Delusion เหลี่ยมรัก เล่ห์ลวง
(เรื่องต่อจาก Asylum หรือ ในกรงเพลิง สนพ.อินเลิฟ)


วุฒิสมาชิกแคเทรียน เนลีคาห์น แห่ง ดาวเคราะห์บาโรว์ ถูกลักพาตัวระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่่าตนเองกลายเป็นหนึ่งในหญิงสาวที่กลายเป็นสินค้าของ เอธาน เฌอราส หนึ่งในผู้มีอิทธิพลของกลุ่มเครส และได้ทราบว่าเขาจะขายเธอให้แก่ผู้ที่ให้ราคาดีที่สุด!

Tags: ต่างดาว, เซเฟรัส, คีเรี่ยน, ยูรัส, แคเทรียน

ตอน: ตอนที่ 2

นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางทอดมองเครื่องดื่มสีน้ำตาลทองใสแจ๋วในถ้วยกระเบื้องเคลือบสีขาวเนื้อบางประดับลายดอกไม้เหลืองชมพูอ่อนช้อยเช่นเดียวกับจานรองไม่กะพริบตาราวกับจะวิเคราะห์ส่วนประกอบทั้งหมดออกมาให้ได้ แม้สายลมหนาวเย็นจะแทรกผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่แง้มไว้เพียงเล็กน้อยพัดเส้นผมสีทองคำขาวยาวเคียงสะโพกให้พลิ้วไหว ร่างอรชรที่สวมชุดกระโปรงยาวครึ่งน่องสีเขียวสดใสกลับไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นของอากาศต้นฤดูหนาวแม้แต่น้อย

ความงดงามละเอียดอ่อนน่าเอ็นดูของชุดน้ำชาที่ตั้งรออยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าหรือการตกแต่งอันแสนอบอุ่นชวนให้ผ่อนคลายด้วยสีขาวครีมสบายตาของห้องนั่งเล่นไม่สามารถดึงความสนใจของวุฒิสมาชิกสาวไว้ได้ เพราะความทรงจำใหม่เอี่ยมชวนสับสนซึ่งมีอายุเพียงข้ามคืนกำลังหวนกลับมาโลดแล่นอยู่ในสมองไม่หยุด

‘ผมนึกว่าคุณจะมาเร็วกว่านี้เสียอีก ปอร์เชีย’

นามเรียกขานที่หลุดจากปากของชายหนุ่มสร้างความประหลาดใจให้หญิงสาวได้ดียิ่งกว่าตอนเห็นหน้าเขาเมื่อวินาทีก่อน รู้ดีว่าชื่ออันคุ้นหูนั้นมาจากตัวละครหญิงในวรรณกรรมคลาสสิคของดาวโลกซึ่งหยิบมาอ่านอยู่บ่อยครั้งจากชั้นหนังสือในห้องสมุดที่บ้าน แต่การเดินมาหยุดยืนข้างเตียงของอีกฝ่ายกลับสร้างความหวาดระแวงจนไม่นึกใส่ใจว่าเหตุใดยูรัสจึงเรียกเธอด้วยชื่อที่เขาไม่น่าจะเคยได้ยินนี้

เป็นไปได้ว่าชื่อเรียกขานอันพ้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างน่าประหลาดอาจมาจากอารมณ์ขันร้ายกาจของผู้ชายหนึ่งในสองคนที่ทำให้ตนเองต้องมาอยู่ที่นี่…

หากสิ่งที่แย่ที่สุดก็คือสายตาพิจารณาประเมินค่าจากวุฒิสมาชิกหนุ่มซึ่งกำลังมองเธอในตอนนี้!

‘ใจเย็นๆ ผมแค่จะสำรวจคุณใกล้ๆเท่านั้น’ น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลแบบที่อีกฝ่ายมักจะใช้ยามสนทนากับบุคคลที่ต้องการรักษาภาพลักษณ์อันสง่างามน่าเชื่อถือดังขึ้นราวกับจะปลอบโยนมิให้หญิงสาวชาวบาโรวิทตื่นตกใจเกินกว่าเหตุ ทว่าเจ้าตัวกลับไม่สนใจเลยว่าการยันมือลงบนฟูกข้างใบหน้าขาวนวลเพื่อทรงตัวขณะก้มมองจะทำให้คนที่ขยับไม่ได้วิตกกังวลยิ่งขึ้น

แคเทรียนจำได้ดีว่าตนเองพยายามเค้นเสียงสั่งให้ร่างสูงเพรียวที่อยู่ใกล้เกินต้องการถอยออกห่างตามมารยาทสุภาพบุรุษซึ่งจะไม่ทำให้สุภาพสตรีต้องลำบากใจแล้วก็ได้ทราบว่าผู้ชายนิสัยโหดร้ายคนนั้นพูดความจริง

ฤทธิ์ยานั่นทำให้พูดหรือขยับตัวไม่ได้เลย!

ร่างโปร่งบางแทบเกร็งแข็งเป็นท่อนไม้เมื่อพบว่าลิ้นที่ปกติแล้วมักจะขยับไหวโต้ตอบวาจาไร้สาระได้รวดเร็วสมใจเจ้าของกลับอ่อนปวกเปียกไร้ประโยชน์ราวกับเป็นผ้าที่ถูกยัดไว้ในปาก ในขณะที่เส้นเสียงและกล้ามเนื้อลำคอแน่นิ่งไม่ไหวติงละม้ายหมดสิ้นเรี่ยวแรง

โดยเฉพาะเมื่อใบหน้าของผู้ชายที่แสนจะไม่ชอบอยู่ห่างไปไม่ถึงฝ่ามือเช่นนี้…

ดวงหน้าขาวอย่างคนไม่ค่อยได้ออกไปตากแดดกลางแจ้งประกอบด้วยโหนกแก้มสูง จมูกโด่ง และสันกรามเหลี่ยมโกนเกลี้ยงปราศจากหนวดเครา เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้นจัดทรงสุภาพที่ล้อมกรอบใบหน้าสะอาดคมคายกลายเป็นศูนย์กลางความสนใจของวุฒิสมาชิกสาวโดยอัตโนมัติ แววสนใจปนครุ่นคิดในดวงตาสีเขียวมรกตวาววามใต้คิ้วสีเข้มกว่าผมที่มองตรงมาก่อความหวาดหวั่นขึ้นภายในส่วนลึกอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์อันเลวร้ายที่เคยมีต่อกันตั้งแต่เด็กจนโตส่งเสียงเตือนอยู่ในสมองว่าอีกฝ่ายจะต้องกำลังคิดเรื่องไม่น่าพึงพอใจสำหรับเธออย่างแน่นอน

ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มราวกับต้องการปลอบขวัญหญิงสาวมิให้หนีหายไปจากร่าง หากรอยยิ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนงในสายตาคนมองที่ไม่เคยเห็นว่าชายหนุ่มซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่จำความได้จะมีพฤติกรรมอันดีงามเหมาะสมตรงไหน ในเมื่อเขาซื้อผู้หญิงที่ถูกจับตัวมาขายโดยปราศจากท่าทีรู้สึกผิดหรือตั้งใจจะส่งกลับบ้านด้วยความปรารถนาดีสักนิดเดียว

วุฒิสมาชิกสาวจ้องยูรัสด้วยแววตาเยียบเย็นซึ่งมักจะส่งผลให้ทุกคนที่ล่วงล้ำเส้นที่เธอขีดคั่นไว้ย่นระย่อไม่กล้าเดินหน้าต่อ หวังให้เจ้าของบ้านรู้สึกตัวว่ากำลังล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นอยู่ ทว่านัยน์ตาสีเขียวมรกตยังคงสำรวจเรือนร่างบนเตียงด้วยสายตาไม่น่าไว้วางใจต่อไปโดยไม่สนใจปฏิกิริยาต่อต้านของเธอ

ชายหนุ่มกวาดสายตาไล่จากใบหน้ารูปไข่ลงไปยังลำคอระหงและบ่าบอบบางขณะลากฝ่ามือลงมาพร้อมกัน หยุดสัมผัสทรวงอกกลมกลึงคู่เล็กใต้ชุดกระโปรงที่นูนเด่นขึ้นจากแนวระนาบเล็กน้อยด้วยการเคล้นคลึงเบาๆทั้งสองมือราวกับต้องการทดสอบว่าสิ่งที่เห็นเป็นของจริงหรือไม่ ก่อนจะเลื่อนสายตาและมือไปหาเอวคอดซึ่งผายออกเป็นสะโพกกลมกลึงจนถึงช่วงขาเรียวยาวที่โผล่พ้นชายกระโปรง

การกระทำอันจ้วงจาบหยาบช้าของเขาส่งผลให้หัวใจคนถูกลวนลามกระตุกวาบแล้วหยุดเต้นไปวูบหนึ่งด้วยความตกใจสุดขีด ใบหน้าค่อนข้างซีดของหญิงสาวเริ่มแดงจัดจนร้อนผ่าวด้วยความโกรธระคนอับอายอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิต!

ด้วยฐานะหนึ่งในผู้สืบทอดตระกูลเนลีคาห์นซึ่งมีอิทธิพลอยู่ในสังคมชั้นสูงของดาวบาโรว์ย่อมไม่มีใครกล้าแสดงกิริยาไร้มารยาทให้เธอขัดเคืองใจ…

และตำแหน่งวุฒิสมาชิกซึ่งเข้ารับหน้าที่มากว่าห้าปีก็ไม่เคยมีใครอาจหาญหมิ่นแคลนศักดิ์ศรีดังที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้…

ยามมือใหญ่ตลบชายกระโปรงให้เปิดขึ้นมาถึงบั้นเอวจนเผยกางเกงชั้นในสีขาวสะอาดที่สวมอยู่ นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางก็ยิ่งส่งกระแสยะเยือกทั้งที่เปลวไฟกำลังลุกโชนอยู่ภายใน เดือดดาลแทบจะทำให้เลือดในกายเดือดพล่านจนระเหยหายกลายเป็นไอ

กระนั้นเจ้าของบ้านก็ยังไม่ใส่ใจ…

ความสนใจของยูรัสในตอนนี้ทุ่มเทให้กับเรือนร่างของหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่ตรงหน้า ผิวเนื้อเปลือยเปล่าขาวนวลเนียนของท่อนขาเพรียวยาวสะดุดตาคนมองแต่แรกเห็นทอดเหนือผ้าปูที่นอนซึ่งดูหยาบกระด้างขึ้นมาทันตา ความพึงพอใจค่อยๆก่อตัวขึ้นในใจเมื่อพบว่าสภาพร่างกายโดยรวมของหล่อนเหนือกว่ากลุ่มที่ถูกขายในครั้งสุดท้ายหลายเท่า

‘ดีกว่าที่ผมคิดไว้’

วุฒิสมาชิกหนุ่มเอ่ยเสียงเบาก่อนแตะปลายนิ้วลงบนหลังเท้าเรียวลากไล้ทดสอบความเนียนนุ่มของผิวสัมผัส และคำตอบที่ได้รับก็สร้างความพอใจให้มากยิ่งขึ้น

‘มาก...’

ดวงตาสีเขียวมรกตวาววามสบตากับร่างบนเตียงขณะทรุดตัวลงนั่งบนเตียง คว้าข้อเท้าซ้ายของสินค้าที่ซื้อมาพาดตักก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่มือนวดฝ่าเท้าของแคเทรียนอย่างเนิบช้าตั้งใจ มืออีกข้างก็ค่อยๆลูบเลื่อนขึ้นไปตามน่องเพรียวจนถึงครึ่งขาอ่อนแล้ววนกลับมาลงวนเวียนอยู่ซ้ำๆกัน

กิริยาน่าประหลาดใจที่ไม่เคยมีใครทำกับตนเองมาก่อนนั้นทำให้วุฒิสมาชิกสาวตกใจจนลืมหายใจไปวูบหนึ่ง เพราะสิ่งที่เขากำลังเพลิดเพลินอยู่มิได้เป็นสิ่งที่เธอเคยคิดฝันถึงมาก่อนเลยสักครั้งเดียว ความร้อนจากฝ่ามือที่เกาะกุมและน้ำหนักกดคลึงบนร่างกายท่อนล่างก็ส่งกระแสวูบวาบซ่านซ่าประหลาดขึ้นมาตามผิวกายและสายเลือดจนรู้สึกได้ว่าดวงหน้าค่อยๆร้อนผะผ่าวขึ้นทุกวินาที ไม่อาจขยับกายได้ตามใจชอบจึงได้แต่นอนหลับตานิ่งยอมจำนนรับความรู้สึกแปลกใหม่แต่เพียงอย่างเดียว

เมื่อคุ้นเคยกับสัมผัสหวามไหวจนสามารถรวบรวมสติและอารมณ์ได้อีกครั้งนัยน์ตาสีไอซ์บลูก็จ้องมองเสี้ยวหน้าคมคายที่ก้มต่ำแสดงความใส่ใจกับร่างกายของเธอเป็นพิเศษด้วยความสับสนไม่เข้าใจ แต่แล้วหญิงสาวชาวบาโรวิทก็แทบสะดุ้งเมื่อคนที่ตนเองกำลังแอบมองอยู่นั้นค่อยๆเหลือบตาขึ้นมองสบมาด้วยแววตาร้ายกาจลึกล้ำ

และการกระทำของเขาหลังจากนั้นก็สร้างความขุ่นเคืองให้มากขึ้นไปอีก!

‘ไม่ต้องตื่นเต้นจนเกินเหตุ ผมไม่คิดจะทำต่อหรอก ผู้หญิงที่ได้แต่นอนนิ่งๆ ไม่สามารถตอบสนองอะไรได้ก็ไม่ต่างอะไรกับเครื่องประดับสวยๆชิ้นหนึ่งเท่านั้น’

ร่างโปร่งบางยืดหลังตรงมากกว่าเดิมเมื่อตัดสินใจเลิกคิดถึงเหตุการณ์ชวนอึดอัดทรมานที่เพิ่งประสบมา สูดลมหายใจลึกๆปลุกปลอบตนเองก่อนยกถ้วยเครื่องดื่มที่ยังอุ่นอยู่ขึ้นจิบขับไล่ความรู้สึกตกค้างที่ยังสร้างความหวาดหวั่นไม่มั่นคงออกไปจากใจ บรรจงวางถ้วยกลับลงไปบนจานรองเพื่อเรียกระเบียบวินัยอันคุ้นเคยให้กลับมาสถิตอยู่กับตัวอีกครั้ง

กระนั้นจิตใจก็ยังไม่ยอมรับคำสั่งจากสมอง…

ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อเม้มแน่นยามรินเครื่องดื่มในกากระเบื้องเคลือบลงถ้วย ความหงุดหงิดคุกรุ่นขึ้นอีกครั้งยามหวนนึกถึงสถานการณ์น่าอับอายของตนเอง นอกจากจะตกอยู่ในสถานะที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ดังที่เคยชินแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองน่าสมเพชหนักขึ้นทุกครั้งที่สบตากับนัยน์ตาสีเขียวพร่างคู่นั้น

ทั้งความรู้สึกและศักดิ์ศรีคงไม่เดือดร้อนมากนักหากบุคคลที่ซื้อเธอมามิใช่ยูรัส

หากเป็นคนอื่น...เธอคงไม่หวาดระแวงขนาดนี้แน่!

แคเทรียนค่อยๆผ่อนลมหายใจก่อนลุกขึ้นเดินสำรวจรอบห้องป้องกันมิให้ตนเองคิดฟุ้งซ่านมากไปกว่าเดิม ดวงตาสีฟ้าอ่อนจางกวาดมองห้องทรงกลมประดับกรอบหน้าต่างแบบเลื่อนขึ้นลงเรียงเป็นแถวอยู่บนผนังสีขาวครีม ม่านสีเหลืองอ่อนถูกรวบไว้มิให้บดบังทัศนียภาพของอันเต็มไปด้วยสีสันช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงภายนอก สวนด้านนอกเต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบนอกห้องนั่งเล่นไล่เฉดสีเหลือง ส้ม แดง น้ำตาล อย่างงดงามประกาศชัดถึงความตั้งใจที่จะรักษาสภาพดั้งเดิมของสถานที่ให้มากที่สุด

หญิงสาวนิ่งมองความงามตามธรรมชาติเบื้องหน้าด้วยความสนใจด้วยหน้าที่การงานในความรับผิดชอบปัจจุบันไม่อำนวยให้มีโอกาสได้ชื่นชมสภาพแวดล้อมรอบกายมากนัก หากภาพใบไม้สีน้ำตาลหลุดจากขั้วปลิดปลิวจากต้นลงสู่พื้นยามสายลมพัดผ่านเคว้งคว้างควบคุมทิศทางไม่ได้ก็เตือนให้นึกถึงสภาพล่าสุดของตนเองอีกครั้ง

ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะอารมณ์เสียกับเหตุการณ์ที่ไม่อาจแก้ไขได้…

และเธอก็แน่ใจแล้วว่าหนทางเดียวที่จะทำให้หลุดพ้นจากสภาวะแบบนี้ได้มีเพียงการยืนยันให้เจ้าของบ้านทราบว่าผู้หญิงที่เขาซื้อมานั้นคือวุฒิสมาชิกเนลีคาห์นตัวจริง!

“ดูคุณปรับตัวได้เร็วดีนะ”

เสียงทุ้มที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบเบื้องหลังส่งผลให้ร่างงามสะดุ้งเฮือก หญิงสาวหมุนตัวกลับไปพบกับเจ้าของเสียงซึ่งยืนพิงกรอบประตูไม้สีขาวมานานเท่าใดไม่อาจรู้ เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนปลดกระดุมเม็ดบนคล้องเนคไทที่คลายไว้หลวมๆและกางเกงผ้าสีเทารีดเรียบกริบที่เริ่มมีรอยยับบอกให้ทราบว่าอีกฝ่ายเพิ่งกลับมาจากที่ทำงานหลังจากหายหน้าไปแต่เช้าตรู่

“วันนี้คุณทำอะไรบ้างล่ะ” ยูรัสถามต่อเมื่อได้รับเพียงความเงียบจากร่างโปร่งบาง ผละจากกรอบประตูไปหย่อนกายลงบนโซฟายาวก่อนจะพิจารณาดวงหน้าขาวนวลของหญิงสาวขณะชวนคุยต่อไป “เมื่อเช้าผมต้องรีบออกไปก่อนจะได้คุยกับคุณ เพราะมีธุระด่วนที่รอไม่ได้ ขอโทษนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” แคเทรียนตอบรับสุภาพโดยอัตโนมัติก่อนจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันด้วยความขัดใจในมารยาทอันดีเกินต้องการของตนเอง แต่แล้วก็เลิกใส่ใจกับเรื่องไร้สาระเมื่อมีเรื่องสำคัญกว่ารอคอยอยู่ “ฉันใช้เวลาว่างสำรวจบ้านหลังนี้ไปพลางๆน่ะค่ะ ที่น่าแปลกใจก็คือฉันไม่เห็นหนังสือสักเล่มเลย”

หลังรับประทานอาหารเช้าตามลำพังหญิงสาวก็เริ่มทำการสำรวจบ้านไม่ให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แม้จะมีพื้นที่บางส่วนติดล็อกและไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ หากอาคารขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ถูกสร้างด้วยรูปแบบอันอบอุ่นน่ารักราวบ้านตุ๊กตาจนคนเห็นแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง แถมลักษณะต่างๆรอบกายก็ดูจะไม่เข้ากับร่างสูงเพรียวตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

หากหญิงสาวก็ไม่คิดจะถามถึงความขัดแย้งที่ได้พบเห็น เพราะถึงอย่างไรมันก็ไม่เกี่ยวกับตนเองอยู่ดี…

“คุณอยากอ่านหนังสือเหรอ” ยูรัสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้สาวสวยที่หมุนตัวกลับมามองเขาเต็มตา “ผมเก็บหนังสือไว้ในห้องนอน ถ้าคุณอยากอ่านก็เข้าไปเอาสิ เดี๋ยวผมไปเปิดประตูให้”

สิ้นเสียงทุ้มนุ่มนวลกว่าปกติดวงตาสีฟ้าอ่อนจางแฝงแววตำหนิก็ตวัดวาบใส่วุฒิสมาชิกหนุ่มอย่างไม่พอใจ ความหงุดหงิดแล่นพล่านไปทั่วกายหลังตระหนักถึงจุดประสงค์แฝงเร้นของชายหนุ่มยามเอ่ยถึง ‘ห้องนอน’ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นแววตาเป็นประกายวาววามอันแสนคุ้นเคยของอีกฝ่าย

ผู้ชายมักมาก!

ยูรัสหัวเราะในลำคอเมื่อสังเกตเห็นสีเลือดฉีดซ่านขึ้นมาบนแก้มขาวนวลแม้อีกฝ่ายจะรีบหันหน้าหนีเขา ความเครียดที่มีมาทั้งวันค่อยๆลดลงด้วยการยั่วแหย่ผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์และท่าทางไม่ต่างจากวุฒิสมาชิกเนลีคาห์นผู้เย็นชาให้ขุ่นเคืองได้ ยิ่งรู้สึกพอใจกว่าเดิมที่ซื้อหล่อนมาได้ด้วยราคาถูกกว่ามูลค่าแท้จริงมาก

“ให้ผมแนะนำคุณสักอย่างเถอะ คุณควรจะเตรียมตัวเตรียมใจให้ชินกับผมเร็วๆนะ ไม่อย่างนั้นถึงเวลาขึ้นมาจะลำบากเสียเปล่าๆ”

“ที่คุณพูดนั่นหมายความว่ายังไง” ร่างโปร่งบางหมุนตัวกลับมารวดเร็วจนชายกระโปรงสีเขียวบานพลิ้วตามแรงเหวี่ยง ทั้งนัยน์ตาและน้ำเสียงที่ใช้กับอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ ‘เสาน้ำแข็ง’ แสดงให้ผู้อื่นเห็นเสมอมา

ถึงแม้อีกฝ่ายจะสังเกตเห็น...

แต่ผลที่ได้กลับตรงข้ามกับที่หญิงสาวตั้งใจไว้ไกลลิบ…

“เยี่ยมมาก ผมไม่รู้ว่าเอธานทำได้ยังไง แต่เขาก็ทำลงไปแล้ว” ร่างสูงเพรียวเอนหลังพิงพนักหนานุ่มขณะใช้ดวงตากวาดไล่สำรวจคู่สนทนาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้ววนขึ้นมาสบตากับหญิงสาวอีกครั้ง “ถ้าผมไม่ได้เห็นคุณด้วยตาตัวเองก็คงยากที่จะเชื่อว่าหมอนั่นทำได้ถึงขนาดนี้”

“ฉันคือแคเทรียน เนลีคาห์น วุฒิสมาชิกเนลีคาห์นแห่งดาวบาโรว์ตัวจริง!”

วุฒิสมาชิกเนลีคาห์นแห่งดาวบาโรว์ประกาศเสียงหนักแน่นมั่นคงตามด้วยการเชิดหน้าเหยียดหลังตรงจนแทบไม่ต่างจากไม้กระดานเพื่อยืนยันตัวตนให้อีกฝ่ายได้เห็น มั่นใจว่าคนเคยเห็นอากัปกิริยาเฉพาะตัวที่มีมาตั้งแต่เด็กของตนเองอย่างยูรัสจะต้องตระหนักว่าผู้หญิงซื้อมานั้นไม่ใช่คนที่เขาคาดหวังไว้

กระนั้นชายหนุ่มก็ยังไม่เชื่อ…

ศีรษะสีน้ำตาลอ่อนส่ายไปมาอย่างช้าๆโดยมีรอยยิ้มอ่อนบางประดับใบหน้าเกือบส่งผลให้หญิงสาวกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจสุดฤทธิ์ กิริยาอ่อนใจที่วุฒิสมาชิกหนุ่มแสดงให้เห็นราวกับเธอเป็นเด็กที่กำลังพยายามโกหกให้ผู้ใหญ่เชื่อคำพูดนั้นกระตุ้นโทสะได้ดีกว่าสิ่งใดที่เขาเคยทำมา

“พอเถอะ ผมเห็นแล้วว่าคุณเป็นยังไง แต่อยู่กันสองคนแบบนี้คุณไม่จำเป็นต้องแสดงตัวเป็นเนลีคาห์นหรอก ถ้าคุณยังแสดงต่อไปแล้วมันเกิดผิดพลาดไม่เหมือนขึ้นมา ผมจะผิดหวังเสียเปล่าๆ เอาไว้ค่อยเล่นยามจำเป็นดีกว่า”

แสดงตัวเป็นเนลีคาห์น…

ถ้าเกิดผิดพลาดจะผิดหวัง…

ค่อยเล่นยามจำเป็น…

ผู้ชายคนนี้มันเลวร้ายเกินแก้ไขจริงๆ!

หญิงสาวขมวดคิ้วจ้องหน้าอีกฝ่ายราวกับต้องการเผาผลาญเจ้าของบ้านให้กลายเป็นเถ้าถ่านไปในพริบตา สมองอันว่องไวอยู่เสมอติดขัดด้วยอารมณ์คุกรุ่นอยู่ชั่วครู่ก่อนจะทำงานได้ดีดังเดิม และผลสรุปที่ได้ก็คือรีบอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจโดยด่วนว่าเพราะเหตุใดตนเองจึงกลายมาเป็นสินค้าให้ซื้อหาได้ง่ายแบบนี้

“ก่อนที่คุณจะสรุปเอาเองอย่างผิดๆจะให้ฉันอธิบายสักหน่อยได้ไหม” วุฒิสมาชิกสาวตัวจริงเริ่มด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเย็นชาอันเป็นเครื่องหมายการค้าที่ผู้คนรู้จักกันดี เมื่อร่างสูงมองตรงมาอย่างสนใจจึงเริ่มอธิบายสิ่งที่ตั้งใจจะเล่าให้เจ้าของบ้านฟังตั้งแต่วานนี้ “ฉันคือ แคเทรียน เนลีคาห์น ตัวจริง และฉันถูกลักพาตัวตอนกำลังเดินทางกลับที่พักเมื่อสองสัปดาห์ก่อน พอฟื้นขึ้นมาก็พบกับผู้ชายที่มีท่าทางเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายคนนั้นแล้ว นั่นทำให้ฉันต้องมาอยู่ที่นี่โดยไม่เต็มใจเลยสักนิดเดียว อย่าถามว่าเพราะอะไรถึงโดนจับตัวมา เพราะฉันเองก็ยังไม่แน่ใจ”

“อือฮึ แล้วไงอีก” ชายหนุ่มพยักหน้ารับฟังคำบอกเล่าของอีกฝ่ายด้วยริมฝีปากประดับรอยยิ้มบางเบาขณะรอให้หุ่นยนต์รับใช้รุ่นเก่านำของว่างเข้ามาเสิร์ฟ ทว่าท่าทางไม่เห็นความสำคัญของข้อเท็จจริงที่หญิงสาวกำลังเล่าก็ทำให้หล่อนเหลือบตามองไปนอกหน้าต่างแทนที่จะเป็นใบหน้าคมคายอย่างรำคาญใจ

“คุณจะถามถึงสิ่งที่เห็นได้ชัดอยู่แล้วทำไมนะ พยายามหยุดยั่วโมโหฉันสักครั้งไม่ได้เลยรึไง” แคเทรียนขมวดคิ้วใส่ภาพสะท้อนตนเองในกระจกหน้าต่าง อารมณ์ที่ตั้งใจควบคุมไว้มิให้เปิดเผยออกมามากเกินไปกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่หลังกำแพงเหล็กสูงที่ก่อขึ้นในใจ นอกจากจะไม่พอใจผู้ชายที่นั่งอยู่ในห้องเดียวกันแล้วยังรู้สึกไม่พอใจตนเองที่มักจะขุ่นเคืองยามต้องปะทะคารมกับอีกฝ่ายเสมอ

ถึงจะรู้จักกันมานานปี…

เธอก็แทบจะไม่เคยคุยกับเขาได้โดยที่ไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเลยสักครั้งเดียว!

“ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องยืนกรานเพื่อความปลอดภัยของตัวเองขนาดนั้นเลย ปอร์เชีย ถึงยังไงผมก็ซื้อคุณมาแล้ว”

เสียงทุ้มรื่นหูดังขึ้นพร้อมกับที่หญิงสาวเหลือบเห็นร่างสูงเพรียวลุกขึ้นยืน ชายหนุ่มเดินเอื่อยๆมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังก่อนจะจับปลายผมยาวสีทองคำขาวที่ปล่อยเป็นอิสระขึ้นมาแตะจมูก สูดดมความหอมอ่อนละมุนเข้าปอดแล้วปัดไล้เส้นผมนุ่มสลวยกับแก้มตนเองอย่างแผ่วเบาราวกับทนต่อไม่ได้หากมิได้สัมผัสหล่อน

อากัปกิริยาไม่คาดฝันของวุฒิสมาชิกหนุ่มทำให้หญิงสาวตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ยูรัสยังคงยืนนิ่งอยู่ในท่านั้นโดยไม่เข้าใกล้ให้เธอลำบากใจยิ่งกว่าเดิม ทว่าแววหมายมาดในดวงตาที่มองสบผ่านเงาสะท้อนของหน้าต่างยามเขาเงยหน้าขึ้นและคำพูดประโยคต่อมาที่หลุดจากริมฝีปากบางได้รูปกลับส่งผลให้ความไม่สบายใจอย่างแรงกล้าก่อตัวขึ้นในใจคนฟังทันที

“อะไรที่เป็นของผม ผมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆหรอก”





มือขาวจัดเคลื่อนไหวขึ้นลงตามชั้นหนังสือไม้สีน้ำตาลดำยามไล่จัดหนังสือปกแข็งเล่มหนาหนึ่งนิ้วครึ่งอย่างขะมักเขม้น หยุดชะงักเป็นบางครั้งเพื่ออ่านชื่อพร้อมพลิกดูเนื้อหาภายในซึ่งปรากฏอยู่บนบนกระดาษเนื้อดีเมื่อพบเล่มที่น่าสนใจก่อนเรียงไว้บนชั้นด้วยความตั้งใจว่าจะย้อนกลับมาอ่านในภายหลัง

สมาธิอันแน่วแน่มั่นคงตรึงความสนใจของแคเทรียนให้อยู่กับการทำความสะอาดและจัดเรียงหนังสือขึ้นชั้นได้เป็นอย่างดี ความเงียบสงบภายในบ้านที่มีเพียงหุ่นยนต์รับใช้เก็บกวาดทำงานเล็กๆน้อยๆอยู่รอบบ้านในขณะที่ผู้เป็นเจ้าของออกไปทำงานช่วยสนับสนุนให้เธอดิ่งลึกลงไปกับงานตรงหน้ามากยิ่งขึ้น

สาวชาวบาโรวิทหยุดพักเมื่อความเมื่อยล้าเริ่มเกาะกุมช่วงบ่าและแขนทั้งสองข้างที่ถูกใช้งานมากว่าสามชั่วโมง เริ่มบีบนวดกล้ามเนื้อปวดเมื่อยขณะกวาดสายตามองตามชั้นที่จัดเสร็จเรียบร้อยแล้วตรงหน้า ความพอใจก่อตัวขึ้นในกายหลังตระหนักว่าตนเองสามารถจัดหนังสือได้ห้าชั้นจากทั้งหมดแปดชั้นในหนึ่งตู้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากพื้นที่กว้างขวางเต็มไปด้วยชั้นหนังสือซึ่งถูกแบ่งเป็นสัดส่วนห่างจากบริเวณห้องทำงานส่วนตัวของวุฒิสมาชิกหนุ่ม

ภาพชั้นหนังสือไม้สีเข้มที่ตั้งตระหง่านอยู่รอบกายโดยมีหนังสือผลิตจากกระดาษซึ่งมีราคาสูงกว่าวัสดุยอดนิยมประเภทอื่นหลายเท่าวางเรียงรายเต็มทุกชั้นน่าประทับใจไม่น้อย นอกจากเสน่ห์ของการค่อยๆเปิดพลิกหน้ากระดาษอย่างทะนุถนอมระหว่างการอ่านหนังสือจะกระตุ้นให้อยากสัมผัสรูปเล่มยิ่งกว่าเดิมแล้ว ความมั่งคั่งที่แสดงตนอยู่เบื้องหน้าช่วยให้คนเห็นกระจ่างแจ้งแก่ใจในการเป็นตระกูลเก่าแก่แห่งดาวรีเอสโดยไร้ข้อกังขา

กระนั้นสถานะทางการเงินของเขากลับดูขัดแย้งกับหุ่นยนต์รับใช้ซึ่งเก่าจนน่าจะตกรุ่นมากว่ายี่สิบห้าปีอย่างประหลาด…

แคเทรียนค่อยๆไล่สายตาไปตามสันหนังสือที่ตนเองจัดเรียงใหม่ให้เป็นระเบียบตามลำดับตัวอักษรเซเฟร่าอีกครั้งเมื่อหวนนึกถึงห้องสมุดอีกแห่งในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เคยไปเยือนบ่อยครั้งยามเยาว์วัย บรรยากาศเงียบสงัดท่ามกลางชั้นหนังสือหลายร้อยชั้นจนแทบจะกล่าวได้เต็มปากว่าวังเวงนั้นแตกต่างจากสถานที่แห่งนี้มาก ทว่าเรื่องราวต่างๆในแถวหนังสือตรงหน้าก็มิได้เก่าแก่เนิ่นนานเกินกว่าร้อยปีนัก

หนังสือแทบทุกเล่มในห้องสมุดแห่งนี้ล้วนแล้วแต่บ่งบอกถึงยุคสมัยปัจจุบันจนคนเห็นเข้าใจได้ทันทีว่าผู้เป็นเจ้าของสนใจและให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่ดำเนินอยู่รอบกายมากกว่าประวัติศาสตร์ที่ผ่านไปแล้ว

รายละเอียดใหม่เกี่ยวกับยูรัสที่เธอเพิ่งได้ทราบ…

เช่นเดียวกับสภาพแวดล้อมรอบกายที่ไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายจะชอบแบบนี้...

นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนกวาดมองห้องสมุด ห้องทำงาน และส่วนนั่งเล่นหย่อนอารมณ์อันประกอบไปด้วย ชุดรับแขก เก้าอี้นอนกลางวัน บาร์เครื่องดื่ม ซึ่งเชื่อมต่อกันโดยแทบจะไม่มีกำแพงขวางกั้นบนชั้นสองของตัวบ้านที่ผู้เป็นเจ้าของใช้พื้นที่เกือบทั้งชั้นบรรจุอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ตัวเอง

สีสันเคร่งขรึมของเครื่องเรือนชิ้นใหญ่กับสีอ่อนสบายตาของผนังและเครื่องประดับชิ้นเล็กที่มูลค่าไม่น้อยตามขนาดดูเข้ากันได้เป็นอย่างดี ความเรียบง่ายที่สอดแทรกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของบ้านหลังงามส่งผลให้เธอเสียศูนย์โดยไม่ทันตั้งตัวมาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่แตกต่างจากภาพที่เคยพบเห็นรอบตัวอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง

ร่างสูงเพรียวของผู้นำตระกูลแอสทราอุสมักจะฉาบไปด้วยรัศมีแห่งความหรูหราสง่างามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนกล่าวคำปาฐกถาต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติหลายร้อยคนในงานราตรีสโมสรหรือขณะเดินตัดสวนสาธารณะสำคัญในชุมชนใกล้อาคารที่ทำการสภาเซเนส

แต่สถานที่แห่งนี้กลับทำให้ความรู้สึกที่เคยมีแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง…

ดวงตาสีอ่อนหลุบต่ำลงพิจารณาฝ่ามือแดงจัดจากการใช้แรงงานตนเอง ทั้งกิจกรรมและสภาพแวดล้อมไม่คุ้นเคยช่วยให้ความกลัดกลุ้มกังวลใจลดน้อยถอยลง ทว่าตะกอนอารมณ์ยังคงลอยคว้างอยู่ในใจไม่เลือนหายไปไหน

ถึงเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานเธอก็ไม่เคยเข้าใจผู้ชายคนนี้เลยสักครั้ง…

แต่ถ้าเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่ชอบอีกฝ่ายนั้นกลับมีมากมาย…

ความทรงจำที่เด่นชัดที่สุดยังฝังลึกอยู่ในสมองไม่เสื่อมคลายไม่ว่าเวลาจะเคลื่อนคล้อยไปมากเพียงไหน ตั้งแต่การบังคับตัดผมยาวถึงบั้นเอวของเธอออกเสียครึ่งหนึ่งก่อนจะอ้างว่าเห็นเธอบ่นรำคาญเมื่อผู้เป็นมารดาสอบถามถึงสาเหตุแห่งการกระทำ นำตุ๊กตาที่สัตว์เลี้ยงของเขาขโมยไปจากเธอมาคืนทั้งที่บอกแล้วว่าไม่จำเป็น ไปจนถึงการสร้างความเสียหายให้กับหนังสือเล่มโปรดพร้อมถากถางผลการเรียนเมื่อได้ทราบถึงระดับจากการวัดผลของเธอโดยนำไปเทียบกับตัวเขาเองเมื่ออายุเท่ากัน

ทุกครั้งที่หวนรำลึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างตนเองกับยูรัสเป็นต้องอยากหลบลี้หนีห่างอีกฝ่ายร่ำไป พฤติการณ์กลั่นแกล้งหน้าซื่อบริสุทธิ์ก่อนจะรับผิดชอบผลที่ตามมาจากฝีมือตนเองไปพร้อมกับอ้างความหวังดีของทายาทคนโตตระกูลแอสทราอุสนั้นสร้างความขยาดไม่ปรารถนาจะเข้าใกล้หากไม่จำเป็นตลอดมา

จะด้วยความคึกคะนองของเด็กชายผู้ถูกตามใจมาตลอดในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดอันดับหนึ่งในตระกูลสำคัญระดับแนวหน้าของดาวรีเอส หรือท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อยจนน่าหมั่นไส้ของเด็กหญิงอายุน้อยกว่าที่ต้องทำตามคำพูดมารดาอย่างเคร่งครัด เธอก็ไม่อาจหาคำตอบได้แม้แต่ประการเดียว

วุฒิสมาชิกสาวส่ายศีรษะเบาๆละม้ายต้องการขับไล่ความทรงจำเก่าแก่ออกไปจากสมอง หันเหความคิดไปยังเรื่องสำคัญที่ยังมิได้จัดการให้เสร็จเรียบร้อยตามที่ได้ตั้งใจไว้ นึกสงสัยว่าควรจะทำอย่างไรอีกฝ่ายถึงจะเชื่อในคำยืนยันของตนเองมากกว่าหลักฐานซึ่งชี้นำไปยังเรื่องหลอกลวงที่สลัดอวกาศผู้มีนามว่า ‘เอธาน’ ปั้นแต่งขึ้น เพราะเท่าที่สังเกตเห็นนั้นยูรัสเอ่ยถึงชายหนุ่มผู้นั้นด้วยคำพูดอันบ่งบอกถึงความสนิทสนมขั้นมิตรสหาย มิใช่แค่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการกับผู้รับบริการดังที่ควรจะเป็น แถมผู้ชายที่จับตัวเธอมาก็มีวิธีการพูดและท่วงท่าเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่เหนือกว่าเครื่องแต่งกายหรือรูปร่างหน้าตากร้าวแกร่งภายนอกมากนัก

หรือควรจะเอ่ยถึงเรื่องที่มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้นที่ทราบ?

ควรหรือที่จะเอ่ยถึงเหตุการณ์ซึ่งอาจกระทบต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายเพื่อเอาตัวรอดในขณะที่ยังมองไม่เห็นอันตรายเด่นชัด ในเมื่อตอนนั้นเธอก็เป็นคนตัดสินใจด้วยตนเองภายใต้เงื่อนไขแบบเดียวกันนี้?

ฝ่ามือขาวจัดกำแน่นขึ้นเล็กน้อยยามคิดถึงเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตนเองและยูรัสมีบทสนทนาจริงจังมากที่สุดในรอบสิบปี คิ้วเรียวสีทองคำขาวมุ่นเข้าหากันอย่างไม่ค่อยสบายใจเมื่ออาจจะต้องเอ่ยถึงความอึดอัดขัดข้องใจในอดีตที่ผ่านมากว่าสามปี แล้วแววหวั่นวิตกก็ปรากฏขึ้นในดวงตาสีอ่อนจางเมื่อตระหนักว่าหากหลุดปากออกไปอาจได้รับผลลัพธ์ตรงข้ามกับความต้องการของตนเองก็เป็นได้

กับยูรัสแล้ว...เธอไม่กล้าเดาเลยจริงๆ

นอกจากนี้การถูกลักพาตัวอย่างกะทันหันบนดาวโคริกินาสเมื่อเกือบสามสัปดาห์ก่อนจะต้องทำให้คนทั้งครอบครัวห่วงใยและวิตกกังวลอย่างแน่นอน โดยเฉพาะมารดาวัย 58 ปีที่ยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำตระกูลเนลีคาห์นด้วยสุขภาพที่มิได้แข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเก่าก่อนจะตกใจสักเพียงใดเมื่อได้ทราบข่าวนี้ ถึงจะมีแจนนิคน้องสาวคนเล็กคอยดูแลใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลาก็ยังอดห่วงมิได้อยู่ดี เพราะถ้าหากใช้อิทธิพลที่ตระกูลมีแล้วยังไม่สามารถหาตัวเธอพบก็แสดงว่าเอธานมีอำนาจมากยิ่งกว่าวุฒิสมาชิกบางคนเสียอีก

เธอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจจนลงมือลักพาตัวแบบนี้กัน?

แคเทรียนปล่อยลมหายใจยาวเหยียดออกจากปอดทอดอาลัยให้กับสมองอันเชื่องช้าของตนเอง ข้อสรุปในใจมิได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด แต่อย่างน้อยก็มองเห็นว่าพอมีทางที่จะทำให้เจ้าของบ้านเชื่อถือในคำยืนยันของเธอขึ้นมาบ้าง

และเธอก็พร้อมจะใช้สติปัญญาที่มีเพื่อช่วยให้เขามองเห็นความจริงตรงหน้า เพราะการหนีออกไปอยู่กลางสถานที่ที่ไม่รู้จักไม่ใช่ตัวเลือกลำดับแรกในรายการแน่!

คิดได้ดังนั้นร่างโปร่งบางก็หมุนตัวเตรียมกลับไปจัดการกับกองหนังสือบนโต๊ะ แต่แล้วก็ต้องชะงักการเคลื่อนไหวเมื่อสายตาปะทะเข้ากับโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ในส่วนของห้องทำงาน

หญิงสาวพิจารณาหนังสือกองย่อมและเครื่องเขียนต่างๆบนโต๊ะทำงานก่อนจะเลื่อนสายตาผ่านที่เขี่ยบุหรี่แก้วเจียระไนไปหยุดยังแผงควบคุมทรงกลมฝังอยู่ในแนวระนาบราบไปกับเนื้อไม้บริเวณขอบโต๊ะด้านซ้ายมือ นัยน์ตาสีฟ้าซีดเป็นประกายวาววามด้วยความสนใจใหม่ที่ผุดขึ้นมาในสมองขณะเริ่มสาวเท้าเคลื่อนกายสู่เป้าหมาย

ร่างโปร่งบางดึงเก้าอี้หนังนุ่มมานั่งแล้วเริ่มออกคำสั่งกับแผงควบคุมให้ฉายภาพรายการข่าวผ่านดาวเทียมเป็นอันดับแรก ตามด้วยการออกคำสั่งอีกชุดดึงข้อมูลที่ชายหนุ่มในบันทึกไว้ฐานข้อมูลขึ้นแสดงบนจอ ริมฝีปากบางสีระเรื่อคลี่ยิ้มอย่างพึงใจทันทีที่คำสั่งได้รับการตอบสนองสมใจ

ถึงอย่างไรการติดอยู่ในบ้านวุฒิสมาชิกแห่งดาวรีเอสก็มิได้ย่ำแย่เกินไปนัก…




“คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนั้นน่ะ”

เสียงทุ้มนุ่มนวลดังขึ้นเป็นคำถามไม่แน่ใจกึ่งขันจากเบื้องหลังส่งผลให้มือขาวจัดที่กำลังจัดผักสีเขียวสดลงจานชะงักการเคลื่อนไหว แคเทรียนเหลียวมองข้ามไหล่เป็นเชิงถามไปยังร่างสูงเพรียวที่ยืนจิบสุราซึ่งได้จากการหมักผลไม้บางอย่างที่เธอไม่รู้จักพลางยืนอิงเคาน์เตอร์เตรียมอาหารกลางห้องครัว

“คุณว่าอะไรนะ” หญิงสาวเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงจ้องมองจานที่เธอกำลังจัดเรียงอาหารลงไปโดยไม่พูดคำใด

“คุณจะเสิร์ฟปลาให้ผมแบบนั้นเลยหรือ” ยูรัสมองปลานึ่งชิ้นใหญ่และกองผักที่ผ่านกระบวนการประกอบอาหารเดียวกันอย่างไม่เห็นด้วยนัก เพราะปลาเนื้อขาวโรยผักกลิ่นแรงดับคาวเพียงเล็กน้อยก่อนนำไปนึ่งปราศจากซอสราดทับนั้นแห้งเกินไป แถมผักเครื่องเคียงก็ปราศจากการปรุงแต่งรสชาติใดๆเช่นกัน

ภาพที่เห็นทำให้คิ้วสีน้ำตาลขมวดเข้าหากันเล็กน้อยขณะเหลือบมองซุปข้นสีขาวที่หล่อนปรุงเสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วเป็นลำดับต่อมา
ทั้งสีสันและรสชาติอาหารตรงหน้านอกจากจะไม่สร้างสรรค์แล้ว ยังดูไม่น่าอร่อยเลยสักนิด…

“อาหารเย็นมื้อนี้สำหรับเราสองคนนะคะ หุ่นยนต์แม่บ้านของคุณคงไม่ทานแน่ หรือว่าทาน” เสียงหวานที่ตวัดขึ้นสูงตอนท้ายประโยคอย่างไม่เห็นด้วยนักเมื่อคนติเป็นผู้บอกให้เธอทำอาหารเย็นวันนี้แทนการใช้หุ่นยนต์แม่บ้านตามปกติหลังถามว่าทำอาหารเป็นหรือไม่

“หุ่นแม่บ้านผมไม่กินหรอก แต่ผมจะกินไม่ลงแทนน่ะสิ” วุฒิสมาชิกหนุ่มส่ายหน้าให้กับอาหารที่ประกาศชัดถึงความจืดชืดโดยไม่จำเป็นต้องชิม “นี่คุณทำอาหารเป็นแน่เหรอ”

“คุณถามฉันมาครั้งหนึ่งแล้วนะคะ”

ร่างโปร่งบางหมุนตัวกลับมาสบตากับเขาด้วยสีหน้าฉงนในคำถามแสดงความสงสัยจนน่าประหลาดนั้น ดวงตาสีฟ้าอ่อนจางเริ่มมองหาความตั้งใจแอบแฝงของอีกฝ่ายดังที่เคยทำมาในอดีต หากข้อสงสัยก็ยังไม่ถูกไขเพราะชายหนุ่มเคลื่อนกายไปยืนหน้าหม้อซุปโพทาชอันเป็นพืชประเภทหัวที่เติบโตอยู่ใต้ดินแล้วตักขึ้นมาชิมโดยไม่สนใจเธอ

“คิดไว้ไม่ผิดเลย อาหารของคุณนี่จืดชืดเหมือนท่าทางของคุณจริงๆ” ดวงหน้าคมคายหันกลับมามองหญิงสาวชาวบาโรวิทก่อนจะกวาดตามองอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าราวกับจะตอกย้ำให้หล่อนแน่ใจว่าเขามิได้พูดผิดไปแม้แต่คำเดียว

แก้มนวลเรื่อสีขึ้นทันตาเมื่อได้รับการสบประมาทจากผู้ชายที่แสนจะไม่ชอบหน้า รู้แน่แก่ใจดีกว่าผู้หญิงผิวขาวจัดจนอาจจะกล่าวได้ว่าซีดอย่างเธอยิ่งดูไร้สีสันเมื่อปล่อยผมยาวสีเงินยวงที่ยิ่งสุกสว่างยามต้องแสงลงมาเป็นอิสระจนทาบทับชุดกระโปรงสีขาวยาวคลุมเข่า แถมยังดูเย็นชากว่าเดิมหลายเท่ายามนิ่งมองคู่สนทนาด้วยกิริยาสงบนิ่ง หากแคเทรียนก็ไม่คิดจะแสดงท่าทีให้เจ้าของบ้านทราบว่าเขาทำให้เธอเกิดความไม่พอใจจากคำวิจารณ์เล็กๆน้อยๆนั่น

“ต้องขอโทษด้วยนะคะที่อาหารของฉันไม่ถูกปากคุณ ปกติแล้วฉันทำอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่เน้นรสชาติไร้ประโยชน์ที่ไม่อำนวยให้สุขอนามัยในการรับประทานของคุณดีขึ้น”

“ผมเข้าใจ ผมจะทำให้ของพวกนี้มีรสชาติมากขึ้นเอง” ยูรัสคลี่ยิ้มสบายอารมณ์พลางวางแก้วในมือลงก่อนจะหันไปเตรียมเครื่องปรุงรสชาติตามที่บอก ปล่อยให้อีกฝ่ายมองตามด้วยความสับสนไม่แน่ใจว่าประโยคเมื่อครู่เป็นเพียงการตอบรับธรรมดาหรือแดกดันกลับอย่างนุ่มนวลกันแน่

แคเทรียนขยับออกให้ร่างสูงเพรียวเข้ามายืนแทนที่ด้วยความสนใจว่าเขาจะปรุงรสชาติอาหารของเธออย่างไร มือใหญ่กระด้างหยิบกระปุกเครื่องเทศหลายชนิดออกมาจากตู้ติดผนังแล้วคว้าขวดซอสสีน้ำตาลอ่อนจากตู้อีกใบ ชายหนุ่มเริ่มด้วยการกะส่วนผสมใส่ลงในกระทะความร้อนใบเล็กแล้วหันไปโรยเครื่องเทศสีแดงใส่ซุปก่อนจะคนเบาๆให้เข้ากันด้วยท่าทางคล่องแคล่วเกินกว่าที่คนมองคาดไว้

“คุณทำอาหารเป็น” หญิงสาวชาวบาโรวิทพึมพำเบาๆอย่างไม่เชื่อสายตา ตั้งแต่รู้จักกันมาก็ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายลงมือประกอบอาหารด้วยตัวเองมาก่อน

“แม่ผมสอนลูกให้ทำเป็นทุกอย่าง” วุฒิสมาชิกหนุ่มตอบสั้นๆพลางใส่เครื่องปรุงบางอย่างลงในกระทะ ง่วนอยู่กับการทำซอสที่ต้องระมัดระวังมิให้ร้อนจนไหม้หรือเย็นเกินไปจนไม่ได้รสชาติส่วนผสมอย่างเต็มที่จึงไม่ได้เห็นแววประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาสีฟ้าอ่อนจาง “รีเอสเป็นดาวเคราะห์ที่มีเพศหญิงเป็นคนควบคุมอำนาจในครอบครัว หากผมไม่สามารถทำได้อย่างที่พวกคุณทำได้ก็คงลำบากน่าดู”

“อย่างคุณเคยมีช่วงเวลาลำบากด้วยเหรอคะ” คนฟังอดใจเงียบไว้ไม่ไหว คำบอกเล่าของชายหนุ่มดูจะขัดกับความประพฤติร้ายกาจไหลลื่นซึ่งเป็นบุคลิกหลักที่เธอได้เห็นมาตลอด ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะมีอุปสรรคใดในชีวิตเหมือนคนทั่วไปเช่นกัน

การเป็นบุตรชายคนโตผู้สืบทอดตระกูลแอสทราอุสไม่น่าจะก่อให้เกิดความยุ่งยากมากไปกว่าการมีเรื่องน่ารำคาญใจในหมู่ญาติที่ล้วนแล้วแต่เป็นสตรี แต่เรื่องนี้ก็ไม่อาจนับเป็นปัญหาสำคัญจนถึงขั้นสร้างความลำบากให้ยูรัสได้ เพราะเท่าที่เห็นมารดาของอีกฝ่ายก็มักจะปล่อยให้เขาทำทุกอย่างตามอำเภอใจมิได้เข้มงวดมากนัก

แม่ของเธอเสียอีกที่เคร่งครัดกับธรรมเนียมปฏิบัติของเธอตั้งแต่เด็ก…

“ถ้าคุณไม่นับว่าการโตขึ้นมาในหมู่ผู้หญิงที่ชอบใช้อำนาจด้วยการจู้จี้จับผิดเด็กผู้ชายตัวเล็กๆไปทุกเรื่องว่าเป็นความลำบากทั้งกายและใจ ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกมันยังไงดี”

“เรียกว่า ดูแลเด็กเกเร น่ะสิ!” เสียงหวานสวนกลับทันควันเมื่อตระหนักว่าเพลี่ยงพล้ำตกหลุมหลอกขอความเห็นใจของอีกฝ่ายเข้าไปกว่าครึ่งค่อนตัว นึกขัดใจที่ลืมไปว่าสีหน้าและน้ำเสียงเรียบเรื่อยของอีกฝ่ายถูกใช้บ่อยแค่ไหนยามเจ้าตัวต้องการอะไรบางอย่างจากคู่สนทนา

นัยน์ตาสีเขียวมรกตปรายมองหล่อนพร้อมเสียงหัวเราะแผ่วชวนหงุดหงิดดังขึ้น วุฒิสมาชิกหนุ่มเผยยิ้มกว้างบอกความขบขันก่อนจะหันไปโรยผักประเภทเหง้าสีเหลืองอ่อนที่ซอยเป็นเส้นฝอยลงในซอสที่เริ่มเข้ากัน

“ก็ยังดี ถึงคุณจะทำอาหารไม่อร่อย แต่อย่างน้อยก็ยังมีอารมณ์ขัน”

คำเปรยลอยๆของร่างสูงเพรียวตรงหน้าส่งผลให้ดวงตาสีอ่อนจางตวัดมองแผ่นหลังกว้างอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง ชักแน่ใจว่าคำบอกเล่าเกี่ยวกับการประกอบอาหารของตนเองที่เปิดเผยให้ทราบเมื่อครู่มิได้ซึมซับเข้าไปในสมองของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“คุณคาดหวังให้ผู้หญิงทุกคนทำอาหารอร่อยงั้นหรือ” แคเทรียนรู้สึกข้องใจจนต้องเอ่ยปากถาม ยิ่งสนทนากันก็ยิ่งได้ทราบถึงทัศนคติชวนโมโหของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ

“ผู้หญิงชาวโลกที่มาอยู่กับผมทำอร่อยแทบทุกคน” ดวงตาสีจัดจ้าเหลือบมองหล่อนอีกครั้งก่อนจะพูดต่อโดยไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวได้สอดแทรก “ผู้หญิงที่อยู่กับเพื่อนผมก็เหมือนกัน ถึงอาหารของเธอจะดูแปลกตาไม่คุ้นเคย แต่รสชาติก็ใช้ได้ทีเดียว”

ชายหนุ่มยังจำได้ดีถึงการไปเยือนคฤหาสน์ของไซเร็คบนดาวอาริออสเมื่อไม่กี่วันก่อนคู่สนทนาจะถูกส่งมาให้เขา คู่รักที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ของเพื่อนรุ่นน้องลงมือปรุงอาหารด้วยตนเองแทนการใช้แอนดรอยด์หรือเครื่องประกอบอาหารตามปกติ แม้อาหารที่หล่อนเสิร์ฟจะดูแปลกตาไปจากสิ่งที่สาวๆของเขาเคยทำให้รับประทาน หากรสชาติอันจัดจ้านเกินกว่ารสนิยมของเขานั้นถึงอย่างไรก็ถือว่าดีกว่าที่ได้ชิมเมื่อครู่นี้พอสมควร

“เพื่อนคุณก็ซื้อผู้หญิงด้วย” ท้ายประโยคตวัดสูงขึ้นบอกความไม่พอใจปะปนกับแววดูแคลนในเพศชายอย่างชัดแจ้ง หากคนฟังก็ไม่แปลกใจเมื่อคิดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าหล่อนไม่เคยปรารถนาจะเป็นสินค้าของเอธานเลยสักครั้งเดียว

“ผู้ชายเป็นเพศที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการของตัวเองด้วยสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะสรรหาได้ครับ” ยูรัสตอบยิ้มๆพลางชิมซอสสีเหลืองอ่อนหอมกรุ่นที่ปรุงรสเสร็จเรียบร้อย รสชาติเค็มหวานเผ็ดซ่าติดปลายลิ้นและกลิ่นหอมอวลน่าพึงพอใจทำให้เขาตักซอสส่งให้หญิงสาวได้ลองชิมก่อนจะสนทนาต่อ

“ทุกคนมีสัญชาตญาณนี้ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นอภิมหาเศรษฐีในธุรกิจโทรคมนาคมอย่าง ไซเร็ค อิลราซาน”

มือขาวที่ยื่นออกมารับช้อนจากมือใหญ่ชะงักค้างกลางอากาศขณะที่ดวงตาสีฟ้าอ่อนซีดจางยิ่งกว่าเดิมตวัดขึ้นจ้องหน้าคู่สนทนาทันทีที่เขาพูดจบ หัวใจเต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่งยามได้ยินชื่อของชายหนุ่มที่หลงรักมานานหลายปี ทว่ากริยาส่งช้อนค้างของร่างสูงเพรียวเบื้องหน้าทำให้ได้สติและรีบรับช้อนมาถือไว้ในมือที่เริ่มเย็นเฉียบ

เป็นไปได้หรือที่ไซเร็คจะซื้อผู้หญิงชาวโลกมาบำเรอความใคร่ตัวเอง!?

“หมอนั่นมีสาวชาวโลกร่าเริงแจ่มใสเดินไปเดินมาในบ้านมาหลายเดือนแล้ว พบกันครั้งล่าสุดก็เห็นว่าอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากเพราะได้พยาบาลส่วนตัวดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี มีผู้หญิงน่ารักขี้เล่นคอยดูแลใกล้ชิดใครจะไม่ดีขึ้นได้ คุณว่าจริงมั้ยล่ะ เอ้า! ชิมแล้วบอกผมด้วยว่าอร่อยไหม” ยูรัสเอ่ยกลั้วหัวเราะก่อนจะหันกลับมามองเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปโดยที่ยังไม่ได้ชิมซอสฝีมือเขา ดวงหน้าขาวจัดดูเย็นชาละม้ายสวมหน้ากากน้ำแข็งผิดไปจากการแสดงอารมณ์บางอย่างเมื่อครู่ลิบลับ

“คุณเป็นอะไรไป ปอร์เชีย มีอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร” คนถูกถามส่ายหน้าก่อนจะส่งช้อนเข้าปากแล้วบอกอีกฝ่ายตามมารยาทแม้แทบจะไม่รู้สึกถึงรสชาติที่ได้ลิ้มลองเพราะยังคงคิดถึงบุคคลที่สามจนรู้สึกร้อนรุ่มในอก “รสดีนะคะ ฉันชอบ”

“ซอสมินเจอร์น่ะครับ” คนทำบอกชื่อก่อนจะหันกลับไปตักซอสสีเหลืองอ่อนราดบนเนื้อปลาในจานทั้งสองใบ โรยผงเครื่องเทศหยาบๆสองชนิดตามลงไปอีกครั้งแล้วชวนคุยต่อ “ในเมื่อคุณชอบ ทำอาหารคราวหน้าก็ทำรสชาติเท่านี้เถอะ ผมไม่ใช่พวกบ้ารักษาสุขภาพจนสามารถทนกินของไร้รสชาติได้นะ”

วุฒิสมาชิกสาวส่งเสียงตอบรับในลำคอไปตามเรื่องขณะเม้มริมฝีปากล่างยามถูกอารมณ์สับสนวุ่นวายใจจู่โจมโดยไม่คาดฝัน สมองแล่นฉิวด้วยเรื่องน่าขัดเคืองที่ได้ฟังจากการสนทนาระหว่างเตรียมอาหารครั้งนี้ ทั้งอารมณ์ความรู้สึกและประสบการณ์ในอดีตต่างส่งเสียงคัดค้านมิให้เชื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ทว่าคำบอกเล่าเปิดเผยไม่ปิดบังที่หลุดออกมาเพราะภาวะผ่อนคลายไม่ระมัดระวังตัว

ของยูรัสกลับสั่นคลอนความเชื่อมั่นในตัวไซเร็คได้จริงๆ

หากตกอยู่ในสถานการณ์อื่นเธอคงไม่ลังเลที่จะตอกกลับอีกฝ่ายให้เจ็บแสบโทษฐานหาญกล้าใส่ร้ายป้ายสีชายหนุ่มผู้เพียบ พร้อมเหมาะสม แต่ในขณะนี้เธอไม่รู้จริงๆว่าชายหนุ่มผู้ตกเป็นเป้าสนทนาทำอย่างที่ร่างสูงเพรียวบอกจริงหรือไม่!

แถมตอนนี้เธอยังยืนยันกับเขาไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนเองคือแคเทรียนตัวจริง…

แล้วความคิดที่แล่นปราดไปยังด้านที่เลวร้ายกว่าทันที…

ถ้าไซเร็คเกิดชอบผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาจริงๆเธอจะทำอย่างไร!?

ทั้งความรู้สึกและความพยายามที่ใช้ในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับชายหนุ่มผู้นั้นมาตลอด 8 ปีมิกลายเป็นการไล่คว้าสายลมกระนั้นหรือ…

“คุณเตรียมของหวานหรือยัง” เจ้าของบ้านถามเมื่อจัดเตรียมอาหารทั้งสองชนิดเรียบร้อยแล้ว แววสนใจในดวงตาสีเขียวมรกตเร่งให้หญิงสาวชาวบาโรวิทหลุดจากความหงุดหงิดกระวนกระวายใจได้เป็นอย่างดี “ถ้าคุณยังไม่มีแผนผมจะจัดการเอง”

“ยังไม่มีค่ะ”

ดวงหน้าคมคายพยักรับก่อนจะเดินไปเปิดตู้ติดผนังอีกใบแล้วยกกล่องรักษาความเย็นออกมาเปิดให้หญิงสาวได้เห็นของที่อยู่ภายใน ภายใต้ไอเย็นที่ลอยขึ้นมาคืออาหารสีครีมเหลืองอัดแน่นเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามลักษณะกล่องบรรจุ พอชายหนุ่มใช้ช้อนขูดก็เกิดรอยคลื่นตามทิศทางการลากช้อนจนคนมองแน่ใจว่ามันสามารถละลายกลายเป็นน้ำได้หากวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง

“ลองสิ”

คำเร่งของอีกฝ่ายกระตุ้นให้ร่างโปร่งบางส่งช้อนเข้าปาก ความเย็นและรสชาติหอมหวานนุ่มนวลละเมียดละไมแผ่กระจายไปทั่วปากจนแคเทรียนได้แต่กะพริบตาปริบๆอย่างคาดไม่ถึง ดวงตาสีอ่อนจางเบิกกว้างมองคู่สนทนาด้วยความรู้สึกอัศจรรย์ใจก่อนจะก้มลงพิจารณาของหวานที่ได้ลิ้มรสด้วยความสนใจอย่างยิ่ง

“นี่อะไรคะ” ความสนใจใฝ่รู้ของหญิงสาวชาวบาโรวิทเริ่มทำงานทันทีที่พบว่าตนเองไม่รู้จักอาหารชนิดนี้แม้อารมณ์จะอยู่ในภาวะผิดปกติ สมองค้นความทรงจำอย่างรวดเร็วก่อนพบว่าถึงจะเคยรับประทานอาหารพื้นเมืองของรีเอสก็ไม่เคยพบอะไรที่มีรสชาติแบบนี้มาก่อน “ฉันรู้ว่ามันมีน้ำตาลกับนม หรือไม่ก็ครีม ผสมอยู่ด้วย แต่รสชาตินี้คืออะไรหรือคะ”

“ครับ มันมีส่วนผสมทั้งหมดที่คุณว่ามานั่นแหละ แต่อย่าถามนะว่ามันทำขึ้นมาได้ยังไง เลขาส่วนตัวผมเรียกมันว่าไอศกรีมวานิลลา” เสียงทุ้มนุ่มนวลตอบกลับอย่างร่าเริงขณะเริ่มตักไอศกรีมใส่ปากบ้าง “อืม...เวโรนิก้าแวะมาที่นี่เมื่ออาทิตย์ก่อนพร้อมกับไอศกรีมสองกล่อง เห็นบอกว่าเป็นของหวานจากโลก ผมกินหมดไปกล่องหนึ่งแล้วล่ะ อร่อยดีนะ”

“คุณจ้างเลขาจากโลกด้วยเหรอ”

แคเทรียนหันขวับกลับมาทางชายหนุ่มเมื่อได้ยินคำบอกเล่าน่าสนใจที่ไม่เคยรู้มาก่อน โดยทั่วไปแล้วชาวโลกที่มาอาศัยอยู่ในดาราจักรเซเฟรัสมักจะเป็นคนที่ถูกนำตัวมาด้วยจุดประสงค์แตกต่างกันไป หากการจ้างงานกลุ่มคนเหล่านี้กลับมีอัตราต่ำเสียจนหลายๆคนต้องประกอบอาชีพที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม แถมบางคนก็อยู่ในภาวะจำยอมต้องกลายเป็นมิจฉาชีพไปในที่สุด

“ถ้าคุณทำตัวดีผมก็จะหางานให้ทำเหมือนกันนะ” คำพูดยิ้มๆของยูรัสยิ่งสร้างความฉงนให้คนถามมากกว่าเดิม และสีหน้าไม่เข้าใจของเธอก็คงฉายชัดจนเขาต้องขยายความมากขึ้น “เวโรนิก้าก็เหมือนคุณนี่แหละ เขาเคยอยู่กับผมมาก่อน ตัวเขาเองเป็นคนมีความสามารถ เป็นผู้หญิงที่เก่งทีเดียว ผมก็เลยหางานที่เหมาะสมให้เขาทำ”

“ฮึ!” คนที่ควรจะทำตัวดีส่งเสียงเบาๆในลำคอพลางหันหน้าหนีไปอีกทางหลังได้ทราบความจริงที่ว่าอีกฝ่ายจ้างมนุษย์ต่างดาราจักรทำงานเพียงเพราะหล่อนผู้นั้นประพฤติปฏิบัติตัวได้ถูกใจเขา อารมณ์เริ่มขุ่นมัวอีกครั้งเมื่อตระหนักว่าความพยายามในการช่วยเหลือดูแลเพื่อนมนุษย์เพศเดียวกันของตนเองยังมีอุปสรรคสำคัญอย่างทัศนคติอันเลวร้ายของเพศชายขัดขวางอยู่ คิดแล้วหญิงสาวก็ยิ่งหงุดหงิดขัดใจที่ชีวิตในช่วงสามสัปดาห์หลังนี้มีแต่เรื่องเกินคาดเดาทั้งสิ้น

ทั้งการถูกลักพาตัวออกมาจากชีวิตประจำวันด้วยสาเหตุที่ยังไม่กระจ่างชัด…

ผู้ซื้อมักมากในกามที่กลายเป็นคนรู้จักคุ้นเคยกันดีซึ่งไม่ยอมเชื่อว่าเธอเป็นตัวจริง…

ไปจนถึงชายหนุ่มที่หลงรักชื่นชมมานานซื้อผู้หญิงต่างกาแล็กซีมาเป็นเครื่องบำเรอความใคร่เช่นเดียวกับผู้ชายนิสัยแย่ๆตรงหน้า…

ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใดก็ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับตนเองโดยเลี่ยงไม่ได้เลยสักอย่างเดียว!

“อย่าเพิ่งหงุดหงิดสิครับ ลองชิมนี่ดูดีกว่านะ”

เมื่อหันหน้ากลับมาตามเสียงเชิญชวนก็พบกับของหวานสีสวยงามน่ารับประทานในถ้วยแก้วเจียระไนทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไอศกรีมวานิลลาสีครีมเหลืองโรยหน้าด้วยผลไม้สีแดงสดผลจิ๋วผิวเป็นมันวาวสะท้อนแสงไฟและผงเครื่องเทศสีน้ำตาลอ่อนส่งกลิ่นหอมหวานยิ่งกว่าเดิม
ครั้นดวงตาสีอ่อนจ้องมองด้วยความสนใจชายหนุ่มก็ใช้ช้อนเงินตักป้อนและไม่ยอมปล่อยให้มือขาวจัดแย่งไปถือเอง แคเทรียนจึงต้องรีบอ้าปากรับขจัดความเก้กังอิหลักอิเหลื่อออกไปโดยเร็ว

เพียงลิ้มรสคำแรกความหวานละมุนของไอศกรีมที่ใช้ครีมและนมเป็นส่วนผสมซึ่งเข้ากับรสเปรี้ยวแหลมของผลไม้ได้เป็นอย่างดีก็แผ่กระจายไปทั่วปาก กลิ่นหอมจากเนื้อเนียนนุ่มของไอศกรีมและกลิ่นเฉพาะของผลไม้ถูกสนับสนุนด้วยเครื่องเทศที่อีกฝ่ายโรยทับให้เข้มข้นโดดเด่นกว่าเดิมกระตุ้นประสาทรับรู้รสของหญิงสาวให้ปรารถนามากยิ่งขึ้น

“ส่งมาให้ฉันเถอะค่ะ”

ร่างสูงเพรียวส่ายหน้าปฏิเสธทันทีที่มือขาวจัดแบออกแทนคำขอถ้วยของหวานจากเขา แล้วเจ้าของบ้านก็ตักไอศกรีมขึ้นมารอสาวชาวบาโรวิทก่อนหล่อนจะได้ทักท้วงให้วุ่นวาย

นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจางตวัดขึ้นสบกับดวงตาสงบนิ่งที่มองตรงมาแวบหนึ่งก่อนหลุบลงมองของหวานแสนอร่อยแล้วจึงยอมเปิดริมฝีปากสีชมพูระเรื่อรับ ยามลิ้นแตะไอศกรีมเย็นฉ่ำแคเทรียนก็เผลอหลับตาดื่มด่ำไปกับรสชาติชวนฝันด้วยความชื่นชมจากใจจริงโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมองตนเองด้วยสายตาอย่างไร

ภาพสาวสวยผู้สง่างามและเยือกเย็นหลับตาพริ้มอย่างพึงใจหลังชิมของหวานที่มีลักษณะไม่ต่างจากตัวหล่อนนั้นจุดความยินดีขึ้นในส่วนลึกของคนมอง ชายหนุ่มเพ่งพิศความงดงามเบื้องหน้าไม่นานก็วางถ้วยขนมหวานลงบนตู้ไม้เบื้องหลังหญิงสาวโดยปราศจากเสียง ปลายนิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นมาปาดคราบไอศกรีมที่เลอะรอบปากบางอย่างแผ่วเบา

สัมผัสประหลาดเร่งให้วุฒิสมาชิกสาวลืมตาขึ้นดูว่าเกิดจากอะไร หากร่างงามที่กำลังจะขยับกายก็ชะงักไปยามสายตาปะทะเข้ากับประกายแพรวพราวซึ่งปรากฏขึ้นในดวงตาสีเขียวพร่างที่อยู่ห่างออกไปเพียงฝ่ามือเดียว

วินาทีนั้นแคเทรียนก็ตระหนักทันควันว่าตนเองเข้าใกล้อีกฝ่ายมากเกินไปเสียแล้ว…

ยูรัสคลี่ยิ้มใส่ตาอีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆเลียนิ้วตนเองให้อีกฝ่ายเห็นชัดเจน รสหวานอมเปรี้ยวของไอศกรีมใส่ผลไม้จากปลายนิ้วทวีความเย้ายวนยิ่งขึ้นเมื่อหล่อนจ้องตรงไม่หลบตา และอากัปกิริยาของหญิงสาวก็สนับสนุนให้เขาตวัดลิ้นเลียปลายนิ้วด้วยลีลาเชื่องช้าอ้อยอิ่งราวกับจะใช้การกระทำแทนคำสัญญาถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ยิ่งมองวุฒิสมาชิกสาวก็ยิ่งรู้สึกว่ากระแสอากาศเย็นจัดจนเกือบหนาวของฤดูใบไม้ร่วงที่ไหลวนเวียนอยู่ในห้องครัวเริ่มอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับเครื่องควบคุมอุณหภูมิหลักของบ้านเพิ่งถูกเปิดใช้งาน ของเหลวรสหวานอมเปรี้ยวที่กำลังละลายอยู่ในปากให้ความรู้สึกหนืดข้นละม้ายน้ำตาลกลายเป็นแป้งเปียกได้ในไม่กี่วินาที ก้อนเนื้อในอกสั่นไหวพร้อมๆกับลมหายถี่กระชั้นซึ่งเกิดขึ้นเองโดยไม่อาจห้ามได้

“อีกคำสิ” ชายหนุ่มคะยั้นคะยอเบาๆพร้อมตักไอศกรีมขึ้นป้อนหญิงสาวชาวบาโรวิทอีกครั้ง แววลึกล้ำในดวงตาสีเขียวมรกตจับจ้องใบหน้างามไม่คลาดคลาย “สิครับ”

แคเทรียนสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนตัดสินใจรับข้อเสนอของคู่สนทนา ความรู้สึกปั่นป่วนแปลกประหลาดที่เกิดจากพฤติกรรมของอีกฝ่ายเร่งให้หาคำตอบอันประกอบไปด้วยเหตุผลมาอธิบายเช่นทุกครั้งที่เคยเกิดข้อสงสัย หากครานี้เธอไม่แน่ใจเลยสักนิดว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้เหมาะสมหรือไม่

เมื่อของหวานรสเลิศหายลับเข้าไปในปากหญิงสาว คนป้อนก็ขยับกายเข้าประกบริมฝีปากในทันที!

การจู่โจมของยูรัสส่งผลให้ร่างโปร่งบางก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณแห่งการหลบหนี หากตู้ติดผนังสูงท่วมศีรษะที่ตั้งอยู่ทำให้ไม่อาจเลี่ยงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้…

ดวงหน้าขาวจัดรีบเบือนซ้ายป้องกันมิให้อีกฝ่ายสมปรารถนาตามตั้งใจ ทว่ามือใหญ่กระด้างก็ประคองแก้มเนียนไว้ในอุ้งมือพลางไล้ลิ้นบนริมฝีปากด้านนอกด้วยการเคลื่อนไหวแบบเดียวกับที่เห็นเมื่อสักครู่ สัมผัสแผ่วเบาในตอนแรกเริ่มขยับสำรวจกลีบปากระเรื่อสีนุ่มนวลอ่อนโยนจนหญิงสาวเผลอครางแผ่วอย่างประหลาดใจ ลิ้นร้อนรีบฉวยโอกาสแทรกสอดเข้ามาในปากลากโลมไล้ไปตามไรฟันขาวเรียงเป็นระเบียบพร้อมกับการลูบไล้ขาอ่อนที่มีกระโปรงยาวครึ่งแข้งปกคลุมราวกับมีเวลาสำหรับการค้นหาทั้งวัน

รสสัมผัสทางกายอันแปลกใหม่ยั่วยวนให้คนไร้ประสบการณ์ผู้กระหายใคร่รู้กระโดดเข้าทดลองยามผสานเข้ากับรสชาติหอมหวานชุ่มฉ่ำในปากช่วยเร่งเร้าให้แคเทรียนตอบสนองต่อความวาบหวิวซึ่งแล่นวาบไปทั่วร่าง เลือดในกายสูบฉีดตามแรงกระตุ้นเร้าจากมือใหญ่ที่สอดเข้าไปเคลื่อนไหวอยู่ใต้กระโปรงจนดวงหน้างามร้อนผะผ่าว มือขาวจัดเลื่อนขึ้นมาเกาะกุมบ่ากว้างไว้แน่นเมื่อไม่อาจต้านทานกระแสอารมณ์พิศวาสที่หลั่งไหลเข้ามาในกายได้

กลิ่นหอมจากผิวสาวผ่านเข้านาสิกประสาทก่อกวนให้เลือดในกายเจ้าของบ้านระอุขึ้นทีละน้อย รสชาติอันเลิศล้ำของไอศกรีมและผลไม้ที่รอคอยให้ตักตวงเพิ่มพูนแรงปรารถนาจนอดใจละเลียดต่อไปไม่ไหว วุฒิสมาชิกหนุ่มจึงเริ่มตักตวงความหอมหวานชวนติดใจที่อีกฝ่ายอนุญาตให้ทำได้ตามใจชอบปราศจากคำทักท้วงใดๆ

ปฏิกิริยาตอบรับของอีกฝ่ายบอกให้ชายหนุ่มรู้ว่าหล่อนกำลังเคลิบเคลิ้มกับจุมพิตหวานล้ำอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมละมุนละไมจากของหวานซึ่งมีผลในการกระตุ้นอารมณ์ให้แรงขึ้น ร่างสูงเพรียวดันหญิงสาวให้ก้าวถอยหลังไปทางเคาน์เตอร์เตรียมอาหารกลางห้องแล้วยกร่างโปร่งบางขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปยืนกลางระหว่างขาเรียวสวย มือลูบไล้แผ่นหลังบอบบางวนลงไปสู่สะโพกกลมกลึงและต้นขาทั้งสองพร้อมควานหารสชาติลึกล้ำในปากอบอุ่นไปด้วยกัน ทั้งผิวเนียนละเอียดใต้ฝ่ามือและเสียงครางพร่าจากลำคอระหงยิ่งสร้างความพึงใจให้ทวีขึ้นอีกหลายเท่า

ร่างโปร่งบางบิดกายไปมาตามลีลาการคลึงเคล้าไม่หยุดนิ่งของมือใหญ่กระด้าง ความร้อนแรงแผดเผาอารมณ์ความรู้สึกจนสาวชาวบาโรวิทอึดอัดขัดในอกราวกับหัวใจถูกรัดแน่นหนา ความเยือกเย็นที่เคยดำรงอยู่มาตลอดชีวิตระเหยหายกลายเป็นไอจนเหลือเพียงกองเพลิงรุมร้อนแลบเลียทั้งกายใจ

โดยเฉพาะเมื่อนิ้วเรียวยาวเริ่มลูบไล้ท้องน้อยและไล่ต่ำลงไปยังบริเวณที่ไม่เคยมีบุรุษเพศคนใดได้แตะต้องมาก่อน…

มือขาวจัดรีบคว้าข้อมือใหญ่ไว้มิให้ล่วงล้ำอธิปไตยของเพศหญิง หากชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์ในกิจกรรมที่กำลังกระทำอยู่แค่บิดข้อมือออกก็สามารถรุดหน้าต่อไปได้ มิหนำซ้ำยังช้อนต้นคอระหงรุกรานกลีบปากนุ่มหนักหน่วงขึ้นไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีเวลาคิดหาหนทางหลีกเลี่ยงสัมผัสอันแสนรัญจวนใจ

ลิ้นร้อนที่กระหวัดยั่วเย้าพลิกพลิ้วช่วยสุมเพลิงราคะในกายให้ร้อนแรงขึ้นกว่าเดิม สัมผัสจากปลายนิ้วอันละม้ายเปลวไฟลามเลียที่วนเวียนอยู่บนจุดอ่อนไหวยิ่งทำให้แคเทรียนวาบหวามจนครางไม่เป็นภาษา สะโพกกลมกลึงเริ่มขยับตามลีลาการเคลื่อนไหวที่วุฒิสมาชิกหนุ่มบงการละม้ายกำลังเต้นรำไปตามจังหวะดนตรี

ทุกครั้งที่ยูรัสควานหาไอศกรีมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปากไปพร้อมกับเล้าโลมร่างกายเบื้องล่าง วุฒิสมาชิกสาวก็รู้สึกราวกับปอดและหัวใจพากันบีบรัดขับไล่อากาศออกไปเสียสิ้น…

สาวสวยหลับตาพริ้มปล่อยกายไปกับความรู้สึกแปลกใหม่น่าตื่นตาตื่นใจโดยไม่รู้ตัว กล้ามเนื้อส่วนต่างๆที่เกร็งเครียดค่อยๆผ่อนคลายจนร่างกายแทบจะละลายกลายเป็นน้ำในอ้อมแขนล่ำสัน ของหวานที่รับประทานมาก่อนหน้าส่งผลให้จุมพิตแรกระหว่างกันนี้รุมร้อนเร้าอารมณ์จนหญิงสาวไม่แน่ใจว่าตนเองจะทานทนไหวหรือไม่

แต่ความคิดนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน…

การเคลื่อนไหวทุกอย่างของร่างสูงเพรียวหยุดชะงักในขณะที่หญิงสาวชาวบาโรวิทกำลังเพลิดเพลินอยู่กับโลกียรสทางกายซึ่งได้พานพบเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มปลดแขนเรียวเสลาออกจากลำคอแล้วก้าวถอยหลังเว้นระยะห่างระหว่างกันโดยปล่อยให้ดวงหน้างามแหงนเงยค้างเช่นเดียวกับท่านั่งที่นำเสนอตนเองด้วยการเอนกายไปเบื้องหลัง เพ่งพิศนัยน์ตาสีอ่อนจางที่ยังลอยคว้างเคลิบ เคลิ้มก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปยังแก้มแดงก่ำและริมฝีปากบวมเจ่อชุ่มฉ่ำแวววาวยามต้องแสงไฟอยู่ครู่ใหญ่

แล้วรอยยิ้มมุมปากอันแสนร้ายกาจที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคายก็เรียกสติร่างในอ้อมแขนกลับมาได้ในไม่กี่วินาที!

แคเทรียนกะพริบตารวบรวมสติสัมปชัญญะที่กระเจิดกระเจิงไปเพราะความชำนาญของอีกฝ่ายหลายครั้งก่อนจะตระหนักว่าตนเองนั่งอยู่ในท่วงท่าใด ประกายระยับในดวงตาสีเขียวมรกตที่มองตรงมาส่งผลให้สีเลือดฉีดขึ้นบนแก้มอย่างรวดเร็ว มือขาวจัดรีบดึงกระโปรงลงปิดท่อนล่างด้วยความอับอายขายหน้ากับสภาพอันไม่น่าจะต่างอะไรกับผู้หญิงร่านร้อนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อสนองตัณหาให้ลุล่วง

แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยคำใดออกไปชายหนุ่มก็หันกลับไปหาอาหารที่ปรุงไว้เรียบร้อยแล้ว…

กิริยานั้นช่วยให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นที่ไม่ต้องแสดงอาการเงอะงะวางตัวไม่ถูกเพราะความอึดอัดปนละอายให้เขาเห็น หากอารมณ์หลากหลายที่ยังสับสนวุ่นวายเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่นาทีกลับไม่ยอมสงบลงตามไปด้วย

“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้”

น้ำเสียงที่แม้จะพยายามควบคุมให้ราบเรียบก็ยังแหบพร่าสั่นสะท้านด้วยอารมณ์ที่ตกค้างอยู่ยิ่งทำให้คนพูดหงุดหงิดตนเองเช่นเดียวกับไม่เข้าใจในการกระทำของอีกฝ่าย ตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงเพรียวที่ยกจานอาหารขึ้นจากเคาน์เตอร์เพื่อนำไปยังห้องรับประทานอาหาร

และคำตอบที่ได้รับก่อนยูรัสจะออกประตูหายลับไปจากคลองจักษุก็ทำให้คนถามตัวแข็งทื่อในพริบตา!

“ผมไม่ชอบการลงทุนลงแรงโดยไม่ได้อะไรตอบแทน ถ้าคุณตอบแทนผมได้เมื่อไร เราค่อยมาต่อก็แล้วกัน”




TBC.




เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อ่านแล้วอย่าลืมบอกกันบ้างเน้อว่าชอบหรือไม่ชอบ หรือจะช่วยจับไก่กันบ้างก็ดีค่ะ ไม่รู้หลุดไปตรงไหนบ้างหรือเปล่า ^^'

ตอนหน้าจะมีหนุ่มๆโผล่มาเยอะกว่านี้ด้วยนะคะ และเธรอน สุดหล่อกวนประสาทขวัญใจใครหลายๆคนก็จะกลับมามีบทบาทที่สำคัญมิใช่น้อยในเรื่องนี้ด้วยละค่ะ

พบกันในตอนหน้านะคะ




ปุณณารมย์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 มิ.ย. 2556, 21:16:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มิ.ย. 2556, 21:20:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1237





<< ตอนที่ 1   ตอนที่ 3 >>
ปุณณารมย์ 28 มิ.ย. 2556, 21:20:32 น.

ตอบคอมเมนต์จากตอนที่แล้วค่ะ ^^b

คิมหันตุ์
รับไอศกรีมวนิลาระหว่างรอตอนต่อไปด้วยมั้ยคะ ^^

minafiba
ยิ้มกว้างแบบนี้ระวังหุบไม่ลงน้า คริคริ



คิมหันตุ์ 29 มิ.ย. 2556, 09:02:16 น.
โอ้ว....อยากกินไอติมแบบนี้บ้างจัง...ฮ่าฮ่า
รอดูต่อไปว่า ยูรัสจะทำอะไร...เปลี่ยนอารมณ์ได้แบบ เร็วม๊ากกก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account