เพทายพ่ายตะวัน
เมื่อเธอคือ กุหลาบแดง แห่ง "เรือนกุหลาบ" และเขาคือ ศัลยแพทย์ ผู้มีฝีปากเชือดเฉือนยิ่งกว่ามีดผ่าตัด..ยุทธการปราบพยศครั้งนี้..มีหัวใจเป็นเดิมพัน!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่๑๒ ความจริงหลังฉาก ๒/๒

“ความจริงอะไรคะ?”
เพทายถามหน้าตาเหลอหลา

คุณตระการไม่ตอบคำถามนั้นโดยตรง นัยน์ตาชายสูงวัยอ่อนแสงลง แลทอดไปไกลเลยกรอบหน้าต่างกระจกของหอผู้ป่วยวิกฤต เสมือนพยายามรำลึกเหตุการณ์ตั้งแต่แรกเริ่ม..เหตุการณ์ซึ่งมีความสำคัญเท่ากับความเป็นความตายของเขา

“วันนั้น..พ่อเจ็บหนักอย่างไม่เคยเจ็บมาก่อน มันระบมไปทั้งร่าง เหมือนตัวจะแตกเป็นเสี่ยงๆ”ใบหน้าคร้ามแดดของเขามีแววเครียดขึ้นมาเมื่อเอ่ยถึง “ที่ห้องนั้น..ผู้คนมากมายรุมล้อมตัวพ่อ แต่ละคนดูเหน็ดเหนื่อย สีหน้าตกใจ..หากมีดวงตาอ่อนโยนราวเทวดานางฟ้ากันทุกคน”

เพทายเห็นบิดามีท่าทางเหนื่อยอ่อนจึงเข้าไปประคองแขน จัดหมอนตั้งขึ้นเป็นพนักพิงหลัง ช่วยขยับตัวให้อยู่ในท่านั่งที่ผ่อนคลายยิ่งขึ้น น้ำเสียงของพ่อแหบแห้ง หล่อนจึงรินน้ำใส่แก้ว ค่อยๆยกขึ้นป้อนจนคุณตระการต้องโบกไม้โบกมือเป็นเชิงให้พอเท่านี้ก่อน หล่อนจึงถอยออกมา ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มานั่งฟังชายสูงวัยเล่าเหตุการณ์ในความทรงจำต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ

“ดวงตาอ่อนโยนราวเทวดานางฟ้า..มันเป็นยังไงหรือคะ?” คำถามนั้นขัดจังหวะคนพูดขึ้นมาเล็กน้อย คุณตระการหรี่ตามองบุตรสาว โคลงศีรษะช้าๆ

“มันอธิบายไม่ได้หรอก..ของแบบนี้ต้องใช้ใจสัมผัส อีกหน่อยลูกจะรู้เองเมื่อเจอผู้คนมากเข้า” ผู้เป็นบิดาสูดลมหายใจเข้าลึกยาวแล้วผ่อนระบายออกมาเพื่อเติมพลังชีวิตก่อนเล่าต่อ
“พ่อเห็นหมอผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาก่อน หน้าตาสะสวย ผิวสีแทน”

“ยายฝอยทองชัวร์ๆ” เพทายดีดนิ้วดังเปาะ คุณตระการมองหน้าหล่อน ใช้สายตาบอกทำนองว่าอย่าเพิ่งขัดจังหวะ นั่นแหละหญิงสาวจึงได้หุบปากฉับ กระพริบตาปริบๆทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี

“ทีแรก..พ่อคิดว่าคุณหมอผู้หญิงคนนั้นกระตือรือร้น เอาใจใส่พ่อมากเป็นพิเศษ พ่อไม่เคยเห็นหมอที่ตั้งใจตรวจรักษาเท่านี้มาก่อน”
เพทายยิ้มแป้น ยืดอกภาคภูมิใจราวกับถูกชมเสียเอง แต่หล่อนก็เกือบหุบยิ้มแทบไม่ทัน เมื่อได้ยินคำกล่าวถัดมา

“ที่ไหนได้..ยังมีหมอผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาอีกคนแทรกตัวเข้ามา พ่อเห็นจิตวิญญาณของความเป็นหมอลุกโชนอยู่ในดวงตาคมกริบคู่นั้น เขากระตือรือร้น..คล่องแคล่วยิ่งกว่าหมอผู้หญิงเสียอีก คงจะเป็นอาจารย์หรือไม่ก็รุ่นพี่ที่ผ่านประสบการณ์มามากกว่า มองปราดเดียวพ่อก็มั่นใจว่าเขาต้องเป็นหมอที่ฝีมือดี หาตัวจับยากคนหนึ่ง” นัยน์ตาลุ่มลึกของคุณตระการมีประกายชื่นชมฉายชัด จนคนฟังต้องนิ่วหน้าด้วยความหมั่นไส้

“คุณพ่อก็..พูดเป็นนิยายไปได้” เพทายว่าเสียงสะบัด “เห็นกันแค่แวบเดียว ตัดสินได้ขนาดนี้”

ชายสูงวัยสั่นศีรษะ น้ำเสียงที่เอ่ยบอกความระอาในตัวบุตรสาว

“เก็บไว้ก่อน..อคติของเราน่ะ ฟังให้จบแล้วค่อยออกความเห็น”

นั่นแหละ เพทายจึงกลับมาเป็นผู้ฟังที่ดีอีกครั้ง

“จำได้ลางๆ..เขาเอาเครื่องมืออะไรสักอย่างมาไถที่ท้องพ่อ บอกว่ามีเลือดในท้อง หลังจากนั้นพ่อก็ไม่ได้สติ รู้ตัวอีกทีก็เห็นตัวเองอยู่ในห้องผ่าตัด..เห็นหมอคนนั้นเริ่มลงมือใช้มีดกรีดหน้าท้อง”

ก่อนที่คุณตระการจะได้เล่าต่ออีกยืดยาว เพทายรีบสกัดดาวรุ่ง ยกมือเบรกขัดจังหวะอีกครั้ง
“ดะ..เดี๋ยวค่ะคุณพ่อ ชักจะไปกันใหญ่แล้ว คุณพ่อบอกว่าไม่ได้สติ..เห็นหมอเอามีดกรีดท้อง แปลว่าตอนนั้นเขาวางยาสลบแล้ว?”
ชายสูงวัยพยักหน้าแทนคำตอบ แววตายังเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจในสิ่งที่เห็น
“เอ้า! แปลว่าไงคะ..คุณพ่อจะบอกว่าเห็นร่างตัวเองนอนอยู่บนเตียงผ่าตัด ถอดจิตได้ทำนองนั้น?!”
คุณตระการถอนใจยาว เล่าต่อเสียงเรียบเรื่อย

“พ่อไม่รู้หรอกนะ..สภาวะนั้นมันเรียกว่าอะไร ไม่มีเสียงพูด ไม่มีสัมผัสแบบมนุษย์ ไม่เห็นว่ากำลังมองตัวเองมาจากมุมไหน..แต่เอาเถิด อดทนฟังให้จบ..แล้วลูกจะรู้ว่าที่พ่อพูดมันเป็นเรื่องจริง!”

เพทายพยายามนับหนึ่งถึงสิบ เพื่ออดทนฟังผู้เป็นพ่อเล่าต่อจนจบ หล่อนไม่ใช่คนประเภทเชื่ออะไรงมงาย พิสูจน์ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ในเมื่อมันเป็นความสบายใจของบิดา..หล่อนก็จะกลั้นใจฟัง

“คนที่ลูกกล่าวหาว่าไร้จรรยาบรรณ..ขาดความรับผิดชอบ รู้ไหมเขาทำอะไรให้พ่อบ้าง” บิดาขึ้นต้นมาชนิดที่ทำให้หล่อนสะอึก อ้าปากจะถาม ทว่าคุณตระการยกมือห้ามแล้วเล่าต่อยาวเหยียด

“หมอคนนั้นเขาตั้งหน้าตั้งตาผ่าตัดให้พ่อ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ได้ยินเขาคุยศัพท์แพทย์กับพยาบาลผู้ช่วยส่งอุปกรณ์ พ่อฟังไม่รู้เรื่องทั้งหมดหรอก รู้เพียงว่า...การผ่าตัดเย็บกระเพาะปัสสาวะที่ปริแตกของพ่อนั้น..มันยาก และมีอุปสรรคมาก ได้ยินเขาพูดขึ้นมาลอยๆ เหมือนบอกตัวเอง และตั้งใจสื่อให้พ่อรู้ คำพูดนั้นกระทบใจพ่อจริงๆ มันมีกระแสรุนแรงบางอย่างส่งผ่านมาด้วย”

ถึงตอนนี้เพทายเริ่มนิ่ง..ตั้งใจฟังผู้เป็นพ่อสาธยายความทรงจำ..บางส่วนในคำกล่าว บอกให้รู้ว่าพ่อของหล่อนเห็นภาพเหล่านั้นจริง!

“คุณลุงต้องรอดนะ..อย่ายอมแพ้..คืนนี้เราจะลุยไปด้วยกัน”

คุณตระการบอกเสียงขึงขัง ประเหนึ่งจะลอกเลียนให้เหมือนเจ้าของคำพูดจริงๆ

“แล้วหลังจากนั้นก็ได้ยินคำสั่งให้ตามเลือด ให้น้ำเกลือ มีคนหลายคนวิ่งถืออุปกรณ์สวนกันไปมาจนแทบจะชนกันล้ม..บรรยากาศในห้องผ่าตัดตอนนั้นวุ่นวายมาก”

“นานแค่ไหนคะ..” เพทายหลุดคำถามออกไปโดยไม่รู้ตัว เสียงหล่อนแผ่วเบา..มีแรงสั่นสะเทือนแล่นขึ้นมาอย่างเงียบเชียบตรงกลางหัวอก

“พ่อหันไปมองนาฬิกาที่ติดผนังเป็นระยะ..ใจหนึ่งก็ลุ้นว่าตัวเองจะรอดไหม..จะมีโอกาสฟื้นขึ้นมาเจอหน้าลูกๆได้อีกไหม ใจหนึ่งก็สงสารบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ที่ต้องมาสละเวลาเพื่อใครก็ไม่รู้..โดยเฉพาะคุณหมอหนุ่มคนนั้น..พ่อเห็นเหงื่อผุดเต็มหน้าเขา คงจะเสียพลังงานสมอง พลังงานแรงกายไปเยอะทีเดียว..แต่กลับไม่ได้ยินเสียงบ่นสักคำ ไม่มีคำอุทธรณ์ว่าเหน็ดเหนื่อย เวลาเริ่มต้น..ตั้งแต่พ่อเห็นร่างตัวเองนอนอยู่ นับจากหกโมงเย็น จนกระทั่งเที่ยงคืนนั่นแหละ ถึงได้เห็นหน้าท้องตัวเองถูกเย็บปิด ได้ยินเสียงทุกคนถอนหายใจโล่งอก สีหน้าแช่มชื่น ดูเหมือนว่าหมอหนุ่มคนนั้นจะมีคนไข้รอผ่าตัดอีกสองราย..คงไม่ได้นอนเลยทั้งคืน”

สีหน้าของเพทายเจื่อนลงถนัดตา หล่อนได้แต่นิ่งเงียบ..แม้ไม่อยากจะเชื่อเรื่องงมงาย แต่สิ่งที่พ่อหล่อนอธิบาย มันก็น่าขบคิด..คนอะไรจะฝันเห็นเรื่องราวเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนั้น แถมข้อมูลบางอย่างยังถูกต้องตรงกันกับคำอธิบายของชัดเจน..นั่นคือภาวะกระเพาะปัสสาวะปริแตก..พ่อหล่อนทราบได้อย่างไร?

“ทุกอย่างกลายเป็นความมืด..พ่อไม่เห็นอะไรอีก จนกระทั่งมาพักฟื้นที่ไอซียูหลังผ่าตัด พ่อจึงได้เห็นร่างซีดเซียวของตัวเองนอนอยู่บนเตียงนี้อีกครั้ง วันนั้นเอง..ไม่อยากเชื่อว่าลูกสาวของพ่อจะพูดจาดูถูก..ทำร้ายจิตใจผู้มีบุญคุณกับพ่อได้ถึงขนาดนั้น ไม่มีใครอยากได้ยินคนอื่นเอาเรื่องพ่อแม่เขามาล้อเล่นหรอกนะ..เพทาย”

คุณตระการเริ่มรู้สึกปวดหนึบขึ้นมาบริเวณขมับทั้งสองข้าง หนังตาหนักอึ้ง ชายสูงวัยจึงจบบทสนทนาลงเพียงแค่นั้น ค่อยๆเอนกายเลื่อนตัวลงนอน จัดหมอนหนุนศีรษะตามเดิม

มีเพียงบุตรสาวซึ่งยังนั่งข่มอารมณ์บางอย่าง..ทอดมองบิดาแน่วนิ่ง ภาวนาให้สิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่เป็นเพียงความฝัน..ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดใกล้เคียงเรื่องจริงเลยแม้แต่น้อย

หากทว่าสวรรค์คงจงใจกลั่นแกล้ง..ตอกย้ำความรู้สึกผิดลึกลงในใจหล่อน คืนนั้น ขณะเดินเคียงคู่นลัศเข้ามาในลานจอดรถข้างตึกอุบัติเหตุฉุกเฉิน

“เฮ้อ..คุยกันยาวไม่ดูเวล่ำเวลา ปาเข้าไปจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว รีบกลับกันเถอะ”
นลัศเอ่ยกลั้วหัวเราะ กว่าเขาจะเดินทางมาถึงโรงพยาบาลตามนัดก็เป็นเวลาค่ำแล้ว มีเรื่องให้คุยให้ปลอบกันอีกพักใหญ่ คุณตระการตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนดึก เลยสมทบชวนรำลึกเรื่องราวแต่หนหลัง แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับสูติแพทย์ไฟแรงต่ออีกยาว สุดท้ายเลยคุยกันติดลมล่วงเลยจนถึงเวลานี้
เพทายหยุดกึกอยู่หน้าประตูฝั่งตรงข้ามคนขับ บอกเพื่อนหนุ่มเมื่อนึกขึ้นได้
“ตายล่ะ..ฉันลืมกระเป๋า”
นลัศรีบอาสา
“เดี๋ยวเราไปเอาให้..อยู่ที่เตียงคุณพ่อเธอใช่ไหม?”
เพทายสั่นศีรษะรัวด้วยความเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอก นายรออยู่ในรถนี่แหละ เดี๋ยวฉันเข้าไปหยิบเอง ใกล้แค่นี้”


ทีแรก..เพทายรีบเดินกึ่งวิ่งกลับเข้าไปในไอซียู ทว่าหล่อนแทบชะงักฝีเท้าไม่ทันเมื่อเห็นเงาร่างคนคุ้นตากำลังก้มๆเงยๆอยู่ที่เตียงบิดาของตน

หญิงสาวได้ยินเสียงพ่อของหล่อนตอบเขา..มีร่องรอยนับถือและชื่นชมอย่างเปิดเผย
“ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะคุณหมอ..พอลุกนั่งได้ ผมขอบคุณจริงๆ ถ้าไม่ได้หมอผมคงตายไปแล้ว”
ชัดเจนเอามือแตะผนังหน้าท้องที่มีรอยเย็บเป็นแนวยาว รอยแดงเริ่มจางลงแล้ว เขาตรวจสอบผลงานตัวเองจนเป็นที่พอใจ พลางเงยหน้าระบายยิ้มอ่อนโยนให้คนป่วย..รอยยิ้มซึ่งเพทายไม่เคยมีโอกาสได้เห็น

“คุณลุงต้องขอบคุณตัวเองด้วย..ที่มีกำลังใจอยู่สู้จนถึงตอนนี้” นัยน์ตาคร้ามคมมีเปลวไฟแห่งพลังชีวิตส่งมอบให้พ่อของหล่อน เงาระยิบระยับนั้นก่อพลังใจให้กับผู้พบเห็นได้อย่างน่าอัศจรรย์..เงาซึ่งแตกต่างจาก ‘วันนั้น’ โดยสิ้นเชิง เพทายได้ยินประโยคสุดท้ายแผ่วเบา “อีกไม่เกินห้าวันก็ตัดไหมแล้ว..ทนเจ็บนิดนึงนะครับ”

ดวงหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าว หล่อนหันหลังพิงเสากำแพงอยู่ตรงนั้น ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับขาให้ก้าวเดิน ขอบตาชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดน้ำแห่งความรู้สึกผิด..ท่วมท้นลงสู่หัวใจ




ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 เม.ย. 2556, 13:29:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 เม.ย. 2556, 18:14:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 1584





<< บทที่๑๒ ความจริงหลังฉาก ๑/๒   บทที่ ๑๓ ง้อ >>
sai 30 เม.ย. 2556, 14:25:37 น.
รู้สึกผิดเยอะๆเลยเพทาย


ศิลาริน 30 เม.ย. 2556, 18:15:34 น.
@sai : รู้สึกผิดเกินพิกัดแล้วค่ะตอนนี้ 55


mhengjhy 30 เม.ย. 2556, 18:38:49 น.
ผิดเยอะ จะได้ว่าง่ายๆ 5555


หมีสีชมพู 30 เม.ย. 2556, 18:45:15 น.
ชัดเจนดูหล่อขึ้นเยอะเลย แต่กรุณาลดความปากเสียลงนิ๊ดดดด


ศิลาริน 30 เม.ย. 2556, 18:52:04 น.
@mhengjhy : หมายถึงชัดเจนจะได้ว่าง่ายๆใช่มั้ยคะ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ 55
@หมีสีชมพู : เรื่องแบบนี้มันเป็นสันดาน แก้ยากนิดนึง แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้าเกิดรักใครมากๆเข้า อาจเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ได้^^


กานต์นวีร์ 30 เม.ย. 2556, 20:45:17 น.
เพเอ๊ย พลาดแล้วเธอ


ศิลาริน 30 เม.ย. 2556, 20:47:10 น.
@กานต์นวีร์ : พลาดอย่างแรงเสียด้วยค่ะ มาเอาใจช่วยให้เพผ่านพ้นความผิดพลาดครั้งนี้ไปได้ด้วยดีกันเถอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account