รักวุ่นวายของยัยตัวแสบ (Green Rose 1#)
"มารุ" ฉันกับเค้า คงเป็นแค่เส้นขนานที่บังเอิญมาเจอกันอีกครั้งแค่นั้นเอง

"ยูกิ" ผมเคยทำร้ายเทอด้วยวิธีที่เลวที่สุด จนเสียเธอไป แต่ต่อจากนี้ เธอคือคนเดียวที่ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา ต่อให้แลกด้วยความตาย ผมก็ยอม

"คิมหันต์" ความสุขของผมคือเธอ เธอคือคนที่ฉุดผมขึ้นมาจากอดีตที่เลวร้ายเหล่านั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมพร้อมที่จะปกป้องเธอทั้งตัวและหัวใจ

Tags: Green Rose

ตอน: 5: หนี

เสียงนั้นกำลังเดินมาจากทางด้านหลังของฉัน เสียงก้าวเท้าของเด็กคนนี้ ทำไมถึงทำให้หัวใจของฉันเต้นได้แรงขนาดนี้นะ แปลกจัง ตอนนี้ฉันกำลังกลัวหรือกำลังตื่นเต้นกันแน่ ได้โปรดเถอะ อย่าทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนที่ฉันคิดเลย

ฉันแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังจะนั่งลงอีกฝั่งของโต๊ะ แต่ เอ๊ะ! ตัวใหญ่ขนาดนี้

O_O!!

“มารุจ๊ะ นี่ยูกิ น้องชายฉันน่ะ”

ให้มันได้อย่างนี้สิชีวิตฉัน ฉันแทบอยากจะแปลงร่างเป็นเก้าอี้ แจกันดอกไม้ หรือไม่ก็ ผ้าปูโต๊ะ ซะตอนนี้เลย คนที่ฉันพยายามหนีเค้ามาเป็นปีๆ แต่ฉันกลับต้องมาเจอเค้าง่ายๆเพียงแค่นี้เองน่ะหรอ

“ยูกิ”

ฉันเผลอพูดชื่อคนตรงหน้าออกไปอย่างไม่รู้ตัว เหมือนทุกอย่างหยุดอยู่กับที่ ฉันได้ยินเพียงเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง มันดังมาก ดังจนเหมือนจะหลุดออกมากองตรงหน้า มือไม้สั่นจนฉันต้องกำและบีบมันไว้แน่น

ฉันมองยูกิ แต่ยูกิเพียงแค่เหลือบตามองฉัน แล้วหันไปมองทางอื่นเหมือนไม่สนใจ หรือ ไม่เคยรู้จักฉันเลย ความเฉยชาของคนตรงหน้า มันทำให้ฉันรู้สึกจี๊ดที่หัวใจ

เจ็บ ! เจ็บยิ่งกว่าเมื่อหนึ่งปีที่แล้วเป็นร้อยเท่า ถ้าเค้าทำเหมือนไม่รู้จักฉัน ฉันก็จะไม่รู้จักเค้าเหมือนกัน

“ยูกิ พี่ต้องเข้าบริษัทด่วนน่ะ เอาเป็นว่าคุยกันไปก่อนเลยนะ มารุจ๊ะ ขอโทษด้วยนะที่พี่ไม่สะดวกจะอยู่คุยด้วย พี่ไปก่อนนะ ไว้วันหลังเจอกันนะจ๊ะ ”

“เอ่อ….. ค่ะ ”

ฉันพยักหน้ารับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่วนคุณริกะ พอพูดจบก็เดินจ้ำๆๆออกไปจากร้าน ไม่รู้ว่าจะรีบอะไรขนาดนั้น เหลือไว้แค่ฉันกับยูกิ และ ความเงียบ

เงียบ
เงียบ
เงียบ

ไม่มีเสียงทักทาย ไม่มีเสียงของผู้ชายตรงหน้า ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มที่เป็นมิตร ทุกอย่างบอกให้ฉันรับรู้ว่า กำลังอึดอัดขึ้นทุกที ฉันทำอะไรไม่ถูก ไม่สิ ฉันไม่รู้จะทำอะไรเลยต่างหาก

“เฮ้อออออ” ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพื่อปลดปล่อยสิ่งที่มันอัดอั้นอยู่ในใจ ความจริงแล้วฉันเองก็มีคำถามอยากจะถามยูกิตั้งเยอะ แต่เจอแบบนี้แล้ว คำถามพวกนั้นก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

ยูกิเหลือบขึ้นมามองฉันนิดหน่อย พอเห็นว่าฉันไม่พูดอะไร เค้าก็ก้มลงดูนิตยสารในมือต่อ ไม่สนใจใยดีฉันเลยแม้แต่น้อย

ในเมื่อฉันรับงานคุณริกะมาแล้ว ฉันจะผิดคำพูดไม่ได้ งานก็คืองาน ฉันต้องทำงานนี้ให้ได้ บางทีเค้าอาจจะไม่ใช้ยูกิ อาจเป็นแค่คนหน้าเหมือนก็ได้เนอะ

ง่า ฉันรู้ว่าฉันกำลังโกหกตัวเองอยู่

“เอ่อ... ฉันชื่อไอชิมารุค่ะ หรือเรียกว่ามารุก็ได้นะ แล้วคุณ…”

“………….”

ยูกิโยนนิตยสารเล่มนั้นลงบนโต๊ะ แล้วนั่งกอดอก จนฉันเองตกใจหัวใจหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มแล้วล่ะ เค้ากำลังจ้องฉันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ไม่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าผู้ชายคนนี้ มีแต่สายตาที่เย็นชาคู่นั้น ที่กำลังมองฉัน มอง เหมือนต้องการจะสื่ออะไรบางอย่างออกมา

“ หึ! ไม่รู้จักสินะ”ยูกิแค่นยิ้มที่มุมปาก สายตาบ่งบอกว่าเค้ารู้ทันฉัน เค้ารู้ว่าฉันแกล้งทำ แกล้งแนะนำตัว เหมือนคนที่เพิ่งรู้จักกัน ทั้งๆที่ฉัน รู้จักเค้าดี

“ฉัน…..”

“ฉันชื่อยูกิ ลองนึกดีๆสิ ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำฉันได้ดีเลยนะ ”

“…………” ฉันไม่ตอบอะไร แต่สายตาคู่นั้นของยูกิทำให้ฉันรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา อยากจะเอาเล็บขวนหน้าให้หมดหล่อเลยเหอะ

“เราต้องทำงานด้วยกัน ร่วมงานกันอีกเยอะ ถ้าไม่อยากโดนไล่ออก เธอควรจะทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง”

“ นายมีสิทธิไล่ฉันออกด้วยหรอ”

“ฉันสามารถไล่เธอออกได้ทุกเวลา”

ยูกิพูดออกมาอย่างไม่รู้สึกอะไร แต่มันก็จริง ยูกิจะมารู้สึกอะไรได้ล่ะ เค้าก็คงเกลียดฉันไม่ต่างจากที่ฉันเองก็เกลียดเค้าเหมือนกัน

“ก็ไล่ฉันออกตอนนี้เลยสิ ฉันก็ไม่ได้อยากจะทำงานกับนายสักเท่าไหร่หรอก”

“……………”

ยูกิไม่ยอมตอบอะไร ฉันจึงตัดสินใจลุกจากเก้าอี้เตรียมจะเดินออกไปจากตรงนี้ ฉันยอมลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งมาเป็นชั่วโมง ฉันรู้สึกว่าฉันคิดผิดจริงๆที่รับงานนี้ ถ้ารู้ว่าจะได้มาเจอกับผู้ชายเลือดเย็นคนนี้อีกครั้ง ฉันคงไม่รับปากคุณริกะตั้งแต่แรกให้เสียคำพูด

“ขอโทษด้วยนะคะ! ที่ทำให้เสียเวลา ฝากขอโทษคุณริกะด้วย”

ฉันหันไปมองหน้ายูกิ เค้าไม่ได้มองฉันอยู่ เค้าไม่ได้สนใจการกระทำของฉันเลยสักนิด ฉันตัดสินใจเดินออกมา แล้วหันหลังให้ผู้ชายเย็นชาคนนี้อย่างสุดจะทน ฉันกับเค้า คงเป็นแค่เส้นขนานที่บังเอิญมาเจอกันอีกครั้ง ในเมื่อเค้าไม่ต้องการ แล้วฉันจะอยู่ให้รกหูรกตาเค้าทำไม

“อยากจะหนีฉันไปจนตายเลยสินะ กลัวเหรอ! ”

ฉันหันกลับไปหายังต้นเสียง ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย นอกจากยูกิ ฉันยอมรับว่าเมื่อก่อนฉันทำทุกทางเพื่อนหนีจากเค้า หนีไปทุกที่ที่ไม่มีเค้า หนีทุกอย่างที่ต้องเกี่ยวข้องกับเค้า แต่ยูกิก็ไม่สิทธิ์มาพูดแบบนี้กับฉัน ในเมื่อเค้าเป็นคนทำให้ฉันต้องหนีเค้าเอง

“ก็….”

“ หึ! เธอมันก็ดีแต่หนีแบบนี้สินะ ”

“นี่นาย!”

“แล้วแต่นะ พรุ่งนี้สี่โมงเย็นที่อิตาเลียนเฮาส์ ถ้าฉันไม่เจอเธอที่นั่น ฉันจะถือว่าเธอไม่รับงานนี้ เรทได้สิบนาที คงรู้นะว่าฉันไม่ชอบรอใคร”

พูดจบ ยูกิลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ส่วนฉัน ยังยืนอยู่ที่เดิม ฉันไม่เข้าใจกับสิ่งที่ยูกิทำ ทั้งๆที่เค้าเองก็แสดงออกว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับฉัน หน้าฉันยูกิยังไม่อยากมอง แล้วเค้าจะนัดฉันพรุ่งนี้ให้เสียเวลาทำไม ยูกิน่าจะดีใจต่างหากที่ฉันเลือกจะเดินออกมาโดยที่เค้าไม่ต้องเสียเวลาไล่ฉันออก

แต่ยูกิก็เป็นแบบนี้เสมอ ชอบใช้คำพูดกดดันฉันยิ่งแรงมากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งไม่ยอม และเพราะเค้ารู้ว่านี่คือจุดอ่อนของฉัน ยูกิจึงใช้มันเล่นงานฉันทุกครั้งที่เค้าต้องการ คำพูดของเค้าดูถูกผู้หญิงคนนี้ และมันก็ได้ผลเสมอ เพราะตอนนี้ ฉันจะไม่หนีเค้าอีกต่อไปแล้ว

“แกเป็นอะไรรึป่าวมารุ เห็นยืนอยู่นานแระ”

ยัยปอยเดินมาสะกิดฉันจากด้านหลัง ความรู้สึกสับสนวุ่นวายในหัว ทำให้ฉันลืมไปว่า ฉันยืนอยู่แบบนี้นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

“ป่าวนิ แล้วพวกแกล่ะ งานโอเคมั้ย มายืนคุยกับฉันเดี๋ยวก็โดนไล่ออกหรอก”

ฉันเลี่ยงที่จะตอบยัยปอยตรงๆ เพราะเพื่อนฉันทุกคนไม่มีคัยรู้เรื่องของฉันกับยูกิ แต่ยัยปอยเอง ยังมองหน้าฉันอย่างสงสัย มันเองคงรู้ว่าฉันโกหก เพราะสำหรับเพื่อน พวกฉันรู้ใจกัน จนมองออกทุกอย่าง แต่มันก็จำเป็นจริงๆ พวกมันไม่ควรรู้เรื่องราวเลวร้าย ของฉันกับยูกิ

“งานก็โอเค เดี๋ยวก็คล่องมากขึ้น ”

“ดีแล้ว”

“สามคนนั้น คือพวกเมื่อวานที่เกือบขับรถชนยัยแอน แกจำได้มั้ย”

“อืม แล้วฉันคงต้องทำงานกับนายนั้น ยูกิคือน้องชายของคุณริกะ”

“แกต้องสอนพิเศษนายนั่นหรอวะ ตลกเป็นบ้า โตขนาดนั้นแล้ว”

“ฉันก็ยังงงๆอยู่อ่ะ ปวดหัวไปหมดแล้วเนี่ย”

“ถ้าแกมีปันหาอะไรบอกฉันเลยนะเว้ยมารุ ฉันจะจัดการมันให้”

“ฮ่าฮ่า จ้า แม่คนเก่ง ปะเหอะ วันนี้ฉันจะช่วยพวกแกทำงานเอง”

ฉันกับยัยปอยเดินกอดคอกันเข้าไปหลังร้าน เพื่อนๆฉันกำลังทำงานกันอย่างสนุกสนาน(มั้ง ฮ่าฮ่า) ถึงมันจะเหนื่อย แต่ก็ยังดีที่มันยังได้ทำงานที่เดียวกัน ไม่เหมือนฉัน อาจจะต้องเหนื่อยทั้งกาย และทั้งใจ เฮ้ออออ ในเมื่อฉันตัดสินใจจะเดินหน้า คนอย่างยัยมารุต้องสู้ให้ถึงที่สุดสิจริงมั้ย

“เยี่ยมไปเลยจ้า เฮ้ย พวกแก วันนี้ยัยมารุจะช่วยพวกเราทำงานเว้ย ทำฟรีด้วย ฮ่าฮ่า”

“ที่ไหนกันเล่า พวกแก่ต้องเลี้ยงขนมฉัน”

“โห้ยยยยยยยยยย”

นี่คือเสียงที่เพื่อนๆต่างเห็นด้วยกับข้อเสนอของฉัน อย่างออกนอกหน้า (ซะที่ไหน)



อีฟู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 พ.ค. 2556, 23:49:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 มิ.ย. 2556, 13:53:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1037





<< 4: เปิดตัวคู่ติว   6:สายตา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account