เล่ห์รักพรหมลิขิต
พรหมลิขิตกำหนดความรัก แต่ความรักของเขาต้องใช้เล่ห์เข้ามาช่วย เพื่อครอบครอบหัวใจเธอ
Tags: พรหมลิขิต

ตอน: เข้าใจผิด (100%)

ณ ไร่ภูคำนึง วันนี้เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อวันวิวาข์วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาบิดาที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หน้าระเบียงตั้งแต่เช้า
“ลูกรินทร์หายไป!?” พ่อเลี้ยงราเชนทร์ตกใจ ลดหนังสือพิพม์ลงทันที
“ค่ะ! วันนี้สาข์ไม่เจอน้องตั้งแต่เช้า พอให้คนออกตามหา ก็เจอแต่รถจักรยานของน้อง นอนล้มอยู่ปากทางเข้าไร่ พร้อมจดหมายฉบับนี้ คนงานที่เจอบอกว่าเสียบอยู่ที่แถวแฮนด์รถค่ะ”
พ่อเลี้ยงราเชนทร์รีบหยิบจดหมายจากมือวันวิสาข์แล้วเปิดอ่าน เขากวาดสายตาไปตามตัวอักษรในจดหมายรวดเร็ว
“ไอ้เสือ!! มึง!!” พ่อเลี้ยงโมโห ขยำจดหมายปาทิ้งลงพื้นทันที วันวิสาข์ตกใจที่บิดาโกรธจัดเช่นนั้น แต่อาการห่วงน้องมีมากกว่า
“เขาเขียนว่าไงคะบ้างคะคุณพ่อ?”
“ไอ้เสือมันอยากลองดี มันบอกว่าให้ไปหามันที่รีสอร์ตเวียงจัทร์ ถ้าอยากได้ลูกรินทร์คืน และยังสั่งไม่ให้เอาอาวุธทุกชนิดไปด้วย ไม่งั้นมันไม่รับรองความปลอดภัยของลูกรินทร์ มันอยากลองดีกับกู ไอ้เสือ!”
วันวิสาข์อึ้ง ไม่คาดคิดว่าเรื่องเมื่อคืน จะทำให้เสือกล้าเอาน้องสาวของตนเป็นเครื่องมือในการต่อรอง

ทางด้านไร่แสงตะวันก็เช่นกัน พ่อเลี้ยงสิงห์อ่านจดหมายที่คนงานเอามาให้ บอกว่าออกตามหาเสือไม่เจอ เจอแต่รถที่ถูกจอดทิ้งไว้บริเวณที่ดินเจ้าปัญหา โดยมีจดหมายสอดทิ้งไว้ที่กระจกรถ พ่อเลี้ยงสิงห์อ่านจดหมายด้วยความโมโห
“ไม่คิดว่าเพราะเรื่องเมื่อคืน จะทำให้ไอ้พ่อเลี้ยงราเชนทร์มันกล้าจับตัวไอ้เสือไปต่อรอง ลอบกัดจริงๆ!” พ่อเลี้ยงสิงห์ขบกราม
“แล้วเสืออยู่ไหนคะตอนนี้?” แม่เลี้ยงการะเกดถาม
“มันบอกว่าถ้าอยากได้เสือคืน ให้ไปที่รีสอร์ตเวียงจันทร์ ห้อง 0000 และยังสั่งไม่ให้เอาอาวุธทุกชนิดไปด้วย” พ่อเลี้ยงตอบภรรยา และหันไปสั่งการลูกน้องที่อยู่บริเวณนั้น
“เตรียมคนของเราให้พร้อมเดี๋ยวนี้!”

วารินทร์พยายามลืมตา แต่ก็ลืมไม่ขึ้น จึงพยายามขยับร่างกายแต่ก็เหมือนมีอะไรหนักๆมาทับอยู่บนตัว หญิงสาวพยายามดิ้น แต่ก็ขยับได้เพียงเล็กน้อย ร่างเล็กพยายามส่ายไปมาอีกครั้ง ทำให้ของหนักบนตัวเลื่อนลงไปได้เล็กน้อย วารินทร์จึงพยายามลืมตาอีกครั้งก็เจอกับฝ้าเพดานสีเหลืองนวล หญิงสาวกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตา รู้สึกมึนงงเพราะไม่คุ้นกับสถานที่แห่งนี้ คิ้วเรียวขมวด เมื่อหันไปด้านข้าง ก็ผวาตกใจทันที
“กรี๊ด!!” หญิงสาวพบว่าสิ่งที่ทับอยู่บนตัวเธอคือผู้ชายตัวหนักคนหนึ่ง ซึ่งนอนไม่ได้สติอยู่ข้างเธอ และยังนอนคว่ำทับเธอไปเกือบครึ่งตัว ซ้ำร้าย เขานอนหันหน้าชุกซอกคอขาวผ่องของเธอพอดี
“กรี๊ด!! ไอ้บ้า!!ปล่อยนะ!!” หญิงสาวดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องและดิ้นอย่างรุนแรงทำให้ชายคนนั้นลืมตาตื่นขึ้นมา อาการปวดหัวเนื่องจากโดนของแข็งก็ประทุขึ้น เจ็บจนเขาต้องกุมท้ายทอยเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
“โอ้ย!!เจ็บ” เสียงชายข้างๆร้องครวญ ทำให้หญิงสาวหันมามองเต็มตา
“พี่เสือ!!”
“น้องรินทร์!!” ทั้งคู่ตกใจที่มาเจอกันในสถานที่ไม่คุ้นตาแห่งนี้ แถมยังอยู่บนเตียงเดียวกันอีก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เสืองง คำพูดของเสือทำให้วารินทร์งงเช่นกัน
“ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่? แล้วนี่เรา..” วารินทร์ตกใจมาก ก้มมองสำรวจตัวเอง ชุดประโปรงสีขาวติดกระดุมข้างหน้ายังอยู่ในสภาพเรียบร้อย หญิงสาวก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา
“พี่จำได้ว่าพี่โดนทำร้าย ไม่รู้ใครตีหัวพี่ พอตื่นมาก็เห็นน้องรินทร์ตะโกนแล้ว แล้วน้องรินทร์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ?”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ หนูจำได้ว่า หนูกำลังปั่นจักรยานออกไปดูพวกคนงานที่ไร่ พอเลยออกมาที่ป้ายข้างหน้าไร่ ก็ไม่รู้ใครเอาอะไรมาปิดจมูกไว้ ตื่นขึ้นมาก็อยู่ที่นี่แล้วค่ะ”
“ใครกันนะ กล้าทำร้ายเราสองคน นี่ถ้าทำอะไรมากกว่านี่ล่ะ” เสือโมโห นึกโกรธที่คนชั่วลงมือทำร้ายหญิงสาวด้วย
“ที่นี่ที่ไหนกันนะ?” วารินทร์พึมพำ และขยับตัวลงจากเตียง มองดูข้าวของเครื่องใช้ เผื่อจะมีเขียนอะไรติดไว้ เสือเห็นดังนั้นจึงขยับลุกขึ้นบ้าง เพื่อช่วยสำรวจบริเวณห้องนี้
“อ้อ!เจอแล้วค่ะ! ที่นี่รีสอร์ตเวียงจันทร์ค่ะ” วารินทร์ตะโกนบอกด้วยความดีใจ
“ที่นี่ไม่มีทางออกเลย ประตูหน้าต่างก็ล็อค เหมือนมีใครล็อคไว้ข้างนอก”เสือบอก
“อ้าว! แล้วเราจะออกไปกันยังไงล่ะคะ?” วารินทร์กังวล
“ ดีนะที่ยังเปิดแอร์ไว้ให้ ไม่งั้นขาดอากาศหายใจแน่เลย” เสือพูดพร้อมกับสำรวจหน้าต่าง
‘บางที เราอาจจะต้องทุบหน้าต่าง’ เสือคิด แต่ฉับพลันเขาเห็นกลุ่มคนสองกลุ่มกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ ขบวนรถมุ่งหน้าใกล้เข้ามา เสือจำได้ว่ากลุ่มหนึ่งเป็นพวกคนของเขา เสือรู้สึกดีใจ กำลังจะเรียกวารินทร์ที่เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อสำรวจหาทางออก แต่ต้องชะงัก เพราะกลุ่มคนที่ตามมาคือคนของไร่ภูคำนึง เขาจำพ่อเลี้ยงราเชนทร์ที่นั่งอยู่บนรถจิ๊ป พ่อของหญิงสาวได้ ชายหนุ่มลอบสังเกตการณ์ทันที
เมื่อรถทั้งสองหยุดที่ปากทางเข้าไร่เรี่ยกัน ต่างฝ่ายต่างเข้าประทะฝีปากกันทันที
“นี่ถ้าไม่เห็นแก่ลูกสาวผม รับรอง ผมเอาปืนมายิงไอ้เสือแน่” พ่อเลี้ยงราเชนทร์เริ่มก่อน เพราะในจดหมายของทั้งคู่สั่งห้ามเอาอาวุธมาด้วย
“คิดว่าผมก็ไม่กล้ารึไง ถ้าไอ้เสือเป็นอะไรไป ผมก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน” พ่อเลี้ยงสิงห์ไม่ยอมแพ้ แต่ทั้งคู่ไม่ทันได้ฉุกคิดใดๆ อารามเป็นห่วงบุตรของตัวเอง จึงต่างคนต่างรีบจะเดินเข้าไปยังห้องที่ระบุไว้ในจดหมาย
“แกไปหาทางนี้” พ่อเลี้ยงราเชนทร์สั่งการลูกน้อง
“พวกแกบางส่วนตามไป” พ่อเลี้ยงสิงห์สั่งการลูกน้องตามประกบ
เมื่อเห็นบิดาของทั้งคู่กำลังหาห้องที่โดนจับขังอยู่ เสือจึงตัดสินใจวางแผนเอาคืนพ่อเลี้ยงราเชนทร์ทันที ชายหนุ่มถอดเสื้อเชิ้ตออก แล้วเดินตรงไปที่เด็กสาวที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว
“อุ้ย! พี่เสือ..” วารินทร์ตกใจที่เห็นชายหนุ่ม
“ว้าย!!” วารินทร์ร้องได้แค่นั้น ก็โดนจับเหวี่ยง ร่างบางล้มลงบนเตียงกว้าง แต่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นตั้งตัว เสือก็จับชุดสวยแล้วกระชากด้วยความแรงเพียงเล็กน้อย กระดุมเม็ดเล็กกระเด็นออกไปคนละทาง ทำให้เห็นรอยแยกบริเวณหน้าอก วารินทร์รีบคว้าเสื้อไม่ให้เปิดออกไปมากกว่านี้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรดั่งใจนึก ริมฝีปากของชายหนุ่มก็พุ่งเข้ามาที่ลำคอของหญิงสาว เสือดูดที่ลำคอขาวผ่องอย่างแรง ไม่ช้า ก็เกิดรอยช้ำสมใจ หญิงสาวตกใจ ผวาจะลุกออก แต่เสือที่คร่อมร่างไว้ ก็ตามติดเป้าหมายคือซอกคอของหญิงสาว
“กรี๊ดด!!ช่วยด้วย!” วารินทร์ร้องตะโกนด้วยความตกใจและช็อคกับการกระทำของเสือ
เสียงกรีดร้องของวารินทร์ทำให้พ่อเลี้ยงราเชนทร์และพ่อเลี้ยงสิงห์หยุดอยู่กับที่ พ่อเลี้ยงราเชนทร์ตัวเย็นเฉียบ เมื่อจำได้ว่าเสียงที่ร้องให้ช่วยคือลูกสาวตัวเอง
“ไปทางนี้ เร็ว!” พ่อเลี้ยงราเชนทร์สั่งและวิ่งออกไปตามเส้นทางที่ได้ยินเสียง ทั้งหมดที่เหลือจึงวิ่งตามอย่างไม่ลดละ
“ปัง!!” เสียงถีบประตูเปิดออก ภาพที่เห็นสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนที่เข้ามา ภาพของเสือที่เปลือยกายท่อนบน คร่อมร่างของวารินทร์ ที่บัดนี้เสื้อผ้าขาดวิ่นกระจุยกระจาย เสือใช้ร่างกายบังหญิงสาวไว้เล็กน้อย เพื่อให้เห็นร่องรอยที่ซอกคอ พ่อเลี้ยงราเชนทร์แทบเป็นลม เมื่อภาพที่เห็นสร้างความเชื่อให้กับคนที่พบว่า บัดนี้สาวน้อยตรงหน้าได้ตกเป็นของผู้ชายที่อยู่บนร่างเธอไปแล้ว ลูกน้องหลายคนถูกกันให้ออกไปข้างนอกจากคนชื่อชุน
“ไอ้เสือ!! มึง!!” พ่อเลี้ยงราเชนทร์จะเข้าไปต่อย แต่ถูกพ่อเลี้ยงสิงห์เข้าขวางไว้ ทำให้เข้าไปไม่ได้
“คุณพ่อ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” หญิงสาวผวาลุกขึ้นด้วยน้ำตาคลอหน่วย แต่ถูกเสือรวบเอวบางไว้
“ไม่ใช่อะไรกันที่รัก? เมื่อภาพที่เห็นมันฟ้องอยู่” เสือยิ้มเยาะให้พ่อเลี้ยงราเชนทร์
“ไอ้เสือ! ปล่อยลูกกูเดี๋ยวนี้นะโว้ย!” พ่อเลี้ยงราเชนทร์พยายามจะพุ่งเข้าไป แต่โดนพ่อเลี้ยงสิงห์ล็อคแขนเอาไว้
“เอ๊ะนี่! ปล่อยฉันนะ!ปล่อยสิ!บอกให้ปล่อยไง!” หญิงสาวดิ้นหนีจากมือที่เกาะเอวอยู่ แต่จะพยายามแกะเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล กลับยิ่งทำให้เสือรัดเอวบางแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“แหม...คุณพ่อตา อย่าโมโหไปเลย ยังไงผมก็รับผิดชอบอยู่แล้ว”
“แก!ไอ้เสือ! ฉันจะเอาแกเข้าคุกให้ได้!!” พ่อเลี้ยงราเชนทร์โมโหจัด เสือยิ้ม
“เชิญเลยครับ ผมอาจจะติดคุกสักสิบปียี่สิบปี แต่คนที่อยู่ที่นี่เห็นกันหมดแล้ว ว่าน้องรินทร์เป็นเมียผม พ่อเลี้ยงก็เป็นพ่อตาผม แถมเผลอๆพ่อเลี้ยงอาจจะต้องเลี้ยงลูกให้ผมด้วยด้วย เพราะน้องรินทร์อาจจะเริ่มท้องตั้งแต่ตอนนี้ก็ได้” วารินทร์ชะงัก หันไปมองที่เสือกล้าพูดจาโกหกคำโต ทุกคนที่อยู่ก็คาดไม่ถึง โดยเฉพาะพ่อเลี้ยงราเชนทร์ที่ตาเหลือกจวนจะเป็นลม
“ไม่ใช่! นายโกหก!ทำไมต้องโกหกด้วย! ทั้งๆที่เราไม่ได้....”
“ผู้ชายกับผู้หญิงที่มีอะไรกันโดยไม่ได้ป้องกัน ก็ต้องท้องอยู่แล้วน้องรินทร์” เสือรีบพูดตัดหน้า
“ไม่ใช่!” วารินทร์แทบเสียสติที่เสือโกหกปั้นน้ำเป็นตัว น้ำตาไหลเริ่มไหลมาอาบแก้ม “ไม่ใช่! นายโกหก! ไม่ใช่นะคะคุณพ่อ!ฮือ..”
ใจเสือกระตุกวูบที่เห็นวารินทร์โกรธจนร้องไห้เมื่อไม่มีใครคิดเชื่อเธอ แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว เสือจึงเบือนหน้าหนีแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากร่างเล็กนี้ พ่อเลี้ยงราเชนทร์ถึงกับทรุดลงที่พื้นเมื่อเห็นลูกสาวอับอายและร้องไห้ ก่อนเอ่ยปากด้วยความยากเย็น
“ฉันไม่คิดว่าเรื่องที่ดิน จะทำให้เกิดเรื่องร้ายยังงี้” พ่อเลี้ยงราเชนทร์พึมพำ “ในเมื่อมันมาถึงจุดนี้แล้ว แกจะเอายังไงไอ้เสือ เพราะฉันก็ไม่อยากให้ข่าวแพร่กระจายออกไป ไม่อยากให้ใครรับรู้ ฉันไม่อยากให้ลูกสาวฉันอับอายไปมากกว่านี้แล้ว”
“ผมจะแต่งงานกับน้องรินทร์ เพื่อรับผิดชอบครับ!” เสือตอบด้วยความมุ่งมั่น ทุกคนอึ้ง
“ไม่ได้! ฉันไม่อนุญาต!”พ่อเลี้ยงราเชนทร์ร้อง “แกต้องการอะไร บอกมา... แต่ขออย่างเดียว อย่าแต่งงานกับลูกรินทร์ อย่าทำให้ลูกสาวฉันเสียชื่อไปมากกว่านี้ ฉันขอร้อง”
“ครั้งก่อน ผมคิดอยากจะได้ที่ดินคืนจากพ่อเลี้ยง ผมพยายามหาทาง แต่ก็ไม่สำเร็จ แต่ ณ ตอนนี้ โชคกลับเข้าข้าง แต่ผมกลับเปลี่ยนใจ ผมไม่อยากได้ที่ดินแล้ว ผมอยากได้น้องรินทร์มากกว่าที่ดินผืนนั้นอีกครับ”
“ไอ้เสือ! มึง!” พ่อเลี้ยงราเชนทร์ลุกขึ้น พยายามจะเข้าไปทำร้ายเสืออีกครั้ง แต่ก็โดนล็อคตัวอีก
“พ่อเลี้ยงราเชทร์หยุดเถอะ!” พ่อเลี้ยงสิงห์อดไม่ได้จึงพูดขึ้น “ในเมื่อมันเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ไอ้เสือมันก็จะรับผิดชอบไม่ไปไหน หากพ่อเลี้ยงจะเอามันเข้าคุก ผมก็จะให้ลูกน้องโทรเรียกตำรวจให้มาที่เกิดเหตุโดยเร็ว เพราะผมเข้าใจ หากลูกผมเป็นผู้หญิงแล้วเจอเหตุการณ์ยังนี้ ผมก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน แต่ถ้าพ่อเลี้ยงคิดถึงเรื่องชื่อเสียง กลัวชาวบ้านรู้ว่าลูกสาวตกเป็นเมียไอ้เสือ ผมก็ยินยอมจะให้ไอ้เสือรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน แต่ถ้าไม่ต้องการก็สุดแล้วแต่พ่อเลี้ยงเถอะ!”
พ่อเลี้ยงราเชทร์ได้ยินดังนั้นก็หันไปมองที่เสือและวารินทร์ บรรยากาศเริ่มตึงเครียด ได้ยินแต่เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของวารินทร์ ทุกคนนิ่งเงียบ หันมามองที่พ่อเลี้ยงราเชนทร์เป็นจุดเดียวกันเพื่อรอคำตอบ เวลาผ่านไปแต่ไม่มีใครปริปากพูดขึ้น เหมือนกำลังใช้ความคิด ในที่สุดพ่อเลี้ยงราเชนทร์ก็ตัดสินใจเอ่ยขึ้น
“เอาล่ะ..เพื่อแลกกับชื่อเสียงของลูกรินทร์ ผมอยากให้ทุกคนในห้องนี้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ไม่ให้เพร่งพรายออกไป โดยแลกกับที่ดินครึ่งหนึ่งตรงห้วยไร่ โดยผมจะทำเอกสารสัญญาให้กับไร่แสงตะวันเป็นลายลักษณ์อักษร นับจากนี้ไปจะต้องไม่มีใครพูดถึงเหตุการณ์นี้อีก ตกลงไหม?”
“แล้วน้องรินทร์ล่ะ?” เสือถาม
“แกก็ต้องไม่มายุ่งกับเธออีก ถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” พ่อเลี้ยงราเชนทร์ตอบ
“ผมไม่ยอม น้องรินทร์เป็นของผมแล้ว พ่อเลี้ยงจะทำยังงี้ไม่ได้”
“ไอ้เสือ!!” ทั้งพ่อเลี้ยงราเชนทร์และพ่อเลี้ยงแสงตะวันอึ้ง ที่เสือคิดอยากแต่งงานกับวารินทร์ ทั้งที่ไม่มีวี่แววมาก่อน
“ผมจะหมั้นกับน้องรินทร์ไว้ก่อนก็ได้ครับ เพื่อรอเวลาน้องรินทร์เรียนจบก่อน แล้วจึงจะประกาศแต่งงานกับเธอ เพื่อให้คนรับรู้ว่าผมจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น”
“ฉันไม่ต้องการแต่งงานกับคุณ!” วารินทร์หยุดร้อง หันไปพูดด้วยแววตาแดงก่ำ “เราไม่ได้รักกัน”
“ตอนนี้น้องรินทร์อาจจะยังไม่รักพี่ ก็ไม่เป็นไร คราวหน้าพี่รับรอง น้องรินทร์จะต้องรักพี่ เพราะพี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้น้องรินทร์เป็นของพี่ ทั้งตัวและทั้งใจแน่นอน” เสือกระซิบบอก ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความรู้สึกต่างกัน คนหนึ่งมองด้วยความมุ่งมั่น แต่อีกคนมองด้วยความเกลียดชัง ทั้งสองจ้องกันแบบไม่มีใครยอมใคร
“ก็ได้! ฉันจะให้หมั้นกันไว้ก่อน แต่อาจจะไม่ได้ทำพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการ แค่ให้ส่งแหวนและทำเอกสารสัญญาการหมั้น เพื่อรอเวลาให้ลูกรินทร์เรียนจบ ส่วนฉันจะให้คนส่งเอกสารมาให้ที่ไร่แสงตะวันเรื่องที่ดินและเรื่องลูกรินทร์ แกสัญญาได้ไหมไอ้เสือ ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับลูกรินทร์ก่อนลูกฉันเรียนจบ และให้ทุกคนที่ไร่แสงตะวันเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”
เสือพยักหน้ารับ “ได้ครับ ผมรักษาสัญญาอยู่แล้ว ผมหวังว่าพ่อเลี้ยงคงไม่บิดพลิ้วเหมือนที่ผ่านมานะครับ”
“เสือไม่ต้องกังวลลูก เรื่องใหญ่ขนาดนี้ หากพ่อเลี้ยงราเชนทร์ไม่ทำตามที่พูด ชื่อเสียงลูกสาวพ่อเลี้ยงคงเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน ใช่ไหมพ่อเลี้ยงราเชนทร์?” พ่อเลี้ยงสิงห์หันไปถาม
“ได้! ครั้งนี้เพื่อลูกรินทร์ ฉันรับรองได้”
เมื่อเห็นทุกอย่างเป็นไปตามที่หวังไว้ เสือจึงคลายมือจากเอววารินทร์ออก
“คุณพ่อขา..” วารินทร์โผเข้ากอดบิดา พ่อเลี้ยงราเชนทร์กอดลูกสาวไว้แน่นลูบผมอ่อนสวย
“เรากลับกันเถอะลูก ไม่มีอะไรแล้ว” วารินทร์สะอื้นกลางอกบิดา
เสือมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหดหู่และเจ็บปวด ถามตัวเองว่าเขาคิดถูกใช่ไหมที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เพิ่งคิดไว้ เขาสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เขาได้ที่ดินกลับคืน และได้หมั้นกับวารินทร์อย่างคาดไม่ถึง แทนที่เขาจะยิ้มด้วยความดีใจ แต่กลับทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดกับน้ำตาของวารินทร์ และแววตาที่เปลี่ยนมาเกลียดเขาแทน
หลังจากทุกอย่างคลี่คลายลง ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับไป เพื่อรอเวลาในการจัดการเอกสารสัญญาในวันพรุ่งนี้ เสือและพ่อเลี้ยงสิงห์ก็ออกจากรีสอร์ตเวียงจันทร์มุ่งหน้ากลับเข้าไร่แสงตะวัน เมื่อขบวนรถเข้ามาที่บ้าน ก็พบกับแม่เลี้ยงการะเกดซึ่งนั่งรออยู่ที่ระเบียงด้วยความกระวนกระวายใจก่อนแล้ว เมื่อเห็นเสือกลับมา แม่เลี้ยงการระเกดก็ลุกขึ้นผวาเข้าหาเสือด้วยความดีใจ
“เสือ!” แม่เลี้ยงการระเกดกอดเสือไว้ “เป็นอะไรหรือเปล่าลูก? พวกมันทำอะไรเสือไหม?”
“ปล่าวเลยครับคุณแม่ ผมไม่เป็นอะไรเลยครับ”
“คุณพ่ออ่านจดหมายว่าลูกถูกคนที่ไร่ภูคำนึงจับตัวไป แม่ใจไม่ดีเลย แล้วลูกไปอยู่ที่เวียงจันทร์รีสอร์ตได้ยังไง?”
“ผมจำได้ว่าคร่าวๆว่า ผมขับรถไปดูที่ดินแถวห้วยไคร้ พอนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก็ไม่รู้ว่าใครเข้ามาตีหัวด้านหลัง ผมสลบไป พอตื่นขึ้นมาก็มาอยู่ที่เวียงจันทร์รีสอร์ตแล้วครับ”
“พวกมันทำร้ายเสือเหรอ? มันน่าแปลกนะ” พ่อเลี้ยงสิงห์สงสัย
“ครับ..ผมก็ว่ามันแปลก”
“แปลกยังไงคะคุณ? ทางไร่ภูคำนึงทำร้ายเสือ ก็เพราะวันนั้น เราไปเอาเรื่องเขาที่เขาโกงที่ดินถึงที่ไร่ภูคำนึง เขาคงจะโกรธ เลยทำร้ายเสือ มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกนี่คะ ความจริงเราน่าจะแจ้งความให้ตำรวจจับด้วยซ้ำ” แม่เลี้ยงการะเกดไม่เห็นด้วย
“มันแปลกก็ตรงที่ พอไอ้เสือมันตื่นขึ้นมา ดันมีลูกสาวพ่อเลี้ยงนอนอยู่ข้างๆมันด้วยน่ะสิ”
“อะไรนะ!?” แม่เลี้ยงการะเกดตกใจ “นี่มันอะไรกันนี่?”
“ใช่ครับ..และที่สำคัญ น้องรินทร์ลูกสาวคนเล็กของพ่อเลี้ยง ก็โดนยาสลบด้วยเหมือนกัน แถมจำอะไรไม่ได้ว่ามาอยู่ที่เวียงจันทร์รีสอร์ตได้ยังไง ซึ่งเหตุการณ์เหมือนของผมเลยครับ”
“งั้นก็แสดงว่าต้องมีคนอื่น ที่ไม่ใช่คนของไร่ภูตะวันทำร้ายเสือ เพราะตอนที่พ่อมาถึงที่รีสอร์ต พ่อเลี้ยงราเชนทร์ก็ดูเหมือนจะโมโหมากที่ลูกสาวถูกจับตัวไป แถมบอกว่าถ้าเอาปืนมาได้ ก็จะไม่ลังเลเลย แต่ก็ห่วงลูกสาวจะโดนทำร้ายมากกว่า ไม่ได้การละ พ่อจะส่งคนไปสืบเรื่องนี้” พ่อเลี้ยงพูดกับเสือ
“ขอบคุณครับ”
“แล้วหนูรินทร์เป็นยังไงบ้างคะ?” แม่เลี้ยงการระเกดเอ่ยถาม “คงจะตกใจมากสินะคะ แถมโดนใครไม่รู้ลอบทำร้ายอีก ฉันเคยเจอหนูรินทร์บ่อยๆ แกเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี ไม่เคยเอาเปรียบใคร ซึ่งนิสัยต่างจากพ่อตัวเองลิบลับเลยนะคะ”
พอได้ยินคำพูดแม่เลี้ยง พ่อเลี้ยงสิงห์ก็หันมามองเสือและยิ้มขำ
“ไม่เป็นไรหรอกมั้ง แค่คงจะตกใจ ที่เรื่องมันดันพลิก ไอ้เสือมันดันวางแผน จ้องจะเอาลูกสาวเขามาทำเมียอยู่นี่ ฮ่าๆๆ”
“อะไรนะ!!?” แม่เลี้ยงการระเกดตกใจแทบเป็นลม หันไปจ้องเสือ ที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหูแล้ว “นี่มันเรื่องอะไรกัน? เสือเล่าให้แม่ฟังเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

หลังจากฟังเรื่องราวจากปากเสือแล้ว เมื่ออยู่กับพ่อเลี้ยงสิงห์ตามลำพัง แม่เลี้ยงการะเกดจึงเอ่ยถาม
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเสือคิดจะแต่งงานกับหนูรินทร์ สองคนนี้เพิ่งจะเคยรู้จักกัน ความจริงเสือไม่น่าคิดวางแผนลากหนูรินทร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลยนะคะ”
“คุณเคยได้ยินรักแรกพบไหม มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าคุณเห็นหน้าไอ้เสือตอนที่อยู่ที่เวียงจันทร์รีสอร์ตเหมือนผมล่ะก็ คุณจะรู้ได้เลยว่า ไอ้เสือมันรักหนูรินทร์เข้าให้แล้ว โดยที่มันไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ จริงอยู่ที่มันอยากได้ที่ดินคืน แต่พอได้มาจริงๆ มันก็คงจะรู้ว่า มันอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนของไร่ภูคำนึงอีก นี่แหละ มันถึงกล้าขอหนูรินทร์กับพ่อเลี้ยงราเชนทร์ยังไงล่ะ” พ่อเลี้ยงราเชนทร์ขำ
“โอ้ย! ทำไมเสือถึงกล้าดีเดือดอย่างนี้นะ ถ้าพ่อเลี้ยงราเชนทร์มีปืนล่ะก็ เสือคงโดนยิงตายไปแล้ว ไม่รู้ว่าทางนั้นจะคิดยังไงบ้างนะคะ”
“ก็ต้องคอยดูพรุ่งนี้อย่างเดียว ว่าทางนั้นจะทำยังไง ผมก็ไม่ค่อยสบายใจนักหรอก ได้แต่ภาวนา ขอให้เรื่องทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีก็แล้วกัน”
พ่อเลี้ยงสิงห์พูดจบ ก็คิดกังวลถึงเรื่องที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้ ได้แต่หวังว่าพ่อเลี้ยงราเชนทร์จะทำตามที่พูดกันไว้ ถ้าไม่ทำ เขาจะทำให้ไร่ภูคำนึงเสียชื่อเสียงด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

จบตอนที่ 4



ไอยสวรรค์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 เม.ย. 2556, 00:26:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 เม.ย. 2556, 00:06:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1137





<< ตอนที่ 3 เกิดเหตุ   ตอนที่ 5 : คิดถึง (100%) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account