ปมร้าย หัวใจเสน่หา
รัชต์ วิศวกรหนุ่มออกตามหาความจริงเกี่ยวกับการตายของ ดวงดาว น้องสาวที่ตำรวจลงความเห็นว่าเธอฆ่าตัวตาย แต่อยู่ๆเขาก็ได้พบกับรักแรกอีกครั้งเธอเป็นคนช่วยเขาตามหาความจริง แต่ความจริงที่ว่ากลับทำให้เขาไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว!!
Tags: ปมร้ายหัวใจเสน่หา

ตอน: ตอนที่ 7 สถานะที่เปลี่ยนไปแค่ข้ามคืน

ตอนที่ 7 สถานะที่เปลี่ยนไปแค่ข้ามคืน

“แม้แต่เธอเองก็เลี่ยงมัน เพราะเธอกลัวที่จะพูดความจริงที่ฉันเคยถามเมื่อเจ็ดปีก่อนใช่ไหม”

“ไม่ใช่ ”

“ยังจะโกหกอีก ”

“ฉันไม่ได้โกหก ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงนายจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องของนาย ตอนนี้ปล่อยฉันได้แล้ว”

“โอเค ฉันจะปล่อยก็ต่อเมื่อเธอพูดความจริง”กีรติถอนหายใจยาว มองหาวิธีแก้ไขปัญหา รัชต์อมยิ้มก่อนจะก้มลงจูบแก้มเธอเบาๆทำเอาคนโดนจู่โจมอีกรอบอึ้งไป เขาไม่ปล่อยให้เธออึ้งนานจูงมือออกไปด้านหน้าโรงแรม

“นี่นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย”

“ไปเรื่อย ๆ ไปเที่ยวยังไงก็มาถึงนี่แล้ว มานอนเล่นได้เหรอ”กีรติส่ายหน้ากับความคิดของคนข้างหน้า เขาพาเธอเดินเที่ยวไปเรื่อย ๆ ในตลาดกลางคืนซึ่งก็ทำให้อดคิดถึงสมัยเรียนไม่ได้เลย เธอกับเขามักจะไปไหนด้วยกันทั้งเพราะเรื่องงานและเรื่องบังเอิญ พอเดินไปได้ระยะหนึ่งเขาก็พาเธอเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชื่อกาสะลอง เป็นร้านที่สวยหรูบรรยากาศดี ในร้านมีคนเต็มเกือบทุกโต๊ะ

“กินข้าวดีกว่าเธอยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่”รัชต์บอก กีรติได้แต่ยิ้ม บางอย่างมันอบอุ่นแล่นเข้าสู่หัวใจกะทันหัน

“คนเยอะไปร้านอื่นดีกว่า”

“ร้านนี้แหละ ”เขาบอกเสียงเรียบ เมื่อได้ที่นั่งบริกรก็เดินเข้ามาจดเมนูรัชต์สั่งแต่เครื่องดื่มมาให้ตัวเองเพราะอิ่มตั้งแต่เย็นแล้ว เมื่อบริกรเดินออกไปก็มีชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ กีรติยอมรับว่า ชายคนนี้เป็นหนุ่มหน้าตาดีมากแน่ๆ หากย้อนเวลาไปซักสิบปีก่อนหน้านี้ เขายิ้มให้คนทั้งคู่ รัชต์ยกมือไหว้

“สวัสดีครับพ่อ” กีรติตาโตเมื่อได้ยินสรรพนามของชายแก่ตรงหน้าก่อนจะรีบยกมือไหว้ตาม

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“เมื่อเช้าครับ”

“ไม่เห็นบอกพ่อเลยแล้วนี่พักที่ไหนกัน ”วิทยาส่งสายตามาทางหญิงสาวเหมือนกับจะบอกว่าเมื่อไหร่จะแนะนำเสียที

“ที่โรงแรมใกล้ ๆนี่แหละฮะ เอ่อ นี่กี แฟนผมเอง กีนี่พ่อผม”กีรติออกจะอึ้ง ๆที่สถานะเปลี่ยนไปเธอยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อของรัชต์สีหน้าเหวอ ๆ เหลือบไปมองคนที่พูดหน้าตาเฉยนั้นด้วยสายตาเข้ม ๆ วิทยาหัวเราะร่วนก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ข้างบุตรชาย

“แหม่ ไม่คิดว่าไอ้รัชต์จะพาแฟนมาหาพ่อก่อน ”สีหน้าแช่มชื่นของพ่อทำให้รัชต์ทำหน้าเบื่อ

“ก็แม่อยู่ต่างประเทศ ”เขาพูดเสียงเบาแย้งพ่อ

“หนูกีนี่หน้าตาน่ารักนะ ทำงานทำการอะไรอยู่เหรอแล้วยังไงทำไมได้มาคบกับลูกชายพ่อ”เมื่อโดนถามเป็นชุดอย่างนั้น รัชต์ก็เลยพูดขึ้นแทนคนที่กำลังอ้ำอึ้งอยู่

“พ่อถามอย่างนั้นกีจะตอบได้ยังไงเล่า อาหารมาแล้วให้กีทานก่อน เธอยังไม่ได้กินข้าวเลย”รัชต์ตัดบท

“โธ่ ก็พ่ออยากรู้ นาน ๆ จะมีผู้หญิงผ่านเข้ามาซักทีไม่เห็นแกคบผู้หญิงจนพ่อก็เริ่มหวั่นใจน่ะสิวะ เสียชื่อพ่อแกหมดเลย อ้อ หนูกีสั่งเลยนะอยากทานอะไรร้านนี้ร้านพ่อเอง ”ความรู้ใหม่นั้นยิ่งทำให้กีแปลกใจ เธอตักข้าวใส่ปากพลางคิดหาทางออกให้ตัวเองอย่างนิ่มนวลที่สุด

“แล้วเมื่อไหร่จะแต่งงาน”กีสำลักข้าวที่กำลังกลืนนั้นทันทีที่ได้ยินคำถาม จนรัชต์ต้องรีบส่งน้ำให้

“อ้าว ค่อย ๆกินหนูนี่ไอ้รัชต์มันไม่ยอมให้หนูกินข้าวเลยเหรอ?”

“พ่อครับ เพราะพ่อนั่นแหละ”วิทยาอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของลูกชายที่ดูแลหญิงสาวตรงหน้า เขาห่วงรัชต์มากกว่าลูกสาวเสียอีกเพราะรัชต์เป็นผู้ชายที่อ่อนโยนเกินไป ใจอ่อน ยิ่งเมื่อเจ็ดปีก่อนก็เกือบทำให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วงเพราะอยู่ดีก็ดันหยุดเรียนไปเกือบสามเดือนถามหาสาเหตุก็ไม่ยอมบอก ความอ่อนโยนของรัชต์ทำให้เขาอ่อนแอไปด้วย เมื่อมีอะไรมากระทบจิตใจรัชต์ก็จะหันไปอยู่ในโลกของเขาทันที ตั้งแต่หย่าร้างกันกับภรรยาลูกชายก็ดูจะตั้งป้อมทะเลาะกับเขาอยู่เรื่อย ๆ เพราะรัชต์มักจะกล่าวหาว่าพ่อเป็นคนทิ้งแม่

“เอ้อ สองวันก่อนมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาที่ร้านแล้วเอาไอ้นี่มาให้ พ่อก็ถามว่าคืออะไร เขาบอกว่าเป็นของดาว”พ่อยืนสมุดโน้ตให้รัชต์ เขามองมันด้วยความรู้สึกเศร้าใจ

“เด็กผู้ชายที่ว่า ชื่อ อะไรคะ”

“เห็นบอกว่าชื่ออาร์ม ”วิทยาบอกสีหน้าหนักใจเมื่อคิดถึงเรื่องของบุตรสาวซึ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน รัชต์เปิดสมุดนั้นออกดูอย่างช้า ๆ สมุดเล่มนี้คือ สมุดบันทึกของดาว

“เขาว่าอะไรอีกไหมคะ”

“เขาบอกให้พ่อเก็บไว้ดี ๆ นี่คือสิ่งที่ดาวเหลืออยู่”น้ำเสียงนั้นเศร้าโดยอัตโนมัติ กีรติสงสัยในเรื่องบางเรื่องสองวันก่อนหน้านี้ ก่อนที่อาร์มจะตาย ความเงียบเริ่มปกคลุมเพราะเรื่องของดาว วิทยาจึงหัวเราะออกมา

“เอาละ เดี๋ยวพ่อไปดูลูกค้าก่อนนะตามสบาย นี่รัชต์พรุ่งนี้พาแฟนไปที่บ้านด้วยละ”วิทยาพูดพร้อมกับลุกขึ้น กีรติยกมือไหว้ท่านอีกครั้ง รัชต์ส่งสมุดนั้นให้เธอสีหน้าเรียบ กีรับมันมาอ่านเปิดสมุดนั้นไปเรื่อย ๆ จนถึงหน้าสุดท้าย ปกพลาสติกนั้นห่อหุ้มเอาอะไรบางอย่างไว้

“เดี๋ยวไปห้องน้ำก่อนนะ”รัชต์บอกก่อนลุกขึ้นเดินออกไป กีพยักหน้ารับก่อนจะก้มลงดูอะไรที่เธอสงสัย เธอดึงกระดาษมัน ๆนั้นออกมาเบา ๆ รูปภาพ !! นี่คือรูปที่หายไปจากอัลบั้มในห้องของดาว คนที่ถ่ายรูปด้วยทีท่าหวานชื่นนั้นคือดาวและผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายคนนี้เธอรู้จักดีเสียด้วย กีมองภาพนั้นด้วยแววตกใจ นี่ไงคำตอบ เงาที่อยู่ในกระจกด้านหลังของดาวนั่นคือ อาร์ม อาร์มเป็นคนถ่ายรูปนี้กับมือ ดังนั้น เขาจึงถูกปิดปาก เธอหันไปเรียกบริกรมาเก็บเงินเสร็จเรียบร้อย กีรติรีบเก็บรูปนั้นไว้ในเสื้อเมื่อรัชต์เดินกลับเข้ามา

“อิ่มแล้วกลับกันเถอะ”กีรติบอกพร้อมกับเก็บของ รัชต์มองหญิงสาวอย่างแปลกใจ

“อ้าว ”คราวนี้เป็นกีรติที่จูงมือเขาออกมาจากร้าน รัชต์ยิ้มกับท่าทางของกีก่อนจะวิ่งให้ทันเข้ามาโอบเอวเธอเบา ๆ กีสะดุ้งหันไปมองเขาตาเขียว

“นี่ ”แม้จะเป็นเสียงเขียว ๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะเลื่อนมือออก กีรติก็เลยต้องปล่อยไปไม่รู้เพราะอะไรแต่เธอก็อยากให้เวลานี้ยาวนานขึ้น

นัทนั่งรอเอลินอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งตามที่นัดกันไว้ เอลินขอตัวเครียงานก่อนที่จะออกไป เขายอมรับว่าเอลินเป็นคนน่ารักเป็นเพื่อนที่น่าสนใจคนหนึ่ง เธอเองก็คงจะไม่มีเพื่อนที่เมืองไทยเท่าไหร่

“โทษที ติดธุระนิดหน่อย ”เอลินบอกพร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ เขา บริกรเตรียมเสิร์ฟเครื่องดื่มให้เอลิน เธอรับมาพร้อมส่งยิ้มหวานให้เด็กหนุ่ม นัทมองกิริยานั้นด้วยความแปลกใจ หมายความว่ายังไง? เขาเลิกคิ้วสูงมองหญิงสาวพลางคิดไปด้วย

“คุณมาแบบนี้บ่อยไหม”เธอหันมาถามบ้าง

“ก็เรื่อย ๆครับตามประสาผู้ชาย” ลินหัวเราะพอดีบริกรคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมกับกระซิบบอกหญิงสาว

“พี่ครับพอดีสาว ๆโต๊ะโน้นเชิญคุยด้วยครับ”เอลินหันไปมองตามมือ สาวๆหน้าตาสะสวยอีกโต๊ะหนึ่งโบกมือให้ เอลินอมยิ้มโบกมือกลับ นัทมองตามพลางคิด เจ๊คนนี้ตกลงเอาไงแน่ หรือว่าจะเป็นเสือใบ แต่ดูเผินๆเธอก็เหมือนผู้ชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งทีเดียว ยิ่งมากับเขาใคร ๆก็คงคิดว่าเพื่อนผู้ชายมาด้วยกันแน่ ๆ

“นี่ๆ คุณไม่ต้องทำหน้าตาอย่างนั้นหรอกนะ ฉันรู้ว่าคิดอะไรอยู่แต่ไม่ใช่อย่างที่คิดแน่ ๆ “

“แล้วคุณรู้เหรอว่าผมคิดอะไรอยู่”

“รู้อยู่ ที่ทำงานฉันหลายคนก็คิดแบบคุณนั่นแหละ”

“แล้วผมคิดอะไร”คำถามนั้นทำให้เอลินยิ้มก่อนจะเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“คุณนี่ ”เธอพูดพร้อมกับหันไปมองสาว ๆที่ยังจ้องมองเธออยู่อย่างนั้น จึงหันกลับมาหานัท

“ฉันจะทำอะไรให้ดู”พูดจบก็เอียงคอเข้ามาหอมแก้มนัทฟอดหนึ่งทำเอาเขาสะดุ้งผลักเธอออกไปโดยอัตโนมัติ

“เฮ้ยยยย”เขาร้องเสียงหลง เอลินหัวเราะร่วน

“นี่ ๆแค่ปลดล็อคผู้หญิงพวกนั้นแค่นั้นเอง ”

“แต่ เต่ ”

“เฮ้ย แต่อะไรเล่า ช่วย ๆกันหน่อย ฉันไม่ได้ชอบตีฉิ่งหรอกนะแม้ว่าใคร ๆ จะคิดอย่างนั้นก็ตาม”คำตอบของเอลินทำให้เขากระจ่างในความคลางแคลงใจทุกอย่างเลยทีเดียว แต่วิธีบอกนี่มัน ?

“แล้วฉันก็ไม่ชอบผู้ชายแก่ ๆอย่างคุณด้วย”เธอทิ้งท้ายอย่างนั้นทำเอาคนฟังต้องส่ายหน้าระอากับความก๋ากั่นของเจ้าหล่อน เมื่อดื่มกันจนดึกผ่านไปวันใหม่แล้วเจ้าคนก๋ากั่นก็ดันคออ่อนฟุบลงกับโต๊ะเสียอย่างนั้นนัทเลยต้องเป็นคนพาเธอกลับห้องพัก กว่าจะถึงชั้นห้าเขาต้องหอบหายใจยาว ห้องห้าศูนย์หนึ่งตามที่เธอละเมอบอกพอไขเข้าห้องได้เขาก็ต้องถอนหายใจอย่างหมดแรงเหลือดูนาฬิกาเข้าสู่วันใหม่แล้วสามชั่วโมงก็เลยตัดสินใจนอนที่โซฟาห้องเอลินเสียดีกว่าเพราะตอนนี้ตาเขาจะปิดอยู่แล้วไม่มีแรงจะขับรถกลับบ้านที่อยู่อีกฟากของเมืองเป็นแน่

เช้าตรู่โต้วิ่งออกกำลังกายอยู่หน้าบ้านเขาหยุดนิ่งเมื่อเห็นปานใจยืนกดกริ่งหน้าประตู จึงเดินเข้าไปหา

“เธอมาหาฉันเหรอ”ปานใจหันไปมองต้นเสียง โต้ยืนทำหน้าเข้มอยู่ เธอยิ้มให้

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นละ ไม่ดีใจเหรอที่เห็นฉัน”เธอบอกสีหน้าแช่มชื่น

“ฉันไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นเลยเธอก็น่าจะรู้ดี” ปานใจเบ้ปากเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“นึกว่า จะดีใจเสียอีก ยังไงซะ เราก็ เคยเป็น ”

“เพื่อนเหรอ เธอยังเรียกได้อีกเหรอ ”

“หึ ”ปานใจหัวเราะในลำคอ

“นี่จะไม่ชวนฉันเข้าบ้านจริง ๆน่ะเหรอ”

“เธอมีอะไรก็พูดมาตรงนี้แหละ”

“ใจแข็งจริงนะ ที่จริงมันไม่ใช่อย่างนั้นนี่ ฉันแค่อยากเสนอความคิดดี ๆ ให้”โต้ขมวดคิ้วสงสัยปานใจว่าเธอต้องการอะไรกันแน่

“อะไร”

“เรื่องกี ฉันรู้ว่านายชอบกี แล้วทำไมไม่ดึงเธอกลับมาละทำไมถึงปล่อยให้รัชต์แย่งไปได้ไม่รู้สึกเสียหน้าบ้างเหรอ นายอุตส่าห์แลกกับอนาคตตัวเองมาแล้ว”

“ฉันจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเธอหรอกนะ อย่าคิดว่าจะทำให้ใครเขาแตกกันอีกเลยปาน สิ่งที่เธอทำในอดีตน่ะทำให้ฉันเห็นธาตุแท้ของเธอแล้ว อย่ามาทำเป็นคนดีเห็นใจใครหน่อยเลย”

“แล้วไง คนดีของนาย ตอนนี้อยู่ไหนซะละ เขาอยู่กับผู้ชายคนอื่นโน่น ทั้งๆ ที่นายอุตส่าห์เอาอนาคตตัวเองแลกกับเงินที่จะรักษากานต์ สุดท้ายนายก็ไม่ได้อะไรเลย ” โต้เหลือบไปมองคนพูดนิดหนึ่งก่อนจะเปิดประตู้เข้าบ้านไป ปานใจยิ้มที่มุม

“แค่นี้ นายก็เริ่มหวั่นไหวแล้ว ปากแข็งไปอย่างนั้นเอง”ปานใจพูดจบก็เดินกลับไปที่รถของตัวเอง

กีรติตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมความรู้สึกหนักที่กดทับบริเวณเอวลงไป เธอจึงพยายามที่จะเหลือบตาขึ้นมามองเห็นเป็นมือขาวจนซีดของใครบางคน เธอหันไปมองด้านหลังก็เจอตาที่แดงก่ำผมยาวรุ่ยร่ายสีดำนั้นตัดกับหน้าที่ซีดเผือดไร้สีเลือด กีรติกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากพยายามสวดมนต์ไว้ในใจให้ภาพนั้นหายไป

“ช่วยด้วย”เสียงนั้นเหมือนกับดังอยู่ติดหูนี้เองทั้งเย็นยะเยือก ทั้งน่ากลัวจนขนลุก กีรติไม่ตอบเธอหลับตาลงอีกครั้งพยายามที่จะคิดว่ามันเป็นแค่ฝัน เธอสัมผัสกับคนตายมาหลายสิบครั้งเคยเจอแบบจัง ๆ ก็หลาย แต่ครั้งนี้มันใกล้เกินไป ใจมันสั่น แววตาแดงก่ำที่เหมือนเลือดคั่งเคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกที ๆ

“กี กี” เสียงเรียกนั้นเป็นระฆังช่วยชีวิตของเธอ กีรติลืมตาขึ้นมาสู่โลกความจริงอีกครั้ง รัชต์ยืนมองเพื่อนสาวด้วยสีหน้าแปลกใจเพราะอยู่ ๆ เธอก็นอนไม่ขยับแต่ตัวกลับกระตุกเป็นระยะ กีรติลูบหน้าตัวเองลุกขึ้นนั่ง

“เป็นอะไร”

“เอ่อ เปล่า ”

“วันนี้เราจะทำอะไรกันต่อไปดี เพราะอาร์มก็ตายแล้ว ตอนที่เธอเข้าไปดูในบ้านนั้นเจออะไรไหม”

“อาร์มน่าจะโดนฆาตรกรรม โยนศพลงน้ำเพื่ออำพลางคดี จากร่องรอยที่อยู่พื้นคืนก่อนเกิดเหตุฝนตกถ้าเขาพลาดปั่นจักรยานไถลลงคลองจริงจะต้องมีร่องรอยของล้อรถอยู่ในบริเวณที่เป็นดินรอบคูคลองนั้น คนที่ตายด้วยการจมน้ำใบหน้าจะต้องซีดแต่ใบหน้าของอาร์มคล้ำฟกเลือดเหมือนกับถูกทำให้ขาดอากาศหายใจด้วยวิธีรัดคอหรืออะไรประมาณนี้”

“แล้วถ้าร่องรอยที่อยู่บนดินหายไปเพราะฝนตกละ”

“ดินนั้นเป็นดินเหนียว น้ำหนักคนที่กดทับจักรยานมันมากพอที่จะทำให้พื้นดินเหนียวเกิดร่องได้ลึกแม้ฝนตกมันก็จะไม่สามารถชะล้างได้หมดหรอกนะรัชต์” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ

“เธอเอาความรู้พวกนี้มาจากไหนเนี่ย”กีรติหัวเราะ

“อ่านหนังสือบ่อย ๆ สิ ฉันมันหนอนหนังสือสืบสวนนะจำไม่ได้หรือไง” รัชต์อมยิ้ม

“วันนี้ก่อนกลับเราไปงานศพอาร์มขออโหสิกรรม จริง ๆนายน่าจะช่วยเหลือครอบครัวอาร์มหน่อยตามสมควรเพราะฉันคิดว่าการตายของอาร์มน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของดาว” คำพูดนั้นทำให้รัชต์รู้ว่ากีรติรู้อะไรมากกว่าที่พูดออกมา เธอสรุปด้วยสีหน้ามั่นใจเหมือนครั้งหนึ่งที่เธอเคยสรุปไว้และมันก็เป็นเรื่องจริงตามนั้น รัชต์เดินไปเก็บกระเป๋าแล้วกีรติได้แต่ถอนหายใจยาวคิดถึงรูปที่เห็นเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา นั่นคือเบาะแสที่สำคัญมากที่สุดในขณะนี้และมันก็ทำให้เธอหนักใจอย่างบอกไม่ถูก มันจบลงเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง

“อีกสามวัน ทางนิติเวชน่าจะส่งเรื่องไปที่ตำรวจท้องที่ที่รับผิดชอบคดีของดาวฉันมั่นใจว่าจะมีการรื้อคดีนี้แน่ ๆ”คำพูดลอย ๆนั้นทำให้รัชต์ชะงักมือหันไปมองเพื่อนสาวที่ลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำไมเธอถึงได้มั่นใจขนาดนั้น ขนาดตัวเขาเองยังไม่สามารถพูดได้อย่างมั่นอกมั่นใจขนาดนั้นได้เลย

สหรัถหรือสองเดินเข้ามาในห้องตัวเองนั่งรู้สึกเหนื่อยกับภาระหน้าที่ในตอนนี้เหลือเกิน ตั้งแต่เกิดเรื่องกับดวงดาว เขารู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกพังครืนลงมาตรงหน้า หลังจากเก็บตัวซ้อมอยู่ต่างประเทศนานแรมเดือนเมื่อกลับมาข่าวแรกที่เขาได้รับก็คือ ดาวเสียชีวิตแล้ว แม้แต่งานศพเขายังไม่กล้าไป ความรู้สึกที่เขามี เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดาวฆ่าตัวตายเพราะเขา เขาทำให้เธอเจ็บปวด ทำไมเขาถึงได้รู้สึกอยู่เสมอว่ามือของเขาเปื้อนเลือดของดาว




ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 มิ.ย. 2554, 18:22:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 มิ.ย. 2554, 18:22:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 2065





<< “ตอนที่ 6 ระยะทางของเรา”    “ตอนที่ 8 สิ่งที่เหลืออยู่” >>
lovemuay 4 มิ.ย. 2554, 18:51:48 น.
มีตัวละครใหม่โผล่มาอีกแล้ว ^^
สนุกมากเลย มาต่อเร็วนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account