น้ำผึ้งบ้านไพร # ชุดนางฟ้าจำแลง

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 12.คำถามมีอยู่ว่า

12.

และคำพูดนั้นของคชาพัฒน์ก็ทำให้จวงจันทร์ต้องหันขวับไปมองหน้าอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ และจวงจันทร์เองก็รู้สึกโมโหทิพากรอยู่เหมือนกัน เพราะคำถามที่ทิพากรได้มานั้นตอบได้ง่ายกว่าสามคนแรก ที่ตอบไม่ค่อยจะเข้าร่องเข้ารอยสักเท่าไหร่ แต่ปฏิภาณไหวพริบของทิพากรก็ทำให้ขายหน้าชะมัด

คชาพัฒน์ไหวไหล่ทำหน้าไม่หยี่ระ...และพร้อมจะมีเรื่องหากว่าจวงจันทร์อยากจะให้เรื่องมันบานปลาย

“ไม่แน่หรอก เด็กตัวอาจจะโง่กว่าก็ได้ อย่าเพิ่งตีปีกไป”

“โง่ก็เพราะยังเด็ก แต่นี่ เรียนจบมาจากคอนแวนต์แท้ ๆ แถมยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังเสียด้วย แบบนี้เขาเรียกว่าสวยแต่โง่!!!” คชาพัฒน์ยังตั้งใจยั่วอารมณ์ของจวงจันทร์ คราวนี้พรทิพย์หันมาจะเอาเรื่องคชาพัฒน์ด้วยอีกคน ป้าสมานเห็นดังนั้นจึงต้องปรามหลานชายของตัวเอง

“หยุดเถอะหน่องฟังบนเวที”

แม้จะหยุดพูด แต่คชาพัฒน์ยังปากยื่นปากยาวพร้อมจะมีเรื่อง...จวงจันทร์กับพรทิพย์หันไปบนเวที...นึกภาวนาให้น้ำผึ้งตอบคำถามแบบโง่ ๆ เซ่อ ๆ เช่นเดียวกับทิพากรบ้าง...และถ้าเป็นอย่างนั้น เธอสองคนก็จะหัวเราะให้ฟันหลุดเลยทีเดียว

“คราวนี้ถึงคนสุดท้าย หมายเลขที่ 19 น้องนุชคนสุดท้องของเรา...ตื่นเต้นไหมครับ” พิธีกรชายตัวสูงหน้าตาดีวัยสามสิบกว่า ๆ ดูจะมีความอารีอารอบกับน้ำผึ้งเป็นพิเศษ...

“ตื่นเต้นค่ะ” รับไมค์จากพิธีกรหญิงมาแล้วน้ำผึ้งก็รีบตอบพร้อมกับยิ้มกระจายไปทั่ว

“เลือกซองคำถามเลยครับ” พิธีกรชายยื่นซองที่เหลือทั้งหกซองไปให้น้ำผึ้ง น้ำผึ้งหยิบซองสุดท้ายออกมายื่นให้พิธีกรหญิง

“คำถามมีอยู่ว่า ถ้าท่านเป็นแม่ค้ายืนขายกระท้อนอยู่ข้างทาง ท่านจะมีวิธีการเรียกลูกค้าให้มาซื้อกระท้อนที่ท่านขายอย่างไร”...
คำถามนี้เรียกเสียงหัวเราะให้กับคนฟังที่อยู่ข้างล่าง...กรรมการที่ตั้งคำถามหันไปซุบซิบกับกรรมการอีกท่านหนึ่ง...น้ำผึ้งยกไมค์ขึ้นจ่อปาก...นึกถึงคำพูดของคชาพัฒน์ที่บอกว่า ‘ไอ้ที่บอกว่าขอบคุณสำหรับคำถามอะไรนี่ไม่ต้องหรอกนะ เขาถามมาก็ตอบไปเลย คือมันเชยแล้ว มันน่าเบื่อมาก มันคือการลอกเลียนแบบและมันดูไม่เป็นตัวของตัวเอง’ นั่นคือการบอกกล่าวไว้ในระหว่างที่น้ำผึ้งนั่งรถมาด้วย ซึ่งน้ำผึ้งก็ไม่คิดว่าตนเองนั้นจะได้มายืนตอบคำถามอยู่ตรงนี้...แต่ด้วยน้ำผึ้งเป็นแม่ค้า น้ำผึ้งจึงคิดว่า ควรจะเอาความจริงใจเป็นที่ตั้ง น้ำผึ้งตั้งสติข่มความประหม่าแล้วก็ตอบไปว่า

“ค่ะ เป็นคำถามที่เหมือนจะตอบได้ง่าย แต่ว่าก็ตอบได้ไม่ง่ายเลย ในฐานะที่น้ำผึ้งเป็นแม่ค้าเหมือนกัน” พอเกริ่นไปแบบนี้แล้ว น้ำผึ้งก็รู้สึกว่า เหมือนมีอะไรมาดลใจให้น้ำผึ้งต้องเล่า...เล่าประวัติของตนเองคร่าว ๆ ให้กรรมการและคนที่อยู่ข้างล่างได้รับรู้

“คือน้ำผึ้งขายลูกชิ้นปิ้งตอนหลังเลิกเรียนที่ตลาดบ้านไพรค่ะ น้ำผึ้งช่วยแม่ค้าขายลูกชิ้นปิ้งหาเงินเลี้ยงน้องอีกสองคนเพราะว่าพ่อของน้ำผึ้งเสียไปแล้ว เวลาที่น้ำผึ้งขายของ น้ำผึ้งก็จะคัดแต่ของดี ๆ มีคุณภาพมาขาย น้ำผึ้งมั่นใจว่า ของที่น้ำผึ้งขายให้ลูกค้าไปนั้น ลูกค้ากินแล้วจะต้องอร่อยลิ้น สะอาด ปลอดภัยและจะต้องติดใจกลับมาซื้อไปกินอีก...น้ำผึ้งจะใส่ใจกับของที่น้ำผึ้งขายเป็นอย่างมากค่ะ และถ้าให้น้ำผึ้งขายกระท้อนข้างทาง น้ำผึ้งว่ามันน่าจะขายได้ง่ายกว่าลูกชิ้นปิ้งแน่ ๆ เพราะกระท้อนนั้น เป็นผลไม้ที่คนรู้จักกันดีอยู่แล้วและกระท้อนเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ด้วย เป็นผลไม้ไทย ๆ ซึ่งมีราคาไม่แพง เบื้องต้นผึ้งจะเขียนพันธุ์กระท้อนพร้อมราคาติดไว้ให้ลูกค้าเห็นให้ชัดเจน น้ำผึ้งจะบอกว่า กระท้อนของน้ำผึ้งนั้นเป็นกระท้อนที่รับมาจากปราจีนบุรี อร่อยรสชาติดีราคาสมกับคุณภาพของกระท้อนที่เกษตรกรตั้งใจดูแล น้ำผึ้งอาจจะร้องเรียกลูกค้าระหว่างที่เขาเดินผ่านไปผ่านมาว่า กระท้อนจ้า กระท้อนหวาน ๆ จากปราจีนบุรี อร่อยที่สุดในประเทศไทย รีบมาซื้อไปเลยจ้า กระท้อนจ้า...กระท้อนจากปราจีนบุรี ราคาเป็นกันเองจ้า ไม่ซื้อไม่ว่าเข้ามาคุยกันก่อนได้จ้า...ขอบคุณค่ะ”

เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราวกึกก้องพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของกองเชียร์ที่ทำประหนึ่งว่าคืนนี้น้ำผึ้งได้ตำแหน่งธิดากระท้อนหวานไปเรียบร้อยแล้ว...

น้ำผึ้งคืนไมค์ให้พิธีกรแล้วเดินกลับไปยืนเรียงแถวกับเพื่อนนางงามที่เหลือ...


หลังถอนหายใจออกมาอย่างแรงเพราะลุ้นไปกับคำตอบของน้ำผึ้งแล้ว วิธิตเอี้ยวตัวไปหาวรรณศุกร์...

“ข้าว่าผึ้งได้ว่ะ เซ้นส์มันบอก”

พอรับฟังความรู้สึกของวิธิตแล้ว วรรณศุกร์นั้นยอมรับว่าตรงกับความรู้สึกของตนเอง...และด้วยอยากจะเก็บภาพในค่ำคืนนี้ไปให้น้ำผึ้งวรรณศุกร์จึงบอกว่า

“เดี๋ยวตอนตัดสินข้าขอตัวไปด้านหน้าเวทีดีกว่า ถ่ายรูปจากตรงนี้ ภาพมันไม่ค่อยคมเท่าไหร่...”

“ฮั่นแน่ จะไปให้เห็นกับตาใช่ไหมว่าน้ำผึ้งเขาสวยมาก”

“บ้า เขารุ่นลูกข้าเลยนะ”

“ห้ามจีบนะโว้ย ข้าขอจีบก่อนนะ...”

วรรณศุกร์ตบบ่าวิธิตแล้วก็ลุกขึ้นขอทาง ถือกล้องไปทางด้านหน้าเวทีที่คณะกรรมการกำลังรวบรวมคะแนนกันอยู่ ส่วนบนเวทีนั้นพิธีกรก็พูดถึงของรางวัลที่เหล่าบรรดาสาวงามจะได้ในค่ำคืนนี้ในขณะที่นางงามอีก 20 คนก็ทะยอยกันขึ้นเวทีมาเรียงรอบ ๆ นางงาม 5 คนที่ลุ้นว่าใครจะเป็น ‘ธิดากระท้อนหวาน’ ในค่ำคืนนี้...

ส่วนน้ำผึ้งที่ยืนชิดอยู่ทิพากรนั้นก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าวรรณศุกร์ลุกจากที่นั่งมายืนรวมอยู่กับช่างภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นที่อยู่ด้านหน้าเวที...แสงแฟลชสว่างไสวตากล้องวีดีโอบันทึกเทปโทรทัศน์ก็ทำหน้าอยู่ตลอดเวลา วรรณศุกร์โบกมือให้น้ำผึ้งพร้อมกับยิ้มกว้างหลังจากนั้นเขาก็ชูนิ้วหัวแม่โป้งชมเชย น้ำผึ้งยิ้มให้เขา...เป็นยิ้มที่น้ำผึ้งยิ้มเต็มปากเต็มความรู้สึกเบิกบานที่เกิดขึ้น ความประหม่านั้นหายไปจนเกลี้ยงจากความรู้สึก เพราะยืนอยู่ตรงนี้ บนเวทีแห่งนี้หรืออยู่กลางสนามวอลเลย์บอลก็ไม่มีอะไรต่างกัน

“แฟนเธอเหรอ” ทิพากรถามเบา ๆ

“เปล่า”

“หล่อนะ”

“เขามีแฟนแล้ว เป็นแอร์...” น้ำผึ้งตอบไปเบา ๆ แล้วก็ยิ้มให้กับเลนส์กล้องของวรรณศุกร์ที่จงใจมาถ่ายที่ใบหน้าของตนเอง...และพอกดชัตเตอร์ไปแล้ววรรณศุกร์ก็รีเพลย์ดูรูปก่อนจะบอกกับน้ำผึ้งเป็นภาษาใบ้ว่าให้มองกล้องและยิ้มกว้างกว่านี้...น้ำผึ้งปฏิบัติตามด้วยความสดใส ด้วยใจที่รู้สึกชื่นฉ่ำ และน้ำผึ้งก็คิดว่า ค่ำคืนนี้หากว่าเธอไม่ได้ตำแหน่งที่หนึ่ง อย่างน้อย เธอก็ได้รู้ ได้เห็น และมีประสบการณ์อันยิ่งใหญ่แล้ว
และถ้าหากว่าคชาพัฒน์จะดันเธอขึ้นเวทีใดเวทีหนึ่งอีก น้ำผึ้งก็จะขอแม่ไปอย่างไม่อิดออดเพราะว่า หลังเวทีนั้นนอกจากทุกคนจะเป็นคู่แข่งกันแล้ว ทุก ๆ คนที่มาในวันนี้ก็พร้อมที่จะเป็นเพื่อนกันด้วย.....

และสาวงามเบอร์ 20 ที่นั่งอยู่ติดกันนั้น น้ำผึ้งก็รู้ว่าเธอเป็นนางงามเดินสาย ที่เดินสายไปประกวดเกือบจะทั่วประเทศ เพราะว่าพ่อแม่นั้นสนับสนุนและอยากพากันไปท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ แบบมีอะไรให้ลุ้นด้วย...นับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดอีกเช่นกัน

“แล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ในขณะนี้ผลรางวัลต่าง ๆ ไปจนถึงรางวัลธิดากระท้อนหวานอยู่ในมือผมกับคุณเอ๋แล้วนะครับ”

“เอ๋ขอเริ่มจากรางวัลแรกเลยดีกว่าค่ะ เป็นรางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน”

รางวัลปลอบใจนี้ตกเป็นของหมายเลข 2 นางงามที่ไม่ได้เข้ารอบห้าคน.....

นางงามผิวสวยเป็นของหมายเลข 15
นางงามผมสวยเป็นของหมายเลข 7

นางงามขวัญใจชาวปราจีนบุรี เป็นของหมายเลข 8 ซึ่งเป็นคนในพื้นที่และพ่อของเธอนั้นเป็นข้าราชการระดับสูงในท้องถิ่น...หมายเลข 8 จึงกลายเป็นตัวเก็งขึ้นมาในทันที...แต่ว่าหมายเลข 8 นั้นก็ตอบคำถามได้ไม่ตรงประเด็นสักเท่าไหร่ นอกจากนั้นส่วนสูงก็ตามมาตรฐานหญิงไทยคือประมาณร้อยหกสิบเซ็นติเมตรไม่ได้สูงสง่าแบบน้ำผึ้ง...ม้จะหวั่นใจว่าน้ำผึ้งเจอตอแต่คชาพัฒน์ก็พยายามคิดบวกกับน้ำผึ้งให้มากที่สุด

“เอาแล้วค่ะ ถึงนาทีลุ้นระทึกแล้วว่าในค่ำคืนนี้ใครจะได้เป็นธิดากระท้อนหวานปราจีนบุรี ขอเริ่มที่ตำแหน่งรองอันดับสี่...เลยแล้วกัน”...
สิ้นเสียงพิธีกรหญิงที่บอกว่าเป็นของหมายเลข 18 นางสาวทิพากร พรรัตนาโอภาส คชาพัฒน์ก็ลุกร้อง “เย้” ดีอกดีใจอย่างออกนอกหน้าก่อนจะก้มหน้าไปที่ใบหูของจวงจันทร์ว่า...

“จ่ายมาเลย 2000 บาท” เพราะเป็นผลสรุปแน่แล้วว่า อย่างไรแล้วน้ำผึ้งก็ได้รางวัลสูงกว่า...จวงจันทร์ ถลึงตาให้

“จะรีบทวงไปไหนฉันไม่หนีไปไหนหรอกน่า”

“จ่ายมาเหอะ...อย่างไรก็ต้องจ่าย”

“เขี้ยว” จวงจันทร์ว่าให้ก่อนจะหยิบเงินจากกระเป๋าถือส่งไปให้คชาพัฒน์ด้วยอาการคั่งแค้นใจ...คชาพัฒน์รับเงินมาจูบก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋า...แล้วนั่งฟังพิธีกรประกาศผลรางวัลต่อ...

รางวัลรองอันดับ 3 เป็นของนางามหมายเลข 21 ซึ่งสาวงามคนนี้เป็นคนทางปักษ์ใต้แต่ว่าเดินสาย
ประกวดล่ารางวัลเช่นกัน

...ดังนั้นจึงเหลือนางงามอีกสามคนยืนอยู่บนเวที หนึ่งในนั้นคือน้ำผึ้ง ที่ยืนขนาบข้างซ้าย นางงามหมายเลข 8 โดยนางงามหมายเลข 12 นั้นยืนขนาบข้างขวา...

“เหลือสามคนสุดท้ายแล้วนะคะ...ลุ้นกันไหมคะ”

“ลุ้นครับ” ภานุวัฒน์ตะโกนขึ้นไปด้วยทีท่าลิงโลดใจ เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องไปด้วย...แต่ถ้าหมายเลขถัดไปจะเป็นน้ำผึ้ง เขาก็รู้สึกว่า น้ำผึ้งประสบความสำเร็จกับครั้งแรกบนเวทีนางงามนี้แล้ว...กลับไปบ้านไพรก็ไม่ขายหน้าใครเขาแล้ว...

“ผึ้งต้องได้ ผึ้งต้องได้” เพื่อนหญิงของน้ำผึ้งที่มากับนงลักษณ์พึมพำเบา ๆ...

“ถ้าผึ้งได้ที่หนึ่งนะ เราจะถวายไข่ต้ม 100 ฟอง ให้กับหลวงพ่อหิน” นงลักษณ์พูดสมทบเพราะอยากให้น้ำผึ้งได้ตำแหน่งสำคัญในค่ำคืนนี้...
ฝ่ายประทินที่เคยไปลุ้นน้องสาวกับพ่อและแม่อยู่ข้างเวทีอยู่เป็นประจำนั้นนั่งสงบนิ่ง...เช่นเดียวกับ นัยนิตที่เป็นคนเก็บความรู้สึกได้เก่งอยู่แล้ว ส่วนป้าสมานกับสำลีนั้นเมื่อมานั่งอยู่ข้าง ๆ กันต่าง พึมพำขอร้อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือนั้นให้ช่วยน้ำผึ้งด้วยเถอะ...

ป้าสมานนั้นอยากให้น้ำผึ้งได้รางวัลที่หนึ่ง เพราะชีวิตน้ำผึ้งจะต้องเปลี่ยนไปทางใดทางหนึ่งแน่ ๆ อย่างน้อยกลับไปบ้านไพรในคืนนี้ วันพรุ่งนี้น้ำผึ้งก็จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนางงาม...ไม่มีใครมาล้อเอาได้...

ส่วนสำลีนั้น อยากให้น้ำผึ้งได้เงินรางวัลไปทำให้ชีวิตครอบครัวนั้นดีขึ้น...

และน้ำผึ้งเองนั้นบัดนี้ตื่นเต้นจนใจสั่นระรัวขาสั่นมือสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่ เพราะเป็นครั้งแรกที่ต้องมายืนในจุดที่ไม่เคยคิดฝันไว้...แม้มันจะเป็นเพียงเวทีเล็ก ๆ แต่ว่าน้ำผึ้งก็รู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่ รู้สึกว่า ตัวเองนั้นยืนอยู่สูงบนหอคอยโดยมีเหล่าประชาชนมองเห็นทั้ง 360 องศา สายลมเย็นพัดมาปะทะผิวกายอย่างแรง และแรงความแรงก็เพิ่มยิ่งขึ้นเมื่อพิธีกรประกาศว่า...

“สำหรับรองอันดับสองได้แก่หมายเลข 12 นางสาวอัญชิสา หาญภักดี”...

เมื่ออัญชิสาผละจากไปรับรางวัลซึ่งเป็นสายสะพาย ช่อดอกไม้และซองเงินรางวัลจากคณะกรรมการ บนเวทีจึงเหลือน้ำผึ้ง กัญชพร ไพรวัลย์ กับตัวเก็งหมายเลข 8 นางสาวสุวรรณา ศรีภูมิ ซึ่งเพิ่งได้รางวัลขวัญใจชาวปราจีนบุรีมา น้ำผึ้งนั้นไม่รู้หรอกว่า หมายเลข 8 นั้นเป็นใครมาจากไหน แต่ว่าเมื่อประกาศว่า หมายเลข 12 ได้รองอันดับสอง ก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดที่ดังแรงขึ้นกว่าปกติ เพราะเป็นเสียงกรี๊ดจากประชาชนในวงกว้างที่เชียร์หมายเลข 8...

และน้ำผึ้งก็รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย เพราะ อย่างไรแล้วคืนนี้เธอก็จะไม่ได้กลับบ้านไปมือเปล่า ถ้าได้รองอันดับสอง เธอก็ได้เงินรางวัล ถึง 10,000 บาท ซึ่งจะต้องหารครึ่งกับคชาพัฒน์ รวมกับค่าตัวที่คชาพัฒน์ให้เธอมาก่อนหน้านั้นแล้ว 5,000 บาท อย่างไรแล้ววันนี้เธอก็หาเงินเข้าบ้านได้ 10,000 บาทแล้วพร้อมสายสะพายได้ถ้วยรางวัลติดมือกลับบ้านไปด้วย...นอกจากนั้นเมื่อโรงเรียนเปิดเรียนเธอก็จะไม่อายเพื่อน ๆ บางคนที่ได้สบประมาทเธอไว้...

น้ำผึ้งรู้สึกหายใจโล่งขึ้น มองเลนส์กล้องที่วรรณศุกร์เล็งมาอย่างมีความสุขขึ้น...ส่วนนางงามหมายเลข 8 นั้น ด้วยกลายเป็นตัวเก็ง...จึงเริ่มสั่น เริ่มคาดหวัง เริ่มคิดกิริยาท่าทางเมื่อสิ้นเสียงพิธีกร...

“และรางวัลที่ทุกคนรอคอยในค่ำคืนนี้ก็มาถึงแล้วค่ะ ผู้ที่เราประกาศชื่อออกมาในค่ำคืนนี้ในลำดับถัดไป เธอจะเป็นธิดากระท้อนหวาน จะได้เงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมมงกุฏ สายสะพายและถ้วยรางวัล”

“ตอนนี้ผลคะแนนจากคณะกรรมการอยู่ในมือผมแล้วนะครับ...”

น้ำผึ้งนั้นบีบมือของสุวรรณา ที่สั่นเป็นลูกนกตกน้ำทีเดียว...

“ทำใจดีไว้” น้ำผึ้งกระซิบเบา ๆ...

“และธิดากระท้อนหวานในค่ำคืนนี้เป็นของเจ้าของหมายเลข”

ช่วงเวลานั้น วรรณศุกร์เองก็แทบจะหยุดหายใจเช่นกัน วิธิตถึงกับลุกขึ้นยืนลุ้นไปกับน้ำผึ้ง ส่วน คชาพัฒน์ที่พนมมือสวมมนต์ภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยอยู่ในใจ...

“หมายเลข 19 นางสาวกัญชพร ไพรวัลย์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนบ้านไพรวิทยา แม่ค้าขายลูกชิ้นปิ้งของเรา...ขอแสดงความยินดีด้วยครับ”...

พอสิ้นเสียงพิธีกรชายนางงามหมายเลข 8 ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจ...น้ำผึ้งเองแม้จะดีใจแต่ก็รู้ว่าคนที่เสียใจเพราะพลาดตำแหน่งสำคัญนั้นจะรู้สึกเช่นไร น้ำผึ้งโผไปสวมกอดสุวรรณาไว้หลวม ๆ...

“ดีใจกับเธอด้วย”...สุวรรณาพยายามระงับสติอารมณ์พลางกลั้นน้ำตาก่อนจะพูดกับน้ำผึ้งด้วยเสียงสั่นเครือ...

“ขอบคุณมาก...” น้ำผึ้งบอกสุวรรณาสั้น ๆ

หลังจากนั้นพิธีกรบนเวทีได้เชิญประธานจัดงานในครั้งนี้ขึ้นมาสวมมงกุฎ สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศและเงินรางวัล ให้กับธิดากระท้อนหวานคนล่าสุด.....



“พี่หน่อง” น้ำผึ้งที่เดินออกมาจากด้านหลังเวทีโผเข้ากอดคชาพัฒน์ในทันที...เจ๊ไก่แจ้ถือถ้วยรางวัลและช่อดอกไม้ตามหลังน้ำผึ้งมายิ้มแย้มให้กับคชาพัฒน์ที่สามารถปั้นน้ำผึ้งมาล่ารางวัลที่เวทีธิดากระท้อนหวานได้เป็นผลสำเร็จ และบรรดากองเชียร์ที่เดินตามหลังคชาพัฒน์มานั้นก็ต่างส่งเสียงแสดงความยินดีกับน้ำผึ้งทุกคน สำลีกับนัยนิตช่วยกับรับช่อดอกไม้กับถ้วยรางวัลมาจากเจ๊ไก่แจ้ วรรณศุกร์นั้นรีบเก็บภาพประทับใจนั้นไว้ในเมมโมรี่...และเมื่อได้โอกาสเขาก็บอกกับน้ำผึ้งว่า

“ดีใจด้วยนะน้ำผึ้ง”

“ขอบคุณคุณศุกร์ค่ะ”

“รู้ไหมว่าพีบนวิ่งรอบหลวงพ่อมณฑปหลวงพ่อหินตั้งร้อยแนะ” วิธิตแทรกเข้ามาเอาหน้า

“เราก็บนไข่ต้มร้อยใบกับหลวงพ่อหิน...ดีใจกับผึ้งจริง ๆ เลย” นงลักษณ์เข้ามาลูบหน้าลูบหลังน้ำผึ้งที่มีมงกุฏอยู่บนศีรษะโดยหาได้รู้สักนิดว่าในกาลต่อมานั้นตนเองนั้นต้องขึ้นเวทีแข่งกันกับน้ำผึ้งเช่นกัน!...

“ไหน ๆ ก็มารวมตัวกันแล้วถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกหน่อยแล้วกันเนอะ...” คชาพัฒน์ได้ทีรีบบอกเสียงดัง เพราะอยากให้ทุกคนที่มาเชียร์น้ำผึ้งนั้นรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ...แต่จริง ๆ แล้ว คชาพัฒน์ก็อยากให้ วรรณศุกร์นั้นอยู่ในเฟรมภาพด้วยแต่ว่ามันคงเป็นเรื่องยากที่วรรณศุกร์จะยอมส่งกล้องราคาแพงของตนให้คนอื่น...

หลังจากได้รูปหมู่เป็นที่พอใจแล้วคชาพัฒน์จึงบอกว่า...

“คุณธิตไปกดชัตเตอร์ให้คุณศุกร์ถ่ายกับน้ำผึ้งเก็บไว้เป็นที่ระลึกบ้างซิ...” คชาพัฒน์นั้นค่อนข้างจะไม่ค่อยรู้เรื่องกล้องเรื่องคอมพิวเตอร์สักเท่าใดนัก...

วิธิตเองด้วยอยากให้เพื่อนได้ถ่ายรูป จึงรีบเดินไปหาวรรณศุกร์ และเมื่อวรรณศุกร์เห็นถึงความปรารถนาดีของคชาพัฒน์กับอยากแสดงความยินดีกับน้ำผึ้ง เขาจึงส่งกล้องให้วิธิตก่อนจะเดินมาหาหมู่คณะที่มีน้ำผึ้งอยู่ตรงกลาง...
วรรณศุกร์จะเดินไปทางด้านริมสุด แต่คชาพัฒน์เรียกไว้...

“คุณศุกร์เป็นสปอนเซอร์หลักต้องมายืนตรงนี้ฮะ”...คชาพัฒน์นั้นปากไว วรรณศุกร์จึงรีบสับเท้าเปลี่ยนทิศทาง และรูปใบที่มีเขายืนอยู่ข้าง ๆ นี้ น้ำผึ้งก็อัดภาพเคลือบพลาสติกแข็งเก็บไว้เป็นแรงผลักดันชีวิตให้สูงกว่าที่เป็นอยู่...



แม้จะเป็นเวทีเล็ก ๆ แต่ว่าคนในบ้านไพรที่รู้จักน้ำผึ้งนั้นมีไม่น้อย ดังนั้น ร้านขายลูกชิ้นปิ้งของน้ำผึ้งในวันถัดมาจึงมีพี่ป้าน้าอา พ่อค้าแม่ค้า ในตลาดรวมถึงลูกค้าเจ้าประจำเดินมาร่วมแสดงความยินดีกับน้ำผึ้งที่ไปคว้ารางวัลธิดากระท้อนหวานมาได้...

“อัดรูปมาให้ป้าดูหน่อยนะ อยากเห็นว่าแต่งองค์ทรงเครื่องแล้วสวยเพียงใด...” ป้าเจ้าของผักพื้นบ้านใส่กระด้งตั้งบนกระจาดขายเฉพาะตอนเย็นบอกไว้ตั้งแต่ตอนที่น้ำผึ้งเข็นรถขายลูกชิ้นไปรอลูกค้า...

ตอนค่ำ ๆ คชาพัฒน์จึงถืออัลบั้มรูปที่ได้ไปอัดไว้มาให้น้ำผึ้งที่รถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง...ป้าคนเดิมมารีบลุกมาขอดู...

“สวยมากเลยหน่อง...แบบนี้ดันขึ้นเวทีระดับประเทศไปเลยนะ”

“เวทีไหนดีล่ะป้า” คชาพัฒน์นั้นถามเอาสนุกไปอย่างนั้น ทั้งที่ในใจเขาก็มีโครงการใหญ่อยู่แล้ว

“ยอดพธูไทยไปเลยไหมใหญ่ที่สุดในประเทศหรือเปล่าหว่า” ป้าที่ขายผลไม้บอก

“ก็น้อง ๆ เวทีนางสาวไทยแหละ...” คชาพัฒน์รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่เขาก็ต้องขยับขยายลู่ทางเสียแล้ว ส่งนางงามเดินสายในเวทีภูธรนั้นถ้าโชคเข้าข้างประสบความสำเร็จก็ได้เงินมาเพียงน้อยนิด ได้ชื่อเสียงมาอีกหน่อย แต่ถ้าส่งนางงามขึ้นเวทีระดับประเทศ หากโชควาสนาเสริมส่ง
...ชื่อหนิงหน่อง คชาพัฒน์ คนนี้ก็จะพลอยดังไปทั่วประเทศด้วยเช่นกัน...


“ตกลงเด็กที่หน่องส่งไปได้ตำแหน่งอะไรไหมคะ” ในขณะที่กำลังรออาหารมาเสิร์ฟภัทรินก็เอ่ยถามวรรณศุกร์เพราะหญิงสาวรู้ว่าคืนวันเสาร์นั้นเขาไปดูประกวดนางงามกับวิธิต...และเขาก็อ้างกับเธอว่าเด็กคนนั้นคือญาติของวิธิต ที่รู้จักมักจี่กับป้าสมาน ส่งประกวดโดยคชาพัฒน์และมีเขาเป็นสปอนเซอร์เพราะว่าแม่ของเขานั้นอยากให้สนับสนุนคชาพัฒน์ แม้ว่าการเป็นสปอนเซอร์นางงามนี้จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์กับร้านของเขาสักเท่าไหร่

“ได้ครับ ได้ตำแหน่งธิดากระท้อนหวาน” วรรณศุกร์พยายามปรับน้ำเสียงให้ดูเป็นเรื่องปกติ...เพราะถ้ามีสีหน้าแสดงความชื่นชมยินดี มีหวังได้ต้องง้องอนภัทรินทั้งคืนแน่ ๆ

“คงจะสวยมาก”

“ก็เด็กในตลาด ยังเรียนอยู่ชั้น ม.หกอยู่เลย ภัทก็เคยเห็นเขานะ เขาเคยไปที่บ้าน เคยเอาผ้าไปส่ง เมื่อปีก่อน ตอนที่ผมทักเขาในงานลอยกระทงไง แม่ค้าขายลูกชิ้นน่ะ จำได้ไหม”

ภัทรินพยายามทวนความทรงจำแต่ว่าก็นึกไม่ออก

“ภัทนึกไม่ออกหรอก...” เมื่อนึกไม่ออกก็แสดงว่าเด็กคนนั้นไม่ได้มีความสวยโดดเด่นแต่อย่างใด เพราะถ้ามีผู้หญิงสวย ๆ คนไหนเข้ามาใกล้วรรณศุกร์เธอจะต้องจัดจำได้อย่างแม่นยำและตอกย้ำให้เขารู้ว่าเธอไม่ไว้วางใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น...ส่วนเด็กคนนั้นถ้าตอนที่เห็นคราวนั้นเธอรู้สึกว่าไม่สวย...แต่ว่าจะไปคว้าตำแหน่งธิดากระท้อนหวานมาได้อย่างไร...

“เขาไม่ใช่คนสวยหรอกภัท แต่เขาได้ส่วนสูง แล้วก็ตอบคำถามดี แล้วคู่แข่งบนเวทีธรรมดา ๆ พอ ๆ กันมั้ง ก็เลยได้ตำแหน่งมา”

“ชักอยากเห็นตัวจริงซะแล้ว คนแรกหรือเปล่าที่หน่องพาไปคว้าตำแหน่งมาได้”

“ไม่นะ เขาพาไปคว้ารางวัลมาหลายคนแล้ว”

“ศุกร์ได้ถ่ายรูปไว้หรือเปล่า”

“ถ่าย แต่อยู่ในกล้องตัวใหญ่ ลงไว้ในคอมพิวเตอร์แล้วครับ”

“กลับไปอย่าลืมเปิดให้ภัทดูนะคะ”

“ได้ซิ...”

ภัทรินสบตาของเขา ส่งสายตาเป็นประกายแห่งความสุขให้เขารับรู้ว่า เธอนั้นพึงใจกับเรื่องที่เขาไม่มีลับลมคมในกับเธอ วรรณศุกร์นั้นพร้อมจะให้ภัทรินคว้าโทรศัพท์มือถือมาเช็คดูเบอร์ว่าในเครื่องของเขามีใครบ้าง และถ้าอยู่ด้วยกันวรรณศุกร์จะต้องรับโทรศัพท์ต่อหน้า ห้ามลุกออกไปคุยเพียงลำพัง และเขาก็ทำอย่างนั้นตลอดมา

“ทำไมมองผมอย่างนี้ละภัท”

“ศุกร์น่ารักที่สุดเลย”

“ผมไม่มีอะไรต้องปิดบังภัทหรอกน่า...ใจผมมีภัทคนเดียว ภัทเถอะ เจอะเจอคนมากมาย มีใครทำให้ภัทหวั่นไหวบ้างหรือเปล่า”

“ก็มีบ้างค่ะ”

วรรณศุกร์แสร้งทำหน้างอ...

“แต่ภัทมีเจ้าชายอยู่แล้ว ภัทจะไปสนใจใครทำไมอีก...”

“จริง ๆ นะภัท”

“ศุกร์นั่นแหละดูแลรักษาตัวให้ดีด้วย อย่าให้วิธิตเขาลากไปไหนมาไหนด้วยบ่อย ๆ ภัทไม่ค่อยไว้ใจเพื่อนศุกร์คนนี้หรอก กลัวจะพากันออกนอกลู่นอกทาง”

“ถ้าไม่มีมัน ผมก็ไม่มีใครเลยเหมือนกัน แต่ผมก็สัญญากับภัทแล้วนี่ว่าผมจะไม่มองใครหรอก...เชื่อใจผมเถอะครับ”

“ผู้ชายไว้ใจไม่ได้หรอกค่ะ...ต้องหมั่นคอยตรวจเช็คระแวดระวัง”

“มันก็จะทำให้ภัททุกข์ใจเสียเปล่า ๆ นะครับ”

“ก็ภัทรักของภัทรักมาก ก็ต้องหวงมากเป็นธรรมดา”

“ผมก็รู้ครับ...”

“แล้วเมื่อไหร่ เราจะได้แต่งงานกันซะที...คุณพ่อคุณแม่ถามภัทหลายครั้งแล้ว ภัทก็บ่ายเบี่ยงไปว่าภัทยังอยากทำงาน ยังไม่พร้อมมีครอบครัว” พ่อของภัทรินนั้นเป็นนายทหารสัญญาบัตรใกล้จะเกษียณอายุราชการ แม่เป็นอดีตแอร์โฮสเตสของสายการบินแห่งชาติ แต่ปัจจุบันลงมาทำงานภาคพื้น ภัทรินมีพี่ชายเป็นนายทหารอากาศแต่งงานไปกับนางพยาบาลย้ายออกไปสร้างครอบครัวด้วยกัน และพี่สาวแต่งงานกับเจ้าหน้าที่สถานทูตชาวสวีเดนปัจจุบันทั้งคู่พำนักอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ที่บ้านหลังใหญ่จึงมีภัทรินเป็นลูกที่พ่อแม่ยังเป็นห่วงอยู่คนเดียว

วรรณศุกร์ถอนหายใจเบา ๆ เพราะปัญหาระหว่างเขากับภัทรินนั้น เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่ว่าเป็นเรื่องยุ่งยากใจเป็นอย่างมาก แม่ของเขาต้องการให้เขาอยู่ที่บ้านไพรตลอดไป แต่ว่าภัทรินนั้นรักในอาชีพที่ทำอยู่และไม่คิดจะจากกรุงเทพ ไปอยู่ที่ไหนเสียด้วย ภัทรินชอบเดินทาง ชอบความศิวิไลซ์ เขาก็ชอบ แต่ว่าทางเลือกของเขามีอยู่ทางเดียว เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียว ถ้าทิ้งแม่ไปตามที่ใจปรารถนาก็จะได้เรียกว่าเป็นลูกอกตัญญูเอาได้

“อาหารมาพอดีเลยกินข้าวกันก่อนดีกว่า” เมื่อตอบไม่ได้ วรรณศุกร์จึงต้องเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อความสุขระหว่างที่ได้อยู่ด้วยกัน
และเมื่อพนักงานเสิร์ฟถือถาดเปล่าเดินจากไป ภัทรินก็ลอบระบายลมหายใจออกมา ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่นั้นบึ้งตึงเพราะความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ...

“ขอเวลาผมอีกสักพักนะภัท อย่างไรเราได้แต่งงานกันแน่ ๆ”

“นานแค่ไหนคะ ศุกร์อย่าลืมนะคะว่าภัทไม่ใช่สาวพรหมจรรย์อีกแล้ว ภัท...” น้ำตาปริ่มขอบตาของภัทรินขึ้นมา...

“ไม่เอาน่าอย่าคิดมาก กินข้าว นี่นะต้มยำปลาคังของชอบของภัทผมตักมาให้แล้ว กินหน่อยนะ ขืนชักช้าผมกินหมดนะ”
เมื่อถูกเขาเอาใจด้วยน้ำเสียงอารีภัทรินก็ยิ้มออกมาได้ทั้งที่น้ำตายังคลอหน่วยตา...



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 มิ.ย. 2556, 08:18:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 มิ.ย. 2556, 08:18:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1902





<< 11..“เห็นไหมว่า สวยแต่โง่มันมีอยู่จริง ๆ”   13.เขามีคนรักอยู่แล้ว...แล้วความรักที่เธอมีให้เขาล่ะ >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 24 มิ.ย. 2556, 08:19:31 น.
ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ...กรี๊ดดดดดดดดดดดด.........กด like เบา ๆ ให้ผึ้งด้วยนะคะ


เดิมเดิม 24 มิ.ย. 2556, 08:52:25 น.
ลุ้นไปกับน้ำผึ้งจริงๆ


mottanoy 24 มิ.ย. 2556, 08:59:19 น.
ว้ายยยย คนแต่งใจป้ำ ให้ที่หนึ่งเลยเหรอค้าาาา


nunoi 24 มิ.ย. 2556, 10:25:35 น.
เริ่ดดด มากค่ะ น้ำผึ้ง


คิมหันตุ์ 24 มิ.ย. 2556, 12:14:42 น.
ฮึ่ย..!! คุณศุกร์กับคุณภัทร จะยังไงดีน้อ???


Zephyr 24 มิ.ย. 2556, 22:45:24 น.
กรี๊ดดดดดดด น้ำผึ้ง
ตกลงภัทรินนี่ ยังไงกันนะ


nateetip 25 มิ.ย. 2556, 09:38:27 น.
เขียนได้ความรู้สึกมากค่ะ. ลุ้นตาม แบบไม่ยอมเลื่อนลงมาอ่านก่อนเลย สนุกดีค่ะ..^.^/


loveleklek 25 มิ.ย. 2556, 20:37:10 น.
น้ำผึ้งสู้ๆ


จุฬามณีเฟื่องนคร 1 ส.ค. 2556, 02:27:59 น.
stop!


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account