะ เดี๋ยวไอ้พี่ปุ้มกลับมา พี่จะบอกกับมันว่า พี่ขอเป็นน้องเขยมัน กลับไปบ้านพี่ก็จะบอกกับพ่อแม่ของออว่าต่อไปพี่จะดูแลออแทนไอ้ปุ้ม”

“แต่ออ”

“แต่อะไร”

“ออกลัวทำตัวไม่ถูก ออไม่เคยมีแฟน ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ออ คิดว่าเราอย่าเพิ่ง..”

“ก็ไม่เห็นจะต้องทำอะไรเลย ก็ทำตัวตามปกติ เคยอย่างไรก็เคยอย่างนั้น เพียงแต่ต่อไปจะทำอะไรก็ให้คิดเสมอว่ามีพี่อีกคนเป็นห่วง คิดถึงแค่นั้นเอง ไม่ได้ยากอะไรเลย”

เพียงออสบตาของวุฒินารทซึ่งเธอรู้ว่าเขาพูดมาจากใจจริง และเพียงออก็ต้องยอมรับ

“ค่ะ”

“ดีมาก”

“ออหิวแล้ว” เพียงออรีบแก้เขิน

พอเพียงออบอกแค่นั้นวุฒินารทก็รีบคว้าปิ่นโตข้าวมาตักข้าวใส่จานให้เพียงออ

“พี่นารทไม่กินด้วยกันเหรอ”

“กินซิ ไม่กินได้ไง หิวจะแย่แล้ว”

“แล้วทำไมไม่ตักข้าวใส่จาน”

“ออตักให้พี่บ้างซิ เมื่อกี้พี่ตักให้ออแล้ว”

เพียงออทำหน้าปั้นยุ่งยากให้เขาเห็น วุฒินารทหัวเราะก่อนจะดึงปิ่นมาตักข้าวใส่จานตรงหน้าตัวเอง และเมื่อเคี้ยวข้าวไปได้สองคำ วุฒินารทก็เอ่ยขึ้นว่า

“ที่พี่ต้องรีบขอออเป็นแฟนก็เพราะว่า ไอ้ปุ้มมันเซอร์ไพรส์คนทั้งประเทศได้ พี่ก็จะเซอร์ไพรส์มันมั่ง มันจะได้รู้ว่าความรู้สึกเหมือนโดนตบหัวน่ะเป็นอย่างไร”



ระหว่างที่นั่งรอเจ้าหน้าที่สายการบินเรียกขึ้นเครื่อง ปวุฒิที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ณิชกานต์ก็เอนตัวอิงไหล่ของหญิงสาวและณิชกานต์เองก็ไม่ได้ถดตัวหนี เพราะว่า เมื่อวานตอนเช้าหลังมื้ออาหาร เขาก็ชวนเธอขึ้นไปยังซากโบสถ์เซนต์ปอลที่ตั้งอยู่บนภูเขา โดยสามารถเดินขึ้นจากตรงพิพิธภัณฑ์เยื้อง ๆ กับโรงแรม ระหว่างป่ายปีนบันไดสูงชันขึ้นไปนั้นเขาจับจูงมือและช่วยดึงณิชกานต์ที่เหนื่อยหอบไปจนถึงจุดหมาย และเมื่อนั่งพักหายเหนื่อยพลางชมเมืองมะละกาในมุมสูงแล้ว เขาก็บอกกับณิชกานต์ว่า

“ลุกเข้าไปดูในโบถส์ดีกว่า”

พอณิชกานต์ลุกขึ้น เขากลับทรุดตัวลงนั่งคลุกเข่าพลางจับมือของณิชกานต์ไว้

“พี่ปุ้ม” ณิชกานต์ร้องเสียงหลงเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำท่าเหมือนจะขอแต่งงาน หญิงสาวจะทรุดลงนั่งกับเก้าอี้ตามเดิมแต่ว่าเขากลับบอกว่า

“แต่งงานกับพี่นิด”

“พี่ปุ้ม...” ตอนนั้นณิชกานต์ยังอุทานด้วยความประหลาดใจเช่นเดิม เธอไม่คิดว่า ความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมีให้เขา มันจะลงเอยด้วยการแต่งงานอย่างไม่มีลางบอกเหตุมาก่อนแบบนี้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังเขา ณิชกานต์ก็ถึงกับหันซ้ายหันขวาเพื่อมองดูว่ามันมีการเตี๊ยมกับตากล้องรายการอะไรสักรายการเพื่อหลอกให้เธอตกหลุมพรางหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นว่ามีเพียงนักท่องเที่ยวเจ้าของประเทศกับฝรั่ง นิชกานต์ก็ยิ้มดีใจกระทั่งน้ำตาไหลออกมา เมื่อปวุฒิพูดว่า “พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะพี่พูดจริง ๆ พี่ขอนิดแต่งงานจริง ๆ”

“คือมันไม่เร็วไปหรือคะ แค่พี่เลือกนิดนิดก็ยังรู้สึกว่ามันเร็วไปแล้วนะคะ”

“ไม่เร็วหรอก”

“ทำไม”

“เพียงแค่ใจเรารักกันก็พอแล้ว”

“น่าจะใช้เวลาศึกษานิสัยใจคอกันอีกสักปีสองปีนะคะ”

“ไม่แล้ว พี่ไม่อยากเสียเวลา พี่อยากมีครอบครัว พี่ไม่อยากเหงาอีกแล้ว นะครับ แต่งงานกับพี่นะครับ นิดก็รักพี่ไม่ใช่เหรอ”

“รักค่ะ”

“รักก็อย่าปฏิเสธพี่เลยนะ กลับไปเมืองไทยพี่จะให้พ่อแม่ไปสู่ขอนิดกับพ่อแม่ของนิดอย่างเป็นทางการ พี่จะแถลงข่าวด้วย”

“พี่ไม่ได้ทำเพื่อประชดใครใช่ไหม”

“ไม่หรอก...พี่ไม่ได้ประชดขวัญแน่ ๆ เพียงแต่พี่คิดว่า พี่ไม่อยากเสียคนดี ๆ แบบนิดให้คนอื่น”

“ใครละคะ”

“ไม่รู้ซิ มีคนมาชอบนิดอยู่ไม่น้อยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” ปวุฒิเลี่ยงจะเอ่ยถึงวิศรุต

“ก็มีบ้างค่ะ”

“แต่งงานกับพี่นะครับ พี่สัญญาว่าจะมีนิดเพียงคนเดียว สัญญาว่าจะปกป้องคุ้มครอง ดูแลทำให้นิดมีความสุขกายสุขใจให้มากที่สุด”

น้ำตาของณิชกานต์ทะลักออกมาอย่างพรั่งพรู นักท่องเที่ยวที่เห็นฉากหวาน ๆ โดยไม่ได้ตากล้อง มีบท มีผู้กำกับ เริ่มหันเลนส์กล้องมาบันทึกภาพหวานชื่นในครั้งนี้ไว้ และณิชกานต์ก็ทรุดตัวลงนั่งโผเข้ากอดปวุฒิแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นโดยหญิงสาวตกลงใจว่า จะแต่งงานกับเขา อย่างที่เขาต้องการ...

และเมื่อลงมาจากเนินเขา เมื่อพบหลินฮันหมิง ขวัญชีวี และวรรณรดาที่เดินมาจากพิพิธภัณฑ์โดยมีจุดมุ่งหมายว่าจะไปขึ้นหอคอยมะละกา ปวุฒิก็ได้บอกข่าวดีนี้ให้ทุกคนได้รับทราบ...และมื้อเที่ยงของเมื่อวานเขาก็ขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงฉลองให้กับความรักที่ผลิบานในประเทศมาเลเซีย

(สำหรับเรื่องนี้มีทั้งหมด 26 ตอน ทั้งตอนพิเศษ...แต่ผมจะลงแค่ 25 ตอนนะครับ ตอนพิเศษ หาอ่านได้จากหนังสือครับ...คงไม่ว่ากันนะครับ ซึ่งตอนนี้วางแผงแล้ว ราคา เล่มละ 240 บาทครับ...สำหรับท่านที่เป็นเจ้าของแล้ว ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ)....



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 มี.ค. 2556, 12:15:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มี.ค. 2556, 12:15:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 1871





<< 23.   25. ตอนจบ >>
nateetip 28 มี.ค. 2556, 15:40:07 น.
ดีใจ..^.^


คิมหันตุ์ 28 มี.ค. 2556, 23:53:48 น.
โห..........พี่ปุ้ม ปุ๊บปั๊บจริงๆ


Zephyr 8 เม.ย. 2556, 01:05:18 น.
อะไรอ่ะ ปุ้ม


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account