หนึ่งรักเหนือรุ้ง
เหนือฟ้า.... เออีสาวแสนสวยแห่งบริษัทโฆษณาปั้นคิด พยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ หลังโดนคุณป้ามหาประลัยตามราวีทุกวัน ร้อยเล่ห์มารยาถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ทว่า... เิงินก้อนโตที่เธอควรจะได้รับ กลับถูกใครบางคนขัดขวาง แถมจองล้างจองผลาญไม่ยอมให้เธอไปจากบ้านของเขา

แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเขาเป็นทั้งเจ้านาย และอดีตพี่ชายที่เคยทำให้เธออกหัก การแข่งขันเพื่อชิงชัยแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มต้นขึ้น

งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะแพ้ใจตัวเองก่อน มาร่วมลุ้นกัน ^^


Tags: เหนือฟ้า , เพลงรัก , ชินชนะ , รัก , กุ๊กกิ๊ก

ตอน: บทที่ สิบเจ็ด : จะรอดไหมเนี่ย



การปรากฏตัวอย่างไม่คาดฝันของอิงตะวัน ไม่เพียงแต่ทำให้เหนือฟ้าตกอกตกใจเท่านั้น แต่ชายหนุ่มแว่นหนาที่ยืนอยู่เพียงลำพังก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน ยิ่งเมื่อเห็นฝ่ายที่ก้าวเข้ามาสอดส่ายสายตาประหนึ่งหาใครคนหนึ่ง เขาก็อดเอ่ยทักด้วยความสงสัยไม่ได้

“อิง!?! มาได้ยังไงเนี่ย... อ้าว คุณอำไพ มาด้วยหรือครับ สวัสดีครับ” ประโยคหลัง ชายหนุ่มทักทายก่อนยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนที่กระหืดกระหอบวิ่งตามมา เพราะบิดาของเขาเป็นเพื่อนกับอิสระ ทำให้เขาคุ้นเคยกับทุกคนในคฤหาสน์โอ่อ่าของนักธุรกิจใหญ่เป็นอย่างดี เมื่ออีกฝ่ายรับไหว้ เขาก็ยิงคำถามใหม่

“มีเรื่องอะไรกันหรือครับ”

“พี่หนึ่งมากับใคร” เสียงห้วนแบบมะนาวไร้น้ำของเด็กสาวตัวเล็กดังขึ้น ดวงตาวาวจ้องเขม็งคาดคั้นคำตอบ มาวินเลิกคิ้วน้อยๆ ด้วยยังไม่คลายความแปลกใจ

“พี่มาทำงาน... มากับที่ทำงาน อิงมีอะไรหรือเปล่า”

“มีคนบอกว่าพี่หนึ่งมาเที่ยวกับผู้หญิงคนนั้น ยายนั่นมันอยู่ไหนล่ะ”

“ใคร”

“ก็... ผู้หญิงที่ชื่อเหนือ อยู่ไหน”

เสียงตวาดด้วยความไม่พอใจทำให้มาวินขมวดคิ้ว เขามองเด็กสาวที่เขาเอ็นดูเหมือนน้องสาว แม้บ่อยครั้งเธอจะแสดงกิริยาก้าวร้าว แต่เขาก็ไม่เคยถือสา จนกระทั่งเธอเอ่ยชื่อ ‘เหนือ’ ด้วยน้ำเสียงเช่นนั้น เขากลับทนฟังไม่ได้

“อิง... มีเรื่องอะไร แล้วทำไมไปเรียกคุณเหนือว่ายายนั่น ไม่น่ารักเลยนะ”

ดวงตากลมตวัดมองพี่ชายต่างสายเลือดอย่างเคืองขุ่น ก่อนที่มุกมาลาและทำนุทัพซึ่งได้ยินเสียงเอะอะจะก้าวเข้ามาสมทบ

“เกิดอะไรขึ้นคะ” เลขาฯ สาวกระซิบถามเจ้านาย หลังทักทายเด็กสาวที่เคยเจอสองสามครั้ง แต่ฝ่ายนั้นกลับทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน

“อิงตามมาหาคุณเหนือ... คุณมุกเห็นคุณเหนือหรือเปล่า บอกว่าจะไปคุยโทรศัพท์แถวนี้ แต่ไม่รู้หายไปไหน”

“มุกเห็นคุณเหนือขึ้นรถไปแล้วนะคะ ไปกับ...”

“คุณชิน” ทำนุทัพต่อให้ สีหน้าบอกความไม่พอใจที่อยู่ๆ ชินชนะก็โผล่มาแล้วฉุดกระชากเหนือฟ้าให้ไปด้วย ขณะที่มาวินนิ่วหน้า เหนือฟ้าจะไปโดยไม่บอกเขาเนี่ยนะ

คิดเช่นนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้นทันที เขากดรับ คุยเสียงเบาอยู่สักพักก่อนวางสาย

“คุณเหนือโทรศัพท์มาขอโทษ พอดีที่ออฟฟิศมีเรื่องด่วน น้องชายฝาแฝดของคุณชินเลยมารับกลับ”

“น้องชายฝาแฝดของคุณชิน? คุณชินมีฝาแฝดด้วยเหรอ แล้วจะตามตัวทำไมไม่โทรมา ต้องมาตามถึงที่”

“คุณเหนือบอกว่า คุณชินให้น้องชายมารับ จะได้ไม่รบกวนให้เราไปส่งที่ท่ารถ”

“แต่ก็น่าจะล่ำลากันหน่อย”

“ไร้สาระ จะคุยกันอีกนานไหม รำคาญ” อิงตะวันโพล่งขึ้นท่ามกลางความตกใจของทุกคน อำไพรีบปราดเข้าไปประคองหวังจะช่วยคลายความร้อนในใจลง แต่เด็กสาวกลับสะบัดมือออก “อิงอยากกลับบ้าน พี่หนึ่งพาอิงกลับเดี๋ยวนี้”

“คุณหนูอิง ใจเย็นๆ นะคะ…”

“อิงจะกลับ!!!” เด็กสาวแผดเสียงออกคำสั่ง ทั้งที่หญิงวัยกลางคนข้างกายพยายามกล่อม คนที่ไม่เคยเจอฤทธิ์คุณหนูอิงตะวัน อย่างทำนุทัพ ถึงกับทำหน้าประหลาดใจ มาวินรู้ว่าขืนปล่อยต่อไปเรื่องคงใหญ่กว่านี้

“พี่ยังไม่กลับหรอกนะอิง นี่ก็เกือบบ่ายสามโมงแล้ว พี่ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย อิงไปทานข้าวด้วยกันก่อนนะ แล้วพี่จะไปส่งที่บ้าน” ชายหนุ่มพยายามประนีประนอมอย่างนุ่มนวล ซึ่งความใจเย็นของเขานี่เอง ทำให้ดวงใจที่ร้อนเร่าของคุณหนูอารมณ์ร้ายค่อยๆ ลดอุณหภูมิลง แม้จะไม่ยอมรับในทันที แต่ก็ไม่ได้ขึ้นเสียงใส่คนอื่นอีก

“งั้นก็รีบไปสิ” เธอว่าแล้วสะบัดหน้าเดินนำ โดยมีอำไพก้าวตามไปติดๆ คนที่เหลือพร้อมใจกันส่ายหน้า ขณะที่ชายหนุ่มแว่นหนาถอนหายใจเบาๆ

ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า ปกติก็ไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้ายเสียด้วย แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้จริงๆ ราวกับว่ามีคนจงใจส่งอิงตะวันมาเพื่อทำลายช่วงเวลาของเขากับเหนือฟ้า

แต่คนๆ นั้นเป็นใคร และทำไปทำไม... เขาไม่เข้าใจเลย



“ทั้งหมดนี่เป็นแผนของคุณใช่ไหมคุณชินชนะ”

เสียงตะคอกถามอย่างหงุดหงิดของหญิงสาวที่นั่งเบาะข้างๆ ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งหลังพวงมาลัยอารมณ์เสียตามไปด้วย กลับกัน เขากลับฮัมเพลงอย่างสบายใจ ยิ่งทำให้เหนือฟ้าหัวเสีย

ตั้งแต่ที่เขาลากเธอออกมาจากโรงเรียนวัดบ้านเล เธอก็รู้แล้วว่าการปรากฏตัวของอิงตะวันเป็นฝีมือของเขา แต่ที่ยอมขึ้นรถมาด้วยเป็นเพราะตอนนั้นมันฉุกละหุก เธอมัวแต่ตกใจ พอตั้งสติได้ คนเจ้าเล่ห์ก็รีบดักทางว่ามีความลับจะเล่าให้ฟัง ทำให้เธอไม่อาจโดดหนีลงจากรถอย่างที่ใจคิด ต้องยอมร่วมโต๊ะกินข้าวที่ร้านอาหารเล็กๆ ริมชายหาด ต้องทนกินปูเนื้อแน่นที่เขาตั้งใจแกะให้จนหมดไปหลายตัว เขาถึงยอมเปิดปากว่าเพราะอะไร ทำไมคุณหนูเอาแต่ใจถึงยอมมากับเขาง่ายๆ

ความจริงก็ไม่ง่ายนักหรอก ตอนที่เขาไปกดกริ่งที่บ้าน อิงตะวันก็สั่งให้รปภ.ไล่เขากลับไป ต้องอ้างชื่อมาวินนั่นแหละ เธอจึงยอมให้พบ

‘พี่ชายพี่มีเรื่องต้องคุยกับพี่เหนือ ด่วนมาก ให้พี่ไปตามตอนนี้ น้องอิงจะไปด้วยกันไหม’

‘ประสาท มาชวนทำไม’

‘เออ พี่ลืมบอกไป ตอนนี้พี่เหนืออยู่กับพี่มาวิน คนที่เราชอบน่ะ สองคนนั้นไประยองด้วยกัน พี่ไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร แต่ถ้าน้องไม่มีปัญหาอะไรก็ไม่เป็นไร ก็แค่มาบอก’

อิงตะวันแสดงความโกรธออกมาทางแววตาอย่างที่เขาคิดไว้ แต่ก็ยังลังเลว่าควรจะเชื่อดีหรือไม่ สุดท้าย เธอก็เรียกแม่บ้านคนสนิทให้ไปด้วยกัน ด้วยรถอีกคันของทางบ้าน นับว่าฉลาดที่ไม่ประมาท

“คุณตั้งใจพาอิงตะวันมาที่นี่เพื่อขัดขวางการทำงานของฉัน นี่มันงานบริษัทนะ ถ้าคุณมาวินโกรธขึ้นมา ไม่กลัวเสียหายหรือไง”

“ผู้ชายหน้าไหนจะกล้าโกรธรุ้งได้ลงคอ ขนาดพี่ยังไม่เคยโกรธเลย”

“เลิกนอกเรื่องเสียทีเถอะค่ะคุณชินชนะ คุณทำอย่างนี้ทำไม”

“ก็ทำเพื่อ...” เขาลากเสียงยาวหมายจะยั่วให้อยากรู้ ถ้าไม่ได้ขับรถอยู่เขาคงหันมาจ้องตาเธอไปแล้ว

“เพื่ออะไร”

“นี่รุ้งยังคิดไม่ออกอีกเหรอว่าเพื่ออะไร...” เขาเว้นจังหวะไป ช่วยไม่ได้เลยที่อยู่ๆ หัวใจของเธอจะเต้นโครมคราม เพราะหึงเพราะหวงไม่อยากให้ใกล้ชิดกับผู้ชายอื่นใช่ไหม เหนือฟ้ารีบเสมองออกนอกหน้าต่าง เพื่อไม่ให้เขาเห็นรอยยิ้มยินดีของตน

“พี่ทำเพื่องานไง รุ้งน่าจะเดาได้นะว่าทำไมน้องอิงถึงยอมมากับพี่ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องอิงชอบคุณมาวิน จ้างให้เธอก็คงไม่ยอมมา จุดอ่อนเดียวของน้องอิงคือคุณมาวินนะ รู้อย่างนี้แล้วรุ้งจะยังเอาตัวไปยุ่งกับเป้าหมายของเป้าหมายอีกเหรอ”

แม้ประโยคแรกของเขาจะดับฝันเหนือฟ้าแบบไม่ทิ้งควันไฟหลงเหลือ แต่ประโยคต่อมาก็เปลี่ยนหัวใจที่ห่อเหี่ยวให้ฟูฟ่องขึ้นมาได้ อิงตะวันชอบมาวินอย่างนั้นเหรอ!!! จริงด้วยสินะ ถ้าไม่ชอบก็คงไม่ตามมา ในที่สุดเธอก็พบรอยโหว่บนปราการหัวใจที่แน่นหนาและหยาบกระด้างแล้ว ดีล่ะ...เธอจะหาทางมุดเข้าช่องนั้นเอง

“นี่ๆ อย่าเพิ่งทำหน้าเจ้าเล่ห์แบบนั้น ชมคนให้ข้อมูลก่อน”

“ไม่จำเป็น” เธอตอบห้วนๆ ไม่ใยดีว่าคนข้างตัวจะทำเสียงกระเง้ากระงอดสักแค่ไหน ซึ่งนั่นเองที่ทำให้คนช่างสังเกตมองเห็นความผิดปกติ “นี่คุณชินชนะ คุณวนมาทางนี้อีกแล้วนะ ฉันจำศาลเพียงตาใต้ต้นมะพร้าวนั่นได้ คุณหลงหรือเปล่าเนี่ย”

“หลงอะไร หลงรักรุ้งนะเหรอ”

“เลิกเล่นได้ไหม นี่ซีเรียสนะคะ เริ่มมืดแล้วด้วย แถวนี้ก็มีแต่สวน มีแต่ต้นไม้ ไม่มีคนให้ถามทางเลย”

“ไม่ต้องห่วงหรอก มีไฟถนน ก็แสดงว่ายังเป็นถนนที่มีคนใช้ เดี๋ยวขับไปๆ ก็เจอคนเองนั่นแหละ” ชินชนะว่าอย่างไม่อาทรร้อนใจ ทำให้เหนือฟ้าเริ่มเอะใจ

“อย่าบอกนะว่านี่เป็นแผนของคุณอีก”

“แผนเหรอ? รุ้งคิดว่าพี่จะวางแผนอะไร” เขาถามเสียงกลั้วหัวเราะ ยิ่งทำให้เธอไม่ไว้ใจ

“หลงทาง กลับกรุงเทพฯ ไม่ได้ ต้องค้างด้วยกัน”

“คนซื่อๆ อย่างพี่ คิดอะไรเจ้าเล่ห์อย่างนั้นไม่ได้หรอก”

“น้อยไปน่ะสิ”

สิ้นเสียงของเธอ ก็เกิดเสียงระเบิด ‘ปุ้ง’ ดังสนั่น ก่อนรถจะส่ายตุปัดตุเป๋ จนชายหนุ่มต้องรีบแตะเบรก

“รถเป็นอะไรคะ” เธอถามด้วยความตกใจ แวบแรกคือคิดว่าเขาแกล้งอะไรหรือเปล่า แต่พอหันไปมองหน้าเขา แม้ในความสลัวแต่เธอก็เห็นความตระหนกชัดเจน ดังนั้นพอชายหนุ่มเปิดประตูแล้วลงไปสำรวจสภาพรถ เธอจึงก้าวตามไปเพราะความเป็นห่วง

“ยางแตก สงสัยโดนตะปู” เขาว่าอย่างเป็นกังวล เมื่อเห็นยางหน้าฝั่งขวาแบนแนบพื้น

“แล้วรถคุณมียางอะไหล่หรือเปล่า”

เขาพยักหน้าแล้วเดินไปเปิดกระโปรงหลัง ก่อนหยิบอุปกรณ์ทั้งหลายออกมาอย่างคล่องแคล่ว เหนือฟ้ามองตามพลางคิดในใจว่าเขาคงไม่ได้โกหก... ถ้าเขาไม่มียาง ไม่มีแม่แรง นั่นต่างหากที่น่าสงสัยว่าจัดฉากหรือเปล่า

“เดี๋ยวรุ้งช่วยฉายไฟให้หน่อยนะ มันมืดแล้ว พี่มองไม่ค่อยเห็น”

“ได้ค่ะ” เธอรับอย่างเต็มใจ ก่อนชะงัก “ไฟฉายอยู่ไหนเหรอคะ”

“เออ จริงด้วยสิ รถพี่ไม่มีไฟฉาย” ชายหนุ่มทำหน้าเครียด มองท้องฟ้าที่ค่อยๆ มืดลงทุกขณะ ก่อนถอนหายใจหนักๆ เหนือฟ้ากลัวเขาจะเอาเรื่องนี้มาอ้างทำให้ไม่ได้กลับบ้าน เลยช่วยคิดหาทางออกให้

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันเปิดแฟลชจากมือถือให้นะคะ น่าจะพอช่วยได้” เธอว่า แล้วเข้าไปหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมาจากรถ หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มลงมือเปลี่ยนยางอย่างแข็งขัน ท่ามกลางไฟสีขาวจากหญิงสาวที่คอยส่อง

ครึ่งค่อนชั่วโมงผ่านไป จนรอบกายมืดสนิท นอกจากไฟถนนที่แต่ละต้นอยู่ห่างกันหลายเมตร นานๆ ทีก็จะมีแสงไฟจากหน้ารถมอเตอร์ไซต์ของชาวบ้านผ่านมาบ้าง แต่นั่นก็ไม่ช่วยทำลายความวังเวงของบรรยากาศลงได้เลย

“คุณชินชนะ ฉันถามจริงๆ นะ ตกลงว่าคุณเปลี่ยนยางเป็นหรือเปล่า”

ชายหนุ่มที่นั่งยองๆ บนพื้น เงยหน้าที่มอมเพราะน้ำมันเครื่องขึ้นมา ก่อนจะลุกมายืนใกล้ แล้วตอบอ้อมแอ้ม

“มันยากกว่าที่คิดไว้”

“หมายความว่ายังไง? นี่คุณเปลี่ยนไม่เป็นจริงๆ เหรอ”

หนุ่มหน้ามอมพยักหน้าหงึกๆ ทำหน้าทำตาเหมือนเด็กทำผิดแล้วถูกครูจับได้ เหนือฟ้าไม่รู้จะพูดอย่างไร เธอได้แต่พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด “ทำไมคุณไม่บอกให้เร็วกว่านี้ จะได้ไม่เสียเวลา”

“ก็ถ้าอยู่ๆ ยางแตก แล้วพี่บอกรุ้งว่าพี่เปลี่ยนยางไม่เป็น รุ้งก็คงคิดว่าพี่แกล้ง คิดว่าเป็นแผนของพี่อีก... หรือไม่จริง” ท้ายประโยคที่ย้อนถามทำให้หญิงสาวเถียงไม่ได้

“แล้วจะเอายังไง” เธอถาม พลางมองโทรศัพท์อย่างคิดว่าควรตามใครมาช่วยเหลือดีไหม แต่หน้าจอก็ปรากฏเตือนว่าเหลือแบตเตอร์รี่ไม่ถึง 10% ซึ่งเป็นผลจากการเปิดแฟลชทิ้งไว้เกือบชั่วโมง

“พี่จะเดินไปข้างหน้า อาจจะพอเจอคนบ้าง รุ้งจะรอในรถหรือไปด้วยกัน”

คำถามของเขาทำให้เธอเงยหน้าจากโทรศัพท์ ไม่ต้องลังเลเลย สองข้างเป็นสวน ทั้งมืดทั้งเปลี่ยว ถ้าเกิดนั่งคอยในรถ แล้วมีแก๊งอันธพาลผ่านมา ทุบกระจก ลากเธอลงไปทำมิดีมิร้าย เธอมิต้องตายทั้งเป็นอยู่ข้างทางหรอกหรือ ไม่เอาหรอก เธอไม่เสี่ยงเป็นเป้านิ่งของใครแน่

“ไปด้วย” เธอตอบ ก่อนเดินไปเอาของมีค่าออกมา ชายหนุ่มล็อครถ แล้วทั้งคู่ก็เดินเคียงกันไปเรื่อยๆ ไม่ถึงร้อยเมตร ก็ปรากฏแสงสว่างหลังเงาไม้ใหญ่ แล้วป้ายที่เขียนว่า ‘บังกะโลชายลม’ ก็ปรากฏแก่สายตา

“รอดตายแล้ว” เขาร้องออกมาอย่างยินดี ก่อนเดินนำเธอเข้าไปด้านใน

พื้นที่เล็กๆ ด้านหน้าจัดเป็นสวนดอกไม้ แม้ไม่สวยงามเท่ารีสอร์ทหรูแต่ก็ดูออกว่าตั้งใจจัดแต่ง ไฟสีส้มนวลตาสว่างออกมาจากอาคารไม้ชั้นเดียวที่หลังคาไม้ระแนงด้านหน้าประดับด้วยไม้เลื้อย พื้นด้านในเป็นปูนเปลือย ส่วนผนังทาด้วยสีเปลือกไข่ ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง จนเหนือฟ้ารู้สึกผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว

ทันทีที่ก้าวเข้าไป พนักงานชายวัยกลางคนที่เอนหลังอยู่หน้าโทรทัศน์ก็รีบลุกมาต้อนรับ ชินชนะรีบบอกความต้องการของตัวเอง...รถยางแบน ขอคนไปช่วยจัดการ อีกฝ่ายก็กุลีกุจอโทรศัพท์ตามช่างที่รู้จักให้มาช่วยดูแล

“ช่างบอกว่าจะมาดูให้นะครับ แต่อาจดึกหน่อย เพราะตอนนี้ต้องพาเมียไปหาหมอ เมียกำลังจะคลอดน่ะครับ”

“กำลังจะคลอดเลยเหรอครับ... แล้วแถวนี้ไม่มีช่างคนอื่นเลยเหรอ คนที่พอเปลี่ยนยางเป็นก็ได้”

“ไม่มีหรอกครับ นอกจากผมก็มีพนักงานอีกสองสามคน เป็นผู้หญิง ไม่ถนัดเรื่องพวกนี้”

ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ยามเหลือบมองหญิงสาวข้างกาย หน้าเธอมันย่อง คงเพราะตะล่อนอยู่กับเขามาครึ่งวัน ด้วยความเป็นห่วง เขาจึงหันกลับไปถามพนักงานคนเดิมที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์

“มีห้องว่างไหมครับ”

เหนือฟ้าที่กำลังกวาดตาสำรวจไปเรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้ง มองเขาทันทีอย่างไม่ไว้ใจ “คุณถามทำไม”

“ก็ต้องรอนาน พี่อยากให้รุ้งได้พักผ่อน พี่เองก็อยากอาบน้ำเหมือนกัน ตัวมอมไปหมดแล้ว”

เชื่อก็โง่สิ... หญิงสาวคิด สถานการณ์ทุกอย่างเหมือนจัดฉากไว้ ใครเคยดูละครหลังข่าวต้องเดาได้ หลงทาง รถเสีย เจอกระท่อมร้างกลางป่า หมายถึงบังกะโลกลางสวนนั่นแหละ...

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เข้าไปอาบ ฉันจะนั่งรอแถวนี้”

ชินชนะส่ายหน้า เหมือนระอาเด็กดื้อ แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยอะไร พนักงานซึ่งตั้งท่าจะจดบางอย่างใส่สมุด ก็สะบัดปากกาหมึกซึมในมือ หวังกระตุ้นให้หมึกไหล แต่น้ำหมึกกลับกระเด็นออกไปใส่หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้น พอดิบพอดีอย่างกับฝึกมา ไม่ใช่แค่เสื้อสีขาวที่เปื้อน แต่คราบสีน้ำเงินเป็นทางยาวยังเปรอะไปถึงใบหน้า ราวกับมีคนกดปุ่มหยุดเวลา ทุกคนนิ่งงัน ก่อนที่เจ้าของปากกาจะละล่ำละลัก

“ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ครับ ขอโทษนะครับ ขอโทษ ไปล้างหน้าก่อนดีกว่าครับ เชิญทางนี้ครับ... เออ เอ๊ย ห้องน้ำท่อตันนี่หว่า เอาไงดี”

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เปิดห้องให้เรา... สองห้อง รุ้งคงไม่อยากให้หน้าเปื้อนอยู่ทั้งคืนหรอกใช่ไหม”

ประโยคหลังเขาหันมาถาม แต่เหนือฟ้าก็ไม่ไว้ใจ แผนหรือเปล่า มันจะบังเอิญเกินไปไหม... เธอคิดอย่างระแวงปนหงุดหงิด นี่ถ้าพนักงานบอกว่าเหลือห้องว่างห้องเดียวล่ะก็ เธอจะอาละวาดให้บังกะโลแตกเลยคอยดู



อย่างน้อยเธอกับเขาก็ไม่ได้นอนห้องเดียวกัน

แม้จะเป็นบังกะโลหลังเดียวกัน แต่ห้องที่อยู่ห่างกันโดยมีโถงเล็กๆ ขวางกั้น ก็ทำให้หญิงสาวคิดด้วยความโล่งใจ…แบบหัวใจมันโล่งๆ โหวงๆ อธิบายไม่ถูก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่ดีใจเท่าที่ควร สงสัยจะเป็นเพราะวันนี้เธอเหนื่อยมาก

เกี่ยวไม่เกี่ยวหรือเปล่าไม่รู้ แต่เหนือฟ้าก็อ้างกับตัวเองเช่นนั้นพลางกวาดตาสำรวจรอบตัว ห้องเล็กๆ ที่เปิดประตูมาเจอเตียง ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากมาย ข้างเตียงเป็นหน้าต่างที่ปิดม่านไว้ ถึงไม่ได้หรูหรา แต่ก็ดูสะอาดใช้ได้ เธอพยักหน้ากับตัวเองด้วยความพอใจ ตั้งใจจะไปล้างหน้าที่เลอะเทอะและเนื้อตัวที่เหนียวเหนอะ แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียง....

‘ตะ ตะ ตะ ตั๊บแก....ตั๊บแก...ตั๊บแก’

แค่ ‘ตั๊บ’ แรกก็มากพอ นี่มาถึงสาม ‘ตั๊บ’ …ชัดเลยงานนี้ เออีสาวคนเก่งถึงกับตัวแข็งทื่อ ก่อนหันช้าๆ ไปยังต้นเสียงที่อยู่ใกล้ บนผนังด้านหนึ่งเหนือหน้าต่าง ลำตัวที่โผล่พ้นจากชายม่านทำให้เธอขนลุกซู่

‘ตั๊บแก... ตั๊บแก’ เสียงร้องเดิมดังซ้ำอีก ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น หญิงสาวที่กลัวตุ๊กแกจับจิตจับใจกรีดร้องเสียงหลงแล้ววิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องทันที

“รุ้ง!!! เป็นอะไร” ชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงเอะอะรีบออกมาจากห้องฝั่งตรงข้าม ก่อนถามด้วยความตกใจ “มีอะไร”

“ตุ๊กแก...ตุ๊กแก ห้องรุ้งมีตุ๊กแก”

หญิงสาวที่เกาะหลังเขาแน่นร้องบอกอย่างลืมตัว เมื่อความกลัวเข้าครอบงำ ทิฐิมานะก็กระเจิดกระเจิง

“เดี๋ยวพี่ไปไล่ให้ รุ้งไปหลบในห้องพี่ก่อน” เขาว่าอย่างมาดแมน ซึ่งเหนือฟ้าก็ทำตามอย่างรวดเร็ว เธอวิ่งปรู๊ดแล้วกระโดดขึ้นเตียงของเขา ชายหนุ่มหายไปพักใหญ่ โดยมีเธอรอคอยอย่างลุ้นระทึก

“เป็นไงบ้างคะ มันไปหรือเปล่า” เธอตะโกนถามเสียงสั่น ในจังหวะเดียวกับที่เขาเดินกลับมาหาพอดี

“ไปแล้ว” เขาตอบสั้นๆ ก่อนหันไปล็อคประตู วินาทีนั้นเองที่เหนือฟ้าตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ สายตาคมที่จ้องมองมาเหมือนหมาป่ากำลังจะตะครุบเหยื่อ ทำให้เธอรู้ทันทีว่าได้พลาดท่าเสียแล้ว

“คุณ... ทั้งหมดนี่แผนของคุณใช่ไหม ทั้งหมดเลย คุณวางแผนไว้ใช่ไหม ตั้งแต่หลงทาง รถยางแบน แล้วก็ อ๋อ เรื่องไฟฉายด้วยสิ คุณจงใจทำให้โทรศัพท์ฉันแบตฯ หมด แล้วก็มาเรื่องห้อง เรื่องหมึกบนหน้าฉัน แล้วก็...ตุ๊กแกนั่น ทั้งหมดเลย คุณวางแผนเอาไว้หมดเลย”

เหนือฟ้าร้องโวยตามที่สงสัยมาตั้งแต่ต้น แทนที่ชายหนุ่มจะตกใจที่เธอรู้ทัน เขากลับยิ้มกริ่ม เยื่องย่างมาใกล้พร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์ “รุ้งเก่งจริงๆ รู้ใจพี่ไปหมดทุกอย่าง อย่างนี้ต้องมีรางวัลให้ซะแล้ว”

“หยุดเดี๋ยวนี้เลย หยุดอยู่ตรงนั้นเลย ถ้าคุณก้าวมาอีกก้าวเดียว ฉันจะ...ร้องให้คนช่วย”

“ถ้าพี่หลอกรุ้งมาได้ขนาดนี้ พี่ก็คงไม่ยอมให้ใครมาช่วยรุ้งง่ายๆ หรอก”

คำตอบของเขาทำให้เหนือฟ้าอ้าปากค้าง ก่อนจะละล่ำละลักเสียงสั่น “นี่คุณ....คุณต้องการอะไร ลงทุนขนาดนี้ทำไม หรือว่าคุณจะปล้ำฉัน ไม่ได้นะ ถ้าคุณปล้ำฉัน ฉันจะแจ้งความ ฉันจะให้เรื่องถึงศาล จะฟ้องคุณจนหมดตัว คุณจะเสียชื่อเสียง วงศ์ตระกูลของคุณจะเสื่อมเสีย ฉันจะประจานคุณลงเนท เอาให้คุณยืนอยู่ในสังคมไม่ได้อีกเลย อย่าเข้ามานะ”

“ไปกันใหญ่แล้วรุ้ง พี่ไม่ได้คิดจะปล้ำรุ้งสักหน่อย ที่ทำทั้งหมด ก็เพราะอยากจะคุยกับรุ้งให้รู้เรื่อง”

“คุยอะไร ลงทุนทำขนาดนี้ แค่ต้องการจะคุยเนี่ยนะ อมพระมาพูดฉันก็ไม่เชื่อ ถอยไปเลย” ประโยคหลังว่าจบก็คว้าหมอนบนเตียงมาปาใส่ พอเขาชะงักไป เธอก็ฉวยโอกาสนั้นเผ่นหนีไปยังห้องน้ำ ปิดประตูฉับก็หอบฮักเพราะความตื่นเต้น ยกมือขึ้นจับเหนืออกด้านซ้ายของตัวเองก็พบว่าข้างในเต้นแรงมาก คนอื่นอาจหาว่าเธอโวยวายเกินเหตุ แต่ถ้าใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอกว่ามันน่ากลัวเพียงใด

ไม่ได้กลัวเขาเข้าใกล้ แต่กลัวหัวใจตัวเองต่างหาก

หญิงสาวสูดลมหายใจยาวๆ เพื่อสงบอารมณ์ พยายามเรียกสติกลับคืนเพื่อหาทางออก แต่เมื่อเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก เธอก็พบว่าอย่างแรกที่ควรทำคือล้างหน้าเอาคราบหมึกออกไป คิดอย่างนั้นก็เปิดก๊อก วักน้ำชำระรอยเปื้อน นี่ถ้าเธอเป็นสิวขึ้นมาเพราะน้ำหมึกนั่น เขาจะต้องชดใช้อย่างสาสม

หมายมั่นอย่างเคืองแค้นก็เงยหน้าขึ้นมาสำรวจใบหน้าตัวเอง แต่บางอย่างที่วูบไหวในกระจกเงา... บนประตูไม้สีดำด้านหลัง ก็ทำให้เธอชะงักอีกครั้ง

“หึ เล่นมุกเดิมเหรอ คิดว่าฉันจะหลงกลซ้ำสองหรือไง” เธอว่าอย่างหงุดหงิดแล้วก็ไม่ใส่ใจ จน ‘มัน’ ร้องทัก

‘ตั๊บแก.... ตั๊บแก’

แหม เอาซะเสียงเหมือนเลยนะ อัดเอาไว้ใช่ไหมล่ะ เหนือฟ้าว่าพลางหันไปมอง จ้องดูสัตว์เลื้อยคลานสี่ขาที่เกาะอยู่บนประตู นอกจากจะทำเสียงเหมือน ลายพร้อยบนหลังหยุ่นๆ นั่นก็ให้ความสยดสยองเหมือนของจริง หญิงสาวเพ่งพิจเพื่อดูว่ามีรอยต่อของพลาสติกอยู่ตรงไหน พอดีกับที่ ‘ตุ๊กตายาง’ เคลื่อนไหว สายตาวาวสีแดงฉานชำเลืองมาทางเธอเขม็ง

!!!



“กรี๊ด.... กรี๊ด........”

เสียงกรีดร้องเหมือนตัวร้ายในละครหลังข่าวดังขึ้นหลังบานประตู ชินชนะลูบคางอย่างใช้ความคิด นี่เธอคิดแผนเอาคืนเขาได้ไวเกินไปไหม เขามองบานไม้อย่างชั่งใจ แต่เมื่อเสียงร้องของเธอยังดังต่อเนื่อง เขาก็อดไม่ได้ที่จะร้องถาม “เป็นอะไรรุ้ง”

“ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วย!!!”

เสียงนั้นตระหนกเกินกว่าจะแกล้ง แต่...ก็วางใจไม่ได้หรอก เพราะเขาเองก็แสดงเก่งทั้งที่ไม่เคยเรียนแอคติ้งมาก่อน เขายังคงนิ่งอยู่จนเธอร้องซ้ำ “พี่หนึ่ง ช่วยด้วย!!!”

แค่นั้นแหละชายหนุ่มก็วางความคลางแคลงทั้งหมดลง แค่ชื่อ ‘พี่หนึ่ง’ ที่ออกจากปาก เขาก็ยอมติดกับทุกอย่าง ชายหนุ่มลองกระแทกประตูสองสามครั้ง แต่เสียงกรีดร้องของเธอก็ยิ่งดังขึ้น สุดท้ายเขาก็ต้องวิ่งไปที่ห้องเก่าของเธอ เพราะบังกะโลหนึ่งหลังมีห้องน้ำห้องเดียว ดังนั้นจึงมีประตูสองฝั่งเพื่อความสะดวก

“รุ้ง!! เกิดอะไรขึ้น” เขาร้องถามด้วยความตระหนก เมื่อเห็นร่างบางยืนตัวสั่นอยู่บริเวณที่อาบน้ำ ในมือถือฝักบัว ยิงกระสุนน้ำไปที่พื้น เขามองตาม... เห็นตุ๊กแกตัวเขื่องปรากฏ คิดในใจว่าของปลอมตัวเดียวที่สั่งมา เขาก็โยนทิ้งไปแล้ว แล้วตัวนี้โผล่มาอีกได้ยังไง แต่พอมันขยับเท่านั้น เขาถึงกับอุทานด้วยความตกใจ

“เอ๊ย!! ตัวจริงนี่หว่า” โดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มก็ก้าวพรวดไปสมทบกับหญิงสาว สองมืออ้อมจากด้านหลังไปช่วยกำฝักบัว กระหน่ำสายน้ำไล่ตุ๊กแกดวงซวย... นอนอยู่ดีๆ ก็ถูกปลุกด้วยเสียงกรี๊ด แถมที่นอนยังโดนกระแทกจนตัวหล่นตุ๊บลงมาที่พื้น ไม่ทันไรก็ถูกฉีดน้ำขับไล่ จะหนีไปไหนก็เจอแอ่งน้ำเจิ่งนอง... เจ้าสี่ขาคงคิดอย่างนั้นพลางคลานขึ้นผนังแล้วเผ่นหนีออกจากห้องตามประตูที่เปิดอยู่

เมื่อแน่ใจว่า ‘ข้าศึกตัวร้าย’ จะไม่ย้อนกลับมา ขุนพลทั้งสองก็ผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอก แต่เพราะความตื่นตระหนกยังคงอยู่ ทำให้ร่างบางสะท้านไหวเพราะแรงหอบ เนื้อตัวเปียกปอนเช่นเดียวกับชายหนุ่มซึ่งยืนหายใจถี่อยู่ด้านหลัง

โดยไม่รู้ตัว เสียงหายใจรัวเร็วเกือบดังเป็นจังหวะเดียวกัน แล้วหญิงสาวก็ตระหนักว่า แผ่นหลังของเธอกำลังพิงซบกับแผ่นอกกำยำของเขา ลมหายใจร้อนเร่ากำลังรินรดบนลำคอที่เปล่าเปลือย ปลายจมูกโด่งโน้มลงโลมไล้เนื้อนวลอย่างแผ่วเบา

สัมผัสรุกเร้าปลุกไฟเสน่หา เพียงพริบตาเพลิงผลาญทลายกำแพงมั่น หัวใจอ่อนยวบ เพลิงสวาดสุดกลั้น หรือหัวใจจะสั่น จะเสียท่าให้เขาในคราวนี้

เหนือฟ้าเอ๋ยเหนือฟ้า คืนนี้เธอจะรอดไหมเนี่ย




------------------------
หายไปนานนนนน สำหรับเทศกาลหยุดยาว
วันนี้มาต่อแล้วนะค้าาาาา หวังว่าจะยังไม่ลืมกันนะคะ

คุณพันธุ์แตงกวา : ทำเอาอยากกินซาลาเปาเลยค้าา 5555
คุณภาวิน : เค้าก็ชอบเหมือนกันค้าาา อยากได้ๆ
คุณSukhumvit : แน่นอนค้าาา แต่ไม่รู้ว่าจะมาระลึกหรือระทึกกันแน่
คุณ Sai : งั้นฝากเชียร์นายท็อปด้วยนะคะ
คุณดังปัณณ์ : ท็อปเค้าน่ารักใช่ม้าาา 5555 ขอบคุณนะค้าาา
คุณ Ohlala : คุณชินชนะเค้ามีแผนตลอดค้าาา แต่ไม่รู้ว่างานนี้จะออกหัวหรือก้อยน้า
คุณ kaelek : ตอนที่แล้วแค่ออร์เดิร์ฟ ตอนนี้เจ้าเล่ห์ของแท้ค้า
คุณปริยาธร : ขอบคุณค้า
คุณเดิมเดิม : แต่ไม่รู้ว่าเจ้านายจะสนใจหรือเปล่า T^T

ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านนะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ด้วย ขอให้สนุกกับนิยายเค้าน้าาา









ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.ค. 2556, 19:40:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.ค. 2556, 19:40:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 1572





<< บทที่ สิบหก : ลักพาตัว!?!   บทที่ สิบแปด : พังหมด (จบ) >>
ดังปัณณ์ 24 ก.ค. 2556, 19:49:15 น.
เอ้อ หนูรุ้งจะรอดมั้ยน้อ 555+ อร๊ายยยยยยยยยย คุณชินชนะ ไหนกลัวตุ๊กแกเหมือนกันไงเล้า!


เดิมเดิม 24 ก.ค. 2556, 20:27:23 น.
อยากถามเหมือนชื่อตอน ติดตามต่อไปค่ะ


พันธุ์แตงกวา 24 ก.ค. 2556, 20:42:29 น.
ทั้งขำทั้งหมั่นไส้ตาคุณชิน ลงทุนทั้งฉากแสงสีเสียง เล่นเองเขียนบทเองกำกับเองด้วยสงสัยจะได้ออสก้าก็งานนี้ละ
อ้าย! ยายเหนือ อย่าแพ้ทางเค้านะ


Sukhumvit66 24 ก.ค. 2556, 20:42:54 น.
ไม่รอด ไม่รอด ไม่รอด ขอหวานๆสักฉากนะคร้าาา


OhLaLa 24 ก.ค. 2556, 20:46:20 น.
คุณชินชนะ พ่อคนซื่อ กล้าพูด คิดเจ้าเล่ห์ไม่เป็นน้อยไปสิ ชิส์
ตัดจบได้ค้าง รออ่านตอนต่อไปค่ะ


ใบบัวน่ารัก 24 ก.ค. 2556, 21:15:48 น.
น่ากลัวมากเจ้าสัตว์ประหลาด


kaelek 24 ก.ค. 2556, 21:34:53 น.
อร๊ายย!! คุณชินนี่เจ้าเล่ห์ตัวพ่อจริงๆ หนูเหนือระวังตัว ระวังใจด้วยนะ


pkka 24 ก.ค. 2556, 22:11:55 น.
เฮ่ยย


phakarat 24 ก.ค. 2556, 22:28:49 น.


wind 25 ก.ค. 2556, 02:30:02 น.
คุณชินกลัวตุ๊กแก 5555


ภาวิน 25 ก.ค. 2556, 04:45:51 น.
ตื่นเต้นตกใจอยู่ดีๆก็จบแบบหวิวๆซะงั้น


sai 25 ก.ค. 2556, 12:49:58 น.
เจ้าเล่ห์เกินไปแล้วนะนายชินชนะ รุ้งสู้ๆ แต่ทำนุทัพถ้ารุ้งไม่รักซบอกเค้าก็ได้นะคร้า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account