วังวนรัก

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ๕ แบล็คเมล์

การเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ครั้งแรกของลลินภัทร ประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจกับมันกันแน่ เมื่อเครื่องร่อนลงจอดบังลานกว้าง มีโรงเก็บเครื่องบินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ก่อนเขาจะพาเธอมายังรถจากัวร์สีเงินที่จอดอยู่ในบริเวณนั้น และขับออกไปตามถนนจากปริมณฑลเข้าสู่เขตตัวเมือง

ตกเป็นเบี้ยล่างของพวกศัตรูตั้งเกือบสี่วัน ความเจ็บแค้นจากการถูกบีบบังคับขู่เข็นยังคงคุกกรุ่นอยู่ในใจ จะต้องเอาคืนให้สาสมกับที่พวกมันทำกับเธอไว้

หญิงสาวพยามมองหาทำเลที่เหมาะสม เมื่อรถขับมาไกลและเธอมั่นใจว่าตนเองจะปลอดภัยจากการคุกคามด้วยอำนาจป่าเถื่อนแล้วแน่ๆ และเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากจุดใกล้กับที่ทำการของเจ้าหน้าที่รักษาสันติราช

“จอดรถเดี๋ยวนี้” ตวัดบอกพฤหัส ที่ทำหน้าที่สารถีจำเป็นอยู่ในเวลานี้

“อะไรของเธอยังไม่ถึงบ้านไม่ใช่หรือ ปล่อยเธอลงแถวเดี๋ยวครอบครัวเธอจะมาหาว่าฉันใจดำ” ชายหนุ่มกล่าวพลางหันมามองเธอ

“ไม่หรอก ฉันต้องทำธุระนิดหน่อย”

“ตรงนี้น่ะหรือ ธุระอะไร กับใคร เหอะ... อย่าบอกนะว่าเป็นไอ้สถานีตำรวจนี่”

“ทำไมละ ฉันมีธุระกับตำรวจมันผิดแปลกไหน”

“ก็แปลกตรง ถ้าเธอเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปฟ้องคนอื่น จะไม่มีใครยอมเชื่อน่ะสิ แล้วไม่ให้ไม่เชื่ออย่างเดียวนะ เขาหาว่าเธอเป็นพวกชอบเรียกร้องความสนใจ เกาะชื่อเสียงของฉันดัง”

“ไม่จริง อย่ามาขู่กันหน่อยเลย ที่นี่กรุงเทพไม่ใช่ไอ้เกาะนรกนั่น และฉันเป็นไทแล้ว เทวดาหน้าไหนไม่สิทธิ์มาใช้อำนาจบาตรใหญ่จิกหัวกันง่ายๆ จอดรถเสียฉันจะลง”

“ก็เอาสิ แล้วเราจะได้รู้กัน ว่าใครกันแน่ที่สังคมเชื่อ ฉันหรือเธอ” พฤหัสหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปลาดจอดสถานนี้ตำรวจ และดับเครื่องลงดิบดี

“ก่อนที่จะปีกกล้าขาแข็ง อริอาจทำตัวเป็นศัตรูกับฉันอีกรอบ ดูอะไรดีๆ เสียก่อนดีกว่าไหม เพื่อตาของฉันจะสว่างขึ้นมาบ้าง” พูดจบพลันเอื้อมมือไปหยิบของจากกระเป๋ากีฬาบนเบาะด้านหลัง ก่อนจะโยนพรวดลงบนตักหญิงสาว

“อะไร” ลลินภัทรขมวดคิ้วมองเจ้ากล้องถ่ายวีดีโอตรงหน้า ชักใจไม่ดีขึ้นมาแล้วสิ

“เปิดดูข้างในสิจ๊ะที่รัก” แกล้งหลอดคำหวาน แต่ไม่ยอมเฉลยสิ่งที่อยู่ข้างใน

ขณะที่หญิงสาวขมวดคิ้ว หยิบเจ้ากล้องวิดีโอตัวปัญหาขึ้นมาแต่โดยดี ขยับจอขนาดเล็กที่ติดกับตัวกล้องเปิดไฟล์เดียวที่มีอยู่ออกดู

แล้วก็แทบเป็นลมพับไปตรงนั้น เมื่อพบว่ามันคือคลิปวีดีโอวีที่ถ่ายเอาไว้จากมุมหนึ่งในห้องนอน บ้านพักตากอาการบนเกาะส่วนของพฤหัส

ครั้นชายหญิงสองคนจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเธอและเขากับกิจกรรมเร่าร้อนบนเตียงนอน คืนนั้นกับของแลกเปลี่ยนของเขา ซึ่งเธอก็ยิมยอมโดยไม่ได้เอะใจถึงเล่ห์เพทุบายที่เร้นอยู่เลย

“คุณพระช่วย!”

“เรื่องแบบนี้อย่าร้องถึงพระถึงเจ้าเลย มันไม่เหมาะไม่ควร”

“แก... ไอ้สารเลว!!”

“ด่าอีกแล้วหรือ เอาสิ ขึ้นไอ้ขึ้นอีมาอีกแค่คำเดียว ไอ้คลิปนี่ได้ไปลงประจานอยู่ในอินเตอร์เน็ตแน่ เก่งนัก คิดจะลองดีกับฉันก็เชิญ”

“ฮื้อ...” ในเมื่อทำอะไรเขาไม่ได้ก็ปล่อยโฮออกมาเสียเลย “ฉันเคยไปฆ่าญาติฝ่ายไหนของคุณหรือไงหา ทำไมจะต้องทำกันถึงขนาดนี้”

“ก็เพราะฉันรู้น่ะสิ ว่านิสัยอย่างเธอจะต้องลงเอยในรูปแบบนี้แน่ ถึงได้เตรียมตั้งรับเอาไว้ก่อน”

“นี่คือการเตรียมตั้งรับของคุณหรือ โหดเหี้ยมที่สุด”

“ฉันจำเป็นต้องทำหนิ ...เช็ดน้ำตาเสีย” ชายหนุ่มดึงผ้าเช็ดผ้าออกมาให้ ทว่าลลินภัทรกลับปัดมันออกไปอย่างเดียดฉันท์

“ไม่ต้องมาทำเป็นหวังดี”

“ฟังนะลลินภัทร ถ้าเธอทำตัวว่าง่าย ทั้งกับฉัน อาแล้วก็น้องอ้าย คลิปนี่จะเข้าไปนอนอยู่ในเซฟแน่หนา ไม่มีวันให้ใครหน้าไหนได้เห็นเป็นอันขาด”

“ฉันจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกนั้นอีก ทางใครทางมัน ต่างคนต่างอยู่ ต้องการแค่นี้ใช่ไหม” หญิงสาวกัดฟันกล่าว

“ใครว่าแค่นี้” พฤหัสเอนกายเข้าไปใกล้เธอ เวลาเดียวกันที่ลลินภัทรถอยกรูดไปชิดประตูรถ “ฉันอยากได้มากกว่านี้ตังหาก ฉันบันทึกเบอร์โทรศัพท์ไว้ในมือถือของเธอแล้ว มีอะไรจะได้โทรหา”

“แค่นี้ก็ยุ่งมากพอแล้ว ฉันไม่มีอะไรกับคุณต้องโทรหาคุณ”

“แต่ฉันมี” มือใหญ่เอื้อมไปยังปลายคางเรียว เชิดดวงหน้างามขึ้นมาพินิจ “ในเมื่อครอบครัวฉันกับเธอเกี่ยวดองกัน เราจะได้เจอกันอีกบ่อยๆ แน่ที่รัก”

“ทางที่ดีเราอยู่กันคนละฝากโลกจะดีกว่า ฉันอยากมีชีวิตสงบสุขกว่านี้ อย่าได้มาเจอะเจอกันอีกเลย” เธอปัดมือเขาออก พลันออกคำสั่งแกมของร้องต่อชายหนุ่ม ที่กายกำยำนั้นยังคงอยู่ในตำแหน่งประชิดตัวเธอไม่ยอมถอยห่างไปไหน “ส่งฉันที่บ้านด้วย จะกลับแล้ว”

“อ้าว เมื่อกี้ยังบอกให้หยุดรถอยู่เลย ไอ้เราก็ช่างว่าให้ง่ายยอมทำตาม เห็นทีครั้งนี้ถ้าจะสั่งอีก คงต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนสักหน่อยแล้วล่ะมั้ง” เอ่ยพลางชี้ไปที่แก้มตัวเองอย่างเป็นสุข “หอมแก้มฉันสักที ก่อนที่เราไปแยกย้ายไปอยู่คนละฝากโลก”

“...”

“เร็วสิ จะกลับไม่กลับ หรือยังคิดไปหาตำรวจอีก เอายังไงกันแม่คุณ”

“บ้าที่สุด” ลลินภัทรขยับเข้าไปแปะจมูกกับแก้มเขาหนึ่งที และรีบดีดตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว ร่องรอยการร้องไห้ยังคงปรากฏชัดเจน ชายหนุ่มจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ถูกปฏิเสธมาซับคราบน้ำตาให้

“ตอนนี้เธออาจมองกันเป็นศัตรู แต่ต่อไปจะเข้าใจเองว่าคนอย่างฉันไม่เจตนาร้ายต่อเธอเกินขอบเขตไปกว่านี้แน่”



ร่างระหงเดินลากขาช้าๆ เข้ามาในตัวบ้านวรนันท์ เหน็ดเหนื่อยกับสภาพชีวิตและจิตใจที่พังเสียหาย คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองจะเคราะห์ร้ายได้ถึงขนาดนี้ ทั้งถูกแย่งคนรัก ถูกฉุด แล้วยังมาเจอการขู่เข็นคุกคามชนิดรุนแรงและชั่วร้ายที่สุด ต่อไปเธอต้องเจออะไรที่แย่ไปยิ่งไปกว่านี้อีกไหมนะ

“ยายเอื้อย แกกลับมาแล้วหรือ แหม ช่างประจวบเหมาะกันพอดิบพอดี” คุณหญิงท่านนายพลถึงกับลุกจากเก้าอี้ ทางฝั่งซ้ายของห้องรับแขก ตรงมาหาลลินภัทรด้วยตัวเอง ครั้นเห็นหลานสาวคนโตเดินเข้ามาในบ้าน ในมือถือหนังสือเล่มหนึ่งติดมาด้วย

“คุณย่า”

“ก็ย่าน่ะสิ นึกว่าเพลินจนลืมย่าเสียอีก เป็นไงแยกตัวออกไปเที่ยวเอง สนุกไหม”

“สนุกอะไรกันละค่ะ เกือบตายสิไม่ว่า”

“หึ... ตายเตยอะไรกับละยะ ฉันก็เห็นแกมีความสุขดีออก แอบหนีไปเทียวสนุกกับคู่รักใหม่อย่านึกว่าย่าไม่รู้นะ”

“คู่รักใหม่อะไรกันค่ะ คุณย่าพูดอะไรเอื้อยงงไปหมดแล้ว วันนี้กินยาครบไหมนี่”

“หน๊อย นังหลานแสบมาหาว่าฉันสติไม่ดีต้องกินยาให้ครบหรือยะ ข่าววันนี้ออกจะคึกโครม ไม่ต้องมาฟอร์มกับย่าเลย ไหนบอกมาสิรู้จักกับคุณพฤหัสเขาได้ยังไง ตอนไหน ย่าไม่เห็นระเคาะระคายบ้างเลย” ว่าพลางยื่นเจ้านิตยสารในมีให้อีกฝ่าย ลลินภัทรขมวดคิ้วไม่เข้าในแต่ก็รับมาโดยดี หนังสือซุบซิบแวววงคนดัง

“หน้าเจ็ดสิ” ผู้เป็นย่าแน่ะหลาน อีกฝ่ายเปิดตาม กระทั่งเจอเข้ากับคอลัมน์เด็ด ที่ทำเอาคนอ่านหูตาฟ่าฟางลงไปในบัดดล ‘พฤหัสกับหลานสาวอดีตท่านนายพลคู่ควงคนใหม่ สวีตหวานเที่ยวน้ำตกใต้’ และภาพของเธอกับ
พฤหัสที่น้ำตกในอิริยาบถต่างๆ ทั้งตอนหนุนตัก โอบกอด อุ้มและจูบ

ให้ตายเถอะ ทำไมถึงช่างรวดเร็วขนาดนี้ ภาพมันหลุดออกมาได้อย่างไร ในเมื่อน้ำตกนั่นอยู่บนเกาะส่วนตัว หรือพฤหัสยอมให้คนอื่นเข้ามาที่เกาะด้วยในเวลานั้น...

อยากจะบ้าไปให้รู้แล้วรู้ถอด ทำไมมันถึงซวยซ้ำซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อนได้ขนาดนี้... ชีวิต

“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ภาพเอื้อย ดูผิดแล้ว” มือเรียวส่งหนังสือคืนเจ้าของโดยเร่งด่วน

“เอ... ฉันว่าใช่นา นี่มันแกชัดๆ เสื้อผ้าก็ของแก เห็นไหมตัวนี้ฉันจำได้ ในนี่ก็บอกอยู่ว่าหลานสาวอดีตท่านนายพล แกยังจะเถียงอีก”

“หลานนายพลอื่นมีตั้งถมเถหนิค่ะ ในนี้ไม่ใช่เอื้อยแน่นอน คุณย่าอย่ามาใส่ความกันนะ”

“ย่าไม่ได้ใส่ความ แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วยถ้าแกจะคบหากับหลานชายของแม่มัญช์เขาจริงๆ พวกเราสองตระกูลจะได้แนบแน่นกันมากขึ้นอีก”

“บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ไงค่ะ”

“อ้าว ถ้าอย่างนั้นแกไปไหนมา หายเงียบไม่บอกไม่กล่าว”

“ไปเที่ยวกับเพื่อนมาค่ะ”

“เพื่อนที่ไหน แกมีเพื่อนอยู่แถวใต้ด้วยหรือ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

“โธ่... คุณย่าอย่าพึ่งซักไซ้จับผิดกันตอนนี้ได้ไหมค่ะ เอื้อยเหนื่อยมากเลย อยากขึ้นไปนอน ...ขอตัวนะคะคุณย่า ตั้งแต่เช้ารู้สึกปวดหัวเพลียมากๆ เลย” ว่าแล้วก็รีบจ้ำอ้าวหนีผู้เป็นย่าไปชั้นบน หมายเข้าห้องเก็บตัวทำใจอยู่ในนั้นสักพัก

บันไดหินอ่อนลักษณะโค้งวน เดินขึ้นไปครึ่งทางก็ปะเข้ากับมณีมัชญ์ที่กำลังลงบันไดสวนมาพอดี ลลินภัทรตวัดนัยน์ตาแสนชิงไปยังตัวต้นเหตุ ไม่สามารถระงับความพยาบาทลงไปได้ในคราวเดียว

ครั้นต่างฝ่ายต่างเงียบ จึงแกล้งเดินเร็วๆ เฉียดเข้าไปกระแทกไหล่กลมกลึงนั้นอย่างเต็มแรง ทำเอาสตรีวัยสี่เอ็ดซึ่งไม่ได้ตั้งตัวกับการเคลื่อนไหวนั้นแทบล้มหายหลังกลิ้งตกบันไดลงไป เคราะห์ดีที่เจ้าหล่อนเก้าราวสลักด้านข้างเอาไว้ทัน ไม่อย่างคงมีอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ต้องเจ็บตัวต้อนรับการกลับมาของสาวร้ายคนนี้เป็นแน่แท้

มารดาเลี้ยงผู้มากศักดิ์ได้แต่ถอนใจ ...เจอมาขนาดนี้แล้วยังไม่สิ้นฤทธิ์อีกหรือ ยายลูกเลี้ยงแสนร้าย



ตรีชวา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 พ.ค. 2554, 22:42:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 พ.ค. 2554, 22:42:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1640





<< ๔ จำเลยตัวร้าย   ๖ แขกสำคัญ >>
ชอบอ่าน 28 พ.ค. 2554, 23:13:31 น.
สงสารนางเอก


แล่นแต๊ 29 พ.ค. 2554, 02:19:26 น.
ติดตามค่ะ เรื่องนี้พระเอกกะนางเอกร้ายทั้งคู่เลย สนุกดีค่ะ


MYsister 29 พ.ค. 2554, 09:37:45 น.
สงสารนางเอกเหมือนกัน


pattisa 29 พ.ค. 2554, 11:06:14 น.
สงสารแม่เลี้ยงมากกว่า ถ้านางเอกยอมอ่อนลงให้ซักนิดจะน่าเอ็นดูกว่านี้ :S


saralun 29 พ.ค. 2554, 12:52:03 น.
สงสารนางเอกอะ!! หรือจะสงสารพระเอกดี ฮ๋า ๆ ๆ


lovemuay 29 พ.ค. 2554, 19:57:00 น.
แม่เลี้ยงเหมือนจะเป็นคนดีอ่ะ อะไรกัน เรียกนางเอกแบบจิดกัด
นางเอกน่าสงสารนะ ใครจะไปยอบรับแม่ใหม่กันได้ง่ายๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account