จุ้น กะ ปอม
มิตรภาพสำคัญไฉน มาร่วมพิสูจน์คำๆนี้ไปกับเธอและเขา แล้วคุณจะรักพวกเขาไปโดยไม่รู้ตัว..."จุ้น กะ ปอม"

Tags: จุ้นกะปอม

ตอน: ตอนที่ 29 : คนเคยคุ้น

เสียงนกร้องจิ๊บๆ ส่งเสียงแจ้วๆ เรียกจุ้นให้ลืมตาตื่น อากาศยามเช้าวันจันทร์ยังคงหนาว
สะท้าน จุ้นนอนลืมตามองฝ้าเพดานอยู่อย่างงั้น ถ้าเป็นไปได้อยากจะนอนแช่อยู่อย่างงี้อีกซัก
ชั่วโมง แต่ด้วยหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบทำให้กระบิดกระบวยนอนต่อไม่ได้ แหงนหน้าไปดู
นาฬิกาที่หัวนอน หกโมงครึ่งแล้ว

เหลือบตาดูนอกระเบียงท้องฟ้ายังไม่สว่างดีเลย แล้วก็ดีดตัวลุกปึ่งขึ้นมานั่งบิดซ้าย บิดขวา
สลัดหัวไปมาให้ความง่วงมันจางหายไป ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง เท้าแตะพื้นแล้วก็ต้องสะดุ้งรีบ
ยกเท้าขึ้นมาบนเตียงใหม่ เย็น! ทั้งๆที่จุ้นใส่ถุงเท้าอยู่ แต่ด้วยอากาศที่หนาวมากบวกกับพื้น
ห้องที่เป็นไม้ขัดเงาความเย็นมันเลยแทรกซึมอยู่ตามผืนไม้ด้วย ทำให้ถุงเท้าที่ใส่อยู่ไม่พอ
เพียงกับอากาศหนาวที่มากขึ้นของวันนี้ จุ้นตั้งสตินิดนึง..ทำหน้าตัดใจ..เอาวะหนาวก็หนาววุ้ย!

ค่อยๆ หย่อนเท้าลงมาทีละข้าง เดินโหย่งตัวก้าวที่ละขาไปหยิบเสื้อผ้าในตู้ แวะหยิบผ้าเช็ดตัว
ที่ราวแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำ ซักครู่ก็เดินหน้าชะแล่มออกมาจากห้องน้ำ หยุดหน้าห้องน้ำแป๊บนึง
แล้วก็วิ่งปรู๊ด!ไปที่ตู้เสื้อผ้าเอื้อมมือไปที่ลิ้นชักชั้นล่างหยิบถุงเท้าออกมาสองคู่ แล้วก็
รีบกระโดดขึ้นบนเตียงป๊าบ! ถอนหายใจเฮือก! จุ้นนั่งใส่ถุงเท้าพอเสร็จก็เดินออกมานอก
ห้อง.......

บ้านไร่หลังนี้พ่อของจุ้นออกแบบมาคล้ายรีสอร์ททางเหนือ ปลูกอยู่บนเชิงเขาประกอบด้วย
เรือนหลังใหญ่กับเรือนหลังเล็กอยู่ในบริเวณเดียวกันเป็นบ้านสองชั้นมีทางเดินเป็นตัวเชื่อม
สามารถเดินทะลุถึงกันได้โดยไม่ต้องลงจากตัวบ้าน...ด้านหน้าของระเบียงทุกห้องจะหันไป
ทางไร่ส้ม มองเห็นต้นส้มเป็นทิวแถวลดหลั่นกันลงไป มีผู้อยู่ร่วมชายคาเรือนหลังใหญ่หกคน
รวมพ่อกับแม่จุ้น ส่วนหลังเล็กพ่อจุ้นยกให้ครอบครัวของพัฒน์กับพนักงานสองสามคนอยู่......

พัฒน์เข้ามาทำงานให้กับพ่อจุ้นได้ประมาณสองปีกว่าแล้ว...ทำในตำแหน่งผู้จัดการไร่ส้ม
ครอบครัวของพัฒน์ประกอบไปด้วยภรรยาคือก้อย กับลูกชายตัวน้อย ดช.ติว อายุ 5 ขวบ
กำลังอ้วนน่าหยิกแก้ม...ตั้งแต่พัฒน์เข้ามาทำงานอยู่ที่ไร่การพัฒนาของสายพันธุ์ส้ม ทับตะวัน
ดีขึ้นอย่างทันตาเห็น บ้านไร่แห่งนี้มีชื่อว่าไร่ ทับตะวัน เพราะฉะนั้นส้มทุกผลที่ออกจากไร่จะมี
โลโก้ ทับตะวัน ติดไปด้วย สามารถตีตลาดของส้มที่มีชื่ออยู่ตอนนี้ได้อย่างราบคาบ เพราะมี
ลักษณะกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร กินแล้วรู้ได้เลยว่าเป็นส้มสายพันธุ์ใหม่ "ทับ
ตะวัน".........

จุ้นเปิดประตูห้องออกมาก็ได้ยินเสียงเด็กชาย ติวแจ้วๆ วิ่งมาแต่ไกลเหมือนกับคอยจ้องอยู่ว่า
จุ้นจะออกจากห้องมาเมื่อไหร่ ตัวกลมดิ๊กวิ่ง ตุ๊บ! ตั๊บ! ตุ๊บ! ตั๊บ! มือขวาถือดาบ มือซ้ายถือปืน
ถลาเข้ามาหาจุ้น...จุ้นยิ้มแป้นรีบเอามือจับไว้กลัวล้มไปทั้งคู่

"พี่จุ้ง!..พี่จุ้งเล่นต่อสู้กับติวเฮ๊อะ!" พยักหน้าชวนหญ่ายย ติวเรียกชื่อจุ้นไม่ได้ ลิ้นไม่ไป เรียก
จุ้นจะกลายเป็นจุ้งทุกที เหมียนใครเอ่ย! จุ้นหัวเราะ ค่อยๆ นั่งยองๆ ลงถามติว

"เล่นอะไรกันแต่เช้าติว...กินข้าวหรือยังน่ะเรา..หึมม์" ติวตาเหลือก กระซิบเสียงเบาๆส่งมา

"อย่าพูดดังพี่จุ้ง..ติวหนีแม่ก้อยขึ้นม๊า..ติวยังไม่ได้กิ้น..จะมากินกะพี่จุ้ง" ทำคิ้วขมวด พยักหน้า
หงึกหงึก ให้จุ้นสมรู้ร่วมคิดด้วย จุ้นอมยิ้มเหลือกตามั่งพยักหน้าหงึก หงักตามติว แล้วก็กระซิบ
ตอบ

"เหรอ! เหรอ! งั้นก็ต้องรีบไปหาป้าคำแก้วกันน่ะสิ..ไปดูซิว่ามีอะไรกินบ้าง ไช่มั๊ย!" ติวตาโต
พูดเสียงกระซิบ

"ใช่..ใช่..ค่อยๆแอบย่องไปนะพี่จุ้ง..เดี๋ยวแม่เห็นแล้วยุ่ง..ผู้ใหญ่ชอบบ่น ติวไม่ชอบ" จุ้นยิ้มทำ
หน้าหมั่นไส้ แก่แดด!จริงนะเจ้าติว ตัวแค่เนี้ยพูดอย่างกะผู้ใหญ่..แล้วจุ้นก็ค่อย ๆเดินย่องตาม
ติว เล่นตามเด็ก! (เฮอะๆ) เกือบจะถึงห้องอาหารอยู่แล้ว ได้ยินเสียงหัวเราะคิก คิก อยู่ข้าง
หลัง รีบหันมาดูเห็นบัวเผื่อนยืนหัวเราะ ในมือก็ถือถาดอาหารอยู่...จุ้นยิ้มแหยให้รีบดึงติวมายืน
ข้างๆ

"เล่นอะไรกับเจ้าติวคะคุณจุ้น ย่องเป็นม้าเชียว" บัวเผื่อนส่งเสียงถามมา แล้วก็เดินเข้ามาใน
ห้องพร้อมกับจุ้นและก็ติว...จุ้นหัวเราะ

"ซ่อนแอบค่ะ...ติวเค้ากำลังแอบพี่ก้อยอยู่" บัวเผื่อนหัวเราะ มือก็วางถาดอาหารจัดเรียงจานบน
โต๊ะ

"ถึงว่า! เจ้าติวมันถึงติดคุณจุ้น!ไม่ยอมห่าง เล่นตามใจมันอย่างงี้นี่เอง ไม่ไปไหนเลยนะน่ะ...
มันมานั่งรอคุณจุ้นตั้งแต่เช้า" จุ้นยิ้ม หันมาหาติวเห็นก้มหน้าก้มตาเล่นปืนกับดาบอยู่ ก็ยกมือ
ขยี้ผม

"คุณจุ้น ทานเลยหรือเปล่าคะ เดี๋ยวบัวเผื่อนตักให้" จุ้นหันมายิ้ม

"ไม่เป็นไรจ๊ะ! เดี๋ยวจุ้นจัดการเอง พี่บัวเผื่อนจะทำอะไรก็ไปทำเถอะ"

"งั้นพี่ขอตัวนะคะ เดี่ยวต้องลงไปคุมคนงานเก็บส้มอีก"

"จ๊ะ..เดี๋ยวจุ้นเสร็จแล้วก็จะตามลงไปเหมือนกัน" แล้วบัวเผื่อนก็เดินออกจากห้องไป จุ้นหันมา
หาติวใหม่

"ไป!ติว..ไปนั่ง..เดี๋ยวพี่ตักข้าวให้" ติวเงยหน้าขึ้นยิ้มตาหยี จุ้นอมยิ้ม เหมือนไอ้ปอมจัง! จุ้นพา
ติวมานั่งที่โต๊ะ แล้วเสียงติวก็แจ้วออกมา

"เอาเยอะ ๆ นะพี่จุ้ง..ติวหิวแสบท้องไปหมดแล้ว..เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ" จุ้นหัวเราะ เอามือ
หยิกแก้มติวเบาๆ

"ช่างพูดจริงนะเรา...ไปจำมาจากไหนฮะ..เจ้าติว" มือตักข้าวให้ ปากก็ถามไป ติวนั่งพูดจ้อยๆ
เท้าก็แกว่งไป แกว่งมา

"แม่ก้อยบอกติวเอ๊ง!...บอกว่าถ้าไม่กินข้าวเดี๋ยวแสบท้องแล้วจาเป็นโรคกระเพาะ" จุ้นยิ้ม ยื่น
จานข้าวให้ นั่งลงใกล้ๆติว

"ถึงว่า! กลัวแสบท้องนี่เอง ตัวถึงได้กลมดิ๊กขนาดนี้" ติวตักข้าวเข้าปาก เงยหน้ายิ้มให้จุ้นข้าว
เต็มปาก จุ้นกำลังจะเอาข้าวเข้าปาก พอเห็นติวก็หัวเราะ

"เวลาข้าวอยู่ในปากไม่ต้องยิ้มมากขนาดนั้นก็ได้ติว เดี๋ยวมันหกหมด" ติวพยักหน้ารับแล้วก็ดูด
ข้าวในปากจ๊วบ จ๊วบ จุ้นยิ้มส่งข้าวเข้าปากตัวเอง แล้วก็เอื้อมมือไปตักผัดผักบุ้งจะใส่จานติวให้
ติวรีบพูดเสียงดังข้าวเต็มปาก

"ติวไม่เอา" จุ้นเลิกคิ้ว

"ทำไมล่ะ กินผักเยอะๆจะได้โตเร็วๆไง" ติวขมวดคิ้ว ทำหน้าปูเลี่ยนๆ

"ติวไม่ชอบ มันเละๆ แหยะๆ" จุ้นขมวดคิ้วบ้าง เออ!เหมือนไอ้ปอมอีกแล้วแฮะ! แล้วก็นั่งกิน
ข้าวกันไปเงียบๆ ซักแป๊บ!ก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา จุ้นแหงะหน้าไปมองส่งยิ้มให้

"พี่ก้อย ทานข้าวด้วยกันค่ะ" ก้อยยิ้มรับ สายตาก็เหลือบไปมองลูกชาย

"พี่เรียบร้อยแล้วจุ้น ตามสบายจ๊ะ!...ว่าจะมาตามหาเจ้าติวเห็นเงียบมานานแล้วกลัวจะมากวน
จุ้น!" ก้อยพูดเดินไปนั่งข้างๆลูกชาย

"ไม่เป็นไรค่ะ..สนุกดีซะอีกไม่เงียบ" ก้อยยิ้มหันไปหาติว เอามือลูบหัว

"ว่าไงเจ้าติว...มากวนอะไรพี่จุ้นอีกหรือเปล่าเฮอะ" ติวยิ้มให้ก้อย ปากก็เคี้ยวหงุบหงับ

"ติวไม่กวน...ติวมาชวนพี่จุ้งเล่น...ติวกลัวพี่จุ้งเหงา" ก้อยกับจุ้นหัวเราะในความช่างพูดของติว

"อ้อ! จุ้นวันนี้จะมีนักศึกษามาฝึกงานสองคนนะจ๊ะ..มช.ปี4.. ฝึกก่อนจบ..หญิงคน..ชายคนน่ะ
จะมาถึงซักสิบเอ็ดโมง พี่พัฒน์นัดไว้ตอนนั้น ผู้หญิงนี่รู้สึกจะเกษตรนะ ส่วนผู้ชายถ้าจำไม่ผิด
จะวิศวะ เผื่อจุ้นมีอะไรจะให้เค้าช่วยจะได้ไปเจอด้วยกันเลย" จุ้นพยักหน้า แล้วก็นึกอะไรขึ้นมา
ได้

"พี่ก้อย..จุ้นอยากดูOrder ของเดือนนี้น่ะค่ะ..เดี๋ยวพี่ก้อยช่วยหาให้จุ้นด้วยนะคะเอาตอนบ่ายก็
ได้ ตอนเช้าจุ้นจะลงไปในไร่ก่อน" ก้อยพยักหน้า อมยิ้มออกมา

"จุ้นนี่ขยันเนอะ!ลงไร่ทุกวันเลย..รู้มั๊ยคนงานเค้าดีใจกันใหญ่เห็นจุ้นลงไปบ่อยๆเค้าบอกคิดถึง
ไม่ได้เห็นจุ้นนาน บ่นคิดถึงพวกคุณปอมด้วยนะจ๊ะ...แล้วก็ไอ้เสียงตามสายที่พวกคุณปอมมา
ติดไว้ให้ในไร่เมื่อปีที่แล้วน่ะชอบกันมากๆ...ทำงานกันไปฟังเพลงกันไปมีความสุขเค้าบอกว่า
มันคลายเครียดดี" จุ้นยิ้มนึกถึงปีที่แล้ว ที่พวกปอมตามมาทีหลังมากันครบทีมเป็นที่เฮฮามาก
เหมือนมาออกค่ายย่อมๆ ทำโน่น ทำนี่ให้ไร่เต็มไปหมดพวกคนงานก็สนุกสนานช่วยกันทำ
ใหญ่ ตกเย็นก็ตั้งวงเป็นที่ครึกครื้น แม้กระทั่งพ่อของจุ้นก็ยังมาร่วมวงด้วยโต้รุ้งยันสว่างกันก็
หลายวันอยู่...จุ้นก้มหน้ากินข้าวต่อ ซักแป๊บติวก็กินหมดก่อน รีบพูดออกมาขูดจานก๊อง! แก๊ง!

"พี่จุ้ง! ติวกินหมดแล้ว..กินหมดก่อนพี่จุ้งด้วย..พี่จุ้งไม่เก่ง..ติวเก่ง" ทำหน้าทำตาภูมิใจสุดๆ จุ้น
หัวเราะเอามือขยี้ผมติวปากก็ถามออกมา

"จ้าพ่อคนเก่งกินซะเกลี้ยงเลย..เอาข้าวอีกมั๊ยติว" ติวยกน้ำขึ้นดื่ม วางแก้วได้ปากก็แจ้วๆ ต่อ

"ไม่เอาแล้วติวอิ่มแล้ว..พ่อพัฒน์บอกว่ากินแค่พออิ่ม..ไม่ต้องกินเพราะอยากกินเดี๋ยวอ้วนเป็น
หมู" หัวเราะกันอีกระลอกนึง จุ้นเอ็นดูในความน่ารักของติว ก้มลงหอมแก้มติวดังฟอด..เออ
หนอ! พ่อแม่ก็ช่างเลี้ยงลูกได้น่ารักเหลือเกินช่างพูดช่างจดจำนัก ก้อยนั่งมองอมยิ้ม

"ไป! ติวถ้าอิ่มแล้วก็ลงไปข้างล่างกับแม่...อย่าอยู่กวนพี่จุ้นเลย..พี่จุ้นจะได้กินข้าว เดี๋ยวพี่จุ้นก็
ต้องลงไปในไร่ด้วยไปทำงานต่อ" ก้อยพยักหน้าชวน ติวสองจิตสองใจแต่สุดท้ายก็ต้องทำ
ตามที่แม่บอก ลุกขึ้นคว้าปืนกับดาบมาไว้ในมือปากก็แจ้วออกมา

"ติวไปก่อนนะพี่จุ้ง...เดี๋ยวติวมาหาใหม่" จุ้นพยักหน้ารับ แล้วติวก็เดินออกไปกับแม่ เสียงติวยัง
แจ้วๆไปตลอดทาง แล้วบ้านก็ค่อยๆสงบอีกครั้งนึง ซักแป๊บจุ้นก็อิ่มเดินลงไปในไร่

กิจวัตรประจำวันที่จุ้นทำตลอดตั้งแต่มาที่นี่คือสายหน่อยเข้าไร่ บ่ายเข้าโรงงานคัดส้มเคลือบ
ส้ม บ่ายแก่ๆเข้าออฟฟิตจะเป็นอย่างงี้ทุกวัน พอได้เวลาสิบเอ็ดโมงจุ้นก็เดินเข้ามาที่ออฟฟิต
เห็นพัฒน์กับก้อยกำลังคุยอยู่กับ หนุ่มสาวสองคน

"อ้อจุ้น..มาพอดี" พัฒน์แนะนำหนุ่มสาวทั้งสองคนให้รู้จักจุ้น...ผู้ชายชื่อนนท์ ส่วนผู้หญิงชื่อ
ปลาย...จุ้นยิ้มให้ทั้งคู่

"ยินดีต้อนรับจ๊ะ ทั้งสองคนเลย" นนท์กับปลายยิ้มรับ ปลายจ้องหน้าจุ้นอยู่นาน จุ้นถึงกับเลิก
คิ้วเอามือลูบหน้าตัวเองไปมา

"มีอะไรติดอยู่บนหน้าพี่หรือเปล่า!" ปลายหน้าแดง

"ไม่ใช่ค่ะ! ปลายกำลังนึกว่า....ใช่จริงๆด้วยนนท์" รีบหันไปเกาะแขนนนท์ทำท่าดีใจใหญ่ นนท์
พยักหน้าส่งยิ้มให้ เหมือนกับรู้ด้วยเหมือนกันสร้างความสับสนให้จุ้น พัฒน์ และก็ก้อยที่ยืนอยู่
ตรงนั้นด้วย แล้วปลายก็หันมาหาจุ้นรีบดึงมือจุ้นไปจับ

"พี่จุ้น...พี่จุ้นเคยเรียนที่ มช.ใช่มั๊ยคะอยู่คณะมนุษย์ กลุ่มพี่จุ้นดังมากเลยตอนที่พวกปลายเข้า
ไปน่ะ...โดยเฉพาะพี่ปอม ตอนนั้นพวกพี่จุ้นจะจบแล้วค่ะอยู่ปีสี่ พี่จุ้นคงจำพวกปลายไม่ได้ แต่
ปลายกับนนท์จำได้ โดยเฉพาะเจ้านนท์มันปลื้มพี่ปอมมาก...พี่ปอมน่ะเป็นต้นแบบมันเลยนะคะ
เลือกเรียนวิชาเอกเหมือนกับพี่ปอมด้วย" จุ้นยิ้มเลิกคิ้วส่งให้ เพิ่งสังเกตเห็นว่าไหล่ข้างขวาของ
นนท์สะพายกระเป๋าใส่กล้องอยู่

"ขอโทษทีจ๊ะพี่จำไม่ค่อยได้" จุ้นยิ้มแหยๆให้ ปลายหัวเราะแล้วก็พูดต่อ

"ไม่เป็นไรค่ะ...ตอนนี้พวกพี่จุ้นยังติดต่อกันอยู่หรือเปล่าคะ..อยู่กันครบมั๊ย" จุ้นพยักหน้า

"ครบทุกคนจ๊ะทำงานที่เดียวกัน...นี่พี่ขึ้นมาช่วยที่นี่ประมาณเดือนนึงเดี๋ยวก็ต้องกลับลงไปทำ
งานต่อเหมือนเดิม" นั่นแหละยืนคุยอยู่ตั้งนานเพิ่งจะได้ยินเสียงของนนท์เอื้อนเอ่ยออกมาเป็น
ครั้งแรก

"แล้วพวกพี่ปอมจะขึ้นมาที่นี่ด้วยเหรอเปล่าฮะ"

"ยังไม่รู้เลยจ๊ะ..ช่วงนี้งานทางโน้นยุ่งมาก แนงกับนาอาจจะมา แต่อ๊อดกับปอมพี่ไม่แน่ใจ"
นนท์กับปลายพยักหน้าเข้าใจ แล้วพัฒน์ก็ชวนสองหนุ่มสาวเอากระเป๋าไปเก็บ จุ้นให้ไปพักที่
เรือนหลังใหญ่ด้วยกันเพราะมีหลายห้อง จุ้นยืนมองส่งอยู่กับก้อย แปลกดี!โลกช่างกลมดีแท้
พึมพำอยู่ในใจ................


##################################################


กรุงเตบ!....

"ไอ้โจ้!..ทำห่าอะไรวะน่ะบอกให้ อัดซ้ำเสือ..ไปลบ..ซวยล่ะมรึง" ตั๊มส่งเสียงดังอยู่ในห้องตัด
ต่อ โจ้หน้าเริ่มซีด วันนี้โจ้กับตั๊มรับหน้าที่อัดเทปตัดต่อภาพ เพราะว่าพวกรุ่นใหญ่ๆทำต่อกันไม่
ไหวอยู่โต้รุ้งซ้อนกันสองวันติด ตั้งแต่เช้าวันเสาร์ กว่าจะเสร็จก็หกโมงเช้าของวันจันทร์แยก
ย้ายกันไปนอนระเกะ ระกะตามห้องต่างๆในสตู ทิ้งหน้าที่ให้เด็กๆทำต่อ ด้วยความที่โจ้นั่งใจ
ลอย คิดโน่นคิดนี่เพลินมือแทนที่จะกดปุ่มอัด ดันไปกดปุ่มลบซะนี่ เทปม้วนนั้นเลยหายไปช่วง
นึง...โจ้กับตั๊มเริ่มเสียหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เสียงตั๊มดังไม่ใช่น้อย...ทำให้โยที่กำลังเดินผ่านหน้า
ห้อง ชะโงกหน้าเข้ามาถาม

"เป็นอะไรกัน แหกปากซะเสียงดัง" โจ้กับตั๊มหันหน้ามาหา โยเห็นหน้าสองคนเท่านั้นก็รีบเดิน
เข้ามาในห้อง แล้วโจ้ก็ค่อยๆเอ่ยเสียงออกมา

"พี่โย!ผมขอโทษ...ผมจะอัดซ้ำแต่ดันไปกดปุ่มลบ เทปที่ถ่ายกันไว้มันหายไปช่วงนึงพี่ มันทับ
ไปช่วงนึง" โจ้พูดเสียงสั่นเคลือนั่งก้มหน้า โยยืนนิ่งเอามือลูบหน้าคิดไม่ตกแล้วก็เดินออกจาก
ห้องไป ตั๊มเอามือตบบ่าโจ้ปลอบใจ ซักแป๊บ!ปอมก็เดินเข้ามาพร้อมกับโย หน้าตารกเขียว
ครึ้มไปด้วยหนวดและเคราประปราย เพราะไม่ได้กลับบ้านมาสองวันแล้ว ตายังแดงกล่ำเหมือน
เพิ่งลุกมาจากการนอน เดินไปที่เครื่องกรอภาพ กดกรอแล้วก็ลองฉายดูใหม่ตรงที่มีปัญหา
ปรากฏว่ามีแต่ความว่างเปล่า นิ่งอยู่แป๊บนึงแล้วก็หันหน้ามาหาโย.....

"ถ่ายซ่อมพี่โย..ด่วน!เลย..นัดเค้าไว้วันศุกร์" ว่าแล้วก็รีบเดินออกไปไม่พูดอะไรกับโจ้ซักคำ...
โยรีบเดินตามหลัง..โจ้หันมามองหน้าตั๊มตาเริ่มแดงน้ำตาลูกผู้ชายกำลังจะไหล...ความรู้สึกผิด
ยิ่งท่วมท้นขึ้นไปอีก โจ้ยอมให้ปอมด่าโจ้ยังดีซะกว่าที่ปอมนิ่งไปซะเฉยๆแบบนี้..มันอึดอัด
เหมือนรอการประหารยังไงไม่รู้ ตั๊มตบบ่าโจ้แรงๆ

"ไป! ไอ้โจ้ไปช่วยเค้าข้างนอก" รีบชวนโจ้ให้ลุก โจ้ค่อยๆลุกตามตั๊มมาอย่างระโหย...เดินออก
มาข้างนอกเห็นมนุษย์งานเดินกันให้ขวักไขว่ไปหมดจัดโน่นเตรียมนี่กันเป็นแถว โจ้เหลือบไป
เห็นปอมยืนอยู่ข้างนอกตรงลานจอดรถ ตัดสินใจเดินเข้าไปหาปอมจะถึงปอมอยู่แล้วได้ยิน
เสียงปอมพูดโทรศัพท์อยู่ ก็ยืนรออยู่อย่างนั้น

"พี่ไทด์ผมปอมนะพี่....ครับพี่พอดีแบตผมหมดเลยยืมโทรศัพท์พี่โยมาใช้.....คืองี้พี่พอดีเกิด
เหตุนิดหน่อยกับเทปของบริษัทฯดีไลท์น่ะครับ.....ผมทำงานสัพเพร่าไปหน่อยง่วงจัดมือแทนที่
จะกดปุ่มอัดดันไปกดปุ่มลบซะงั้น......ผมขอโทษครับพี่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก.....คิด
ว่าจะถ่ายซ่อมฮะ....ทันฮะ!เร่งๆหน่อย......เดี๋ยวผมแยกสายให้พี่โยไปถ่ายทางโน้นส่วนทางนี้
ผมจัดการเอง.......แต่ว่าผมคงต้องขอ..งบเพิ่ม.......น่าจะซักประมาณ10%ของงบถ่ายชุดนี้น่ะ
ครับ......เข้าใจฮะเอาเป็นว่าพี่เพิ่มให้ผมชุดนี้ เดี๋ยวผมเขียมชุดหน้าเองพี่........ขอบคุณมาก
ครับพี่.......สงสัยจะยังพักไม่ได้ต้องต่อให้เสร็จ.......คร๊าบบบหวัดดี คร๊าบบบบ" ว่าแล้วก็กด
ปุ่มวางสาย ถ้าตัดภาพไปที่ปลายสาย จะเห็นไทด์นั่งยิ้มส่ายหัวไปมา ไอ้ปอมเอ้ย! อย่างแกน่ะ
เหรอจะทำงานสัพเพร่า ออกรับแทนลูกน้องอีกล่ะสิแก ทุกครั้งไป ถอนหายใจเฮือกออกมา...
มาทางด้านปอม กดปุ่มวางสายเสร็จ ก็หันกลับจะเดินเข้าสตูเห็นโจ้ยื้นหน้าแห้งตาแดงๆมีน้ำตา
คลออยู่ก็ขมวดคิ้ว

"มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ไอ้โจ้...งานไม่มีหรือไง" เท่านั้นแหละ น้ำตาไหลเป็นทางเหมือนเด็ก
รีบเอามือเช็ดใหญ่

"อ้าว! เฮ้ยไอ้นี่...ทำสำออยเหมือนผู้หญิง..จะร้องคร่ำครวญหาอะไรวะ" ปอมชักฉุน โจ้รีบระล่ำ
ระลักบอก

"ผมขอโทษพี่ปอมผมไม่ได้ตั้งใจ..ผมสัพเพร่าเอง..ผมผิด!" น้ำตาโจ้ไหลออกมาใหม่ ปอม
ส่ายหัวให้โจ้..ปากก็เอื้อนเอ่ยออกมาเสียงดังพวกที่อยู่ข้างในยืนฟังกันนิ่ง

"เออแกผิด!..แล้วก็จำใส่หัวไว้ด้วยว่าผิดจริงๆ..ทำงานห่าอะไรอย่างนี้วะ แค่เรื่องอัดภาพลบ
ภาพยังทำผิดได้...แล้วใครที่ไหนเค้าจะไว้ใจให้แกทำงานใหญ่ นี่ไม่ใช่อยู่ในโรงเรียนหรือใน
มหาลัยนะโว้ย ทำผิดแล้วมาขอโทษทำใหม่ถ่ายใหม่ นี่มันชีวิตจริงมันเป็นอาชีพแล้ว มันเสียทั้ง
เงินเสียทั้งเวลา อาชีพนี้มันต้องแม่นไอ้โจ้! ถ้าแกทำพลาดไป แกคิดเหรอว่าไอ้ที่ถ่ายซ่อมมัน
จะดีเหมือนครั้งแรก...ทำงานกับลักษณะอาการสีหน้าของคนมันไม่เด๊ะๆให้เหมือนเดิมได้หรอก
ไอ้โจ้...จำไว้!...อย่าพลาดอีกไม่งั้นฉันยำแกมากกว่านี้...ไป๊!..ไปทำงาน...ถ้าไม่เสร็จแกก็ไม่
ต้องกลับบ้านอยู่แม่งที่สตูนี่แหละทำโทษฐาน สัพเพร่าดีนัก....แล้วทำไมตูต้องมายืนพูดตรงนี้
ฟะ..ร้อนฉิบเป๋ง" เทศน์ซะยาว แล้วก็แหงนหน้าขึ้นมองแดด รีบเดินดุ๋ยๆเข้ามา โจ้น้ำตาแห้ง
เหือดไปตั้งนานแล้ว ไม่โกรธซักนิดที่ปอมด่า..ดีใจซะอีกไม่ว่ามันเหมือนความผิดค่อยๆเลือน
หาย ยกภูเขาออกจากอกเอาคำพูดปอมฝังไว้ในหัว วิ่งตามปอมต้อยๆ

"พี่ปอม..พี่ปอมไม่โกรธผมแล้วใช่มั๊ย" รีบประจบ ปอมไม่หันเท้ายังก้าวเดินดุ่ยๆ ปากพูดน้ำ
เสียงสะบัดๆมา

"โกรธ...ยังโกรธอยู่ทำให้ฉันไม่ได้หลับไม่ได้นอน...และถ้าขืนแกไม่รีบไปทำงานนะไอ้โจ้ฉัน
จะเกลียดแกเข้าไส้เลย" โจ้หยุดยืนยิ้มแหยตรงตั้ม..พวกที่ยืนฟังอยู่หัวเราะออกมาเดินเข้ามา
ตบไหล่โจ้ทีละคน ตั๊มมองหน้าโจ้แล้วก็อมยิ้ม

"เป็นไงไอ้โจ้..ดีขึ้นหรือยัง!" โจ้ยิ้ม สายตายังมองหลังปอมอยู่

"อึมม์!ดีขึ้นมาก...ข้ารักพี่ปอมว่ะ!..ถ้าข้าเป็นผู้หญิงนะข้าจะทำทุกวิถีทางแย่งพี่ปอมมาจากพี่
จุ้นให้ได้..เสียดายที่พระเจ้าดันสั่งให้ข้าลงมาเป็นผู้ชายไม่งั้น...พี่จุ้นก็พี่จุ้นเถอะ..พี่ปอมน่ะ
เสร็จข้าแน่ไม่คะนามือ" ทำท่าปั้นไม้ปั้นมือ ตั๊มหัวเราะเสียงดังตบหัวโจ้ ดังป๊าบ!

"เริ่มตลกได้แล้วเหรอไอ้โจ้! ปากเริ่มวาดลวดลาย ทีเมื่อกี้นี้หน้าซีดเป็นไก่ต้ม" โจ้หันมายิ้มให้

"เออ!..เมื่อกี้บอกตามตรงกลัวว่ะ..รู้สึกผิดไปหมดตอนที่พี่ปอมเงียบ...แต่พอพี่ปอมส่งเสียงด่า
ข้า..ใจมันพองขึ้นมาทันทีมันเหมือนคนเคยคุ้นปากกัน และแกก็ช่างซื้อใจลูกน้องได้ซะจริงๆ
ข้ายืนฟังแกคุยโทรศัพท์กับพี่ไทด์อยู่ข้างหลัง..ซึ้งใจว่ะ! ไม่เคยโทษลูกน้องซักแอะ เหมาว่า
เป็นความผิดของตัวเองหมด..จำไว้นะไอ้ตั๊มข้าจะเป็น..แล้วก็จะทำให้ได้อย่างพี่ปอม" ว่าแล้วก็
เดินเข้ามาช่วยเค้าทำงาน ตั๊มยิ้มแล้วก็เดินตามมา ข้างในทำงานกันให้วุ่น ปอมกำลังเสียบสาย
ที่ช๊าจแบตโทรศัพท์อยู่ แป้งก็เดินถือแฟ้มเข้ามาหาหน้าตาแหยๆ ปอมเงยหน้าเลิกคิ้วถาม

"พี่ปอม! แป้งโทรไปหาผู้จัดการส่วนตัวของคุณนิกกี้ เค้าบอกว่าบ่ายนี้จนถึงพรุ่งนี้เย็นคุณนิกกี้
ไม่อยู่อ่ะพี่ ต้องบินไปขอนแก่นไปมอบของให้กับเด็กเรียนดีแต่ขาดแคลนพร้อมกับเพื่อนๆนาง
แบบด้วยกัน" ปอมยืนฟังนิ่ง แล้วก็เอ่ยปากออกมา

"ต่อโทรศัพท์ถึงคุณนิ๊กกี้ให้พี่หน่อย" แป้งกดทันทีปลายสายรับขึ้นมา

"ฮัลโหล!" เสียงผู้ชายแต่ร่างกายเป็นหญิงตอบกลับมา แป้งยิ้มแหย

"เอ่อ!คุณทัดเหรอคะ...นี่แป้งนะคะไม่ทราบว่าคุณนิกกี้อยู่แถวนั้นหรือเปล่าคะ" ปลายสายทำ
เสียงจึกจัก

"อยู่! แต่นิกกี้ไม่ว่าง..มีอะไรคะคุณแป้งถ้าเรื่องเมื่อครู่นี้ ก็คุยจบไปแล้วนี่นา..ไม่เข้าใจเหรอ"
แป้งทำหน้าปูเลี่ยน มองหน้าปอม

"คืองี้ค่ะคุณทัด พี่ปอมจะขอคุยกับคุณนิกกี้เองค่ะ" ปลายสายเงียบไป แล้วเสียหวานๆใสๆก็ดัง
รอดออกมา

"กี้พูดค่ะ" แป้งยิ้มดีใจใหญ่

"รอสักครู่นะคะคุณนิกกี้" ว่าแล้วก็ยื่นโทรศัพท์ส่งให้ปอม

"ฮัลโหลกี้!..ผมปอมนะฮะ" ปลายสาย อมยิ้ม

"ค่ะจำได้ค่ะ กี้จำได้เสียงหล่อๆอย่างงี้จะเป็นใครอื่นได้" ปอมหัวเราะ

"มีอะไรเหรอะคะปอม...เพิ่งจะจากกันเมื่อวานนี้เอง มีอะไรให้กี้รับใช้อีกคะ" เสียงหยอกล้อมา
ทางสายโทรศัพท์

"คือหยั่งงี้ฮะกี้..บังเอิญเทปที่ถ่ายไปมันมีปัญหานิดหน่อยน่ะครับ..ต้องถ่ายซ่อมบางช่วง ก็
เลยอยากจะรบกวนกี้มาถ่ายให้อีกครั้งนึง..ทีนี้จะถ่ายเจาะฮะไม่นานมากขอซักครึ่งวัน..เดี๋ยวที่
เหลือผมไปตัดต่อเอาเอง" ปลายสายเงียบไป

"ปอมรอแป๊บนะคะ เดี๋ยวกี้ถามพี่ทัดก่อนว่ามีคิวเหรอเปล่า" เงียบไปอีกครั้งนึง แล้วเสียงปลาย
สายก็ตอบกลับมา

"ได้ค่ะ..ตอนแรกกะจะไปขอนแก่นบ่ายนี้ไปร่วมงานเลี้ยงกับเค้าตอนเย็น...แต่ไม่ไปก็ได้ค่ะ
เดี๋ยวค่อยบินไปขอนแก่นพรุ่งนี้..ไปแค่งานแจกของก็พอ" ปอมยิ้มตาหยี

"ขอบคุณครับกี้ จะไม่ลืมพระคุณเลย" ปลายสายอมยิ้ม ส่งเสียงกลับมา

"อย่าพูดแต่ปากนะคะปอม ทำด้วย!..สัญญากับกี้ไว้หลายหนว่าจะเลี้ยงข้าว จนป่านนี้กี้ยังไม่ได้
กินเงินของปอมซักที" ปอมหัวเราะกลับมา

"สัญญาครับสัญญาจริงๆ ช่วงนี้งานยุ่งมากถ้าเคลีย์งานเสร็จแล้วจะรีบโทรหาทันที...อ้อกี้! ยัง
คุยไม่จบ กี้ช่วยมาซักตอนบ่ายโมงที่สตูสีลมได้มั๊ยฮะ...เพราะว่าเค้าจัดของเตรียมไว้หมดแล้ว
พอมาถึงจะได้รีบถ่ายกันเลย จะได้เสร็จๆ"

"ค่ะ! ได้ค่ะแล้วกี้จะไป" ปอมยิ้ม

"งั้นแค่นี้ก่อนนะกี้ เดี๋ยวผมต้องไปเตรียมงานต่ออีก..หวัดดีครับ" แล้วปอมก็กดวางสาย ส่ง
โทรศัพท์ให้แป้ง

"แป้ง! เดี๋ยวเราเตรียมงานก่อนได้เลยนะฉาก ไฟเอาให้เสร็จก่อนบ่ายโมงพี่นัดคุณนิกกี้ไว้ตอน
นั้น" รีบเดินดุ่ย ๆ ออกไป แป้งยืนอมยิ้ม แล้วก็มีมือดีมาเคาะไหล่

"ยืนอมยิ้มอะไรไอ้แป้ง.." เสียงโยถามออกมา แป้งแหงะหน้ามามอง

"แป้งดีใจและ ก็แปลกใจอ่ะพี่โย" โยขมวดคิ้วมอง

"ดีใจอะไร แปลกใจอะไร"

"ก็ดีใจที่งานไม่มีอุปสรรค คุณนิกกี้บอกว่าจะเคลีย์งานแล้วมาถ่ายให้บ่ายนี้ ส่วนที่แปลกใจก็
คือทำไมตอนที่แป้งโทรไปไม่ยอมรับสายแป้งให้แป้งคุยกับคุณทัดอยู่นั่นแหละอ้อนวอนเท่า
ไหร่ก็บอกแต่ว่าไม่ว่างติดงานมาไม่ได้ แต่พอพี่ปอมพูดปุ๊บ!มันช่างง่ายดายเหลือเกิน แล้ว
สรรพนามที่คุณนิกกี้คุยกับพี่ปอมนะ เท่าที่แป้งยืนฟังท่าทางจะสนิทสนมกันไม่หยอก เพราะกี้
อย่างงั้นกี้อย่างงี้ มันก็เลยแปลกใจว่าพี่ปอมไปสนิทสนมกับคุณนิกกี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นเคย
ได้ยิน" พร่ามซะยาว โยยืนยิ้ม แล้วก็เล่าให้ฟัง

"เค้าสนิทกันตั้งนานมาแล้ว ตอนนั้นน่ะนิกกี้เพิ่งจะเข้าวงการใหม่ๆเป็นนางแบบโนเนม ไม่ค่อยมี
คนรู้จัก..ส่วนเจ้าปอมนี่ก็เพิ่งจบมาใหม่ๆเหมือนกัน กำลังไฟแรงฝีมือดีทีเดียวเชียวแหละ...เกิด
จับพลัดจับผลูให้มาทำงานด้วยกัน แล้วงานแรกที่ทำด้วยกันก็ประสบความสำเร็จซะด้วย
นิตยสารเล่มนั้นที่สองคนทำด้วยกันขายดีติดอันดับ Top fiveทีเดียว นิกกี้เริ่มมีคนรู้จักก็ตอน
นั้นแหละ ส่วนเจ้าปอมน่ะหลายบริษัทฯจองตัวกันให้วุ่น สองคนนี้ก็เลยสนิทกันมาตั้งแต่นั้นแต่
ด้วยงานด้วยหน้าที่ละมั้งทำให้ห่างหายกันไปไม่ค่อยได้ติดต่อ...เราถึงไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่"
แป้งพยักหน้าอมยิ้มแป้น

"พี่ปอมนี่ก็ไม่เบานะ มีเพื่อนสนิทเป็นถึงนางแบบดัง..เยี่ยมจริงๆ เลยพี่เรา" โยขยี้หัวแป้งไป
หนึ่งที

"ไป!..ไปทำงาน..อย่าอู้มากเดี๋ยวไม่เสร็จ..เดี๋ยวเจ้าปอมมันจวกเอา" ว่าแล้วก็เดินแยกย้ายกัน
ไปทำงาน........



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 มิ.ย. 2554, 00:10:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 มิ.ย. 2554, 00:10:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1710





<< ตอนที่ 28 : เป็นเพียงแค่ฝัน   ตอนที่ 30 : สายใยแห่งรัก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account