นิยามรักหัวใจร็อค ภาค 2 (นิยามรักของเจ้าชายเย็นชา)
เรื่องราวของอีริค หนุ่มลูกครึ่งฮ่องกงอังกฤษ ที่แสนจะเงียบขรึม คนที่เป็นหัวใจหลักของการทำงานดนตรีของ Evasion ผู้มีความหลังอันลึกลับ และขมขื่น ....
Tags: สิรินดา, นิยามรัก, หัวใจร็อค, แจ่มใส, ภาค 2,นิยาย, sirinda, jamsai, novels, love story, อีริค

ตอน: 38 : บทสุดท้ายของเจ้าชายเย็นชา (01)

ปฐพีเป็นผู้ชายไทยที่มีรูปร่างสูงกว่าชายไทยปกติทั่วไป ร่างสูงในชุดไทยประยุกต์สีขาวโจงกระเบนไหมไทยสีเลือดหมูเข้มดูดึงดูดทุกสายตาแขกผู้ร่วมงาน เขาดูโดดเด่นอยู่ท่ามกลางญาติสนิทราวยี่สิบคนที่เตรียมตัวสำหรับพิธีขันหมากหมั้นหมาย

งานแต่งของวันวิสาข์และปฐพี รวบจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งในวันเดียว จึงรวบเอา ขันหมากหมั้น และ ขันหมากแต่ง เข้าไว้ด้วยกัน ฝ่ายเจ้าบ่าวตั้งขบวนขันหมากห่างจากบริเวณเรือนไทยราวร้อยเมตร เมื่อถึงฤกษ์ ขบวนขันหมากเอก-ขันหมากโท เดินทางมายังเรือนไทยที่สมมติเป็นบ้านเจ้าสาว ซึ่งมีผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงไปต้อนรับ

ศศิรส มารดาของวันวิสาข์ ซึ่งตอนแรกบอกว่ากลับไทยไม่ได้ ทำเซอร์ไพรส์ลูกสาว ด้วยการเดินทางจากสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งเจ้าตัวบินไปทำธุระสำคัญตรงมาเมืองไทยก่อนเวลาหมั้นไม่นานนัก นั่นทำให้ใบหน้าของเจ้าสาวมีรอยยิ้มแบบมีความสุขสุดๆ

"ลูกสาวของแม่จะแต่งทั้งที จะไม่มาได้ยังไงล่ะ" ศศิรสกอดตอบลูกสาวที่กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ "อย่าร้องสิสา เดี๋ยวหน้าตาเลอะหมด ช่างต้องมาแต่งหน้าใหม่ ไม่ทันเวลากันพอดี" ผู้เป็นแม่บอกกับลูกสาวคนโต

ขบวนขันหมากขออนุญาตญาติฝ่ายเจ้าสาวเข้าไปในบ้าน ถึงตอนนี้เจ้าบ่าวซึ่งมีรอยยิ้มที่มุมปากตลอดเวลาจะต้องผ่านด่านประตูทั้ง 3 คือ ประตูนาก ประตูเงิน และประตูทอง เจ้าบ่าวปล่อยให้เป็นหน้าที่ของญาติผู้ใหญ่ฝ่ายตน ที่ตั้งเป็นผู้เจรจา เขาเพียงแต่ทำหน้าที่แจกซอง และส่งรอยยิ้มน้อยๆ ชวนละลายให้กับสาวๆ ที่กั้นประตูเท่านั้น

ปฐพิไม่อาจละสายตาไปจากเจ้าสาวคนสวยของตนเองได้ นับแต่วินาทีที่เขาผ่านทุกๆ ด่าน จนเข้าไปรับตัวเจ้าสาวถึงห้องพักที่จัดไว้เฉพาะสำหรับเจ้าสาว วันวิสาข์ดูงามสง่า สะดุดตาสะดุดใจเขาเหมือนครั้งที่พบกันครั้งแรกเมื่อหลายเดือนก่อน ว่าที่เจ้าสาวสบตาปฐพี แล้วก็ก้มหลบด้วยความขวยเขินเมื่อพบกับสายตาบอกความรักและชื่นชมตรงไปตรงมาของเขา

โลกหยุดหมุนชั่่วขณะเมื่อหญิงสาววางมือของตนเองลงบนฝ่ามือของปฐพีที่รออยู่ ว่าที่เจ้าบ่าวรวบปลายนิ้วของว่าที่เจ้าสาว ก่อนจะกระซิบเบาๆ "วันนี้คุณสวยมากครับ"

"ขอบคุณค่ะ"

ทั้งคู่มีโอกาสได้คุยกันเพียงเท่านั้น เพราะมีพิธีอีกหลายขั้นตอนรออยู่ พิธีการแรกที่ถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานเพื่อจะอำนวยอวยพรให้คู่บ่าวสาวอยู่กันอย่างมีความสุขก็คือการสวมแหวนหมั้น และตักบาตรร่วมกันระหว่างคู่บ่าวสาว

ว่าที่คู่บ่าวสาวจะจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล และรับศีล จากนั้นพระสงฆ์สวดคาถาอันเป็นมงคล พร้อมทำน้ำมนต์สำหรับใช้ในพิธี แล้วต่อด้วยการตักบาตร หลังจากนั้นพระสงฆ์จะเจริญชัยมงคลคาถา พร้อมประพรมน้ำมนต์ให้เพิ่มความเป็นสิริมงคลจึงเป็นอันเสร็จพิธีสงฆ์

ตลอดเวลานั้น รมิดา และสินธร ซึ่งทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว อยู่ข้างๆ คู่หมั้นหมาดๆ ตลอดเวลา ทั้งคู่ส่งสายตาให้กันเป็นระยะๆ และรู้สึกปลาบปลื้มใจไม่แพ้กัน

"คุณดินแต่งไปแล้วแบบนี้ คุณสินจะแต่งเมื่อไหร่คะ" รมิดาถามเบาๆ เมื่อสบจังหวะ

สินธรปล่อยเสียงหัวเราะเบาๆ "เจ้าสาวของผมท่าทางจะไม่ยอมแต่งง่ายๆ ครับ รายนั้นทั้งแม่หวง ทั้งห่วงเที่ยว คงอีกพักใหญ่"

รมิดาไม่เคยพบกับคนรักของสินธร แต่วันวิสาข์เคยเล่าให้ฟังเหมือนกันว่าอีกฝ่ายเป็นคนเปรี้ยวซ่าอยู่ไม่น้อย

"แล้วคุณฝนล่ะครับ มีแผนหรือยัง"

รมิดารีบส่ายหน้า "ฝนยังเรียนไม่จบเลยค่ะ เสร็จจากเรื่องพี่ฝน คงต้องหาทางไปเรียนต่อให้จบ จะได้ทำการทำงานเป็นเรื่องเป็นราวเสียที"

สินธรพยักหน้า จากนั้น ทั้งคู่ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกันอีก เพราะต้องเตรียมตัวสำหรับพิธีรดน้ำสังข์

..............

"นายจะแกล้งเธอไปถึงไหน" เสียงชายหนุ่มร่างสูงที่เปลี่ยนจากชุดไทยเมื่อเช้า เป็นเชิร์ตสีขาวสะอาดถามกับผู้ชายร่างสูงกว่า ผิวขาวกว่า ดวงตาสีฟ้าเข้ม ที่อยู่ในชุดสูทสีเทาเข้มจนเกือบดำ ที่ยืนพิงโต๊ะตัวเดียวในห้องพัก ซึ่งจัดไว้สำหรับแขกนั่งทำงานเล็กๆ น้อยๆ ในมือถือแก้วไวน์ที่เจ้าตัวจิบไปแล้วหลายอึก

"ฉันไม่ได้แกล้ง..." อีริคตอบ ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ แววตาคมกล้าสีฟ้าเข้มครุ่นคิด มีความกังวลลึกๆ อยู่ภายใต้นั้น "แต่มันจำเป็น...."

"นายกำลังกลัว" ปฐพีเอ่ยขึ้นยิ้มๆ ขณะกลัดกระดุมเสื้อเชิร์ต ผมหมาดน้ำถูกหวีให้เข้ารูปทรง "เหมือนไม่ใช่นายเลยนี่นะ"

อีริคบินกลับมาจากอังกฤษราวสองวันก่อนหน้า เขาติดต่อกลับปฐพีเนื่องจากอีกฝ่ายฝากข้อความบางอย่างทิ้งไว้ในมือถือ

"ฉันไม่ได้เก่งไปทุกเรื่องนะเว้ย" ชายหนุ่มร่างสูงกว่าตอบ "โดยเฉพาะเรื่องนี้ นายก็รู้นี่ว่าฉันไม่เคย..."

ปฐพีปล่อยเสีงหัวเราะดังลั่นห้อง

"ฉันไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ...นี่นายหัวเราะเพราะคิดอะไรอุบาทว์ๆ อยู่ใช่ไหม"

"ขอโทษว่ะ ขำจริงๆ" เจ้าบ่าวหมาดๆ ยังกลั้นหัวเราะไม่ได้ "ไม่เคยเห็นนายในมาดนี้เลยจริงๆ ว่ะ ให้ตายเถอะ ใครจะคิดว่าผู้ชายเหี้ยมๆ อย่างอีริคจะอ่อนไหวยังกับขี้ผึ้งในเรื่องนี้วะ"

อีริคยักไหล่ ไม่ปฏิเสธ เขายังไม่รู้จะจัดการตัวเองอย่างไรดีจริงนั่นแหละ สำหรับเขา ซึ่งไม่เคยทำอะไรเป็นเรื่องเล่นๆ ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงจัง เป็นเรื่องซีเรียส หากทำไม่ได้ หากไม่มั่นใจ เขาจะไม่ทำอะไรเด็ดขาด

...ตอนนี้ เขายังหาคำตอบไม่ได้ว่าจะสานสัมพันธ์กับรมิดาต่อไปอย่างไรดี

สำหรับเขา การมีคู่รักชั่วคราวเพียงเพื่อลดความต้องการระหว่างกันเป็นทางเลือกที่ไม่คิดจะทำ เขาไม่ต้องการให้รมิดาเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือมีมลทินไปมากกว่านี้ หากตนเองไม่สามารถรับผิดชอบชีวิตที่เหลือของเธอได้

ถึงตอนนี้ เขายังคิดไม่ตกว่าต้องการ หรือต้องทำอะไรต่อกันแน่ ....

ปฐพีผูกไทน์เรียบร้อย คว้าสูทสีเทาอ่อนสีเดียวกับกางเกงมาสวม อมยิ้มที่มุมปากก่อนจะหยิบมือถืออกจากกระเป๋า "ฉันไปดูเจ้าสาวแต่งตัวหน่อยนะ เดี๋ยวมา คิดให้ตกแล้วกันว่าจะทำหน้ายังไง เวลาที่ต้องเจอคุณฝนตัวเป็นๆ ในงานเลี้ยงคืนนี้"


ทันทีที่ก้าวออกจากประตูห้องพัก ปิดประตูเรียบร้อย ปฐพีก็กดโทรศัพท์ พูดประโยคประโยคหนึ่ง ที่มีผลต่ออนาคตของอีริคไปตลอดกาล

.......


เสียงเคาะประตูห้องทำให้อีริคขมวดคิ้ว คิดว่าเพื่อนรักคงลืมของทิ้งไว้ในห้องเพราะเพิ่งออกไปราวสองนาทีเท่านั้น เขาเปิดประตู "นายลืมอะไร....อ๊ะ"

"อ๊ะ...." ร่างบางที่อยู่ในชุดเดรสติดกันสีฟ้าทน้ำทะเลเปิดไหล่ข้างหนึ่งอ้าปากค้าง เธอถอยหลังไปสองก้าวเพราะไม่แน่ใจว่าร่างที่ยืนอยู่เป็นคนที่เธอคิดหรือเปล่า

เธอคิดว่าตัวเองตาฝาด ผู้ชายคนที่เธอกำลังเห็นอยู่ตรงหน้ายังอยู่อังกฤษ ผ่าตัดและยังรักษาตัวอยู่ที่โน่น

...ไม่ใช่....

"ฝน"

น้ำเสียงของชายหนุ่มหลุดอุทานชื่อของอีกฝ่ายมาหนึ่งคำ แค่นั้นเธอก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด

"คุณดินโทรมา บอกว่ามีเรื่องด่วน เขา...เขาอยู่ไหนคะ" หญิงสาวได้สติขึ้นมาก่อน จึงรวบรวมความคิดกระเจิดกระเจิงของตัวเองให้เข้ารูปเข้ารอย เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

"เขา ออกไปแล้ว เมื่อสักครู่นี้เอง...." แววตาสีฟ้าเข้มนิ่งลึก ยากจะบอกได้ว่ารู้สึกอย่างไร คนพูดไม่แม้แต่ขยับตัวจากท่าเปิดประตู

"...."

รมิดากวาดสายตามองใบหน้าชายหนุ่มที่แต่งตัวเต็มยศเตรียมพร้อมเข้าร่วมงาน แววตาเข้มดุที่ไม่บอกอะไรมากนัก ทำให้เธอไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เธอมีร่วมกับเขาหนึ่งคืนเมื่อราวสักหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องที่เธอจินตนาการขึ้นมาเอง

เขาดูไม่เหมือนคนป่วยเลยสักนิด ทุกอย่างบนร่างสูงนั่นเหมือนเดิม ไหล่กว้างตั้งตรงเต็มไปด้วยพลังแห่งความดุนิดๆ แบบที่เคยเป็น เธอรู้สึกว่าเขาไล่สายตามองเธอไปทั่วทั้งตัว สายตาแบบที่เธอไม่เคยถูกมองแบบนี้

แน่ละสิ ครั้งสุดท้ายที่อยู่ด้วยกัน เขามองไม่เห็นอะไรนี่นา

"คุณ...สบายดีแล้วหรือคะ"

ชายหนุ่มพยักหน้านิดเดียว

รมิดาถอยหลังสองก้าว "ถ้า ถ้าไม่มีอะไร ฉัน...ขอตัว" เธอหันหลังกลับ จู่ๆ ก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เขาไม่เป็นไร ...เขาสบายดี เนื้อตัว ร่างกายยังเด่นเป็นสง่าเหมือนเดิม ...เขากลับมาเมืองไทยแล้ว แต่ไม่มีใจแม้แต่จะโทรบอกกันสักนิด ทั้งๆ ที่เธอเป็นห่วง คิดถึงอีกฝ่ายแทบทุกนาทีที่ผ่านไป

ทั้งหมด เธอคงฝันไปจริงๆ

อีริคเม้มปาก หรี่ตามองร่างบางในชุดหรูบางเบาที่หันหลังกลับ แล้วก็ถอนหายใจ ตัดสินใจก้าวยาวๆ เพียงก้าวเดียวเพื่อตวัดแขนของอกฝ่าย เพื่อหยุดเธอไว้

ชีวิตของเขาเคยมีแบบแผน ทุกอย่างต้องวางแผนเพื่อความมั่นคง เพื่อความไม่พลาด ชีวิตของเขาแต่ละก้าวจะพลาดไม่ได้... แต่คราวนี้ เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะคิด

"เจ้าดินบอกว่าคุณท้อง..." เสี้ยงเข้มกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่าย "เราต้องคุยกัน"

รมิดาเบิกตากว้าง ...ท้อง....

เธอไม่มีเวลาคิดมากกว่านั้น เพราะถูกดึงเข้าห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว และปิดประตู

ร่างสองร่างเผิชญหน้ากันในห้องพัก ที่ๆ เป็นที่ส่วนตัวอย่างแท้จริง

...ท้อง...คำคำนั้นยังวนเวียนอยู่ในความคิดของรมิดา เหมือนกับเป็นคำที่เข้าใจยากนักหนา

"คุณ...กลับมาเพราะเรืองนี้หรือคะ"

อีริคพยักหน้า

"คุณหายแล้ว..."

เขาพยักหน้าอีก

"จริงๆ แล้วคุณไม่ได้เป็นอะไรมาก...ใช่ไหม"

"หมอแค่ต้องการตรวจให้แน่ใจ อีกครั้ง..." อีริคไม่อยากโกหก จริงๆ เขาโกหกแววตาตรงไปตรงมาของคนตรงหน้าไม่ได้มากกว่า

คนฟังเม้มปาก เขาไมได้อาการหนักอย่างที่เธอคิด หมอแค่ต้องการตรวจซ้ำเพื่อความมั่นใจเท่านั้น

น้ำตาเอ่อล้นขอบตาของรมิดาเมื่อเธอประมวลเรื่องราวทั้งหมดได้ ความหมายของทุกอย่างอยู่ในคำตอบสั้นๆ ของผู้ชายตรงหน้า

เขา...คือผู้ชายที่เกลียดบิดาของเธอเข้าไส้

เขา...คือคนที่ตั้งในทำทุกอย่างให้ครอบครัวของเธอล่มจม

เขา...ผู้อยู่เบื้องหลังการล้มละลายของครอบครัว

และเขาได้เธอแล้ว และจากไป...

ดีแค่ไหนแล้ว ที่เขาบอกว่าต้องไปรักษาตัว ไม่ได้บอกว่า เขาไม่ต้องการเธอ...เพราะได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้ว

....สั้นๆ ง่ายๆ แค่นั้น

อีริคหรี่ตา

"คุณไม่ได้ท้อง" มันไม่ได้เป็นประโยคคำถาม

รมิดาส่ายหน้า เธอเดินหนีเข้าไปด้านในของห้อง พยายามมองหาที่พยุงกาย ในที่สุดก็เลือกโต๊ะตัวเดียวกับที่อีริควางแก้วไวน์ที่ดื่มไปครึงแก้วไว้ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้าอีกฝ่าย

"มันไม่เร็วไปหรือคะที่ฉันจะ เอ่อ...ท้อง"

ชายหนุ่มร่างสูงที่ยังยืนอยู่ที่เดิมเบิกตากว้าง ...หนึ่งเดือน ก็จริง มันดูเร็วมาก แต่ เขาก็ไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะโกหก ทั้งคู่ไม่เคยโกหกกันและกัน

เขาและปฐพีพูดจาตรงไปตรงมากันเสมอ ในทุกเรือ่ง....

"หมายความว่า..."

"คุณถูกคุณดินล้อเล่นแล้วล่ะค่ะ" คนพูดฝืนหัวเราะออกมา ทั้งๆ ที่แววตาเศร้าสุดซึ้ง " ฉันไม่ได้ท้อง ฉันสบายดีทุกอย่าง เอ่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ จะไปเตรียมงานต่อ เดี๋ยวพี่สาวต้องหาตัวฉันแน่ๆ" รมิดาลุกขึ้น ทำท่าว่าจะก้าวออกจากห้อง

อีริคก้าวไปบังประตูห้องของปฐพีทันใด

รมิดาขมวดคิ้ว "กรุณา..."

ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะหลับตา จินตนาการให้ตนเองมองไม่เห็นเหมือนเมื่อราวหนึ่งเดือนก่อนหน้า ทั้งๆ ที่หลับตา เขายังมั่นใจว่าเธออยู่ตรงไหน มันจึงไม่พลาดเมื่อแขนของเขารั้งร่างของเธอเข้าหาตัว

ผิวนุ่ม กลิ่นกรุ่นที่เคยคุ้น เขาสัมผัสมันได้ ทั้งๆ ที่ไม่ต้องลืมตา

"ปละ...ปล่อย...."

แขนแข็งแรงตวัดร่างเล็กเข้าหาตัว ดึงเอาเธอเข้าไว้ในอ้อมกอด ร่างสองร่างประสานแทบจะเป็นหนึ่งเดียว จนรมิดาแทบจะหายใจไม่ได้ คิดอะไรไม่ออก

"...." ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของชายหนุ่ม เขาได้แต่กอดหญิงสาวร่างเล็กไว้นิ่งๆ เจ้าตัวเองก็ทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออกเช่นเดียวกัน


เสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือของรมิดาดังขึ้น ร่างบางสะดุ้ง

"พี่สาคงโทรมาค่ะ ฉัน...ต้องไปแล้ว"

อีริคคลายอ้อมกอด ในขณะที่รมิดาผละออกจากอ้อมกอดของเขา รีบเดินไปที่ประตู เปิดออกแล้่ววิ่งออกไปทันที

....





สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ก.ค. 2556, 15:29:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ก.ค. 2556, 15:36:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 4746





<< 37: ไม่อาจเปลี่ยนใจ   39 : บทสุดท้ายของเจ้าชายเย็นชา (02) >>
kin 8 ก.ค. 2556, 15:50:29 น.
อิริคทำตัวแบบนี้ แม่ยกไม่ปลื้มนะฮะ เดี๋ยวจะยุให้น้องฝนงอนเสียให้เข็ดเลย

ปล. พี่ตาอัพไวนะค้าบเนี่ย อิๆ


คิมหันตุ์ 8 ก.ค. 2556, 16:03:46 น.
คลุมเครือมาก.........


หนอนแว่นตาโต 8 ก.ค. 2556, 17:19:41 น.
อยากอ่านอีกจังค่ะ พี่ตาลงให้อ่านอีกนะ


konhin 8 ก.ค. 2556, 18:30:26 น.
คิดมากจนนางเอกหนีแล้ววว


จิงโกะ 8 ก.ค. 2556, 19:19:54 น.
คิดมาก คิดเยอะ จริงจังทุกเรื่องมากไปนะอีริค เรื่องหัวใจ มันไม่มีแบบแผน มันไม่ต้องการกำไร หรือขาดทุน ถ้ายังคิดไม่ตกล่ะก็ อย่าหวังจะได้สาวมาเคียงข้างเลย วุ๊ย ม่ายล่ายดั่งใจ !


mhengjhy 8 ก.ค. 2556, 22:07:19 น.
ป้ะ ไม่น่าปล่อย


เด็กหญิงม่อน 8 ก.ค. 2556, 22:36:18 น.
อีริคเล่นอะไรเนี่ยยยย มันน่าน้อยใจจริงๆนั่นแหละ ฮึ่ยยยย


Zephyr 8 ก.ค. 2556, 23:52:05 น.
เหยยยยย คิดเยอะไปป๊าวววว อีริค
สมองไม่ต้องใช้หรอก ทำตามหัวใจสิ หุหุ
เหม่ เซงเลย นึกว่าจะเปลี่ยนเจ้าบ่าว ฮ่าๆๆๆ
ยังเรื่องมากแบบนี้ เดี๋ยวยุให้ฝนมีแฟนใหม่เลยนี่


สิรินดา 9 ก.ค. 2556, 08:54:53 น.
555 อีริคคิดมากค่ะ ก็อย่างที่ปูไว้ตั้งแต่ภาคที่แล้ว และมาจนถึงภาคนี้ อีริคเป็นคนที่นิ่ง เฉย และคิดก่อนทำเสมอ มันก็เลยทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกเวลามีเรื่องราวของหัวใจเข้ามาพัวพัน - - มาตามอ่านกันต่อไปน้า ว่าคนคิดมากของเรา จะลงเอยตัดสินใจเรื่องหัวใจของตัวเองยังไง (^___^)


รัชต์ 9 ก.ค. 2556, 09:43:35 น.
จากไปเดือนเดียวกลับมากวนบาทาได้อีกนะอีริค


ree 28 ก.ค. 2556, 20:20:28 น.
แอบเครียดอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account