หนึ่งรักเหนือรุ้ง
เหนือฟ้า.... เออีสาวแสนสวยแห่งบริษัทโฆษณาปั้นคิด พยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ หลังโดนคุณป้ามหาประลัยตามราวีทุกวัน ร้อยเล่ห์มารยาถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ทว่า... เิงินก้อนโตที่เธอควรจะได้รับ กลับถูกใครบางคนขัดขวาง แถมจองล้างจองผลาญไม่ยอมให้เธอไปจากบ้านของเขา

แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเขาเป็นทั้งเจ้านาย และอดีตพี่ชายที่เคยทำให้เธออกหัก การแข่งขันเพื่อชิงชัยแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มต้นขึ้น

งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะแพ้ใจตัวเองก่อน มาร่วมลุ้นกัน ^^


Tags: เหนือฟ้า , เพลงรัก , ชินชนะ , รัก , กุ๊กกิ๊ก

ตอน: บทที่ สิบแปด : พังหมด (จบ)

ภายในบ้านสองชั้นกลางซอยลาดพร้าว หญิงสาวร่างอวบในเสื้อยืดใส่นอนนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บนเตียง มือก็จดอะไรหยุกหยิกลงสมุดเล่มใหญ่ที่วางไว้บนหมอน ปากก็พึมพำอย่างคนที่ใช้ความคิด

“ยังไม่นอนอีกเหรอพี่มุก” เสียงที่ดังขึ้นทำให้เธอสะดุ้ง ก่อนที่มุกมาลาจะเงยหน้ามองน้องชายที่ยืนกอดอกพิงกรอบประตู บ่นอย่างไม่จริงจังนัก

“มาไม่ให้สุ่มให้เสียง ตกใจหมด”

ทำนุทัพไม่ได้สนใจคำต่อว่า หากแต่เธอเข้ามาหย่อนก้นลงใกล้พี่สาว “ทำไรอยู่” เขาถาม สายตาก็มองไปบนหน้ากระดาษอย่างถือวิสาสะ “นี่อะไรเนี่ย”

“พี่กำลังทำแผนภูมิความสัมพันธ์ของคุณเหนือ คุณชินชนะเจ้านายคุณเหนือ น้องชายคุณชินชนะ คุณหนึ่ง แล้วก็น้องอิงอยู่น่ะ บอกตามตรงนะ พี่ว่ามันมีอะไรแปลกๆ”

“ผมก็ว่าแปลก... ถึงขนาดลงทุนทำแผนภูมิ แปลกมาก”

“นี่!?! อย่ามาว่าพี่นะ ก็พี่สงสัยจริงๆ นี่ มันมีอะไรซับซ้อนกว่าที่เราเห็น พี่รู้สึกได้”

น้องชายส่ายหน้าเมื่อเห็นพี่สาวทำหน้าจริงจัง “ผู้หญิงนี่แปลกจริงๆ” เขาเอ่ยอย่างนั้น ก่อนนึกถึงผู้หญิงอีกคนที่ไม่เหมือนคนอื่น “น้องอิงอะไรนั่นก็แปลก หน้าตาก็น่ารักดี แต่นิสัย... ไม่รู้เจ้านายพี่มุกทนได้ยังไง เป็นผมนะ…”

“หยุดเลย เป็นผู้ชายห้ามนินทาผู้หญิง ยังไงน้องอิงก็เป็นเหมือนน้องสาวของคุณหนึ่ง การที่คุณหนึ่งตามใจ ยอมนั่งรถน้องอิงเพื่อไปส่งน้องอิงที่บ้าน พี่ว่าก็เหมาะสมแล้ว คุณหนึ่งเป็นคนใจดี ไม่เหมือนเรา”

“เออ เข้าข้างกันเข้าไป เห็นผู้ชายดีกว่าน้องนุ่ง ผู้หญิงนะผู้หญิง...” เอ่ยอย่างนั้นก็นึกถึงผู้หญิงอีกคน สาวผมทองที่นั่งรถตู้ของมาวินกลับจากระยองพร้อมกับเขา “สรุปผู้หญิงทุกคนแปลก ยกเว้นคุณเหนือ”

“พี่เหนือก็แปลก จะไปก็ไม่บอก โทรศัพท์ไปก็ไม่รับ”

“เออ สรุปว่าทุกคนก็แปลก เหลือเราคนเดียวที่ปกติ... งั้นก็กลับห้องเราไปเลย คนแปลกจะนอนแล้ว”

“อ้าว!! ไม่ทำแผนภูมิแล้วเหรอ”

“ทำไปก็ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ทั้งหมดอยู่ดี ปวดหัว นอนดีกว่า”

พี่ว่าแล้วก็เก็บของ ทำท่าจะทรุดตัวลงนอน น้องชายจึงต้องลุกขึ้น เหลือบมองสมุดบนหัวเตียงเล็กน้อยตอนหันไปกล่าวราตรีสวัสดิ์ ปิดไฟแล้วก้าวออกมาพลางคิดว่า

ถ้าผู้หญิงทั้งโลกจะแปลกประหลาดเข้าใจยากอย่างนี้ ชาตินี้เขาจะมีแฟนกับเขาไหมเนี่ย



แสงสีทองของวันใหม่ ลอดผ่านม่านหน้าต่างบนหัวเตียงเข้ามากระทบเสี้ยวหน้าของหญิงสาวที่นอนตะแคงข้างใต้ผ้าห่มสีขาว เจ้าของใบหน้ารูปหัวใจที่ถูกล้อมกรอบด้วยเรือนผมดกดำยังคงหลับสนิท ยามที่เธอไม่ได้ตื่นมาจ้องมองเขาด้วยสายตาชิงชัง เธอก็เหมือนเด็กหญิงตัวน้อยที่เคยเอนกายหลับใหลอิงไหล่พี่ชายยามเหนื่อยล้า

ชายหนุ่มที่นั่งกอดอกบนเก้าอี้ไม้ข้างเตียง มองดวงหน้าที่คุ้นตาอย่างไม่รู้เบื่อ แพขนตางอนยาว จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง ทุกอย่างที่เป็นเธอ คือทุกอย่างที่ทำให้เขามีความสุข เขาลงทุนวางแผนทุกอย่างก็เพื่อช่วงเวลาแบบนี้ ตั้งแต่พาอิงตะวันมาที่นี่ เพื่อดึงเหนือฟ้าให้ออกมาด้วยกัน ขับรถวนจนย่ำค่ำ แล้วก็ให้ ‘พวก’ ของเขา วางตะปูเรือใบเอาไว้บนถนน รถยางแบนก็ประวิงเวลาให้มืดลง แล้วก็พาเดินไปบังกะโลที่เขานัดแนะกับเจ้าของเอาไว้ บอกคุณลุงให้ทำหมึกหกใส่ เตรียมตุ๊กแกปลอมเพราะรู้ว่าเธอกลัวจับใจ คิดว่ายังไงก็ต้องได้ใกล้ชิดแน่ แม้จะผิดแผนอยู่บ้างตรงตุ๊กแกตัวจริงโผล่มา แต่ว่า... เขาก็ได้ใกล้ชิดเธอตามที่หวังอยู่ดี

ไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไร จากน้องสาวที่เขารักและเอ็นดู เปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่เขาฝันใฝ่และปรารถนาจะอยู่เคียงใกล้ ความรู้สึกที่มากกว่าค่อยๆ ก่อตัวขึ้น อาจจะเริ่ม... เพราะเรื่องวันนั้น

วันที่เธอหันหลังให้เขา ปิดประตูทุกบาน ตัดขาดทุกทาง ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พบเจอ เขาถึงได้รู้ว่าชีวิตที่ไม่มีน้องสาวตัวน้อยคอยตามมาวุ่นวาย คือชีวิตที่ปราศจากความหมาย… สี่ปีที่เขาไปอยู่อเมริกา คือสี่ปีที่ความรู้สึกเริ่มชัดเจน ยิ่งได้พบได้คบกับผู้หญิงคนอื่น เขาก็ยิ่งตระหนักว่าไม่มีใครแทนที่เธอได้

เหนือฟ้าไม่ใช่แค่น้องสาวของเขาอีกต่อไป แต่เป็นหญิงสาวที่เขาคิดถึงทุกลมหายใจ

ชินชนะเหม่อคิดไปไกล มารู้สึกตัวก็ตอนที่ ‘ผู้หญิงของเขา’ ค่อยๆ ขยับตัว เปลือกตาที่ปิดสนิทของเธอเปิดปรือขึ้นช้าๆ ก่อนนัยน์เนตรสีนิลจะเคลื่อนตัวมาจับจ้องที่ดวงตาของเขา

อึดใจเท่านั้น เธอก็สะดุ้งพรวด ก้มสำรวจเรือนร่างใต้ผ้าห่มโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าตัวเองยังคงสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงเลสีน้ำตาลอยู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะยกมือลูบหน้าลูบผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง ยามเอ่ยถามเสียงเบา

“คุณ... ตื่นนานแล้วเหรอคะ”

“ไม่ได้นอนเลยต่างหาก” เขาว่า ใบหน้าขาวกระจ่างประดับไปด้วยรอยยิ้ม “ไม่กล้าหลับ กลัวตื่นมาแล้วจะไม่เจอหน้ารุ้ง”

คำตอบของเขา ทำให้พวงแก้มของหญิงสาวที่ระเรื่ออยู่แล้วยิ่งแดงก่ำ น้อยครั้งนักจะได้เห็นเออีสาวสุดมั่นเขินอายเช่นนี้

“รุ้ง... เอิ่ม ฉันจะไปห้องน้ำ” เธอว่าเสียงงึมงำ ตั้งท่าจะก้าวลงจากเตียง แต่ชายหนุ่มก็ไวกว่าด้วยการย้ายที่นั่งมานั่งข้างๆ แล้วเอามือหนึ่งวางคร่อมร่างเอาไว้

“คุณ...”

“รู้ไหม เวลารุ้งแทนตัวเองว่ารุ้ง น่ารักมากเลยนะ เรียกตัวเองว่ารุ้งอีกสิคะ พี่อยากฟัง” ชินชนะเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ทำเอาคนเพิ่งตื่นยิ่งทำตัวไม่ถูก เธอได้แต่พึมพำปฏิเสธเบาๆ

“ไม่เอา...”

“เด็กดื้อ... อย่างนี้ต้องโดนลงโทษ” ชายหนุ่มเอ่ยแล้วยื่นหน้ามาใกล้ เหนือฟ้ารีบผงะถอยด้วยความตกใจ แต่ดวงตาระยิบระยับก็ยังอยู่ห่างเธอไม่ถึงคืบ

“ไหนบอกจะไม่รังแกไง” เธอว่าเสียงค่อย ไม่เหมือนเหนือฟ้าคนเก่า... คงเป็นเพราะการเจอเขาในตอนเช้า สมองทำงานไม่เต็มที่ ทิฐิที่เคยมียังไม่เริ่มสั่งการ

“นี่ก็ไม่ได้รังแกเลยนะ ไม่ได้โดนตัวเลยด้วย” เขาว่า ก่อนเขยิบริมฝีปากมากระซิบใกล้หู “ทั้งๆ ที่อยากต่อเรื่องเมื่อคืนใจจะขาด”

สิ้นคำพูด ใบหน้าของหญิงสาวก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง เธอรีบเม้มปากแน่น กลัวจะโดนเขาฉกฉวย เหมือนที่เมื่อคืน... ‘เกือบ’ ทำสำเร็จ

แล้วภาพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็ปรากฏขึ้นในหัว ภายในห้องน้ำ หลังขับไล่ตุ๊กแกออกไป ท่าทางที่ไม่ได้ตั้งใจจัดวางของเขาในตอนแรก ก็กลายเป็นประคองกอดเธอจากด้านหลังไปโดยปริยาย โดยที่เธอยังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ สัมผัสแผ่วเบาทว่ารุกเร้าก็ขับไล่สติสัมปชัญญะเธอเสียเตลิดเปิดเปิง

หญิงสาวจำได้ถึงไอร้อนในยามนั้น ราวกับร่างกายเป็นน้ำที่กำลังเดือดพล่าน เนื้อตัวสั่นระริกเมื่อเขาพลิกไปเผชิญหน้า และยามริมฝีปากหนาเคลื่อนมาคลอเคลียทั่วนวลแก้ม เธอก็ได้แต่หลับตา รอรับรสหวานวาบหวามอย่างคนที่สูญเสียการควบคุมตัวเองโดยสิ้นเชิง

แต่เดชะบุญ... ก่อนที่จุมพิตแรกในชีวิตจะถูกโจรฉวยโอกาสตักตวงไปโดยไม่ขออนุญาต ตุ๊กแกตัวเดิมก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาเตือนจากนอกห้อง เธอสะดุ้ง สติกลับคืนไวพอๆ กับที่มันหนีหายไป เธอรีบผลักเขาออกห่างทันที

“ผู้ชายก็อย่างนี้”

เธอว่า แล้วยกมือขึ้นหมายจะดันคนบนเตียงให้ถอยหลบอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มมีประสบการณ์มาแล้ว จึงลุกหนีด้วยความว่องไว ส่งผลให้คนที่ออกแรงเต็มที่ ดันอากาศจนหน้าคะมำ

“โอ๊ย คุณชินชนะ” เธอทำเสียงเขียว แล้วเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงอย่างเอาเรื่อง แต่เมื่อเห็นสายตาหวานที่มักทำให้หวั่นไหวจ้องสบลงมา เธอก็กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนอีก จึงเสมองไปทางอื่น

“รุ้งไปอาบน้ำเถอะครับ พี่เตรียมชุดไว้ให้แล้ว อ่อ...รวมถึง...” เขาไม่พูดแต่ทำท่าแถวหน้าอก เหนือฟ้าเลยหน้าแดงอีกรอบ ก่อนร้องตอบ… “ทะลึ่ง”

ชินชนะยิ้มกริ่มอวดลักยิ้มน่ารัก แล้วแกล้งว่า “รู้ว่าจะได้นอนด้วยกันก็เลยเตรียมมาให้ คนรอบคอบก็หาว่าทะลึ่ง อย่างนี้ปล่อยให้ไม่มีใส่น่าจะดีกว่า”

“คุณชินชนะ!!!” เธอตะโกนว่า คว้าหมอนเตรียมจะปาใส่ แต่เขาก็ไม่อยู่รอรับกระสุน รีบออกจากห้องไปทันทีที่เอ่ยจบ ทิ้งให้เหนือฟ้าเผชิญหน้ากับไอร้อนผ่าวที่จู่โจมตั้งแต่ปลายเท้าไล่ลามจนถึงใบหน้า เธอพยายามกล่อมหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำของตัวเอง... นิ่งไว้ นิ่งไว้ อย่าไปหวั่นไหวให้เจ็บซ้ำ แต่หัวใจไม่รักดีก็ไม่ยอมเชื่อฟัง ไพล่ไปคิดถึงเขาอยู่ได้

ผู้ชาย ไว้ใจได้ที่ไหน... เธอบอกตัวเอง แต่ภาพเหตุการณ์หลังจากที่เธอและเขาไปโวยวายเรื่องมีตุ๊กแกในห้องกับลุงผู้ดูแลบังกะโล (ที่ตัวแรกถูกนำมาแปะบนข้างฝาประกอบฉาก แต่ตัวหลัง ของจริงเสียงจริงไม่มีแสตนอิน ไม่ใช้สตั๊น) จนฝ่ายนั้นต้องเปลี่ยนห้องให้ใหม่ เป็นห้องที่ใหญ่กว่าแต่ว่ามีห้องเดียว (ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าห้องพักอื่นเต็มหมด โดยไม่รู้ว่าโกหกอีกหรือเปล่า) เธอที่เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดกับกางเกงเลของคุณลุง ก็หวาดหวั่นว่าชายหนุ่มที่อยู่ในเสื้อผ้าแบบเดียวกันจะล่วงล้ำอธิปไตยของเธอ มือไวใจเร็วยังไม่น่ากลัวเท่ากับเขาเป็นคนเดียวที่สามารถทำให้เธอเคลิบเคลิ้มเผลอไผลไปด้วยได้ แต่ชินชนะก็เหมือนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร จึงให้คำมั่นว่าเขาจะไม่รังแกเธออีก

ตอนแรกเธอก็ไม่ค่อยเชื่อหรอก ได้แต่ข่มตาลงนอนด้วยหัวใจที่ไม่เป็นสุข แต่การที่เขาเลือกจะนั่งหลับบนเก้าอี้ข้างเตียงแทนที่จะทรุดตัวลงบนฟูกผืนเดียวกัน ก็ทำให้เธอค่อยๆ ผ่อนคลาย จนแน่ใจว่าเขาจะไม่ขยับกาย ความเหนื่อยล้าก็ทำให้เธอผล็อยหลับได้โดยง่าย ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในยามเช้าเห็นเขาอยู่ที่เดิม ผ้าปูเตียงข้างๆ ไม่มีรอยยับยู่ เสื้อผ้าของเธอก็อยู่ในที่ที่ควรอยู่ แสดงว่าเมื่อคืนไม่ได้ผ่านศึกหนักใดๆ แปลว่าเขารักษาสัญญาได้

โดยไม่รู้ตัว... ความไว้วางใจที่กำลังกลับเข้ามาสู่หัวใจก็ทำให้เธออมยิ้มกับตัวเอง

หญิงสาวเดินฮัมเพลงไปยังห้องน้ำ มองดูเสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกระโปรงตัวยาวที่เขาเตรียมไว้ให้ก็ถึงกับหลุดขำ นี่เขากะจะห่อผิวพรรณเธอไว้ใต้เสื้อผ้าเฉิ่มเชยพวกนี้หรือ... เธอส่ายหน้า แต่พออาบน้ำเสร็จก็หยิบมันมาสวมใส่ ด้วยความพอใจ ก็คนมันสวย...ใส่อะไรก็สวย

เหนือฟ้าก้าวออกจากห้องน้ำด้วยความเบิกบาน เป็นความสุขใจที่เธอไม่ได้ลิ้มรสมานานหลายปี ก่อนชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มในเสื้อยืดและกางเกงเลตัวเก่ายืนรออยู่แล้ว เขายื่นถ้วยเซรามิกมาให้ กลิ่นหอมของน้ำเต้าหู้ทำให้เธอยิ้มก่อนยื่นมือไปรับ

“ไม่หวานมาก ไม่ใส่เครื่อง”

“จำได้เหรอคะ”

“มีอะไรเกี่ยวกับรุ้งบ้าง ที่พี่จำไม่ได้” เอ่ยจบก็ส่งยิ้มหวานมาให้ เหนือฟ้าไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่คิดในใจ

พัง...พังหมด กำแพงที่เธอเพียรสร้างมากั้นเขาให้ออกห่าง พังหมดไม่เหลือซากแล้ว


((ต่อ))




เหมือนเมฆหมอกแห่งความบาดหมางจะจางไป เมื่อแสงอบอุ่นแห่งความไว้วางใจเริ่มสาดสว่างเข้ามา บรรยากาศในการเดินทางจึงมีแต่ความแช่มชื่น

ชินชนะไม่ได้ตรงกับกรุงเทพฯ ทันที หากขับรถที่ได้รับการเปลี่ยนยางเรียบร้อย พาเหนือฟ้าชมวิวทิวสนที่ปลูกตลอดสองข้างทางบนถนนเลียบชายหาด บริเวณสวนรุกชาติเพ ก่อนจะเข้าไปนมัสการพระพุทธไสยาสน์ประทับท่าตะแคงซ้าย ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ วัดท่าประดู่ในเขตอำเภอเมือง...ทำบุญข้างกัน จะได้เป็นคู่กันตลอดไป

เสร็จภารกิจอิ่มใจเขาก็พาเธอไปอิ่มท้องด้วยอาหารกลางวันง่ายๆ ก่อนแวะซื้อของฝาก โดยหญิงสาวเลือกปลาหมึกกรอบ และกุ้งแห้งไปฝากแม่ ส่วนชายหนุ่มซื้อผลไม้หลายชนิดไปให้มารดา และทุเรียนทอดหลายถุงเผื่อลูกน้องที่ออฟฟิศ

กว่าที่รถยุโรปของเขาจะแล่นเข้ามาจอดในโรงรถข้างบ้านหลังใหญ่ก็เป็นเวลาทุ่มกว่า ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน เหนือฟ้าคงขอลงก่อนรถจะเลี้ยวเข้ารั้วเหล็กสีน้ำเงินเข้ม แล้วเดินเลียบฟุตบาทด้านนอกเพื่อเข้าบ้านตัวเอง แต่ยามนี้เธอกลับนั่งเคียงมากับเขา และยอมให้เขาเดินข้ามรั้วไม้เตี้ยๆ หอบถุงของฝากไปส่งเธอถึงบ้าน ซึ่งต่อให้ถนนซึ่งปูด้วยอิฐตัวหนอนจะค่อนข้างมืด เพราะเจ้าของบ้านหลังข้างหน้าไม่ยอมเปิดไฟระหว่างทางให้ แต่แสงหนึ่งที่กำลังเรืองรองในใจก็ทำให้หญิงสาวยิ้มได้

“ขอบคุณรุ้งมากเลยนะ” ชินชนะเอ่ยเมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง เขายืนอยู่ที่พื้น มองเธอที่อยู่บนระเบียง ห่างกันเพียงสองขั้นบันได เธอหันมามองด้วยความแปลกใจ ก่อนจะตอบด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ

“ขอบคุณที่ฉันไม่เอาเรื่องคุณนะเหรอคะ มันก็น่าอยู่หรอกนะ คุณแต่งเรื่องสารพัด ไหนจะเรื่องอิงตะวัน ไหนจะเรื่องยางแบน นี่ถ้าไม่มีตุ๊กแกตัวจริงนั่น ฉันคงโกรธคุณไปแล้ว แต่พอตุ๊กแกโผล่มา คุณก็แต๋วแตกให้ฉันเห็น ฉันก็เลยไม่อยากเอาเรื่องผู้ชายขี้ป๊อด”

“ก็ถ้าไม่ป๊อด จะได้กอดสาวเหรอ”

“ร้าย…” เธอว่า แต่ทั้งปากและตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณกลับไปได้แล้วล่ะค่ะ ฉันจะเข้าบ้านแล้ว”

“เดี๋ยวสิรุ้ง... พี่ยังมีอีกเรื่องที่ต้องถาม”

“ถามอะไร เรื่องทะลึ่งไม่เอาแล้วนะ”

“ไม่ทะลึ่ง รับรอง แต่หลังเคลียร์เรื่องนี้เสร็จ แล้วจะมีติดเรตบ้าง รุ้งก็ต้องยอมพี่แล้วนะ”

ดูเอาเถิด หยอดได้หยอดดี หยอดกันทั้งวี่ทั้งวัน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้หลุมบ่อในใจเธอเต็มตื้นขึ้นมาได้ยังไง

“รีบว่าเรื่องของคุณมาดีกว่าค่ะ” เธอรีบตัดบท ก่อนเขาจะไถลออกไปไกลกว่านี้ ซึ่งชายหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจัง ยามเอ่ย

“พี่เคยถามไปแล้ว แต่รุ้งไม่ตอบ ตอนนี้พี่คิดว่าถึงเวลาแล้ว พี่อยากรู้ ทำไมรุ้งถึงเย็นชากับพี่นัก เพราะเรื่องวันนั้นที่พัทยาน่ะเหรอ”

เขาเอ่ยถึงแค่นั้นก็ต้องชะงัก เมื่อเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้นมาเสียก่อน ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจปล่อยให้มันดังต่อไป แต่นี่เป็นเสียงที่เขาตั้งไว้เฉพาะคนพิเศษ ไม่รับไม่ได้

“ครับแม่... ผมมาถึงแล้วครับ เดินมาส่งรุ้งที่บ้าน... หรือครับ ได้ครับๆ เดี๋ยวผมจะรีบกลับไป... ไม่หรอกครับ ไม่มีเรื่องอะไร แม่รอแปปเดียวนะครับ…” เขาเอ่ยเสียงหวานกับมารดา ก่อนจะหันกลับมาหาเธอเมื่อวางสาย “แม่โทรมาถามว่าพี่หายไปไหน เห็นรถจอดอยู่... แม่บอกว่าไฟในห้องดับ พี่คงต้องกลับไปช่วยดูให้ เรื่องของเรา...”

“เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันค่ะ เรื่องนี้ต้องใช้เวลา ฉันไม่อยากรีบร้อนตอบ”

“น่าเสียดาย”

“อุตส่าห์วางแผนตั้งเยอะ มีเวลาอยู่ทั้งวันแต่ดันไม่ถาม มาเสียดายตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะค่ะ คุณรีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวคุณจอมจะรอนาน”

เหนือฟ้าทำเป็นไล่ ทั้งที่ในใจก็ยังอยากคุยกับเขาต่อ ชายหนุ่มทำหน้าเศร้า เหมือนเด็กน้อยอดกินขนมหวาน เขายืนนิ่งมองเธออยู่นาน ก่อนจะเอ่ยเบาๆ

“วันนี้พี่เป็นเด็กดีของรุ้งทั้งวันเลย... ขอ Good night kiss เป็นรางวัลหน่อยนะ” เขาว่า แล้วอาศัยความว่องไวก้าวขึ้นมาใกล้ หันแก้มซ้ายลงประกบริมฝีปากของเธอ เหนือฟ้ายังไม่ทันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขาก็เดินยิ้มร่า โบกมือจากไปเสียแล้ว

หัวใจเต้นโครมครามยามยกมือขึ้นลูบริมฝีปากตัวเอง ร้ายจริงๆ ผู้ชายคนนี้ แทนที่จะขโมยหอมแก้มเธอเหมือนในหนัง กลับเป็นฝ่ายบังคับให้เธอรุกเสียได้... อย่างนี้มันน่าจะทาลิปสติกสีสดๆ สีมันจะได้ติดทนที่แก้มเขา ใครเห็นก็จะได้ทักว่าเขาไปทำการอุกอาจกับสาวไหนมา

แล้วเหนือฟ้าก็ส่ายหน้าให้กับความคิดไร้สาระของตัวเอง ก่อนมุมปากจะฉีกยิ้มอย่างเปี่ยมสุข แต่แล้วอยู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ให้ท่าผู้ชาย น่าไม่อาย”

เสียงที่ไม่ได้ยินมานานแล้วดังขึ้นจากเงาไม้ เหนือฟ้าถอนหายใจ... นี่คุณป้ามหาประลัยไม่เบื่อบ้างหรือไง คอยหาเรื่องกันอยู่ได้ หญิงสาวส่ายหน้าอย่างระอา เป็นครั้งแรก...ที่เธอขี้เกียจตอบโต้ อารมณ์ดีๆ ที่เบ่งบานมาตลอดเช้า ไม่ควรหุบเหี่ยวลงเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของคนที่ไม่สำคัญ เธอเลือกที่จะเชิดหน้า ทำเหมือนไม่ได้ยิน แต่เพียงหันหลังเท่านั้น ก็ต้องชะงัก เมื่อบางอย่าง ‘พุ่ง’ เข้าใส่

กระแสน้ำจากปลายสายยางที่กำหนดเป้ามาที่เธอ ทำให้เหนือฟ้าร้องอุทานด้วยความตกใจ ก่อนกระโดดหลบโดยอัตโนมัติ

“ป้าแจ่ม!!! นี่ป้าแจ่มทำอะไรเนี่ย” เธอว่า พลางเอามือปัดป้อง ก่อนจะวิ่งมาปิดก๊อก แล้วหันไปประจันหน้ากับศัตรูตัวฉกาจของตัวเอง “เป็นบ้าไปแล้วหรือไง เอาน้ำมาฉีดทำไม”

“ฉันไม่ได้บ้า แต่กำลังไล่เสนียดจัญไรต่างหาก ตัวซวยอย่างแกก็ต้องโดนอย่างนี้ เมื่อไรจะออกไปจากบ้านนี้สักที หน้าด้านหน้าทนอยู่ได้ ไม่รู้หรือไง ใครๆ ก็เกลียดแกทั้งนั้น”

“คนที่สมควรโดนเกลียด น่าจะเป็นคุณป้าแจ่มมากกว่านะ ทำตัวอย่างกับคนบ้า ขาดความอบอุ่นหรือไง เรียกร้องความสนใจอยู่ได้ นี่ ถ้าเหงานักนะ ก็ไปแอดมิตที่โรงพยาบาลประสาทเลยป่ะ เผื่อหมอเผื่อพยาบาลจะเห็นใจ คอยมาใยดีบ้าง”

เหมือนคำพูดของเหนือฟ้าจะไปกระแทกใจดำ แจ่มกมลจึงหน้าแดงก่ำ ก่อนง้างมือเตรียมจะตบใส่ปากของคนที่ด่าเธอฉอดๆ แต่แล้วแรงที่ส่งออกไป กลับเป็นใบหน้าของหญิงวัยกลางคนอีกคนที่เข้ามารับ

หทัยที่ปราดเข้ามาปกป้องลูกสาวเซไปเพราะแรงปะทะ โชคดีที่เหนือฟ้ารับร่างของแม่ไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงล้มไปกับพื้น

“แม่!!! ป้าแจ่ม นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ”

“รุ้ง พอแล้ว”

“พออะไรแม่ ป้าแจ่มตบหน้าแม่นะ”

“พอ เข้าบ้าน” แม่ที่เดินออกจากบ้านมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ สั่งเสียงเข้มที่สุดเท่าที่เหนือฟ้าเคยได้ยิน ก่อนจะออกแรงลากเธอให้กลับบ้านด้วยกัน

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของแจ่มกมลยังก้องอยู่ในหัว ยามที่แม่ลงกลอนประตู เหนือฟ้าต้องนับหนึ่งถึงสิบเพื่อสงบจิตสงบใจ แต่รอยช้ำเป็นรอยนิ้วบนแก้มแม่ก็ทำให้เธอตัวสั่นด้วยความโกรธ

“รุ้งจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด มันตบหน้าแม่ รุ้งจะแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย รุ้งจะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด”

“รุ้ง!!! ใจเย็นๆ ตั้งสติหน่อย”

“นี่รุ้งไม่มีสติตรงไหน ถ้ารุ้งยับยั้งชั่งใจไม่ได้ รุ้งตบมันคืนไปแล้ว”

“รุ้ง!!! อย่าพูดอย่างนี้”

“มันตบหน้าแม่นะ ถึงมันจะตั้งใจตบรุ้ง แต่มันก็โดนแม่ มันทำร้ายแม่... กี่ครั้งแล้ว กี่ครั้งแล้วที่เราต้องยอมมัน มันทำกับเราเท่าไร วันนี้มันก็ฉีดน้ำใส่รุ้ง แม่เห็นไหม รุ้งยังเปียกอยู่เลย แล้วแม่จะให้รุ้งยอมได้ยังไง ใครดีมาก็ดีไป แต่ใครที่ร้ายมา รุ้งก็ต้องเอาคืน รุ้งไม่ยอม ไม่มีวันยอม” เหนือฟ้าว่าเสียงสั่น เมื่อความอดกลั้นทั้งหมดได้ขาดสะบั้นลงแล้ว ใบหน้าของหญิงสาวแดงจัด มือกำแน่นเพราะเพลิงแค้นที่แน่นอก “รุ้งจะไปแจ้งความ”

“รุ้ง!!” คราวนี้แม่ไม่ได้เรียก แต่ยังเอื้อมมือมาคว้าแขนเธอไว้ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะก้าวออกจากบ้านไปอย่างที่พูด “อย่าทำอะไรทั้งนั้น แม่ขอร้อง”

“แม่!!! ทำไมแม่ถึงเป็นแบบนี้ แม่ยอมได้ยังไง แม่ยอมให้เราถูกรังแกฝ่ายเดียวได้ยังไง เราเป็นคนเหมือนกันนะแม่ นี่มันเกินไปแล้ว แม่เป็นแค่เมียน้อยนะ ไม่ใช่ถังขยะรองรับอารมณ์ใคร แม่ทนได้แต่รุ้งทนไม่ได้ แล้วรุ้งก็จะไม่ทน”

สิ้นเสียงของหญิงสาว ฝ่ามือบางของแม่ก็กระทบเข้าที่ใบหน้า หวังเพียงเรียกคืนสติ แต่วิธีที่ใช้กลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม

เหนือฟ้าชะงักด้วยความตกใจ ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่พักใหญ่ ก่อนน้ำใสจะรินไหลลงจากตา เธอมองแม่ด้วยความเสียใจ สายตาตัดพ้อเพราะเจ็บปวด

“ถ้าแม่อยากทน แม่ก็ทนอยู่ไปคนเดียวเลย รุ้งเกลียดที่นี่ เกลียดทุกคนที่นี่ รุ้งจะไม่อยู่ที่นี่อีกแล้ว”

เธอว่าแล้วสะบัดหน้า คว้ากุญแจรถที่วางอยู่บนชั้นใกล้ๆ ก่อนเผ่นหนีออกไปโดยไม่เหลียวหลัง นั่นเอง ที่ทำให้เธอไม่ได้เห็นร่างของแม่ที่ทรงตัวอยู่เมื่อครู่ ทรุดฮวบไปกองกับพื้น พร้อมกับเสียงสะอื้นที่บาดลึกไปถึงหัวใจ


























------------------------
ต่อจนจบในตอนเดียวเลยละกันนะคะ ^^

คุณดังปัณณ์ : ฮิฮิ เป็นพระเอกก็กลัวเป็นเหมือนกันน้า 5555
คุณเดิมเดิม : เป็นไงค่ะ สรุปว่ารอดหรือไม่รอด 5555
คุณพันธุ์แตงกวา : ไม่แ้พ้ทาง แต่แพ้ใจได้ไหมคะ ^^
คุณSukhumvitt66 : เค้าหวานได้เท่านี้แหละค่ะ แต่หลังๆ จะพยายามเพิ่มน้ำตาลกว่านี้นะคะ
คุณ OhLaLa : มาต่อแล้วค้า เป็นไงบ้างคะคนเจ้าเล่ห์ พอให้อภัยได้ไหมคะอย่างนี้
คุณใบบัวน่ารัก : ถึงเป็นสัตว์ประหลาด แต่ก็เป็นกามเทพนะคะ
คุณ kaelek : นี่ขนาดระวังแล้วนะคะ
คุณ pkka : >__<@
คุณ prakarat : ^^
คุณ Wind : พระเอกขี้ป๊อด ^^
คุณ ภาวิน : กระชากอารมณ์ไปไหมคะ 55555
คุณ sai ; หลงรักหนุ่มเซอร์เสียแล้ว เดี๋ยวคุณชินน้อยใจน่าา

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ขอให้สนุกกับการอ่านค้า




ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ค. 2556, 00:00:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ค. 2556, 16:31:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 1616





<< บทที่ สิบเจ็ด : จะรอดไหมเนี่ย    บทที่ ยี่สิบ : แผน แผน และแผน >>
พันธุ์แตงกวา 26 ก.ค. 2556, 00:04:36 น.
ก๊ากๆๆๆ ตุ๊กแกขโมยซีนซะงั้น ก๊ากๆๆๆๆ


OhLaLa 26 ก.ค. 2556, 01:06:43 น.
คุณชินชนะ สงสัยเป็นเจ้าของโรงงานน้ำตาล ขยันหยอดคำหวานให้รุ้งตล๊อด ตล๊อด
ปล.แม้จะเจ้าเล่ห์ แต่ก็น่ารัก)


ภาวิน 26 ก.ค. 2556, 03:32:32 น.
ตุ๊กแกตัวนี้ ได้ค่าตัวเท่าไรเนี่ย มาได้จังหวะตลอด


ดังปัณณ์ 26 ก.ค. 2556, 08:55:46 น.
แอร๊ยยยยยยยยยยยย ใครก็ด้ายยยยยยย มาจับตุ๊กแกไปกินตับหน่อย 555+ อิตาคุณชิน วางแผนซ้า แอร๊ยยยยยยยย เจ้าเล่ห์ฝุดๆนะตะเอง


Sukhumvit66 26 ก.ค. 2556, 17:28:53 น.
อีกนิีดดดดดดเดียวเอง ฟามลับจะเปิดเผยแล้วอ่ะ ทำไมมมมมมมม!


kaelek 26 ก.ค. 2556, 20:26:56 น.
ชอบอ่ะ พระเอกขีี้ป๊อด!!
ใครก็ได้เอาป้าแจ่มไปเก็บที มาทีไร รุ้งเจ็บตัวตลอด


pkka 26 ก.ค. 2556, 23:26:21 น.
กวนดีแฮะ


พันธุ์แตงกวา 27 ก.ค. 2556, 08:43:07 น.
ป้าแจ่มอ่ะ ฮึ่ม! แต่ตอนนี้ชักสงสัยคุณแม่แล้วเหมือนกัน จะโทรมาถูกจังหวะไปมั้ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account