สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก
สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก


**เรื่องนี้เป็นเรื่องของภัทรา และเขตแดน พ่อและแม่ของภิตะวัน จากเจ้าสาวแสนแสบค่ะ
และก็เป็นเพื่อนสนิทของ อมาวตี จาก สะดุดรัก ลวงใจค่ะ (ตีพิมพ์ไปแล้วกับดอกหญ้า 2000ค่ะ)


** เรื่องนี้เคยลงที่เด็กดีจนจบเรื่องแล้วนะคะ อันนี้เป็นฉบับรีไรท์ค่ะ**


รัตน์ๆ เอามาลงอีกครั้ง ระหว่างรอหนังสือออก ซึ่งตอนนี้เงียบหายไปเลย
หลังจากบอกว่าจะปิดต้นฉบับ T-T (หลอกให้เค้าดีใจตลอดเลย กระซิกๆ T^T)
เจ้าสาวแสนแสบที่ลงไว้ก็กระดึ๊บๆ มากด้วย ก็เลยรู้สึกผิดเล็กน้อย หุหุ


เอาเป็นว่าไว้อ่านกันเล่นๆ ละกัน


จะลงจนกว่าหนังสือจะออก ถ้าหนังสือออกช้า ก็ลงจนจบเลยค่ะ
แต่ขออนุญาตลบเมื่อลงครบทุก 5 ตอนนะคะ



อยากรู้ว่าตะวันได้เชื้อ(บ้า)มาจากใคร ต้องลองอ่านดูค่า ^^





สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก



คำโปรย



เมื่อสาวแสบ แสนซน เจ้าแผนการ หวังทวงคืนรักแรกเมื่อครั้งวัยเยาว์


ทว่าปฏิบัติการครั้งนี้ดูจะมีอุปสรรคไม่น้อย เมื่อต้องฝ่าด่านน้องชายจอมเจ้าชู้และสุดแสนจะเจ้าเล่ห์ ซึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะขัดขวางเธอในทุกวิถีทาง


มาลุ้นกันว่า...สาวป่วนอย่าง “ภัทรา” จะสามารถเอาชนะใจชายในฝันได้สำเร็จ หรือจะหลงเสน่ห์ชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ก่อนกัน



...จะรอให้คนบนฟ้าเป็นผู้กำหนด หรือเราจะลิขิตทางเดินรักด้วยตัวเอง!...






ตัวละคร



ภัทรา (ภัทร)

สาวสวยร่างเล็ก ทว่าอวบอัด ชอบกลั่นแกล้งชาวบ้านไม่เว้นแต่ละวัน....

สิ่งที่ถนัดที่สุด คือ การทำเรื่องเล็ก ให้เป็นเรื่องใหญ่





เขตแดน (แดน)

ทายาทห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของเมืองไทย หล่อเหลา เจ้าเสน่ห์ เจ้าชู้ ขี้เล่น และสุดแสนจะเจ้าเล่ห์..





สุดเขต (เขต)

พ่อหม้ายลูกติด พี่ชายคนเดียวของเขตแดน ผู้กุมบังเหียนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เจ้าของนัยน์ตาเศร้า ด้วยภาพความทรงจำในอดีตยังฝังแน่นอยู่ในใจ ไม่อาจลบเลือน






ภัคจิรา (ภัค)

ญาติสาวผู้พี่ของภัทรา สไตลิสสาวบ้างาน

ชีวิตของเธอมีเพียงสิ่งเดียว...คือ "งาน" เท่านั้น!






ภูผา (ภู)

ชายหนุ่มผู้พกความแค้นมาเต็มพิกัด หวังกอบกู้กิจการของครอบครัวที่ล้มละลาย พร้อมกับทำลายศัตรูคู่อริให้สิ้น ทว่าคำพิพากษาของเขา กลับหวนทำร้ายตัวเขาเองโดยไม่รู้ตัว...

เพราะคำว่า "รัก" เพียงคำเดียว





Tags: สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก

ตอน: บทที่ 2 (I)


บทที่ 2 : ฉันนี่แหละภัทรา!...อย่าซ่า! ถ้าไม่อยากเจอดี


ณ โรงแรมหรู กลางใจเมืองซึ่งเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ทว่าด้วยการตกแต่งที่ทันสมัย มีสไตล์ในรูปแบบเฉพาะตัว หรือที่เรียกกันว่า HIP HOTEL ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนกรุง ทั้งยังสนองความต้องการได้อย่างครบครัน ด้วยมีทั้งร้านอาหารไทย นานาชาติ คลับสุดหรูและสปา ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่สังคมคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะแขกวีไอพีบางประเภทที่นิยมใช้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์

หญิงสาวใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต จมูกโด่งได้รูปทว่าเชิดปลายแหลมเล็กน้อย อันแสดงถึงความรั้นไม่ยอมคนของผู้เป็นเจ้าของ ทว่าเมื่อรวมกับริมฝีปากสีชมพูมันวาว พวงแก้มเนียนใส และผมหยิกหยักศกตามสมัยนิยม นั่นยิ่งทำให้ใบหน้าหวานละมุนละไม งดงามชวนมองยิ่งนัก

เจ้าของร่างเล็กกะทัดรัด ทว่าสมส่วน ในชุดเสื้อรัดรูปเผยให้เห็นทรวงอกเต่งตึงที่ขนาดเกินตัวอยู่มาก กับกระโปรงยีนส์แสนสั้นและรองเท้าส้นสูงสีแดงสด ที่ทั้งช่วยเพิ่มส่วนสูงให้เจ้าตัว และยังช่วยเน้นให้เห็นผิวขาวนวลเนียนของท่อนขาเรียวยาวได้สัดส่วน ดูเซ็กซี่ปนหวาน จนหนุ่มๆ ที่พบเห็นอดเหลียวมองไม่ได้

หญิงสาวคนดังกล่าวกำลังก้าวลงจากรถยนต์ส่วนตัว เร่งฝีเท้าอย่างเร็วเพื่อไปยังตัวอาคารที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหน้า ขณะที่ริมฝีปากสีชมพูเบ้เล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งบอกให้รู้ว่าสายที่โทรเข้ามานั้น คือ “มารดา” ของเธอนั่นเอง

“ค่ะแม่ ก็ภัทรบอกแล้วไงคะ ว่าภัทรไม่เบี้ยว”

“แน่ใจนะ ว่าไม่ได้หลอกแม่น่ะ ถ้าโดนถอนหงอกคราวนี้อีก มีหวังแม่หัวล้านแน่ๆ”

“นี่ภัทรก็มาถึงที่ๆ นัดกันไว้แล้วไงคะ” เสียงหวานกล่าวตอบมารดา พลางหรี่ตาเล็กน้อยขณะมองชื่อร้านอาหารที่เธอเป็นคนนัดใครคนนึงมาพบ

“คนนี้น่ะ ลูกพ่อเลี้ยงวิฑูรย์เชียวนะ อย่าให้แม่ขายหน้าล่ะ จะทำอะไรก็นึกถึงหน้าพ่อ หน้าแม่บ้างล่ะยัยภัทร” ภัสราเริ่มบ่นว่าลูกสาว

“ค่ะแม่...ภัทรจะพยายาม”

“ไม่ใช่จะพยายาม แต่ภัทรต้องทำให้ได้ ห้ามหนีไปกลางคันเหมือนคราวที่แล้วอีกล่ะ คราวนั้นแม่ยังไม่ได้ชำระความเลยนะ”

“ค่ะ!”

สาวหน้าหวานตอบกลับพลางเหลือบตาขึ้นบนพร้อมถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ที่มารดาเริ่มขุดคุ้ยเรื่องราวเก่าๆ เอามาพูด ทั้งที่คราวที่แล้วนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจหนีเสียหน่อย แต่เธอมีธุระจริงๆ ต่างหาก...

มาหาว่าคนอย่างภัทรา “หนี” แบบนี้มันปรักปรำกันชัดๆ เพราะคนอย่างเธอไม่เคยหนี!...ด้วยถือคติเก่าแก่ประจำตัว...“ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!” ไอ้เรื่องหนีหน้า อย่าได้เอามาพูดกับภัทราเลย...ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยเรื่องทำนองนั้น

“ภัทรรับรองค่ะ ว่าคราวนี้ภัทรจะไม่หนีไปไหนทั้งนั้น”

ภัทรารับปากมารดา ซึ่งโชคดีที่คนเป็นแม่ไม่ได้ยืนอยู่ใกล้ๆ จึงไม่เห็นรอยยิ้มมุมปากพร้อมประกายตาแสนเจ้าเล่ห์ของลูกสาวคนสวย

“แม่ล่ะปวดหัวกับแกจริงๆ เลยเชียว ยัยอัมเพื่อนสนิทแกก็แต่งงานแต่งการ มีลูกมีเต้าไปแล้ว เหลือแกอยู่คนเดียว หรือแกจะรอให้เพื่อนมีลูกตั้งทีมฟุตบอลก่อนรึไงถึงค่อยคิดแต่งงาน”

ภัสรากล่าวพาดพิงถึงอมาวตี เพื่อนสนิทชนิดตัวติดกันของภัทรา ที่ท่าทางออกทอมบอยซะจนใครต่อใครที่เห็นพากันคิดว่าเป็นผู้ชาย หากแต่เรียนจบไม่เท่าไหร่ก็แต่งงานไปกับเจ้าของไร่องุ่นที่สระบุรีซะอย่างนั้น เหนือความคาดหมายจริงๆ

ลูกสาวตนซะอีกกลับไม่มีคนจีบ ไม่เข้าใจว่าทำไมสวยๆ อย่างภัทราถึงไม่มีใครมาสนใจ จนเธอเองทนไม่ไหวต้องเข้ามาแทรกแซง เพื่อเฟ้นหาว่าที่สามีให้บุตรสาว ด้วยการนัดบรรดาลูกชายของเพื่อนที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน ให้หนุ่มๆ สาวๆ ได้พบปะ ทานข้าว เพื่อทำความรู้จักกัน ทว่าจะกี่รายต่อกี่ราย พอได้เจอตัวจริงของลูกสาวของเธอ ก็ตอบปฎิเสธเสียงแข็งที่จะนัดเจอในครั้งต่อๆ ด้วยกันทั้งนั้น ทั้งที่ตอนแรกที่ได้ดูรูปถ่าย ทุกคนล้วนพึงพอใจในความสวยหวานของภัทรา...

เฮ้อ! แค่คิดก็ปวดขมับเสียแล้ว...แล้วนี่เธอจะได้มีโอกาสอุ้มหลานเหมือนคนอื่นๆ หรือเปล่านี่!

“ งั้นมั้งคะแม่ ว่าแต่ว่าแม่รู้รึเปล่าว่าภัทรออกจากงานแล้ว”

ภัทรากล่าวถามมารดา ด้วยเพราะเธอรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับการออกจากงานของเธอคราวนี้ เพราะจู่ๆ เธอก็โดนเรียกไปพบและบอกให้เธอออกแบบไม่มีสาเหตุ อันที่จริงจะว่าไม่มีสาเหตุก็ไม่ถูก เพราะอีกฝ่ายอ้างว่าเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ต้องลดจำนวนคน แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้ตะงิดใจสงสัยว่ามารดาของเธอมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ ด้วยเพราะแม่ของเธอพูดหลายครั้งแล้วว่าให้ลาออกจากงานที่กรุงเทพและย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านที่เชียงใหม่เพื่อเตรียมตัวแต่งงานเป็นแม่บ้านแม่เรือน หากแต่เธอเองไม่เห็นด้วยและปฎิเสธมาโดยตลอด ด้วยยังอยากหาประสบการณ์ชีวิตกับทั้งอยากเรียนรู้โลกกว้างนั่นเอง

“อ้าวเหรอ...ออกจากงานแล้วหรือลูกภัทร”

ภัทราฟังเสียงตอบกลับของมารดา พาลให้หางตากระตุกขึ้นเล็กน้อย ด้วยเพราะเธอแน่ใจว่าได้ยินน้ำเสียงดีใจส่งผ่านถ้อยคำเสียใจเหล่านั้น...ซึ่งเธอมั่นใจว่าไม่ได้คิดหรือหูฝาดไปเองแน่ๆ

แม่นะแม่...ทำกันได้!

“แม่คะ แค่นี้ก่อนนะคะ ภัทรเดินกำลังจะถึงโต๊ะที่คุณว่าที่สามีนั่งแล้วค่ะ” ภัทรามองไปยังโต๊ะที่จองไว้ ภายในร้านอาหารไทยร้านหนึ่ง ซึ่งตอนนี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งรอเธออยู่

“อย่างนั้นก็ได้ แล้วก็พูดกับพี่เค้าดีๆ ล่ะ” ภัสราไม่วายกำชับกำชาบุตรสาว

“ค่ะแม่...ภัทรโตแล้วนะคะ” หญิงสาวกล่าวตอบมารดา พลางส่ายศีรษะเล็กน้อยก่อนวางสาย ด้วยเพราะแม่ของเธอชอบนึกว่าเธอเป็นเด็กๆ อยู่เรื่อย ทั้งๆ ที่อายุอานามของเธอก็ย่างยี่สิบหกเข้าไปแล้ว

ขณะที่สาวเท้าไปยังจุดหมายซึ่งเป็นโต๊ะที่ถูกจัดวางอยู่ตรงกลางร้าน แม้จะดูเหมือนขาดความเป็นส่วนตัวอยู่สักหน่อย ทว่าน่าจะเป็นการดี เพราะเธอก็ไม่ได้ต้องการสร้างบรรยากาศโรแมนติคกับชายหนุ่มที่มารดาจัดหามาเป็นคู่ดูตัวอยู่แล้ว

ยิ่งกว่านั้น คนยิ่งเยอะก็น่าจะยิ่งดี…หญิงสาวคิดในใจพลางมองไปเบื้องหน้า จึงเห็นบริกรกำลังถือถาดอาหาร ซึ่งถ้าให้เดาตามรูปทรงของภาชนะก็น่าจะเป็นต้มยำหรืออะไรสักอย่าง ซึ่งอันที่จริงเธอไม่รู้หรอกว่าเมนูอาหารของที่นี่มีอะไรบ้าง ด้วยเพราะเป็นร้านที่ให้ “พี่แจ๊สซี่” ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่ภัค หรือ “ภัคจิรา” ญาติลูกพี่ลูกน้องของเธอช่วยจัดหาให้ เพียงแค่บอกความต้องการไป พี่แจ๊สก็ช่วยจัดหาพร้อมนำบัตรสมาชิกมาให้เสร็จสรรพ นึกขอบคุณพี่แจ๊สซี่จริงๆ เพราะที่นี่ถูกใจเธอมาก…อ๊ะ! นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเสียหน่อย น่าจะถึงเวลาโชว์ชุดแรกออกแสดงแล้ว

ภัทรามองบริกรที่ยืนอยู่ตรงหน้า พลางกล่าวขอโทษขอโพยอีกฝ่ายในใจในสิ่งที่เธอกำลังจะทำต่อจากนี้

“โอ๊ย!!!” เสียงอุทานออกมาจากริมฝีปากสีชมพูหวาน หลังจากที่ร่างบางทำทีสะดุดกับขาโต๊ะ เป็นเหตุให้ไปชนเข้ากับแผ่นหลังของบริกรคนดังกล่าวอย่างแรง แรงกระแทกทำให้บริกรคนนั้นกระเด็นไปยังโต๊ะของแขกผู้หนึ่ง พร้อมๆ กับที่อาหารในถาดลอยละลิ่วไปตกอยู่ที่หน้าตักของลูกค้าผู้นั้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

ซึ่งหากเป็นไอศครีม ขนมหวาน หรืออะไรที่ไม่ใช่ของเหลวที่ทั้งร้อนจนเดือด ก็คงไม่ทำให้ใครคนนั้นร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดถึงเพียงนี้…

“โอ๊ย! เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยรึยังไง!”

เสียงตวาดจากชายหนุ่มหน้าตาดีดังขึ้น พร้อมกับรีบปัดน้ำร้อนๆ กับทั้งชิ้นเนื้อและผักบางส่วน ที่หกเรี่ยราดบนหน้าตักของตัวเองออกไปอย่างเร่งรีบ ก่อนจะรีบใช้มือพัดไปพัดมา พร้อมกับเป่าลมฟู่ๆ จากปากแรงเท่าที่จะแรงได้ไปยังของรักของหวงด้วยความร้อนใจ ดูท่าจะกลัวเจ้าสิ่งนั้นจะสุกเหมือนเนื้อต้มซะล่ะมั้ง...

ภัทรามองพลางอดอมยิ้มขำไม่ได้...‘ช่วยไม่ได้นะ อยากมายุ่งกับฉันเองนี่นา จะโทษใครได้ โทษความซวยของนายเองก็แล้วกัน’ สาวหน้าหวานนึกในใจ ทว่าเพียงแค่แว่บเดียวใบหน้าสะใจก็พลันเปลี่ยนเป็นใบหน้าเศร้าสร้อยสำนึกผิดในทันที

“ขอโทษค่ะ ภัทรผิดเองค่ะ ที่เดินสะดุดขาโต๊ะ ทำให้ไปกระแทกกับบริกรคนนี้” หญิงสาวตีหน้าเศร้าสุดฤทธิ์ ก่อนจะก้มหน้า ทำทีปาดน้ำตา พร้อมหายใจฟึดฟัดคล้ายคนเป็นหวัดหรือกำลังร้องไห้

ภาพสาวสวยยืนก้มหน้าร้องไห้ทำเอาใครบางคนอดใจอ่อนไม่ได้ “ช่างเถอะครับ ผมก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร”
ขณะเดียวกันหญิงสาวเจ้าของใบหน้าแสนเศร้า ก็เหลือบตามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยประกายตาบางอย่าง...
‘ขอให้พูดแบบนี้ให้ได้ตลอดเถอะ...เพราะความสนุกมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!’

ภัทราแอบซ่อนยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็น ก่อนจะเอานิ้วเรียวยาวของตนปาดหยาดน้ำตาอีกครั้ง ทว่าปาดไปได้เพียงข้างเดียวก็มีผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดสะอ้านยื่นมาให้เสียก่อน

“ผ้าเช็ดหน้าของผมเองครับ สะอาดครับ...ผมรับรอง”

ชายหนุ่มหน้าตาดีที่เมื่อครู่นี้เพิ่งทำหน้าตื่น กับทั้งเอะอะโวยวายจะเอาเรื่องเอาราวใครต่อใคร ทว่าบัดนี้สิ่งที่เขาให้ความสนใจกลับเป็นใบหน้าหวานๆ กับดวงตาคู่โตที่ปริ่มไปด้วยหยาดน้ำตาของหญิงสาวตรงหน้า

“อย่าร้องไห้เลยนะครับ ผมผิดเองแหละครับที่ไม่หลบให้พ้น ทำให้โดนต้มยำหกใส่”

ชายหนุ่มกล่าวโทษตัวเอง หวังให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น ขณะเดียวกันก็มองใบหน้าสวยไม่วางตา นึกอยากจะเป็นคนเช็ดคราบน้ำตาให้กับหญิงสาวเสียเหลือเกิน ทว่านี่เป็นเพียงแค่การพบกันเป็นครั้งแรก หากทำเช่นนั้นเกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาท กับทั้งเธออาจคิดว่าเขาเป็นพวกชอบฉวยโอกาสเอาได้

“น้องภัทรใช่รึเปล่าครับ” เสียงนุ่มทุ้มชวนฟัง มากเท่าที่ผู้เป็นเจ้าของจะคั้นออกมาได้เอ่ยถาม เพราะได้ยินหญิงสาวตรงหน้าแทนตัวเองว่า “ภัทร”

“ค่ะ” ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอีกฝ่าย

“พี่ชื่อชิษณุนะครับ เป็นลูกชายของพ่อเลี้ยงวิฑูรย์ครับ เอ่อ...เป็นว่าที่คู่หมั้นของน้องภัทรน่ะครับ”

ชายหนุ่มเอ่ยพลางมองดวงตาคู่โตที่กลิ้งกลอกอย่างไร้เดียงสาตรงหน้า น่ารักอะไรอย่างนี้...ไม่น่าเชื่อเลยว่าหญิงสาวที่หน้าตาสวยหวาน น่ารักน่าเอ็นดูจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่พ่อของเขาหามาให้ แม้จะเปิ่นๆ ไปบ้าง ทว่านั่นก็ยิ่งทำให้เธอยิ่งดูน่าทะนุถนอม จนไม่อยากปล่อยให้คลาดสายตา

ทั้งที่คราแรกที่รู้เรื่องการดูตัวครั้งนี้เขาค้านชนิดหัวชนฝา เพราะนี่มันยุคไหนเข้าไปแล้ว ไอ้ประเพณีคลุมถุงชนน่ะเค้าเลิกกันไปนานนมแล้ว ถ้าจะมี ก็มีแต่แหวกม่านประเพณี...ชิงสุกก่อนห่าม เสียมากกว่า ซึ่งเรื่องอย่างนี้ผู้ชายอย่างเขาถนัดนักล่ะ!

“อ้าว! พี่ชิษณุหรือคะ...ภัทรก็นึกว่าใครเสียอีก ที่แท้ก็คนกันเองแท้ๆ แต่ยังไงภัทรก็ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ กับความซุ่มซ่ามของภัทร”

สาวหน้าหวานโน้มตัวไหว้อีกฝ่ายเพื่อขอขมา ทว่าปลายนิ้วที่ประนมมือไหว้กลับถูกใครคนนึงที่ทึกทักตัวเองว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นของเธอจับไว้เสียก่อน…

‘หนอยแน่ะ! ขี้ตู่ว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นของฉันงั้นเหรอ!...เอาตัวเองให้รอดจากวันนี้ก่อนเถอะแล้วค่อยมาว่ากัน...ปล่อยสิ! ไอ้คนลามก...’ เสียงกร้าวในใจภัทรากล่าวออกมา ทว่าตรงข้ามกับใบหน้าหวานละมุนอย่างสิ้นเชิง

“ปล่อยภัทรเถอะค่ะ”

หญิงสาวหลบตาอีกฝ่าย พร้อมกับขืนอุ้งมือกลับ เป็นเหตุให้ชายหนุ่มตรงข้ามอดมองด้วยความเอ็นดูไม่ได้...

‘ดูสิ แค่นี้ก็เขินจนหน้าแดง ท่าจะไม่ประสีประสาเรื่องผู้ชาย เห็นทีเขาจะต้องเป็นคนสอนให้เธอเองซะแล้ว’

คิดพลางยิ้มกริ่ม ขณะมองสาวสวยหน้าหวาน ที่ไม่ต่างไปจากขนมเค้กก้อนโตตรงหน้า ที่เพียงแค่เห็นก็พาลให้น้ำลายสอ ด้วยอยากลิ้มลองรสชาติเหลือเกิน ว่าข้างในจะหวาน หอม กลมกล่อมเหมือนหน้าตาภายนอกรึเปล่า
ชิษณุยอมปล่อยฝ่ามือเล็กของหญิงสาวให้เป็นอิสระในที่สุด ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งด้วยมารยาทที่ดีที่สุภาพบุรุษอย่างเขาพึงมีกับสุภาพสตรีสาวแสนสวยตรงหน้า

“เอ่อ...ถ้าน้องภัทรไม่ว่าอะไรพี่ณุขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยแทนตัวเองอย่างสนิทสนม ก่อนจะมองกางเกงที่เปียกชุ่มไปจนถึงเนื้อในของตน...

‘เฮ้อ! เอาวะ...ถือว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกันเรา แลกกันกับโอกาสที่จะได้สานต่อความสัมพันธ์กับหญิงสาวแสนสวยตรงหน้ามันก็คุ้มใช่ย่อยอยู่’

ดูท่าชายหนุ่มจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ลางสังหรณ์” เอาเสียเลย เพราะขาไม่รู้เลยว่าเคราะห์ที่ว่านั้นมันไม่มีทางหมดไปได้ หากว่าเขายังยืนอยู่ข้างๆ หญิงสาวนามว่า...

...ภัทรา...


***************************

อันนี้เป็นฉบับรีไรท์นะคะ แต่ยังแก้ทันเพราะบก.ยังไม่ได้ส่งต้นฉบับมาให้ตรวจเลยค่ะ
เพราะงั้นถ้าเห็นอะไรผิดสังเกตบอกกันได้นะคะ จะได้รีบเอาไปแก้ค่า...
รัตน์ๆ จะลบตอนเก่าๆ ออกถ้าลงครบ 5 ตอน เพราะงั้น รีบอ่านก่อนลบนะคะ

ขอบคุณค่า~

รัตน์ๆ จ้า..^^



รัตนรัตน์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 พ.ค. 2554, 15:44:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 พ.ค. 2554, 21:37:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 2475





<< ฉันนี่แหละภัทรา! (ต่อ)   บทที่ 2 (2) >>
แว่นใส 29 พ.ค. 2554, 20:37:46 น.
เรื่องของพ่อแม่ของตะวัน กับภาฟ้านี่เอง


รัตนรัตน์ 29 พ.ค. 2554, 23:00:37 น.
สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก เป็นเรื่องของ เขตแดน + ภัทรา พ่อกะแม่ภิตะวัน จากเจ้าสาวแสนแสบค่ะ
และถ้าใครเคยอ่าน สะดุดรักลวงใจ (หนูอัม + คุณกร)...
ภัทราเป็นเพื่อนสนิทของนางเอกเรื่องนั้นค่ะ
(สะดุดรักลวงใจพิมพ์กับดอกหญ้า2000 วางแผงไปเมื่องานหนังสือครั้งก่อนโน้นค่ะ ^^)
บอกให้งงกันเล่นๆ 55555


ป้าภา 31 พ.ค. 2554, 14:00:55 น.
ป้าไปสอยหนูอัมมานอนกอดแล้วจ้า


รัตนรัตน์ 2 มิ.ย. 2554, 18:52:13 น.
ว๊าย >///< ขอบคุณมากกๆๆๆ เลยค่ะ
อยากกราบแนบอก หุหุ > <


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account