เพทายพ่ายตะวัน
เมื่อเธอคือ กุหลาบแดง แห่ง "เรือนกุหลาบ" และเขาคือ ศัลยแพทย์ ผู้มีฝีปากเชือดเฉือนยิ่งกว่ามีดผ่าตัด..ยุทธการปราบพยศครั้งนี้..มีหัวใจเป็นเดิมพัน!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๘ เพลงพิณ ๓/๓

รถญี่ปุ่นคันกลางเก่ากลางใหม่จอดสนิทเทียบยกพื้นคอนกรีต มยุเรศก้าวลงจากรถด้านตรงข้ามคนขับอย่างรู้หน้าที่ ก่อนประตูฝั่งนั้นจะถูกปิด โชเฟอร์จำเป็นลดแว่นกันแดดลง พักมืออีกข้างไว้บนพวงมาลัยพร้อมกับสั่งเสียแกมกำชับครั้งสุดท้าย

“รีบทำตามแผน อย่าแวะคุยกับใครนอกเรื่อง พี่ให้เวลาน้องสิบนาที..ทุกอย่างต้องเรียบร้อย”

เด็กสาวพยักหน้ารับ แววตามีความมั่นใจในสิ่งที่ได้รับมอบหมาย..หล่อนก็อยากจะทำแบบนี้มานานแล้ว เพียงแต่เพิ่งมีคนมาชี้ลู่ทางเอาตอนนี้ ที่สำคัญ..เพทายไม่ใช่บุคคลอันตราย ร้ายกาจอย่างที่คิดไว้แต่แรก

“ค่ะ..พี่เพ”
หญิงสาวลดกระจกมองตามตัวแทนภารกิจพิเศษไปตลอดทางจนกระทั่ง มยุเรศผลักประตูกระจกของคลินิกแห่งนั้นเดินหายเข้าไปด้านใน

อาคารพาณิชย์แห่งนั้นมองเผินๆก็ไม่ต่างจากคลินิกเวชกรรมทั่วไปที่เรียงรายกันเป็นตับอยู่ในซอย ลักษณะเป็นตึกแถวสองห้องสี่ชั้น จะมีที่แตกต่างก็คือ ยกพื้นสูงจากริมถนน เทลาดเข้าไปด้านในจัดเป็นส่วนของโรงรถ มีหลังคาแข็งแรงคุ้มแดดคุ้มฝน รถแวนคันหนึ่งจอดอยู่หน้าอาคาร มีช่องทางเดินกว้างพอประมาณให้แขกเดินเข้าไปสู่ประตูกระจกของคลินิก

ป้ายติดหรา เห็นเด่นชัดเหนือขึ้นไปเป็นกรอบสีทองปรากฏอักษร..คลินิกหมอศรันย์ คลินิกเวชกรรมทั่วไป และรับฝากครรภ์

“รับทำแท้งล่ะสิไม่ว่า..ไอ้ศรันย์เอ๊ย แกเสร็จฉันแน่วันนี้”
เพทายรำพึงกับตัวเอง นัยน์ตามีแววมาดหมายเต็มเปี่ยม แล้วหล่อนก็กดปุ่มเลื่อนกระจกรถขึ้น รอคอยเวลาแห่งความสำเร็จมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจ


มยุเรศเดินตรงมายังเคาน์เตอร์จ่ายยา พบพยาบาลวิชาชีพหญิงคนหนึ่งนั่งประจำที่เหมือนทุกวัน เด็กสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์รัดรูปสีซีด หล่อนถอดแว่นกันแดดสีดำสนิทออกพร้อมกับหมวกแก็ปสีเดียวกัน..สัญลักษณ์ของคนไข้พิเศษ ซึ่งแตกต่างจากคนไข้รักษาโรคทั่วไป และผู้ที่มาฝากครรภ์โดยสิ้นเชิง..พยาบาลผู้นั้นยิ้มรับอย่างรู้งาน อดไม่ได้ที่จะทักด้วยความประหลาดใจ ทว่าเสียงเบาแทบเป็นกระซิบ

“เพิ่งมาซื้อยาเหน็บไปเมื่อสองวันเองนี่..ไม่สำเร็จหรือคะ?”
มยุเรศยิ้มเจื่อนก่อนอ้อมแอ้มบอก

“เลือดออกมานิดเดียว..สงสัยใช้บ่อยจนดื้อยาแล้วมั้งคะ”
พยาบาลคนเดิมพยักหน้ารับรู้ ไม่สนใจจะเซ้าซี้อะไรต่อ ผายมือเป็นเชิงเชื้อเชิญให้หล่อนเดินเข้าไปตามช่องแคบๆซึ่งมีพนักงานพิเศษยืนคอยอยู่ก่อนแล้ว..มุ่งตรงไปสู่ห้องจ่ายยาลับเฉพาะอีกทีหนึ่ง

ปกติแล้ว พยาบาลประจำโต๊ะผู้นั้นมีนิสัยช่างสังเกต เห็นอะไรผิดปกติเล็กน้อยก็จะต้องซักจนทะลุทะลวงถึงไส้ถึงพุง..ทว่าคนไข้รายนี้หล่อนกลับไม่ซักไซ้มากความนัก ได้แต่เก็บงำความสงสัยไว้ภายใน ยาเหน็บขับเลือดของที่นี่..มีหรือจะดื้อยา

เหตุผลที่หล่อนไม่ถามมากน่ะหรือ..ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กคนนั้นมีความสัมพันธ์พิเศษล้ำลึกกับเจ้าของคลินิกล่ะก็ หล่อนไม่มีทางปล่อยให้หลุดเข้าไปง่ายๆหรอก!

“ไม่พบคุณหมอแน่นะคะน้องดาว..วันนี้ท่านอยู่นะ ในห้องวีดีโอกล้องวงจรปิด ชั้นสอง”
พยาบาลสาวอีกคนในห้องจ่ายยาลับถามย้ำ แต่ก็ได้คำตอบเดิมคือมยุเรศสั่นศีรษะจนผมหางม้าที่มัดไว้ลวกๆปลิวกระจาย

“ไม่มีธุระค่ะ..ต้องรีบกลับ เดี๋ยวพี่ชายที่บ้านจะสงสัย”
มยุเรศเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ใช้ระบบสัมผัสของปลายนิ้วชี้กดปุ่มอัดเสียงในโปรแกรมที่เปิดรอท่าไว้ตั้งแต่อยู่ในรถเพทาย

“เอ..ว่าแต่พี่หมอไปทำอะไรในห้องวีดีโอวงจรปิดหรือคะ?”
เด็กสาวแสร้งถามหน้าตาไร้เดียงสา

“เอ้า..ลืมไปแล้วหรือคะ ทุกสองวันคุณหมอจะต้องย้อนดูความเคลื่อนไหวของคลินิกเรา เผื่อมีอะไรผิดสังเกตจะได้ไหวตัวทันไงคะ”

พยาบาลสาวตอบพาซื่อ ไม่มีความคิดในหัวแม้แต่น้อยว่าเด็กสาวหน้าโง่คนหนึ่งจะมีอะไรต้องระแวดระวัง
“มันไม่น่าจะมีอะไรผิดสังเกตเลยนะคะ ใครจะมาสงสัย คลินิกพี่หมอก็ดูปลอดภัยไร้กังวล เหมือนคลินิกทั่วๆไป”

พยาบาลสาววัยกลางคนตีเผียะเข้าที่ต้นแขนมยุเรศอย่างนึกเอ็นดูในความไร้เดียงสา
“แหม..น้องดาวก็รู้ๆอยู่ วันนึงมีคนเข้าออกต้องเท่าไหร่ แล้วยิ่งเดี๋ยวนี้คนไข้มาซื้อยาหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเป็นกอง คุณหมอก็ต้องระวังเป็นธรรมดา”

“ยาอะไรคะ..” มยุเรศรีบยิงคำถามไม่รอช้า
“เอ้า..ก็ทุกวันนี้น้องดาวมาซื้อยาอะไรล่ะคะ ถามได้..เล่นมุกรึเปล่าเนี่ย”
หญิงสาวหัวร่อต่อกระซิก มยุเรศตอบกลับเสียงดังฟังชัดเป็นเชิงขอคำยืนยัน

“ยาเหน็บ..ยาขับเลือดทำแท้ง?”
“ก็ใช่น่ะซีคะ..แถมเดี๋ยวนี้มีหลายรายใจกล้าไม่กลัวเจ็บกลัวปวด ขอรับบริการขูดมดลูก ใช้เครื่องดูดช่วยทำแท้งให้เร็วขึ้น เด็กพวกนี้ใจร้อน แล้วก็ขี้เกียจไปขูดมดลูกกันต่อที่โรงพยาบาลหลังเหน็บยา”

เมื่อเห็นรูปการแล้วว่าเหยื่อสาวค่อยๆตกหลุมพรางมากขึ้นเรื่อยๆ มยุเรศก็ไม่รอช้า รีบฉวยโอกาสเจาะลึกข้อมูล เพื่อให้เจ้าของคลินิกจำนนต่อหลักฐานชนิดหาข้อค้านไม่เจอ

“เอ..พี่หมอศรันย์ เจ้าของคลินิกเค้านามสกุลอะไรนะคะ พอดีเมื่อวานไปเจอคนในวงการบันเทิงคนนึงตอนออกงานกับพี่ชาย นามสกุลคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยิน”
พยาบาลสาวหัวเราะดังขึ้นอีกเมื่อได้ยินคำถามแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของลูกค้าวีไอพี

“เล่นมุกอีกแล้วนะคะน้องดาว แหม..พูดจาถึงพี่หมอซะดูห่างเหินขนาดนั้น คนคุ้นเคยกันแท้ๆเชียว”
มยุเรศยกมือเกาท้ายทอยประกอบการแสดง หล่อนยังทำตาใสไร้เดียงสาได้อย่างแนบเนียน

“ช่วงนี้พักผ่อนน้อย สมองกลับมั้งคะ เรื่องสำคัญในชีวิตประจำวัน แม้แต่เรื่องคนที่บ้านดาวยังลืมเลยค่ะ”
“สุขพัฒนา ไงคะ..คุณหมอศรัณย์ สุขพัฒนา พี่บอกคราวนี้แล้วห้ามลืมอีกนะคะ คุณหมอท่านรู้ว่าน้องดาวลืม งอนแย่เลย จะหาว่าพี่ไม่เตือน”

มยุเรศยิ้มรับ พยักหน้าเป็นเชิงให้สัญญา..ภารกิจพิเศษเสร็จสิ้นบริบูรณ์เสียทีสินะ

“งั้นขอรับยาเลยดีกว่าค่ะ ใกล้ถึงเวลานัดพี่ชายแล้ว”
หล่อนตัดบทง่ายๆ ซึ่งพยาบาลผู้นั้นก็ไม่สงสัยอะไร จ่ายยาตามสั่ง แล้วทั้งสองก็ล่ำลากันอีกคำรบพอเป็นพิธี

มยุเรศเดินย้อนกลับออกมาตามทางเดิม หล่อนกำลังจะนำชัยชนะไปฝากรุ่นพี่สาวที่เพิ่งรู้จักกันเพียงวันเดียว ในสถานการณ์ที่ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร..หล่อนไม่รู้เลยว่า อันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้..นพ.ศรันย์ สุขพัฒนา กำลังย้อนดูวีดีโอจากกล้องวงจรปิดเมื่อสิบนาทีก่อน ซ้ำไปซ้ำมา ความไม่ชอบมาพากลบังเกิด..และดูท่าเขาจะไม่ปล่อยเรื่องน่าสงสัยแบบนี้ให้หลุดมือไปง่ายๆเสียด้วย

“มากับใครวะ?!”

นายแพทย์วัยกลางคน ใบหน้ารูปเหลี่ยมย่นคิ้ว เขาสบถขึ้นมาเป็นคำถามเดิมๆ เกือบสิบรอบ รีโมทคอนโทรลตัวนั้นถูกบังคับให้ส่งสัญญาณไปที่หน้าจอหลัก เขาขยายภาพรถญี่ปุ่นคันนั้นให้ประจักษ์ชัดมากยิ่งขึ้น...ไม่มีใครรู้ว่าใต้หลังคาโรงรถมีกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งแอบซ่อนอยู่..นอกจากเป็นคนสนิทวงในจริงๆเท่านั้น ซึ่งก็มีเพียงไม่กี่คนเสียด้วย

“นังเด็กนี่ ทุกทีมันมาตัวคนเดียวนี่หว่า..นังผู้หญิงคนขับมันเป็นใครกัน?”

อีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมา ศรันย์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ราคาเหยียบหมื่น ทว่าเวลานี้เครื่องอำนวยความสะดวกสบายชนิดนี้ ไม่ได้ช่วยให้เขาผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย

จังหวะที่มยุเรศเปิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับนั่นเอง ทำให้มีช่องว่างซึ่งแสงตกกระทบดวงหน้ารูปสวยของผู้หญิงอีกคนพอดิบพอดี...คนที่สร้างความไม่ไว้วางใจให้แก่ศรันย์อย่างยิ่งยวด

เจ้าของคลินิกทำแท้งเถื่อนตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาลูกน้องคนสำคัญในที่สุด..


เพทายยิ้มกว้างเมื่อเห็นดวงหน้าสดใสของมยุเรศโดดเด่นออกมาจากหลังประตูกระจกแต่ไกลๆ หล่อนปลดล็อกประตูรถฝั่งตรงข้ามรอไว้ ก้มหน้าก้มตาสตาร์ทรถไม่กี่วินาที เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวก็หุบยิ้มแทบไม่ทัน...มยุเรศจวนจะก้าวเข้ามาถึงรถอยู่แล้ว ทว่าชายในแจ๊กเก็ตสีดำพร้อมแว่นดำสนิทเดินตามหลังหล่อนมาด้วยถึงสองคน ไม่รู้โผล่ออกมาจากมุมไหน..และที่สำคัญ ดูท่าเด็กสาวจะไม่รู้ตัวเสียด้วย

ลางสังหรณ์ประหลาด บวกความเคยชินกับปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องรีบเอาตัวรอดเสมอๆในงานออกแบบงานแต่งของลูกค้า สัญชาตญาณจึงบอกให้หล่อนหันไปผลักประตูฝั่งของตน เพื่อรีบออกไปช่วยเหลือเด็กในความดูแล หากแต่ไม่ทันก้าวขาออกจากรถ หญิงสาวกลับต้องผงะ เหงื่อเม็ดผุดพราย

หล่อนหนีเสือมาปะจระเข้ตัวโต ชุดดำแว่นดำพอกัน แต่ของหล่อนอาการหนักกว่าตรงที่ มีโลหะหนักๆสีดำมะเมื่อมมาจ่อรออยู่ตรงขมับ..ปืนกระบอกสั้นบังคับให้หล่อนต้องงัดไม้เด็ดขึ้นมาใช้โดยอัตโนมัติ..ไหวพริบสั่งให้เพทายกลั้นใจตะโกนลั่นพลางชี้นิ้วไปเบื้องหลัง ท่าทางดูสมจริงจนทำให้แก๊งชายชุดดำเหล่านั้น หันไปมองตามเสียงเป็นตาเดียว

“ตำรวจ..ตำรวจมาเว้ยเฮ้ย จับมันเลยลูกเพ่!”

จังหวะที่แก๊งชายชุดดำผงะถอยออกไป เพทายก็รีบฉวยโอกาสติดจรวดเท้าไฟ วิ่งอ้อมไปฉุดข้อมือมยุเรศ ซึ่งรายนั้นก็ไวพอจะเร่งฝีเท้าออกหนีพร้อมกัน ทว่าไม่ทันไร เสียงปืนถูกยิงลั่นฟ้าก็ทำให้หัวใจเด็กสาวกระตุกวูบ เพทายตะโกนบอกเสียงดังแข่งกับเสียงลั่นกระสุน

“อย่าหยุดไอ้หนู..สี่คูณร้อยท่องไว้ หยุดเมื่อไหร่ชีวิตจบ”
“ถ้าไม่หยุด..ชีวิตก็จบเหมือนกันนะพี่เพ”

มยุเรศหันมาร้องบอกทั้งที่สองขายังออกวิ่งสุดแรงกำลังที่มี ไม่ทันมีใครถกเถียงอะไรอีก รถยนต์ขึ้นเงามันปลาบคันคุ้นตาก็โผล่พรวดออกมาตัดหน้าสองสาว คนขับรถกระจกลง พร้อมตะโกนลั่นเป็นเชิงบังคับ

“ขึ้นรถเดี๋ยวนี้..ถ้าไม่อยากตาย”

ชัดเจนนั่นเอง..เสมือนอัศวินขี่ม้าขาวมาโปรด แม้หล่อนจะเกลียดขี้หน้าเขาเพียงใด ทว่าความรักตัวกลัวตายยังมีอยู่เต็มขั้น เพทายดึงข้อมือมยุเรศ ออกแรงวิ่งมากกว่าเดิม เพื่อให้ถึงประตูรถคันนั้นโดยเร็วที่สุด!






ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 เม.ย. 2556, 16:56:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 เม.ย. 2556, 16:56:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1553





<< บทที่ ๘ เพลงพิณ ๒/๓   บทที่ ๙ ธาตุแท้ ๑/๒ >>
กานต์นวีร์ 12 เม.ย. 2556, 17:22:27 น.
ในที่สุดก็หาข้อดีของชัดเจนเจอจนได้


ศิลาริน 12 เม.ย. 2556, 17:37:32 น.
@คุณกานต์นวีร์ : แต่ท่าทางจะเป็นข้อดีโดยบังเอิญ แบบไม่มีทางเลือกต้องจำใจยอมรับซะมากกว่า 55


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account