สนิมดอกรัก (ตีพิมพ์แล้ว - สนพ.อรุณ)
แพรวเพชร สิริณธรณ์ ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
เมื่อเผ่าภาคินที่เธอเข้าใจว่าเสียชีวิตไปแล้วเกือบสี่ปี
จู่ๆจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
แถมยังมาในมาดมหาเศรษฐีหนุ่มรูปหล่อ ร่ำรวย
และโหดเหี้ยมเหมือนในนิยายเป๊ะ!
.
.
.
.
“เชิญกรอกข้อมูลส่วนตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะแนะนำรายละเอียดและขอบเขตการให้บริการให้ฟัง อ้อ...ต้องให้ดิฉันแจ้งค่าใช้จ่ายให้ทราบคร่าวๆก่อนไหมคะ เพราะค่าบริการของเราไม่แพงก็จริง แต่สำหรับคนกำลังเก็บเงินแต่งงาน มันก็...เป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลย”

“ดูเหมือนว่าเงินจะเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตคุณเสมอเลยนะ คุณแพรวเพชร” เผ่าภาคินหยัน

“พูดอย่างกับว่ามันไม่สำคัญสำหรับคุณงั้นแหละ” หญิงสาวบิดริมฝีปากนิดๆอย่างดูถูก จากนั้นเดินไปยังโต๊ะที่วางชิดผนัง ดึงเอกสารแผ่นหนึ่งจากแท่นใสทรงกระบอกถือมากางตรงหน้าชายหนุ่ม พลางอธิบายด้วยท่าทีเหมือนทองไม่รู้ร้อน ไม่สนใจแม้จะเห็นว่าสายตาที่จ้องเธอแทบจะแผดเผาลุกเป็นไฟ

“นี่ค่ะ อัตราค่าสมัครแรกเข้าสำหรับลงทะเบียนเป็นสมาชิกของคิวปิดฯ ส่วนคอร์สที่คุณจะเข้าใช้บริการแยกคิดเป็นรายครั้ง เรามีรายการให้คุณเลือกเยอะค่ะ ทั้งดำน้ำ วาดรูป อบรมบุคลิกภาพ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ ทำบุญไหว้พระ ทำขนม อ้อ...แต่สุดท้ายนี่ฉันไม่แนะนำนะคะ เพราะคุณคงไม่อยากให้ครูคนนั้นรู้ว่ามาสมัครเป็นลูกค้าที่นี่”

“แล้วมีคอร์สสับรางไม่ให้รถไฟชนกันบ้างไหม หรือไม่ก็พวก...วิธีซ่อนชู้ ซ่อนกิ๊กอะไรแบบนี้น่ะ ผมสนใจเป็นพิเศษ และถ้าให้แนะนำ ผมว่าคุณน่ะเหมาะจะเป็นวิทยากรมาก ใช้ประสบการณ์ตรงมาสอนก็ได้ คงมีคนอยากเรียนกันเยอะแยะ”

แพรวเพชรหัวเราะขัน “แปลกนะคะ คุณพูดเองแท้ๆว่าฉันไม่ได้มีเกียรติ มีเสน่ห์ หรือว่ามีค่าพอให้คุณเสียดมเสียดายอะไรแล้ว แต่ไอ้ที่คุณพูดๆมาเนี่ย เหมือนว่า...คุณจะจำเรื่องราวเกี่ยวกับตัวฉันได้แม่นยำจังเลย”

หญิงสาวดักคอและลอยหน้าเอ่ยประโยคต่อไปว่า “เอ...หรือว่าอันที่จริงแล้วคุณไม่ได้คิดอย่างที่พูด แต่กำลังเรียกร้องความสนใจจากฉัน หรือบางทีไอ้ที่บอกว่าจะแต่งงานกับคุณนวลนรีนั่นก็เป็นแค่การโกหก แกล้งทำเป็นโชว์ออฟ เพียงเพราะอยากให้ฉันรู้สึกรู้สาไปด้วยเท่านั้นเอง ประชด...อะไรทำนองนั้นน่ะเหรอคะ”

ปฏิกิริยาที่ไม่ได้คาดไว้ล่วงหน้าทำให้เผ่าภาคินค้นหาคำตอบโต้ไม่พบแม้แต่คำเดียว

แพรวเพชรแต้มยิ้มทำสีหน้าสมเพช จากนั้นก้าวเข้ามาใกล้ เอื้อมมือแตะแก้มอีกฝ่ายแผ่วเบาหยอกเย้า “โถ...น่ารักจริง แต่ขอโทษด้วยที่ต้องทำให้ผิดหวัง ฉันแต่งงานแล้ว และก็ไม่เคยคิดนอกใจสามี เพราะเขาเป็นคนดีมาก ยิ่งเขาดีเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งนึกเสียดายที่เคยไปเกลือกกลั้วกับของสกปรกมาก่อน โชคดีที่เขาไม่ถือสาอดีตของฉัน ไม่เช่นนั้นฉันคงไม่ได้เป็นผู้หญิงโชคดีอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”

ประโยคสุดท้ายทิ่มแทงหัวใจคนฟังจนแทบทนไม่ไหว และเพียงเสี้ยววินาทีที่เผ่าภาคินปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือความควบคุม อุ้งมือแข็งแรงก็ตวัดคว้าต้นแขนหญิงสาวพร้อมทั้งบีบรุนแรง กระแสบางอย่างที่แล่นปราดผ่านปลายนิ้วทำให้ชายหนุ่มเกือบจะปล่อยมือ แต่เขาก็ฝืนกำมือแน่น เค้นเสียงลอดไรฟันเอ่ยคำถัดมา

“ใช่ ฉันมันเลว ชั่ว แต่ก็สมกันดีแล้วไม่ใช่เหรอ ผู้ชายสกปรกกับผู้หญิงที่น่าขยะแขยงน่ะ แพรวเพชรคนอ่อนโยนไร้เดียงสาที่ฉันเคยรู้จัก มาวันนี้กลับกลายเป็นผู้หญิงกร้านโลก หลายใจ น่ารังเกียจไปแล้ว ทุเรศที่สุด”

“ในเมื่อพี่เผ่าคนที่ฉันเคยรู้จักตายไปแล้ว แพรวเพชรคนที่คุณเคยรู้จักก็สมควรจะตายไปได้แล้วเหมือนกัน ถือว่าเราเสมอกันไงคะ” หญิงสาวยิ้มกว้างอย่างสะใจ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 19 + ประกาศรายชื่อผู้โชคดี รับหนังสือฟรี

“อุ๊ย!” เสียงอุทานหลุดออกจากปากอิงอรุณก่อนจะทันห้ามปราม เมื่อผลักประตูห้องประชุมเล็กเข้ามาพบภาพเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อาการตกตะลึงทำให้ขาทั้งสองข้างละม้ายถูกตรึงอยู่กับพื้นด้วยหินผาหนักหน่วง ไม่สามารถหันหลังหนีสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อนั้นได้

สองหนุ่มสาวในห้องมิได้มีท่าทีสะดุ้งตกใจหรือรีบกลบเกลื่อนใดๆทั้งสิ้น ตรงข้าม...เผ่าภาคินประคองมือแพรวเพชรลดนาฬิกาทรายลงช้าๆ ก่อนปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระด้วยมาดสงบและสุขุมยิ่ง เขาหมุนตัวไปยืนเคียงข้างหญิงสาว สบตากับผู้มาใหม่ตรงๆ

อิงอรุณสังเกตเห็นสายตาของคนทั้งสองที่มองมามีแววละอายปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

เป็นเธอเสียอีก...จากวินาทีแรกที่รู้สึกเหมือนตำรวจจับแมวขโมยได้คาหนังคาเขา แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาหนักแน่นมั่นคงไม่หวั่นไหวใดๆของเพื่อนรักและ ‘แฟนเก่า’ เข้า ก็กลับรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกที่โผล่เข้ามาไม่ถูกที่ถูกเวลา มาทำลายช่วงเวลาส่วนตัวของคู่รักที่กำลังพร่ำพรอดกันอยู่กระนั้น

เดี๋ยวนะ! คู่รักเหรอ! แพรวเพชรเป็นพี่สะใภ้เธอต่างหาก ไม่ใช่คู่รักของผู้ชายคนนี้

อิงอรุณปัดความรู้สึกอื่นจากใจ จากที่คิดจะหันหลังให้กับภาพบาดตา ก็เปลี่ยนใจก้าวเข้าไปดึงข้อมือแพรวเพชร ลากอีกฝ่ายออกห่างจากเผ่าภาคินทันที “เพชร มานี่”

ชั่วขณะหนึ่งที่อิงอรุณนึกขอบใจแพรวเพชรอยู่ในใจเงียบๆ ที่ยอมก้าวตามแรงดึงมาอยู่ข้างเธอโดยง่าย เพราะคงเสียหน้าน่าดูถ้าเพื่อนเกิดสะบัดมือเธอทิ้งแล้วยืนกรานจะเลือกอยู่ฝั่งเผ่าภาคิน

“พี่เผ่ามาทำอะไรที่นี่ ไหนบอกว่ายกเลิกการเป็นสมาชิกของคิวปิดแอสซิสแทนซ์แล้วไง” คนที่ปกติไม่ค่อยอินังขังขอบอะไรกับใครนัก ทั้งยังค่อนข้างประนีประนอมกว่า วันนี้กลับเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน

“ถามพี่อย่างนี้ อิงแน่ใจแล้วหรือว่าจะฟังคำตอบได้จริงๆน่ะ”

อิงอรุณสะอึก เพราะจะว่าไปแล้วเธอก็กลัวคำตอบที่จะได้ยินอยู่เหมือนกัน แต่หญิงสาวฝืนเชิดหน้ารับคำ

“งั้นอิงก็รู้ไว้ซะว่าพี่จะทำทุกอย่างเพื่อเอาเพชรคืนมาให้ได้”

อิงอรุณไม่อยากยอมรับเลยว่า ความมั่นอกมั่นใจของผู้ชายคนนี้ช่างทรงพลังเหลือเกิน เธอเชื่อหมดใจเลยทีเดียวว่าเขาพร้อมจะทำ ‘ทุกอย่าง’ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการจริงๆ แต่เธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก

“น้ำเน่าละพี่เผ่า เพชรเป็นพี่สะใภ้อิง ไม่ใช่สิ่งของที่ใครจะยื้อไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบ”

“เป็นพี่สะใภ้ก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ ในอนาคต อะไรๆก็เปลี่ยนไปได้”

“ถามเพชรหรือยังว่าเต็มใจจะเปลี่ยนแปลงหรือเปล่าน่ะ” อิงอรุณโต้ทันควัน

“อิง...” แพรวเพชรแตะแขนเธอเป็นเชิงปราม ทว่าหญิงสาวไม่สนใจ ยักคิ้วให้ชายหนุ่มอย่างท้าทาย

“เปลี่ยน ‘แปลง’ ก็ดีเหมือนกัน จะได้รื้อดอกโบตั๋นทิ้ง แล้วคราวนี้พี่จะปลูกดอกรักแทน” เผ่าภาคินย้อนหน้าตาย เจตนากระแนะกระแหนไปถึงนราธิป เพราะชื่อพี่ชายของอิงอรุณหมายคือพระราชา และดอกไม้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาแห่งดอกไม้ก็คือโบตั๋น!

และนั่นทำให้คนฟังสองคนมีปฏิกิริยาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อคนหนึ่งก้มหน้าซ่อนยิ้ม ส่วนอีกคน...ถ้ากรีดร้องได้ คงกรี๊ดออฟฟิศแตกไปแล้ว

“นี่ไม่ใช่เวลามาเล่นมุกนะพี่เผ่า อิงไม่ตลกด้วยหรอก”

“ไม่ได้อยากให้ตลก แค่...อยากเป็นนักปรัชญาบ้างก็เท่านั้นเอง พี่พูดเรื่องคมคายออกขนาดนี้ อิงไม่ทึ่งบ้างเหรอ” ดูไม่เข้ากันสักนิดที่ผู้ชายตัวโตจะมาแกล้งทำคอตกเสียงจ๋อยแบบนี้

อิงอรุณหันไปยังคนข้างๆ ก็เห็นแพรวเพชรกัดริมฝีปากซ่อนเสียงหัวเราะไว้อย่างยากเย็น

ถ้านี่เป็นสถานการณ์ปกติ อิงอรุณคงอดยิ้มไม่ได้ เพราะธรรมดาแล้วเวลาจัดการเรื่องในบริษัท สองสาวจะแบ่งงานกันชัดเจน โดยแพรวเพชรถนัดเรื่องบู๊ ยกงานฝ่ายบุ๋นให้เธอ แต่วันนี้ทั้งคู่กลับสลับบทบาทกันดื้อๆ เพราะคนที่ตั้งท่าอยากบู๊เต็มที่ก็คือเธอ ส่วนแพรวเพชรวางท่านิ่งๆ พยายามไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้ออกนอกหน้า

เมื่อหันกลับไปทางเผ่าภาคิน ฝ่ายนั้นกำลังเม้มปากแน่น เก็บกลั้นอาการขบขันไว้เช่นกัน

แม้ใจหนึ่งอิงอรุณจะอยากอาละวาดสุดชีวิต แต่อีกใจจำเป็นต้องยอมรับว่าสองคนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับที่เธอเจอเมื่อวานหรือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยสิ้นเชิง

แพรวเพชรนั้นทำตัวร่าเริงผิดปกติ แต่พอเผลอ สีหน้าก็อมเศร้า แววตาหดหู่ ทำอย่างไรก็ซ่อนรอยอาดูรไว้ไม่มิด ส่วนเผ่าภาคินที่เธอบังเอิญเห็นที่วัด สารรูปแย่สุดขีด ทั้งทรุดโทรม ห่อเหี่ยว หมดราศี

แล้วดู๊! คนอกหักแทบเป็นแทบตายสองคนกลับมาแท็กทีมกันซ่อนยิ้ม แถมยังส่งสายตาให้กันโดยไม่เกรงอกเกรงใจกันสักนิด อยากรู้นักว่าความโศกความเศร้าที่เคยมีน่ะหายไปไหนกันหมด โอ๊ย! หมั่นไส้!

“อิง พี่ล้อเล่นน่า อย่าทำหน้ายุ่งอย่างนั้นสิ เดี๋ยวแก่เร็วนะ” เผ่าภาคินปลอบยั่วๆ

“อิงคงไม่แก่แค่เพราะทำหน้ายุ่งนี่หรอก ถ้าจะมีอะไรที่ทำให้อิงเครียดจนหน้าวิ่งล้ำอายุ ก็คงเป็นเรื่องพี่เผ่านี่แหละ” เธอกระแทกเสียงประชดเต็มเหนี่ยว “บอกไว้ก่อนนะว่าไอ้เรื่องที่พี่เผ่าคิดจะทำน่ะ ไม่มีวันสำเร็จหรอก เพชรกับหนูกานเป็นลูกสะใภ้แล้วก็หลานสาวคนเดียวของสกุลเทียมสุบรรณ พี่เผ่าอยากจะลองดีกับอำนาจของพ่ออิงก็ลองดู”

“พี่ไม่ได้คิดจะลองดีหรอก แต่กะว่าจะเอาดีทางนี้เลย นวลเคยเล่าให้ฟังแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าพี่ไม่ได้บังเอิญสร้างตัวมาเพราะโชคช่วย แบ็กอัพพี่ก็มีเหมือนกัน จะลองใช้อำนาจของพ่ออิงมางัดข้อกับวิถีทางแบบที่พี่เคยผ่านมาก็ได้ อยากรู้เหมือนกันว่าใครจะชนะ” ไม่เพียงไม่เกรงกลัวคำขู่ เขายังข่มเธอกลับอีกด้วย

อิงอรุณทบทวนความทรงจำอย่างหนัก จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่านวลนรีพูดถึงมาเฟียออสเตรเลียที่เขาเคยไปกู้เงินมาเริ่มทำธุรกิจ จนเกิดความสนิทสนมกับองค์กรลับเหล่านั้น และกลายมาเป็นมิตรที่ดีต่อกันทั้งโลกบนดินและใต้ดินจนถึงทุกวันนี้ แวบหนึ่งที่อิงอรุณเริ่มหวั่นไหวว่าเธอและครอบครัวเทียมสุบรรณอาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเกมนี้

“พี่เผ่ากลับไปก่อนดีไหมคะ ตรงนี้ไว้เพชรคุยกับอิงเอง” แพรวเพชรประนีประนอม

“พี่ไม่อยากกลับ อยากอยู่เป็นเพื่อนเพชรเวลาถูกอิงซักฟอกก่อน” ชายหนุ่มพูดตรงๆ ไม่ยี่หระหากว่าคำพูดนั้นจะทำให้อิงอรุณอยากจะกระโดดข่วนหน้าสักสองสามที

อิงอรุณยอมรับว่าวิธีพูดซึ่งระมัดระวังความรู้สึกของแพรวเพชรนี้ ทำให้คะแนนที่ติดลบของเขาลดลงไปบ้าง แต่แค่นิดเดียวเท่านั้น

“กลับเถอะค่ะ เพชรจะท่องไว้ว่าอิงทำไปทั้งหมดก็เพราะความหวังดีทั้งนั้น”

“ไม่ต้องมาดักคออิงเลยนะ” อิงอรุณหน้าบึ้ง อยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นเสียให้รู้แล้วรู้รอด เพราะชายหนุ่มสบตากับแพรวเพชร พยักพเยิดกันคนละทีสองทีโดยไม่เอ่ยวาจาสักคำ

โอย...อิงอรุณอยากรู้ใจจะขาดว่าสายตาสองคนนี้กำลังคุยอะไรกันอยู่ นินทาเธอหรือเปล่าเนี่ย!

สุดท้ายเผ่าภาคินก็ก้มศีรษะนิดๆ “งั้นวันนี้พี่กลับก่อน บอกไว้เลยว่าไม่ใช่เพราะกลัวมีเรื่องหรือเพราะกลัวอิง แต่ที่ยอมกลับเพราะเพชรต้องการแบบนั้น”

จากปลายหางตา อิงอรุณเห็นแพรวเพชรยิ้มบางๆ ใจหนึ่งเธออดดีใจไม่ได้ แต่อีกใจก็ใจหายเช่นกัน ดูท่าสิ่งที่พี่ชายกลัวอาจกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

“พี่กลับก่อนนะเพชร อย่าลืมดู ‘เวลา’ ดีๆล่ะ”

อิงอรุณมองตามผู้ชายตัวสูงที่เดินผ่านหน้าเธอและแพรวเพชรไปเขม็ง กะว่าถ้าเขาหยุดแตะต้องเพื่อนเธอแม้ปลายก้อย เธอจะต้องอาละวาดแน่ๆ แต่เขาไม่ทำอะไรอย่างนั้นเลย โดยเดินห่างจากแพรวเพชรเป็นวา ผลักประตูออกไปโดยไม่แผลงฤทธิ์เดชทิ้งท้ายอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้สักนิด

หญิงสาวมองเพื่อนด้วยสายตาคาดคั้นทันทีที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง “ดูเวลาอะไร จะแอบนัดเจอกันเหรอ”

“ไม่ใช่ อิงคิดไปไกลใหญ่แล้ว เวลาที่พูดถึงน่ะ พี่เผ่าเขาหมายถึงนาฬิกาทรายอันนี้ต่างหากล่ะ” ทั้งน้ำเสียงอ่อนโยน ท่าทางนุ่มนวลที่แพรวเพชรแสดงออก ทำให้อิงอรุณนึกถึงเมื่อเกือบสี่ปีก่อน เพราะเธอไม่ได้เจอแพรวเพชรในโหมดมีความสุขลึกซึ้งแบบนั้นมานานแล้ว จู่ๆผู้หญิงแสนสวยคนที่มองโลกในแง่งามคนเดิมก็กลับแง้มผ้าม่านแห่งกาลเวลาออกมาให้เธอได้พบอีกครั้งในวันนี้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ทั้งหมดนี่...เกิดขึ้นเพียงเพราะแพรวเพชรปรับความเข้าใจกับเผ่าภาคินได้แค่นั้นเองเหรอ...

ถึงจะทำงานเกี่ยวกับความรัก แต่อิงอรุณสารภาพเลยว่า ณ เวลานั้นเธอเกลียดความรักจับใจ! โดยเฉพาะความรักของแพรวเพชรและเผ่าภาคิน เธอไม่อยากเห็นพี่ชายต้องตกอยู่ในสภาพของคนอกหักอย่างที่สองคนนี้เป็นเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเลย

“นี่มันอะไรกันน่ะเพชร ไหนว่าจะไม่พบกันแล้วไง เมื่อกี้ที่อิงเห็นมันไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะ ทำอะไรประเจิดประเจ้อ คิดบ้างหรือเปล่าว่าถ้าคนที่เข้ามาไม่ใช่อิงจะเกิดอะไรขึ้น” เธอกอดอกคาดคั้นหน้าบึ้ง หวังสุดหัวใจให้แพรวเพชรบอกว่า มันเป็นแค่แผนการหลอกให้เผ่าภาคินตายใจเพื่อตลบหลังให้เขาถอยออกห่างไปตลอดกาล หรืออะไรก็ได้ที่มีความหมายไปในทำนองเดียวกัน

แต่แพรวเพชรกลับบอกแค่ “หนูกานใกล้เลิกเรียนแล้ว เราขอตัวไปรับลูกก่อนนะ” เจ้าตัวหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วประคองนาฬิกาทรายออกจากห้องไปทันที

ปล่อยให้อิงอรุณฮึดฮัดกับอารมณ์ไม่ได้ดังใจของตนเองตามลำพัง
.
.
.
ระหว่างที่เผ่าภาคินขับรถกลับไปยังสำนักงานของพาร์กิ้นอินเตอร์เนชันแนล คำขู่ของอิงอรุณเกี่ยวเนื่องกับครอบครัวเทียมสุบรรณยังวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดตลอดเวลา แม้ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาต้องชนะในเกมนี้และได้สิ่งที่ตั้งใจไว้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่อยากให้มีอุปสรรคใดมาทำให้ความมุ่งหวังของเขาสะดุด ขณะรอรถติดสัญญาณไฟที่สี่แยก ผู้บริหารใหญ่ขององค์กรข้ามชาติจึงกดโทรศัพท์หาเพื่อนที่เขาเคยใช้บริการขอคำแนะนำมาแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน

“เฮ้ยไอ้หมอ มีเรื่องมาถามอีกแล้ว ถ้าฉันจะตรวจดีเอ็นเอ ต้องทำยังไงบ้างวะ”

“อะไรของเอ็งวะไอ้เผ่า อาทิตย์ก่อนถามเรื่องท้อง มาวันนี้จะตรวจดีเอ็นเอ เมียเอ็งนอกใจหรือไง หรือเด็กคลอดมาหน้าไม่เหมือนพ่อ ว่าแต่เอ็งแต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ทำไมเพื่อนฝูงไม่เห็นมีใครรู้เลย”

“เอาไว้จะอธิบายรวบยอดทีเดียวนะ ตอนนี้แกตอบฉันมาก่อนสิวะ”

ชายหนุ่มตั้งใจฟังคำแนะนำของเพื่อนอย่างตั้งใจ และเมื่อซักถามจนได้รับคำตอบเป็นที่พอใจแล้ว จึงติดสินบนอีกฝ่ายด้วยของสะสมที่ปฏิเสธไม่ออก

“ขอบใจ เดี๋ยวจะให้เลขาฯสั่งกันดั้มเกราะทองชุดใหญ่จากดาวอังคารส่งไปขอบคุณ” เขาแหย่ขำๆแล้วเอ่ยต่อรวดเร็ว “ไว้ว่างๆนัดกินเหล้ากันนะเว้ย แต่ตอนนี้ฉันมีธุระด่วนว่ะ เอาไว้ค่อยคุยกันนะ” เขาวางสายแล้วเลี้ยวรถไปยังทิศทางที่มุ่งสู่จุดหมายใหม่ทันที...สถานรับตรวจดีเอ็นเอของเอกชน!

ชายหนุ่มแจ้งความจำนงกับเจ้าหน้าที่ และได้รับซองกระดาษสองซอง ภายในบรรจุก้านสำลีสองก้าน เผ่าภาคินตั้งใจฟังคำแนะนำวิธีการเก็บตัวอย่างเพื่อนำมาทดสอบด้วยความตั้งใจ

เขาตัดวิธีการตรวจด้วยเลือดออกเป็นลำดับแรก เพราะจนหนทางจะเอาเลือดของกานติมามาได้ แผนเบื้องต้นคือใช้ก้านพันสำลีเก็บเนื้อเยื่อบุข้างกระพุ้งแก้มอย่างในภาพยนตร์ วิธีนี้ง่ายที่สุด แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่สามารถเก็บตัวอย่างได้ดังคิด ก็อาจต้องใช้เส้นผมที่มีรากติดอยู่ เล็บ หรือไม่ก็แปรงสีฟันแทน

นี่เป็นแค่ไพ่ใบหนึ่งในเกมนี้ เผ่าภาคินไม่คิดจะใช้มันหรอก เพราะการเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างเขากับแพรวเพชรย่อมกระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของหญิงสาว และนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายบนโลกนี้ที่เขาจะทำ ที่ผ่านมาแพรวเพชรอยู่กับความรู้สึกผิดนานเกินไปแล้ว เขาจะไม่เอาอะไรไปทับถมให้เธอเจ็บปวดกว่านั้นเด็ดขาด

การตรวจดีเอ็นเอนี่...ก็แค่แผนสำรองที่อยากมีไว้ให้อุ่นใจ เผื่อมีเหตุจำเป็นจริงๆ อย่างน้อยเขาจะได้ไม่จนทางถอยก็เท่านั้นเอง!
.
.
.
นวลนรีเกาะเคาน์เตอร์ข้างตู้เก็บขนมเค้กมองแขกที่เหลืออยู่คนเดียวของร้านด้วยความเป็นห่วง นราธิปเข้ามาที่นี่พร้อมกับอิงอรุณตั้งแต่ช่วงเย็น โดยอิงอรุณปรึกษาเรื่องคอร์สทำขนมที่จะเปิดให้ลูกค้าของคิวปิดแอสซิสแทนซ์เรียนในเดือนหน้า ส่วนพี่ชายสั่งน้ำสั่งขนมในร้านมาชิมระหว่างรอจนเกือบจะครบทุกชนิดแล้ว

เมื่ออิงอรุณเสร็จธุระจึงขอตัวกลับ ทว่าพี่ชายไม่ยักไปด้วย อ้างว่าหิวและให้น้องสาวแยกไปก่อน ส่วนตนเองสั่งอาหารจานเดียวและของว่างง่ายๆอีกจานมารับประทานเงียบๆ

จนถึงตอนนี้ สปาเกตตีขี้เมาทะเลและนาโชเบคอนสไตล์เม็กซิกันหมดจานไปนานแล้ว แต่เขายังไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน เธอมองแก้วเปล่าบนโต๊ะ แล้วจึงรินน้ำแอปเปิ้ลใส่แก้วถือตรงไปยังลูกค้าโต๊ะสุดท้าย

เพียงรับรู้ถึงเงาที่ยืนค้ำอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าขาวสะอาดซึ่งก้มต่ำคล้ายจมอยู่ในภวังค์ของตนเองเนิ่นนานเงยขึ้นมาช้าๆ พลางตั้งคำถามลอยๆ “นวลเคยรักใครสักคนมากๆไหม”

หญิงสาวเลิกคิ้วนิดๆด้วยความแปลกใจ ตัดสินใจนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโดยไม่รอฟังคำชวน เธอนิ่งไตร่ตรองคำถามนั้นอยู่ชั่วครู่แล้วจึงตอบ “พูดตรงๆว่านวลก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าที่รักอยู่ทุกวันนี้ จัดว่า ’มากๆ’ แล้วหรือยัง อยู่ดีๆทำไมถึงถามแบบนี้เหรอคะ”

“พี่ได้ยินมาว่านวลกำลังจะแต่งงานน่ะ เลยนึกว่าจะตอบได้” น้ำเสียงอบอุ่นใจดีทำให้นวลนรีเผลอยิ้มไม่รู้ตัว

“หน่วยข่าวกรองของพี่นราทำงานผิดพลาดแล้วละค่ะ นวลยังไม่มีแผนจะแต่งงานเร็วๆนี้หรอก อย่างน้อยก็จนกว่า...” นวลนรีชั่งใจว่าควรเอ่ยถึงเรื่องส่วนตัวหรือไม่ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มนุ่มนวลของผู้ชายตรงหน้าคล้ายกำลังส่งใจมาลุ้นให้พูดต่อ จึงตัดสินใจได้ในที่สุด...

“จนกว่าอะไรหรือ” นราธิปมีท่าทีสนใจเป็นพิเศษ

“จนกว่านวลจะมั่นใจว่าตัวเองจะอยู่กับเขาไปจนแก่ หรือว่าอยู่ด้วยกันจนตายจากกันไปได้น่ะสิคะ”

“พี่นึกว่านวลจะพูดถึงความรักซะอีก” คนพูดทำหน้าแปลกใจ

“ความรักเป็นแค่จุดเริ่มต้นที่ทำให้คนสองคนอยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเท่านั้นแหละ แต่ถ้าจะต้องเห็นหน้ากันทุกวัน กินข้าวพร้อมกัน นอนเตียงเดียวกัน คงต้องมีปัจจัยอื่นๆมากกว่านั้นที่จะไม่ทำให้คนทั้งคู่เบื่อหน้ากันไปซะก่อนหลังจากผ่านไปแค่หนึ่งปี สองปี หรือสามปี” นวลนรีถอนหายใจ “ที่นวลยังไม่รู้สึกว่าอยากแต่งงาน นั่นอาจเป็นเพราะนวลยังหาเจ้าปัจจัยอื่นๆที่ว่านั่นไม่เจอก็เป็นได้นะคะ”

“ไม่กลัวหรือว่านวลอาจจะหาไอ้เจ้าปัจจัยที่ว่านั่นไม่เจอไปตลอดชีวิตที่เหลือก็ได้นะ”

“นวลคงจะไม่ใช้เวลาหานานขนาดนั้นหรอกค่ะ บางคน...ถ้าเขาไม่ใช่ของเรา ยื้อรั้งไปก็มีแต่เราเท่านั้นแหละที่เจ็บ ถ้ารู้ตัวว่าไม่ใช่แล้วสู้ถอนตัวเสียตั้งแต่เนิ่นๆดีกว่า จะได้ไม่ต้องขาดทุนหัวใจให้มากนัก” นวลนรีเท้าคางเอ่ย “หรือบางที...ที่นวลยังหาเหตุผลในการบ่ายเบี่ยงอยู่นี่ อาจจะเป็นเพราะนวลรักตัวเองมากกว่าที่นวลรักเขาก็ได้มั้งคะ”

เห็นคนฟังกะพริบตาปริบๆละม้ายแปลกใจกับทัศนคติของเธอ หญิงสาวจึงเสหัวเราะแก้เก้อ “นวลพูดไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนโสด พี่นราอย่าแอบหัวเราะเยาะในใจเลยนะคะ นวลรู้ค่ะว่าชีวิตแต่งงานมีอะไรมากกว่าแค่โลกเพ้อฝันสีชมพูอย่างที่สาวๆอ่านมาจากนิยาย”

“พี่ไม่ได้หัวเราะเยาะสักหน่อย เพียงแต่...นวลเพิ่งพูดในสิ่งที่พี่นึกไม่ถึงต่างหาก พี่ชักจะอยากชวนนวลไปเป็นกูรูเรื่องรัก คอยตอบปัญหาความสัมพันธ์ที่คิวปิดฯเพิ่มอีกตำแหน่งแล้วละ”

“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” คนพูดเองชักขันเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจริงจัง

“จริงสิ ยายอิงน่ะเขาเก่งแต่ภาคทฤษฎี อาศัยว่าตีความจากพื้นฐานของวิชาจิตวิทยาเป็นส่วนใหญ่ เป็นสาวโสดครึ่งๆกลางๆ มีแฟนก็เหมือนไม่มีอย่างนั้น บางเรื่องเขาก็หาคำตอบไม่ได้ แต่นวลน่ะ...เหมือนอธิบายจากความเข้าใจจากอารมณ์และความรู้สึกของคนมีความรัก เข้าถึงได้มากกว่า”

“แฟนคุณอิงเป็นคนยังไงหรือคะ” นวลนรีไม่ได้สอดรู้สอดเห็น แค่สนใจเรื่องของเพื่อนตามประสาสาวๆเท่านั้นเอง

พี่ชายยักไหล่ ทำท่าเหมือนอธิบายไม่ถูก “ยายอิงกับเจ้าเทพสนิทกันมาก พูดง่ายๆว่าทำตัวเหมือนแฟนกันแหละ ไปไหนมาไหนด้วยกัน โทร.หากันบ่อยๆ แต่ใครถามทีไร เขาบอกว่าเป็นเพื่อนกันตลอด”

คนฟังอมยิ้ม “เจ้าชู้ไหมคะ เห็นคุณอิงเคยบอกว่ากลัวความรัก”

นราธิปผิดหูทันทีเช่นกัน “น้องสาวพี่เคยบอกนวลแบบนั้นเหรอ”

“ค่ะ นวลยังนึกว่าคุณอิงเธอเคยมีประสบการณ์ความรักที่ไม่ดีเสียอีก ถึงได้กลัวความรัก”

“ไม่น่าจะเกี่ยวกับแฟนเขาหรือประสบการณ์อะไรนั่นหรอก ถ้าจะมีอะไรที่ทำให้อิงกลัวความรัก ก็คงจะเป็นเพราะเห็นเรื่องรักที่ไม่สมหวังจากคนรอบข้างมากกว่า” ชายหนุ่มเสียงเศร้าโดยไม่รู้ตัว

นวลนรีหัวเราะคิก เข้าใจว่าเขากำลังเล่นมุก “ถ้านวลต้องอยู่ใกล้คู่รักน่ารักแบบพี่นรากับคุณเพชร นวลคงอยากแต่งงานวันละร้อยหนมากกว่า เพราะเข้าใจผิดคิดว่าคู่แต่งงานจะต้องดูแลใส่ใจกันและกันแบบนี้ตลอด”

“บางทีโลกอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นก็ได้นะ มันเป็นอย่างที่เราคิดต่างหาก”

หญิงสาวชูนิ้วโป้งให้นราธิปอย่างล้อเลียน “สมแล้วจริงๆที่พี่นราเป็นดอกเตอร์ พูดจาเป็นปรัชญาชะมัดเลย”

“แล้วนวลล่ะ ทำไมถึงรู้เรื่องทฤษฎีความรักดีนัก อย่าบอกนะว่าอกหักเป็นอาชีพน่ะ” นราธิปปัดความหมองทิ้ง พยายามทำตัวเองให้สดใสไปกับรอยยิ้มของสตรีตรงหน้า ทั้งที่ช่างแสนยากเย็น

“นวลทำร้านเบเกอรี่ไงคะ มีหนุ่มสาวมานั่งจีบกัน มาบอกรักกัน รวมถึงมาบอกเลิกกันที่ร้านนวลตั้งไม่รู้กี่ร้อยกี่พันคู่ การได้เห็นเรื่องแบบนี้ทุกวันก็ให้บทเรียนดีๆกับนวลเหมือนกันนะ” หญิงสาวยิ้มกว้าง “แน่ะ พี่นราทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ อย่าบอกนะคะว่าพี่คิดว่าการเปิดร้านเบเกอรี่เป็นไอเดียที่ดูไร้สมองน่ะ เพราะนวลจะวีนแน่ๆเลย”

“ไม่เลย พี่กำลังทึ่งต่างหากล่ะ เชื่อแล้วที่มีคนเคยบอกว่าทุกหนแห่งมีสัจธรรมซ่อนอยู่ เราแค่ต้องมองให้ลึกซึ้งพอถึงจะมองเห็นธรรมชาติของโลกใบนี้”

“นวลคิดไปเองหรือเปล่าคะว่าพี่นรามีอะไรอยู่ในใจที่อึดอัด แต่บอกใครไม่ได้”

นราธิปหัวเราะหึๆ “นี่เป็นนิสัยของผู้หญิงหรือเปล่าเนี่ย ทั้งยายอิง ทั้งเพชร วันๆคอยแต่จะวิเคราะห์ว่าพี่คิดอะไร ตีความหมายจากกิริยาท่าทางทุกอย่างเลย บางทีพี่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกจับผิดเลย แล้วนี่นวลจะสังเกตท่าทางพี่อีกคนแล้วหรือ”

“พี่นรามองโลกในแง่ร้ายจัง ผู้หญิงเราน่ะเป็นคนความรู้สึกไว และที่ช่างสังเกตก็เพื่อจะทำอะไรต่อมิอะไรให้คนของเราพอใจและมีความสุขที่สุดต่างหาก”

“นวลเป็นคนมองโลกในแง่บวกเก่งเหมือนกันนะนี่ หรือไม่ก็ต้องปลอบคนมามากถึงได้คล่องขนาดนี้”

“ถูกทั้งสองข้อค่ะ พักก่อนมีคนมาทำท่าอกหักซังกะตายแถวนี้คนนึงเหมือนกัน” นวลนรีนึกถึงผู้ชายที่ขอเธอแต่งงานเมื่อสองสามเดือนก่อน ครั้งสุดท้ายที่ยกขบวนกันชวนเผ่าภาคินไปทำบุญที่วัด หน้าตาของเขาดูไม่ดีขึ้นเลย

แต่แปลก...หลังจากวันนั้นเขาหายตัวเข้ากลีบเมฆไปอีกครั้ง ไม่โทร.มาหา ไม่แวะมารับไปข้างนอก การรับมือกับความเย็นชาห่างเหินคล้ายมีกำแพงน้ำแข็งโอบล้อมหัวใจไว้เช่นนั้น บางทีก็น่าเหนื่อยใจ เพราะเธอไม่รู้เลยว่าจะละลายปราการที่กางกั้นนั้นเข้าไปสู่หัวใจเขาได้อย่างไร

“ส่วนเหตุผลอีกข้อก็เป็นอย่างที่พี่นราเพิ่งบอกเมื่อกี้นี้ไงคะ ว่าโลกเป็นอย่างที่เราคิด ถ้าพี่คิดแต่ว่าถูกจับผิด พี่ก็จะอึดอัด แต่ถ้าพี่คิดว่าอีกฝ่ายสังเกตเพื่อจะได้ปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงให้พี่สบายใจ กับเหตุการณ์เดียวกัน คิดคนละอย่าง แต่ความสุขแตกต่างกันเป็นคนละเรื่องเลยนะ”

“ก็จริงนะ” ชายหนุ่มส่ายหน้าขันๆ “ยังไงต้องขอบใจนวลมากนะ วันนี้พี่ได้ข้อคิดดีๆเพียบเลย” เขาดูเวลา “นี่ก็ค่ำแล้ว พี่ไม่รบกวนเวลาของนวลดีกว่า วันนี้นอกจากค่าเสียหายที่พี่เกือบจะกินร้านของนวลเข้าไปตั้งครึ่งร้านแล้ว ต้องคิดค่าเสียเวลาที่มานั่งเป็นเพื่อนคุยกับพี่อยู่เป็นนานสองนานด้วยนะ”

นวลนรีส่ายหน้า “วันนี้พี่นรามาร้านนวลเป็นครั้งแรก ถือว่านวลเลี้ยงละกัน แต่คราวหน้ารับรองว่าจะชาร์จเต็มราคาแน่นอน ไม่ต้องห่วง อ้อ...พาหนูกานมาด้วยนะคะ จะได้เพิ่มยอดในบิลให้สูงเป็นสถิติของร้านไปเลย”

ลูกค้าคนสุดท้ายของร้านเลิกคิ้วนิดๆ เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ายืนกรานความตั้งใจ เขาจึงพยายามควานหารอยยิ้มจากซอกลึกที่สุดของหัวใจออกมาแต้มไว้บนใบหน้า “งั้นพี่ขอตัวกลับก่อน ไว้จะมากวนใหม่จ้ะ”

“เดี๋ยวค่ะ” นวลนรีนึกได้ หมุนตัวก้าวยาวๆไปที่เคาน์เตอร์ หยิบกล่องบรรจุคุกกี้และขวดแก้วใส่ขนมผูกริบบิ้นหลายชิ้นใส่ถุงกระดาษ แล้วนำมาส่งให้ชายหนุ่ม “ฝากขนมหวานไปให้หนูกานด้วยนะคะ จำได้ว่าคุณเพชรเคยบอกว่าหนูกานชอบทานหวาน นวลเลือกแบบหวานมากหน่อยให้ คิดว่าน่าจะถูกใจหลาน”

“ขอบใจแทนหนูกานด้วยจ้ะนวล” นราธิปรับถุงมาถือพลางก้มลงมองสำรวจขนมด้วยความสนใจ แล้วคำพูดถัดไปก็หลุดออกจากปากก่อนจะทันควบคุม“หนูกานคงดีใจแล้วก็ยกให้นวลเป็นอาคนโปรดอีกคนนึงในไม่ช้าแน่ๆ”

เอ่ยออกไปแล้วคำถามหนึ่งก็ดังขึ้นในใจอย่างอดไม่ได้ในเสี้ยววินาทีถัดไป

แล้วเขาล่ะ เขาจะยังเป็น ‘คุณพ่อ’ คนโปรดสำหรับกานติมาไปได้อีกนานแค่ไหน หรือบางทีเขาควรจะเริ่มทำใจได้แล้วว่า เวลาของเขากับเด็กหญิงที่รักเหมือนลูกสาวแท้ๆกำลังจะหมดลง...ในไม่ช้า!


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


ก็อ่านกันมา 19 ตอนแล้วเน้อ

ยังมีเรื่องให้ลุ้นกันอีกเพียบเลย

(หนังสือมี 40 ตอนค่ะ)

สิริณตั้งใจจะลงให้อ่านกัน 20 ตอน

แต่ช่วงสุดสัปดาห์นี้จะงานเยอะมาก

ขอยกยอดตอนที่ 20 ไปลงให้วันพุธหน้านะคะ (10 เมษา)

ขอยกบางส่วนจากตอนที่เหลือมาให้อ่านเรียกน้ำย่อยกันหน่อยน้า ฮิฮิ



การที่ดอกเตอร์นราธิป เทียมสุบรรณ ทายาทธุรกิจหมื่นล้านต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อครอบครองผู้หญิงคนหนึ่งว่าน่าสมเพชแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เขาทุเรศตัวเองจนแทบไม่กล้าสู้หน้าใคร เห็นจะเป็นตอนที่แพรวเพชรปฏิเสธความรับผิดชอบจากเขา! มิไยที่เขาเพียรอ้อนวอนอย่างไร แต่เธอบอกปัดอย่างไม่ไยดี เหตุผลง่ายดายนิดเดียว

‘เพชรจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นดีกว่าค่ะ เพชรไม่อยากให้พี่นราต้องมารับผิดชอบอะไรที่ไร้ค่าอย่างนี้ เราต่างก็เมาด้วยกันทั้งคู่’



* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *



“พี่เผ่า” หญิงสาวอุทานแทบไม่เป็นคำ เพราะผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าสลัดสูทอาร์มานี่ทิ้ง เปลี่ยนมาสวมยีนสามส่วนยาวแค่เข่ากับเสื้อโปโลสีขาวแบบคล้ายๆกัน ต่างกันตรงที่...

“หวงแฟน! นี่พี่เผ่าอายุเท่าไหร่คะ ถึงใส่เสื้อแบบนี้เนี่ย” แพรวเพชรอ่านข้อความบนเสื้อชายหนุ่มพลางรำพึงหน้าแดงซ่าน

“สวยดี พี่ชอบ” เขาตอบง่ายๆแล้วชี้เสื้อที่เธอสวมอยู่ “คำนี้เหมาะกับเพชร แฟนหวง-ง-ง” คนพูดลากเสียงล้อเลียนพลางทำสายตากรุ้มกริ่มประกอบ

“ไม่อายคนเขาหรือคะ” หญิงสาวกระมิดกระเมี้ยนถาม เสื้อแบบนี้ใส่คนเดียวยังไม่ค่อยสะดุดตานัก แต่ใส่เหมือนกันสองคน เดินไปไหนมาไหนย่อมต้องถูกมองแน่นอน “อายุก็ไม่ได้น้อยๆกันแล้วนะ”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่ว่าน่ารักดีออก สมัยเราเป็นแฟนกัน ตอนนั้นไม่มีเสื้อคู่แบบนี้ให้ใส่นี่นา”



* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *



เผ่าภาคินหลับตาลงอย่างสิ้นเรี่ยวแรง แม้เมื่อเขาลืมตาขึ้นกลับรู้สึกว่าโลก...ก็ยังคงมืดมิดเช่นเดิม ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะถามตัวเองว่า ตอนที่แพรวเพชรทิ้งเขาไปกับผู้ชายอีกคนเมื่อสี่ปีที่แล้ว มันคือความเจ็บปวดที่สุดแล้วมิใช่หรือ ไฉนวันนี้หัวใจเขาจึงยังไม่ชินกับความรู้สึกนั้นเสียที

เหมือนใครสักคนหยิบความเจ็บปวดทั้งโลกมาบดขยี้ลงบนผิวเนื้อเขาทีละตารางนิ้วไม่หยุดหย่อน จนมันแทบจะทับท่วมตัวอยู่แล้ว หนีไปทางใดก็ไม่ได้

นี่เขาต้องทำอย่างไรจึงจะพ้นจากความทรมานนี้ได้เสียที...ต้องทำยังไง...

หรือบางทีเขาอาจไม่มีโอกาสได้รื่นรมย์กับความสวยงามของโลกใบนี้ เพราะดวงตะวันไม่มีวันสาดแสงลงมาที่หัวใจเขาอีกต่อไปแล้ว

“เพชรรู้ใช่ไหมว่าพี่ไม่สนใจเรื่องพวกนั้น เพชรไม่จำเป็นต้องโกหกพี่นะ บอกความจริงพี่ได้ พี่รับได้จริงๆ”

แพรวเพชรขยับตัวออกห่างเล็กน้อย ยิ้มใส่ตาเขา สีหน้าเธอมีความสุขนักขณะยืนกราน “ขอบคุณค่ะที่รักเพชรขนาดนั้น เพชรดีใจจังที่ตัดสินใจไม่ผิดเลยที่แต่งกับพี่นราแค่ในนาม พี่เผ่าเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตเพชร ไม่ว่าจะวันไหนๆก็ตาม”

ชายหนุ่มไม่อาจทนฟังถ้อยคำโกหกหลอกลวงจากสตรีผู้เป็นที่รักได้อีกต่อไป เธอช่างใจร้ายนักที่ฆ่าเขาทั้งยังมีลมหายใจ กล้ายิ้มสดใสขณะโป้ปดคำโต อยากรู้นักว่าหัวใจเธอทำด้วยอะไร ทำไมแพรวเพชรจึงเลือดเย็นเพียงนี้



* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *


“ฉันเคยบอกแล้วไงว่าฉันเห็นแก่ตัวได้มากกว่าที่เคยทำ และวันนี้ฉันยินดีที่จะเป็นคนเลวนะ หากจำเป็นจะต้องทำอะไรรุนแรงบ้างเล็กๆน้อยๆเพื่อพังบริษัทของพ่อเธอให้มันล่มจมลงช้าๆ ฉันก็ยินดี จะได้สั่งสอนผู้หญิงโลเล หลายใจ แล้วก็มักง่ายอย่างเธอยังไงล่ะ”

ถ้อยคำประณามนั้นไม่ได้ทำให้หญิงสาวสะดุ้งสะเทือน แต่สิ่งที่ทำให้โกรธจนแทบขาดสติคือการที่เขาลากไอซีอินทิเกรทเต็ดลงมาเกี่ยวข้อง ทั้งที่พ่อและแม่ของเธอไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วยเลย

“คนเลว” เสียงต่ำสั่นระริกเค้นออกมาจากในคอ เมื่อมือเล็กบอบบางเงื้อขึ้นสูง

ชายหนุ่มชี้หน้าเธอแทนการปราม “เอาสิ ถ้าเธอตบ ฉันจะจูบ”

หญิงสาวไม่เคยเกลียดอะไรมากเท่ารอยยิ้มเยาะหยันบนใบหน้าของเผ่าภาคินในตอนนี้เลย

“คุณคงจะดูละครมากไปหน่อยนะคะ” เพียงจบประโยค แพรวเพชรก็ฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหน้าคล้ามคมอย่างแรง

เผ่าภาคินตวัดมือคว้าต้นแขนเธอไว้ กระชากเข้าไปประชิดแผงอกหนาแกร่งทันควัน ใบหน้าที่ก้มลงมาบอกความโกรธเกรี้ยวเกินควบคุม

“บังอาจมากนะ ผู้หญิงสกปรกอย่างเธอ กล้าดียังไงถึงตบหน้าฉันอย่างนี้!”

แพรวเพชรหัวเราะหึๆด้วยความขบขัน สบตาเขาท้าทาย ขณะมือลูบแผงอกเขาอย่างยั่วเย้า เปลี่ยนกิริยาจากหน้ามือเป็นหลังมือในพริบตา “ที่แท้พี่เผ่าก็ยังรัก ยังหลงเสน่ห์เพชรอยู่นี่เอง ไม่ต้องมาทำท่าว่าต้องจูบเพื่อลบคำสบประมาทหรอกค่ะ” หญิงสาวตบแก้มเขาเบาๆ พลางใช้อีกมือที่ว่างปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเนื้อบางของตนเอง ออกปากอย่างใจกว้าง “เอาไหม เพชรเสนอให้ฟรีๆเลย”

“น่าขยะแขยง ผู้หญิงโสโครก”

“ตั้งแต่หย่ากับสามี เพชรก็ร้างราเรื่องอย่างนั้นมานาน พี่เผ่าก็ทราบว่าของเคยกิน พอขาดหายไป มันก็โหยหาอยู่เหมือนกันนะ อีกอย่างเพชรเองก็ชักคิดถึงรสชาติเก่าๆของพี่เผ่าด้วย จะไม่ฉลองศรัทธาให้เพชรหน่อยหรือคะ” เธอไล้ปลายนิ้วไปตามรอยผ่าของเสื้อโปโลที่เขาสวมอยู่ รับรู้ด้วยสัญชาตญาณว่าการกระทำของเธอกำลังปลุกร่างกายบางส่วนของเขาให้ตื่นขึ้นช้าๆ

“ฉันไม่เอาตัวไปเกลือกกลั้วอาจมหรอก อีกอย่างฉันรักนวลนรีเกินกว่าจะทำอะไรที่เป็นการผิดต่อผู้หญิงของฉัน” ปากเขาไม่ตรงกับใจเลยสักนิด

แพรวเพชรแสร้งเบียดตัวเองกับเขามากขึ้น ทำกิริยาแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมา ทั้งที่หัวใจเจ็บปวดกับคำ ‘รัก’ ที่เขาเอ่ยต่อสตรีอื่น แต่หญิงสาวยังยิ้มได้ ไม่สนใจรับรู้ว่าหัวใจตัวเองยังเต้นอยู่หรือเปล่า “แหม...รื้อฟื้นความหลังกันเล็กๆน้อยๆ คุณนวลคงไม่ถือสาหรอก คิดเสียว่าเป็นการชดใช้ให้พี่เผ่าด้วยยังไงละคะ”

“แค่นี้น่ะเหรอจะชดใช้ให้ฉันได้ ไม่หรอกแพรวเพชร ถ้าจะชดใช้ให้กับสิ่งที่ฉันเสียไป ฉันต้องได้เห็นเธอเจ็บปวดมากกว่านี้เป็นสิบเป็นร้อยเท่า”

“ถ้าพี่ต้องการมากกว่านี้ ก็คงจะเหลือแต่ชีวิตของเพชรแล้วละค่ะ จะรับไปพร้อมกันวันนี้เลยไหมคะ เพชรยินดีจะตามพี่เผ่าไป ‘ขึ้นสวรรค์’ ทุกชั้นเลยนะ” แพรวเพชรยิ้มยั่ว



* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *



สำหรับอีกครึ่งเล่มที่เหลือ...

แน่นอนค่ะว่ามีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่คลี่คลาย

- ใครเป็นคนร้ายเมื่อ 4 ปีก่อน

- กานติมาเป็นลูกของพี่เผ่าจริงหรือ

- นราธิปเป็นคนดีหรือแค่ซาตานในคราบนักบุญ

- อิงอรุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อสี่ปีที่แล้วหรือไม่

- นราธิปกับนวลนรีจะลงเอยกันไหม

- เพชรจะให้อภัยพี่เผ่าอย่างไร ในเมื่อเขาร้ายกาจกับเธอและครอบครัวขนาดนั้น



ฝากติดตามหาคำตอบจากในเล่มนะค้า



นอกจากนี้...ก็ตามสัญญาค่ะ

ผู้ที่คอมเม้นต์ทุกคน สิริณจะเอาชื่อมาจับสลากแจกหนังสือ

ยิ่งคอมเม้นต์มาก ก็ยิ่งมีสิทธิ์มาก

แจกสนิมดอกรักทั้งหมด 5 เล่มค่ะ



ชวนเพื่อนๆ ตามไปดูผลการจับสลากที่แฟนเฟจของสิริณนะคะ

search หาเพจ “สิริณ แม่มณี เวฬา” ในเฟซบุ๊ก

และหากจะกดไล้ค์กันคนละทีเบาๆ ก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง



สำหรับผู้ที่ไม่ได้รางวัลหนังสือฟรี

ไม่ต้องเสียใจไปค่ะ

สนิมดอกรัก จะวางแผงที่งานหนังสือวันที่ 7 เมษาฯ

ท่านไหนไม่สะดวกไปงาน

ฝากสิริณซื้อได้นะคะ รับส่วนลด 15% เท่าในงานเลย

(ราคาเต็ม 345 ลดเหลือ 294 บาท)

สิริณจะจัดส่งหนังสือให้หลังงานหนังสือจบค่ะ

จัดส่งให้ทั่วประเทศได้เลยค่ะ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ si.rin(แอท)hotmail.com ค่ะ

กำหนดปิดรับฝากวันที่ 7 เมษาฯนะคะ

เพราะต้องรวบรวมชื่อไปซื้อวันสุดท้ายของงานหนังสือฯ (วันที่ 8)



หรือ...หากท่านไหนตั้งใจจะไปอุดหนุนด้วยตัวเอง

สิริณจะไปงานหนังสือประจำที่บูธร้านนายอินทร์

Q12 โซน C ชั้น 2 มุมสำนักพิมพ์อรุณ

วันที่ 7 และ 8 เมษายน ตั้งแต่ 12.00 น.เป็นต้นไป

แวะไปซื้อหาหนังสือ หรือจะแค่ไปทักทายกันก็ได้นะค้า ^^



ส่วนท่านที่อยู่ต่างประเทศ

เดี๋ยวสนิมดอกรักมี e-book ให้อ่านกันแน่นอน อดใจรออีกนิดนะค้า



ขอบคุณมากๆที่ติดตามผลงานกันเรื่อยมา

และหวังว่าจะเมตตากันตลอดไปนะคะ ^_______^



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2556, 15:56:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2556, 15:56:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 2050





<< ตอนที่ ๑๘   ตอนที่ ๒๐ (ลงให้อ่านเป็นตอนสุดท้าย) ฝากติดตามอีก "ครึ่งเ่ล่ม" ที่เหลือในหนังสือค่ะ >>
สิริณ 3 เม.ย. 2556, 15:59:20 น.
จริงๆตอนนี้ต้องโพสต์ตั้งแต่เมื่อวานเนอะ
แต่ไปงานหนังสือกลับมา หมดสภาพสุดๆ
เลยยกยอดมาโพสต์วันนี้ค่ะ

ใครที่เคยคอมเม้นต์ สนิมดอกรัก กับสิริณ
อย่าืลืมไปตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีรับหนังสือฟรีที่เพจของสิริณนะคะ
เผื่อคนคนนั้น อาจจะเป็นคุณก็ได้ ^____________^

เกือบสองเดือนที่ผ่านมา
สนิมดอกรักได้ขึ้นเป็นนิยายยอดนิยมอันดับสามเลย
ขอบคุณทุกๆคนมากค่ะ ที่ให้การต้อนรับที่อบอุ่นเสมอมา
ดีใจจริงๆ ที่ได้รู้จักนักอ่านที่น่ารักเช่นนี้ ^^


ไรน้ำ 3 เม.ย. 2556, 16:18:31 น.
อยากได้ๆ ตอนนี้มีแผนก่อการรักและบุหงาฯ เพิ่งได้เป็นของขวัญวันเกิดจากเพื่อนเมื่อวาน รอเรื่องนี้ค่ะ อยากทราบว่าอีบุ๊คจะออกช่วงไหน เพราะเดินทางบ่อยเก็บในแท็บเล็ตจะได้ไม่ต้องขนเยอะ หยิบอ่านได้บ่อยๆ ด้วย ขอให้ขายดิบขายดีค่ะ


ไรน้ำ 3 เม.ย. 2556, 16:42:07 น.
เื่มื่ออ่านตัวอย่างตอนที่เหลือจบ อยากบอกไรเตอร์ว่า "ไรเตอร์ค่ะ ช่างทำกันได้นะคะ ทำไมเอามายั่วกันอย่างนี้ละคะ เอาไม้มาสอยด่วน ค้างที่สุด"


lromchat 3 เม.ย. 2556, 16:58:42 น.
http://home.love-stories.net/images/emo/sosad.gif

ไม่มีอีบุ๊คคงอดอ่านแน่เลย


หยองตอด 3 เม.ย. 2556, 21:54:39 น.
อ่านแล้วอยากรีบพุ่งตัวไปที่ร้านหนังสืออย่างไว


lookAme 3 เม.ย. 2556, 23:50:36 น.
จะรอตามต่อในหนังสือค่ะ^^


heartlogue 4 เม.ย. 2556, 06:57:18 น.
ครึ่งเรื่องดูเหมือนเรื่องกำลังผ่านไปด้วยดี แต่ทำไมครึ่งที่เหลือดราม่าแรงมาก


หมูอ้วน 4 เม.ย. 2556, 16:25:40 น.
เหลือปมเยอะมาก ๆ เลยค่ะ


รอให้เป็นเล่ม 8 เม.ย. 2556, 20:04:38 น.
ไปงานหนังสือมาแล้วค่ะวันสุดท้ายตอนเย็นๆ
สนิมดอกรักหมดอ่ะ เสียใจที่สุด!


supayalak 9 เม.ย. 2556, 17:07:41 น.
ลึกลับซับซ้อน ทายไม่ถูกอ่ะ แต่อยากอ่านนนนนฉบับเต็มอ่ะ


ketza 1 ต.ค. 2556, 10:08:54 น.
ค้าง 555 รอเป็นเล่มดีก่า อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account