คานน้อย คอยรัก (จบแล้วค่ะ)
คานน้อย คอยรัก
ในลักษณ์นั้นว่าประหลาด…………….คนบนคานนั้นว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า…………...เป็นเชื้อชาตินักรักผู้หาญกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา…………………..เหตุไฉนย่อท้อรอเวลา
ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที…………………ฤาไม่กล้าบอกรักใครสักที
เห็นแก้วแวววับที่ดับจิต…………………เห็นคานแก้วแวววับสดับจิต
ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่……………...ใยไม่คิดปีนไปให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี……………อย่ามัวรอจงขึ้นมาเร็วรี่
อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ………………บนคานนี้มีรักให้ฝึกปรือ
อันของสูงแม้ปองต้องจิต………………..คานเราสูงไม่เป็นรองของใครอื่น
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา………………..อย่าได้ขืนลงไปให้เสียชื่อ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ………………….มิใช่ทองตามตลาดที่อาจซื้อ
ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม……………..เพราะเราถือความพอใจจึงลงไป
ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง……………ไม่คิดสอยมัวคอยให้คานทับ
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม………..รอให้ดับคาคานหรืออย่างไร
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม…………………..ฤาต้องคอยรักแท้จนแก่ใช่ไหม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี…………………..เกาะคานน้อยคอยรักต่อไป
…………………..........จนกว่าจะเจอคนที่ใช่…ใช่ไหมคาน………………
(อ้างอิงกลอนจากบทละครเรื่องท้าวแสนปม)
มาดูเหตุผลของคนที่ยังไม่ลงจากคานกันค่ะ...
อาจจะมีเหตุผลมากมายที่ไม่อยากลงจากคาน
หรืออาจมีเพียงแค่หนึ่งเหตุผลง่ายๆก็คือ...
...ไม่ใช่คนที่ใช่ก็ไม่ใช่...
หรือว่า
...โดนข้อหาหลายใจ เพราะเคยมีแฟนหลายหน...
หรืออาจเป็นเพรา
...เขาบอกให้รอ เราก็รอ...
หรือจริงๆแล้ว
...ขออยู่รอคนสุดท้ายคนนั้นได้ไหม...
หรือลึกลงไป
...กำลังรอเจ้าชายในฝันอยู่อย่างอดทนได้ทุกอย่าง...
หรือกำลังปลอบใจตัวเองว่า
...ครึ่งหนึ่งของฉันยังมาไม่ถึง...ซึ่งสักวันเขาจะมาอยู่ข้างกัน...
หรือกำลังหลอกตัวเองด้วยการปกปิดว่า
...ไม่หวั่นไหว หัวใจไม่ปรารถนา...
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว
...อยากรัก อยากฝัน แต่เพราะกลัว ก็เลยไม่กล้ารักใคร...
หรือว่าอาจจะเป็นเหตผลสุดท้ายที่ไม่ค่อยมีใครกล้ายอมรับดังๆว่า
...ไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่มีใครสน เรามันคนธรรมดาๆ...
แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใด...
เราก็ยังหวังและยังคงรอคอยปาฏิหาริย์ว่าจะได้เจอคนที่ใช่ในสักวัน...
ในลักษณ์นั้นว่าประหลาด…………….คนบนคานนั้นว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า…………...เป็นเชื้อชาตินักรักผู้หาญกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา…………………..เหตุไฉนย่อท้อรอเวลา
ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที…………………ฤาไม่กล้าบอกรักใครสักที
เห็นแก้วแวววับที่ดับจิต…………………เห็นคานแก้วแวววับสดับจิต
ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่……………...ใยไม่คิดปีนไปให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี……………อย่ามัวรอจงขึ้นมาเร็วรี่
อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ………………บนคานนี้มีรักให้ฝึกปรือ
อันของสูงแม้ปองต้องจิต………………..คานเราสูงไม่เป็นรองของใครอื่น
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา………………..อย่าได้ขืนลงไปให้เสียชื่อ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ………………….มิใช่ทองตามตลาดที่อาจซื้อ
ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม……………..เพราะเราถือความพอใจจึงลงไป
ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง……………ไม่คิดสอยมัวคอยให้คานทับ
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม………..รอให้ดับคาคานหรืออย่างไร
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม…………………..ฤาต้องคอยรักแท้จนแก่ใช่ไหม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี…………………..เกาะคานน้อยคอยรักต่อไป
…………………..........จนกว่าจะเจอคนที่ใช่…ใช่ไหมคาน………………
(อ้างอิงกลอนจากบทละครเรื่องท้าวแสนปม)
มาดูเหตุผลของคนที่ยังไม่ลงจากคานกันค่ะ...
อาจจะมีเหตุผลมากมายที่ไม่อยากลงจากคาน
หรืออาจมีเพียงแค่หนึ่งเหตุผลง่ายๆก็คือ...
...ไม่ใช่คนที่ใช่ก็ไม่ใช่...
หรือว่า
...โดนข้อหาหลายใจ เพราะเคยมีแฟนหลายหน...
หรืออาจเป็นเพรา
...เขาบอกให้รอ เราก็รอ...
หรือจริงๆแล้ว
...ขออยู่รอคนสุดท้ายคนนั้นได้ไหม...
หรือลึกลงไป
...กำลังรอเจ้าชายในฝันอยู่อย่างอดทนได้ทุกอย่าง...
หรือกำลังปลอบใจตัวเองว่า
...ครึ่งหนึ่งของฉันยังมาไม่ถึง...ซึ่งสักวันเขาจะมาอยู่ข้างกัน...
หรือกำลังหลอกตัวเองด้วยการปกปิดว่า
...ไม่หวั่นไหว หัวใจไม่ปรารถนา...
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว
...อยากรัก อยากฝัน แต่เพราะกลัว ก็เลยไม่กล้ารักใคร...
หรือว่าอาจจะเป็นเหตผลสุดท้ายที่ไม่ค่อยมีใครกล้ายอมรับดังๆว่า
...ไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่มีใครสน เรามันคนธรรมดาๆ...
แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใด...
เราก็ยังหวังและยังคงรอคอยปาฏิหาริย์ว่าจะได้เจอคนที่ใช่ในสักวัน...
Tags: ดราม่า หวานซึ้ง อบอุ่น หมอรัง สิ้นรัก วายุ ปองขวัญ
ตอน: ยกที่ 86 หัวใจคุ้นเคย
ยกที่ 87 หัวใจคุ้นเคย
ตกดึกหลังจากที่ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับเข้าห้องใครห้องมันแล้ว
สายฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา…จนทำให้เด็กน้อยร้องไห้
ด้วยความตกใจเสียงฟ้าฝน…
รังสิมันต์จึงรีบคว้าลูกชายที่นอนอยู่บนเปลเข้าสู่อ้อมกอดพร้อมกับปลอบขวัญ
ส่วนสิ้นรักที่อยู่ในห้องได้แต่มองเพราะไม่อาจทำอะไรได้
เนื่องจากลูกชายยังไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัวราวกับเกลียดกลัวตัวเธอ…
สร้างร่องรอยบางอย่างบนใบหน้าสวยหวานที่รังสิมันต์มิอาจคาดเดาความรู้สึกได้เลย…
ที่เขากระทำได้ก็คือ ปลอบใจภรรยาไปพร้อมๆกับปลอบขวัญลูกชาย
โดยที่ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่า
ตรงหน้าประตูห้องนั้นมีร่างแบบบางในชุดคลุมปกปิดมิดชิด
แม้แต่เส้นผมก็ไม่อาจเล็ดลอดออกมาจากผ้าคลุมศีรษะเลยแม้แต่เส้นเดียว
กำลังเดินกระสับกระส่ายไปมาอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้ากังวลใจ
สายตาคู่นั้นราวกับจะมองให้ทะลุเข้าไปในห้องนอนนั้น สองเท้าย่ำไปมาตรงที่เก่าซ้ำๆซากๆ
อย่างมิอาจตัดใจให้กลับไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่ติดกันได้…
“มีอะไรหรือหนู…”เสียงห้าวถามขึ้นเบาๆ
ทำเอาคนที่กำลังเดินกระสับกระส่ายไปมาถึงกับชะงักกึก
ก่อนจะหันไปทางคนถามแล้วพยายามก้มหน้าขณะส่ายศีรษะ
แต่อีกฝ่ายกลับไม่เชื่ออย่างนั้น…
“ขอฉันคุยอะไรกับหนูหน่อยได้มั้ย…”น้ำเสียงจริงจังกับแววตาเอาจริงนั้น
ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าซ่อนร่องรอยบางอย่างในดวงตาเอาไว้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ…
หากก็มิอาจขัดความต้องการของอีกฝ่ายได้
จึงต้องเดินตามร่างสูงใหญ่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยแกร่งดังภูผา
ทว่าปัจจุบันดูผ่ายผอมลงจนผิดหูผิดตา
สายตาคู่นั้นยังคงมองไปยังห้องนอนของรังสิมันต์แล้วถอนใจยาวเดินตามร่างชายสูงวัยไป
ก่อนจะมาหยุดลงตรงม้ายาวตรงระเบียงบ้านด้านหลังเรือนหลังงาม…
ความเงียบสงัดของบรรยากาศที่มีเพียงเสียงคลื่น
กับเสียงหริ่งเรไรทำให้คนที่ไร้เสียงมาแต่เดิมยิ่งอีดอัดเมื่ออีกฝ่าย
ที่นั่งลงบนม้ายาวอย่างสงบยังคงปิดปากเงียบ ไม่มีการเปิดบทสนทนาอยู่หลายนาที
จนหญิงร่างบางต้องค่อยๆหย่อนกายลงนั่งอีกฟากนึงของม้ายาว
ด้วยท่าทีที่พยายามให้สงบที่สุด…
“ตอนเด็กๆลูกสาวของฉันเขาชอบแกล้งหลับหน้าโทรทัศน์เพื่อให้ฉันอุ้มเขาเข้านอน…”
บันลือเปิดบทสนทนาโดยที่แววตามองไปยังท้องฟ้าในยามมืดมน
อีกทั้งยังมีสายฝนโปรยลงมาไม่ขาดสาย
…ไอฝนมิอาจทำให้ร่างใหญ่สะทกสะท้านแม้แต่นิด…
“ฉันรู้ และเข้าใจ…”แน่นอนว่าไร้เสียงจากอีกฝ่ายตอบกลับมา
บันลือจึงกล่าวต่อ…
“และเพราะเขาเป็นเด็กตัวเล็กๆ เล็กกว่าคนอื่นในรุ่นเดียวกัน
ก็เลยโดนเพื่อนๆรังแก…ทุกครั้งที่ฉันไปรับเขากลับบ้าน
ก็จะเห็นเขาวิ่งร้องไห้โผเข้ากอดขาของฉันทุกครั้ง…
ถึงจะสงสารลูกแค่ไหนที่ถูกเพื่อนรังแก…แต่เพราะอยากให้เขาได้ความรู้
ได้เรียนรู้กับการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ฉันก็ต้องแข็งใจให้เขาเรียนต่อ
แม้เขาจะรบเร้าที่จะไม่ไปโรงเรียน…ถึงขั้นเคยตีเขาเพราะเขาดื้อไม่ยอมไปเรียนแต่โดยดี”
เสียงนั้นหยุดชะงักลงเพียงนิด ก่อนจะกล่าวประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า
“ทุกคร้ังที่เห็นลูกเจ็บ ไม่มีพ่อที่ไหนจะไม่เจ็บด้วย ยิ่งเราเป็นคนตีเขาให้เจ็บ
เราก็ยิ่งเจ็บกว่าเขา แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้น เขาก็คงเป็นเด็กดื้อที่ไม่ยอมไปโรงเรียน…
สำหรับคนเป็นพ่อ ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้เห็นลูกมีความสุข…
ที่ผ่านมา…ฉันพยายามเลี้ยงเขาให้มีความสุขที่สุดเท่าที่ความสามารถของฉันจะทำได้…
และคิดมาตลอดว่า…ในโลกนี้คงไม่มีผู้ชายคนไหนจะรักเขาได้เท่าพ่อคนนี้อีกแล้ว...
ฉันรู้ว่าวันนึงเขาจะเข้าใจความรู้สึกฉันเมื่อเขามีลูก…”
พูดจบบันลือก็หันมาทางร่างแบบบางที่นั่งนิ่งเงียบ ราวกับรูปปั้นที่ไร้ชีวิต
“พ่อคนอื่นจะจำลูกตัวเองได้หรือไม่ฉันไม่รู้นะ…แต่สำหรับฉัน ฉันจำได้ทุกอย่างที่เป็นเขา…
สายสัมพันธ์มันโยงให้เราจำกันได้โดยไม่ต้องหาเหตุผลเลย...ว่าทำไม...”
สายตายามที่พูดประโยคนั้นจับอยู่ที่ดวงหน้าของหญิงสาวที่กำลังก้มหน้านิ่ง
“และพยายามทำทุกอย่างให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้ขาดแม่ของเขาไป…
ทั้งที่รู้ว่าจะพยายามแค่ไหนก็เป็นได้มากที่สุดก็แค่พ่อของเขาเท่านั้น…
ฉันเป็นแม่อย่างที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ไม่ได้…
และรังสิมันต์เองก็ทำหน้าที่แม่ให้ลูกของเขาไม่ได้เช่นกัน…
ไม่มีีใครจะแทนใครได้โดยสมบูรณ์”
ประโยคนั้นเรียกสายตาที่กำลังก้มมองพื้นอยู่
ให้ต้องเงยหน้าขึ้นสบตาที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน
แล้วน้ำตาที่พยายามกักเก็บเอาไว้ก็หลั่งไหลลงมาจากสองตาอย่างไม่อาจ
ห้ามเอาไว้ได้อีกต่อไป…
ก่อนจะเดินเข้าไปหาพร้อมกับคุกเข่าลงกอดเอวของชายสูงวัยเอาไว้แน่น…
ร่างบางสั่นเทา ไร้เสียงสะอื้นไห้…
นอกจากคำพูดแผ่วเบาที่นานแล้วที่ไม่เคยได้เอื้อนเอ่ยคำใดๆออกมาจากริมฝีปากนั้น…
“พ่อ…หนุ่ยรักพ่อบันนะ…”บันลือยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวพร้อมรอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้า
“หนุ่ยอาจมีเหตุผลของหนุ่ย รังสิมันต์เขาก็อาจจะมีเหตุผลของเขา
คนที่มีเหตุผลมักจะทะเลาะกันเพราะเหตุผลนั้น แต่คนที่มีหัวใจ เขาจะไม่ทะเลาะกัน…”
............................................................
ร่างแบบบางยามเดินผ่านห้องของรังสิมันต์ก็มิวายหันไปมอง
แล้วก็ต้องถอนใจยาว พยายามหักห้ามใจตนจนต้องเดินหมดเรี่ยวหมดแรง
เข้าห้องนอนของตัวเอง
ทว่า…เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นรังสิมันต์ยืนผงาดอยู่กลางห้องนอนของเธอ
ในอ้อมแขนของเขามีลูกน้อยร้องไห้งอแง
สายตาที่เขามองมาที่เธอนั้นดูว่างเปล่า อีกทั้งยังดูแห้งแล้งจนทำให้หัวใจดวงน้อยถึงกับสั่นยวบ…
“ลูกไอร้องไห้ไม่ยอมหยุด…”พูดพลางส่งลูกน้อยให้แม่นม…
นีสรีนก้มลงมองร่างน้อยในอ้อมแขนแล้วยิ้มอุ่นๆส่งไปให้…
ก่อนจะก้มลงจูบที่กลางกระหม่อมนั้นด้วยแววตารักใคร่เอ็นดู…
พร้อมกับโยกร่างน้อยไปมา เพียงไม่กี่นาทีร่างเล็กในอ้อมแขนก็นิ่งเงียบไป
ราวกับต้องเวทมนต์…
รังสิมันต์มองภาพร่างแบบบางที่กำลังอุ้มลูกชายของเขาไปยังเตียงนอนของเธอ
เห็นเธอนั่งลงบนเตียงแล้ววางลูกน้อยของเขาที่กำลังเปิดปากหาวเอาไว้บนตัก…
“เธอหายไปไหนมา…”คำถามนั้นฟังดูจะไม่พอใจอยู่ในน้ำเสียง
ทว่าคนฟังกลับทำราวกับไม่ได้ยิน…
และยังไม่ทันที่รังสิมันต์จะได้กล่าวคำใดออกไป
เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะพร้อมกับการก้าวเข้ามาของร่างบางที่มีใบหน้าสวยหวาน
ซึ่งครั้งหนึ่งใบหน้าแบบนี้แหล่ะที่ทำให้รังสิมัันต์หลงใหลจนถึงกับลมออกหูยามหึงหวง
และไม่อาจควบคุมตัวเองได้ตามท่ีควรจะเป็น…
ทว่า บัดนี้…ใบหน้าแบบนี้กลับมิอาจทำให้เขารู้สึกอะไรอย่างที่เคยรู้สึกมาก่อนหน้านี้เลย…
สร้างความฉงนให้กับหัวใจของเขายิ่งนัก…ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของเขา
ร่างใหม่ที่ก้าวเข้ามาหาเขามิอาจดึงดูดกายและใจของเขา
ให้อยากเข้าใกล้ได้เลยแม้เพียงนิดเดียว…
ผิดกับอีกคนที่กำลังกุมหัวใจของลูกชายของเขาเอาไว้
แม้แต่เขาก็ไม่อาจทำให้ลูกน้อยคล้อยตามได้…
เธอไม่ได้มีอิทธิพลต่อลูกน้อยของเขาเพียงแค่นั้น แต่กับเขา เขาเริ่มรู้ตัวมาได้สักพักแล้วว่า
…ผู้หญิงลึกลับคนนี้ มีบางอย่างที่ทำให้ร่างกายและจิตใจของเขาเริ่มขาดการควบคุมอีกครั้ง
…มันสร้างความฉงนปนหงุดหงิดในหัวใจที่เขาต้องมารู้สึกเช่นนี้กับหญิงอื่น
ที่มิใช่ภรรยาของตนเอง…
เขาควรจัดการกับความรู้สึกที่กำลังก่อขึ้นในหัวใจอย่างไรดี…
เมื่อตอนนี้ ภรรยาของเขากลับมาทวงสถานภาพของตน
หลังจากที่ได้ทำร้ายจิตใจเขาจนแหลกยับเยินไปก่อนหน้านี้…
“รักขอมานอนกับลูกที่ห้องนี้ได้มั้ยคะ…รักอยากนอนกับลูก…”
เสียงออดอ้อนนั้นทำให้รังสิมันต์ถึงกับส่ายหน้า
“ไม่ได้หรอก…เธอต้องนอนกับพี่ที่ห้องของเราสิ…ปล่อยลูกไอไว้กับนีสรีนอย่างนี้เถอะ…
และนี่ก็ดึกมากแล้ว…เราไปนอนกันเถอะ…”
พูดพลางคว้ามือของเจ้าของใบหน้าหวานซึ้งตรึงใจเอาไว้มั่น ทว่าอีกฝ่ายกลับยื้อยุด
ฉุดดึงเอาไว้พร้อมกับกล่าวอ้อนวอนอีกฝ่ายด้วยแววตาสดใสเปล่งประกาย
“แต่รักอยากอยู่กับลูกนี่คะ…เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน…
คืนนี้ให้รักนอนกับลูกในห้องนีสรีนนะคะพี่รัง…”บทสนทนาของทั้้งสอง
กระทบหูของอีกฝ่ายที่นั่งเงียบมองร่างน้อยในตักนิ่ง…
“ได้ยังไง…เธอทิ้งพี่ไปตั้งหลายเดือน อย่าลืมสิว่าเรามีเรื่องที่ต้องคุยกันทั้งคืน…
หรือเธอไม่คิดถึงพี่อย่างที่พี่คิดถึงเธอ…”
ถ้อยคำนั้นกระแทกหัวใจของอีกคนอย่างจัง
ทำให้มือที่กำลังลูบหัวทุยๆของร่างน้อยในตักถึงกับชะงัก…
“แต่….”
“ไม่มีคำว่าแต่…”พูดจบรังสิมันต์ก็ฉุดร่างแบบบางให้เดินตามตนไป
เมื่อลับร่างของทั้งสอง ร่างที่นิ่งราวกับรูปปั้นถึงกับสั่นสะท้านด้วยแรงอารมณ์จากภายใน…
ก่อนที่หยดน้ำตาจะไหลลงมาราวกับสายน้ำด้วยความเจ็บปวด
เจ็บตรงนี้ที่หัวใจ…ใจของเธอใกล้จะขาด ทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ก็มิอาจเอื้อมคว้าได้
…จินตนาการของเธอล่องลอยไปไกลถึงอีกฟากนึงของกำแพงห้อง…
กำแพงที่กั้นระหว่างเธอกับเขาที่แม้จะไม่ได้หนาอะไร
ทว่ามันกลับทำให้เธอทุกข์ทรมานเหลือเกินเมื่อคิดไปถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในห้องนั้น
…อยากจะฉีกกำแพงห้องนั้นแล้วดึงเขากลับมาสู่อ้อมกอดของเธอกับลูก
…แต่ก็ทำไม่ได้…เธอทำไม่ได้เลย…
และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่หญิงสาวมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ แม้จะมีร่างน้อย
อยู่ในอ้อมกอดอย่างที่เคยต้องการมาตลอดก็ตาม…
และหากเธอรู้ว่าความจริงแล้วอีกฟากของกำแพงในยามนี้นัั้นเกิดอะไรขึ้น
ความกังวลใจอย่างที่เป็นอยู่คงจะหายไป
เมื่อรังสิมันต์ที่ฉุดร่างบางเข้าห้องมาแล้วก็รีบปลีกตัวเข้าห้องน้ำก่อนจะอาบน้ำอีกรอบ…
ปล่อยให้ร่างบางนอนรออยู่บนเตียงด้วยความหวัง
ทว่ารอแล้วรอเล่าอีกฝ่ายก็ไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำเสียที
พร้อมกับบรรยากาศและเสียงฝน จึงทำให้คนที่่นอนรอเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็สุดจะรู้…
และคนที่อยู่ในห้องน้ำก็เดินออกมา
ก่อนจะสาวเท้าอย่างเบาที่สุดเดินมาหยิบอะไรบางอย่างในลิ้นชัก
แล้วค่อยๆบิดลูกบิดประตูออกไปยังนอกห้อง
มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องข้างๆ ช่างใจอยู่นานว่าจะเคาะประตูนั้น
หรือจะใช้ลูกกุญแจในมือไขมันเข้าไป…
และเพราะเกรงว่าคนข้างในจะตื่นขึ้นมา จึงเลือกที่จะไขประตูห้องเข้าไป
แล้วภาพของหญิงสาวที่ตอนนี้ปราศจากผ้าคลุมศีรษะ
ซึ่งกำลังนอนโอบกอดลูกชายของเขาอยู่บนเตียงก็ปรากฎต่อหน้้าเขา
รังสิมันต์สาวเท้าเข้าไปใกล้โดยพยายามให้เกิดเสียงกระทบกับพื้นห้องน้อยที่สุด…
เส้นผมดำขลับยาวสยายแผ่เต็มหมอนใบใหญ่ล้อมกรอบหน้าเรียวเล็กเอาไว้
รังสิมันต์พยายามเพ่งมองใบหน้านั้นผ่านความมืดภายในห้อง จับได้แค่รายละเอียดโดยรวม
หากมิอาจมองเห็นรายละเอียดของเครื่องหน้านั้นได้ถนัด...
และเหมือนร่างบางที่กำลังนอนอยู่จะรู้สึกตัว เขาเห็นเธอดีดตัวลุกขึ้น
มือใหญ่จึงรีบปิดปากหญิงสาวไม่ให้ส่งเสียงอุทานให้ลูกชายของเขาต้องตกใจตื่น…
“ชู่ว….เดี๋ยวลูกไอของฉันก็ตกใจตื่นหรอก…”นีสรีนพยักหน้าสื่อสาร
ว่าเธอเข้าใจแล้วและหายตกใจแล้ว…รังสิมันต์จึงเอามือที่ปิดปากเธออยู่ออกทันที…
“ฉันแค่แวะมาดูให้แน่ใจว่าเธอและลูกหลับแล้วรึยัง…งั้นฉันกลับห้องก่อนนะรีน…”
เสียงที่เรียกขานชื่อนั้นทอดยาวอย่างมีความหมาย…ทำให้คนฟังถึงกับหัวใจสั่นไหว…
อยากจะดึงร่างหนาที่กำลังเดินจากไปเข้ามากอดเอาไว้
แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอทำไม่ได้…แม้แต่จะเรียกให้เขาหันหลังกลับมา
ให้เธอได้มองหน้าเขาให้หายคิดถึงก่อนที่ร่างของเขาจะลับหายไปก็มิอาจทำได้…
ทว่า…รังสิมันต์กลับหยุดฝีเท้าเอาไว้เมื่อเปิดประตูห้อง
แล้วหันมามองหน้าหญิงสาวที่กำลังนั่งนิ่งมองมาทางเขาฝ่าความมืด
เข้าไปพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ…
นีสรีนเห็นรอยยิ้มของเขาได้ชัดเจน
เพราะใบหน้าของเขาต้องแสงที่ผ่านเข้ามาทางประตูห้อง…
ส่งผลให้หัวใจน้อยๆมีความสุข…สุขเล็กๆที่มันอิทธิพลทำให้เธอ
นอนหลับฝันดีทั้งคืน แม้จะไม่มีเขาอยู่ในอ้อมกอดอย่างแต่ก่อน…
“รัง…”รังสิมันต์หยุดชะงักขาที่กำลังเดินออกมาจากห้องนอนของนีสรีน
หลังจากลงล็อกปิดประตูห้องนั้นให้เรียบร้อยแล้วก่อนจะหันไปทางเจ้าของเสียง…
“ยังไม่นอนอีกเหรอครับ…”รังสิมันต์มองมารดาในชุดนอนตัวหนาและใหญ่
ในมือถือกระติกน้ำ
“แม่หิวน้ำน่ะ…ว่าแต่แกเข้าไปทำอะไรในห้องนีสรีน…”เสียงและแววตานั้น
ราวกับจับผิดจนคนถูกซักถึงกับหน้าถอดสี แต่เพียงไม่กี่อึดใจ
รังสิมันต์ก็พูดราวกับจะขอความเห็นจากอีกฝ่ายว่า
“แม่จะว่าอะไรมั้ยครับ…ถ้าผมจะมีเมียอีกคน…”
...............โปรดติดตามตอนต่อไป...................
เอาแล้วมั้ยล่ะหมอรังของเรา...
อาจจะมาแบบสั้นๆ เพราะซอยขายาวๆเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วค่ะ...เฮะๆ
ก่อนอื่นคงต้องขออภัยโทษจากนักอ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้อยู่ด้วยนะจ๊ะ เฮะๆ
ที่หายหัวไปนั้น เพราะงานเป็นสาเหตุค่ะ...งานเยอะและยาก เลยต้องเฟ้นทั้งกำลัง
ทั้งสมองและความสามารถที่ไม่ได้มีมากมายอะไรออกมาจนหมดไส้หมดพุง...
ต้องไล่ล่างานให้สำเร็จตามเป้าและตามระยะเวลา(เส้นตาย)
เพราะถ้างานไม่เสร็จ เต่าโยก็จะเสร็จงาน...เฮะๆ
ก็เลยปลีกเวลามาเขียนนิยายต่อไม่ได้เลย...ฟิวส์ก็ขาดค่ะ...
หวังว่านักอ่านจะให้อภัยเต่่าโยตัวน้อยๆนะคะ...
และคงจะผลุบๆโผล่ๆเช่นนี้ไปอีกพักใหญ่ เพราะโปรเจคที่ทำอยู่ยังชักหน้าไม่ถึงหลัง...
ดีไซเนอร์โนเนมเลยต้องพยายามหนักหน่อยค่ะ...
ต้องขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้เต่าโยด้วยนะคะ...
"แม้กายจะห่างกันไกลแสน แต่ใจเรายังคิดถึงกัน..."
ทำงานไปก็ยังคิดถึงนักอ่านในเว็บเลิฟเสมอ...
และต้องขอบคุณคุณ supayalak ที่ติดประกาศตามหาเต่าที่หายหัวไป
ตอนเข้ามาอ่านเจอกระทู้...อดรู้สึกผิดไม่ได้...เลยพยายามสร้างอารมณ์
เพื่อจะปั่นงานมาฝากนักอ่านกัน...
และต้องขอบคุณแม่มดน้อยด้วยนะคะ...ที่แวะมาทักทายเสมอ
ที่สำคัญ...ขอบคุณเจ้าของคอมเม้นท์จากทุกๆยกที่ผ่านมาด้วยนะคะ
ทุกๆคอมเม้นท์เป็นดั่งกำลังใจให้เต่าโยเสมอมา...กลับมาอ่านกี่ครั้งก็รู้สึกดี
มีกำลังใจ ฟื้นคืนชีพได้ทุกครั้ง...
อาจไม่มีโอกาสได้คุยกันอย่างแต่ก่อนเพราะงานรัดตัวจนหัวหดเหลือเพียงคืบ
แต่โยกลับมาอ่านคอมเม้นท์ของนักอ่านทุกท่านเสมอ ไม่ว่ายามท้อหรือหมดแรง
กับงานที่ทำแค่ไหน...เพราะรู้สึกว่า อย่างไรเราก็ยังมีนักอ่านในนี้ที่คิดถึงเราอยู่...
เต่าโยยังรอคอยรอยยิ้มและกำลังใจจากนักอ่านเสมอนะคะ...
อยากจะปิดนิยายให้จบในเร็ววัน แต่งานที่ทำก็ยังปิดจ๊อบไม่ได้เช่นกัน...
เลยต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ...เพราะร่างกายไม่ได้แข็งแรงอย่างแต่ก่อนนัก...
"อยากขอบคุณอีกสักครั้ง...ที่เธอยังไม่ทอดทิ้งกัน
ที่เธอน้ันยืนข้างฉันในวันที่ไม่มีใคร
ในวันที่ฉันล้มลง ในวันที่ฉันร้องไห้
วันที่ต้องเหงาเดียวดาย...เธออยู่ข้างกายเสมอ..."
ฝากบทเพลงเอาไว้ให้นักอ่านทุกท่านที่ยังคงไม่ทอดทิ้งกันค่ะ...
และเรียกขานนักอ่านทีี่กำลังงอนอยู่ให้กลับมาหากันอีกครั้ง...
^...............................^
ปล.ส่วนใครที่คิดถึง"หมอดานีส" โยจะพยายามปั่นให้ในเร็ววันค่ะ
รักษาสุขภาพนะคะ...
รักและคิดถึงเสมอ
"เต่าโย"
yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ค. 2556, 16:42:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ค. 2556, 16:42:42 น.
จำนวนการเข้าชม : 3309
<< ยกที่ 85 เสียงที่ไม่ได้ยิน (100%) | ยกที่ 88 เธอจะเลือกใคร (50%) >> |
blackcoffee 12 พ.ค. 2556, 18:28:22 น.
ค้างอย่างแรงค้า
ค้างอย่างแรงค้า
ใบบัวน่ารัก 12 พ.ค. 2556, 18:33:55 น.
หายไปนานม๊ากๆๆๆๆๆๆ
นายหัวหลายใจชิ
หากไม่รักก็จากไปเถอะ. ทรมานคนอ่านม๊ากๆๆๆๆๆ
ดค้าเสียจาย
หายไปนานม๊ากๆๆๆๆๆๆ
นายหัวหลายใจชิ
หากไม่รักก็จากไปเถอะ. ทรมานคนอ่านม๊ากๆๆๆๆๆ
ดค้าเสียจาย
pattisa 12 พ.ค. 2556, 21:06:18 น.
อร๊ายยย ค้างอ่ะ
อร๊ายยย ค้างอ่ะ
แว่นใส 12 พ.ค. 2556, 21:13:45 น.
ใครปลอมตัวเป็นสิ้นรัก คนที่อยู่ในคลิปหรือเปล่า
ใครปลอมตัวเป็นสิ้นรัก คนที่อยู่ในคลิปหรือเปล่า
ตุ๊งแช่ 12 พ.ค. 2556, 21:16:23 น.
มาต่อแล้ว อืม มีเงื่อนมีปมให้ขบคิดอีกหลายตลบ
มาต่อแล้ว อืม มีเงื่อนมีปมให้ขบคิดอีกหลายตลบ
nasa 12 พ.ค. 2556, 22:11:31 น.
เป็นนิยายที่ยาวมากค่ะ มีปมมากขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนคงไม่มีวันจบ
เป็นนิยายที่ยาวมากค่ะ มีปมมากขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนคงไม่มีวันจบ
Pat 12 พ.ค. 2556, 22:47:45 น.
ค้างอ่ะค้าง มาน้อยก็ยังดีกว่าไม่มาเนอะ หมอรังรู้แล้วแกล้งไม่รู้ หรือไม่รู้จริงๆล่ะนี่ว่านีสคือใคร
ค้างอ่ะค้าง มาน้อยก็ยังดีกว่าไม่มาเนอะ หมอรังรู้แล้วแกล้งไม่รู้ หรือไม่รู้จริงๆล่ะนี่ว่านีสคือใคร
Pat 12 พ.ค. 2556, 22:48:28 น.
ลืมบอก หมอดานีสก็ยังคิดถึงอยู่ค่า
ลืมบอก หมอดานีสก็ยังคิดถึงอยู่ค่า
sai 12 พ.ค. 2556, 23:24:23 น.
สู้ๆนะคะ ตามอ่านอยู่ค่ะ นานแค่ไหนก็รอได้ค่ะ^^
สู้ๆนะคะ ตามอ่านอยู่ค่ะ นานแค่ไหนก็รอได้ค่ะ^^
wii 12 พ.ค. 2556, 23:24:44 น.
อ้าวทำไม ไม่มีใครรู้เลยว่ามีตัวจริงตัวปลอมเกิดขึ้นนอกจากพ่อบันเท่านั้น เเล้วใครจะมาช่วยคลี่คลายเรื่องนี้กันล่ะ มีตาหมอก็ทำไปด๊ายยยเนาะบอกเเม่ว่าอยากมีเมียอีกคนนึง
อ้าวทำไม ไม่มีใครรู้เลยว่ามีตัวจริงตัวปลอมเกิดขึ้นนอกจากพ่อบันเท่านั้น เเล้วใครจะมาช่วยคลี่คลายเรื่องนี้กันล่ะ มีตาหมอก็ทำไปด๊ายยยเนาะบอกเเม่ว่าอยากมีเมียอีกคนนึง
violette 13 พ.ค. 2556, 00:14:57 น.
โอ๊ยยยยยยยยยย เครียดค่ะ นายรังดูเมียตัวเองไม่ออก น่าตบกะโหลกยิ่งนัก สงสารสิ้นรักเป็นบ้าเลย
โอ๊ยยยยยยยยยย เครียดค่ะ นายรังดูเมียตัวเองไม่ออก น่าตบกะโหลกยิ่งนัก สงสารสิ้นรักเป็นบ้าเลย
aom 13 พ.ค. 2556, 06:47:23 น.
ดีใจคร้าที่อัพ ขอคุณนะคะที่มา ยังไงก็สู้ๆนะคร้าไรเตอร์
พี่รังเริ่มระแคระระคายอะไรหรือป่าวถึงของแต่งเมียอีกคน
รอตอนต่อไปนะค่ะ
ดีใจคร้าที่อัพ ขอคุณนะคะที่มา ยังไงก็สู้ๆนะคร้าไรเตอร์
พี่รังเริ่มระแคระระคายอะไรหรือป่าวถึงของแต่งเมียอีกคน
รอตอนต่อไปนะค่ะ
supayalak 13 พ.ค. 2556, 13:58:34 น.
เอ่ออออ แบบว่างงอ่ะค่ะ ตกลงว่ามีสิ้นรักตัวปลอมโผล่มาจากไหนค้าาาา แล้วทำไมพ่อบันถึงทำเฉยอยู่ได้ แล้วตัวจริง ตัวปลอมจะเหมือนจนแยกไม่ออกเลยเหรอ แอบเคืองพี่รังทำไมถึงแยกไม่ออกขนาดนี้หล่ะ
เต่าโยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค้าในทุกๆเรื่อง รวมถึง หมอดานีสด้วย คึดถึงจัง ถึงเต่าโยจะกระดึบกระดึบเดินไป แต่สุดท้ายก็ถึงเส้นชัยน้าาาาา
เอ่ออออ แบบว่างงอ่ะค่ะ ตกลงว่ามีสิ้นรักตัวปลอมโผล่มาจากไหนค้าาาา แล้วทำไมพ่อบันถึงทำเฉยอยู่ได้ แล้วตัวจริง ตัวปลอมจะเหมือนจนแยกไม่ออกเลยเหรอ แอบเคืองพี่รังทำไมถึงแยกไม่ออกขนาดนี้หล่ะ
เต่าโยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค้าในทุกๆเรื่อง รวมถึง หมอดานีสด้วย คึดถึงจัง ถึงเต่าโยจะกระดึบกระดึบเดินไป แต่สุดท้ายก็ถึงเส้นชัยน้าาาาา
goldensun 13 พ.ค. 2556, 19:55:50 น.
ตัวปลอมจริงๆด้วย แล้วนีสรินก็คือสิ้น ความรู้สึกของหมอรังจับได้ แต่พ่อบันเก่งกว่า
ตัวปลอมจริงๆด้วย แล้วนีสรินก็คือสิ้น ความรู้สึกของหมอรังจับได้ แต่พ่อบันเก่งกว่า
konhin 14 พ.ค. 2556, 04:42:43 น.
พ่อบันดูออกแต่คงอยากรู้ว่าลูกเขยจะดูออกมั้ย อากิยังเปลี่ยนหน้าได้ ทำไมนาโนจะทำไม่ได้บ้าง ว่าแต่ตัวร้ายทำด้วยเนี่ยดิ ฮ่าๆๆ
พ่อบันดูออกแต่คงอยากรู้ว่าลูกเขยจะดูออกมั้ย อากิยังเปลี่ยนหน้าได้ ทำไมนาโนจะทำไม่ได้บ้าง ว่าแต่ตัวร้ายทำด้วยเนี่ยดิ ฮ่าๆๆ
Littlewitch 15 พ.ค. 2556, 00:05:20 น.
เวลคัมค่า งานเยอะเหมือนกันคะ แต่ก็อยากอ่านนิยาย เลยแวะมาเป็นระยะๆ สงสัยตอนนี้ต้องเก็บไว้อ่านนานๆ กว่าตอนหน้าจะมาถึง
เวลคัมค่า งานเยอะเหมือนกันคะ แต่ก็อยากอ่านนิยาย เลยแวะมาเป็นระยะๆ สงสัยตอนนี้ต้องเก็บไว้อ่านนานๆ กว่าตอนหน้าจะมาถึง
mallow 18 มิ.ย. 2556, 20:06:02 น.
รอตอนต่อไปนะคะเรื่องนี้ปมเยอะมากอ่านแล้วลุ้นตลอด คิดถึงนะคะ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะเรื่องนี้ปมเยอะมากอ่านแล้วลุ้นตลอด คิดถึงนะคะ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ