ความรักของเปลือกไข่
เธอ...หลงรักคนๆ หนึ่งอยู่หลายปี ถูกกำหนดให้เป็นเพียงแค่เปลือกไข่ที่คอยปกป้องสิ่งที่อยู่ข้างในโดยไม่เต็มใจ

เขา...หลงรักเปลือกใข่ที่ภายนอกดูแข็งแรง แต่พร้อมที่จะแตกสลายได้ตลอดเวลา
Tags: ความรัก สามคน โปรแกรมเมอร์

ตอน: ตอนนที่ 18

อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนและคาดเดาอะไรไม่ได้ ใครบางคนจึงบอกไว้ว่าเพียงแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว คำพูดของแอมป์ยังคงก้องอยู่ในหัวขิงไม่จางหายไปไหน ขิงเดินสะลึมสะลือลงมาจากห้องตัวเองแล้วตรงไปนอนที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ พร้อมกับพุ่งตัวลงไปอย่างแรง ใบหน้าพร้อมขอบตาที่ดำอย่างที่คนชอบพูดกันว่าเหมือนหมีแพนด้าซุกลงกับหมอนนุ่ม ไม่สนใจกลิ่นอาหารที่ลอยออกมาจากในห้องครัวสักนิด ตอนนี้ถึงจะหิวจนกระเพาะทะลุก็คงไม่สามารถทำอะไรเธอได้หากเธอยังคิดไม่ตกในเรื่องเมื่อวาน

นอนนิ่งๆ สักพักหญิงสาวก็รู้สึกเหมือนมีใครสักคนมาสะกิดตรงไหล่ เธอจึงขยับตัวเล็กน้อยพร้อมกับครางเสียงอือออกมาอย่างไม่พอใจ แต่เจ้าของนิ้วก็ยังไม่หยุดสะกิดจนเธอต้องเอ่ยประท้วง

“แม่ ขิงง่วงนะคะ ไม่กินข้าวเช้า”

“เมื่อคืนทำอะไรครับ ทำไมไม่นอน” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดีดังอยู่บนหัว ทำให้คนง่วงต้องเด้งตัวขึ้นจากโซฟาแล้วมองหน้าคนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าเหวอ

“พี่กฤษณ์!”

“ครับ”

“มายังไงคะ ทำไม... เอ่อ” คนง่วงนอนอยู่เมื่อครู่หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง นึกเสียใจกับสภาพของตัวเองที่ดูไม่ได้เลยสักนิด มือเล็กพยายามลูบผมที่กระเซอะกระเซิงให้เข้ารูปเข้ารอยพร้อมกับดึงๆ ชุดนอนให้ดูไม่น่าเกลียดแล้วเงยหน้าส่งยิ้มแหยให้กับคนที่ยืนอยู่ “มาบ้านขิงเช้าจังเลยนะคะ”

เขาหัวเราะเบาๆ มองใบหน้าคนไม่ได้นอนเอ็นดู “ก็เมื่อวานใครปิดเครื่องหนีกันล่ะครับ พี่เป็นห่วงนึกว่าเป็นอะไร”

คนปิดเครื่องหนีชักทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้จะตอบยังไงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเขากลับไปแล้ว มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุกเริ่มปัดนู่นป่ายนี้ ก่อนจะรีบขอตัวขึ้นไปล้างหน้าล้างตาและแต่งตัวให้เรียบร้อย เพราะไม่อยากตอบคำถามอะไรตอนนี้ ตอนที่ยังมึนๆ เบลอๆ

“อ้าว ยัยขิงล่ะคุณ” คุณอรุณีเดินออกจากห้องครัวมาพร้อมกับทำหน้าแปลกใจที่เห็นแค่แขกยืนอยู่แต่กลับไม่เห็นตัวลูกสาว ทั้งๆ ที่ เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงเดินลงมาจากข้างบนอยู่เลย

“วิ่งขึ้นไปข้างบนแล้วครับ เห็นบอกจะไปล้างหน้าอาบน้ำ” คนเป็นแม่พยักหน้ารับ ยืนมองแขกตัวสูงเล็กน้อยก่อนจะเชิญนั่งรอลูกสาวที่โซฟานุ่ม “เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับคุณน้า”

“เกิดอะไรขึ้น หมายความว่ายังไงล่ะจ้ะ” ‘คุณน้า’ ชักไม่อยากพูดด้วยกับแขกสักเท่าไหร่ คนอายุมากกว่าไม่อยากโกหกแต่ก็ไม่รู้ว่าลูกสาวจะพูดยังไงเช่นกัน คราวนี้จึงได้แต่ตอบเลี่ยงๆ ไปเพื่อถ่วงเวลาไว้เท่านั้น

“ผมรู้สึกว่าเมื่อคืนขิงไม่ได้นอนน่ะครับ แถมปิดโทรศัพท์ด้วย เลยคิดว่าอาจจะมีเรื่องอะไรรึเปล่า”

เขาไม่อยากถามตรงๆ เลยว่าเมื่อวานเด็กแอมป์นั่นทำอะไรที่บ้านนี้จนเกิดเรื่องรึเปล่า เพราะตอนเขาไปเหลือแอมป์อยู่กับขิงเพียงแค่สองคน เหตุการณ์ต่างๆ ยิ่งทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ อย่างที่ไม่เป็นบ่อยนัก แต่ก่อนที่กฤษณ์จะได้ถามอะไรจากเจ้าของบ้าน คนเป็นลูกสาวก็เดินลงมาพอดีด้วยชุดใหม่ที่พร้อมรับแขกมากกว่าเดิม วันนี้ขิงเลือกเสื้อยืดพอดีตัวและกางเกงขาสั้น ดูแล้วเหมือนเด็กมากกว่าจะเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบห้า เขาส่งยิ้มให้คนที่เพิ่งมาทำเอาเธอหน้าร้อนตั้งแต่รับอรุณ ทำได้แต่ก้มหน้างุดเดินนำทุกคนไปที่ห้องครัว

วันนี้ลุงพิพัฒน์ของเธอไม่ได้มาทานอาหารเช้าด้วย บนโต๊ะจึงมีเพียงเจ้าของบ้านสองคนและแขกที่ทำตัวคุ้นเคยเหมือนเป็นเจ้าของบ้านเสียเองอีกหนึ่งคน กฤษณ์คอยจับคอยลุกบริการให้กับคุณอรุณีจนคนเป็นลูกสาวแอบนึกหมั่นไส้ แม่เธอจะหยิบอะไรก็แย่งหยิบแย่งยกเสียหมด แม้แต่ตักกับข้าวแม่เธอก็ยังมีมือใหญ่คอยตักใส่จานให้ไม่ขาด

“อิ่มมั้ยแม่” เสียงเล็กถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามารดาทานข้าวในจานหมดเกลี้ยง หญิงสาวเหล่ตามองแขกของบ้านที่นั่งยิ้มอยู่อย่างนั้น

“อิ่มมาก วันหลังหัดทำอย่างคุณเขาซะบ้างสิ”

“เรียกผมว่ากฤษณ์ก็ได้ครับคุณน้า” กฤษณ์เอ่ยแย้งแล้วหันไปยักคิ้วให้คนอีกคนที่นั่งมองอยู่หน้าตูม

“จ้ะ ถ้างั้นหน้าเรียกพ่อกฤษณ์แล้วกันนะลูก” ขิงหันมองแม่ตัวเองขวับ เบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำว่า ‘ลูก’ ออกจากปากคุณนายแม่ แถมนางยังหัวเราะกับแขกได้หน้าตาเฉย คนตกกระป๋องเลยได้แต่นั่งเงียบๆ หันมองซ้ายทีขวาทีแล้วนึกลุกเก็บจานเงียบๆ ปล่อยให้ ‘ลูกชายคนใหม่’ กับคุณแม่คนสวยคุยกันเอง

ร่างเล็กของขิงเดินมาหยุดอยู่หน้าบ้าน ตรงที่ประจำของเธอเวลาต้องการผ่อนคลายความตึงเครียดที่มีอยู่ แม้เมื่อคืนจะไม่ได้นอนแต่ในเมื่อมีแขกมาที่บ้านเธอแต่เช้าแบบนี้ ให้ขึ้นไปนอนต่อคงนอนไม่ไหว ขิงนั่งพิงโต๊ะพร้อมกับหันหน้ามองต้นไม้ต้นใหญ่ เรื่องเมื่อวานผุดขึ้นมาในหัวเธออีกครั้งจนต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างคิดไม่ตก

“มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ” เสียงทุ้มเรียกความสนใจจากเธอได้เป็นอย่างดี ขิงหันขวับไปทางต้นเสียง เห็นกฤษณ์ยืนยิ้มอยู่ เขาทำสัญญาณเป็นเชิงขอนั่งด้วยคนให้เธอเขยิบให้เขานั่ง

แต่คนนั่งอยู่ก่อนกลับไม่ยอมทำตาม... ขิงมองนั่งอยู่อย่างนั้นไม่ยอมขยับ ตาปริบๆ ที่มองเขาทำให้กฤษณ์รู้สึกอยากผลักหน้าผากเล็กๆ ด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ไม่ได้ทำนอกจากทิ้งตัวลงที่ว่างที่เหลืออยู่น้อยนิดแล้วค่อยๆ ผลักร่างบางด้วยแรงที่คนตัวเล็กต้านไม่ไหว

“โอ๊ย พี่กฤษณ์ ทำไรคะ”

“ขอนั่งด้วยไงครับ อยากนั่งใกล้ๆ ไม่ได้รึไง” เสียงอ่อนเสียงหวานทำเอาหญิงสาวเบ้หน้า ใจนึงนึกอยากผลักคนตัวโตให้ไปนั่งที่เก้าอี้ตัวถัดไป แต่อีกใจนึงกลับอุ่นใจขึ้นมากเมื่อกฤษณ์จับมือเธอไปวางไว้บนตักเข้าพร้อมกับกระชับแน่น “ว่ายังไง ขิงยังไม่ได้ตอบพี่เลยว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ”

“พี่กฤษณ์... รู้ได้ยังไงคะ”

“ก็ขิงเล่นขมวดคิ้วขนาดนี้ จะไม่ให้พี่รู้ได้ยังไง” นิ้วแกร่งยกขึ้นนวดระหว่างคิ้วหญิงสาวเบาๆ ราวกับอยากคลายความกังวลให้เธอ แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นน้ำใสๆ คลออยู่ที่หน่วยตาของขิง เขาถึงต้องละมือออกเปลี่ยนมาจับที่ใบหน้านวลแทน “ตกลงว่าเป็นอะไร หืม”

คนถูกถามถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อได้รับความอ่อนโยนจากคนข้างตัว น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ในบริเวณนั้นมีเพียงเสียงสะอื้นที่ดังไปพร้อมกับเสียงเล็กๆ กระดิ่งบนต้นไม้ กฤษณ์นั่งมองหญิงสาวได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องยกมือขึ้นเกลี่ยใบหน้านวล ใบหน้าของเขาเริ่มเป็นกังวลและทำอะไรไม่ถูก

“ขิงครับ บอกพี่มาเถอะว่าเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้น แอมป์มันทำอะไรขิง แอมป์ทำอะไรขิงใช่มั้ย” เขาถามอย่างร้อนใจ หากคนร้องไห้ก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุด

เสียงสะอื้นที่ดังไม่หยุดยิ่งทำให้กฤษณ์ใจเสีย ยิ่งเธอสะอื้นมากเท่าไหร่เขายิ่งทำตัวไม่ถูกมากขึ้นเท่านั้น มือใหญ่ตั้งใจละมือเล็กที่จับอยู่ออกแล้วเปลี่ยนเป็นยกขึ้นยกไหล่บางแทน ไหล่ที่ยังคงสั้นสะท้านนั้นยิ่งทำให้เข้าต้องโอบกระชับมากขึ้น จนใบหน้านวลซบเข้ากับอกกว้าง เสื้อของเขาเลยกลายเป็นผ้าเช็ดหน้าไปแล้ว ความชื้นที่ส่งผ่านจากเสื้อยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ หากคนก่อเรื่องมายืนอยู่ตรงหน้าเขาก็อยากจะต่อยแรงๆ ซักหมัดสองหมัด เขาถอนหายใจเบาๆ อย่างที่คนในอ้อมกอดไม่น่าสัมผัสได้พลางลูบหลังเบาๆ ไปด้วยเป็นเชิงปลอบให้ขิงหยุดร้องไห้

ขิงสูดจมูกทั้งถูหน้าเช็ดน้ำตาและน้ำมูกกับอกอุ่น เล่นเอาเจ้าของเสื้อหัวเราะในลำคอทั้งๆ ที่ไม่อยากจะหัวเราะเลยสักนิด ใบหน้าเปรอะน้ำตานั้นเงยหน้าขึ้นมองคนหัวเราะพลางแจกค้อนวงใหญ่ มือเล็กป้ายหน้าซ้ายขวาเช็ดน้ำตาที่หลงเหลืออยู่อีกนิดแล้วผละจากอกหนากลับมานั่งที่เดิม มือเล็กสองข้างวางอยู่บนตักคอยแต่บิดชายเสื้อไปมาไม่ยอมพูดอะไรจนกฤษณ์ทำท่าจะลุกหนี เธอถึงผวามาคว้าแขนเขาไว้

“เดี๋ยวค่ะพี่กฤษณ์”

“ครับ?”

“เมื่อวาน... อยู่ๆ แอมป์ก็บอกว่ารักขิง” เธอเว้นจังหวะพูดช้อนตาขึ้นมองคนยืนอยู่ พอเห็นว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้นจึงพูดต่อ “รักมาตลอด”

คราวนี้มือเล็กที่จับแขนของชายหนุ่มอยู่รู้สึกถึงแรงเกร็งขึ้นมา เธอก้มลงมองที่แขนของกฤษณ์เห็นชายหนุ่มกำหมัดแน่น สายตาของเขายังคงทอดมองไปข้างหน้าอย่างที่เธอไม่รู้ว่าเขากำลังมองอะไรหรือคิดอะไรอยู่

“พี่กฤษณ์” ขิงเรียกเขาเบาๆ นัยน์ตาของเธอมีแววหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด น้ำตาของเธอรื้นขึ้นมาอีกครั้งจนเจ้าของชื่อต้องพยายามยิ้มออกมา

“ครับ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบผมศีรษะเล็กแล้วนั่งลงตามเดิม ถึงยังไงเขาก็โกรธเธอไม่ลง และเธอก็ไม่ใช่คนผิด ขิงไม่ได้ทำอะไรผิด “แล้วขิงตอบแอมป์ไปว่ายังไง”

เธอส่ายหน้าแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หยดระแก้ม “ขิงไม่ได้ตอบ ตอนนั้นขิงคิดอะไรไม่ออก”

“แล้วตอนนี้คิดออกรึยัง” หญิงสาวส่ายหน้าไม่ยอมตอบออกมา แถมยังดึงแขนของกฤษณ์ที่ตนจับไว้ให้ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังไม่อยากให้เขานั่งอยู่แท้ๆ

กฤษณ์รับรู้ถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้น เขารู้ว่าการตัดสินใจอะไรสักอย่างเป็นเรื่องยาก แล้วเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับเขาในตอนนี้... ถึงเขาจะมั่นใจอยู่มากที่ขิงไว้ใจเขามากขึ้นกว่าแต่ก่อน และเธอยอมเปิดใจให้เขาแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ อย่างที่เขาคิดมาตลอดว่าความรักของเธอที่เคยมีให้แอมป์ไม่ใช่ระยะเวลาสั้นๆ มันเกิดขึ้นอาจกลายเป็นความผูกพัน และหากขิงเลือกทางนู้นเขาคงทำอะไรไม่ได้นอกจาก... แสดงความยินดี

และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาเต็มใจจะทำอย่างแน่นอน...

“ทำงานต่างจังหวัดซักพักมั้ยขิง” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนหญิงสาวต้องมองหน้าคนพูดแล้วเลิกคิ้ว

“พี่กฤษณ์ว่ายังไงนะคะ”

“พี่ถามว่าเอางานไปทำที่ต่างจังหวัดดีมั้ย พี่อนุญาตให้ขิงไม่ต้องเข้าบริษัทก็ได้ ถือว่าไปพักผ่อนใช้เวลาคิดเรื่องนั้นด้วย ดีมั้ย?” ‘เรื่องนั้น’ ทำให้ขิงมีสีหน้าคิดไม่ตกไปชั่วครู่ ก่อนหันมายิ้มให้ชายหนุ่มอีกครั้งสำหรับข้อเสนอที่พิเศษกว่าใคร

“ไม่ต้องเข้าแบบไม่มีกำหนดเลยเหรอคะ” น้ำเสียงที่สดชื่นขึ้นมาทำเอาคนตั้งใจอนุญาตหรี่ตามอง นี่เขาไม่ได้กำลังจะปล่อยเสือเข้าป่าใช่ไหม

“ถ้าไม่ยอมกลับจะไปตาม” ขิงหัวเราะ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นสิ่งที่กฤษณ์จะทำจริงๆ ถ้าเธอหายเข้ากลีบเมฆ

“ขิงล้อเล่นค่ะ ขอเวลาขิงซักหน่อยนะคะ ขิงอยากคิดและตัดสินใจอะไรให้ดีก่อน”

“ถ้างั้นตกลงตามนี้นะครับ เริ่มพรุ่งนี้เลยแล้วกัน ขิงไม่ต้องเข้าบริษัทเดี๋ยวพี่ส่งงานมาให้เอง”

“ค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงใส เธอยิ้มกว้างจนกฤษณ์อดไม่ได้ยื่นมือไปขยี้ผมบนศีรษะเล็กให้จนยุ่งไม่เป็นทรง และคงยังไม่ยอมหยุดถ้ามือเล็กไม่ดึงมือเขาไว้

สายตาของขิงทำเอากฤษณ์ชักหน้าร้อนเหมือนกัน “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณที่เข้าใจขิง”

“ถ้ายังไม่หยุดมองแบบนั้น พี่ว่าพี่โดนคุณน้าห้ามเข้าบ้านแน่”

“คะ”

กฤษณ์ที่กำลังพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ทำอะไรน่าเกลียด แต่แล้วก็เหมือนเขากำลังถูกท้าทายจากผู้หญิงตัวเล็กที่ยังคงนั่งเอียงคอมองเขาด้วยรอยยิ้มน่ารัก จนเขาแทบอดใจไม่ไหว ชายหนุ่มเลื่อนหน้าเขาไปใกล้อีกนิดจนตอนนี้หน้าผากทั้งคู่ติดกัน และเขารู้สึกได้ว่าคนที่ทำให้เขาใจสั่นเมื่อครู่นั่งนิ่งไปแล้ว แววตาที่พราวระยับอยู่จนถึงเมื่อครู่เบิกกว้างขึ้นอีกเท่าตัวพร้อมกับมีรอยแดงจางๆ ขึ้นที่ใบหน้านวล ทำให้ยิ่งน่ารักไปกันใหญ่

“บอกแล้วไงครับว่าให้หยุดมองแบบนี้” เสียงทุ้มที่ไม่ได้มีท่าทีต่อว่าอย่างคำพูดเลยสักนิด แถมมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้ใจของขิงละลายกลายเป็นน้ำ

“พี่กฤษณ์... เอ่อ... ถอยออกไปหน่อยได้มั้ยคะ” เสียงแผ่วเบาที่ดูไม่มั่นคงของขิง ไม่ได้ทำให้เขาทำตามคำขอร้องนั้นแต่อย่างใด ชายหนุ่มยังคงอยู่ท่าเดิม แถมกำลังขยับเข้าไปอีกนิดจนริมฝีปากของทั้งคู่แทบชนกัน

ตอนนี้ขิงหัวสมองตื้อคิดอะไรไม่ออกไปแล้ว เธอไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสายตาหวานคู่นั้น หรือเพราะลมหายใจอุ่นที่เป่ารดเธออยู่ หรืออาจเป็นเพราะ... ริมฝีปากที่ขยับยิ้มอยู่ หญิงสาวเม้มปากเข้าหากันพร้อมกับหลับตาแน่น ไม่อยากรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ด้วยระยะห่างที่ร่นเข้ามาเรื่อยๆ ใจที่เต้นอยู่ตอนนี้ก็แทบนับจังหวะไม่ได้

“ขิงมาช่วยแม่หน่อย” เสียงสวรรค์ดังขึ้นขัด กฤษณ์ผละออกจากจุดเมื่อกี้อย่างรวดเร็ว เห็นใบหน้าหญิงสาวที่แดงเถือกนั่นแล้วยิ่งทำให้อารมณ์ดีขึ้น ชายหนุ่มขยับยิ้มล้อเลียนคนที่นั่งก้มหน้าอยู่ ไม่ยอมเงยหน้ามองเขา จนคนเป็นแม่เรียกจากข้างในบ้านอีกครั้ง เธอถึงลุกออกไปจากตรงนั้นทันทีไม่สนใจเสียงหัวเราะที่ดังอยู่ข้างหูและไม่หันมองคนแกล้งเธออีกเลย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มาแล้วววว มาแบบสั้นๆ อีกตอนนะคะ (ยิ้มหวานสู้ แหะๆ)
ตอนนี้มาแบบเศร้าๆ ปนหวานนะคะ เพราะมิณทิมาไม่นิยมดราม่าเท่าไหร่ 5555

มาไวไปไวค่ะ ขอแว๊บก่อนนะคะ :)
=======================================
ตอบเม้นต์นะคะ

คุณคิมหันตุ์ : นั่นสิคะ แหมม คนมันเคยรักอ่ะเนอะ

คุณ pseudolife : :) น่ารักจังเลยค่ะ เดี๋ยวยอมให้บอสไปเที่ยวบ้านซักสองวัน คิๆๆ

คุณ mhengjhy : ขิงก็คิดไม่ออกนะคะ นางแย่แล้ว

คุณ Amarilys : ฮาาาาาา ใจเย็นค่ะ นี่ถ้านายแอมป์อยู่ตรงหน้า คงเละแน่นอนเลย ใช่มั้ยเอ่ย
---------------------------------------------------------------------
แล้วเจอกันค่ะ ^3^



มิณทิมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.ค. 2556, 16:00:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ก.ค. 2556, 16:02:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1286





<< ตอนที่ 17   ตอนที่ 19 >>
Furzan 10 ก.ค. 2556, 17:13:50 น.
น่ารักจัง


mhengjhy 10 ก.ค. 2556, 18:31:04 น.
คุณกฤษณ์ใจเย็นๆ เดี๋ยวขิงก็คิดออก


pseudolife 11 ก.ค. 2556, 00:04:08 น.
ปล่อยเสือเข้าป่าไปก่อนค่าพี่กฤษณ์
หนูขิงน่ารัก ส่วนคนอ่านเทใจให้บอสเสมอค่า


คิมหันตุ์ 11 ก.ค. 2556, 02:15:37 น.
แหม่บอสนี่ ถึงตลอดนะจ๊ะ..เอาคะแนนไปเลย เจ้เทหมดหน้าตัก


Amarilys 11 ก.ค. 2556, 12:08:05 น.
บอสน่ารักที่สุดเต็มสิบให้ร้อยไปเลย.. ว่าแต่ปล่อยขิมไประวังนายแอมป์จะตามไปหยอดนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account