อะรูซะตี...เจ้าสาวของผม (จบแล้วค่ะ)
เป็นเรื่องราวของคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน
แล้วต้องมาแต่งงานกัน...
เมื่่อต้อง "แต่งก่อนจีบ"...มิใช่ "จีบก่อนแต่ง"
อย่างเรื่องก่อนๆที่โยเคยเขียนมา...
...ดานีส...นายแพทย์หนุ่มรูปงาม ลูกผสมหลายเชื้อชาติ
ผู้เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และความสามารถ
กับ
...นาดา...หรือน้ำค้าง...หญิงสาวที่แสนธรรมดา ผู้ที่ดานีสไม่เคยเห็นหน้า
แม้กระทั่งวันแต่งงาน เขาก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าสาวตัวเอง...
จวบจนต้องพาเธอข้ามน้ำข้ามทะเลสู่ดินแดนอาทิตย์อุทัย
ที่นั่น...ทำให้น้ำค้างแข็งในฤดูหนาวต้องละลายเมื่อเจอกับ
แสงแห่งรุ่งอรุณแรก...
...'อะรูซะดี'...หญิงสาวท่องจำประโยคภาษาอาหรับ
ที่เขียนอยู่บนกล่องของขวัญวันแต่งงานที่เจ้าบ่าวมอบให้กับเธอ
โดยไม่อาจรู้ความหมายของมันเลย...
...เขาแต่งงานกับเธอ เพียงเพราะแม่ของเธอขู่เขา...
...ส่วนเธอแต่งงานกับเขา เพียงเพราะ...แม่ขอร้อง....
...เธอคงเป็นได้เพียงแค่เจ้าสาวของเขา...เท่านั้นสินะ...
...เป็นได้แค่เจ้าสาว...
แล้วต้องมาแต่งงานกัน...
เมื่่อต้อง "แต่งก่อนจีบ"...มิใช่ "จีบก่อนแต่ง"
อย่างเรื่องก่อนๆที่โยเคยเขียนมา...
...ดานีส...นายแพทย์หนุ่มรูปงาม ลูกผสมหลายเชื้อชาติ
ผู้เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และความสามารถ
กับ
...นาดา...หรือน้ำค้าง...หญิงสาวที่แสนธรรมดา ผู้ที่ดานีสไม่เคยเห็นหน้า
แม้กระทั่งวันแต่งงาน เขาก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าสาวตัวเอง...
จวบจนต้องพาเธอข้ามน้ำข้ามทะเลสู่ดินแดนอาทิตย์อุทัย
ที่นั่น...ทำให้น้ำค้างแข็งในฤดูหนาวต้องละลายเมื่อเจอกับ
แสงแห่งรุ่งอรุณแรก...
...'อะรูซะดี'...หญิงสาวท่องจำประโยคภาษาอาหรับ
ที่เขียนอยู่บนกล่องของขวัญวันแต่งงานที่เจ้าบ่าวมอบให้กับเธอ
โดยไม่อาจรู้ความหมายของมันเลย...
...เขาแต่งงานกับเธอ เพียงเพราะแม่ของเธอขู่เขา...
...ส่วนเธอแต่งงานกับเขา เพียงเพราะ...แม่ขอร้อง....
...เธอคงเป็นได้เพียงแค่เจ้าสาวของเขา...เท่านั้นสินะ...
...เป็นได้แค่เจ้าสาว...
Tags: แนวแต่งก่อนจีบ ดานีส นาดา น้ำค้าง โสภณพสุธ
ตอน: ตอนที่ 15 กว่าจะเข้าใจกัน
ตอนที่ 15 กว่าจะเข้าใจกัน
เสียงนกร้องยามเช้าตรู่ปลุกให้นาดาตื่นจากความฝันแสนหวาน
ที่มีเขาผู้นำพาเธอไปยังสุดปลายทาง…
ปลายทางฝันที่เธอไม่เคยคาดหวังหรือคาดฝันมาก่อนในชีวิต
ดวงตาที่ตื่นขึ้นมาจึงไม่มีหลงเหลือความง่วง
มีเพียงแต่ใบหน้าและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขพร้อมรอยยิ้มเปรมปรีดิ์
สายตาของเธอหันไปมองผู้ที่นอนข้างกายซึ่งเขายังคงนอนหลับสบายอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆ…
หญิงสาวยิ้มบางให้กับผู้ที่ยังนอนหลับอุตุไม่ยอมต่ืน
นานกว่านาดาจะละสายตาจากดวงหน้าของอดีตว่่าที่เจ้าบ่าว
ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่เมื่อคืนออกไปได้…
ก่อนจะตัดใจลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย
แล้วจึงอาบน้ำละหมาดเพื่อที่จะทำการละหมาดในยามเช้าเช่นปกติ…
หากเมื่อเดินกลับมาที่เตียงนอนก็ยังคงพบว่าคุณหมอดานีสขาของเธอ
ยังคงนอนหลับอยู่ในท่าเดิม…หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู…
ที่เขายังคงไม่ยอมลุกขึ้นมาอาบน้ำชำระล้างร่างกาย
นาดามองนาฬิกาบนฝาผนัง เห็นว่ามีเวลาอีกนานกว่าแสงแดงที่ขอบฟ้าจะโผล่
จึงมิได้ปลุกเขาให้ลุกขึ้นมาละหมาด ก่อนจะเดินไปยังห้องละหมาด
เพื่อทำการละหมาดเพียงลำพังทั้งๆที่ใจนั้นก็อยากจะปลุกให้เขาลุกขึ้นมา
เป็นผู้นำละหมาดเธอเช่นทุกๆวัน
เพียงแค่คิดว่าเขาอาจจะเพลีย จึงอยากให้เขาได้พักผ่อนต่ออีกนิด
เมื่อละหมาดเสร็จจึงค่อยปลุกเขา…
ทว่า…เธอคิดผิดไปถนัด…เพราะเมื่อละหมาดเสร็จ…
กลับเข้ามาที่ห้องอีกครั้งก็พบว่าร่างนั้นยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม
สร้างความฉงนบนใบหน้าของหญิงสาวยิ่งนักว่าเหตุใดทำไมเขาถึงได้นอนสงบนิ่ง
นิ่งจนเกินไปแล้ว…
วูบนึงของความรู้สึกหญิงสาวรู้สึกใจหายขึ้นมาโดยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้รู้สึกเช่นนั้น
ทันใดร่างบางก็เร่งรุดเข้าไปหาร่างที่นอนนิ่งสงบบนเตียง เรียกเขาเบาๆ
ทว่าไร้ปฏิกิริยาใดๆ
เธอจึงจับผ้าห่มของเขาออก แล้วค่อยๆยกมือของเขาขึ้นมากุมไว้
ความรู้สึกเย็นเยียบของมือที่เคยอุ่นทำเอาหัวใจน้อยๆสั่นสะท้านสะเทือน
เป็นผลให้มือน้อยเริ่มสั่น ดวงตาจ้องมองใบหน้าอันไร้ที่ติดนั่นนิ่ง
ใบหน้าที่เคยมีสีเลือดฝาด บัดนี้ดูซึดลงจนสร้างความแปลกใจให้กับแววตาที่จ้องมองอยู่
แน่นอนว่า บุคคลตรงหน้ายังคงความหล่อเหลาและงดงามยิ่งนัก
แต่…แต่เขานิ่งเกินไป…ราวกับว่า…
นาดาเอื้อมมือสั่นเทาค่อยๆแตะลงบนใบหน้านั้นราวกับกำลังจะไขว่คว้าบางอย่าง
ที่กำลังจะเลือนลางหายไป เสียงที่พยายามเปล่งออกมาร้องเรียกหาเจ้าของใบหน้านั้น…
“คุณหมอ…ตื่นสิคะ…ลืมตามองน้ำค้างสิคะ…”
เมื่อมือบางแตะลงบนใบหน้านั้น…จากที่เคยสัมผัสถึงความอบอุ่น
บัดนี้มีเพียงแค่ความเย็นซึมเข้าสู่ผิวเนื้อ แล้วค่อยๆแล่นเข้าสู่ขั้วหัวใจ
มือบางที่รับรู้ถึงความเย็นนั้นถึงกับสั่นเทายิ่งกว่าเดิม…
ทว่ามันกลับไม่เชื่อในสัมผัสนั้น มือนั้นจึงค่อยๆเลื่อนลงสู่ตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจ
หัวใจของเขาท่ีเขาบอกกับเธอเมื่อคืนว่า เขาได้สลักชื่อเธอลงไปที่นั่นแล้ว
ทว่า…ตอนนี้…หัวใจดวงนี้กลับไม่ขยับ ไร้จังหวะของการเคลื่อนไหว
มันนิ่่งเหลือเกิน นิ่งจนเธอต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะควานหาจังหวะการเต้นของมัน…
ครั้งแล้ว ครั้งเล่า…ทว่า กลับไม่อาจสัมผัสได้…
...หัวใจของเขามิได้เต้นสองจังหวะดังที่เขาบอกเธอเมื่อคืนอีกแล้ว…
มันหยุดการเดินทางแล้ว…
ร่างบางสั่นสะเทือนพร้อมด้วยหยาดน้ำตาอาบแก้มก่อนจะก้มลงกอดร่างที่นิ่งสงบ
ร่างอันเย็นเยียบจนไม่อาจยอมรับได้เลยว่า
ร่างที่เธอกำลังกอดอยู่นี้ คือร่างของผู้เป็นสามีที่ได้มอบไออุ่นให้กับเธอเมื่อคืน…
“คุณหมอรู้มั้ยว่า…พระเจ้าได้เด็ดดวงใจของน้ำค้างไปแล้ว…”
นาดากอดพลางกล่าวกับร่างนั้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา…
เธอต้องยอมรับกับกำหนดการณ์นี้ให้ได้ใช่มั้ย
ต้องยอมรับให้ได้ใช่มั้ยว่า…ต่อจากนี้…เธอจะไม่มีเขาอยู่ข้างกายอีกแล้ว…ไม่มีอีกแล้ว…
เธอจะต้องทำอย่างไรกับชีวิตหลังจากวันนี้…
เธอจะเอาความเข้มแข็งที่ไหนมาใช้ในการอดทน…เมื่อไม่มีเขาอีกแล้ว…
ร่างบางร้องไห้สะอื้นฮักอยู่ในท่านั้นอย่างเนิ่นนาน…ก่อนจะตัดใจลุกขึ้น…
พยายามหาสติแล้วกดโทรศัพท์หาคุณอาของคุณหมอดานีส
เพราะเธอไม่ทราบเบอร์ติดต่อของท่านหญิงอะมานี…
หลังจากแจ้งข่าวการจากไปไม่หวนกลับของคุณหมอดานีสเรียบร้อยแล้ว
ทุกอย่างต่อจากนั้นก็ดูเวิ้งว้าง…หญิงสาวไม่อาจทำอะไรต่อจากนั้นได้เลย
นอกจากนั่งมองดูผู้คนเดินเข้าออกในห้องนอนของเธอกับเขาไปมา
มีเสียงร้องไห้ของผู้คน ยกเว้นเพียงเสียงของท่านหญิงอะมานีมารดาของคุณหมอ
ที่ไม่แม้แต่จะส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญอย่างที่ทุกคนคาดไว้
ท่านนิ่งสงบและจัดการกับร่างอันไร้วิญญาณของลูกชายด้วยสีหน้าราบเรียบ
แม้แต่น้ำตาสักหยด ก็ไม่มีใครได้เห็น…
ส่วนนาดาได้แต่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นตรงมุมห้อง…
ไม่มีเสียง ไม่มีคำพูด ไม่มีน้ำตา ไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหวใดๆ
ราวกับหินที่ถูกสาปไว้ให้นั่งอยู่ตรงนั้น…
พิธีอาบน้ำศพถูกตระเตรียมเอาไว้เรียบร้อยก่อนที่จะมีการห่อศพและละหมาดให้กับศพ
นาดายืนละหมาดให้กับศพด้วยหัวใจที่ยอมสยบต่อกำหนดของพระเจ้า…
เป็นเกียรติแค่ไหนแล้วที่พระองค์ได้ให้เธอได้พบเจอคุณหมอดานีส
ให้มีโอกาสได้รู้จัก ได้มีวันเวลาที่ดีด้วยกันกับเขา
ได้รักเขา…ได้มอบสิ่งดีๆให้กับเขา ได้ลิ้มรสความชื่นบาน
ได้เป็นเจ้าสาวของเขา ได้เป็นภรรยาของเขา และได้ละหมาดให้กับเขา…
แม้เวลาแค่นั้นจะสั้นแค่ไหน…แต่เธอก็เข้าใจว่าเธอคงหมดหวังแล้ว
ที่จะเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้…
แค่นี้…แค่เขารักเธอ แค่มีช่วงเวลาที่สมบูรณ์ด้วยการมีเขา
แค่นี้ก็เป็นเกียรติเกินพอแล้วสำหรับลูกผู้หญิงอย่างเธอ…
‘สสารในโลกนี้มีเกิดและมีสลายไป แต่มันไม่ได้หายไปไหนเลยน้ำค้าง
มันก็แค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้นเอง…’
ถ้อยคำของคุณหมอยามสอนเรื่องสสารต่างๆให้เธอในวันวานดังขึ้นมา
ราวกับเจ้าของเสียงกำลังกล่าวถ้อยคำนั้นอยู่ต่อหน้าเธอ…
เสียงนั้นชัดเจน และยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อร่างของเขาได้ถูกวางลงยังหลุมฝังศพ…
เธอคงจะถูกห้ามมายังสถานที่แห่งนี้
หากว่าเธอคือหนึ่งในผู้หญิงที่ส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญ
ทว่า ตอนนี้ น้ำตาของเธอได้แห้งเหือดไปแล้ว
ตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่ท่านหญิงอะมานีเข้ามาในห้อง
แล้วกอดร่างลูกชายที่ไร้วิญญาณพร้อมกับหันมาทางเธอ
แล้วกล่าวกับเธอเสียงเบาหวิวว่า
‘ลูกชายของฉัน…เขาได้ตายในอ้อมกอดเธอ…
คนที่ควรร้องไห้ควรจะเป็นฉันมากกว่าเธอ…’
‘ฉันเป็นคนแรกที่ได้กอดเขา…แต่กลับเป็นเธอที่ได้รับอ้อมกอด
จากเขาเป็นคนสุดท้าย…’
นาดารู้แล้วว่า เธอได้รับเกียรติและได้รับความรักอย่างมากมายแค่ไหนจากชายผู้นี้
ผู้ที่กำลังถูกแผ่นดินกลบหน้าทีละนิดๆ…
‘สสารในโลกนี้มีเกิดและมีสลายไป แต่มันไม่ได้หายไปไหนเลยน้ำค้าง
มันก็แค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้นเอง…’
ถ้อยคำนั้นวกกลับมาอีกครั้ง
พร้อมกับคำตอบในใจของนาดาที่กำลังดังกึกก้องว่า
‘คุณหมอเองก็ไม่ได้หายไปไหนเลย…แค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้น…
สิ่งที่สลายไปนั้นคือร่างของคุณหมอ แต่ความรักของคุณหมอ
ยังคงสลักอยู่ในหัวใจ และทุกๆยีนส์ในร่างกายของน้ำค้าง…’
หนึ่งเดือนต่อมา…นาดาที่กำลังเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเพื่อเดินทางกลับบ้านเกิด
กลับรู้สึกแปลกๆในร่างกาย ราวกับมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ…
หญิงสาวรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีพร้อมกับอาเจียน
ขณะกวักน้ำเข้าปากอยู่นั้น หญิงสาวพลันนึกถึงบางอย่างขึ้นมา
มือข้างขวาของเธอค่อยๆวางลงบนหน้าท้องแล้วลูบไปมา
ด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง…ฉุดรอยยิ้มที่ได้เหือดหายไป
ตั้งแต่วันที่คุณหมอดานีสได้ลาจากให้กลับมาอีกครั้ง…
เรี่ยวแรงที่เคยคิดว่าได้แห้งเหือดไปแล้วก็ดูจะเริ่มส่งเสียงทักทายเธอ
แล้วเธอก็ได้รู้ว่า…เธอกำลังจะมีลูก ลูกที่เป็นของขวัญจากพระเจ้า
ซึ่งมอบให้เธอในวันที่เธอสิ้นหวัง…
...นี่คือ…ลูกของเขา…คือพยานรักของเรา...
เธอกำลังมีลูกด้วยกันกับคุณหมอดานีส…
เขาไม่ได้จากไปโดยทิ้งเธอเอาไว้เพียงลำพัง
ทว่า…เขาได้ฝากของขวัญอันล้ำค่าของเขาเอาไว้กับเธอ…
“น้ำค้างขอสัญญา…ว่าจะดูแลลูกของเราเป็นอย่างดี…
จะสอนให้เขาเป็นคนดีค่ะคุณหมอ…
ขอบคุณพระเจ้าที่เมตตาน้ำค้าง น้ำค้างจะไม่ลืมความเมตตานี้เลย…”
“เธอจะไปจากที่นี่จริงๆเหรอน้ำค้าง…”น้ำเสียงนั้นดังมาจากอะมานี แม่สามีของเธอ
ที่ดีกับเธอมาตลอดตั้งแต่วันที่ลูกชายของท่านได้จากไป
“ค่ะ…น้ำค้้างหมดหน้าที่สำหรับการอยู่ที่นี่แล้ว…”นาดากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
แน่นอนว่า…ความผูกพันธ์กับที่นี่สำหรับเธอมันมากเกินกว่าที่เธอจะจากไป
โดยไม่รู้สึกอะไรเลย…
อะมานีวางมือลงบนบ่าของน้ำค้างขณะกล่าวว่า…
“หลานของฉันล่ะ…เขาจะอยู่อย่างไร…”
น้ำค้างยิ้มบางพร้อมกับวางมือของเธอลงบนหลังมือของอะมานี
“น้ำค้างจะดูแลเขาอย่างดีค่ะ…น้ำค้างสัญญา…”อะมานีส่ายหน้า
“ฉันรู้…ว่าเธอดูแลเขาได้…ฉันก็แค่...แค่อยากดูแลเขาด้วย…
เขาเป็นสิ่งเดียวที่ดานีสทิ้งไว้…เธอไม่ควรพรากเขาไปจากฉัน…"
แววตานั้นดูอ่อนแสงนัก จนน้ำค้างรู้สึกไหววูบ ความสงสารตรงเข้าจับหัวใจ
"เธอก็เห็นว่าสิ่งที่ฉันเหลืออยู่ตอนนี้ มันไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับฉัน…
หรือเธอคิดว่า…การที่ฉันไม่ร้องไห้ออกมา มันหมายความว่า
ฉันไม่เศร้า ไม่เสียใจเลยกับการจากไปของลูกชายฉัน…”
นาดาก้มหน้านิ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับพยักหน้าอย่างเข้าใจทุกอย่าง...
อะมานีจึงคว้าร่างนั้นเข้ามากอดเอาไว้แน่น
เป็นกอดแรกที่นาดาได้รับจากท่าน
มันช่างอบอุ่นเหลือเกินในวันที่แสนอ้างว้างเช่นนี้…
เพราะแค่ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมามองไปไม่เจอเขา
เธอก็รู้สึกทรมานและเหงาจนจับหัวใจ
จนไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนี้ต่อไปได้อีก
วันนี้…เธอเข้าใจความรู้สึกของท่านหญิงอะมานีแล้วว่า
ทำไมท่านถึงไม่สามารถอยู่ในบ้านหลังนี้หลังจากที่ได้สูญเสียผู้เป็นสามีอันเป็นที่รักไป…
และเข้าใจแล้วว่า…ความรักที่ท่านมีต่อลูกชายของท่านนั้น...มันมากมายแค่ไหน…
“เราจะย้ายไปอยู่ที่เมืองไทยด้วยกันนะน้ำค้าง…
เธอและแม่ของเธอกับน้องๆของเธอจะได้ไม่ต้องพรากจากกัน…
จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเสียที…”
นาดายิ้มกว้างกับถ้อยคำนั้นที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากของท่านหญิงอะมานี…
ก่อนจะยกมือขึ้นโอบกอดท่านเอาไว้แน่น...
'...ต่อจากนี้...น้ำค้างจะดูแลแม่ของคุณหมอประดุจดัั่งแม่ของน้ำค้างค่ะ...
คุณหมอสบายใจได้...ท่านคือแม่ของน้ำค้าง...ขอบคุณนะคะคุณหมอ
ที่ีทำให้น้ำค้างมีแม่สองคนในวันนี้...ขอบคุณพระเจ้าที่นำสิ่งหนึ่งคืนกลับไป
แต่กลับมอบอีกหลายสิ่งจากสิ่งที่สูญเสียไปมาให้น้ำค้าง...'
…บางครั้ง…คนเรากว่าจะเข้าใจกันและกัน…ก็เมื่อต้องสูญเสียบางอย่างที่สำคัญไป
…ความรัก…ความเข้าใจ…ทำไมต้องให้ความตายเป็นคำตอบ…
....................................................
...เต่าโยรู้ว่า...นักอ่านหลายท่านคงไม่ชอบกับบทสรุปเช่นนี้นัก...
หยุดพักอีกสักนิด แล้วกลับมาอ่านกันต่อในตอนหน้านะคะ
เพราะว่า...
เรื่องนี้...ยังไม่จบ!!!
ใครที่เคยติดตามอ่านผลงานของ"yoraya" มาบ้างแล้ว
จะเข้าใจได้ดีว่า...
เมื่อยังไปไม่ถึงที่สุด...อย่าเพิ่งหยุดอ่าน...^^
เพราะอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้อีกเยอะ เมื่อมันยังไม่ถึงปลายทาง...
ถึงแม้"เต่าโย"จะขาสั้น แต่สังเกตได้ว่า นิยายที่คิดว่าเป็น "เรื่องสั้น"แล้ว
ก็ยังไม่เคยทำให้สั้นได้จริงๆสักที...อิอิอิ...
อย่างคานน้อยฯ จะว่าเป็นมหากาพย์เลยก็ยังได้ค่ะ...เฮะๆ
ขอคุยกับนักอ่านจากตอนที่แล้วนิดนึงค่ะหลังจากที่หายหัวไปนานมากๆ
กว่าจะปั่นนิยายได้สักตอนนั้นแสนสาหัสเหลือเกิน…เฮะๆ
หวังหมดใจว่านักอ่านท่ีติดตามอ่านกันอยู่จะไม่ถอดใจไปเสียก่อน
เพราะเต่าโยนั้น ขาสั้นจริงๆค่ะ…ปีนต้นตาลได้ช้าสุดๆ…
อาจจะช้าที่สุดในที่นี้เลยก็ได้ค่ะ…แต่ตั้งใจว่าจะไปให้ถึงยอดตาลค่ะ…
ไม่มีความคิดว่าจะทอดทิ้งนักอ่านที่เดินทางมาพร้อมกันกับเต่าโยเลย
1.คุณAuuuu…ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…
จากนี้ก็ตั้งใจว่าจะเขียนนิยายแนวๆนี้ไปเรื่อยๆเมื่อยามที่มีกำลังและมีเวลาค่ะ…
กว่าจะเขียนได้สักบทสักตอน ยอมรับค่ะว่ายากอยู่เหมือนกัน
เพราะว่าต้องหาอารมณ์ให้ลงกับตัวละคร ณ เวลานั้นให้ได้…
เนื่องจากคนเขียนนั้น แต่ละวัน อารมณ์ก็แตกต่างกันไปค่ะ…
ยังไง อย่าลืมแวะมาส่งเสียงทักทาย ให้กำลังใจกันอีกนะคะ
2.คุณChii…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจน่ารักๆ…ตอนที่แล้วเหงื่อตกแทนน้ำค้าง
ตอนนี้หวังว่าคงไม่น้ำตาตกไปกับน้ำค้างเค้านะคะ…
แต่อยากบอกว่า…ตอนหน้ายังมีอีกค่ะ…แวะมาอ่านและส่งเสียงให้ได้ยินกันอีกนะคะ…
ปล.ช่วงนี้ค่อนข้างเกรงใจนักอ่านมาก ก็เลยไม่ค่อยได้ปั่นนิยายมาอัพเลย…เฮะๆ
3.คุณsaralun…ตอนนี้มาให้แบบสะท้านสะเทือนทรวงนักอ่านมาก
หวังว่าคงไม่ทำให้นักอ่านเคืองกันนะคะ…อิอิ…
ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…แวะมาอ่านกันต่อนะคะ…
4.คุณไม้เอก…ใช่แล้วค่ะ…ตัวเร่งปฎิกิริยาเร็วเกินคาด แถมได้มาอีกคาดนึง…
ซึ่งนักอ่านคงเข็มขัดสั้นไป(เลยคาดไม่ถึง) ขออภัยในความเศร้าที่มอบให้นะคะ
แต่เรื่องนี้ยังไม่จบ อย่าเพิ่งศพ เย้ย อย่าเพิ่งนับหยดน้ำตาค่ะ…
5.คิมหันตุ์…น้ำค้างก็เลยค้างใจต่ออีกค่ะ…เล่นทิ้งไปอย่างนี้…
มาดูกันต่อตอนหน้านะคะ…ตอนนี้ก็ยังคงความสั้นเหมือนขาของคนเขียน
เหมือนตอนก่อนหน้าเลยค่ะ…อิอิ…ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…
6.คุณviolette…มาให้แล้วนะคะ…ต้องขอโต๊ดที่ปล่อยให้รอนานๆ…
ขาเต่้าสั้นค่ะ…ก็เลยปีนป่ายต้นตาลได้นานเยี่ยงนี้้…
อย่าได้โกรธอย่าได้เคืองกันเน้อ…เฮะๆ…
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ…หวังว่าคงไม่เสียใจจนน้ำตาท่วมจอ
เพราะทนคิดถึงคุณหมอดานีสที่มาทิ้งน้ำค้างไปแบบไม่ทันตั้งตัวไม่ไหวนะคะ…เฮะๆ…
ตอนหน้้ายังมี…ไม่มาต่อไม่ได้นะตัวเอง…
7.คุณwind…ยาได้ผลเร็วเกินคาด…อย่างว่่าค่ะ…หมอดานีส…ไม่มีเสียชื่อ…อิอิ
ขอบคุณนะคะที่แวะมาส่งเสียงเป็นกำลังใจให้เต่าโย…
8.คุณaom…มาแบบสั้นๆ ตามสโลแกนของเต่าค่ะ…เฮะๆ…
ที่ทั้งสั้นและทั้งเชื่องช้า…แต่ว่า…ยังมาอยู่นะคะ…ไม่ได้ทอดทิ้งเน้อ…
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจน่ารักๆที่มอบให้เต่าโยเสมอมา…
9.น้องเจื้อยแจ้ว…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจที่มอบให้พี่มาตลอด…
หวังว่าน้องเจื้อยแจ้วจะไม่เคืองพี่ที่ทำกับน้องและนักอ่านเยี่ยงนี้น้าาาาาา…
แต่ไม่อยากบอกเลยว่า…เรื่องมันยังไม่จบ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้อีกเยอะ…อิอิอิ
เพราะถึงพี่จะขาสั้น แต่นิยายไม่เคยจะสั้นตามขาพี่น้าาาาาาา…
10.คุณmhengjhy…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและเสียงหัวเราะ…
หวังว่ายกนี้คงไม่ทำให้เสียงหัวเราะจากยกก่อนลดลงไปนะคะ…เฮะๆ
อย่าลืมแวะมาอ่านและแวะมาส่งเสียงให้เต่าโยได้ยินกันอีกนะคะ
11.คุณบัวขาว…ขอบคุณค่ะสำหรับรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ส่งมาให้เช่นเคย…
แวะมาทิ้งรอยยิ้มให้โยได้มองอีกนะคะ…^^
12…คุณphakarat…ขอบคุณค่ะสำหรับรอยยิ้มที่ส่งมาเป็นกำลังใจให้เต่าโย…
แล้วแวะมาส่งยิ้มให้กันอีกนะคะ….
13.คุณThananya…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจ…แวะมาส่งกำลังใจให้กันอีกนะคะ
แม้เต่าโยจะมาช้า แต่ก็กำลังพยายามปีนสู่ยอดตาลให้ได้สำเร็จอยู่ค่ะ
14.คุณgoldensun…สำเร็จตามแผนเช่นกันค่ะ ซึ่งก็ทำเอาน้ำค้างเสียใจ
และใจเสียอีกเช่นเคย อย่าเพิ่งเศร้าไปนะคะ ตอนหน้้ายังมีค่ะ…
แวะมาส่งกำลังใจให้กันอีกนะคะ…อย่าเพิ่งทิ้งเต่าโยไปไหนน้าาาาาาา…
15.คุณPat…จากตอนนี้…จะเห็นได้ว่า ตัวเร่งได้ผลสุดๆไปเลยค่ะ…อิอิ…
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…จะพยายามมาให้ไวค่ะ…
16.คุณลิลลี่…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…
อย่าเพิ่งกลัวไปกับจุดหักของเรื่องเลยค่ะ(เพราะจริงๆมันยังหักได้อีก) อิอิอิ…
17.คุณแม่มดน้อย…ยีี่ห้อyoraya ไม่มีอะไรได้มาไวๆเลยใช่มั้ยคะ…อิอิอิ
โยว่าอันนี้น่าจะใช่กว่าแน่ๆ…เพราะเรื่องช้า…คิดว่าไม่มีใครเกินหน้าเต่่าโยแว้วววว…
ขอบคุณค่ะที่ไม่ทอดทิ้งกัน…ยังอยู่เป็นเพื่อนกัน…จุ๊บๆนะคะ
18.คุณsupayalak…เค้าก็คิดว่าตัวเองเมินหน้าหนีเค้าไปแล้วซะอีก…
ดีใจนะคะที่กลับมาโพสต์ความเห็นเป็นกำลังใจให้กัน…
แสดงว่ายังไม่ทิ้งกันเนอะ…โยล่ะกลัวจริงๆว่านักอ่านจะทอดทิ้งไป
เพราะเรามันขาสั้นเหลือเกิน…กว่าจะปั่นได้สักตอน เป็นแรมเดือนแหน่ะ…เฮะๆ…
ตอนหน้าก็ไม่รู้ว่าจะโผล่หัวมาอีกเมื่อไหร่ แต่จะพยายามมาให้ว่องให้ไว
กว่าปกตินะค้าาาาาาา…ขอบคุณสุดๆค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…
ถ้าโยมาช้าเกินเหตุ อนุญาตให้จิกโยได้ทุกที่ที่ต้องการค่ะ…อิอิ
สุดท้ายไม่ท้ายสุด…ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้มาตลอดนะคะ
เรื่องนี้ยังไม่จบ…อย่าเพิ่งนับศพ เย้ย อย่าเพิ่งนับหยดน้ำตาค่ะ…
อะไรๆก็เกิดขึ้นได้เสมอ…เมื่อทุกอย่างยังไม่ถึงที่สุดค่ะ…
แล้วเจอกัันตอนหน้านะคะ…
…รักษาสุขภาพนะคะ…
ด้วยรัก
“เต่าโย”
เสียงนกร้องยามเช้าตรู่ปลุกให้นาดาตื่นจากความฝันแสนหวาน
ที่มีเขาผู้นำพาเธอไปยังสุดปลายทาง…
ปลายทางฝันที่เธอไม่เคยคาดหวังหรือคาดฝันมาก่อนในชีวิต
ดวงตาที่ตื่นขึ้นมาจึงไม่มีหลงเหลือความง่วง
มีเพียงแต่ใบหน้าและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขพร้อมรอยยิ้มเปรมปรีดิ์
สายตาของเธอหันไปมองผู้ที่นอนข้างกายซึ่งเขายังคงนอนหลับสบายอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆ…
หญิงสาวยิ้มบางให้กับผู้ที่ยังนอนหลับอุตุไม่ยอมต่ืน
นานกว่านาดาจะละสายตาจากดวงหน้าของอดีตว่่าที่เจ้าบ่าว
ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่เมื่อคืนออกไปได้…
ก่อนจะตัดใจลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย
แล้วจึงอาบน้ำละหมาดเพื่อที่จะทำการละหมาดในยามเช้าเช่นปกติ…
หากเมื่อเดินกลับมาที่เตียงนอนก็ยังคงพบว่าคุณหมอดานีสขาของเธอ
ยังคงนอนหลับอยู่ในท่าเดิม…หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู…
ที่เขายังคงไม่ยอมลุกขึ้นมาอาบน้ำชำระล้างร่างกาย
นาดามองนาฬิกาบนฝาผนัง เห็นว่ามีเวลาอีกนานกว่าแสงแดงที่ขอบฟ้าจะโผล่
จึงมิได้ปลุกเขาให้ลุกขึ้นมาละหมาด ก่อนจะเดินไปยังห้องละหมาด
เพื่อทำการละหมาดเพียงลำพังทั้งๆที่ใจนั้นก็อยากจะปลุกให้เขาลุกขึ้นมา
เป็นผู้นำละหมาดเธอเช่นทุกๆวัน
เพียงแค่คิดว่าเขาอาจจะเพลีย จึงอยากให้เขาได้พักผ่อนต่ออีกนิด
เมื่อละหมาดเสร็จจึงค่อยปลุกเขา…
ทว่า…เธอคิดผิดไปถนัด…เพราะเมื่อละหมาดเสร็จ…
กลับเข้ามาที่ห้องอีกครั้งก็พบว่าร่างนั้นยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม
สร้างความฉงนบนใบหน้าของหญิงสาวยิ่งนักว่าเหตุใดทำไมเขาถึงได้นอนสงบนิ่ง
นิ่งจนเกินไปแล้ว…
วูบนึงของความรู้สึกหญิงสาวรู้สึกใจหายขึ้นมาโดยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้รู้สึกเช่นนั้น
ทันใดร่างบางก็เร่งรุดเข้าไปหาร่างที่นอนนิ่งสงบบนเตียง เรียกเขาเบาๆ
ทว่าไร้ปฏิกิริยาใดๆ
เธอจึงจับผ้าห่มของเขาออก แล้วค่อยๆยกมือของเขาขึ้นมากุมไว้
ความรู้สึกเย็นเยียบของมือที่เคยอุ่นทำเอาหัวใจน้อยๆสั่นสะท้านสะเทือน
เป็นผลให้มือน้อยเริ่มสั่น ดวงตาจ้องมองใบหน้าอันไร้ที่ติดนั่นนิ่ง
ใบหน้าที่เคยมีสีเลือดฝาด บัดนี้ดูซึดลงจนสร้างความแปลกใจให้กับแววตาที่จ้องมองอยู่
แน่นอนว่า บุคคลตรงหน้ายังคงความหล่อเหลาและงดงามยิ่งนัก
แต่…แต่เขานิ่งเกินไป…ราวกับว่า…
นาดาเอื้อมมือสั่นเทาค่อยๆแตะลงบนใบหน้านั้นราวกับกำลังจะไขว่คว้าบางอย่าง
ที่กำลังจะเลือนลางหายไป เสียงที่พยายามเปล่งออกมาร้องเรียกหาเจ้าของใบหน้านั้น…
“คุณหมอ…ตื่นสิคะ…ลืมตามองน้ำค้างสิคะ…”
เมื่อมือบางแตะลงบนใบหน้านั้น…จากที่เคยสัมผัสถึงความอบอุ่น
บัดนี้มีเพียงแค่ความเย็นซึมเข้าสู่ผิวเนื้อ แล้วค่อยๆแล่นเข้าสู่ขั้วหัวใจ
มือบางที่รับรู้ถึงความเย็นนั้นถึงกับสั่นเทายิ่งกว่าเดิม…
ทว่ามันกลับไม่เชื่อในสัมผัสนั้น มือนั้นจึงค่อยๆเลื่อนลงสู่ตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจ
หัวใจของเขาท่ีเขาบอกกับเธอเมื่อคืนว่า เขาได้สลักชื่อเธอลงไปที่นั่นแล้ว
ทว่า…ตอนนี้…หัวใจดวงนี้กลับไม่ขยับ ไร้จังหวะของการเคลื่อนไหว
มันนิ่่งเหลือเกิน นิ่งจนเธอต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะควานหาจังหวะการเต้นของมัน…
ครั้งแล้ว ครั้งเล่า…ทว่า กลับไม่อาจสัมผัสได้…
...หัวใจของเขามิได้เต้นสองจังหวะดังที่เขาบอกเธอเมื่อคืนอีกแล้ว…
มันหยุดการเดินทางแล้ว…
ร่างบางสั่นสะเทือนพร้อมด้วยหยาดน้ำตาอาบแก้มก่อนจะก้มลงกอดร่างที่นิ่งสงบ
ร่างอันเย็นเยียบจนไม่อาจยอมรับได้เลยว่า
ร่างที่เธอกำลังกอดอยู่นี้ คือร่างของผู้เป็นสามีที่ได้มอบไออุ่นให้กับเธอเมื่อคืน…
“คุณหมอรู้มั้ยว่า…พระเจ้าได้เด็ดดวงใจของน้ำค้างไปแล้ว…”
นาดากอดพลางกล่าวกับร่างนั้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา…
เธอต้องยอมรับกับกำหนดการณ์นี้ให้ได้ใช่มั้ย
ต้องยอมรับให้ได้ใช่มั้ยว่า…ต่อจากนี้…เธอจะไม่มีเขาอยู่ข้างกายอีกแล้ว…ไม่มีอีกแล้ว…
เธอจะต้องทำอย่างไรกับชีวิตหลังจากวันนี้…
เธอจะเอาความเข้มแข็งที่ไหนมาใช้ในการอดทน…เมื่อไม่มีเขาอีกแล้ว…
ร่างบางร้องไห้สะอื้นฮักอยู่ในท่านั้นอย่างเนิ่นนาน…ก่อนจะตัดใจลุกขึ้น…
พยายามหาสติแล้วกดโทรศัพท์หาคุณอาของคุณหมอดานีส
เพราะเธอไม่ทราบเบอร์ติดต่อของท่านหญิงอะมานี…
หลังจากแจ้งข่าวการจากไปไม่หวนกลับของคุณหมอดานีสเรียบร้อยแล้ว
ทุกอย่างต่อจากนั้นก็ดูเวิ้งว้าง…หญิงสาวไม่อาจทำอะไรต่อจากนั้นได้เลย
นอกจากนั่งมองดูผู้คนเดินเข้าออกในห้องนอนของเธอกับเขาไปมา
มีเสียงร้องไห้ของผู้คน ยกเว้นเพียงเสียงของท่านหญิงอะมานีมารดาของคุณหมอ
ที่ไม่แม้แต่จะส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญอย่างที่ทุกคนคาดไว้
ท่านนิ่งสงบและจัดการกับร่างอันไร้วิญญาณของลูกชายด้วยสีหน้าราบเรียบ
แม้แต่น้ำตาสักหยด ก็ไม่มีใครได้เห็น…
ส่วนนาดาได้แต่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นตรงมุมห้อง…
ไม่มีเสียง ไม่มีคำพูด ไม่มีน้ำตา ไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหวใดๆ
ราวกับหินที่ถูกสาปไว้ให้นั่งอยู่ตรงนั้น…
พิธีอาบน้ำศพถูกตระเตรียมเอาไว้เรียบร้อยก่อนที่จะมีการห่อศพและละหมาดให้กับศพ
นาดายืนละหมาดให้กับศพด้วยหัวใจที่ยอมสยบต่อกำหนดของพระเจ้า…
เป็นเกียรติแค่ไหนแล้วที่พระองค์ได้ให้เธอได้พบเจอคุณหมอดานีส
ให้มีโอกาสได้รู้จัก ได้มีวันเวลาที่ดีด้วยกันกับเขา
ได้รักเขา…ได้มอบสิ่งดีๆให้กับเขา ได้ลิ้มรสความชื่นบาน
ได้เป็นเจ้าสาวของเขา ได้เป็นภรรยาของเขา และได้ละหมาดให้กับเขา…
แม้เวลาแค่นั้นจะสั้นแค่ไหน…แต่เธอก็เข้าใจว่าเธอคงหมดหวังแล้ว
ที่จะเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้…
แค่นี้…แค่เขารักเธอ แค่มีช่วงเวลาที่สมบูรณ์ด้วยการมีเขา
แค่นี้ก็เป็นเกียรติเกินพอแล้วสำหรับลูกผู้หญิงอย่างเธอ…
‘สสารในโลกนี้มีเกิดและมีสลายไป แต่มันไม่ได้หายไปไหนเลยน้ำค้าง
มันก็แค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้นเอง…’
ถ้อยคำของคุณหมอยามสอนเรื่องสสารต่างๆให้เธอในวันวานดังขึ้นมา
ราวกับเจ้าของเสียงกำลังกล่าวถ้อยคำนั้นอยู่ต่อหน้าเธอ…
เสียงนั้นชัดเจน และยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อร่างของเขาได้ถูกวางลงยังหลุมฝังศพ…
เธอคงจะถูกห้ามมายังสถานที่แห่งนี้
หากว่าเธอคือหนึ่งในผู้หญิงที่ส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญ
ทว่า ตอนนี้ น้ำตาของเธอได้แห้งเหือดไปแล้ว
ตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่ท่านหญิงอะมานีเข้ามาในห้อง
แล้วกอดร่างลูกชายที่ไร้วิญญาณพร้อมกับหันมาทางเธอ
แล้วกล่าวกับเธอเสียงเบาหวิวว่า
‘ลูกชายของฉัน…เขาได้ตายในอ้อมกอดเธอ…
คนที่ควรร้องไห้ควรจะเป็นฉันมากกว่าเธอ…’
‘ฉันเป็นคนแรกที่ได้กอดเขา…แต่กลับเป็นเธอที่ได้รับอ้อมกอด
จากเขาเป็นคนสุดท้าย…’
นาดารู้แล้วว่า เธอได้รับเกียรติและได้รับความรักอย่างมากมายแค่ไหนจากชายผู้นี้
ผู้ที่กำลังถูกแผ่นดินกลบหน้าทีละนิดๆ…
‘สสารในโลกนี้มีเกิดและมีสลายไป แต่มันไม่ได้หายไปไหนเลยน้ำค้าง
มันก็แค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้นเอง…’
ถ้อยคำนั้นวกกลับมาอีกครั้ง
พร้อมกับคำตอบในใจของนาดาที่กำลังดังกึกก้องว่า
‘คุณหมอเองก็ไม่ได้หายไปไหนเลย…แค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้น…
สิ่งที่สลายไปนั้นคือร่างของคุณหมอ แต่ความรักของคุณหมอ
ยังคงสลักอยู่ในหัวใจ และทุกๆยีนส์ในร่างกายของน้ำค้าง…’
หนึ่งเดือนต่อมา…นาดาที่กำลังเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเพื่อเดินทางกลับบ้านเกิด
กลับรู้สึกแปลกๆในร่างกาย ราวกับมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ…
หญิงสาวรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีพร้อมกับอาเจียน
ขณะกวักน้ำเข้าปากอยู่นั้น หญิงสาวพลันนึกถึงบางอย่างขึ้นมา
มือข้างขวาของเธอค่อยๆวางลงบนหน้าท้องแล้วลูบไปมา
ด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง…ฉุดรอยยิ้มที่ได้เหือดหายไป
ตั้งแต่วันที่คุณหมอดานีสได้ลาจากให้กลับมาอีกครั้ง…
เรี่ยวแรงที่เคยคิดว่าได้แห้งเหือดไปแล้วก็ดูจะเริ่มส่งเสียงทักทายเธอ
แล้วเธอก็ได้รู้ว่า…เธอกำลังจะมีลูก ลูกที่เป็นของขวัญจากพระเจ้า
ซึ่งมอบให้เธอในวันที่เธอสิ้นหวัง…
...นี่คือ…ลูกของเขา…คือพยานรักของเรา...
เธอกำลังมีลูกด้วยกันกับคุณหมอดานีส…
เขาไม่ได้จากไปโดยทิ้งเธอเอาไว้เพียงลำพัง
ทว่า…เขาได้ฝากของขวัญอันล้ำค่าของเขาเอาไว้กับเธอ…
“น้ำค้างขอสัญญา…ว่าจะดูแลลูกของเราเป็นอย่างดี…
จะสอนให้เขาเป็นคนดีค่ะคุณหมอ…
ขอบคุณพระเจ้าที่เมตตาน้ำค้าง น้ำค้างจะไม่ลืมความเมตตานี้เลย…”
“เธอจะไปจากที่นี่จริงๆเหรอน้ำค้าง…”น้ำเสียงนั้นดังมาจากอะมานี แม่สามีของเธอ
ที่ดีกับเธอมาตลอดตั้งแต่วันที่ลูกชายของท่านได้จากไป
“ค่ะ…น้ำค้้างหมดหน้าที่สำหรับการอยู่ที่นี่แล้ว…”นาดากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
แน่นอนว่า…ความผูกพันธ์กับที่นี่สำหรับเธอมันมากเกินกว่าที่เธอจะจากไป
โดยไม่รู้สึกอะไรเลย…
อะมานีวางมือลงบนบ่าของน้ำค้างขณะกล่าวว่า…
“หลานของฉันล่ะ…เขาจะอยู่อย่างไร…”
น้ำค้างยิ้มบางพร้อมกับวางมือของเธอลงบนหลังมือของอะมานี
“น้ำค้างจะดูแลเขาอย่างดีค่ะ…น้ำค้างสัญญา…”อะมานีส่ายหน้า
“ฉันรู้…ว่าเธอดูแลเขาได้…ฉันก็แค่...แค่อยากดูแลเขาด้วย…
เขาเป็นสิ่งเดียวที่ดานีสทิ้งไว้…เธอไม่ควรพรากเขาไปจากฉัน…"
แววตานั้นดูอ่อนแสงนัก จนน้ำค้างรู้สึกไหววูบ ความสงสารตรงเข้าจับหัวใจ
"เธอก็เห็นว่าสิ่งที่ฉันเหลืออยู่ตอนนี้ มันไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับฉัน…
หรือเธอคิดว่า…การที่ฉันไม่ร้องไห้ออกมา มันหมายความว่า
ฉันไม่เศร้า ไม่เสียใจเลยกับการจากไปของลูกชายฉัน…”
นาดาก้มหน้านิ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับพยักหน้าอย่างเข้าใจทุกอย่าง...
อะมานีจึงคว้าร่างนั้นเข้ามากอดเอาไว้แน่น
เป็นกอดแรกที่นาดาได้รับจากท่าน
มันช่างอบอุ่นเหลือเกินในวันที่แสนอ้างว้างเช่นนี้…
เพราะแค่ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมามองไปไม่เจอเขา
เธอก็รู้สึกทรมานและเหงาจนจับหัวใจ
จนไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนี้ต่อไปได้อีก
วันนี้…เธอเข้าใจความรู้สึกของท่านหญิงอะมานีแล้วว่า
ทำไมท่านถึงไม่สามารถอยู่ในบ้านหลังนี้หลังจากที่ได้สูญเสียผู้เป็นสามีอันเป็นที่รักไป…
และเข้าใจแล้วว่า…ความรักที่ท่านมีต่อลูกชายของท่านนั้น...มันมากมายแค่ไหน…
“เราจะย้ายไปอยู่ที่เมืองไทยด้วยกันนะน้ำค้าง…
เธอและแม่ของเธอกับน้องๆของเธอจะได้ไม่ต้องพรากจากกัน…
จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเสียที…”
นาดายิ้มกว้างกับถ้อยคำนั้นที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากของท่านหญิงอะมานี…
ก่อนจะยกมือขึ้นโอบกอดท่านเอาไว้แน่น...
'...ต่อจากนี้...น้ำค้างจะดูแลแม่ของคุณหมอประดุจดัั่งแม่ของน้ำค้างค่ะ...
คุณหมอสบายใจได้...ท่านคือแม่ของน้ำค้าง...ขอบคุณนะคะคุณหมอ
ที่ีทำให้น้ำค้างมีแม่สองคนในวันนี้...ขอบคุณพระเจ้าที่นำสิ่งหนึ่งคืนกลับไป
แต่กลับมอบอีกหลายสิ่งจากสิ่งที่สูญเสียไปมาให้น้ำค้าง...'
…บางครั้ง…คนเรากว่าจะเข้าใจกันและกัน…ก็เมื่อต้องสูญเสียบางอย่างที่สำคัญไป
…ความรัก…ความเข้าใจ…ทำไมต้องให้ความตายเป็นคำตอบ…
....................................................
...เต่าโยรู้ว่า...นักอ่านหลายท่านคงไม่ชอบกับบทสรุปเช่นนี้นัก...
หยุดพักอีกสักนิด แล้วกลับมาอ่านกันต่อในตอนหน้านะคะ
เพราะว่า...
เรื่องนี้...ยังไม่จบ!!!
ใครที่เคยติดตามอ่านผลงานของ"yoraya" มาบ้างแล้ว
จะเข้าใจได้ดีว่า...
เมื่อยังไปไม่ถึงที่สุด...อย่าเพิ่งหยุดอ่าน...^^
เพราะอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้อีกเยอะ เมื่อมันยังไม่ถึงปลายทาง...
ถึงแม้"เต่าโย"จะขาสั้น แต่สังเกตได้ว่า นิยายที่คิดว่าเป็น "เรื่องสั้น"แล้ว
ก็ยังไม่เคยทำให้สั้นได้จริงๆสักที...อิอิอิ...
อย่างคานน้อยฯ จะว่าเป็นมหากาพย์เลยก็ยังได้ค่ะ...เฮะๆ
ขอคุยกับนักอ่านจากตอนที่แล้วนิดนึงค่ะหลังจากที่หายหัวไปนานมากๆ
กว่าจะปั่นนิยายได้สักตอนนั้นแสนสาหัสเหลือเกิน…เฮะๆ
หวังหมดใจว่านักอ่านท่ีติดตามอ่านกันอยู่จะไม่ถอดใจไปเสียก่อน
เพราะเต่าโยนั้น ขาสั้นจริงๆค่ะ…ปีนต้นตาลได้ช้าสุดๆ…
อาจจะช้าที่สุดในที่นี้เลยก็ได้ค่ะ…แต่ตั้งใจว่าจะไปให้ถึงยอดตาลค่ะ…
ไม่มีความคิดว่าจะทอดทิ้งนักอ่านที่เดินทางมาพร้อมกันกับเต่าโยเลย
1.คุณAuuuu…ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…
จากนี้ก็ตั้งใจว่าจะเขียนนิยายแนวๆนี้ไปเรื่อยๆเมื่อยามที่มีกำลังและมีเวลาค่ะ…
กว่าจะเขียนได้สักบทสักตอน ยอมรับค่ะว่ายากอยู่เหมือนกัน
เพราะว่าต้องหาอารมณ์ให้ลงกับตัวละคร ณ เวลานั้นให้ได้…
เนื่องจากคนเขียนนั้น แต่ละวัน อารมณ์ก็แตกต่างกันไปค่ะ…
ยังไง อย่าลืมแวะมาส่งเสียงทักทาย ให้กำลังใจกันอีกนะคะ
2.คุณChii…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจน่ารักๆ…ตอนที่แล้วเหงื่อตกแทนน้ำค้าง
ตอนนี้หวังว่าคงไม่น้ำตาตกไปกับน้ำค้างเค้านะคะ…
แต่อยากบอกว่า…ตอนหน้ายังมีอีกค่ะ…แวะมาอ่านและส่งเสียงให้ได้ยินกันอีกนะคะ…
ปล.ช่วงนี้ค่อนข้างเกรงใจนักอ่านมาก ก็เลยไม่ค่อยได้ปั่นนิยายมาอัพเลย…เฮะๆ
3.คุณsaralun…ตอนนี้มาให้แบบสะท้านสะเทือนทรวงนักอ่านมาก
หวังว่าคงไม่ทำให้นักอ่านเคืองกันนะคะ…อิอิ…
ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…แวะมาอ่านกันต่อนะคะ…
4.คุณไม้เอก…ใช่แล้วค่ะ…ตัวเร่งปฎิกิริยาเร็วเกินคาด แถมได้มาอีกคาดนึง…
ซึ่งนักอ่านคงเข็มขัดสั้นไป(เลยคาดไม่ถึง) ขออภัยในความเศร้าที่มอบให้นะคะ
แต่เรื่องนี้ยังไม่จบ อย่าเพิ่งศพ เย้ย อย่าเพิ่งนับหยดน้ำตาค่ะ…
5.คิมหันตุ์…น้ำค้างก็เลยค้างใจต่ออีกค่ะ…เล่นทิ้งไปอย่างนี้…
มาดูกันต่อตอนหน้านะคะ…ตอนนี้ก็ยังคงความสั้นเหมือนขาของคนเขียน
เหมือนตอนก่อนหน้าเลยค่ะ…อิอิ…ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…
6.คุณviolette…มาให้แล้วนะคะ…ต้องขอโต๊ดที่ปล่อยให้รอนานๆ…
ขาเต่้าสั้นค่ะ…ก็เลยปีนป่ายต้นตาลได้นานเยี่ยงนี้้…
อย่าได้โกรธอย่าได้เคืองกันเน้อ…เฮะๆ…
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ…หวังว่าคงไม่เสียใจจนน้ำตาท่วมจอ
เพราะทนคิดถึงคุณหมอดานีสที่มาทิ้งน้ำค้างไปแบบไม่ทันตั้งตัวไม่ไหวนะคะ…เฮะๆ…
ตอนหน้้ายังมี…ไม่มาต่อไม่ได้นะตัวเอง…
7.คุณwind…ยาได้ผลเร็วเกินคาด…อย่างว่่าค่ะ…หมอดานีส…ไม่มีเสียชื่อ…อิอิ
ขอบคุณนะคะที่แวะมาส่งเสียงเป็นกำลังใจให้เต่าโย…
8.คุณaom…มาแบบสั้นๆ ตามสโลแกนของเต่าค่ะ…เฮะๆ…
ที่ทั้งสั้นและทั้งเชื่องช้า…แต่ว่า…ยังมาอยู่นะคะ…ไม่ได้ทอดทิ้งเน้อ…
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจน่ารักๆที่มอบให้เต่าโยเสมอมา…
9.น้องเจื้อยแจ้ว…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจที่มอบให้พี่มาตลอด…
หวังว่าน้องเจื้อยแจ้วจะไม่เคืองพี่ที่ทำกับน้องและนักอ่านเยี่ยงนี้น้าาาาาา…
แต่ไม่อยากบอกเลยว่า…เรื่องมันยังไม่จบ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้อีกเยอะ…อิอิอิ
เพราะถึงพี่จะขาสั้น แต่นิยายไม่เคยจะสั้นตามขาพี่น้าาาาาาา…
10.คุณmhengjhy…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและเสียงหัวเราะ…
หวังว่ายกนี้คงไม่ทำให้เสียงหัวเราะจากยกก่อนลดลงไปนะคะ…เฮะๆ
อย่าลืมแวะมาอ่านและแวะมาส่งเสียงให้เต่าโยได้ยินกันอีกนะคะ
11.คุณบัวขาว…ขอบคุณค่ะสำหรับรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ส่งมาให้เช่นเคย…
แวะมาทิ้งรอยยิ้มให้โยได้มองอีกนะคะ…^^
12…คุณphakarat…ขอบคุณค่ะสำหรับรอยยิ้มที่ส่งมาเป็นกำลังใจให้เต่าโย…
แล้วแวะมาส่งยิ้มให้กันอีกนะคะ….
13.คุณThananya…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจ…แวะมาส่งกำลังใจให้กันอีกนะคะ
แม้เต่าโยจะมาช้า แต่ก็กำลังพยายามปีนสู่ยอดตาลให้ได้สำเร็จอยู่ค่ะ
14.คุณgoldensun…สำเร็จตามแผนเช่นกันค่ะ ซึ่งก็ทำเอาน้ำค้างเสียใจ
และใจเสียอีกเช่นเคย อย่าเพิ่งเศร้าไปนะคะ ตอนหน้้ายังมีค่ะ…
แวะมาส่งกำลังใจให้กันอีกนะคะ…อย่าเพิ่งทิ้งเต่าโยไปไหนน้าาาาาาา…
15.คุณPat…จากตอนนี้…จะเห็นได้ว่า ตัวเร่งได้ผลสุดๆไปเลยค่ะ…อิอิ…
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…จะพยายามมาให้ไวค่ะ…
16.คุณลิลลี่…ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…
อย่าเพิ่งกลัวไปกับจุดหักของเรื่องเลยค่ะ(เพราะจริงๆมันยังหักได้อีก) อิอิอิ…
17.คุณแม่มดน้อย…ยีี่ห้อyoraya ไม่มีอะไรได้มาไวๆเลยใช่มั้ยคะ…อิอิอิ
โยว่าอันนี้น่าจะใช่กว่าแน่ๆ…เพราะเรื่องช้า…คิดว่าไม่มีใครเกินหน้าเต่่าโยแว้วววว…
ขอบคุณค่ะที่ไม่ทอดทิ้งกัน…ยังอยู่เป็นเพื่อนกัน…จุ๊บๆนะคะ
18.คุณsupayalak…เค้าก็คิดว่าตัวเองเมินหน้าหนีเค้าไปแล้วซะอีก…
ดีใจนะคะที่กลับมาโพสต์ความเห็นเป็นกำลังใจให้กัน…
แสดงว่ายังไม่ทิ้งกันเนอะ…โยล่ะกลัวจริงๆว่านักอ่านจะทอดทิ้งไป
เพราะเรามันขาสั้นเหลือเกิน…กว่าจะปั่นได้สักตอน เป็นแรมเดือนแหน่ะ…เฮะๆ…
ตอนหน้าก็ไม่รู้ว่าจะโผล่หัวมาอีกเมื่อไหร่ แต่จะพยายามมาให้ว่องให้ไว
กว่าปกตินะค้าาาาาาา…ขอบคุณสุดๆค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม…
ถ้าโยมาช้าเกินเหตุ อนุญาตให้จิกโยได้ทุกที่ที่ต้องการค่ะ…อิอิ
สุดท้ายไม่ท้ายสุด…ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้มาตลอดนะคะ
เรื่องนี้ยังไม่จบ…อย่าเพิ่งนับศพ เย้ย อย่าเพิ่งนับหยดน้ำตาค่ะ…
อะไรๆก็เกิดขึ้นได้เสมอ…เมื่อทุกอย่างยังไม่ถึงที่สุดค่ะ…
แล้วเจอกัันตอนหน้านะคะ…
…รักษาสุขภาพนะคะ…
ด้วยรัก
“เต่าโย”

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2556, 18:42:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ค. 2564, 00:32:50 น.
จำนวนการเข้าชม : 10094
<< ตอนที่ 10 ฤดูที่มีเธอ | ตอนที่ 19 สำรับจากฟากฟ้า >> |


saralun 22 ก.ค. 2556, 21:06:27 น.
อร้ายยยยย T^T
อร้ายยยยย T^T


Pat 22 ก.ค. 2556, 21:17:05 น.
อ้าว ทำไมอยู่ๆคุณหมอถึงตายล่ะคะ (?) น้ำค้างฝันไปหรือเปล่า เอ หรือว่าคนอ่านฝันไปหว่า?
อ้าว ทำไมอยู่ๆคุณหมอถึงตายล่ะคะ (?) น้ำค้างฝันไปหรือเปล่า เอ หรือว่าคนอ่านฝันไปหว่า?



aom 22 ก.ค. 2556, 21:48:21 น.
เศร้าอ่ะ อุตสาห์ดีใจที่อัพ เรื่องตอนนี้เข้าไปเงิบเลยคร้าาาา
ยังไงก็รอตอนต่อไปนะคะ
เศร้าอ่ะ อุตสาห์ดีใจที่อัพ เรื่องตอนนี้เข้าไปเงิบเลยคร้าาาา
ยังไงก็รอตอนต่อไปนะคะ

pseudolife 22 ก.ค. 2556, 22:11:14 น.
ช็อกฮะ เป็นตอนที่เศร้าแต่มีความหวังแฮะ
ถึงพี่โยไม่บอกอย่างนี้ ยังไงก็ตามอ่านจนสุดค่า ฮุฮุ
ช็อกฮะ เป็นตอนที่เศร้าแต่มีความหวังแฮะ
ถึงพี่โยไม่บอกอย่างนี้ ยังไงก็ตามอ่านจนสุดค่า ฮุฮุ

pkka 22 ก.ค. 2556, 22:15:18 น.
อ้าวๆๆ
อ้าวๆๆ

supayalak 22 ก.ค. 2556, 22:22:29 น.
เต่าโยค่ะ ทำกันเยี่ยงนี้เอามีดมาแทงกันให้รู้ดำรู้ดีกันไปเลยกีไหมค่ะ โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำงี้กับหมอดานีสได้งัยอ่ะ เค้าไม่ยอมน้าฮืออออ เอาหมอของเค้าคืนมาเลยยยยยย รู้แหละว่าเต่าโยต้องมีอะไรอีกแน่ๆ รีบมาบอกต่อเลยฮึ

เต่าโยค่ะ ทำกันเยี่ยงนี้เอามีดมาแทงกันให้รู้ดำรู้ดีกันไปเลยกีไหมค่ะ โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำงี้กับหมอดานีสได้งัยอ่ะ เค้าไม่ยอมน้าฮืออออ เอาหมอของเค้าคืนมาเลยยยยยย รู้แหละว่าเต่าโยต้องมีอะไรอีกแน่ๆ รีบมาบอกต่อเลยฮึ




mhengjhy 22 ก.ค. 2556, 23:16:49 น.
ง่ะ ฝันสลาย หัีวเราะไม่ออกเลยอ้ะ
ง่ะ ฝันสลาย หัีวเราะไม่ออกเลยอ้ะ

goldensun 22 ก.ค. 2556, 23:46:37 น.
อ่านตอนนี้แล้วอึ้งค่ะ งงๆจนไม่รู้สึกว่าหมอตายจริงๆ ฝันร้ายยาวๆของใครรึเปล่าคะ รอหมอตายแม่สามีถึงจะดีกับลูกสะใภ้หรือคะ
ตอนหน้ามาไขปริศนาด่วนเลยค่ะ ค้างอย่างแรง
อ่านตอนนี้แล้วอึ้งค่ะ งงๆจนไม่รู้สึกว่าหมอตายจริงๆ ฝันร้ายยาวๆของใครรึเปล่าคะ รอหมอตายแม่สามีถึงจะดีกับลูกสะใภ้หรือคะ
ตอนหน้ามาไขปริศนาด่วนเลยค่ะ ค้างอย่างแรง

violette 23 ก.ค. 2556, 00:26:05 น.
อ๊ายยยยยย ทำไมมมมม โอ้ยยยยย ไม่จริงค่า
อ๊ายยยยยย ทำไมมมมม โอ้ยยยยย ไม่จริงค่า

คิมหันตุ์ 23 ก.ค. 2556, 01:20:03 น.
เค้าแอบช็อกเบาๆไปละ มาต่อไวไวนะคะ ตอนนี้น้ำไม่ค้างละ แต่เป็นคิมค้าง
เค้าแอบช็อกเบาๆไปละ มาต่อไวไวนะคะ ตอนนี้น้ำไม่ค้างละ แต่เป็นคิมค้าง


konhin 23 ก.ค. 2556, 08:31:16 น.
กระซิกๆ พูดไม่ออก
กระซิกๆ พูดไม่ออก

OhLaLa 23 ก.ค. 2556, 12:13:29 น.
โอ้หมอดานีส...ไม่นะ ไม่
ไรเตอร์ช่วยบอกทีว่ามันคือความฝันไม่ใช่ความจริง กระซิกๆ
โอ้หมอดานีส...ไม่นะ ไม่



ลิลลี่ 27 ก.ค. 2556, 12:47:58 น.
โหย แว๊บแรกคิดว่าตัวเองนี่ล่ะทำให้ดานีสตาย เพราะดันไปตามไรเตอร์หลังไมค์ว่าให้กลับมาอัพเร็วๆ55555
เศร้ามากกกกกกก ไม่เอาแบบนี้นะ...มันทรมานเกินไป
โหย แว๊บแรกคิดว่าตัวเองนี่ล่ะทำให้ดานีสตาย เพราะดันไปตามไรเตอร์หลังไมค์ว่าให้กลับมาอัพเร็วๆ55555
เศร้ามากกกกกกก ไม่เอาแบบนี้นะ...มันทรมานเกินไป


Littlewitch 7 ส.ค. 2556, 00:03:03 น.
มันกลายดป็นแบบนี้ได้ยังงัยกันนะ เต่าโยใจร้ายมาก
เพิ่งหวานได้ตอนเดียวคุณหมอก็ชิงไปเกิดก่อนซะและ แต่ก็อยากรู้ว่าเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไร ถึงขาสั้น แต่อย่าหยุดเดินนะคะ
มันกลายดป็นแบบนี้ได้ยังงัยกันนะ เต่าโยใจร้ายมาก

เพิ่งหวานได้ตอนเดียวคุณหมอก็ชิงไปเกิดก่อนซะและ แต่ก็อยากรู้ว่าเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไร ถึงขาสั้น แต่อย่าหยุดเดินนะคะ



คิมหันตุ์ 30 ส.ค. 2556, 02:39:52 น.
ปล่อยให้เค้าค้างนานมากอ่ะคุณโย........T____T
ปล.พี่มากโยรู้ไม๊ ว่าชั้นมารอพี่ที่ ท่าน้ำนี้ทุกวันเลยนะ งืมงำๆ
ปล่อยให้เค้าค้างนานมากอ่ะคุณโย........T____T
ปล.พี่มากโยรู้ไม๊ ว่าชั้นมารอพี่ที่ ท่าน้ำนี้ทุกวันเลยนะ งืมงำๆ

Nadaa 30 ส.ค. 2556, 20:05:01 น.
อยากอ่านต่อ แล้วง่ะ อิอิอิ
อยากอ่านต่อ แล้วง่ะ อิอิอิ
