รักวุ่นวายของยัยตัวแสบ (Green Rose 1#)
"มารุ" ฉันกับเค้า คงเป็นแค่เส้นขนานที่บังเอิญมาเจอกันอีกครั้งแค่นั้นเอง
"ยูกิ" ผมเคยทำร้ายเทอด้วยวิธีที่เลวที่สุด จนเสียเธอไป แต่ต่อจากนี้ เธอคือคนเดียวที่ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา ต่อให้แลกด้วยความตาย ผมก็ยอม
"คิมหันต์" ความสุขของผมคือเธอ เธอคือคนที่ฉุดผมขึ้นมาจากอดีตที่เลวร้ายเหล่านั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมพร้อมที่จะปกป้องเธอทั้งตัวและหัวใจ
"ยูกิ" ผมเคยทำร้ายเทอด้วยวิธีที่เลวที่สุด จนเสียเธอไป แต่ต่อจากนี้ เธอคือคนเดียวที่ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา ต่อให้แลกด้วยความตาย ผมก็ยอม
"คิมหันต์" ความสุขของผมคือเธอ เธอคือคนที่ฉุดผมขึ้นมาจากอดีตที่เลวร้ายเหล่านั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมพร้อมที่จะปกป้องเธอทั้งตัวและหัวใจ
Tags: Green Rose
ตอน: 2: เขาคือใคร
เสียงเบรกรถกะทันหันดังมาในระยะไม่ไกล ฉันยืนอึ้งกิมกี่หน้าซีดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยัยแอนนี่ก็จะบ้ารึไงนะ แค่กระดาษแผ่นเดียวทำไมต้องถึงกับวิ่งลงไปเก็บกลางถนนโดยที่ไม่ยอมดูรถก่อนแบบนั้นนะ แกไม่ใช่คนเหล็กนะเว้ยเพื่อนนนนน
ยัยแอนนั่งหน้าซีดตกใจอยู่กลางถนน แน่แหละถ้าเป็นฉัน ฉันก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
ปึง! ทุกคนหันไปมองยังต้นเสียง เสียงปิดประตูรถ และเจ้าของรถก็กำลังเดินตรงมาที่ยัยแอน
กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดดด
ยัยพวกนั้นมันจะกรี๊ดกันหาสวรรค์วิมานอะไรกันฟ่ะ คนกำลังเครียด
ฉันรู้สึกอารมณ์เสียกับยัยพวกที่ยืนดูเหตุการณ์จริงๆเลยเว้ยยย
“นี่เทอทำบ้าอะไรฮะ อยากตายรึไง!!!”
นายคนนี้เดินมาถึงก็โวยวายใส่ทันทีเล่นซะพวกฉันเหวอเลยล่ะ
ปึง! ปึง! แล้วเสียงปิดประตูรถก็ดังขึ้นมาอีกสองครั้งติดกัน แต่ฉันกับเพื่อนไม่ได้สนใจอะไรหรอก เพราะตอนนี้พวกฉันรีบเดินไปผยุงยัยแอนให้ยืนขึ้นก่อน
“ขะ...ขอ..โทษค่ะ”ยัยแอนยืนตัวสั่นขาสั่นน้ำตาครอเบ้าแถมยังหน้าซีดอีก โถ่.....เพื่อนฉัน
“พวกเธอนี่ปัญญาอ่อนกันจริงๆนะเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”นายหัวทองพูดพร้อมกับทำท่าหัวเสียสุดๆ
ฉันแทบอยากจะกรี๊ดเหมือนยัยพวกนั้นเมื่อกี้ กรี๊ดออกมาให้หูนายหัวทองหูหนวกไปทั้งสองข้างเลย แหมมม.... มาว่าพวกฉันปัญญาอ่อน ไอ้หน้าหล่อ(หล่อจริงๆ) ถึงหล่อแต่ปากก็เสีย แต่หลังจากนายหัวทองพูดจบยัยปอยก็เข้าไปกระชากคอเสื้อก่อนแล้ว รวดเร็วทันใจจริงๆเพื่อนฉัน บอกแล้วว่าอย่าให้เจ้เราโหด
“ดะ..เดี๋ยวก่อนสิ คนสวยใจเย็นก่อน”
นายหัวทองยกมือขึ้นมาห้ามยัยปอยไว้ แต่สายตากลับเจ้าเล่ห์แถมยังยิ้มที่มุมปากอีก
“ นายว่าใครปัญญาอ่อน”ยัยปอยกระแทกเสียงออกไปด้วยความโมโหแต่มือก็ยังไม่ปล่อยจากคอเสื้อนายหัวทอง
“ก็พวกเธอไง”
เอ๊ะ!!ไม่ใช่เสียงนายหัวทองนี่หน่า ฉันกับเพื่อนหันไปมองยังต้นเสียงให้ตายเถอะ ทำไมพวกนายหล่อกันจังนะ แต่ยังเหลืออีกคนที่ฉันยังเห็นไม่ค่อยชัด นายคนนั้นยืนพิงประตูรถเหมือนไม่ค่อยสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ถ้าไม่ใช่พวกฉัน เธออาจจะตายแล้วก็ได้”นายหน้าหล่อหัวแดงพูดขึ้นขณะกำลังเดินมาทางพวกฉัน
“ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ จะเอาอะไรอีกล่ะ”ยัยอึนเฮพูดออกมาด้วยความเหลืออด “แล้วฉันก็เป็นต้นเหตุทั้งหมดนายไม่ต้องไปว่าเพื่อนฉัน ฉันผิดคนเดียว”
“ฮึ....เธอผิดแค่คนเดียวงั้นเหรอ”นายหัวทองคนแรกยิ้มออกมาที่มุมปากอย่างเ แล้วจ้าเล่ห์ ยังจะมาหัวเราะเบาๆในคอ น่าหมั่นไส้ชะมัดเลย
“กลับเหอะว่ะ เสียเวลา”
ฉันหันขวับไปมองยังต้นเสียงนั้น นั้นมัน...ฉันกับเขาสบตากัน ก่อนที่ต่างคนจะหลบสายตาแล้วหันไปคนละทาง
ตอนนี้ฉันทำอะไรแทบไม่ถูก ส่วนเขาที่เห็นฉันก็ดูเหมือนจะตกใจแต่ก็
ปรับสีหน้าเป็นปกติเหมือนเดิม ฉันใจหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม หวังว่าคนคนนั้นคงไม่ใช่เขา คนที่ฉันไม่อยากเจอเลย นับตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น
“ฉันถือว่าวันนี้ฉันอารมณ์ดีแล้วกันนะสาวน้อย”นายหัวทองพูดขึ้น
“ไปก่อนล่ะคนสวยหวังว่าคงได้เจอกันอีกนะจ๊ะ”นายหัวแดงพูดขึ้นก่อนจะหันหลังเดินกลับไปเปิดประตูรถ
ฉันยังคงยืนนิ่ง รู้สึกสับสนในใจแปลกๆ พอเหลือบขึ้นไปมองยังผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง เขากลับเดินขึ้นรถไปไม่หันมามองฉันแม้แต่หางตาสักนิด แล้วไม่นานรถคันนั้นก็ขับผ่านหน้าฉันไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงกรี๊ดของยัยพวกชะนีทั้งหลายพวกนั้นที่ยังยืนดูเหตุการณ์อยู่
“ไม่ใช่เด็กมหาลัยเรา” ยัยเหมยซานเปิดปากออกมา หลังจากยืนเงียบข้างๆฉันอยู่นานสองนาน
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ ขับออกมาจากประตูข้างๆเนี้ย จะใช่มหาลัยเราได้ไง”ยัยปอยพูดเสริม
“แกหมายความว่า พวกนั้นเรียนอยู่มหาลัยข้างๆเราเนี้ยนะ”
ฉันพูดออกไปอย่างตกใจ ถ้าคนที่ฉันเจอเมื่อกี้คือเขา แล้วฉันจะทำยังไงต่อไป ฉันมองไม่ออกจริงๆ
ยัยแอนนั่งหน้าซีดตกใจอยู่กลางถนน แน่แหละถ้าเป็นฉัน ฉันก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
ปึง! ทุกคนหันไปมองยังต้นเสียง เสียงปิดประตูรถ และเจ้าของรถก็กำลังเดินตรงมาที่ยัยแอน
กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดดด
ยัยพวกนั้นมันจะกรี๊ดกันหาสวรรค์วิมานอะไรกันฟ่ะ คนกำลังเครียด
ฉันรู้สึกอารมณ์เสียกับยัยพวกที่ยืนดูเหตุการณ์จริงๆเลยเว้ยยย
“นี่เทอทำบ้าอะไรฮะ อยากตายรึไง!!!”
นายคนนี้เดินมาถึงก็โวยวายใส่ทันทีเล่นซะพวกฉันเหวอเลยล่ะ
ปึง! ปึง! แล้วเสียงปิดประตูรถก็ดังขึ้นมาอีกสองครั้งติดกัน แต่ฉันกับเพื่อนไม่ได้สนใจอะไรหรอก เพราะตอนนี้พวกฉันรีบเดินไปผยุงยัยแอนให้ยืนขึ้นก่อน
“ขะ...ขอ..โทษค่ะ”ยัยแอนยืนตัวสั่นขาสั่นน้ำตาครอเบ้าแถมยังหน้าซีดอีก โถ่.....เพื่อนฉัน
“พวกเธอนี่ปัญญาอ่อนกันจริงๆนะเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”นายหัวทองพูดพร้อมกับทำท่าหัวเสียสุดๆ
ฉันแทบอยากจะกรี๊ดเหมือนยัยพวกนั้นเมื่อกี้ กรี๊ดออกมาให้หูนายหัวทองหูหนวกไปทั้งสองข้างเลย แหมมม.... มาว่าพวกฉันปัญญาอ่อน ไอ้หน้าหล่อ(หล่อจริงๆ) ถึงหล่อแต่ปากก็เสีย แต่หลังจากนายหัวทองพูดจบยัยปอยก็เข้าไปกระชากคอเสื้อก่อนแล้ว รวดเร็วทันใจจริงๆเพื่อนฉัน บอกแล้วว่าอย่าให้เจ้เราโหด
“ดะ..เดี๋ยวก่อนสิ คนสวยใจเย็นก่อน”
นายหัวทองยกมือขึ้นมาห้ามยัยปอยไว้ แต่สายตากลับเจ้าเล่ห์แถมยังยิ้มที่มุมปากอีก
“ นายว่าใครปัญญาอ่อน”ยัยปอยกระแทกเสียงออกไปด้วยความโมโหแต่มือก็ยังไม่ปล่อยจากคอเสื้อนายหัวทอง
“ก็พวกเธอไง”
เอ๊ะ!!ไม่ใช่เสียงนายหัวทองนี่หน่า ฉันกับเพื่อนหันไปมองยังต้นเสียงให้ตายเถอะ ทำไมพวกนายหล่อกันจังนะ แต่ยังเหลืออีกคนที่ฉันยังเห็นไม่ค่อยชัด นายคนนั้นยืนพิงประตูรถเหมือนไม่ค่อยสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ถ้าไม่ใช่พวกฉัน เธออาจจะตายแล้วก็ได้”นายหน้าหล่อหัวแดงพูดขึ้นขณะกำลังเดินมาทางพวกฉัน
“ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ จะเอาอะไรอีกล่ะ”ยัยอึนเฮพูดออกมาด้วยความเหลืออด “แล้วฉันก็เป็นต้นเหตุทั้งหมดนายไม่ต้องไปว่าเพื่อนฉัน ฉันผิดคนเดียว”
“ฮึ....เธอผิดแค่คนเดียวงั้นเหรอ”นายหัวทองคนแรกยิ้มออกมาที่มุมปากอย่างเ แล้วจ้าเล่ห์ ยังจะมาหัวเราะเบาๆในคอ น่าหมั่นไส้ชะมัดเลย
“กลับเหอะว่ะ เสียเวลา”
ฉันหันขวับไปมองยังต้นเสียงนั้น นั้นมัน...ฉันกับเขาสบตากัน ก่อนที่ต่างคนจะหลบสายตาแล้วหันไปคนละทาง
ตอนนี้ฉันทำอะไรแทบไม่ถูก ส่วนเขาที่เห็นฉันก็ดูเหมือนจะตกใจแต่ก็
ปรับสีหน้าเป็นปกติเหมือนเดิม ฉันใจหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม หวังว่าคนคนนั้นคงไม่ใช่เขา คนที่ฉันไม่อยากเจอเลย นับตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น
“ฉันถือว่าวันนี้ฉันอารมณ์ดีแล้วกันนะสาวน้อย”นายหัวทองพูดขึ้น
“ไปก่อนล่ะคนสวยหวังว่าคงได้เจอกันอีกนะจ๊ะ”นายหัวแดงพูดขึ้นก่อนจะหันหลังเดินกลับไปเปิดประตูรถ
ฉันยังคงยืนนิ่ง รู้สึกสับสนในใจแปลกๆ พอเหลือบขึ้นไปมองยังผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง เขากลับเดินขึ้นรถไปไม่หันมามองฉันแม้แต่หางตาสักนิด แล้วไม่นานรถคันนั้นก็ขับผ่านหน้าฉันไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงกรี๊ดของยัยพวกชะนีทั้งหลายพวกนั้นที่ยังยืนดูเหตุการณ์อยู่
“ไม่ใช่เด็กมหาลัยเรา” ยัยเหมยซานเปิดปากออกมา หลังจากยืนเงียบข้างๆฉันอยู่นานสองนาน
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ ขับออกมาจากประตูข้างๆเนี้ย จะใช่มหาลัยเราได้ไง”ยัยปอยพูดเสริม
“แกหมายความว่า พวกนั้นเรียนอยู่มหาลัยข้างๆเราเนี้ยนะ”
ฉันพูดออกไปอย่างตกใจ ถ้าคนที่ฉันเจอเมื่อกี้คือเขา แล้วฉันจะทำยังไงต่อไป ฉันมองไม่ออกจริงๆ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ค. 2556, 13:53:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 มิ.ย. 2556, 13:26:08 น.
จำนวนการเข้าชม : 975
<< 1: บทนำ | 3: ข่าวดีหรือข่าวร้าย >> |