หนึ่่งหัวใจ
ชายหนุ่มที่มีแผลใหญ่เพราะภรรยาเก่า ต้องมาเจอกับสาวน้อยที่มาทำให้หัวใจคนมีแผลต้องปั่นป่วน และ ต้องมาเจอกับปัญหารักสามเศร้า เพราะแม่สาวน้อยเองก็มีแฟนอยู่แล้ว ส่วนเขาก็ยังมีทะเบียนสมรส ที่ยังอยู่
Tags: ความรัก

ตอน: ตอนที่ 2 ไม่รู้ตัว

ชวินพาเด็กน้อยมายังโรงเรียนประถมพิศุทธ์พิศาลศิระกุล เพราะเขาคิดว่าเด็กวัยนี้ควรได้รับการศึกษาจากโรงเรียน

เมื่อเช้าก่อนที่ชวินจะพาเด็กน้อยมาที่นี่เขาได้สอบถามแล้วว่าเด็กน้อยคนนี้ได้เรียนหนังสือมาจากพระธุดงค์บ้างแล้ว

“คะ...คุณวินเป็นไงมาไงคะถึงมาที่นี่ได้”ครูใหญ่ประจำโรงเรียนแทบจะตกเก้าอี้ที่เห็นหนึ่งในผู้บริหารที่ไม่เคยโผล่หัวมาประชุมเลยสักครั้งมาเยือนโรงเรียนนี้ได้

“ครูใหญ่ ด.ช.หาญกล้า กลิ่นดอกไม้ อยู่ห้องไหน”ชวินถามถึงลูกชายของนรีแฟนสาวของเพื่อนสนิทเขา

“สักครู่นะคะ...ห้องปอหนึ่งทับหนึ่งค่ะ”ครูใหญ่รายงาน

“ขอบคุณครับ”พูดจบก็จูงเด็กน้อยออกมาจากห้อง
ครูใหญ่รีบเดินตามออกมา

“คุณวินจะพาเด็กไปไหนคะ”

“พาไปเรียนไง”ชายหนุ่มหันมาตอบแล้วจูงเด็กน้อยเดินต่อ

“ไม่ได้ค่ะ เด็กจะเข้าเรียนชุดนี้ไม่ได้ แล้วอีกอย่างเด็กยังไม่ได้สมัคเรียนเลยนะคะ แล้ว...”

“แล้วอะไรก็จักการสิ”ชวินยอมหยุดเดินแล้วหันไปสั่งครูใหญ่

“ค่ะๆ เชิญทาง...ทางนี้ค่ะ”

ครูใหญ่กลัวระเบิดจะลง รีบนำทางชวินไปห้องทะเบียน

“เด็ก…ชื่ออะไรคะ”ครูฝ่ายทะเบียนถาม ท่าทางลนลานเหมือนเห็นผี

“ต้น”ชวินตอบ

“ชื่อจริงหรือคะ”ครูฝ่ายทะเบียนถาม ชวินหันมามองเด็กน้อย เด็กน้อยส่ายหน้า

“ชื่อเล่น”ชวินหันไปตอบ

“คือเราต้องการชื่อจริงค่ะ”ครูคนเดิมอธิบายอย่างกล้าๆกลัวๆ

“เหรอ”ชวินทำหน้างง

จังหวะเดียวกับที่เครื่องแฟกซ์ดัง ครูสาวหันไปกดตอบรับ

“คุณวินคะ ดิฉันได้ข้อมูลแล้วค่ะ”ครูสาวหันมาบอก

จริงสินะเมื่อเช้าเขาโทรบอกกัตพงศ์ให้ส่งข้อมูลของเด็กน้อยมาที่นี่

“งั้นก็ดี ครูใหญ่ต้องไปไหนต่อ”ชวินหันไปถามครู่ใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“ซื้อเสื้อผ้าค่ะ”ครูใหญ่รีบตอบ

“ก็ไปสิ”

พอชวินออกจากห้องไปบรรดาครู่ที่ทำงานอยู่ห้องทะเบียนทำหน้าโล่งอกกันยกใหญ่

“เอ๊ะ!!!”ครูที่กำลังกรองข้อมูลของเด็กน้อยตกใจ

“มีอะไรเหรอเธอ”ครูสาวอีกคนรีบเดินมาดู “เด็กชาย อัตตา พิศุทธ์พิศาลศิระกุล นี่มัน
นามสกุลคุณวินไม่ใช่เหรอ”


มหาวิทยาลัย MBST

“เฮ้ย...ไอ้บอลแม่มา”เพื่อนคนหนึ่งของชินกรตะโกนบอกเจ้าตัวที่กำลังปลูกกุหลาบหัวใจ ซึ่งเป็นพันธุ์ใหม่ที่ที่นี่คิดค้นได้ ดอกของมันจะเป็นรูปหัวใจ

ชินกรเป็นคนหน้าตาพื้นๆ แต่ก็ดูดีพอสมควร คิ้วที่ไม่เข้มนัก ตาก็ไม่โต หรือเล็กจนเกินไป จมูกก็ไม่ได้โด่ง ปากก็ไม่ได้สวยแต่ก็ไม่เลวร้าย ผมที่ไม่เคยจัดแต่งก็ออกแนวฟู
มีแต่สวนสูงนี่แหละที่ดูเด่น เหมาะกับหุ้นที่มีกล้ามเนื้อนิดๆ

“เพวันนี้ไม่ได้ฝึกงานเหรอ”ชินกรรีบวิ่งมาหาแฟนสาว วันนี้เพราใส่ชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ดูๆไปก็ไม่เหมาะกับเธอเลยสักนิด แต่ชินกรก็ไม่เคยบอกเพราะกลัวว่าเพราจะมีคนอื่นเข้ามาจีบ ปล่อยให้เชยแบบนี้นี่แหละดีแล้ว

“เรื่องมันยาว...บอลว่างไหมไปหาขนมกินกัน”เพราถามแฟนหนุ่ม

“ว่างๆแต่มีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวนะ ไปกินเค้กที่โรงอาหารได้ไหม”

“ได้”


โรงอาหาร

เพรากับชินกรมานั่งอยู่ที่ร้านเบเกอรี่ที่ตกแต่งได้หวานน้ำตาลเรียกแม่ มีโต๊ะเล็กๆสำหรับสองคนจัดอยู่โซนหนึ่งและโต๊ะที่นั่งได้หลายๆคนถูกจัดไว้อีกโซนหนึ่ง

“เจ้านายเพนี่ใจดีนะ”ชินกรเอ่ยชมชวินหลังจากที่เพราเล่าเรื่องเมื่อวานให้ฟัง แต่ความจริงแล้วเธอยังเล่าไม่หมด

“ใจดีที่ไหนกัน จอมบงการ”เพราพูดเหมือนไม่ชอบชวินนัก แต่ชินกรกลับเห็นแววตาแปลกๆของแฟนสาวที่เป็นประกาย

“เหรอ...แล้วทำไมกลับบ้านดึกล่ะ”ชินกรตักสินใจถาม ทั้งๆที่เขาไม่อยากก้าวก่ายแฟนสาวเท่าไหร่

“อ๋อ...เอ่อ”หญิงสาวมีท่าทางอึกอัด ขืนเล่าไปก็ พลอยแต่จะทำให้ชินกรไม่สบายใจไปเปล่าๆ

“ไม่เป็นไหร่ไม่ต้องบอกเราได้”ชินกรรู้สึกได้ว่าเพราคงไม่อยากเล่าจริงๆ

“เล่าได้ๆ คือเขาพาเพไปดูหนัง”เพรากลัวว่าแฟนหนุ่มจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอมีความลับกับเขา

ชินกรเงียบไม่ถามอะไรต่อ รู้สึกประหลาดในใจ เธอคบกับเขามาเกือบจะสี่ปีตั้งแต่เรียนปีหนึ่งแต่ไม่เคยไปไหนกับเขาหลังหกโมงเย็นเลย

“บอลเป็นอะไรรึเปล่า”เพราเป็นห่วง

ชายหนุ่มส่ายหน้าแกล้งทำเป็นร่าเริงเหมือนไม่ได้คิดอะไร ก่อนจะต้องมองไปที่ด้านหลังหญิงสาว

“แฮะแฮม”
เพราหันไปมองที่มาของเสียงก็พบว่าคือชวิน ที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ

“สวัสดีค่ะคุณวิน”เพรารีบยกมือไหว้

ชวินมองเลยมาที่ชายหนุ่มอีกคนที่แววตาบ่งบอกถึงความรู้สึกที่ขัดแย้งกับสีหน้า

“ไม่แนะนำหน่อยเหรอ”ชวินหันไปหาเพราที่นั่งทำหน้างงไม่รู้ว่าจู่ๆทำไมชวินถึงมาอยู่ที่นี่ได้

“นี่บอลค่ะ”

ชินกรมองเพราหวังว่าจะได้ยินคำต่อมาแต่ก็ไร้วี่แวว ชวินมองท่าทางของชินกรก็รู้ว่านายคนนี้กำลังผิดหวัง

“เพื่อนเหรอ”คนมากประสบการณ์แกล้งถาม แอบมองชินกรว่าจะมีกิริยาต่อคำตอบของเพราอย่างไร

“แฟนค่ะ”

ชวินพยักหน้ารับรู้ และเห็นชินกรเผยยิ้มออกมา

“คุณวินมาทำอะไรที่นี่คะ”เพราถามเพราะไม่อยากจะคิดว่าชวินตามเธอมา ชวินไม่ตอบหันไปมองที่ชื่อร้าน NaNa Win หญิงสาวรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงจานแตกไปหลายใบ เข้าร้านนี้มาจะสี่ปีไม่เคยแหงนดูชื่อร้านเลยสักครั้ง

“ฉันไปก่อนดีกว่า ขอบคุณที่มาอุดหนุนร้านเรานะครับ”ชวินยิ้มโค้งตัวให้ทั้งสองคน แล้วเดินออกมา

~ติ๊ด ตี้ ติ๊ด ~

เพราหันมองตามเสียงโทรศัพท์ก็รู้ว่าเป็นของชวิน

“อะไรนะต้นมีเรื่องชกต่อย”ชวินกรอกเสียงตะโกนใส่โทรศัพท์ แล้วรีบเดินออกจากร้าน

“บอลเพไปก่อนนะ”เพราหันมาพูดกับชินกรแล้วรีบวิ่งออกไปนอกร้าน

ไม่รู้ทำไมเพราถึงรู้สึกว่าเธอควรจะตามชวินไป คงเป็นเพราะเธอจะห่วงเด็กน้อยมาก
ชินกรยังไม่ทันจะได้ถามอะไร ได้แต่มองตามเพราไปจนเห็นแฟนสาววิ่งไปเกาะแขนชวิน และชวินก็จับมือเพราแล้วเดินไปด้วยกัน ยิ่งทำให้ชินกรรู้สึกแปลกๆ

‘การจับมือมันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเพนะ’

ชายหนุ่มนึกถึงคำพูดของเพลาที่เคยพูดกับเขาเมื่อตอนที่คบกันใหม่ๆ วันนี้ความคิดของเธอเปลี่ยนความคิดแล้วอย่างนั้นเหรอ


โรงเรียนประถม

ชวินจูงมือเพรามาที่ห้องฝ่ายปกครอง หญิงสาววิ่งตามโดยไม่ขัดขืนเหมือนครั้งก่อนๆ เพราะรู้สึกเป็นห่วงเด็กน้อย

ชวินเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กตัวอ้วนอยู่ แล้วก็พี่
ชายของชวินที่หน้าตาคล้ายชวินนั่งอยู่ ข้างๆมีครูใหญ่ที่นั่งหน้าซีด ถัดมาก็คือแดน
ไทยที่นั่งอยู่บนรถเข็นและนรีที่ยืนจับมือลูกชายและเด็กน้อยอัตตา เด็กทั้งสองคนมีรอยซ้ำที่หน้าคนละนิด

แดนไทยกับนรีมองเลยไปที่สาวที่เดินตามมาข้างหลังชวินแทนที่จะมองชวิน ชวินรีบปล่อยมือเพราออก

“อะไรมาโรงเรียนวันแรกก็แสดงความเป็นอันธพาล เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอนล่ะสิ”ผู้ชายตัวใหญ่ด่าอัตตาเสียงดัง เล่นเอาอารมณ์ชวินขึ้นมาในทันที

“ขอโทษนะครับที่ผมไม่มีเวลาสั่งสอนลูก”ชวินเดินมาที่หน้าผู้ชายคนนั้น

“เจ้าวิน แกมาก็ดีแล้ว จะรับผิดชอบอะไรคุณมังกรก็ว่าไป”พี่ชายทำหน้าเซ็งยกกาแฟขึ้นจิบ

“สวัสดีครับพี่นินทร์”

ชวินยกมือไหว้ ชนินทร์พี่ชายที่ห่างจากเขาสองปี และเป็นคนดูแลโรงเรียนนี้อยู่ แล้วชวินก็หันมาหานายมังกรและพบว่าเด็กอ้วนนั้นมีรอยซ้ำที่หน้าเยอะมาก

“คุณมังกร หุ้นส่วนร้านเคนลี่ ใช่ไหมครับ ผม ชวิน พิศุทธ์พิศาลศิระกุล หุ้นส่วนใหญ่ร้านเคนลีครับ”ชวินแนะนำตัว พร้อมยิ้มมุมปากส่งไปให้นายมังกร

“คุณชวินนี่เอง ผมก็รู้สึกคุ้นๆ ลูกชายคุณชวินเหรอครับน่าตาน่ารักนะครับ เอ่อ...โบนิขอโทษเพื่อนสิลูก”นายมังกรพูดเสียงสั่น

“ไม่ผมไม่ขอโทษ”เด็กอ้วนโวยวาย

“ป๊าบอกให้ขอโทษเพื่อน”นายมังกรปล่อยลูกชายให้ลงไปขอโทษหาญกล้ากับอัตตา เด็กอ้วนทำตามแต่โดยดีเพราะกลัวพ่อจะตี

“เด็กทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดานะครับ”นายมังกรหันมาพูดเสียงอ่อนกับชวิน

“แต่ผมว่าผู้ใหญ่ที่ว่าเด็กคงจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาหรอกนะครับ”ชวินใช้เสียงโทนต่ำพูด ซึ้งนายมังกรก็ดูกระอักกระอ่วนไม่น้อย นั้นคือสิ่งที่ชวินต้องการ

“พอเหอะไอ้วิน”แดนไทยเห็นว่าไม่ควรให้เรื่องใหญ่ไปกว่านี้ สะกิดให้นรีช่วยพูด

“เราต้องขอโทษคุณอีกครั้งนะคะที่เด็กๆของเราไปทำร้ายลูกคุณ เราเชื่อว่าคุณคงสั่งสอนลูกคุณดีพอแล้ว ในเมื่อคุณเห็นว่าเป็นเรื่องของเด็กทางเราก็คิดเช่นนั้นค่ะ ถ้าคุณไม่มีอะไรติดค้างใจแล้วก็เชิญกลับเลยนะคะ”นรียิ้มสุภาพให้นายมังกร ก่อนจะมองไปที่ประตู นายมังกรรีบพาลูกชายออกจากห้องไป ท่าทางจะเจ็บใจอยู่ไม่น้อย

“น้ำค้างพี่ให้ช่วยพูด ทำไมไปว่าเขาแบบนั้นล่ะ”แดนไทยตำหนินรี

“น้ำค้างทำถูกแล้วคนแบบนี้ก็ต้องเจออย่างนี้แหละ ลูกตัวเองตัวใหญ่จะตาย มาว่าเด็กตัวเล็กสองคนแกล้ง ท่าทางเด็กอ้วนนั้นจะร้ายไม่เบา”ชวินยังรู้สึกโกรธไม่หาย ถ้าแดนไทยไม่ห้ามจะให้นายนั้นยกมือไหว้เด็กสักที

“วิน”เสียงพี่ชายของชวินเรียก

ชวินหันไปมองพี่ชายที่ตอนนี้ใช้สายตามจิกเขาอยู่ คงจะเป็นเรื่องที่เขาให้เด็กน้อยเข้าเรียนโดยพลการ

“เอ่อ...ขอขัดจังหวะสักครู่นะคะ พวกเราของตัวกลับก่อนจะดีกว่า ไปเด็กวันนี้เราขออนุญาตครูใหญ่กลับกันก่อนนะ ไหว้ครูใหญ่เร็วค่ะ”นรีหันมาสั่งเด็กน้อยทั้งสองคน เด็กทั้งสองทำตามแต่โดยดี

“ขอตัวนะคะคุณชนินทร์ คุณครูใหญ่”นรีลาทุกคนแล้วจะดุนรถเข็นแดนไทยออกจากห้อง

“น้ำค้างเดียวก่อน พี่ฝากเด็กไปอีกคนนะ”ชวินเรียกกนรีไว้หญิงสาวหันมามองอีกคนที่ไม่เข้าพวก “เพราช่วยตามไปดูแลลูกชายฉันหน่อย”ชวินสั่งคนที่ยืนงงอยู่ข้างประตู เพราพยักหน้ารับรู้ตามนรีกับแดนไทยออกจากห้องไป

“มาว่าเรื่องของเรากันต่อ”ชนินทร์เรียกน้องชาย ชวินมองไปที่ครูใหญ่ที่ยังนั่งไม่ขยับเขยื้อน

“ดิฉันรู้สึกว่าจะมีธุระขอตัวนะคะ”ครูใหญ่รู้ตัวรีบออกไปจากห้องอีกคน
ทีนี้ก็เหลืออยู่สองหนุ่มพี่น้องที่เล่นเกมจ้องตากันอยู่ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกคนพูดก่อน

“แก”

“ผม”

พอทีจะพูดก็พูดพร้อมๆกัน

“แกจะแก้ตัวก่อน หรือจะให้ฉันด่าแกก่อน”ชนินทร์ถามน้องชาย
ด้วยความที่พี่น้องสองคนอายุห่างกันไม่มากพี่น้องคู่นี้เลยจะชอบตีกันอยู่บ่อยๆ เพราะชวินไม่คิดจะเคารพพี่ชายสักเท่าไหร่

“พี่ด่ามาก่อนเหอะ ผมได้แก้...เอ้ย อธิบายถูก”ชวินเปิดโอกาสให้พี่ชายพูดก่อน

“อยู่ดีๆแกไปมีลูกตอนไหน”

“พี่มองหน้าเด็กคนนั้นแล้วเหมือนผมไหมล่ะ”เมื่ออยู่กันสองคนไม่เคยมีสักครั้งที่ชวินจะตอบคำถามด้วยคำตอบ

“แล้วแกเอาลูกใครมา”

“พี่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ของบ่ายเมื่อวานยัง”ชวินถามพี่ชายกลับเดินไปหยิบหนังสือพิมพ์แล้วชี้ให้พี่ชายดูข่าว

“ไอ้วิน”ชนินทร์เริ่มมีเคี้ยวงอก ดวงตามีแสงสีแดง

“ใจเย็นดิ พอดีผมไปช่วยพระที่ถูกทำร้ายเด็กคนนี้เป็นลูกศิษย์พระ ท่านก็เลยฝากผมให้ดูแล เด็กมันไม่มีใคร พี่จะให้ผมใจร้ายทำกับเด็กได้ลงคอเลยเหรอ”น้องชายแกล้วทำตาปริบๆ

ชนินทร์ลุกจากโซฟาเดินมาที่โต๊ะทำงาน หยิบแฟ้มขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา ก่อนจะหันมาหาน้องชายใหม่

“แล้วแกเคยเห็นหัวฉันบ้างไหม”คิ้วสองของของชนินทร์เปลี่ยนเป็นโบ ชวินมองหน้ามีชายอยู่พักหนึ่ง เหมือนจะสังเกตอะไรสักอย่าง

“ผมว่าผมเห็นนะพี่”

“ไอ้วิน”ชนินทร์สุดจะทนเหวี่ยงแฟ้มไปหาน้องชาย

“เฮ้ย!!!”ชวินหลบได้อย่างหวุดหวิด “พี่ถ้าผมหัวแตกขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ”

“ฉันล่ะเบื่อแกจริงๆ แกไม่เห็นหัวฉัน ฉันไม่ว่าแต่คุณพ่อกับคุณแม่แกอยากทำแบบนี้เด็ดขาด”ชนินทร์เตือนด้วยความหวังดี

“ผมรู้แล้วน่ะ ไว้มีเวลาผมจะพาต้นไปหาท่านเอง”ชวินตอบกลับ เดินไปหยิบแก้วกาแฟของพี่ชายมาดื่ม “ขมว่ะพี่”

“ใครใช้ให้แกกิน ไอ้วินผู้หญิงที่แกพามาด้วยนี่ใครวะ โคตรเชยเลย”ชนินทร์ถามถึงเพรา

“เด็กฝึกงานที่ร้าน เมื่อวานผมใช้ให้ดูแลเด็กคนนั้นเธอก็เลยเป็นห่วงเด็ก”

“ให้แม่นั้นเป็นห่วงเด็กจริงๆเหอะ แกอย่าลืมนะพ่อคุณพ่อท่านคงจะไม่ปลื้มแน่ จะไปไหนก็ไปฉันจะทำงาน”ชนินทร์โบกมือไล่

ชวินนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะหยิบแฟ้มที่พื้นไปคืนพี่ชายแล้วเดินออกจากห้องไป

“ไอ้เวรต่อหน้าคนอื่นทำเป็นมีมารยาท”
ชนินทร์อยากจะตามไปตบหัวหน้าชายอีกสักที่ โทษฐานที่ไปไม่ลา

“มันจะรู้ตัวไหมว่าสายตาที่มันใช้มองแม่คนนั้นมันมีความใน”

ชวินแปลกใจที่พี่ชายพูดแปลกๆ เด็กนั้นกับเขาจะคิดอะไรกันได้เจอกันแค่วันเดียวเท่านั้น แถมยัยเด็กนั้นยังมีแฟนแล้ว เขาไม่คิดจะแย่งแฟนใครรอบสองแน่ๆ

เพราะเขาเชื่อว่าผู้หญิงที่มีแฟนอยู่แล้วถ้าเจอคนใหม่แล้วเลือกคนใหม่ หล่อนคงจะไม่มีทางจะซื่อสัตย์ต่อใครแน่ๆ

“ไปไหนมา”

เสียงแม่น้องสาวตัวแสบทักทายเพราทันที่ที่เปิดประตูเข้า

พรรณนานั่งทำรายงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธออายุห่างจากเพราสองปี แต่รูปร่างดี
กว่าเพรานิดหน่อย

ทั้งสองสาวนอนห้องเดียวกันมาตั้งแต่เล็กจนโต

“ไปฝึกงานไง”

เพราเดินเอากระเป๋ามาวางข้างน้องสาวแล้วเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียง

“แต่พี่บอลบอกว่าพี่เพิ่งไปพังร้านเจ้านายมาเมื่อวานร้านก็เลยปิดปรับปรุงอยู่ไม่ใช่เหรอ”พรรณนาหันมามองหน้าพี่สาว แล้วหันไปพิมพ์งานต่อ

“พี่ไปช่วยเลี้ยงลูกเขาไถ่โทษที่ไปทำของเขาเสียหาย”เพราหลับตาพูดเหนื่อยกับการเล่นวิ่งไล่จับกับเด็กๆ

“เมื่อคืนที่กลับดึกก็เพราะไปช่วยเขาเลี้ยงลูกด้วยรึเปล่า”

“ใช่”

“แล้วไอ้ที่ยิ้มหน้าบานอยู่เนี่ยเพราะลูกเขาด้วยรึเปล่า”พรรณนาเดินมาหยิกแก้วพี่สาว
เพราลืมตามองน้องงงๆ นี่เธอยิ้มอย่างนั้นเหรอ


*********************************************************************
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ฝากติดชมกันด้วยนะ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ค. 2556, 14:14:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ค. 2556, 15:45:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1084





<< ตอนที่1 วันวุ่นวาย   ตอนที่ 3.1 การประกวดอาหารนาๆชาติ / วันก่อนแข่ง >>
เพียงใจกล้า 12 พ.ค. 2556, 14:20:09 น.
ยินดีรับคำติชม พูดคุยถึงตัวละครจากทุกคนนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account