บ่วงพราย
ขนมงจีนถูกส่งไปที่คฤหาสน์สีขาว ที่นั่นเป็นบ้านของคุณหลวง ทว่า...เธอได้พบกับวิญญานชายหนุ่ม ที่แม้แต่ที่อยู่และสถานที่ที่ตัวเองตาย ก็ยังไม่รูั้เลย แล้วเธอจะทำอะไรดีเนี่ย
Tags: รักหวานแหวว หวานซึ้ง พล็อดสนุก สนุกสนาน

ตอน: เสียงกรีดร้อง

บทที่ 25
เสียงกรีดร้อง
อย่านะ เธอกรีดร้อง

“ยมทูตคงมารับเธอ เพื่อชดใช้กรรมในนรก”

ธีร์โยนกุญแจล่ามข้อเท้าของคุณแสงโยนใส่ในกองไฟ มันกรีดร้องโหยหวนดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด เสียงร้องทำให้ขนมจีนได้ยินเสียงประหลาดคล้ายกับเสียงร้องไห้ เธออยู่ที่ไหนกันแน่นะ...มันมืดแล้วก็หนาวเย็นมากเสียจนเธอต้องกอดอกไว้ด้วยความเย็นยะเยือก เธอเหลียวไปทางไหนก็มีแต่ความมืดและว่างเปล่า

ขนมจีนอยู่ที่ไหนกันแน่นะ

ขนมจีน...

“นั่นเสียงใครน่ะ ใครเรียกฉัน” เธอเอ่ยเบา ๆ

แสงสว่างที่ด้านหน้าเธอ เป็นผู้หญิงสาวสาวกิริยาละเมียดละไม มีรอยยิ้มที่งดงามที่สุดเธอผมยาวเกล้าผมเรียบร้อย นุ่งห่มผ้าสไบและมือซ้ายของเธอยังสวมกำไล ทันทีที่เธอเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเธอชื่ออะไร คุณชบาทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้

“คุณชบา” เธอกระซิบแผ่ว

ขนมจีน...เธออย่าให้กำไลงาช้างนี่แก่คุณแสง

“แต่ว่าคุณแสงต้องการกำไลคืนไป ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไง”

ผู้ชายที่อยู่กับเธอรู้ เขารู้ว่าจะต้องทำยังไง

“ธีร์เหรอ”

เธอกลับไปตรงแสงสว่างนั่น ตรงนั้นเป็นทางออกของเธอ..จงจำไว้อย่าได้ให้กำไลงาช้างนี้แก่คุณแสงเด็ดขาด เขาสมควรได้รับการลงโทษ

“หมายถึงส่งเขาไปนรกน่ะเหรอ”

เขาสมควรได้รับการลงโทษ ประตูนรกเปิดรอเขาอยู่

“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไป” เธอตะโกนลั่น

“ไม่นะ เดี๋ยวก่อน” ขนมจีนกระซิบแผ่ว

“ขนมจีน คุณได้สติแล้ว”

“อ๊ะ คุณแสงล่ะ” เธอได้สติเธอเบิกตาโตมองร่างคุณแสงกรีดร้องโหยหวนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงที่เริ่มไหม้ไปสู่บนเพดานและห้องอื่น ๆ เธอหน้าซีดเผือด ตัวชาไปทั้งร่าง

“นั่นเขา...กำลัง”

“ใช่ เขากำลังจะไปนรก นรกได้เปิดรอเขาที่ด้านหลังแล้ว”

ไม่ ฉันไม่ไป ไม่!!

เสียงที่ดังก้องประดุจอัสนีบาตรฟาดพร้อมกับความมืดที่ยื่นมือออกมาหาคุณแสง ดูดกลืนข้อมือและเท้าราวกับทุกสิ่งกำลังดูดกลืนเข้าสู่ห้วงนรก ผืนพสุธาที่กำลังยืนอยู่สะเทือนราวกับกำลังแยกออกจากกัน ภาพความปั่นป่วนและเสียงอื้ออึงที่ดังอยู่รายรอบและเปลวไฟบ้าคลั่งทำให้คุณแสงกรีดร้อง ธีร์แทบมองอะไรแทบไม่เห็นชั่วพริบตาก่อนจะฉุดกระชากร่างบางให้ล้มลงกลิ้งออกไปด้านข้าง

ไม่ !!

ขนมจีนได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดแสนสาหัสจากร่างคุณแสง โดยมีหอกแหลมเสียบทะลุคาอกด้านซ้ายขณะที่รอยไหม้เกรียมที่แผดเผายังคงขยายวงกว้างออกไปอย่างน่ากลัว

“ไปลงนรกซะ” ธีร์ขบกรามแน่น “อย่าได้ผุดได้เกิดอีกเลย”

ไม่เอา อย่า ไม่!!

เสียงเพลงหวีดร้องโหยหวนบาดลึกเข้าสู่จิตใจก่อนแทรกซึมเข้าทำลายทุกอณูของกายเนื้อสร้างความเจ็บปวดทรมานจนวิญญาณแทบหลุดลอยออกจากร่าง ฉุดกระชากทุกสิ่งดำดิ่งสู่ห้วงเวลาแห่งความตาย

เปลวไฟแห่งความมืดและควันที่พวยพุ่งสร้างความเจ็บปวดทรมานให้แก่ร่างที่อยู่ในห้วงแห่งไฟนรก ขนมจีนเห็นเปลวเพลิงที่ลุกท่วมบาดแผลที่หน้าอกมีเลือดกระจายวงกว้าง คุณแสงหวีดร้องโหยหวนก่อนที่ร่างของเธอจะถูกฉุดให้ลงไปในทะเลเพลิงจากมือนับร้อยนับพัน ที่เสียงที่ดึงอื้ออึง

“จงไปชดใช้กรรมในนรกซะ”

หญิงสาวได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดครั้งสุดท้ายดังมาจากคุณแสง ก่อนที่ร่างนั้นจะถึงกาลอวสาน

ฟู่-ฟ-ฟ-ฟ

“แค่ก...แค่ก” เธอไอแค่ก ๆ

ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะถูกนรกขุมสุดท้ายดึงดูดไป เธอมีเรื่องมากมายอยากจะถามธีร์ แต่ว่าตอนนี้ไฟได้ไหม้บ้านจนถึงประตูด้านหน้าและกำแสงจนประตูหลุดเป็นแผ่น ธีร์ใช้ผ้าคลุมหลังเธอพาเธอหนีออกมาจนพ้นประตูหน้าก่อนที่มันจะถล่มลงมา เธอทรุดนั่งลงกับพื้นหน้าตาซีดเซียว

คฤหาสน์สีขาวบัดนี้กลายเป็นเถ้าถ่านสีเทา มอดไหม้ราวกับเปลวเพลิง ไม่มีอะไรเหลือเลยทั้งกระดูกและโซ่ล่ามข้อเท้า และวิญญาณที่อาศัยอยู่ในนั้น เธอมองดูมัน....

“คฤหาสน์สีขาว ไหม้หมดแล้ว”

“ใช่ แต่เราก็ยังเอาชีวิตรอดมาได้”

ใช่...เธอยังมีชีวิตรอดอยู่คู่กับผู้ชายเคียงข้างเธอ เธอมองดูมันจนกลายเป็นไฟลุกไหม้กลายเป็นความโกลาหลของชาวบ้านแถวนั้น เธอเม้มปากแน่นวิญญาณของคุณแสงถูกสูบลงไปสู่นรก ไม่มีอานิสงส์อันใดที่จะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากบ่วงกรรมได้

“หลวงพ่อพูดถูก...ถึงแม้เขาไม่รับอานิสงส์อันใด ผลบุญใด ๆ ก็ไม่อาจบังเกิด”

“ใช่ เขาถึงได้ไปสู่นรกยังไงล่ะ”

ขนมจีนมองหน้าเขา น้ำตาเธอเอ่อล้นออกมาข้างแก้มใส

“คุณทำไมไม่บอกฉัน”

“เพราะผมไม่ต้องการให้คุณเป็นห่วง เรื่องโซ่รัดขา”

“คุณไปเจอที่ไหน”

“ตอนที่คุณเดินมาเรียกผม ผมเจอมันที่ด้านล่างใกล้ ๆ กับโครงกระดูกติดกับเหล็ก เขาถูกจองจำมานานหลายอาทิตย์ และผมก็ซ่อนมันไว้เพื่อไม่ได้คุณรู้”

“คุณรู้แต่ก็ไม่บอกฉัน”

“......”

“คนบ้า บ้าที่สุด” เธอทุบเขาหลายที “ฮือ ๆ บ้าที่สุด”

“ขอโทษ แต่ผมเป็นห่วงคุณ” ธีร์เอ่ยปาก “ไม่ว่าจะต้องทำยังไง ผมก็ไม่ให้คุณต้องเป็นอะไรเด็ดขาด”

เธอหลับตาแน่นน้ำตาไหลออกมาข้างแก้มใส ถูกแล้วคุณชบาบอกว่าไม่ให้เธอมอบกำไลงาช้างนี้แก่คุณแสง และพูดว่าผู้ชายที่อยู่กับเธอรู้ดีที่สุดว่าควรทำอย่างไร แต่ว่า...เธอกลับเมตตาสงสาร สงสารเขาที่ต้องรับความทุกข์ทรมานจนตาย...

แม้รู้ว่าไม่ควรมีก็ตาม....


หลังคฤหาสน์สีขาวเพลิงไหม้ไป แม้ว่าคฤหาสน์สีขาวไหม้ไฟไปหมดแต่เธอก็ไม่เสียดายเพราะได้ส่งวิญญาณของผู้ตายไปกับเพลิงไหม้หมดแล้ว หลังจากที่เธอมานั่งคุยกับพี่นราและคุณรินดาก็ร้องว่าเป็นไปได้ยังไง แม้แต่เขายังไม่เชื่อว่าคฤหาสน์สีขาวจะไหม้ไฟได้ขนาดนี้ เธอจึงเล่าให้ฟังว่าพอดีเกิดไฟลุกไหม้แต่เรื่องวิญญาณเธอเก็บเงียบไม่ได้ใครรู้ นอกจากธีร็เพียงคนเดียว

“เพลิงไหม้เลยเหรอ ไม่เหลือแม้แต่ซาก”

“ใช่ค่ะ”

“แล้วทีนี้ขนมจีนจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ”

“ยังไม่รู้ค่ะ แต่อาจจะกลับไปที่บ้าน”

“ที่ต่างจังหวัดน่ะหรือ” พี่นราเอ่ยปาก “กลับไปคนเดียวจะดีเหรอ เอาอย่างนี้สิขนมจีนมาอยู่ที่บ้านพักของพี่ มันอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้เอง”

“จริงด้วยค่ะ”

“ไม่ดีกว่าค่ะ ขนมจีนอยากกลับไปบ้านแม่ที่บ้านต่างจังหวัด”

เธอมองหน้าขนมจีน นัยน์ตาเธอทอประกาย

“แล้วธีร์ล่ะ เธอจะเอาเขาไปไว้ที่ไหน”

“อะไรนะคะ”

“ขอโทษนะที่ต้องพูดอย่างนี้ แต่ธีร์เขารักเธอมาก เขาไม่อยากให้เธอไปอยู่ต่างจังหวัดตามลำพังอย่างนี้หรอก” รินดาเอ่ยปาก

“....ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”

เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวเขา ว่าเขาทำงานอะไรอยู่ที่ไหน ประกอบธุรกิจอะไรบ้าง เธอไม่รู้อะไรเลย และตอนนี้เธอเองก็ไม่มีคฤหาสน์สีขาวให้อยู่ งานก็ไม่มี มีแต่บ้านคุณพ่อและแม่ที่อยู่ต่างจังหวัด และเขายังจะรักเธออยู่อีกหรือเปล่า

“ฉันไม่เคยติดต่อเขาอีกเลยหลังจากคฤหาสน์ไฟไหม้” เธอเอ่ยเบา ๆ

“เขาไม่เปิดโทรศัพท์เหรอ”

“ไม่ทราบค่ะ ฉันปิดโทรศัพท์” เธอกระซิบแผ่ว

“ไม่ได้นะคะ เขาอาจกำลังหาทางติดต่อคุณอยู่ก็ได้ ตอนนี้คุณอยู่โรงแรมอะไรฉันจะได้บอกเขาให้” คุณรินดาเอ่ยปาก แต่เธอส่ายหน้าปฏิเสธ

“ขอโทษค่ะ แต่ว่าฉันบอกไม่ได้”

“ทำไมล่ะ”

“เพราะว่า...ฉันไม่อยากเจอเขาน่ะสิคะ” เธอยิ้มบาง ๆ “เขาเป็นคนดี มีอนาคตไกลไม่คู่ควรกับฉันหรอกค่ะ”

“ขนมจีน”

“ฉันเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เป็นแค่เด็กเรียนจบใหม่ เขาต่างหากที่มีอนาคตเขาประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียความทรงจำ ถ้าหากว่าวันหนึ่งเขาได้รับความทรงจำคืนมาแล้วฉันจะทำอย่างไรคะ ถ้าหากว่ายังมีอนาคตไกลรออยู่ หรือว่าต้องออกงานสังคม ฉันคง....ทำไม่ได้หรอกค่ะ”

“ขนมจีน ไม่ใช่ว่าคนเราสูญเสียความทรงจำแล้วจะลืมความรักที่มีต่อเธอหรอกนะ”

“ทำได้สิคะ” เธอเอ่ย นั่นเพราะเธอเห็นได้จากความทรงจำระหว่างเธอและเขาแล้ว “เขาจะเป็นคนใหม่ อาจจำฉันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”

“ขนมจีน พี่ว่าเธอคุยกับฉันก่อนดีกว่า แล้วค่อยตัดสินใจว่าควรทำยังไงต่อไป”

ขนมจีนส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่ดีกว่าค่ะ พี่นรา ฉันมาที่นี่เพราะอยากมาบอกลา ฉันเตรียมตัวที่จะกลับบ้านแม่อาทิตย์หน้าค่ะ” เธอเอ่ยเสียงเบา ดวงตาเป็นประกาย “ถ้าหากพี่แต่งงานกันเมื่อไหร่โทรบอกฉันนะคะ ฉันจะรีบกลับมาทันทีเลย”

“อาทิตย์หน้า” ทั้งคู่อุทานพร้อม ๆ กัน “ทำไมมันถึงเร็วนักล่ะ”

“ก็...ฉันไม่มีที่ให้อยู่แล้วนี่คะ” เธอกล่าว “ตอนนี้ฉันก็ยังไม่ได้พบป้าผกาเลย คิดว่ากลับไปป้าคงดุด่าฉันมากแน่ ๆ ที่ปล่อยให้บ้านถูกไฟไหม้ได้”

“แล้วป้าผกาไม่ให้ที่เธออยู่เหรอ เห็นว่ามีห้องให้เช่าตั้งหลายหลังนี่”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันไม่อยากรบกวน” ขนมจีนเอ่ยปาก “ขอตัวก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวก่อนสิ พี่ว่าเราคิดดี ๆ ก่อนดีกว่า”

“ขอโทษค่ะ ฉันขอตัวก่อน” เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ พนมมือไหว้แล้วเดินออกไปจากร้านอาหารทันที่ รินดากับคุณนรามองหน้ากัน เธอมีหน้าหมองหม่นโดยไม่รู้จะทำยังไง

“ขนมจีนจะไปรอดเหรอ”

“ไม่รู้สิ แต่ว่าฉันคงต้องไปหาคุณธีร์เพื่อบอกเขาเรื่องที่เธอจะกลับบ้านคุณแม่” คุณนราว่า “เชื่อเถอะ เขาไม่มีทางยอมให้เธอกลับไปแน่ ๆ” เขากระซิบแผ่ว.....


“นังบ้า นี่แกปล่อยให้คฤหาสน์นั่นไฟไหม้ได้ยังไงกัน”

ตามคาดป้าผการ้องลั่นโดยแทบน้ำตาเป็นเผาเต่า ทีแรกก็ว่าจะเอาเข้าแบงค์แต่พอไฟไหม้เป็นเถ้าถ่านอย่างนี้ เธอจะเอาที่ไหนไปเข้าแบงค์ เธอคร่ำครวญไม่ได้ห่วงหลานสาวเลยว่าเป็นอะไรบ้าง แต่ในใจเธอมีแต่คฤหาสน์สีขาวเท่านั้น เธอถอนหายใจยาวพนมมือไหว้

“ขอโทษนะคะป้า”

“ขอโทษแล้วมันจะได้อะไรเล่า ดูซิฉันว่าจะเอาไปเข้าแบ็งค์เสียหน่อย ดูสิว่ามันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง” เธอคร่ำครวญ หนี้สินก็ยังไม่ได้ใช้คุณชายลูกสาวก็อยู่ในคุก นี่สวรรค์จะไม่เข้าข้างเธอเลยหรือไง

“แกไปแจ้งตำรวจแล้วหรือยัง”

“ตำรวจสอบปากคำหนูแล้วค่ะ”

“แล้วเขาพูดว่ายังไง”

“เขาก็บอกว่า...สงสัยไฟฟ้าจะลัดวงจร ขอโทษนะคะเพราะหนูไม่ระวังเอง” เธอเอ่ยปาก แต่ว่าเธอปิดเงียบเรื่องวิญญาณที่ตามล้างแค้นกับเรื่องกำไลนั่นไม่ให้ใครได้รู้

เพราะว่า...

เธอได้ส่งวิญญาณเขาไปสู่ที่ชอบ ๆ เรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วงอีก

“ไฟฟ้าลัดวงจร” เธอทำหน้าเบ้ “แล้วทำไมไม่ให้ช่างซ่อมตั้งแต่แรก...

“ขนมจีนไม่ทราบค่ะ”

“โอย ชั้นจะเป็นลมแล้ว ทรัพย์สมบัติที่อุตส่าห์ได้มาจากคุณหลวงเป็นร้อย ๆ ปีกลับต้องมาถูกทำลายด้วยน้ำมือของหลานเพียงคนเดียว”

“คุณป้าคะ ทรัพย์สมบัติของป้าน่ะใช้ไปหมดแล้วนะคะ”

“เธอพูดอะไรน่ะ”

“มันก็จริงนี่คะ สมบัติทั้งหมดที่ป้าใช้รวมไปถึงสมบัติของแม่หนูด้วย ที่แม่หนูไม่เอาตอนแรกก็เพราะเป็นห่วงป้าที่อยู่คนเดียว ส่วนตอนนี้...หนูเริ่มเข้าใจแล้วล่ะค่ะว่าทำไมแม่ถึงได้ห่วงมากนัก ป้าชอบเล่นไพ่อย่างหนักไม่หมดไม่เลิก แล้วแบบนี้ป้าจะอยู่ยังไงต่อไปละคะ"

ประโยคนั้นแทงใจดำป้าอย่างหนัก

“ไม่ต้องมาห่วงฉัน ฉันหาฉันฉันได้ล่ะน่า แกก็เถอะป่านนี้จะไปอยู่ที่ไหน...บ้านเช่าของฉันมันเต็มหมดแล้วนะ ไม่มีที่ให้อยู่หรอก ขอบอกให้รู้ไว้”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูจะกลับไปบ้านแม่ที่ต่างจังหวัด”

“อ๋อ...ไอ้บ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนนั่นน่ะเหรอ ดีเหมือนกันจะได้พ้น ๆ ไปซะ” ป้าเชิดหน้า “ฉันก็จะบ้าตาย ไอ้แฟนแกคนนั้นล่ะไปไหน ไหนว่าจะมาสู่ขอ”

ประโยคนั้นทำเอาเธอเม้มปากแน่น

“เขาไม่อยู่แล้วล่ะค่ะ”

“อะไรนะ ทำไมล่ะ”

“เอ่อ...เขามีอนาคตที่ดี แล้วเราก็อยู่ร่วมกันเพราะเหตุผลบางอย่าง”

“ตายแล้ว...นี่เขาทิ้งแกแล้วเหรอ ฉันว่าแล้วมันต้องกลายเป็นอย่างนี้” ป้าจีบปากจีบคอพูด “เห็นมั้ยแกคงไม่เป็นอย่างแววนะ นี่ฉันก็กำลังหาเงินไปประกันลูกสาวฉันออกมาเนี่ย”

“ป้าคะ หนูบอกแล้วไงว่าหนูกับเขาอยู่ร่วมบ้านกันด้วยเหตุผลบางอย่าง”

ไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายเรื่องวิญญาณคุณแสงให้ป้าทราบ เพราะถึงป้าทราบก็คงไม่เชื่อว่าจะมีวิญญาณอะไรตามติดเธอได้ขนาดนี้ เธอเม้มปากแน่นถึงแม้ว่าป้าจะไม่รู้ แต่ก็คงเอาเรื่องนี้ไปนินทาให้ชาวบ้านฟังกันอย่างสนุกปาก และเธอก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว

“เหตุผลเหรอ เพราะแกมันร่านน่ะสิ”

“คุณป้า”

“เหตุผลของผู้ชายกับผู้หญิงที่มันร่าน มันจะมีอะไรซะอีก โถ...พอคฤหาสน์สีขาวถูกเผาขึ้นมามันก็ทิ้งแกเลย เป็นยังไงล่ะ สะใจหรือยัง”

เธอเริ่มโกรธจนพูดไม่ออก

“ป้าคะ มันเป็นเพราะ...”

“เพราะผมมัวแต่ยุ่งเลยไม่ได้มาหาขนมจีน ไม่ได้หาเหตุทิ้งเธอเพราะเรื่องแค่นี้หรอกครับ” เสียงต่ำ ๆ ของธีร์ที่ดังอยู่ทางด้านหลังเอ่ยขึ้น

ขนมจีนหันกลับไป และป้าของเธอขมวดคิ้วมุ่น

“ใครเชิญมาไม่ทราบ” น้ำเสียงของเธอขุ่น

“ไม่มีใครเชิญหรอกครับ แต่ผมทนเห็นคุณป้าใส่ไฟเธอไม่ไหวก็เลยมาปกป้องเธอ แล้วก็มาสู่ขอตามประเพณี” เขาพูดทำเอาขนมจีนอ้าปากค้าง

“ธีร์ นี่คุณ...”

“เงียบเถอะ ผมอธิบายเอง” ธีร์เอ่ยปากเบา ๆ “ผมอยู่กับขนมจีนที่บ้านหลังนั้นเพราะมีเหตุผลบางอย่าง แต่เราไม่มีอะไรกัน เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการกันข้อครหาผมจึงมาสู่ขอเธอ ป้าผากจะว่าอย่างไรครับ”

“มีปัญญาเหรอ มาสู่ขอกันน่ะ”

“ผมทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับหุ้นส่วนใหญ่...หวังว่าป้าของจะทราบ ลำพังแค่การสู่ขอตามมารยาทผู้ใหญ่น่ะเป็นเรื่องตามประเพณี”

“ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้นขนมจีนเป็นหลานสาวฉันนะ เป็นหลานที่ฉันรักมากที่สุด เพราะฉะนั้นฉันขอคุณทองยี่สิบบาทเงินอีกสามสิบล้านบาท โอเคหรือเปล่า”

“คุณป้าคะ หนูยังไม่ได้...”

“ผมให้ห้าสิบล้าน” เขาประกาศทำให้ป้าผกาลืมตาโต

“ห้า..ห้าสิบล้าน”

**************




เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 เม.ย. 2556, 08:29:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 เม.ย. 2556, 08:29:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 1582





<< คืนริษยาและแรงอาฆาต   บทที่ 26 ผมรักคุณ (ตอนอวสานแล้วค่ะ) >>
เบลินญา 21 เม.ย. 2556, 08:30:32 น.
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ


kaelek 21 เม.ย. 2556, 09:22:01 น.
ห้าสิบล้านนนนนนนน


Zephyr 21 เม.ย. 2556, 11:09:36 น.
โห มากไปป่ะกะคนงกยังงั้น
ค่าตัวขนมจีน มันประเมินไม่ได้หรอก แต่ว่า ไม่อยากให้ป้างกนั่นได้เยอะขนาดนี้เลย


Auuuu 21 เม.ย. 2556, 19:46:01 น.
ป้าพูดมาได้ หลานที่รักมาก เพลีย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account