คานน้อย คอยรัก (จบแล้วค่ะ)
คานน้อย คอยรัก

ในลักษณ์นั้นว่าประหลาด…………….คนบนคานนั้นว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า…………...เป็นเชื้อชาตินักรักผู้หาญกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา…………………..เหตุไฉนย่อท้อรอเวลา
ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที…………………ฤาไม่กล้าบอกรักใครสักที

เห็นแก้วแวววับที่ดับจิต…………………เห็นคานแก้วแวววับสดับจิต
ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่……………...ใยไม่คิดปีนไปให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี……………อย่ามัวรอจงขึ้นมาเร็วรี่
อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ………………บนคานนี้มีรักให้ฝึกปรือ

อันของสูงแม้ปองต้องจิต………………..คานเราสูงไม่เป็นรองของใครอื่น
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา………………..อย่าได้ขืนลงไปให้เสียชื่อ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ………………….มิใช่ทองตามตลาดที่อาจซื้อ
ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม……………..เพราะเราถือความพอใจจึงลงไป

ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง……………ไม่คิดสอยมัวคอยให้คานทับ
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม………..รอให้ดับคาคานหรืออย่างไร
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม…………………..ฤาต้องคอยรักแท้จนแก่ใช่ไหม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี…………………..เกาะคานน้อยคอยรักต่อไป
…………………..........จนกว่าจะเจอคนที่ใช่…ใช่ไหมคาน………………
(อ้างอิงกลอนจากบทละครเรื่องท้าวแสนปม)

มาดูเหตุผลของคนที่ยังไม่ลงจากคานกันค่ะ...
อาจจะมีเหตุผลมากมายที่ไม่อยากลงจากคาน
หรืออาจมีเพียงแค่หนึ่งเหตุผลง่ายๆก็คือ...

...ไม่ใช่คนที่ใช่ก็ไม่ใช่...

หรือว่า

...โดนข้อหาหลายใจ เพราะเคยมีแฟนหลายหน...

หรืออาจเป็นเพรา

...เขาบอกให้รอ เราก็รอ...

หรือจริงๆแล้ว

...ขออยู่รอคนสุดท้ายคนนั้นได้ไหม...

หรือลึกลงไป

...กำลังรอเจ้าชายในฝันอยู่อย่างอดทนได้ทุกอย่าง...

หรือกำลังปลอบใจตัวเองว่า

...ครึ่งหนึ่งของฉันยังมาไม่ถึง...ซึ่งสักวันเขาจะมาอยู่ข้างกัน...

หรือกำลังหลอกตัวเองด้วยการปกปิดว่า

...ไม่หวั่นไหว หัวใจไม่ปรารถนา...

ทั้งๆที่จริงๆแล้ว

...อยากรัก อยากฝัน แต่เพราะกลัว ก็เลยไม่กล้ารักใคร...

หรือว่าอาจจะเป็นเหตผลสุดท้ายที่ไม่ค่อยมีใครกล้ายอมรับดังๆว่า

...ไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่มีใครสน เรามันคนธรรมดาๆ...

แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใด...

เราก็ยังหวังและยังคงรอคอยปาฏิหาริย์ว่าจะได้เจอคนที่ใช่ในสักวัน...


Tags: ดราม่า หวานซึ้ง อบอุ่น หมอรัง สิ้นรัก วายุ ปองขวัญ

ตอน: ยกที่ 86 หัวใจคุ้นเคย



ยกที่ 87 หัวใจคุ้นเคย

ตกดึกหลังจากที่ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับเข้าห้องใครห้องมันแล้ว
สายฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา…จนทำให้เด็กน้อยร้องไห้
ด้วยความตกใจเสียงฟ้าฝน…

รังสิมันต์จึงรีบคว้าลูกชายที่นอนอยู่บนเปลเข้าสู่อ้อมกอดพร้อมกับปลอบขวัญ
ส่วนสิ้นรักที่อยู่ในห้องได้แต่มองเพราะไม่อาจทำอะไรได้
เนื่องจากลูกชายยังไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัวราวกับเกลียดกลัวตัวเธอ…
สร้างร่องรอยบางอย่างบนใบหน้าสวยหวานที่รังสิมันต์มิอาจคาดเดาความรู้สึกได้เลย…
ที่เขากระทำได้ก็คือ ปลอบใจภรรยาไปพร้อมๆกับปลอบขวัญลูกชาย

โดยที่ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่า
ตรงหน้าประตูห้องนั้นมีร่างแบบบางในชุดคลุมปกปิดมิดชิด
แม้แต่เส้นผมก็ไม่อาจเล็ดลอดออกมาจากผ้าคลุมศีรษะเลยแม้แต่เส้นเดียว
กำลังเดินกระสับกระส่ายไปมาอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้ากังวลใจ

สายตาคู่นั้นราวกับจะมองให้ทะลุเข้าไปในห้องนอนนั้น สองเท้าย่ำไปมาตรงที่เก่าซ้ำๆซากๆ
อย่างมิอาจตัดใจให้กลับไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่ติดกันได้…

“มีอะไรหรือหนู…”เสียงห้าวถามขึ้นเบาๆ
ทำเอาคนที่กำลังเดินกระสับกระส่ายไปมาถึงกับชะงักกึก
ก่อนจะหันไปทางคนถามแล้วพยายามก้มหน้าขณะส่ายศีรษะ
แต่อีกฝ่ายกลับไม่เชื่ออย่างนั้น…

“ขอฉันคุยอะไรกับหนูหน่อยได้มั้ย…”น้ำเสียงจริงจังกับแววตาเอาจริงนั้น
ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าซ่อนร่องรอยบางอย่างในดวงตาเอาไว้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ…
หากก็มิอาจขัดความต้องการของอีกฝ่ายได้
จึงต้องเดินตามร่างสูงใหญ่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยแกร่งดังภูผา
ทว่าปัจจุบันดูผ่ายผอมลงจนผิดหูผิดตา

สายตาคู่นั้นยังคงมองไปยังห้องนอนของรังสิมันต์แล้วถอนใจยาวเดินตามร่างชายสูงวัยไป
ก่อนจะมาหยุดลงตรงม้ายาวตรงระเบียงบ้านด้านหลังเรือนหลังงาม…

ความเงียบสงัดของบรรยากาศที่มีเพียงเสียงคลื่น
กับเสียงหริ่งเรไรทำให้คนที่ไร้เสียงมาแต่เดิมยิ่งอีดอัดเมื่ออีกฝ่าย
ที่นั่งลงบนม้ายาวอย่างสงบยังคงปิดปากเงียบ ไม่มีการเปิดบทสนทนาอยู่หลายนาที
จนหญิงร่างบางต้องค่อยๆหย่อนกายลงนั่งอีกฟากนึงของม้ายาว
ด้วยท่าทีที่พยายามให้สงบที่สุด…

“ตอนเด็กๆลูกสาวของฉันเขาชอบแกล้งหลับหน้าโทรทัศน์เพื่อให้ฉันอุ้มเขาเข้านอน…”
บันลือเปิดบทสนทนาโดยที่แววตามองไปยังท้องฟ้าในยามมืดมน
อีกทั้งยังมีสายฝนโปรยลงมาไม่ขาดสาย

…ไอฝนมิอาจทำให้ร่างใหญ่สะทกสะท้านแม้แต่นิด…

“ฉันรู้ และเข้าใจ…”แน่นอนว่าไร้เสียงจากอีกฝ่ายตอบกลับมา
บันลือจึงกล่าวต่อ…

“และเพราะเขาเป็นเด็กตัวเล็กๆ เล็กกว่าคนอื่นในรุ่นเดียวกัน
ก็เลยโดนเพื่อนๆรังแก…ทุกครั้งที่ฉันไปรับเขากลับบ้าน
ก็จะเห็นเขาวิ่งร้องไห้โผเข้ากอดขาของฉันทุกครั้ง…

ถึงจะสงสารลูกแค่ไหนที่ถูกเพื่อนรังแก…แต่เพราะอยากให้เขาได้ความรู้
ได้เรียนรู้กับการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ฉันก็ต้องแข็งใจให้เขาเรียนต่อ
แม้เขาจะรบเร้าที่จะไม่ไปโรงเรียน…ถึงขั้นเคยตีเขาเพราะเขาดื้อไม่ยอมไปเรียนแต่โดยดี”

เสียงนั้นหยุดชะงักลงเพียงนิด ก่อนจะกล่าวประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า

“ทุกคร้ังที่เห็นลูกเจ็บ ไม่มีพ่อที่ไหนจะไม่เจ็บด้วย ยิ่งเราเป็นคนตีเขาให้เจ็บ
เราก็ยิ่งเจ็บกว่าเขา แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้น เขาก็คงเป็นเด็กดื้อที่ไม่ยอมไปโรงเรียน…

สำหรับคนเป็นพ่อ ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้เห็นลูกมีความสุข…

ที่ผ่านมา…ฉันพยายามเลี้ยงเขาให้มีความสุขที่สุดเท่าที่ความสามารถของฉันจะทำได้…
และคิดมาตลอดว่า…ในโลกนี้คงไม่มีผู้ชายคนไหนจะรักเขาได้เท่าพ่อคนนี้อีกแล้ว...

ฉันรู้ว่าวันนึงเขาจะเข้าใจความรู้สึกฉันเมื่อเขามีลูก…”

พูดจบบันลือก็หันมาทางร่างแบบบางที่นั่งนิ่งเงียบ ราวกับรูปปั้นที่ไร้ชีวิต

“พ่อคนอื่นจะจำลูกตัวเองได้หรือไม่ฉันไม่รู้นะ…แต่สำหรับฉัน ฉันจำได้ทุกอย่างที่เป็นเขา…
สายสัมพันธ์มันโยงให้เราจำกันได้โดยไม่ต้องหาเหตุผลเลย...ว่าทำไม...”

สายตายามที่พูดประโยคนั้นจับอยู่ที่ดวงหน้าของหญิงสาวที่กำลังก้มหน้านิ่ง

“และพยายามทำทุกอย่างให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้ขาดแม่ของเขาไป…
ทั้งที่รู้ว่าจะพยายามแค่ไหนก็เป็นได้มากที่สุดก็แค่พ่อของเขาเท่านั้น…

ฉันเป็นแม่อย่างที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ไม่ได้…
และรังสิมันต์เองก็ทำหน้าที่แม่ให้ลูกของเขาไม่ได้เช่นกัน…
ไม่มีีใครจะแทนใครได้โดยสมบูรณ์”

ประโยคนั้นเรียกสายตาที่กำลังก้มมองพื้นอยู่
ให้ต้องเงยหน้าขึ้นสบตาที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน
แล้วน้ำตาที่พยายามกักเก็บเอาไว้ก็หลั่งไหลลงมาจากสองตาอย่างไม่อาจ
ห้ามเอาไว้ได้อีกต่อไป…

ก่อนจะเดินเข้าไปหาพร้อมกับคุกเข่าลงกอดเอวของชายสูงวัยเอาไว้แน่น…
ร่างบางสั่นเทา ไร้เสียงสะอื้นไห้…

นอกจากคำพูดแผ่วเบาที่นานแล้วที่ไม่เคยได้เอื้อนเอ่ยคำใดๆออกมาจากริมฝีปากนั้น…

“พ่อ…หนุ่ยรักพ่อบันนะ…”บันลือยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวพร้อมรอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้า

“หนุ่ยอาจมีเหตุผลของหนุ่ย รังสิมันต์เขาก็อาจจะมีเหตุผลของเขา
คนที่มีเหตุผลมักจะทะเลาะกันเพราะเหตุผลนั้น แต่คนที่มีหัวใจ เขาจะไม่ทะเลาะกัน…”


............................................................




ร่างแบบบางยามเดินผ่านห้องของรังสิมันต์ก็มิวายหันไปมอง
แล้วก็ต้องถอนใจยาว พยายามหักห้ามใจตนจนต้องเดินหมดเรี่ยวหมดแรง
เข้าห้องนอนของตัวเอง

ทว่า…เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นรังสิมันต์ยืนผงาดอยู่กลางห้องนอนของเธอ
ในอ้อมแขนของเขามีลูกน้อยร้องไห้งอแง

สายตาที่เขามองมาที่เธอนั้นดูว่างเปล่า อีกทั้งยังดูแห้งแล้งจนทำให้หัวใจดวงน้อยถึงกับสั่นยวบ…

“ลูกไอร้องไห้ไม่ยอมหยุด…”พูดพลางส่งลูกน้อยให้แม่นม…

นีสรีนก้มลงมองร่างน้อยในอ้อมแขนแล้วยิ้มอุ่นๆส่งไปให้…
ก่อนจะก้มลงจูบที่กลางกระหม่อมนั้นด้วยแววตารักใคร่เอ็นดู…
พร้อมกับโยกร่างน้อยไปมา เพียงไม่กี่นาทีร่างเล็กในอ้อมแขนก็นิ่งเงียบไป
ราวกับต้องเวทมนต์…

รังสิมันต์มองภาพร่างแบบบางที่กำลังอุ้มลูกชายของเขาไปยังเตียงนอนของเธอ
เห็นเธอนั่งลงบนเตียงแล้ววางลูกน้อยของเขาที่กำลังเปิดปากหาวเอาไว้บนตัก…

“เธอหายไปไหนมา…”คำถามนั้นฟังดูจะไม่พอใจอยู่ในน้ำเสียง
ทว่าคนฟังกลับทำราวกับไม่ได้ยิน…

และยังไม่ทันที่รังสิมันต์จะได้กล่าวคำใดออกไป
เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะพร้อมกับการก้าวเข้ามาของร่างบางที่มีใบหน้าสวยหวาน
ซึ่งครั้งหนึ่งใบหน้าแบบนี้แหล่ะที่ทำให้รังสิมัันต์หลงใหลจนถึงกับลมออกหูยามหึงหวง
และไม่อาจควบคุมตัวเองได้ตามท่ีควรจะเป็น…

ทว่า บัดนี้…ใบหน้าแบบนี้กลับมิอาจทำให้เขารู้สึกอะไรอย่างที่เคยรู้สึกมาก่อนหน้านี้เลย…

สร้างความฉงนให้กับหัวใจของเขายิ่งนัก…ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของเขา

ร่างใหม่ที่ก้าวเข้ามาหาเขามิอาจดึงดูดกายและใจของเขา
ให้อยากเข้าใกล้ได้เลยแม้เพียงนิดเดียว…

ผิดกับอีกคนที่กำลังกุมหัวใจของลูกชายของเขาเอาไว้
แม้แต่เขาก็ไม่อาจทำให้ลูกน้อยคล้อยตามได้…

เธอไม่ได้มีอิทธิพลต่อลูกน้อยของเขาเพียงแค่นั้น แต่กับเขา เขาเริ่มรู้ตัวมาได้สักพักแล้วว่า

…ผู้หญิงลึกลับคนนี้ มีบางอย่างที่ทำให้ร่างกายและจิตใจของเขาเริ่มขาดการควบคุมอีกครั้ง

…มันสร้างความฉงนปนหงุดหงิดในหัวใจที่เขาต้องมารู้สึกเช่นนี้กับหญิงอื่น
ที่มิใช่ภรรยาของตนเอง…

เขาควรจัดการกับความรู้สึกที่กำลังก่อขึ้นในหัวใจอย่างไรดี…
เมื่อตอนนี้ ภรรยาของเขากลับมาทวงสถานภาพของตน
หลังจากที่ได้ทำร้ายจิตใจเขาจนแหลกยับเยินไปก่อนหน้านี้…

“รักขอมานอนกับลูกที่ห้องนี้ได้มั้ยคะ…รักอยากนอนกับลูก…”
เสียงออดอ้อนนั้นทำให้รังสิมันต์ถึงกับส่ายหน้า

“ไม่ได้หรอก…เธอต้องนอนกับพี่ที่ห้องของเราสิ…ปล่อยลูกไอไว้กับนีสรีนอย่างนี้เถอะ…
และนี่ก็ดึกมากแล้ว…เราไปนอนกันเถอะ…”
พูดพลางคว้ามือของเจ้าของใบหน้าหวานซึ้งตรึงใจเอาไว้มั่น ทว่าอีกฝ่ายกลับยื้อยุด
ฉุดดึงเอาไว้พร้อมกับกล่าวอ้อนวอนอีกฝ่ายด้วยแววตาสดใสเปล่งประกาย

“แต่รักอยากอยู่กับลูกนี่คะ…เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน…
คืนนี้ให้รักนอนกับลูกในห้องนีสรีนนะคะพี่รัง…”บทสนทนาของทั้้งสอง
กระทบหูของอีกฝ่ายที่นั่งเงียบมองร่างน้อยในตักนิ่ง…

“ได้ยังไง…เธอทิ้งพี่ไปตั้งหลายเดือน อย่าลืมสิว่าเรามีเรื่องที่ต้องคุยกันทั้งคืน…
หรือเธอไม่คิดถึงพี่อย่างที่พี่คิดถึงเธอ…”

ถ้อยคำนั้นกระแทกหัวใจของอีกคนอย่างจัง
ทำให้มือที่กำลังลูบหัวทุยๆของร่างน้อยในตักถึงกับชะงัก…

“แต่….”

“ไม่มีคำว่าแต่…”พูดจบรังสิมันต์ก็ฉุดร่างแบบบางให้เดินตามตนไป

เมื่อลับร่างของทั้งสอง ร่างที่นิ่งราวกับรูปปั้นถึงกับสั่นสะท้านด้วยแรงอารมณ์จากภายใน…
ก่อนที่หยดน้ำตาจะไหลลงมาราวกับสายน้ำด้วยความเจ็บปวด

เจ็บตรงนี้ที่หัวใจ…ใจของเธอใกล้จะขาด ทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ก็มิอาจเอื้อมคว้าได้

…จินตนาการของเธอล่องลอยไปไกลถึงอีกฟากนึงของกำแพงห้อง…
กำแพงที่กั้นระหว่างเธอกับเขาที่แม้จะไม่ได้หนาอะไร
ทว่ามันกลับทำให้เธอทุกข์ทรมานเหลือเกินเมื่อคิดไปถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในห้องนั้น

…อยากจะฉีกกำแพงห้องนั้นแล้วดึงเขากลับมาสู่อ้อมกอดของเธอกับลูก

…แต่ก็ทำไม่ได้…เธอทำไม่ได้เลย…




และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่หญิงสาวมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ แม้จะมีร่างน้อย
อยู่ในอ้อมกอดอย่างที่เคยต้องการมาตลอดก็ตาม…


และหากเธอรู้ว่าความจริงแล้วอีกฟากของกำแพงในยามนี้นัั้นเกิดอะไรขึ้น
ความกังวลใจอย่างที่เป็นอยู่คงจะหายไป
เมื่อรังสิมันต์ที่ฉุดร่างบางเข้าห้องมาแล้วก็รีบปลีกตัวเข้าห้องน้ำก่อนจะอาบน้ำอีกรอบ…
ปล่อยให้ร่างบางนอนรออยู่บนเตียงด้วยความหวัง

ทว่ารอแล้วรอเล่าอีกฝ่ายก็ไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำเสียที
พร้อมกับบรรยากาศและเสียงฝน จึงทำให้คนที่่นอนรอเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็สุดจะรู้…

และคนที่อยู่ในห้องน้ำก็เดินออกมา
ก่อนจะสาวเท้าอย่างเบาที่สุดเดินมาหยิบอะไรบางอย่างในลิ้นชัก
แล้วค่อยๆบิดลูกบิดประตูออกไปยังนอกห้อง
มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องข้างๆ ช่างใจอยู่นานว่าจะเคาะประตูนั้น
หรือจะใช้ลูกกุญแจในมือไขมันเข้าไป…

และเพราะเกรงว่าคนข้างในจะตื่นขึ้นมา จึงเลือกที่จะไขประตูห้องเข้าไป


แล้วภาพของหญิงสาวที่ตอนนี้ปราศจากผ้าคลุมศีรษะ
ซึ่งกำลังนอนโอบกอดลูกชายของเขาอยู่บนเตียงก็ปรากฎต่อหน้้าเขา

รังสิมันต์สาวเท้าเข้าไปใกล้โดยพยายามให้เกิดเสียงกระทบกับพื้นห้องน้อยที่สุด…

เส้นผมดำขลับยาวสยายแผ่เต็มหมอนใบใหญ่ล้อมกรอบหน้าเรียวเล็กเอาไว้

รังสิมันต์พยายามเพ่งมองใบหน้านั้นผ่านความมืดภายในห้อง จับได้แค่รายละเอียดโดยรวม
หากมิอาจมองเห็นรายละเอียดของเครื่องหน้านั้นได้ถนัด...

และเหมือนร่างบางที่กำลังนอนอยู่จะรู้สึกตัว เขาเห็นเธอดีดตัวลุกขึ้น
มือใหญ่จึงรีบปิดปากหญิงสาวไม่ให้ส่งเสียงอุทานให้ลูกชายของเขาต้องตกใจตื่น…

“ชู่ว….เดี๋ยวลูกไอของฉันก็ตกใจตื่นหรอก…”นีสรีนพยักหน้าสื่อสาร
ว่าเธอเข้าใจแล้วและหายตกใจแล้ว…รังสิมันต์จึงเอามือที่ปิดปากเธออยู่ออกทันที…

“ฉันแค่แวะมาดูให้แน่ใจว่าเธอและลูกหลับแล้วรึยัง…งั้นฉันกลับห้องก่อนนะรีน…”
เสียงที่เรียกขานชื่อนั้นทอดยาวอย่างมีความหมาย…ทำให้คนฟังถึงกับหัวใจสั่นไหว…
อยากจะดึงร่างหนาที่กำลังเดินจากไปเข้ามากอดเอาไว้
แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอทำไม่ได้…แม้แต่จะเรียกให้เขาหันหลังกลับมา
ให้เธอได้มองหน้าเขาให้หายคิดถึงก่อนที่ร่างของเขาจะลับหายไปก็มิอาจทำได้…

ทว่า…รังสิมันต์กลับหยุดฝีเท้าเอาไว้เมื่อเปิดประตูห้อง
แล้วหันมามองหน้าหญิงสาวที่กำลังนั่งนิ่งมองมาทางเขาฝ่าความมืด
เข้าไปพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ…

นีสรีนเห็นรอยยิ้มของเขาได้ชัดเจน
เพราะใบหน้าของเขาต้องแสงที่ผ่านเข้ามาทางประตูห้อง…
ส่งผลให้หัวใจน้อยๆมีความสุข…สุขเล็กๆที่มันอิทธิพลทำให้เธอ
นอนหลับฝันดีทั้งคืน แม้จะไม่มีเขาอยู่ในอ้อมกอดอย่างแต่ก่อน…



“รัง…”รังสิมันต์หยุดชะงักขาที่กำลังเดินออกมาจากห้องนอนของนีสรีน
หลังจากลงล็อกปิดประตูห้องนั้นให้เรียบร้อยแล้วก่อนจะหันไปทางเจ้าของเสียง…

“ยังไม่นอนอีกเหรอครับ…”รังสิมันต์มองมารดาในชุดนอนตัวหนาและใหญ่
ในมือถือกระติกน้ำ

“แม่หิวน้ำน่ะ…ว่าแต่แกเข้าไปทำอะไรในห้องนีสรีน…”เสียงและแววตานั้น
ราวกับจับผิดจนคนถูกซักถึงกับหน้าถอดสี แต่เพียงไม่กี่อึดใจ
รังสิมันต์ก็พูดราวกับจะขอความเห็นจากอีกฝ่ายว่า

“แม่จะว่าอะไรมั้ยครับ…ถ้าผมจะมีเมียอีกคน…”



...............โปรดติดตามตอนต่อไป...................

เอาแล้วมั้ยล่ะหมอรังของเรา...

อาจจะมาแบบสั้นๆ เพราะซอยขายาวๆเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วค่ะ...เฮะๆ

ก่อนอื่นคงต้องขออภัยโทษจากนักอ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้อยู่ด้วยนะจ๊ะ เฮะๆ

ที่หายหัวไปนั้น เพราะงานเป็นสาเหตุค่ะ...งานเยอะและยาก เลยต้องเฟ้นทั้งกำลัง
ทั้งสมองและความสามารถที่ไม่ได้มีมากมายอะไรออกมาจนหมดไส้หมดพุง...
ต้องไล่ล่างานให้สำเร็จตามเป้าและตามระยะเวลา(เส้นตาย)
เพราะถ้างานไม่เสร็จ เต่าโยก็จะเสร็จงาน...เฮะๆ

ก็เลยปลีกเวลามาเขียนนิยายต่อไม่ได้เลย...ฟิวส์ก็ขาดค่ะ...
หวังว่านักอ่านจะให้อภัยเต่่าโยตัวน้อยๆนะคะ...

และคงจะผลุบๆโผล่ๆเช่นนี้ไปอีกพักใหญ่ เพราะโปรเจคที่ทำอยู่ยังชักหน้าไม่ถึงหลัง...
ดีไซเนอร์โนเนมเลยต้องพยายามหนักหน่อยค่ะ...

ต้องขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้เต่าโยด้วยนะคะ...

"แม้กายจะห่างกันไกลแสน แต่ใจเรายังคิดถึงกัน..."

ทำงานไปก็ยังคิดถึงนักอ่านในเว็บเลิฟเสมอ...

และต้องขอบคุณคุณ supayalak ที่ติดประกาศตามหาเต่าที่หายหัวไป
ตอนเข้ามาอ่านเจอกระทู้...อดรู้สึกผิดไม่ได้...เลยพยายามสร้างอารมณ์
เพื่อจะปั่นงานมาฝากนักอ่านกัน...

และต้องขอบคุณแม่มดน้อยด้วยนะคะ...ที่แวะมาทักทายเสมอ

ที่สำคัญ...ขอบคุณเจ้าของคอมเม้นท์จากทุกๆยกที่ผ่านมาด้วยนะคะ
ทุกๆคอมเม้นท์เป็นดั่งกำลังใจให้เต่าโยเสมอมา...กลับมาอ่านกี่ครั้งก็รู้สึกดี
มีกำลังใจ ฟื้นคืนชีพได้ทุกครั้ง...

อาจไม่มีโอกาสได้คุยกันอย่างแต่ก่อนเพราะงานรัดตัวจนหัวหดเหลือเพียงคืบ
แต่โยกลับมาอ่านคอมเม้นท์ของนักอ่านทุกท่านเสมอ ไม่ว่ายามท้อหรือหมดแรง
กับงานที่ทำแค่ไหน...เพราะรู้สึกว่า อย่างไรเราก็ยังมีนักอ่านในนี้ที่คิดถึงเราอยู่...

เต่าโยยังรอคอยรอยยิ้มและกำลังใจจากนักอ่านเสมอนะคะ...

อยากจะปิดนิยายให้จบในเร็ววัน แต่งานที่ทำก็ยังปิดจ๊อบไม่ได้เช่นกัน...
เลยต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ...เพราะร่างกายไม่ได้แข็งแรงอย่างแต่ก่อนนัก...




"อยากขอบคุณอีกสักครั้ง...ที่เธอยังไม่ทอดทิ้งกัน

ที่เธอน้ันยืนข้างฉันในวันที่ไม่มีใคร

ในวันที่ฉันล้มลง ในวันที่ฉันร้องไห้

วันที่ต้องเหงาเดียวดาย...เธออยู่ข้างกายเสมอ..."


ฝากบทเพลงเอาไว้ให้นักอ่านทุกท่านที่ยังคงไม่ทอดทิ้งกันค่ะ...
และเรียกขานนักอ่านทีี่กำลังงอนอยู่ให้กลับมาหากันอีกครั้ง...

^...............................^

ปล.ส่วนใครที่คิดถึง"หมอดานีส" โยจะพยายามปั่นให้ในเร็ววันค่ะ



รักษาสุขภาพนะคะ...

รักและคิดถึงเสมอ

"เต่าโย"







yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ค. 2556, 16:42:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ค. 2556, 16:42:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 3309





<< ยกที่ 85 เสียงที่ไม่ได้ยิน (100%)   ยกที่ 88 เธอจะเลือกใคร (50%) >>
blackcoffee 12 พ.ค. 2556, 18:28:22 น.
ค้างอย่างแรงค้า


ใบบัวน่ารัก 12 พ.ค. 2556, 18:33:55 น.
หายไปนานม๊ากๆๆๆๆๆๆ
นายหัวหลายใจชิ
หากไม่รักก็จากไปเถอะ. ทรมานคนอ่านม๊ากๆๆๆๆๆ
ดค้าเสียจาย


pattisa 12 พ.ค. 2556, 21:06:18 น.
อร๊ายยย ค้างอ่ะ


แว่นใส 12 พ.ค. 2556, 21:13:45 น.
ใครปลอมตัวเป็นสิ้นรัก คนที่อยู่ในคลิปหรือเปล่า


ตุ๊งแช่ 12 พ.ค. 2556, 21:16:23 น.
มาต่อแล้ว อืม มีเงื่อนมีปมให้ขบคิดอีกหลายตลบ


nasa 12 พ.ค. 2556, 22:11:31 น.
เป็นนิยายที่ยาวมากค่ะ มีปมมากขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนคงไม่มีวันจบ


Pat 12 พ.ค. 2556, 22:47:45 น.
ค้างอ่ะค้าง มาน้อยก็ยังดีกว่าไม่มาเนอะ หมอรังรู้แล้วแกล้งไม่รู้ หรือไม่รู้จริงๆล่ะนี่ว่านีสคือใคร


Pat 12 พ.ค. 2556, 22:48:28 น.
ลืมบอก หมอดานีสก็ยังคิดถึงอยู่ค่า


บัวขาว 12 พ.ค. 2556, 23:17:03 น.
=^_^=


sai 12 พ.ค. 2556, 23:24:23 น.
สู้ๆนะคะ ตามอ่านอยู่ค่ะ นานแค่ไหนก็รอได้ค่ะ^^


wii 12 พ.ค. 2556, 23:24:44 น.
อ้าวทำไม ไม่มีใครรู้เลยว่ามีตัวจริงตัวปลอมเกิดขึ้นนอกจากพ่อบันเท่านั้น เเล้วใครจะมาช่วยคลี่คลายเรื่องนี้กันล่ะ มีตาหมอก็ทำไปด๊ายยยเนาะบอกเเม่ว่าอยากมีเมียอีกคนนึง


violette 13 พ.ค. 2556, 00:14:57 น.
โอ๊ยยยยยยยยยย เครียดค่ะ นายรังดูเมียตัวเองไม่ออก น่าตบกะโหลกยิ่งนัก สงสารสิ้นรักเป็นบ้าเลย


aom 13 พ.ค. 2556, 06:47:23 น.
ดีใจคร้าที่อัพ ขอคุณนะคะที่มา ยังไงก็สู้ๆนะคร้าไรเตอร์
พี่รังเริ่มระแคระระคายอะไรหรือป่าวถึงของแต่งเมียอีกคน
รอตอนต่อไปนะค่ะ


supayalak 13 พ.ค. 2556, 13:58:34 น.
เอ่ออออ แบบว่างงอ่ะค่ะ ตกลงว่ามีสิ้นรักตัวปลอมโผล่มาจากไหนค้าาาา แล้วทำไมพ่อบันถึงทำเฉยอยู่ได้ แล้วตัวจริง ตัวปลอมจะเหมือนจนแยกไม่ออกเลยเหรอ แอบเคืองพี่รังทำไมถึงแยกไม่ออกขนาดนี้หล่ะ

เต่าโยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค้าในทุกๆเรื่อง รวมถึง หมอดานีสด้วย คึดถึงจัง ถึงเต่าโยจะกระดึบกระดึบเดินไป แต่สุดท้ายก็ถึงเส้นชัยน้าาาาา


goldensun 13 พ.ค. 2556, 19:55:50 น.
ตัวปลอมจริงๆด้วย แล้วนีสรินก็คือสิ้น ความรู้สึกของหมอรังจับได้ แต่พ่อบันเก่งกว่า


konhin 14 พ.ค. 2556, 04:42:43 น.
พ่อบันดูออกแต่คงอยากรู้ว่าลูกเขยจะดูออกมั้ย อากิยังเปลี่ยนหน้าได้ ทำไมนาโนจะทำไม่ได้บ้าง ว่าแต่ตัวร้ายทำด้วยเนี่ยดิ ฮ่าๆๆ


Littlewitch 15 พ.ค. 2556, 00:05:20 น.
เวลคัมค่า งานเยอะเหมือนกันคะ แต่ก็อยากอ่านนิยาย เลยแวะมาเป็นระยะๆ สงสัยตอนนี้ต้องเก็บไว้อ่านนานๆ กว่าตอนหน้าจะมาถึง


yoraya 17 มิ.ย. 2556, 09:20:25 น.
coming soon ค่ะ

ปล.ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะคะ

^^



mallow 18 มิ.ย. 2556, 20:06:02 น.
รอตอนต่อไปนะคะเรื่องนี้ปมเยอะมากอ่านแล้วลุ้นตลอด คิดถึงนะคะ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account