Pai Journal (ปาย ในบันทึกถึงคุณ)
คุณที่รัก...
ผมอยากเล่าเรื่องราวหลังจากวันนั้นให้คุณได้ฟัง
มันเป็นการเดินทางระยะสั้นๆ ในช่วงเวลาชีวิตยาวนาน
ผมพบพานสิ่งต่างๆ ท่ามกลางความรู้สึกถึงคุณทุกขณะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: โปสการ์ดถึงตัวเอง


รถแดงนำพาผู้คนลัดเลาะตรอกซอกซอยอย่างน่าตื่นเต้น แม้บางอารมณ์ก็ชวนหวาดเสียว แต่ก็เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองแห่งนี้

ผมนัดน้องสาวไว้ที่ซอยนิมมานเหมินทร์ เธอว่างจากงานที่ร้านถ่ายรูปตอนเที่ยงไปถึงก่อนค่ำ แต่การหลับตาลงจากกลางคืนที่ผ่านมาเหมือนปิดสวิตช์ตาย กว่าผมจะตื่นก็ตอนเธอโทร.มานัดหมายร้านที่จะเจอกัน ดังนั้นผมจึงไปถึงเอาสายกว่าที่นัดไว้เยอะพอดู

เรานั่งอิงบรรยากาศใต้ร่มไม้ ละเลียดอาหารกลางวันสไตล์อเมริกัน ดื่มกาแฟเย็นรสชาติแบบผ่านเครื่องชงชั้นดี ปล่อยให้น้องสาวถามหาคำตอบและตอบแก่คำถามอันมีมากมาย ตั้งแต่ช่วงเวลา เหตุการณ์ ผลลัพธ์ สิ่งที่เป็นมา ความน่าจะเป็นไป เธอว่านานครั้งที่เธอจะได้ระบายออกและเปิดเผยความข้างใน ผมนึกดีใจแทนเธอที่มีคนที่เธอสามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ผมนึกเสียใจแทนตัวเอง ที่ยังเป็นหีบซ่อนผ้า

เราเดินคุยกันจากซอยหนึ่งไปยังอีกซอยหนึ่ง เปลี่ยนจากร้านหนึ่งไปชมอีกร้านหนึ่ง ใช้เวลาแช่มช้าด้วยกันด้วยไม่อาจจะออกนึกถึงวันหลังจากนี้ว่าย้อนวนกลับมาเจอกันอีกเมื่อไหร่

ในคำถามลอยๆ คำถามหนึ่งจากที่เธอบอกเล่า “ไปอยู่อเมริกาก็น่าจะดีนะ”

ผมว่าการเดินทางนั้นสมควรมีความหวัง เพราะความหวังทำให้เราตัดสินใจที่จะออกเดินทางมุ่งหน้าไป ผมเองก็ตั้งความหวังไว้ว่าบางอย่างจะกะเทาะออกจากสิ่งที่ห่อหุ้มผมไว้ก่อนหน้านี้

“พี่น่าจะขึ้นไหว้พระธาตุหน่อยนะ ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว”

คุณคงไม่เข้าใจว่าคำแนะนำนั้นเจ็บปวดแค่ไหน แต่ก็เพียงเพราะเธอไม่รู้ว่าผมผ่านไปในที่ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำไม่ได้ นานหลายปีแล้วที่ผมมาที่นี่กับคุณตามลำพัง คืนและวันยังแจ่มกระจ่าง ความคิดถึงวูบผ่านก็เป็นสุขและเจ็บปวด ผมรู้ตัวทันทีว่ากำลังเปียกปอนที่ภายใน แต่ผมก็รับปากเธอไปว่าอาจจะหาเวลาขึ้นไปไหว้วันสองวันนี้

ก่อนกลับเข้าไปทำงานอีกรอบ เธอสั่งว่าตอนเย็นไปเจอกันที่ซอยวัดอุโมงค์ มีร้านอาหารอยากให้ได้ลองกิน แล้วจะพาไปเที่ยวราตรีเชียงใหม่

เมื่อน้องสาวจากไป ผมก็กลับมาไร้ทิศทางเหมือนหลงอยู่ในเมืองแปลกหน้า ผมนั่งต่อที่ร้านอีกครู่ใหญ่ด้วยการเขียนโปสการ์ดส่งหาตัวเอง เมื่อแวะร้านบริการไปรษณีย์แถวนั้นและส่งโปสการ์ดที่บอกตัวเองว่ายังไม่สามารถหาคำตอบที่จะก้าวผ่านได้เหมือนเดิมกลับไปนอนรอที่ตู้เช่า

แม้จะเขียนโปสการ์ดอยู่เสมอ แต่นี่ก็ยังเป็นครั้งที่ไม่บ่อยนักที่ผมเขียนโปสการ์ดหาตัวเอง ในข้อความเขียนลงไปแบบเสียดายทุกพื้นที่ เพราะมากมายถ้อยคำที่อยากพูดคุยบอกเล่าเวลาเขียนหาคนนั้นคนนี้ ผมกลับเขียนไม่ออกที่จะบอกเล่าตัวเองว่าชีวิตนั้นยังคงว่างเปล่า คำตอบของคำถามที่ยังคงวนเวียนให้ได้คิดและสับสนยังคงหล่นอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ผมได้เริ่มต้นหาทางที่จะค้นหาแล้ว

แถวตอนยาวของเบาะรถแดงว่างคน ผมนั่งตามลำพังในขณะที่รถแล่นไปบนถนนสายหน้ามอเพื่อย้อนกลับไปที่ห้องพัก ผมรู้ว่าพอข้ามคลองชลประทานก็เลี้ยวเข้าเส้นผ่านหน้าตึกพอดี มันง่ายดายที่เราจะไปถ้าเรารู้เส้นทางและจุดหมาย แต่ยากยิ่งกว่าเมื่อไม่รู้อะไรเลย

ผมหยิบโปสการ์ดรูปทุ่งนาหน้าฝนของเมืองในหุบเขาสอดไว้ในสมุดบันทึกในมือ เก็บมันเข้ากระเป๋าสะพาย มองย้อนหลังไปบนถนน

คุณที่รัก...

ไม่ว่าจะหาคำตอบนั้นเจอหรือไม่ก็ตาม ผมยังคงจะส่งข้อความกลับไปบอกผู้ชายคนเดิมที่เคยอยู่ในเมืองนั้น อยู่กับวันเวลาครั้งนั้น อย่างน้อยๆ ก็ให้เขาได้รู้ว่าผมก้าวเท้าเดินทางเพื่อค้นหาคำตอบและเส้นทางที่สมควรไปอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าวันที่ผมรอคอยอย่างมีความหวังคือการได้เขียนข้อความว่า “ในที่สุด...”



นรมันร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ค. 2556, 12:03:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2556, 12:03:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 1088





<< เสียงหัวใจเต้นในห้องเงียบเสียง   จุดหมายต่อไป >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account