ฟองฟ้า ตอน กามเทพจุ้นจ้าน
เรื่องนี้เป็นนิยายชุด 3 พี่น้อง ฟองฟ้า ฟองฟาง ฟองฝัน สามศรีพี่น้องจะทำอย่างไร เมื่อเจอบุบเพอาละวาดครั้งใหญ่

ชื่อ ชุด คิวปิดแอบสะกิดรัก (อ่านแบบแยกเรื่องได้คร่าาา) โดยเริ่มต้นที่

ฟองฟ้า พี่คนโตต้องทำอย่างไรเมื่อต้องอยู่ใกล้ ชยังกูร โรมาโน่ อันโดรชินี

โดยมีเด็กๆที่ริอาจเป็นพ่อสื่อ(โดยมิได้ตั้งใจ)

Tags: หวานๆ+บู้นิดๆ+ชีวิตหน่อยๆ(หน่อยเดียวจริงๆ)

ตอน: ตอนที่ 2


2


แม้นงานศพของน้องสาวและน้องเขยจะผ่านพ้นมาหลายวันแล้ว แต่เรื่องระหว่างเขาและหลานๆ ยังไม่จบ! เมื่อท่านทูตฯ และ ภริยา ไม่อนุญาตให้เขาเป็นผู้ปกครองของหลานๆ เพราะ...อาฟามิโอ ของเขา หรือ พ่อแท้ๆ ของแอนนี่นั่นเอง เป็นความจริงที่ทำให้นักธุรกิจใหญ่ที่หลายคนแอบขนานนาให้ว่ามาเฟียไม่ยอมใครอย่างเขา...ชยังกูร โรมาโน่ อันโดรชินี...ทยาทอันดับสามของคาร์โลกรุ๊ปเถียงไม่ออกจริงๆ
แอนนี่แก้วตาดวงใจของอาฟามิโอและป้าเชลวี่ ตัดสินใจแต่งงานกับ ภวัตร สถาปนิกหนุ่มชาวไทยอนาคตไกลซึ่งเป็นนักเรียนทุนปริญญาโทที่มาศึกษาต่อยังประเทศอิตาลี ทำให้ท่านโกรธและเสียใจเป็นอย่างมาก ในสายตาของคนเป็นพ่อไอ้หนุ่มต่างแดนผู้นี้ไม่มีอะไรเทียบเท่าลูกสาวคนเดียวของรองประธานคาร์โลกรุ๊ปได้เลย และที่สำคัญท่านได้หาคู่ครองให้แอนนี่เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกล ลูกชายของเพื่อนรักซึ่งเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของกลุ่มมาเฟียปูลเหยีย (Puglia Mafia) เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่แนวหน้าของประเทศ ที่เหมาะสมกันทุกด้าน ทั้งฐานะ หน้าตาและชื่อเสียงทางสังคม แต่...จะต่างก็ตรงเรื่องของหัวใจ ที่ไม่มีใครสามารถบังคับได้ และไม่ว่าอาของเขาจะพยามขัดขวางความรักของคนทั้งคู่เท่าไหร่ก็ไม่สามารถแยกทั้งสองจากกันได้
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อสาวน้อยคนเดียวของตระกูลหันหลังให้บ้านเกิดเพื่อไปลงหลักปักฐานยังเมืองไทยที่อยู่ห่างไกลกันคนละทวีป อาฟามิโอที่ผิดหวังอยู่แล้วยิ่งกราดเกรี้ยวรุนแรงขึ้นไปอีก ถึงกับประกาศตัดพ่อตัดลูกทันที ไม่ว่าหล่อนจะเพียรขอความเมตตาหรือขอโทษเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทำให้ความเสียใจของท่านลดน้อยลงได้เลย

โรมได้แต่ถอนหายใจ...เพราะเส้นทางความรักของทั้งคู่น่าเห็นใจไม่น้อย กว่าจะฝ่าฟันจนได้อยู่ร่วมกันอย่างทุกวันนี้ แม้นกระทั่งเขาเองยังอดนับถือในน้ำใจลูกผู้ชายของภวัตรไม่ได้ ไอ้หนุ่มไร้น้ำยาที่อาของเขาปรามาส คนที่โดนซ้อมปางตายโดนขังไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน แต่มันกลับสู้ไม่ถอยไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจเพื่อพิสูจน์ตัวเอง...ให้ทุกคนยอมรับ แต่กลับใช้ไม่ได้กับว่าที่พ่อตาอย่าง ฟามีโอ อันโดรชินี
ทำให้แอนนี่สาวน้อยน่ารักแสนหวานหนึ่งเดียวในตระกูลลุกขึ้นมาแสดงความเข้มแข็ง และตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเป็นครั้งแรกเพื่อคนรักโดยที่ไม่มีใครคาดคิดว่าน้องสาวคนเล็กของตระกูล...จะกล้า! เธอยื่นคำขาดกับพ่ออย่างไม่เคยทำ...ประกาศเอาชีวิตตนเองเข้าแลกเมื่อเห็นภาพสะบักสะบอมของคนรักที่บาดเจ็บสาหัสจากด้วยฝีมือคนของพ่อเธอเอง! ภาพที่น้องสาวกรีดร้องตะโกนปกป้องคนรักน้ำตานองยังคงฝังติดตาเขาไม่จาง...ถ้าเขาตาย เธอก็จะตายไปด้วยกัน...

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ในตระกูลแต่ก็มันก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวตัวเขาเองหรือแม้นแต่มาติโน่พี่ชายคนโตของเขาซึ่งเป็นผู้นำกระกูลคนปัจจุบันที่ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหอกสำคัญของคาร์โลกรุ๊ปเองก็ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายเรื่องภายในครอบครัวของคุณอา เมื่อถึงจุดแตกหัก...ทุกคนได้แต่อึ้งและพูดไม่ออกกับความใจเด็ดของน้องสาวคนเล็ก

จนในที่สุดอาฟามิโอที่ไม่เคยยอมให้ใครง่ายๆ ต้องยอมถอยให้ลูกสาว ...ความโกรธ ความเสียใจ...ที่ผ่านมา ไม่เทียบเท่าความผิดหวังที่มีต่อลูกสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวที่เห็นผู้ชายคนอื่นดีกว่าพ่อ และแม้น้องสาวเขาจะอ้อนวอนขอโทษใช้ความน่ารักของเอเธนส์และลอนดอนเข้าหา แต่อาฟามิโอก็ไม่เคยให้อภัยหรือใส่ใจแม้นแต่น้อย เรื่องนี้ทุกคนในครอบครัวของ ภวัตรเองรู้ดีจึงไม่มีใครต้องการให้เขานำเอเธนส์และลอนดอนไปเผชิญกับความเกลียดชังของคุณตา! โดยเฉพาะหญิงสาวที่เป็นทั้งอาและแม่ทูนหัวของเจ้าสองเมือง...เอเธนส์! ลอนดอน!

ความศูนย์เสียสาวน้อยหนึ่งเดียวในตระกูลถือเป็นเรื่องใหญ่ เดิมทีมาร์ตี้หรือมาติโน่พี่ชายคนโตต้องมอบหมายหน้าที่ป้องกันแบบนี้ให้ฟรานเชสโก้ พี่ชายคนรองดูแล ทว่าพี่ชายเขาเองก็เจองานเข้าอย่างจัง เหมือนกัน เมื่อเขาตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนางแบบสาวที่มีเบื้องหลังไม่ธรรมดา ถึงฟรานจะงัดหลักฐานพิสูจน์ตนเองได้ว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ชื่อเสียงที่เสียไปก็เรียกกลับคืนได้ยาก ฟรานโดนมาร์ตี้คาดโทษเรื่องความเสเพลที่ไม่มีขอบเขตจนกลายความประมาทเลินเล่อทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา และกลายเป็นตัวจุดฉนวนความศูนย์เสียน้องสาวไป

เขาถูกพี่ชายคนโตส่งไปฝึกพิเศษพี่รัสเซียกับอดีตครูฝึกของพี่ชายคนโต ดาวุช อัลเลโม่ เป็นเวลาหนึ่งเดือนด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นคอสดัดนิสัยและลงโทษพี่ชายคนรองไปในตัว เพราะครูฝึกคนนี้ประวัติไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้รับความไว้วางใจจากปู่และพ่อของเขาให้เป็นครูฝึกประจำกูลที่มีหน้าที่ฝึกว่าที่ผู้นำตระกูลทุกรุ่นแน่นอน!

“นายครับ” เสียงเรียกของคนสนิททำให้โรมาโน่ตื่นจากภวังค์
“ว่าไง ทุกอย่างเรียบร้อยนะ” เขาจิบกาแฟ
“ครับวันนี้ผมให้คนของเราไปเคลียร์พื้นที่และทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วไม่มีอะไรน่ากังวลครับ ส่วนข้าวของและเอกสารทั้งหมดพร้อมย้ายเข้าบ้านของคุณหนูแอนนี่ได้เลยครับ”
“อืม ขอบใจ”



“หมี่มี้คาบ จ้วยเอด้วยคาบบบ...อ๊ายยย” ฟองฟ้าอ้าแขนรับร่างอ้วนกลมของเอเธนส์น้อยที่บนหัวประดับด้วยมงกุฎกระดาษระบายสีนำเป็นย่อมๆ มีผ้าสีน้ำตาลคลุมหลังในมือมีดาบและปืนประดาษ หน้าตามอมแมม วิ่งถลาหน้าตั้งตามาฟ้องเธอด้วยความเร็ว โดยมีฟองฝันแกล้งวิ่งไล่ต้อนตามมาติดๆ
“อย่าวิ่งเร็วนักซิลูก ระวังล้มนะจ๊ะ”
“อ๊ายยย หยุดน่ะ เจ้าโจรน้อย ตอนนี้ตำรวจล้อมบ้านไว้หมดแล้ว ฮาๆ” ฟองฝันที่รับบทเป็นตำรวจยกปืนกระดาษขึ้น จนจอมโจรน้อยต้องวิ่งไปหลบหลังหมี่มี้ของแกเหมือนจะลืมว่าตนเองก็มีอาวุธเช่นกัน แล้วโจรน้อยและตำรวจตัวโตก็เอาแต่วิ่งไล่กวดไปมาส่งเสียงร้องกรี๊ดกร๊าดดังลั่นไปทั่วบ้าน ฟองฟ้าส่ายหน้ากับเด็กเล็กและเด็กโข่งที่ยังคงไม่ยอมแพ้ก่อนโผเข้ามาหาเธออีกรอบ มือเล็กๆ พยายามดึงเธอลงมาป่ายเข้าหาคล้องคอจะให้อุ้ม
“แฮ๊กๆ เอเหนือๆ ม่ายเอาแล้ว หมี่มี้จ๋า จ้วยด้วยๆ อิอิ” แต่ตำรวจโข่งไม่ยอมแพ้เอามือแซะจี้พุงน้อยๆ อย่างลงโทษ
“นี่แนะๆ โจรร้ายต้องโดนลงโทษ”
“อ๊ายย...ฮิๆ ฮาๆ ม่ายน้า...”ฟองฟ้าอุ้มเอเธนส์หมุนรอบๆ ช่วยหลบเลี่ยงตามคำร้องขอแต่ก็ไม่พ้น เสียงสามคนอาหลานประสานดังจนคุณวิศณีที่ยังไม่ได้เดินทางกลับเชียงใหม่ต้องออกจากครัวมาเรียกทั้งสามไปรับประทานอาหารว่าง วันที่เธอแสดงฝีมือทำกระทงทองของโปรดเอาใจลูกสาวอย่างฟองฝัน โดยไม่ลืมเรียกฟองฟางที่รับหน้าที่นอนกลิ้งเป็นเพื่อนลอนดอนข้างมุมของเล่นเล็กๆ ใกล้ระเบียง แล้วออกมาด้านนอกตามเสียงหัวเราะร่าของลูกและหลาน
“หนูฝันลูกพอก่อนจ๊ะ เห็นไหมหลานหอบแล้วนะ หนูฟ้าก็ด้วยกลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วลงมาทานของว่างดีกว่าจ๊ะ วันนี้น้าทำกระทอง...ของโปรดใครน้า”เธอแสร้งถาม
“ฝันค่ะ/เอค๊าบ” ฟองฝันและเอเธนส์ยกมือประสานเสียงพร้อมกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนคุณวิศณีอมยิ้มกับเด็กเล็ก เด็กใหญ่ ตกลงลูกเธออายุเท่าไหร่กันแน่เนี่ย...ดูซิยังเล่นเป็นเด็กอยู่เลย
ฟองฟ้าสบตากับคุณวิศณีอย่างรู้สึกไม่ต่างกันนัก แม้นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ทำให้หลานเธอเป็นเด็กกำพร้า แต่ทุกคนจะไม่ยอมให้หลานต้องเสียรอยยิ้มและความสุขในชีวิตที่เหลือเป็นอันขาด! เธอและน้องๆ ตกลงกันว่าให้ทำตัวเหมือนทุกวันไม่แปลก ไม่แตกต่าง ค่อยๆ ให้หลานเริ่มชินกับความเปลี่ยนแปลงที่จะไม่มีพ่อจ๋า แม่จ๋าทีละน้อย
ร่างระหงในชุดสีดำไว้ทุกข์ของฟองฟ้าทำท่าหมุนตัวตามน้าสะใภ้เข้าบ้านก่อนชะงักอย่างนึกขึ้นได้ เหลียวมองไปยังบ้านข้างๆ ที่มีคนชุดดำขวักไขว่าต่างไปจากทุกวัน
“แล้วคนบ้านโน้นล่ะคะน้าณี” คุณวิศณีชะงักมองตามสายตาของหลานสาวไปยังบ้านของภวัตรและแอนนี่ที่ตอนนี้โดน ลุง หรือ ปาป้า ตามคำเรียกของเอเธนส์น้อยยึดเป็นเซฟเฮ้าส์ชั่วคราว
“อ๋อป้าเห็นบ้านโน้นวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วจ๊ะ เพิ่งจะเงียบไปนี่แหละ ป้าว่าจะเอาของว่างไปให้หนุ่มๆ ตัวโตบ้านโน้นด้วย ไม่รู้ได้พักกันบ้างหรือเปล่า” ฟองฟ้าพยักหน้ารับทราบ คุณพ่อและคุณแม่ของเธอเองนั่นแหละที่เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการให้พี่ชายของแอนนี่พักที่บ้านของภวัตรโดยไม่สนคำทักท้วงของเธอ
“ถ้าอย่างนั้นฝากคุณน้าด้วยน่ะค่ะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราแล้งน้ำใจ ยังไงก็ญาติกัน”
“จ๊ะ เดี๋ยวหน้าจัดผลไม้กับขนมเพิ่มสักหน่อยดีกว่า หนูว่าดีไหม” คุณวิศณีถามอย่างขอความเห็น ซึ่งฟองฟ้าก็เห็นด้วย
“ค่ะคุณน้า เดี๋ยวฟ้าลงมาช่วยน่ะคะ อืม..เพิ่มเครื่อมดื่มเย็นๆ สักหน่อย จะได้สดชื่นวันนี้อากาศร้อนเหลือเกิน” ฟองฟ้าเปรยเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีแดดร้อนจ้าอย่างเป็นห่วงกลัวคนทางโน้นไม่คุ้นกับอากาศเมืองไทยจะแพ้แดดตายไปซะก่อน เธอคิดอย่างไม่หายฉุนคนตัวโตที่คิดจะมาแย่งหลานไปจากเธอ



ส่วนคนบ้านโน้นที่ฟองฟ้าแอบมันไส้ยังไม่รู้ตัวเดินสำรวจรอบบ้านหลังเล็กทว่าสัมผัสด้วยความอบอุ่นหลังนี้อย่างพอใจ บ้านหลังเล็กกะทัดรัดสำหรับครอบครัวเล็กๆ ของน้องสาวนั้นถูกตกแต่งอย่างมีรสนิยมอบอวลไปด้วยรอยยิ้มของเจ้าบ้านที่ปรากฏในภาพถูกวางประดับเอาไว้เกือบทุกมุม แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจและประทับใจที่สุดคงไม่พ้นภาพใหญ่ของครอบครัวเล็กๆ นี้ที่ถูกแขวนไว้ในห้องรับแขก
ภาพรอยยิ้มของน้องสาวของเขาที่ยิ้มอย่างอ่อนหวานและมีมีความสุขให้กับร่างเล็กๆ ในอ้อมแขนซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าเด็กทารกที่โผล่หน้าจากห่อผ้าเล็กๆ นั้นคงจะเป็นลอนดอน เพราะด้านข้างนั้นมีเด็กน้อยที่โตกว่าอีกหนึ่งคนอยู่บนตักของภวัตร แต่เอนตัวซบบนแขนบอบบางของน้องสาวเขาอย่างออดอ้อน โดยทั้งหมดอยูในวงแขนของชายผิวขาวใบหน้าหล่อเหล่าดวงหน้าประดับรอยยิ้มอ่อนโยนให้กับหญิงสาวหนึ่งเดียวในรูป

โรมาโน่ไล่สายตาไปทุกส่วนของบ้างแล้วรู้ได้ทันทีเลยว่า บ้านหลังนี้สร้างขึ้นเพื่อสาวน้อยของเขาอย่างแน่นอน เพราะทั้งสี ทั้งเฟอร์นิเจอร์นั้นล้วนเป็นสีโปรดและเป็นสไตล์ของน้องสาวแสนช่างฝันของเขาทั้งสิ้น ยังไม่นับสวนเล็กที่เต็มไปด้วยกุหลาบขาวแสนบอบบางที่น้องเขาชอบนักหนา เพียงเท่านี้เขาก็รู้แล้วว่า น้องสาวเขาเลือกคนไม่ผิดจริงๆ ทุกวันของน้องคงมีความสุขมากใช่ไหม..สาวน้อยของพี่...

เขาเดินอ้อมมาอีกด้านเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นที่มีนอกชานไว้ออกมานั่งเล่นรับแดดอ่อนๆ ยามเช้า หันไปทางบ้านอิฐผสมไม้ขนาดกะทัดรัดอีกหลัง โรมาโน่เดินตามเสียงหัวเราะดังข้ามมาจนเห็นภาพน่ารักๆ ของอาหลานชัดเจน ทว่า...ไม่รู้ทำไมถึงติดใจเจ้าของสาวร่างบาง หน้าหวานที่หลานชายเรียกว่าหมี่มี้นั้นนัก...ให้ตายซิ! จะว่าห่างจากสาวๆ มาหลายวันจนงุ่นง่านก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเขาเองก็ไม่ใช่พวกบ้าเซ็กขนาดนั้นนี่หนา โรมาโน่ส่ายศีรษะ แล้วพาร่างสูงใหญ่ของตัวเองเข้ามาในบ้านปั้นหน้าเคร่งจัดการกับเอสารกองโตเพื่อลืมความคิดบ้าๆ นั่นซะ...อย่าบ้านา ห้ามคิดอกุศลกับร่างบางนั่นเด็กขาด แกจำไม่ได้หรือไง ว่าสัญญากับแอนนี่ไว้ว่าอย่างไร...อย่าลืมซิโว้ย ไอ้สมองบ้า!... เขาดุตัวเอง


ทว่าเหมือนสาวร่างบางที่เขาแอบคิดไม่ซื่อไม่ยอมให้ความร่วมมือนัก เพราะเมื่อเขาพยายามลืมแต่เธอกลับพาตัวมาโผล่ตรงหน้าเขาราวกับจะแกล้ง
“ปาป้าค๊าบบบ เอจ๋ามาแย้วจ้า...” เสียงตะโกนเย้วๆ ของเจ้าตัวดีทำให้ฟองฟ้ายิ้มแหยขอโทษอย่างเกรงใจ เมื่อคนที่เธอขอพบกำลังนั่งเครียดกับเอกสารกองโตอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เอ่อ ขอโทษที่มารบกวนค่ะ น้องเอมานี่ลูกอย่าไปกวนคุณลุงซิคับ” เธอหันมาเรียกหลานเมื่อหลานชายพาตัวกลมๆ ของตัวเองปานป่ายขึ้นตักของโรมาโน่ที่ยิ้มรับกับความพยายามของเอเธนส์
“ไม่เป็นไร เชิญครับ...แล้วนั่นเอาอะไรมาด้วยไม่น่าลำบากเลย” เขามองตามอลัน การ์ดคนสนิทที่ถือตะกร้าใบโตตามหลังหญิงสาวที่ยืนอุ้มลอนดอนอยู่
“พอดีน้าณีทำของว่าง กระทงทอง น่ะค่ะ ฉันเลยอาสาเอามาให้ อ้อ..แล้วมีน้ำผึ้งมะนาวอัญชันด้วยไว้ดับกระกาย อากาศเมืองไทยร้อนเกรงว่าคนของคุณจะไม่ชิน” ฟองฟ้าเอ่ยอย่างเป็นห่วงอย่างไม่รู้ว่าคนของเขานั้นทรหดขนาดไหน ถ้าไม่ผ่าหลักสูตรโหดของครูใหญ่ และฝีมือไม่แน่พอก็ยากที่จะก้าวขึ้นมาเป็นการ์ดของผู้บริหารคาร์โลกรุ๊ปเป็นแน่
“ขอบคุณครับ” เขายิ้มจริงใจให้เธอ ก้มลงมองมือน้อยที่กระตุกคอเขาอย่างเรียกร้องความสนใจ แล้วเอียงแก้มให้เมื่อปากเล็กๆ พยายามหอมแก้มเขาอย่างที่ทำกับบิดาประจำ ลอนดอนที่เห็นพี่ชายทำอย่างนั้นก็ตะกายลงจากตักเธอเดินโยเยเกาะขาปาป้าขอแกบ้าง มือน้อยๆ ชูขึ้นกวักเขาให้โน้มลงมา
“หืม..ว่าไง คนเก่งเราด้วยเหรอ”
“จุ๊บๆ “ โรมาโน่อาจไม่คิดอะไรแต่ฟองฟ้าจำกิจวัตรของหลานๆ ได้ดี นัยน์ตาคลอด้วยน้ำใสๆ หันหน้าหนีภาพน่ารักนั้น จนโรมาโน่รู้สึกเอะใจ
“คุณเป็นอะไร...เกิดอะไรขึ้น” เด็กๆ เงยหน้าตามเสียงร้อนรนของเขา
“ป่ะ..เปล่าคะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจัดของว่างให้ดีกว่านะคะ คุณอยู่เล่นกับหลานๆ ไปก่อนนะ เด็กๆ ไม่ดื้อกับปาป้าน่ะค่ะ เดี๋ยวหมี่มี้มานะคนเก่ง” เธอตัดบทลุกขึ้น
“คาบ/จ๊ะ” พี่น้องสองเมืองรับคำอย่างร่าเริงไม่รู้เรื่องรู้ราว ทว่าปาป้าของเด็กๆ กลับขมวดคิ้วเข้ม
“อลัน”ครั้นพอลับร่างบางเขาฝากหลานไว้กับคนสนิทเดินตามเธอไปทันที ปล่อยให้เด็กสองคนนั่งเอียงคอมองตัวโตไม่ต่างจากปาป้าตาแป๋ว จนคนที่สามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้อย่างไม่บกพร่องเช่นเขากลืนน้ำลายเฮือกวางตัวไม่ถูก
“ฮาย...เอ่อ คุณหนู” เขากระแอมทักทายด้วยภาษาไทยชัดเจนอย่างที่หลายคนไม่เคยได้ยินมาก่อน
“มะ เล่นกันนะ” เขาเอ่ยอย่างไม่มั่นใจเหมือนเคยด้วยไม่เคยรับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กมาก่อน ทว่าเด็กน้อยก็ดีใจหายตาเป็นประกายยิ้มหวานรับทันที


ในครัวฟองฟ้าสาละวนจัดของว่างมือเป็นระวิงพลางปาดน้ำตา ทั้งที่เธอคิดว่าจะเข้มแข็ง...จะไม่ร้องไห้แท้ๆ ...เข้มแข็งซิฟองฟ้า อย่าร้องไห้ อย่าอ่อนแอให้หลานๆ และอิตายักษ์ตัวโตนั่นเห็นเป็นอันขาด เดี๋ยวจะพาลหาข้ออ้างแย่งหลานไปจากเธออีกจนได้...
“คุณเป็นอะไร ฟองฟ้า” เธอสะดุ้งเมื่ออิตายักษ์ที่แอบขนานนามเข้ามาประชิดติดตัวจนรู้สึกไอร้อนที่ซ้อนอยู่ด้านหลัง
“เอ่อ...ปะ ปล่อยค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร” เธอหันกลับมายันอกเขาไว้สร้างช่องว่างให้เธอได้หายสะดวกขึ้น
“แล้วคุณร้องไห้ทำไม บอกผมซิ..ใครทำอะไรคุณ บอกผมมา!”
“ไม่มีจริงๆ ค่ะ ฉันแค่...สงสารหลานๆ แกคงคิดถึงพี่วัตร กับ พี่แอนนี่น่ะค่ะ เลยยึดฉัน ยึดคุณเป็นที่พึ่ง ฉัน..สงสารแกค่ะ” โรมาโน่ครางยกมือปาดน้ำตาให้เธอย่างลืมตัวแล้วคว้าร่างบางเข้ามากอดอย่างปลอบโยน
“กับผมคุณไม่ต้องเสแสร้งแกล้งเข้มแข็งหรอกนะ วางใจในตัวผมเถอะยังไงเราเป็นญาติกัน ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณและหลานเผชิญเรื่องราวร้ายๆ ตามลำพัง อย่าลืมซิเอเธนส์และลอนดอนก็เป็นคาร์โลกรุ๊ป เป็นอันโดรชินีคนหนึ่งน่ะ” เสียงทุ้มนุ่มปลอบเธออย่างลืมความตั้งใจที่จะไม่มอง ไม่สนเสียสิ้น จนเผลอสูดกลิ่นหอมเย็นๆ อันเป็นกลิ่นประจำตัวของเธอเต็มปอด
“ไม่เป็นไรนะคนดี ไม่เป็นไรร้องออกมาเถอะ อย่าฝืน”ฟองฟ้าที่ใช้อกเขาต่างผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาเสร็จเพิ่งรู้สึกตัวว่าเผลอแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นแถมยังถือวิสาสะกอดเธอซะแน่นอีก อิตาบ้า!
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ปล่อยเถอะค่ะ ฉันว่าเรารีบเอาของว่างออกไปดีกว่าคนของคุณคงจะหิวแล้ว ปล่อย..ค่ะ” โรมาโน่มองหน้าใสที่แดงระเรื่อยปล่อยเธออย่างเสียดาย ฟองฟ้าเองก็อายไม่กล้าสบตาเสมองนั่นนี่ไปเรื่อย
“นั่นซิ! ไปกัน ผมฝากหลานไว้กับอลัน ไม่รู้จะดูแลกันรอดหรือเปล่า ไป” เขาว่าพลางฉวยข้อมือเธอแล้วลากออกไปด้วยกัน โดยไม่สนว่าเธอจะเอ่ยประท้วงหวานๆ แม้นแต่น้อย
“นี่คุณ...จะดึงฉันไปไหนเนี่ย ปล่อยซิ”
ทว่าภาพที่เขาคิดกลับตรงกันข้ามเมื่อการ์ดที่ได้ชื่อว่า..ไอ้หน้าดุ...อย่างอลัน จะนั่งเล่นตัวต่อกับเด็กได้ น่ารักขนาดนี้... คนหนึ่งนั่งเป่าทำท่าเครื่องบินไอพ่นน้ำลายฟู่ๆ โดยมีอลันคอยประคอง คนพี่ก็วิ่งสมมุติเป็นเครื่องบินไปมา
“ผมว่า..เราได้พี่เลี้ยงเด็กคนใหม่แล้วล่ะ” ทั้งสองมองหน้ากันยิ้มๆ



อีกฝั่งหนึ่งของโลก...ในแมนชั่นหรูกลางเมืองน้ำหอม
ร่างสูงใหญ่นอนเหยียดยาวบนโซฟานุ่มมือหนึ่งสอดรองรับศีรษะไว้ อีกข้างหนึ่งคอยเกาคางเจ้าสัตว์ขนฟูสีขาวที่นอนขดบนพุงเขาอย่างเอาใจ นัยย์ตาทอดมองไปบนท้องฟ้าที่มืดสนิทมีเพียงแสงดาวระยิบที่ขยันส่องแสงดึงดูดความสนใจ เมื่อเบนสายตาลงมาอีกหน่อยก็จะพบกลุ่มดาวที่สว่างไสวสุกใสเปล่งแสงประชันความงามกับดาวบนฟ้า....จนแทบแยกไม่ออกว่าไหนคือแสงดาวจริงๆ ไหนแสงดาวที่มนุษย์ทำขึ้น

บรรดาแสงสว่างจากดวงไฟขนาดต่างๆ ทุกบ้าน ร้านรวง แข่งกันเปิดไล่ความมืด เมื่อมองจากมุมสูงกว้างเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับดาวแต้มดินที่เจิดจรัสยิ่งกว่าดาวดวงใดในนภาเสียอีก

ใจกลางเมืองหลวงสัญลักษณ์เหล็กรูปทรงสามเหลี่ยม...ชื่อก้องโลก อย่างหอไอเฟลตั้งเด่นตระง่านมองเห็นแต่ไกลไม่ทำให้ ชนาธิป มาติโน่ อันโดรชินี สนใจเท่ากับชายร่างสูงใหญ่พอๆ กับเขา ที่กำลังเดินเข้ามา

“ฝีมือใคร คงไม่เกินมือนายหรอกจริงไหมปิเอโร่”รอยยิ้มเหี้ยม นัยน์ตาวาวอย่างสมใจของบอสใหญ่ ทำให้เขาขนลุกซู่ นานแล้วที่บอสใหญ่ไม่เคยน่ากลัวแบบนี้
“ครับ เราได้รับคำยืนยันจากเปาโลเป็นที่แน่นอนแล้วว่า...เรื่องคุณหนู แอนนี่ เป็นฝีมือของไอ้สุนัขแก่ อัลเปโร่ แน่นอนครับ” ปิเอโร่ รายงานตามที่เพื่อนของเขาที่เป็นผู้ช่วยอีกคนของบอสอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มาร์ติโน่ กำหมัดแน่น
“ฟรานล่ะเป็นยังไงบ้าง” เขาถามถึงตัวเร่งฉนวนที่ทำให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น
“ตอนนี้นายกำลังโดนฝึกหนักครับ ข่าวแว่วว่าโดนให้นำเกลือเป็นรอบที่สามแล้วครับ”
“ดี! ให้สำนึกซะบ้าง คราวหน้าจะได้หัดใช้สมองให้มากกว่านี้”
“เปาโลยังรายงานอีกเรื่องหนึ่งที่...ยังไม่ได้รับการยืนยันมาด้วยครับ”
“อะไร” คราวนี้คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างไม่ชอบใจกับเรื่องใหม่ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม น้ำเสียงจึงเข้มขึ้นเล็กน้อย
“มีคำสั่งต่อเนื่องให้จัดการคุณหนูเล็กๆ ด้วยครับ”
“อะไรนะ!” เสียงตวาดดังขึ้นปลุกเจ้าแมวอ้วนสะดุ้งตกใจ กระโดดลงไปบนพรมหนาแล้วกระโจนออกไปจากห้องอย่างเอาตัวรอดทิ้งให้เจ้านายที่เคยใจดีเกาคางให้มันลุกขึ้นหันมาทำหน้าเหี้ยมใส่คนสนิท
“แล้วโรมล่ะ เป็นยังไงบ้าง”
“นายเล็กปลอดภัยดีครับ รวมไปถึงคุณหนูเล็กๆ ด้วย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
“อย่าให้พลาดเป็นครั้งที่สองก็แล้วกัน! ให้โรมเอาหลานมาไว้ที่นี่ให้เร็วที่สุด ไป!” ชายชุดดำหลายคนพร้อมใจทำความเคารพนายใหญ่แห่ง คาร์โลกรุ๊ป ก่อนแยกย้ายไปตามหน้าที่
“ดี! คงถึงเวลาล้างบางสวะพวกนี้จริงๆ สักที เมื่อเป็นคนดีๆ ไม่ชอบ อยากเป็นหมา...ลอบกัดก็จงตายอย่างหมาข้างถนน คงเหมาะกับมัน”


...คงถึงเวลาจบสิ้นกันเสียที อัลเปโร่ วาเลติน่า!...



ปล. ชอบไม่ชอบบอกกันได้เน้อ..เงียบแบบนี้คนสวยใจม่ายยยย ดี อิอิ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ ^____^



รินคำ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.ค. 2556, 23:13:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.ค. 2556, 23:13:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1236





<< ตอนที่ 1   ตอนที่ 3 >>
jink 5 ก.ค. 2556, 00:06:00 น.
น่ารักดีจ้า จะรอตอนต่อไปนะจ๊ะ
ความศูนย์เสีย = ความสูญเสีย
มันไส้ = หมั่นไส้
กระทอง = กระทงทอง


รินคำ 5 ก.ค. 2556, 13:51:51 น.
กราบขอบพระคุณ..คุณ jink อย่างงามสามที อิอิ ปล.ขอบคุณสำหรับคำผิดด้วยคร่าาาาาา จะรีบแก้ไข


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account