เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต
ตอน: ความทรงจำแรก "ข้อความที่เหลือไว้"
กลับมาอีกครั้งหลังจากไม่ได้ลงนิยายนานมาก ยังไงก็ฝากด้วยนะคะเรื่องนี้
ลึกลับ เร้นรักแบบสุดขีดตามสไตล์ แต่ต้องมีอะไรแปลกใหม่แน่นอน
...แถมกระซิบว่ามีถึงสามหนุ่มสามมุม อย่าลืมรอลุ้นไปด้วยกัน
-----------------------
ความทรงจำแรก “ข้อความที่เหลือไว้”
สายลมพัดโชยมาแตะต้องสัมผัสผิวกายพาให้ขนลุกซู่ ก้ำกึ่งระหว่างความรู้สึกเย็นชื่นฉ่ำและเหน็บหนาว
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน...เพราะที่ซึ่งฉันยืนอยู่เดียวดายนั้นมีแต่ความมืด
แต่ไม่ช้าภาพรอบกายก็ค่อยๆปรากฏให้เห็นทีละน้อย
ดอกไม้กลีบบอบบางกำลังผุดแต้มสีสันขึ้นมาในความมืดนั้นทีละดอก
หนึ่ง สอง และสาม... เบ่งบานเป็นทุ่งดอกไม้ใต้ราตรีไร้แสงดาว
มันคือที่ไหน และตัวฉันเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ฉันกวาดตามองไปรอบๆ
ดอกไม้น้อยใหญ่แข่งกันชูช่อ แต่สิ่งดึงดูดสายตายิ่งกว่ากลับเป็นผีเสื้อตัวนั้นที่กำลัง
บินร่อนลงแตะกลีบดอกไม้ดอกหนึ่ง ปีกของมันเป็นสีดำเหลือบน้ำเงินแปลกตา
ยิ่งก้าวเข้าไปใกล้ผีเสื้อ ฉันก็ยิ่งเห็นรายละเอียดของมันชัดขึ้น สีสันเหลือบประกาย
ราวจะสะบัดละอองสีน้ำเงินพร่างลงมาได้ทุกครั้งที่มันขยับปีกช้าๆ
ดมดอมน้ำหวานจากเกสร ลวดลายบนปีกเหมือนวงกตปริศนา
เป็นลายแห่งคำถามดำมืด เป็นความลับที่มันเอ่ยกับฉันโดยไม่มีสุ้มเสียง
ฉันยอบกายลงเพราะนึกอยากสัมผัสผีเสื้อ “เรากำลังฝันงั้นหรือ”
ใจหนึ่งคิดว่ามันอาจยอมมาเกาะบนมือ แต่อีกใจก็รู้ คงไม่ง่ายเพียงนั้น
ถึงจะระวังแต่การเคลื่อนไหวของฉันก็เป็นเหตุให้มันลอยตัวขึ้นจากดอกไม้
เงาระยิบระยับสีน้ำเงินพร่างเป็นสายตามจังหวะการกระพือปีก สวยจับใจ...
“รอด้วยสิ”
ฉันส่งเสียงออกไปขณะออกวิ่งตามผีเสื้อ แต่ดูเหมือนมันจะยิ่งหนี
ผีเสื้อบินห่าง สีสันของทุ่งดอกไม้เลือนลับ เหลือเพียงตัวฉันกำลังวิ่งไปในอุโมงค์มืดสลัว
กับผีเสื้อสีน้ำเงินที่เปล่งแสงเรื่อเรืองลอยกะพริบวูบวาบไกลออกไปทุกที ไม่ช้าไม่เร็ว
อย่างคล้ายจะยั่วให้ตาม แต่ฉันก็ตามไม่ทันเสียที
จนที่สุด ฉันมองไม่เห็นมัน...หยุดยืนเคว้งคว้างกลางความมืด หมุนตัวเหลียวหาไปรอบๆ
จนเริ่มไม่รู้ทิศทาง ออกเดินสะเปะสะปะไปโดยหวังว่าจะพบ ขณะเดียวกันก็รู้สึกราวกับ
กำลังหลงลืมบางอย่างไว้ข้างหลัง บางอย่างที่สำคัญ...
แล้วมันก็โผล่มาอีกครั้ง คราวนี้แสงสีน้ำเงินส่องให้เห็นว่าฉันยังอยู่ภายในอุโมงค์
ทางข้างหลังมีแต่ความมืด ไม่มีแสงสว่างใดเลย หันมองต่อไปข้างหน้า ผีเสื้อกำลังเริ่มบิน...
นำพาฉันไป คราวนี้จะต้องจับมันให้ได้ ฉันเร่งความเร็วขึ้นอีก
จนปีกระยับเลื่อมพรายสีน้ำเงินอยู่แค่ปลายนิ้ว
ในขณะที่เอื้อมมือออกไป กำลังจะแตะถึงปีกบอบบางอยู่แล้ว
ภาพผีเสื้อพลันสะท้านสั่นไหว พร้อมๆกับทุกสิ่งในความรับรู้ของฉันเลือนดับลง...
เปลือกตาปวดรุมของฉันค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ ความรู้สึกพร่าเลือนมึนงง
ฉันพยายามปรับสายตาจนมองเห็นเพดานห้องชัดเจน
แขนล้าๆประคองร่างกายลุกนั่งได้ในที่สุด
พบว่าตนอยู่บนเตียงสีขาวในห้องนอนที่ควรจะคุ้นเคยของตนเอง แต่แปลก
ในหัวใจกลับระลึกขึ้นวูบหนึ่ง ฉันไม่ควรมาอยู่ที่นี่ เวลานี้
แล้วถ้าอย่างนั้น...ฉันควรจะอยู่ที่ไหน
ความทรงจำเป็นสีขาวโพลน ยินเพียงจังหวะใจเต้นเนิบช้าในอก แล้วฉันก็รับรู้ถึงบางอย่าง
ที่มือตนเองยังกำจิกเอาไว้แน่น วูบนั้นเกือบคิดว่ามันอาจเป็นผีเสื้อสีน้ำเงิน แต่ไม่ใช่หรอก
ฉันจับผีเสื้อด้วยมือขวา แต่อะไรบางอย่างที่ว่ามันอยู่ในมือซ้ายต่างหาก...เมื่อก้มดูก็โล่งใจที่เป็นอย่างอื่น
มิเช่นนั้นเจ้าผีเสื้อปีกสวยบอบบางคงแหลกยับไปแล้วหากโดนกำไว้แน่นถึงเพียงนี้
กระดาษสมุดฉีกสีน้ำตาลแผ่นเล็กถูกขยำจนยับยู่ยี่ ฉันคลี่มันออกอ่าน
สายตาไล่เรื่อยไปช้าๆ ทว่าจดจ่อกับทุกถ้อยคำ... น่าเสียดาย
ตัวอักษรสำคัญกลับเลอะเลือนเป็นด่างดวงกระหย่อมใหญ่
ทำเอาหมึกแผ่ขยายซึมเป็นวงกว้างลงมาถึงบรรทัดล่าง
เสียงกระซิบผะแผ่วจากความว่างเปล่าเป็นตัวบอกให้ได้รู้ มันคือรอยน้ำตา
“ผมชื่อ...... ถึงตอนนี้เราคงจำกันไม่ได้
ผมเองก็น่าจะลืมชื่อวนัสสาไปแล้วเช่นกัน
แต่ความหวังอย่างเดียวของเรา วนัสต้องตามหาผมให้เจอ
ตามร่องรอยของผีเสื้อไป เพื่อที่เราจะได้กลับมาพบกัน
และรักกัน...อีกครั้ง”
ความเศร้าที่เดิมเหมือนไม่เคยมีอยู่เลยในจิตใจคล้ายถาโถมเข้ามาในวูบนั้น
มือข้างหนึ่งเอื้อมขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น ฉันเริ่มร้องไห้เหมือนคนหัวใจกำลังแหลกสลาย
ร่างกายสะท้านไหวจนเกินควบคุม น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลรินลง มือที่อ่อนล้ายังพอมีแรง
ย้ายกระดาษแผ่นนั้นหลบ กลัวว่ามันจะเปียกปอน เพราะความอ่อนแอ
เพราะน้ำตาทำให้ฉันพลาดสิ่งสำคัญไปงั้นหรือ ...ชื่อของเขาลบเลือนไปแล้ว
ใครสักคนที่หัวใจปวดหนึบเมื่อพยายามย้อนระลึกถึง แต่ก็นึกไม่ออกจริงๆว่าตัวเองกำลังคิดถึงใคร
ความรู้สึกคล้ายเมื่อตอนวิ่งไล่ตามผีเสื้อและลืมบางสิ่งที่สำคัญไว้เบื้องหลัง
“ใคร คุณเป็นใคร ทำไมฉันถึงลืมคุณ...”
ขณะยังร้องไห้ไม่หยุด มือสั่นๆของฉันไล้ไปบนแผ่นกระดาษยับย่นสีน้ำตาลนั้น
แต่ละปลายนิ้วสัมผัสเนื้อกระดาษแห้งผาก ลากผ่านทุกตัวอักษร
พยายามใช้ความสามารถพิเศษอันแฝงเร้นในตัว อ่านความรู้สึกจากสิ่งของ
ด้วยการใช้มือสัมผัส จนที่สุด สีสันบางอย่างเริ่มผุดขึ้นในใจ...เงาสีน้ำเงิน
เงาของผู้ชายสามคน แต่คนไหนกันล่ะ คือคนสำคัญที่ฉันลืมเขาไปแล้ว?
ความรู้สึกที่ค้างคาในใจนี้คือรัก รักเขามากจนหัวใจเจ็บปวดเกินจะทนไหว
คนอย่างฉันที่ปกติแทบไม่เคยเสียน้ำตา กลับร้องไห้ไม่หยุดเมื่ออ่านข้อความจากกระดาษแผ่นเดียวในมือ
...ครั้งนี้ ทั้งส่วนที่เข้มแข็งและส่วนอ่อนแอในตัวตนของฉันกำลังร่ำร้องเป็นเสียงเดียว
ว่าจะต้องไปตามหาคนรักที่หายไปคนนั้นกลับคืนมา
ลึกลับ เร้นรักแบบสุดขีดตามสไตล์ แต่ต้องมีอะไรแปลกใหม่แน่นอน
...แถมกระซิบว่ามีถึงสามหนุ่มสามมุม อย่าลืมรอลุ้นไปด้วยกัน
-----------------------
ความทรงจำแรก “ข้อความที่เหลือไว้”
สายลมพัดโชยมาแตะต้องสัมผัสผิวกายพาให้ขนลุกซู่ ก้ำกึ่งระหว่างความรู้สึกเย็นชื่นฉ่ำและเหน็บหนาว
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน...เพราะที่ซึ่งฉันยืนอยู่เดียวดายนั้นมีแต่ความมืด
แต่ไม่ช้าภาพรอบกายก็ค่อยๆปรากฏให้เห็นทีละน้อย
ดอกไม้กลีบบอบบางกำลังผุดแต้มสีสันขึ้นมาในความมืดนั้นทีละดอก
หนึ่ง สอง และสาม... เบ่งบานเป็นทุ่งดอกไม้ใต้ราตรีไร้แสงดาว
มันคือที่ไหน และตัวฉันเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ฉันกวาดตามองไปรอบๆ
ดอกไม้น้อยใหญ่แข่งกันชูช่อ แต่สิ่งดึงดูดสายตายิ่งกว่ากลับเป็นผีเสื้อตัวนั้นที่กำลัง
บินร่อนลงแตะกลีบดอกไม้ดอกหนึ่ง ปีกของมันเป็นสีดำเหลือบน้ำเงินแปลกตา
ยิ่งก้าวเข้าไปใกล้ผีเสื้อ ฉันก็ยิ่งเห็นรายละเอียดของมันชัดขึ้น สีสันเหลือบประกาย
ราวจะสะบัดละอองสีน้ำเงินพร่างลงมาได้ทุกครั้งที่มันขยับปีกช้าๆ
ดมดอมน้ำหวานจากเกสร ลวดลายบนปีกเหมือนวงกตปริศนา
เป็นลายแห่งคำถามดำมืด เป็นความลับที่มันเอ่ยกับฉันโดยไม่มีสุ้มเสียง
ฉันยอบกายลงเพราะนึกอยากสัมผัสผีเสื้อ “เรากำลังฝันงั้นหรือ”
ใจหนึ่งคิดว่ามันอาจยอมมาเกาะบนมือ แต่อีกใจก็รู้ คงไม่ง่ายเพียงนั้น
ถึงจะระวังแต่การเคลื่อนไหวของฉันก็เป็นเหตุให้มันลอยตัวขึ้นจากดอกไม้
เงาระยิบระยับสีน้ำเงินพร่างเป็นสายตามจังหวะการกระพือปีก สวยจับใจ...
“รอด้วยสิ”
ฉันส่งเสียงออกไปขณะออกวิ่งตามผีเสื้อ แต่ดูเหมือนมันจะยิ่งหนี
ผีเสื้อบินห่าง สีสันของทุ่งดอกไม้เลือนลับ เหลือเพียงตัวฉันกำลังวิ่งไปในอุโมงค์มืดสลัว
กับผีเสื้อสีน้ำเงินที่เปล่งแสงเรื่อเรืองลอยกะพริบวูบวาบไกลออกไปทุกที ไม่ช้าไม่เร็ว
อย่างคล้ายจะยั่วให้ตาม แต่ฉันก็ตามไม่ทันเสียที
จนที่สุด ฉันมองไม่เห็นมัน...หยุดยืนเคว้งคว้างกลางความมืด หมุนตัวเหลียวหาไปรอบๆ
จนเริ่มไม่รู้ทิศทาง ออกเดินสะเปะสะปะไปโดยหวังว่าจะพบ ขณะเดียวกันก็รู้สึกราวกับ
กำลังหลงลืมบางอย่างไว้ข้างหลัง บางอย่างที่สำคัญ...
แล้วมันก็โผล่มาอีกครั้ง คราวนี้แสงสีน้ำเงินส่องให้เห็นว่าฉันยังอยู่ภายในอุโมงค์
ทางข้างหลังมีแต่ความมืด ไม่มีแสงสว่างใดเลย หันมองต่อไปข้างหน้า ผีเสื้อกำลังเริ่มบิน...
นำพาฉันไป คราวนี้จะต้องจับมันให้ได้ ฉันเร่งความเร็วขึ้นอีก
จนปีกระยับเลื่อมพรายสีน้ำเงินอยู่แค่ปลายนิ้ว
ในขณะที่เอื้อมมือออกไป กำลังจะแตะถึงปีกบอบบางอยู่แล้ว
ภาพผีเสื้อพลันสะท้านสั่นไหว พร้อมๆกับทุกสิ่งในความรับรู้ของฉันเลือนดับลง...
เปลือกตาปวดรุมของฉันค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ ความรู้สึกพร่าเลือนมึนงง
ฉันพยายามปรับสายตาจนมองเห็นเพดานห้องชัดเจน
แขนล้าๆประคองร่างกายลุกนั่งได้ในที่สุด
พบว่าตนอยู่บนเตียงสีขาวในห้องนอนที่ควรจะคุ้นเคยของตนเอง แต่แปลก
ในหัวใจกลับระลึกขึ้นวูบหนึ่ง ฉันไม่ควรมาอยู่ที่นี่ เวลานี้
แล้วถ้าอย่างนั้น...ฉันควรจะอยู่ที่ไหน
ความทรงจำเป็นสีขาวโพลน ยินเพียงจังหวะใจเต้นเนิบช้าในอก แล้วฉันก็รับรู้ถึงบางอย่าง
ที่มือตนเองยังกำจิกเอาไว้แน่น วูบนั้นเกือบคิดว่ามันอาจเป็นผีเสื้อสีน้ำเงิน แต่ไม่ใช่หรอก
ฉันจับผีเสื้อด้วยมือขวา แต่อะไรบางอย่างที่ว่ามันอยู่ในมือซ้ายต่างหาก...เมื่อก้มดูก็โล่งใจที่เป็นอย่างอื่น
มิเช่นนั้นเจ้าผีเสื้อปีกสวยบอบบางคงแหลกยับไปแล้วหากโดนกำไว้แน่นถึงเพียงนี้
กระดาษสมุดฉีกสีน้ำตาลแผ่นเล็กถูกขยำจนยับยู่ยี่ ฉันคลี่มันออกอ่าน
สายตาไล่เรื่อยไปช้าๆ ทว่าจดจ่อกับทุกถ้อยคำ... น่าเสียดาย
ตัวอักษรสำคัญกลับเลอะเลือนเป็นด่างดวงกระหย่อมใหญ่
ทำเอาหมึกแผ่ขยายซึมเป็นวงกว้างลงมาถึงบรรทัดล่าง
เสียงกระซิบผะแผ่วจากความว่างเปล่าเป็นตัวบอกให้ได้รู้ มันคือรอยน้ำตา
“ผมชื่อ...... ถึงตอนนี้เราคงจำกันไม่ได้
ผมเองก็น่าจะลืมชื่อวนัสสาไปแล้วเช่นกัน
แต่ความหวังอย่างเดียวของเรา วนัสต้องตามหาผมให้เจอ
ตามร่องรอยของผีเสื้อไป เพื่อที่เราจะได้กลับมาพบกัน
และรักกัน...อีกครั้ง”
ความเศร้าที่เดิมเหมือนไม่เคยมีอยู่เลยในจิตใจคล้ายถาโถมเข้ามาในวูบนั้น
มือข้างหนึ่งเอื้อมขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น ฉันเริ่มร้องไห้เหมือนคนหัวใจกำลังแหลกสลาย
ร่างกายสะท้านไหวจนเกินควบคุม น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลรินลง มือที่อ่อนล้ายังพอมีแรง
ย้ายกระดาษแผ่นนั้นหลบ กลัวว่ามันจะเปียกปอน เพราะความอ่อนแอ
เพราะน้ำตาทำให้ฉันพลาดสิ่งสำคัญไปงั้นหรือ ...ชื่อของเขาลบเลือนไปแล้ว
ใครสักคนที่หัวใจปวดหนึบเมื่อพยายามย้อนระลึกถึง แต่ก็นึกไม่ออกจริงๆว่าตัวเองกำลังคิดถึงใคร
ความรู้สึกคล้ายเมื่อตอนวิ่งไล่ตามผีเสื้อและลืมบางสิ่งที่สำคัญไว้เบื้องหลัง
“ใคร คุณเป็นใคร ทำไมฉันถึงลืมคุณ...”
ขณะยังร้องไห้ไม่หยุด มือสั่นๆของฉันไล้ไปบนแผ่นกระดาษยับย่นสีน้ำตาลนั้น
แต่ละปลายนิ้วสัมผัสเนื้อกระดาษแห้งผาก ลากผ่านทุกตัวอักษร
พยายามใช้ความสามารถพิเศษอันแฝงเร้นในตัว อ่านความรู้สึกจากสิ่งของ
ด้วยการใช้มือสัมผัส จนที่สุด สีสันบางอย่างเริ่มผุดขึ้นในใจ...เงาสีน้ำเงิน
เงาของผู้ชายสามคน แต่คนไหนกันล่ะ คือคนสำคัญที่ฉันลืมเขาไปแล้ว?
ความรู้สึกที่ค้างคาในใจนี้คือรัก รักเขามากจนหัวใจเจ็บปวดเกินจะทนไหว
คนอย่างฉันที่ปกติแทบไม่เคยเสียน้ำตา กลับร้องไห้ไม่หยุดเมื่ออ่านข้อความจากกระดาษแผ่นเดียวในมือ
...ครั้งนี้ ทั้งส่วนที่เข้มแข็งและส่วนอ่อนแอในตัวตนของฉันกำลังร่ำร้องเป็นเสียงเดียว
ว่าจะต้องไปตามหาคนรักที่หายไปคนนั้นกลับคืนมา

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ก.ค. 2556, 17:43:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ก.ค. 2556, 17:43:56 น.
จำนวนการเข้าชม : 2119
(แก้)ความทรงจำแรก"ข้อความที่เหลือไว้" - ความทรงจำที่ 2 คฤหาสน์ลับกลางกรุง >> |

ริญจน์ธร 11 ก.ค. 2556, 17:57:07 น.
แวะมาเจิมคนแรก เปิดเรื่องมาอย่างลึกลับมาก
ปล. แอบเห็นชื่อสามหนุ่มจาก tags แล้ว ว่าแต่ใครคือพระเอกล่ะเนี่ย

ปล. แอบเห็นชื่อสามหนุ่มจาก tags แล้ว ว่าแต่ใครคือพระเอกล่ะเนี่ย


อสิตา 11 ก.ค. 2556, 18:12:37 น.
เอิ่ม เพิ่งเห็นว่าบทนำคล้ายๆดั่งราตรีสีขาวเลย ...เดี๋ยวพวกเราต้องไปเพิ่มกลิ่นซะแล้ว ของอสิตาน่าจะเติมเป็นผีเสื้อในครอบแก้วทดลองอะไรแบบนี้ค่ะ
เอิ่ม เพิ่งเห็นว่าบทนำคล้ายๆดั่งราตรีสีขาวเลย ...เดี๋ยวพวกเราต้องไปเพิ่มกลิ่นซะแล้ว ของอสิตาน่าจะเติมเป็นผีเสื้อในครอบแก้วทดลองอะไรแบบนี้ค่ะ


ภาวิน 11 ก.ค. 2556, 18:42:39 น.
ดูลึกลับขรึมขลังชวนติดตามไม่ทิ้งลายอสิตา ดีใจที่ได้เขียนชุดเดียวกัน แต่เราจะไปปรับเรื่องบทนำกันใหม่ ไม่งั้นวิ่งตามผีเสื้อกันสองเรื่อง มันจะไม่ขลัง
ดูลึกลับขรึมขลังชวนติดตามไม่ทิ้งลายอสิตา ดีใจที่ได้เขียนชุดเดียวกัน แต่เราจะไปปรับเรื่องบทนำกันใหม่ ไม่งั้นวิ่งตามผีเสื้อกันสองเรื่อง มันจะไม่ขลัง

Amarilys 11 ก.ค. 2556, 18:42:42 น.
"ถึงตอนนี้เราคงจำกันไม่ได้.." อ่านแล้วเจ็บปวดไปด้วย.. มาเจิมนะคะ รออ่านตอนต่อไป
"ถึงตอนนี้เราคงจำกันไม่ได้.." อ่านแล้วเจ็บปวดไปด้วย.. มาเจิมนะคะ รออ่านตอนต่อไป

Zephyr 11 ก.ค. 2556, 19:12:28 น.
ฮุ เปิดมาก็ มีมาให้เลือกตั้ง 3 แน่ะ อุอิ
เอาคนไหนดีน้า จริงๆมีในใจตั้งแต่แรกละ อ่านชื่อจบปุ๊บ เลือกปั๊บเลย
แต่ยังไม่บอกดีกว่า รออ่านไปเรื่อยๆก่อน คริคริ
อืมมม ว่าแต่มันจะแนวแฟนตาซีป่ะ มะม้า หรือแค่คำเปรียบเปรย
ฮุ เปิดมาก็ มีมาให้เลือกตั้ง 3 แน่ะ อุอิ
เอาคนไหนดีน้า จริงๆมีในใจตั้งแต่แรกละ อ่านชื่อจบปุ๊บ เลือกปั๊บเลย
แต่ยังไม่บอกดีกว่า รออ่านไปเรื่อยๆก่อน คริคริ
อืมมม ว่าแต่มันจะแนวแฟนตาซีป่ะ มะม้า หรือแค่คำเปรียบเปรย

lovemuay 11 ก.ค. 2556, 20:39:23 น.
บทนำก็น่าอ่านซะแล้ว อิอิ
บทนำก็น่าอ่านซะแล้ว อิอิ

บุลินทร 11 ก.ค. 2556, 21:45:48 น.
มาเป็นกำลังใจให้พี่มิ้งค์
มาเป็นกำลังใจให้พี่มิ้งค์

Chii 11 ก.ค. 2556, 23:51:07 น.
เค้าลงชื่อจองหนึ่งหนุ่มไว้เลยได้เป่าาาาา
อสิตาจะเปิดทู้จองหนุ่มเมื่อไร เรียกเค้าด้วยนะะะะ
เค้าลงชื่อจองหนึ่งหนุ่มไว้เลยได้เป่าาาาา
อสิตาจะเปิดทู้จองหนุ่มเมื่อไร เรียกเค้าด้วยนะะะะ


พันธุ์แตงกวา 12 ก.ค. 2556, 00:54:49 น.
โอ๊ยตายแล้ว เดี้ยนลำบากใจ ไม่รู้จะเลิกใครดี(เป็นนางเอกเหรอตัวเธอ) 555
น่าติดตามมากจ้า รอๆๆ
โอ๊ยตายแล้ว เดี้ยนลำบากใจ ไม่รู้จะเลิกใครดี(เป็นนางเอกเหรอตัวเธอ) 555
น่าติดตามมากจ้า รอๆๆ

Sukhumvit66 13 ก.ค. 2556, 11:15:38 น.
โอ๊ย ถูกใจมาก มาลงชื่อค่ะ
โอ๊ย ถูกใจมาก มาลงชื่อค่ะ

goldensun 14 ก.ค. 2556, 19:41:51 น.
มาลงชื่อตามอ่านด้วยคนค่ะ
มาลงชื่อตามอ่านด้วยคนค่ะ