บ่วงพราย
ขนมงจีนถูกส่งไปที่คฤหาสน์สีขาว ที่นั่นเป็นบ้านของคุณหลวง ทว่า...เธอได้พบกับวิญญานชายหนุ่ม ที่แม้แต่ที่อยู่และสถานที่ที่ตัวเองตาย ก็ยังไม่รูั้เลย แล้วเธอจะทำอะไรดีเนี่ย
Tags: รักหวานแหวว หวานซึ้ง พล็อดสนุก สนุกสนาน

ตอน: บทที่ 19 น้ำกรด

บทที่ 19
น้ำกรด

“คุณร้องไห้หรือ” เขากระซิบแผ่ว

“เปล่าน่ะ ผมมันเข้าตา” เธอหันหน้าหนีไปทางอื่น เขาเดินมากอดด้านหลังเธอเอาไว้และซบใบหน้าลงกับเรือนผมของเธอ

“บอกแล้วไง ว่าผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณเป็นอันขาด อย่าร้องเลยนะ”

“ฉันเปล่าร้องซะหน่อย” เธอบ่นอุบอิบ

“ไม่ร้องแล้วทำไมตาแดง ๆ แบบนี้ล่ะ” เขาหันเธอมาจ้องหน้า เธอหลบตาลงต่ำมันจะดีเหรอ...ที่ให้เขามาอยู่ร่วมกับเธอแบบนี้ “เป็นอะไรไป”

“คุณกลับไปซะเถอะ”

“อะไรนะ”

“คุณได้ร่างกายคืนแล้ว ก็ควรกลับไปสักที” เธอกระซิบแผ่ว “ตอนนี้ฉันอยู่เองได้แล้ว คุณรินดาก็บอกฉันว่าเขายินดีรอคุณเสมอ ฉัน...”

“คุณไม่ต้องการผมแล้วหรือ”

ไม่ต้องการหรือ...

เธอต้องการให้เขาอยู่เคียงข้างเธอตลอดไปต่างหาก แต่ในความเป็นจริงเธอรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

“ใช่ ฉันไม่ต้องการคุณ”

“ขนมจีน”

“พอใจหรือยัง ฉันอยู่คนเดียวได้แล้ว”

“ผมไม่ต้องการฟังสิ่งโกหก” เขากระซิบแผ่ว

ใบหน้าคมคายโน้มใบหน้าลงมาหาเธอและจรดริมฝีปากลงกับเรียวปากนุ่มละมุน เขามอบจุมพิตแสนหวานให้เธออีกครั้ง ดูดดื่ม...หอมหวาน ชายหนุ่มจูบเธออย่างอ่อนโยนก่อนจะเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ธีร์แทรกปลายลิ้นเข้าไปในปากของเธอเพื่อเกี่ยวกระหวัดลิ้นอย่างโหยหา เธอครางประท้วงน้อย ๆ ก่อนที่เขาจะผละปากริมฝีปากเธอก่อนซุกไซ้ปลายจมูกลงไปที่แก้มใสและใบหูของเธอ

“เดี๋ยวก่อน...นี่ไม่” เธอตะกุกตะกัก

“ถ้าเกิดว่าคุณอยู่คนเดียว แล้วเกิดเหตุการณ์นี้อีกคุณจะทำอย่างไร” เขาถอนหายใจยาว

ขนมจีนหน้าแดงก่ำ คนที่กล้าทำเรื่องแบบนี้ก็มีแต่ธีร์เท่านั้นแหละ

“คนบ้า มีแต่คุณนั่นแหละที่กล้าทำเรื่องแบบนี้”

“แค่ผมนะหรือ”

“ก็ใช่นะสิ อุ้ยนี่คุณ..ปล่อยนะ” เธอร้องเสียงดัง เมื่อถูกกอดไว้แนบแน่น เสื้อบาง ๆ และแขนเรียวบางถูกกอดไว้จนแนบชิตกับแผ่นอกหนา ขนมจีนแก้มใสเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ

“ผมดีใจนะ ที่เป็นคนแรกของคุณ”

“คนแรก มันหมายถึงนอนด้วยกันต่างหาก” เธอบ่นอุบอิบ ไม่คิดว่าธีร์จะเลิกคิ้วสูง

“หมายความว่า คุณยอมให้นอนบนเตียงเดียวกับคุณแล้วหรือ”

“อีตาบ้า ฉันหมายถึงนอนคนละห้องต่างหาก พูดผิดนิดหน่อยก็ไม่ได้”

เขาหัวเราะแผ่ว ๆ

“สบายใจหรือยัง” เขากระซิบแผ่ว “หรือคุณยังกลัวเรื่องคุณรินดาอยู่อีก”

เธอไม่ตอบ แต่นัยน์ตาคู่นั้นก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอคิดอะไรอยู่

“คุณเห็นสายตาคุณนราไหมล่ะ”

“พี่นราน่ะเหรอ ทำไมล่ะ”

“ผมสังเกตเห็นเวลาที่เขามองรินดา มันอ่อนโยนและมีแววปรารถนาเหมือนกับที่ผมมองคุณเลย” ผู้ชายด้วยกันย่อมรู้ใจผู้ชายด้วยกันเป็นธรรมดา

“คุณรู้ด้วยเหรอ”

“...บางทีรินดาเขาอาจคู่กับคุณนราก็ได้นะ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น”

ขนมจีนกระพริบตาถี่ ๆ

“คุณรู้เรื่องนี้ตอนไหน”

“ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนที่เขาพารินดามาที่นี่” เขายิ้มบาง ๆ

ขนมจีนนึกไปถึงพี่นราตอนที่เขาพาคุณรินดามาที่นี่ เขาทั้งคู่น่ารักสมกันมากและเคยรู้จักกันมาพักใหญ่ แต่ท่าทางของรินดาก็เปลี่ยนไปเวลาที่เธอพบกับธีร์ แล้วตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าทำไมพี่นราถึงได้มีสีหน้าเศร้าหมอง

“ถ้าคุณรู้แล้วแบบนี้ ห้ามคุณกลับไปคบกับคุณรินดาอีกรู้หรือเปล่า”

ธีร์เลิกคิ้วสูง

“อะไรกัน เมื่อกี้ยังบอกให้ผมกลับไปคบกับเธออยู่เลย” เขาหัวเราะแผ่ว

“ฉันไม่อยากให้พี่นราต้องเสียใจนี่นา เขาเป็นคนดีมากและก็เป็นสุภาพบุรุษมากด้วย ถ้าฉันรู้ว่าคุณรู้เรื่องดีอยู่แล้ว ฉันเชียร์ให้คู่นี้ลงเอยกันไปตั้งนานแล้ว”

“อืม..ขอคิดดูก่อนนะ”

“ห้ามคิดนาน”

เมื่อเธอหันหน้าขึ้นมายิ้มบาง ๆ ชายหนุ่มก็ก้มหน้าลงไปจุมพิตเธออย่างอ่อนโยน ขนมจีนตัวสั่นเทาเมื่อเขาแทรกปลายลิ้นเข้าไปเพื่อกวาดความหวานภายใน สัมผัสอบอุ่น...อ่อนโยนเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอกำแขนเขาแน่นเมื่อลำตัวถูกกอดเอาไว้ใต้อกแกร่ง หลังศีรษะของเธอถูกเบี่ยงให้หันด้านข้างเขาจะได้จุมพิตเธอแนบแน่นมากยิ่งขึ้น ฝ่ามืออบอุ่นเริ่มลูบไล้ขึ้นไปตามแผ่นหลังและช่วงเอว ขนมจีนรู้สึกเหมือนยืนไม่อยู่เธอครางเสียงแผ่ว จนกระทั่งเมื่อเขาผละออกจากริมฝีปากนุ่มละมุนแล้วยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

“ครับ คุณผู้หญิง”

ขนมจีนแก้มใสเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด....


หน้ากระจกภายในห้อง...

แววใส่วิกผมสั้นและสวมชุดกระโปรงผ้ายืดสั้นเหนือเข่าใส่เสื้อเกาะอก วันนี้เธอจะไปหาเขาที่ห้องแต่ว่า...ต้องรอให้เขาออกไปก่อน นังเมียน้อยนั่น...หรือว่าเมียคนที่สามสี่ห้าเธอก็ไม่รู้ แต่มันดันหัวเราะเยาะเธอเรื่องแท้งลูก คำพูดนี้มันจะต้องชดใช้อย่างสาสม

เธอถือขวดแก้วขนาดเล็กกว่าฝ่ามือเธอเหยียดยิ้มให้กับมันพลางเก็บไว้ในกระเป๋าถือ แววเปิดประตูลงมาจากบ้านเธอลงบันไดมา และเจอกับแม่ผกาที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ นางหันมาเห็นลูกสาวใส่กระโปรงดำแล้วขมวดคิ้วเอามือปิดโทรศัพท์แล้วถามว่า

“แกจะไปไหน นังแวว”

“ไปข้างนอกค่ะ อยากไปเที่ยวสักหน่อย”

“แกเพิ่งจะแท้งนะ จะออกไปอีกแล้วเหรอ...นี่เดี๋ยวก่อนสิ ฉันเพิ่งได้เงินมาเอาไปใช้ให้แกตั้งครึ่งล้านแล้วนะ จะโกงกันไปถึงไหน” เธอพูดในโทรศัพท์ แววชำเลืองมองแล้วยิ้มเยาะ

คนอย่างนี้น่ะเหรอจะเป็นแม่บังเกิดเกล้า

“หนูไปก่อนนะคะ”

“รีบกลับมาล่ะ นี่ตกลงพูดกันถึงไหนแล้วนะ” นางหันไปคุยโทรศัพท์ต่อ

แววสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนขับรถออกไปจากบ้าน เธอรู้ว่าวันนี้เธอจะไปที่ไหนและเธอรู้ว่าควรทำยังไง แววสวมแว่นกันแดดสีดำสนิท ก่อนมาจอดที่หน้าคอนโดหรู เธอรู้ดีว่าเรนต้องออกจากคอนโดเพื่อไปดูลูกค้าที่ผับตอนใกล้เวลาเย็น และต้องทิ้งเมียน้อยไว้ข้างบนนั่น

เธอคอย...คอยแค่นี้จะเป็นไรไป

ไม่นานนักใกล้เวลาหกโมงเย็น เธอเห็นเรนเดินลงมาแล้วไขกุญแจรถเธอเห็นผู้หญิงผมยาวสลวยเดินมาส่งที่รถเขาหอมแก้มกัน แววเม้มปากแน่นคอยดูเถอะเราจะได้เห็นดีกัน

“ไปก่อนนะ”

“ค่ะ รีบกลับมานะคะ”

เมื่อเรนไปแล้ว แววจึงเปิดประตูรถแล้วเดินเข้าไปในคอนโด ดูท่าว่าแม่นี่จะอยู่ภายในห้องพักชั้นบน เธอเดินขึ้นลิฟต์แล้วเปิดกระเป๋าถือเห็นขวดแก้วที่เธอถือมา เธอเหยียดยิ้ม...เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องนอนของนายเรน แววก็ยกมือขึ้นเคาะประตูทันที

“ใครคะ เรนเหรอ”

เธอเดินมาเปิดประตู แล้วก็เห็นแววที่ใส่แว่นกันแดดสีดำ

“ใครน่ะ จะมาเอาอะไร” น้ำเสียงกระด้างเอ่ยถาม จนเมื่อเห็นแววถอดแว่นตาออก

“เป็นยังไง จำได้หรือยังล่ะ”

“อ๋อ..นึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณแววนี่เอง” เธอยิ้มเยาะเส้นผมสีน้ำตาลพลิ้วสลวย

“คุณเรนไม่อยู่เหรอ”

“ไม่อยู่ เขาไปบาร์ แล้วเธอยังมีหน้ากลับมาอีกเหรอ ยายหน้าด้าน”

“เธอหัวเราะวันที่แท้งลูกใช่ไหม”

หญิงสาวเลิกคิ้วสูง

“ใช่ ทำไมเหรอ อยากโง่เองนี่ คุณเรนน่ะเขาไม่ได้มีเธอแค่คนเดียวหรอกนะ ยังมีอีกเยอะเลยที่เขายังไม่ได้บอกให้เธอรู้” เธอยิ้มเยาะ

“อ๋อ เหรอ”

“กลับไปซะ นังหน้าด้าน”

“ฉันหน้าด้าน แต่แกต่างหากที่หน้าแหก นี่แน่ะ”

“ว้ายยย”

แววสาดขวดแก้วน้ำใส่หน้าเธอตั้งแต่ มันปวดแสบปวดร้อนมากจนเธอร้องกรี้ดลั่นไปหมด เธอยิ้มเยาะอย่างคลั่งแค้นนี่เป็นน้ำกรดที่ซื้อมาจากร้านขายของอินเตอร์เน็ตเพื่อเอาไว้ล้างแค้น เธอตัวสั่นเอามือบังใบหน้าที่เริ่มฟอนเฟะ ดูท่าทางเธอคงไม่กล้าออกไปสู้หน้าไปได้ตลอดชีวิต

“แก...กรี้ด” เธอร้องโหยหวน

“เป็นยังละ สะใจหรือยังหรือจะเอาอีกก็ได้นะ” เธอยิ้มเยาะ ๆ “ความแค้นที่ฉันแท้งลูกเพราะผัวและแกมันทำให้ฉันเป็นคนโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้ สะใจหรือยัง“

“ฮือ ๆ ปวดแสบไปหมด”

แววสะใจ เธอเดินข้างลำตัวของผู้หญิงผมสีน้ำตาลเดินไปที่โต๊ะ เธอเห็นโทรศัพท์มือถือของเธอและเปิดลิ้นชักโต๊ะ เธอนัยน์ตาวาววับ

Rrrrrrr

“ใครน่ะ” เขาขมวดคิ้วรับขึ้นมากดดูเบอร์ “วิภาเหรอ โทรมาทำไมกันนะ ฮัลโหลผมบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าโทรมากวนเวลาขับรถ”

“ฮือๆ ช่วยฉันด้วย”

“อะไร เธอเป็นอะไรไปน่ะ”

“หน้ามัน..มันเละหมดแล้ว กรี้ด”

“วิภา เธอเป็นอะไรไป เดี๋ยวก่อน” เรนเหยียบเบรกกะทันหัน แล้วเขากดเบอร์ไปหลายรอบแต่ก็ไม่มีใครรับสาย ชายหนุ่มสบถในลำคอลั่น หักเลี้ยวรถกลับไปสู่คอนโดของตัวเอง

เรนจอดรถที่หน้าคอนโดนแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้นที่เก้า เขารู้สึกหงุดหงิดว่าอะไรกันนักหนาถึงได้โวยวายได้ขนาดนั้นพอเขาเปิดประตูเข้าไปก็ต้องชะงักกึก

“แวว” เขาสบถเสียงต่ำ “คุณมาทำอะไรที่นี่”

“ฉันเหรอ ฉันก็มาหาคุณไงคะ”

“โอย...ปวดเหลือเกิน”

เสียงร้องครางทำเอาเรนใจหายวาบ เมื่อวิภากำลังเอามือกุมหน้าที่น่าเกลียดเน่าเฟะเธอมีรอยน้ำกรดราดใบหน้าจนถึงลำคอปวดแสบปวดร้อนจนแทบตายทั้งเป็น เส้นผมยาวของเธอหลุดร่วงยังกะซากศพ

“วิภา นี่เธอทำอะไรลงไป” เธอคำรามลั่น “นี่เธอหึงเหรอ”

“หึงหรือ..เปล่าหรอก ฉันแค่แค้นคุณกับนังนั่นที่ทำให้ฉันแท้งต่างหาก” เธอยิ้มเยาะ

เรนหัวเราะพลางท้าวเอวมองเธอ

“ลูกเหรอ อย่าหาว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ มันเป็นลูกของเธอแต่ใช่ลูกฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือว่าค่ารักษาพยาบาลสองหมื่นมันไม่พองั้นหรือ”

ประโยคนั้นทำเอาแววตาลุกวาว

“สองหมื่นกับความรู้สึกที่ฉันเสียไป มันคุ้มกันเหรอ”

“นังนี่”

“อย่าเข้ามานะ” เธอร้องตะโกนหยิบปืนสีดำมะเมื่อมขึ้นมาถือไว้ “แกมันเลวที่สุด”

“อะไร ฉันเป็นเจ้าหนี้แม่ของเธอนะอย่าลืมสิ” เขายิ้มเยาะ “ถ้าอยากให้หนี้แม่เธอเพิ่มเป็นห้าสิบล้านก็เอาเลยซี่ เอาเลย”

“อย่าท้านะ”

“ตอนแรกฉันกะทำเธอเล่น ๆ แต่เดี๋ยวนี้ชักอยากเอาไปขายซ่องซะแล้วสิ” เขาหัวเราะหึ ๆ “มาสิ ส่งปืนมาฉันจะได้เอาเธอไปขายดี ๆ ไม่ต้องเจ็บตัว”

“ไอ้เลว ไปตายซะ”

เปรี้ยง

“โอ้ย นี่เธอ...” เขาตาเหลือกยังดีนะที่กระสุนแค่เฉี่ยวแขนเสื้อ “นี่เธอเอาจริง ๆ เลยหรือ”

“ไปลงนรกซะ ไอ้เลว”

เปรี้ยง ๆ

เรนหน้าซีดเผือด เลือดในตัวจับเป็นก้อนแข็ง...อกซ้ายทะลุเข้าไปถึงหัวใจกระแสเลือดเริ่มรินไหลออกมาจนเปียกชุ่มเสื้อจนแดงฉาน เรนก้มลงมองหน้าอกมือของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด ความเจ็บแปลบร้าวลึกเข้าไปถึงหัวใน เขาพยายามจะพูดด่าทอ แต่แล้วก็ต้องทรุดลงกับพื้นหน้าตาเหยเก

“แก...”

“คนเลวมันต้องคู่กับคนเลววันยังค่ำ” เธอยิ้มเยาะน้ำตาไหล

เรนคุกเข่าลงมือของเขาพยายามห้ามเลือด แต่แล้วเขาก็ขาดใจตายล้มลงไปท่ามกลางเลือดแดงฉาน นัยน์ตาของผมยังเหลือกโพลง....

*******************




เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 เม.ย. 2556, 10:01:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 เม.ย. 2556, 10:01:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 1909





<< บทที่ 18 ครอบครัวล้มเหลว   บทที่ 20 คนค้ายาเสพติด >>
เบลินญา 5 เม.ย. 2556, 16:31:02 น.


Zephyr 6 เม.ย. 2556, 09:52:38 น.
แววโหดดดดดดดดดดดด


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account