ทางเดินหัวใจ
เรื่องหนึ่งเรื่องเริ่มมาจากความฝัน อีกหลายเรื่องคืความผูกพันธ์
มีการพัฒนาอย่างเงียบๆ รอเพียงเวลาที่เหมาที่ควรเท่านั้น
แล้วความรกจะดำเนินต่อไป

Tags: ฝัน และ จริง

ตอน: ตอนที่22 อาถรรพ์ความโกรธ

สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน คุณณัฐจารั คุณ nitayab ที่ช่วยคอมเม้นด้วยนะคะ
ช่วงนี้มันมือ เขียนทุกวัน ใครชอบไม่ชอบยังไง อย่าลืมบอกกันนะคะ

__________________________________________________________________________________

ข่าวพาดหัวใหญ่หน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในเช้าวันนี้

“ดิว แดนไทย อดีตนักร้องโกอินเตอร์ ประกาศแต่งงานผ่านสื่อออนไลน์ ว่าที่เจ้าสาวเป็นคุณหมอโรงพยาบาลชื่อดัง แล้วทีนี้บรรดาแฟนคลับทั้งหลายจะว่ายังไงกัน เจ๋งอ่ะ คู่เราเอามั่งดีไหมครับ”กระบี่อ่านพาดหัวข่าวเสียงดัง แล้วหันไปถามปลายฟ้าที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่ที่จริงจะเรียกว่าสิงกันอยู่ก็ได้

แต่คนที่อยู่ในข่าวกับทำหน้าบอกบุญไม่รับ แอบมาหลบอยู่ที่ห้องเนวดี

“น้ำค้างอยู่นี่เอง ดีใจด้วยนะดังใหญ่แล้ว”สารินานำเสียงมาก่อนตัว ซึ่งแน่นอนคนที่ตามมาด้วยก็คือสามีสุดที่รัก

นรีเหมือนโลกไม่มีที่ให้เธอยืน การที่มีข่าวว่าเธอจะแต่งงานกับดาราดัง ทำให้เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนถ่ายรูป ชี้เธออย่างกับเป็นตัวประหลาด

“เป็นอะไรไปหน้าบึ้งเชียว”เมฆาถาม

“ก็เรื่องเดียวที่พวกคุณมาหาน้ำค้างนั้นแหละ”กระบี่ตอบแทนนรีที่ไม่ยากพูด

“ทำไมล่ะ รูปที่พี่ดิวเอาไปลงก็สวยดี ทำไมต้องไม่ชอบด้วยล่ะ”สารินาไม่เข้าใจ

“น้ำค้างไปก่อนนะ”นรีไม่ตอบคำถามใดๆลุกเดินออกไปจากห้อง

“อ้าว...เป็นอะไรของเขานะ”สารินา งงเข้าไปใหญ่

นรีเดินเข้าไปในห้องทำงานสักพักก็เดินกลับออกมาส่งซองขาวให้จันทิรา

“พี่แจ๋น ฝากส่งใบลาด้วยนะคะ”

“คุณหมอจะไปไหนคะ… อ้าว...คุณหมอไปซะแล้ว”

หญิงสาวไม่ตอบรีบเดินไปให้พ้นจากสายตาของคนที่เอาแต่จับจ้อง



แดนไทยยิ้มหน้าบานในมือมีดอกไม้ช่อโต เขาตั้งใจจะพาว่าที่เจ้าสาวไปลองชุดแต่งงาน

“คุณพยาบาลคนสวยครับ”แดนไทยเดินมาทักทางจันทิรา

“อุ้ย...คุณดิวเอาดอกไม้มาฝากแจ๋นเหรอคะ”จันทิราทำเขินอาย

“น้ำค้างว่างไหมครับ”คนถามยิ้มหน้าบาน

“คุณหมอไปแล้วค่ะ เธอลาไปไหนก็ไม่รู้ เดือนหนึ่งเลยค่ะ”

“ว่าไงนะครับ เอ่อ...ขอบคุณมากครับดอกไม้นี่ผมให้ครับ”

“ขอบ...ไปซะแล้วยังขอบคุณไม่จบเลย”
แดนไทยรีบออกจากโรงพยาบาลขับรถกลับไปยังคอนโด พอจอดรถได้แดนไทยก็รีบวิ่งเข้าไปทันที

“คุณดิวคะ”นางเรียกแดนไทย

“มีอะไรครับพี่นางผมรีบ”

“คุณหมอฝากนี่ไว้ให้ค่ะ”นางส่งกระดาษให้แดนไทย

‘พี่ดิว น้ำค้างไปพักผ่อน ไม่ต้องตามนะ ก่อนงานน้ำค้างจะกลับมาเอง
รัก
น้ำค้าง’
“ทะเลาะอะไรกันคะ พี่เห็นคุณหมอหน้าตาไม่ดีเลย”นางถามด้วยความหวังดี แต่แดนไทยยิ่งไม่เข้าใจ ก็เมื่อวานยังคุยกันดีๆอยู่เลย


นรีนั่งเกวียนของชาวบ้านเข้ามายังในหมู่บ้านละมั่ง หมู่บ้านนี้นรีเคยมาออกค่ายเมื่อเกือบสิบปีที่ผ่านมา แต่เท่าที่รถเกวียนผ่านมาก็ยังดูไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่

ต้นไม้ยังคงเขียวขจี ทางที่มีก็ยังเป็นแค่ทางเกวียน มีเสียงนกนาๆชนิดแข่งกันส่งเสียง และยังเห็นละมั่งที่ได้ชื่อว่ามีน้อย แต่ที่นี่ยังเห็นได้อยู่ทั่วไป ตามชื่อหมู่บ้าน

เกวียนมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านผู้ใหญ่ของหมู่บ้านนี้ บ้านชาวบ้านก็ยังเหมือนเดิม นรีหันไปเห็นเด็กๆที่แอบยืนมองด้วยความหวาดๆ เหมือนกับเมื่อครั้งนั้นไม่ผิด แต่เด็กน้อยๆเมื่อครั้งนั้นคงจะเติบโตเป็นหนุ่มสาวกันแล้ว

นรีหันกับมาก็เห็นผู้ใหญ่บ้านเดินออกมาหา

“สวัสดีจ๊ะคุณ มาหาใครเหรอ”
ลุงผู้ใหญ่บ้านตอนนี้มีผมขาวจนเกือบเต็มหัวยกมือไหว้นรี

“อย่าไหว้หนูเลยค่ะ พอดีหนูเคยมาค่ายอาสาที่นี่เมื่อหลายปีก่อนนะค่ะ ก็เลยกลับมาเยี่ยม แล้วก็ซื้อขนมแล้วก็ของใช้เล็กน้อยๆมาฝากชาวบ้านด้วยค่ะ”นรีบอก
ผู้ใหญ่บ้านถึงกับตาโตเมื่อหันไปเห็นของในเกวียนที่แทบจะล้นเกวียน

“ทำไมมันเยอะจังจ๊ะคุณ”ผู้ใหญ่บ้านยิ้มแก้มบาน นานมากแล้วที่หมู่บ้านนี้ไม่มีคนดีเข้ามา

“ลุงคะ ที่นี่พอจะมีที่พักไหมคะหนูจะขอพักสักเดือนจะได้ไหมคะ”นรีถามพร้อมมองไปรอบๆ

“มีจ๊ะมี นอนบ้านลุงนี่แหละ”ผู้ใหญ่รีบบอก

“จำได้ว่าลุงมีลูกสาวอายุพอๆกับหนู เธออยู่ไหนค่ะ”

“เธอๆนั้นเอง”
เสียงผู้หญิงเรียกนรีจากสวนหลังบ้าน แล้ววิ่งมาหาอย่างรวดเร็ว

“กวางใช่ไหม สวยขึ้นนะเนี่ย”
นรียิ้มดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า ที่แต่งตัวดูเป็นผู้หญิงขึ้นหน่อย กวางมองเลยไปด้านหลังนรี

“มาคนเดียวเหรอ แล้วแฟนเธอไม่มาด้วยเหรอ”สีหน้าของสาวบ้านป่าดูจืดลง

“แฟน อ๋อ...กันต์นะเหรอ เขาไม่มาหรอก”
นรีนึกไปถึงตอนที่มาครั้งที่แล้วกัตพงศ์ขอมาด้วย แล้วถูกแม่สาวบ้านป่าตามจีบ เขาเลยโมเมให้นรีเป็นแฟน

“เป็นผัวเมียกันยัง”ถามตามประสาคนซื่อ

“อุ้ย...ยัง น้ำค้างมีความจริงจะบอก น้ำค้างกับกันต์ไม่ได้เป็นแฟนกัน แล้วตอนนี้กันต์ยังโสดสนิท”

“จริงเหรอ”คนซื่อดีใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็หน้าจืดลงมาอีก “แต่เขาก็ไม่เคยกลับมาเลย”

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะนี้ น้ำค้างซื้อเสื้อผ้าสวยๆมาฝากด้วยนะ”

นรีเปลี่ยนประเด็นไม่อยากเห็นคนเศร้าตอนนี้เพราะเธอเองก็เศร้าพออยู่แล้ว ขอพักสมองหน่อยแล้วอาการจิตแตกของเธอจะได้ดีขึ้น



สถานบันเทิง กรุงเทพฯ

แดนไทยชวนเพื่อนๆมานั่งดื่มดับทุกข์

“ชน”

ที่บนโต๊ะมีแก้วเปล่ามากกว่าสิบใบ

“เฮ้ย...ไอ้ดิวพอแล้ว”ชวินดึงแก้วออกจากปากแดนไทยที่คอแทบจะพับ “มีเรื่องอะไรก็เล่าสิวะ แม่งแ_กไม่ยั้งเลย”

“ผู้หญิง แม่ง...เข้าจาย...อยาก”ในที่สุดคนชวนก็เปิดปากพูด

“ทะเลาะอะไรกันวะ”การันต์เอาอมยิ้มออกจากปากแล้วเอาไปใส่แก้วเหล่าแดนไทย

“อ้ายเวร แล้วฉันจะแ_ก อาราย น้องเอามาอีกแก้ว”คนเมายังไม่เลิกบ้า

“น้องไม่เอาแล้ว”ฟ้าครามหันไปสั่งเด็กเสิร์ฟ “พอแล้วไอ้ดิว ตกลงแกสองคนทะเลาะอะไร”

“ถ้า...ฉานรู้...จามาน้างตรงนี่ไหม”อาการเมาเริ่มหนัก “มี...อารายก็ไม่ปูด”

“ไม่พูด”ปรเมทแก้ให้

“เออ...ไม่ปูดก็ไม่ปูด หนีปายหนายก็ม่ายรู้”แดนไทยเริ่มลิ้นพัน “บอกม่านห้าย...ตาม
คิดอารายว่ะ ฉานอยากตาย”

“แกปูด เอ่ย...แกพูดอะไรว่ะ”ชวินไม่เข้าใจ

“มาวแล้ว กราบดีกว่า”แดนไทยลุกแล้วเดินโซซัดโซเซออกนอกร้าน

“อ้าว...ไอ้ดิวแกจะไปกราบใคร ไปไอ้คราม ไอ้ปุนไปตามมันกัน”ชวินพูดจบก็ลากฟ้าครามกับปรเมทวิ่งตามไป

“ไอ้เวรรอด้วย แม่งไม่ได้ดื่มสักอึกต้องจ่ายให้มันอีก”
การันต์วางเงินไว้แล้วรีบวิ่งตาม

“ไหนไอ้ดิวอ่ะ”การันต์ที่วิ่งมาถึงชวิน ฟ้าคราม และ ปรเมท ถามหาแดนไทย

“นั้นไงขับออกไปแล้ว ไปเร็ว”ฟ้าครามชี้ให้เพื่อนๆดูรถของแดนไทยที่ขับออกไปอย่างเร็ว แล้ววิ่งไปเอารถ ปรเมทรีบวิ่งตาม

“ไอ้เวร เดียวก็ได้ตายสมใจ”ชวินว่า
การันต์หยิบอมยิ้มในปากตัวเองยัดใส่ปากชวิน โทษฐานปากไร้ความมงคล

“ไอ้รันต์”ชวินถุยทิ้งแทบไม่ทัน

“ยืนเถียงกันอยู่ได้ขึ้นรถ”ฟ้าครามตะโกนบอก
สองหนุ่มรีบขึ้นรถ ฟ้าครามเหยียบสุดไมล์ เล่นเอาผู้โดยสารร้องลั่น ฟ้าครามขับออกไปตามถนนที่มีรถวิ่งขวักไขว่ ยิ่งทำให้ความเป็นห่วงเพื่อนเพิ่มขึ้น

“ไอ้ครามจอดๆ”ชวินชี้ให้เพื่อนดูรถเก่งสีขาวที่ชนต้นไม้

“ไอ้ดิว”ชายหนุ่มสี่คนพูดพร้อมกัน

แต่กว่าจะจอดได้ก็เลยไปเกือบร้อยเมตร สี่หนุ่มรีบลงจากรถ

“ไอ้ครามไม่ต้องลง ไปถอยรถ”การันต์พูดจบแล้ววิ่งไปที่แดนไทย
สามหนุ่มยืนมองสภาพรถที่ฝั่งผู้โดยสารยุบเข้ากับต้นไม้ แดนไทยสลบคาพวงมาลัยมีเลือดไหลออกตา ปาก และจมูก และที่หัวก็แตก

“ไอ้ดิว”
ชวินรีบเปิดประตูรถ แต่ไม่ออก

“ไอ้วินหลบ”

ปรเมทเอาไม้มาทุบกระจกแล้วเปิดประตูรถ

“ไอ้ดิวอย่าเป็นอะไรนะเว้ย”การันต์เรียกแดนไทย แต่ชายหนุ่มก็ดูจะไม่รู้สึกตัว
สามหนุ่มรีบพาร่างแดนไทยไปขึ้นรถฟ้าคราม


โรงพยาบาล MBST
โชคดีที่จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้โรงพยาบาลนี้พอดี ปรเมทเลยโทรบอกปรเมตรให้เตรียมห้องรอ

สี่หนุ่มเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องผ่าตัด ภาวนาให้แดนไทยปลอดภัย
กัตพงศ์ที่มาหาลูกความแปลกใจที่เห็นทั่งสี่คนที่หน้าห้องผ่าตัด

“หรือดาราที่ว่าจะเป็นคุณดิว”
กัตพงศ์รีบเดินมาถามทั้งสี่คน

“คุณปุนครับ”

“คุณกันต์”ปรเมทหันไปตามเสียงเรียกก็เจอกัตพงศ์ “พอดีเลยครับผมติดต่อน้ำค้างไม่
ได้เลย ไอ้ดิวมันรถคว่ำนะครับ”

“เห็นเพื่อนๆบอกว่าน้ำค้างลาไปไหนก็ไม่ทราบครับ เอ่อแล้วคุณดิวเป็นยังไงบ้างครับ”

“ยังไม่รู้เลยครับ ผมก็เพิ่งโทรบอกที่บ้านมัน คนที่นั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าน้ำค้างไปไหน”ปรเมทมีท่าทางกังวน

กัตพงศ์ขอตัวไปหาลูกความ ปล่อยให้เพื่อนๆของแดนไทยอยู่ตามลำพัง



หมู่บ้านละมั่ง
นรีตั้งซุ้มตรวจชาวบ้านที่เจ็บป่วย โดนมีกวางมาช่วยจัดคิวให้ แต่พอชาวบ้านกลับกันหมดนรีก็ดูเหม่อลอย

“เธอเป็นอะไร”กวางเดินมาสะกิดแค่นิดเดียงนรีกลับสะดุ้งเสียใหญ่โต “หลับในเหรอ”

“เปล่าเมื่อคืนฝันไม่ดีเลย”นรีตอบเสียงเอื่อยคล้ายหมดแรง

“ฝันเห็นผีเหรอ สงสัยเธอลืมไหว้เจ้าป่าเจ้าเขามั่ง”กวางยกมือไหว้แทนนรี

“ไม่ใช่น้ำค้างฝันเห็น เอ่อ...แฟนน่ะ เลือดเขาเต็มตัวเลย น้ำค้างรู้สึกใจหวิวๆยังไงไม่รู้”นรีนึกถึงฝันแล้วหัวใจเหมือนจะขาด มีก้อนอะไรสักอย่างมาดันที่ลำคอ

“ไปทำบุญไหม ตอนนี้ยังไม่สิบโมงเราไปถวายเพลพระที่มาปักกลดอยู่ในป่า ไปไหม”กวางคิดอย่างให้นรีสลายใจ

“ก็ดีนะ”


สองสาวจัดเตรียมอาหารแล้วเดินเข้าไปในป่า ซึ่งลึกพอควรสำหรับคนเมืองอย่างนรี แต่เธอก็ชอบเพราะอากาศในป่านี้ทำให้หายใจได้เต็มปอด

“ถ้ากวางทิ้งน้ำค้างนะ น้ำค้างคงกลับไม่ถูก”นรีทึ่งในความสามารถของคนที่นี่ เพราะต้นไม้ทุกต้นของที่นี่เหมือนกันไปหมดจนเธอแยกไม่ออก

“ฉันไม่ทิ้งเธอหรอก นั่นไงท่านนั่งสมาธิอยู่เลย”
กวางชี้ไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีพระรูปหนึ่ง ซึ่งน่าจะบวชมาแล้วหลายพรรษา แล้วเด็กติดตามวัยเดียวกับลูกหมู

“ป้ามาทำไม หลวงตาหลับอยู่”เด็กน้อยวิ่งมาบอกเหมือกระซิบ

“ไอ้ต้น ข้านั่งสมาธิไม่ได้หลับ พาสีกาทั้งสองมาหาข้า”หลวงตาดุทั้งๆที่ตายังหลับ

นรีกับกวางมองหน้ากัน เพราะเสียงของเด็กน้อยก็ไม่น่าดังพอที่ท่านจะได้ยิน แต่ก็เดินตามเด็กน้อยไปเงียบๆ

“ไปเล่นที่น้ำตกไป”หลวงตาลืมตาแล้วหันไปสั่งต้น
สองสาววางปิ่นโตแล้วก้มลงกราบ

“หนูพาเพื่อนมาถวายเพลเจ้าค่ะ”กวางบอก

“อาตมาฉันเอกา ไม่รับเพลแกงป่ากับขนมกล้วยนั้นยกให้เจ้าต้นไปแล้วกัน ไอ้ต้นมาเอาไป”

นรีและกวางแปลกใจที่หลวงตารู้ว่าสิ่งที่อยู่ในปิ่นโตคืออะไร และยิ่งแปลกใจที่ท่านรู้ว่าเด็กน้อยยังไม่ได้ไปไหนแต่แอบไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้

“เอาไปกินไกลๆไม่อย่างนั้นข้าจะให้สีกาเอากลับ”หลวงตาขู่เพราะรู้นิสัยเด็กน้อยดี

“ครับหลวงตา”เด็กน้อยรับคำแล้ววิ่งไปไกล

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูมาถวายเช้านะคะ”นรีบอก

“เดี๋ยววันนี้โยมก็ต้องกลับแล้ว”หลวงตาบอก

“แต่หนูคงอยู่อีกหลายวันนะคะ”นรีบอก

“โยมอยู่ไม่ได้หรอก เหตุมันมี”หลวงตายืนยัน และหันไปมองข้างๆตัว “โยมมีคนฝากบอกว่าอย่าไปโกรธใคร อันตรายจะเกิดกับผู้นั้น”

นรีนึกย้อนกลับไป ครั้งที่โกธรบิดา บิดาก็เข้าโรงพยาบาล หรือตอนที่โกรธแดนไทยเมื่อครั้งก่อนแดนไทยก็ป่วยอยู่หลายรอบ และครั้งนี้...

“โยมคนนี้ก็จะมีทุกขลาภนะ”หลวงตาหันมาบอกกวาง

“หนูเหรอเจ้าคะ”กวางชี้ตัวเองอย่างงงๆ



สองสาวกราบลาพระธุดงค์ แล้วเดินกลับหมู่บ้าน

ปัง!!!

เสียงปืนลั่นป่า ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะวิ่งไปในหมู่บ้าน เห็นชายแปลกหน้ากลุ่มใหญ่ยืนถือปืนเล็งมาที่ชาวบ้าน

“พ่อ”กวางรีบวิ่งไปหาผู้ใหญ่บ้าน “พวกมันมาทำไมจ๊ะพ่อ”

“ลูกสาวเหรอสวยนี่หว่า”คนตัวใหญ่ซึ่งเป็นหัวหน้าเอื้อมมือจะมาจับตัวกวาง แต่เธอ
หลบได้ทัน

“เฮ้ย...หยิ่งด้วยว่ะ”ไอ้คนเดิมหันไปหัวเราะกับลูกน้อง

“พี่คะนี่เกิดอะไรขึ้นคะ”นรีเดินมาถามชาวบ้านที่อยู่หลังๆ

“ไอ้พวกนั้นมันจะมายึดที่พวกเรา มันบอกให้พวกเราย้ายไปอยู่ที่อื่น คุณหมอต้องช่วยพวกเรานะ”ชาวบ้านอีกคนหันมาตอบ ยกมือไหว้นรี

“เฮ้ย ข้างหลังโวยวายอะไร”ไอ้คนเดิมผลักชาวบ้านให้ออกไปแล้วเดินตรงมาที่นรี

“สวยนี่หว่า”

“อย่าทำอะไรเธอนะ”กวางวิ่งมาขวาง

“พวกคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะมายึดที่ชาวบ้าน”นรีถาม

“ก็สิทธิ์เจ้าของที่ดินสิจ๊ะคนสวย”นายหัวหน้าทำท่ายียวน

“เท่าที่รู้ ที่ตรงนี้ชาวบ้านอาศัยกันมาเป็นร้อยๆปี พวกคุณจะมาเป็นเจ้าของที่ได้ยังไง”นรีเถียง รู้สึกโมโหจนแทบจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่

“ถ้าไม่อยากไปก็ไปฟ้องเอาสิ โอ้ย!!!” ไอ้หัวหน้าร้องลั่นเมื่อมีแมงป่องจากที่ไหนก็ไม่รู้มากัดขา “เฮ้ย...กลับไปหายาทาโว้ย แล้วครั้งหน้ายังไม่ไปไหนกันพวกแกเตรียมเจ็บตัวไว้ได้เลย”ยังไม่วายที่จะหันมาขู่

แล้วพวกนั้นก็พากันขึ้นรถแล้วขับไปอย่างเร็ว ทิ้งไว้เพียงฝุ่นตลบ

“ของเธอแรงจริงๆ”กวางว่า

“นี่ล่ะมั่งทุกขลาภของเธอ”นรีหันไปหากวาง

“แต่ฉันเห็นแต่ทุกข์นะ ลาภยังมีเห็นเลย”กวางทำหน้าเศร้า

“เดี๋ยวก็เห็น”นรียิ้มให้กวาง


นรีขอให้ผู้ใหญ่พาออกมาในเมืองเพื่อจะโทรหาคนที่จะมาช่วยชาวบ้าน

“ใครเหรอบอกหน่อยสิ”กวางตื้อให้นรีบอกว่าคนที่จะมาช่วยเป็นใคร

“เดี๋ยวก็รู้ รับแล้ว กันต์…”

กวางยิ้มดีใจเมื่อได้ยิ้มชื่อที่นรีเรียก แต่ก็ต้องแปลกใจที่จู่ๆนรีก็ร้องไห้

“เดี๋ยวน้ำค้างจะกลับ...อึก...กันต์คือที่ๆเรามาเขามีเรื่องเดือดร้อน...อึก...กันต์มาช่วยพวกเขาทีนะ...อึก...หมู่บ้านละมั่ง...เข้าใจแล้ว...อึก...น้ำค้างจะให้คนรอกันต์อยู่ในเมืองนะ...อึก...ขอบใจนะ”นรีวางสายแล้วหันมากอดกวางร้องไห้

“เธอเป็นอะไร”กวางตกใจ

“เขาๆ...เป็นเพราะฉันเขา...ถึงได้เจ็บตัว”นรีกลายกอด “กวางเธอรอกันต์ที่นี่นะ เขาจะมาช่วงเย็นคงถึง น้ำค้างต้องกลับแล้ว แล้วถ้าเรื่องที่นั้นเรียบร้อยน้ำค้างจะมานะ”นรีบอกแล้วกอดกวางร้องไห้อีกครั้ง

ความรู้สึกผิดมันมากเหลือเกิน ทั้งที่สัญญาไว้ว่าจะไม่งี่เง้าแต่เธอก็ทำไม่ได้ แดนไทยเลยต้องเป็นแบบนี้ ‘ขอโทษ’ คำเดียวที่ร้องตะโกนอยู่ในใจ

______________________________________________________________________________

ขอบคุณทุกคำเเนะนำไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 พ.ค. 2556, 14:52:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 พ.ค. 2556, 15:01:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 1147





<< ตอนที่21 ไม่ถูกจังหวะ แต่ถูกคน   ตอนที่ 23 จะไม่ทำแบบนี้อีก >>
เพียงใจกล้า 4 พ.ค. 2556, 15:05:20 น.


ปลาวาฬสีน้ำเงิน 4 พ.ค. 2556, 23:20:05 น.
ตอนนี้ก็เหมือนกันค่ะ เริ่มอ่าน 2-3 บรรทัดแรกก็พบคำผิด แล้ว เช่น ฟาดหัวข่าว/ สิงออยู่/หน้าบี่ง อ่านแล้วขัดใจค่ะ ทำให้เนื้อหาไม่น่าติดตาม พยายามอีกนะคะ


เพียงใจกล้า 5 พ.ค. 2556, 11:44:21 น.
ชะอุ้ย ขอบคุณค่ะ แต่ช่วยติดตามหน่อยนะคะ เป็นกำลังใจให้กันนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account