น้ำผึ้งบ้านไพร # ชุดนางฟ้าจำแลง
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 34.1 “นางงามคนนี้ คนบ้านเดียวกับศุกร์ใช่ไหม เขาสวยเก๋ดีนะ”
34.
แม้จะอยากให้กัปตันปรินทร์กลับไปก่อนที่วรรณศุกร์จะมาถึงห้องพักที่ตัวเองนอนรักษาตัวอยู่แต่ภัทรินก็พูดไม่ออก เพราะว่าการมาของเขานั้น มาอย่างมีเหตุผล นั่นก็คือมาในฐานะเจ้านายกับลูกน้องเพราะทำงานอยู่สายการบินเดียวกัน และในฐานะคนเคยรู้จักกันมาเนิ่นนานเพราะเขาเป็นเพื่อนกับภัทระพี่ชายคนโตของเธอ
กับส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาชวนเธอออกไปเดินช็อปปิ้งท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บของกรุงโซล เกาหลีใต้ จึงทำให้พอกลับมาเมืองไทยแล้ว เธอจึงไม่สบายกระทั่งลุกลามกลายเป็นไข้หวัดใหญ่
และประการสุดท้าย ผู้เป็นแม่ของเธอเองก็ชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก แม้เขาจะมีตำหนิตรงที่เป็นพ่อหม้ายเลิกกับภรรยาชาวญี่ปุ่นมีลูกด้วยกันหนึ่งคนโดยให้ลูกอยู่กับภรรยา แม่ก็บอกกับภัทรินว่าใช่ว่าเธอเองจะเป็นสาวน้อยไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกและเขาเองก็ดูเหมือนจะรู้ปัญหาคาราคาซังระหว่างเธอกับวรรณศุกร์ผ่านปากพี่ชายของเธอเป็นอย่างดี...แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมา เพียงแต่การกระทำของเขานั้น บ่งบอกให้เธอรู้ว่าเขาพร้อมจะอ้าแขนรับผู้หญิงมีตำหนิอย่างเธอเหมือนกัน เพียงแต่เธอต้องจบกับวรรณศุกร์ก่อนเท่านั้น
และแม่ก็ดูจะอยากให้เขาอยู่ในห้องเพื่อให้วรรณศุกร์ที่กำลังจะมาถึงนั้นรู้เห็นกับตาว่าลูกสาวของแม่นั้นหาใช่คนที่สิ้นไร้ไม้ตอก หากยังไม่ด่วนตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรกับเธอ ก็เห็นทีว่าแม่จะต้องให้เธอหาโอกาสดี ๆ ให้กับชีวิต...
แม่จึงชวนเขาคุยไม่ได้หยุด...เปิดทางให้เขารู้ว่าแม่นั้นชอบเขา อยากได้กัปตันปรินทร์มาเป็นลูกเขย
เสียงเคาะประตูทำให้ภัทรินที่นอนปรือตาอยู่เปิดเปลือกตาขึ้น...ประตูห้องพักถูกผลักเข้ามาพร้อมกับกลิ่นดอกกุหลาบ...
และเมื่อเห็นว่ามีใครอยู่ในห้องพักบ้าง สีหน้าของวรรณศุกร์ก็เจื่อนลง ก่อนจะเดินไปวางแจกันดอกไม้ไว้ที่โต๊ะใกล้หัวเตียงแล้วยกมือทำความเคารพแม่ของภัทริน และผู้ชายคนหนึ่งซึ่งดูอายุอานามแล้วคงจะวัยเดียวกันกับเขา แต่ว่ามีความภูมิฐาน และสายตาที่มองเขาอย่างพินิจพิจารณานั้น ทำให้เขาต้องยกมือไหว้เขาหลังจากที่ไหว้มารดาภัทรินไปด้วย
และเขาเองถึงแม้จะเข้านอกออกในบ้านของภัทรินได้ แต่เขาก็ไม่เคยค้างที่บ้านของหญิงสาว เพราะถือว่ายังไม่ได้แต่งงานกัน มีแต่ภัทรินเท่านั้นที่มาพักค้างกับเขาที่คอนโดมิเนียมเพราะการทำงานของภัทรินนั้นไม่เป็นเวลาแน่นอนอยู่แล้ว การที่จะหายจากบ้านไปค้างอ้างแรมที่อื่น พ่อกับแม่จึงไม่ถือสาหาความ...
“เป็นอย่างไรบ้างครับภัท” เขายืนอยู่ข้างเตียงพลางมองใบหน้าได้รูปที่บัดนี้ซีดเซียวเพราะไร้สีสันแบบที่เขาคุ้นตา...ภัทรินกระพริบตาปริบ ๆก่อนจะบอกว่า
“ดีขึ้นแล้วค่ะ”
“กินอะไรได้ไหม”
“ยังเจ็บคออยู่เลยค่ะ แล้วก็เหนื่อย เพลีย”
“แล้วหมอจะให้อยู่โรงพยาบาลอีกกี่วันครับ”
“ยังไม่รู้ค่ะ...อ้อ ศุกร์คะ นี่กัปตันปรินทร์ค่ะ พี่กัปตันคะ นี่วรรณศุกร์เพื่อนของภัทค่ะ” เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้แนะนำผู้ชายสองคนให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ ภัทรินจึงต้องรีบฝืนความง่วงทำตัวเป็นคนกลางที่ดี
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณวันศุกร์ ชื่อแปลกดีนะครับ”
“ผมไม่ได้ชื่อวันศุกร์ วันเสาร์หรอกครับ ชื่อผม ออกเสียงว่า วัน นะ ศุกร์ ครับ ว-ร-ร-ณ-ศุ-ก-ร์” วรรณศุกร์สะกดให้ เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจอย่างถูกต้อง
“อย่างไรก็ยังแปลกอยู่ดีนะ ไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้หรอก” กัปตันปรินทร์แสดงทีท่าเป็นกันเอง...
“ชื่อปรินทร์ก็แปลกดีเหมือนกันครับ” วรรณศุกร์ต่อความไปตามมารยาท
“แล้วนี่ศุกร์จะมาอยู่กรุงเทพกี่วันจ๊ะ” แม่ของภัทรินเป็นฝ่ายชวนเขาคุยบ้าง
“ดูอาการภัทก่อนครับ...แล้วนี่ใครเฝ้าไข้ภัทครับ”
“จ้างพยาบาลพิเศษจ้ะ แม่เองก็เฝ้า แต่ก็จะกลับพร้อมกับคุณพ่อ นี่อีกเดี๋ยว พี่ภัทระกับครอบครัวของเขาก็คงมากัน”
“จะมาทำไมกันเยอะแยะก็ไม่รู้” ภัทรินโอดครวญ
“นาน ๆ เราจะเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่มาดูดำดีกัน ได้ไงละลูก” แม่ของภัทรินปรับความเข้าใจของลูกสาวเสียใหม่
“ศุกร์กินข้าวเย็นมาหรือยังคะ” ภัทรินหันไปเอาใจวรรณศุกร์
“ยังเลยครับ แต่ผมยังไม่หิวหรอก”
ช่วงที่วรรณศุกร์ต้องการความเป็นส่วนตัวอยู่กับภัทริน กัปตันปรินทร์นั้นก็เสมองจอโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้พลางชวนคุณแม่ของภัทรินวิพากษ์วิจารณ์...
“ถ้าหิวก็เปิดตู้เย็นนะศุกร์ มีผลไม้ ขนม มีน้ำผลไม้ น้ำดื่ม แม่ซื้อมาแช่ไว้” แม่ของภัทรินหันมาบอกกับเขาอย่างเป็นกันเอง แต่ว่าวรรณศุกร์นั้นไม่ใช่คนกินจุกจิก และอีกอย่างตอนที่อยู่บ้านนั้นแม่และป้าสมานจะเป็นจัดการให้ เขาจึงรับคำไปพร้อมรอยยิ้ม และแม่ของภัทรินก็หันไปคุยกับปรินทร์ต่อ...ทำเหมือนกับว่าในห้องนี้ไม่มีเขานั่งอยู่ด้วย และความอึดอัดใจของวรรณศุกร์ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อครอบครับพี่ชายของภัทรินเปิดประตูเข้ามา...ลูกสาวลูกชายของพี่ชายภัทริน อยู่ในวัยซนจึงกระโดดโลดเต้นไปมา ‘ภัทระ’ พี่ชายของภัทรินนั้นด้วยเป็นเพื่อนกับกัปตันปรินทร์จึงมีเรื่องแต่หนหลังคุยกัน ส่วน ‘นิสากร’ พี่สะใภ้ของภัทรินก็ถือหนังสือนิยายติดมือมาด้วย หลังทักทายปราศรัยพอเป็นพิธีแล้วก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ...
และพอพ่อของภัทรินมาถึง...ด้วยท่านเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หลังจากทักทายเขาแล้ว ท่านก็นั่งมองจอโทรทัศน์พลางเย้าแหย่หลานชายหลานสาวไปบ้าง...วรรณศุกร์รู้สึกว่าในห้องนั้นเขาเป็นคนแปลกหน้า...
“ภัท เดี๋ยวผมขอออกไปโทรศัพท์หาคุณแม่หน่อยนะ” วรรณศุกร์บอกภัทรินแล้วก็ลุกขึ้นยืน เดินไปเปิดประตูห้องยังไม่ทันจะหับ เขาก็เขาก็ได้ยินแม่ของภัทรินที่ดูโทรทัศน์อยู่พูดว่า
“นางงามคนนี้ คนบ้านเดียวกับศุกร์ใช่ไหม เขาสวยเก๋ดีนะ”
วรรณศุกร์หันไปมองจอโทรทัศน์เป็นโฆษณาแชมพูผสมครีมนวดผมที่มีน้ำผึ้งเป็นพรีเซนเตอร์...
คุยกับแม่ยังไม่ทันเสร็จเรียบร้อยก็มีสายเรียกเข้าจากพิชญา...
“สวัสดีครับติ๋ว...”
“เมื่อกี้ติ๋วโทรหาผึ้ง ผึ้งบอกว่าพี่วันศุกร์มากรุงเทพ”
“มีอะไรหรือ”
“พอดีติ๋วโทรไปชวนผึ้งทานข้าวเย็นค่ะ เลยจะชวนพี่ร่วมวงด้วย ติ๋วเลี้ยงเองค่ะ”
“ที่ไหนเหรอครับ”
“ห้องอาหารของโรงแรมที่ผึ้งพักอยู่เลยค่ะ พี่จะมาหาผึ้งอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ อยากให้มาเร็วขึ้นหน่อย จะได้หิ้วท้องรอ”
“น่าจะได้นะ อีกสักครึ่งชั่วโมงคงถึง”
วางสายจากพิชญาแล้ววรรณศุกร์ก็เลือกที่จะโทรศัพท์เข้าเบอร์ของภัทรินเพราะว่าไม่อยากกลับเข้าไปเจอสายตาของคนในครอบครัวของภัทรินอีก
“เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะภัท”
“จะไปไหนเหรอคะ” น้ำเสียงของภัทรินห้วนสั้นขึ้นมาทันที น้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมาเพราะความน้อยใจที่เขาไม่ให้ความสำคัญกับเธอ เห็นคนอื่นดีกว่าเธอแน่ ๆ แต่ภัทรินยังไม่รู้เท่านั้นเองว่าเป็นใคร
“พอดีติ๋วชวนผมไปกินข้าวเย็นนะ”
“ที่ไหนคะ”
“เอ่อ...ห้างใกล้ๆ โรงพยาบาลนี่แหละ” เขาไม่กล้าบอกกับภัทรินไปหรอกว่าเป็นห้องอาหารในแรมที่น้ำผึ้งพักอยู่เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ภัทรินจะต้องคิดมากจนกระทั่งมีปัญหากันขึ้นมาอีก
“แต่เดี๋ยวกินอิ่มแล้วผมจะโทรกลับมาหานะ หรือไม่ คืนนี้ผมอาจจะมานอนเฝ้าภัทที่โรงพยาบาลก็ได้...”
“ถ้าภัทไม่ให้ไปล่ะ”
“ไม่เอาครับ ไม่งอแง พรุ่งนี้ผมก็จะอยู่กับภัททั้งวันอยู่แล้ว ตอนนี้ภัทอยู่กับครอบครัวแล้วกัน” เขา ปะเหลาะเช่นเคย
“ขอตัวก่อนนะครับ”
วางโทรศัพท์ลงแล้วภัทรินก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ส่วนคนอื่น ๆ นั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าภัทรินมีความรู้สึกอย่างไรกับการกลับไปของวรรณศุกร์โดยไม่กล่าวลากัน...
แม้จะอยากให้กัปตันปรินทร์กลับไปก่อนที่วรรณศุกร์จะมาถึงห้องพักที่ตัวเองนอนรักษาตัวอยู่แต่ภัทรินก็พูดไม่ออก เพราะว่าการมาของเขานั้น มาอย่างมีเหตุผล นั่นก็คือมาในฐานะเจ้านายกับลูกน้องเพราะทำงานอยู่สายการบินเดียวกัน และในฐานะคนเคยรู้จักกันมาเนิ่นนานเพราะเขาเป็นเพื่อนกับภัทระพี่ชายคนโตของเธอ
กับส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาชวนเธอออกไปเดินช็อปปิ้งท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บของกรุงโซล เกาหลีใต้ จึงทำให้พอกลับมาเมืองไทยแล้ว เธอจึงไม่สบายกระทั่งลุกลามกลายเป็นไข้หวัดใหญ่
และประการสุดท้าย ผู้เป็นแม่ของเธอเองก็ชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก แม้เขาจะมีตำหนิตรงที่เป็นพ่อหม้ายเลิกกับภรรยาชาวญี่ปุ่นมีลูกด้วยกันหนึ่งคนโดยให้ลูกอยู่กับภรรยา แม่ก็บอกกับภัทรินว่าใช่ว่าเธอเองจะเป็นสาวน้อยไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกและเขาเองก็ดูเหมือนจะรู้ปัญหาคาราคาซังระหว่างเธอกับวรรณศุกร์ผ่านปากพี่ชายของเธอเป็นอย่างดี...แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมา เพียงแต่การกระทำของเขานั้น บ่งบอกให้เธอรู้ว่าเขาพร้อมจะอ้าแขนรับผู้หญิงมีตำหนิอย่างเธอเหมือนกัน เพียงแต่เธอต้องจบกับวรรณศุกร์ก่อนเท่านั้น
และแม่ก็ดูจะอยากให้เขาอยู่ในห้องเพื่อให้วรรณศุกร์ที่กำลังจะมาถึงนั้นรู้เห็นกับตาว่าลูกสาวของแม่นั้นหาใช่คนที่สิ้นไร้ไม้ตอก หากยังไม่ด่วนตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรกับเธอ ก็เห็นทีว่าแม่จะต้องให้เธอหาโอกาสดี ๆ ให้กับชีวิต...
แม่จึงชวนเขาคุยไม่ได้หยุด...เปิดทางให้เขารู้ว่าแม่นั้นชอบเขา อยากได้กัปตันปรินทร์มาเป็นลูกเขย
เสียงเคาะประตูทำให้ภัทรินที่นอนปรือตาอยู่เปิดเปลือกตาขึ้น...ประตูห้องพักถูกผลักเข้ามาพร้อมกับกลิ่นดอกกุหลาบ...
และเมื่อเห็นว่ามีใครอยู่ในห้องพักบ้าง สีหน้าของวรรณศุกร์ก็เจื่อนลง ก่อนจะเดินไปวางแจกันดอกไม้ไว้ที่โต๊ะใกล้หัวเตียงแล้วยกมือทำความเคารพแม่ของภัทริน และผู้ชายคนหนึ่งซึ่งดูอายุอานามแล้วคงจะวัยเดียวกันกับเขา แต่ว่ามีความภูมิฐาน และสายตาที่มองเขาอย่างพินิจพิจารณานั้น ทำให้เขาต้องยกมือไหว้เขาหลังจากที่ไหว้มารดาภัทรินไปด้วย
และเขาเองถึงแม้จะเข้านอกออกในบ้านของภัทรินได้ แต่เขาก็ไม่เคยค้างที่บ้านของหญิงสาว เพราะถือว่ายังไม่ได้แต่งงานกัน มีแต่ภัทรินเท่านั้นที่มาพักค้างกับเขาที่คอนโดมิเนียมเพราะการทำงานของภัทรินนั้นไม่เป็นเวลาแน่นอนอยู่แล้ว การที่จะหายจากบ้านไปค้างอ้างแรมที่อื่น พ่อกับแม่จึงไม่ถือสาหาความ...
“เป็นอย่างไรบ้างครับภัท” เขายืนอยู่ข้างเตียงพลางมองใบหน้าได้รูปที่บัดนี้ซีดเซียวเพราะไร้สีสันแบบที่เขาคุ้นตา...ภัทรินกระพริบตาปริบ ๆก่อนจะบอกว่า
“ดีขึ้นแล้วค่ะ”
“กินอะไรได้ไหม”
“ยังเจ็บคออยู่เลยค่ะ แล้วก็เหนื่อย เพลีย”
“แล้วหมอจะให้อยู่โรงพยาบาลอีกกี่วันครับ”
“ยังไม่รู้ค่ะ...อ้อ ศุกร์คะ นี่กัปตันปรินทร์ค่ะ พี่กัปตันคะ นี่วรรณศุกร์เพื่อนของภัทค่ะ” เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้แนะนำผู้ชายสองคนให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ ภัทรินจึงต้องรีบฝืนความง่วงทำตัวเป็นคนกลางที่ดี
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณวันศุกร์ ชื่อแปลกดีนะครับ”
“ผมไม่ได้ชื่อวันศุกร์ วันเสาร์หรอกครับ ชื่อผม ออกเสียงว่า วัน นะ ศุกร์ ครับ ว-ร-ร-ณ-ศุ-ก-ร์” วรรณศุกร์สะกดให้ เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจอย่างถูกต้อง
“อย่างไรก็ยังแปลกอยู่ดีนะ ไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้หรอก” กัปตันปรินทร์แสดงทีท่าเป็นกันเอง...
“ชื่อปรินทร์ก็แปลกดีเหมือนกันครับ” วรรณศุกร์ต่อความไปตามมารยาท
“แล้วนี่ศุกร์จะมาอยู่กรุงเทพกี่วันจ๊ะ” แม่ของภัทรินเป็นฝ่ายชวนเขาคุยบ้าง
“ดูอาการภัทก่อนครับ...แล้วนี่ใครเฝ้าไข้ภัทครับ”
“จ้างพยาบาลพิเศษจ้ะ แม่เองก็เฝ้า แต่ก็จะกลับพร้อมกับคุณพ่อ นี่อีกเดี๋ยว พี่ภัทระกับครอบครัวของเขาก็คงมากัน”
“จะมาทำไมกันเยอะแยะก็ไม่รู้” ภัทรินโอดครวญ
“นาน ๆ เราจะเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่มาดูดำดีกัน ได้ไงละลูก” แม่ของภัทรินปรับความเข้าใจของลูกสาวเสียใหม่
“ศุกร์กินข้าวเย็นมาหรือยังคะ” ภัทรินหันไปเอาใจวรรณศุกร์
“ยังเลยครับ แต่ผมยังไม่หิวหรอก”
ช่วงที่วรรณศุกร์ต้องการความเป็นส่วนตัวอยู่กับภัทริน กัปตันปรินทร์นั้นก็เสมองจอโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้พลางชวนคุณแม่ของภัทรินวิพากษ์วิจารณ์...
“ถ้าหิวก็เปิดตู้เย็นนะศุกร์ มีผลไม้ ขนม มีน้ำผลไม้ น้ำดื่ม แม่ซื้อมาแช่ไว้” แม่ของภัทรินหันมาบอกกับเขาอย่างเป็นกันเอง แต่ว่าวรรณศุกร์นั้นไม่ใช่คนกินจุกจิก และอีกอย่างตอนที่อยู่บ้านนั้นแม่และป้าสมานจะเป็นจัดการให้ เขาจึงรับคำไปพร้อมรอยยิ้ม และแม่ของภัทรินก็หันไปคุยกับปรินทร์ต่อ...ทำเหมือนกับว่าในห้องนี้ไม่มีเขานั่งอยู่ด้วย และความอึดอัดใจของวรรณศุกร์ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อครอบครับพี่ชายของภัทรินเปิดประตูเข้ามา...ลูกสาวลูกชายของพี่ชายภัทริน อยู่ในวัยซนจึงกระโดดโลดเต้นไปมา ‘ภัทระ’ พี่ชายของภัทรินนั้นด้วยเป็นเพื่อนกับกัปตันปรินทร์จึงมีเรื่องแต่หนหลังคุยกัน ส่วน ‘นิสากร’ พี่สะใภ้ของภัทรินก็ถือหนังสือนิยายติดมือมาด้วย หลังทักทายปราศรัยพอเป็นพิธีแล้วก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ...
และพอพ่อของภัทรินมาถึง...ด้วยท่านเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หลังจากทักทายเขาแล้ว ท่านก็นั่งมองจอโทรทัศน์พลางเย้าแหย่หลานชายหลานสาวไปบ้าง...วรรณศุกร์รู้สึกว่าในห้องนั้นเขาเป็นคนแปลกหน้า...
“ภัท เดี๋ยวผมขอออกไปโทรศัพท์หาคุณแม่หน่อยนะ” วรรณศุกร์บอกภัทรินแล้วก็ลุกขึ้นยืน เดินไปเปิดประตูห้องยังไม่ทันจะหับ เขาก็เขาก็ได้ยินแม่ของภัทรินที่ดูโทรทัศน์อยู่พูดว่า
“นางงามคนนี้ คนบ้านเดียวกับศุกร์ใช่ไหม เขาสวยเก๋ดีนะ”
วรรณศุกร์หันไปมองจอโทรทัศน์เป็นโฆษณาแชมพูผสมครีมนวดผมที่มีน้ำผึ้งเป็นพรีเซนเตอร์...
คุยกับแม่ยังไม่ทันเสร็จเรียบร้อยก็มีสายเรียกเข้าจากพิชญา...
“สวัสดีครับติ๋ว...”
“เมื่อกี้ติ๋วโทรหาผึ้ง ผึ้งบอกว่าพี่วันศุกร์มากรุงเทพ”
“มีอะไรหรือ”
“พอดีติ๋วโทรไปชวนผึ้งทานข้าวเย็นค่ะ เลยจะชวนพี่ร่วมวงด้วย ติ๋วเลี้ยงเองค่ะ”
“ที่ไหนเหรอครับ”
“ห้องอาหารของโรงแรมที่ผึ้งพักอยู่เลยค่ะ พี่จะมาหาผึ้งอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ อยากให้มาเร็วขึ้นหน่อย จะได้หิ้วท้องรอ”
“น่าจะได้นะ อีกสักครึ่งชั่วโมงคงถึง”
วางสายจากพิชญาแล้ววรรณศุกร์ก็เลือกที่จะโทรศัพท์เข้าเบอร์ของภัทรินเพราะว่าไม่อยากกลับเข้าไปเจอสายตาของคนในครอบครัวของภัทรินอีก
“เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะภัท”
“จะไปไหนเหรอคะ” น้ำเสียงของภัทรินห้วนสั้นขึ้นมาทันที น้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมาเพราะความน้อยใจที่เขาไม่ให้ความสำคัญกับเธอ เห็นคนอื่นดีกว่าเธอแน่ ๆ แต่ภัทรินยังไม่รู้เท่านั้นเองว่าเป็นใคร
“พอดีติ๋วชวนผมไปกินข้าวเย็นนะ”
“ที่ไหนคะ”
“เอ่อ...ห้างใกล้ๆ โรงพยาบาลนี่แหละ” เขาไม่กล้าบอกกับภัทรินไปหรอกว่าเป็นห้องอาหารในแรมที่น้ำผึ้งพักอยู่เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ภัทรินจะต้องคิดมากจนกระทั่งมีปัญหากันขึ้นมาอีก
“แต่เดี๋ยวกินอิ่มแล้วผมจะโทรกลับมาหานะ หรือไม่ คืนนี้ผมอาจจะมานอนเฝ้าภัทที่โรงพยาบาลก็ได้...”
“ถ้าภัทไม่ให้ไปล่ะ”
“ไม่เอาครับ ไม่งอแง พรุ่งนี้ผมก็จะอยู่กับภัททั้งวันอยู่แล้ว ตอนนี้ภัทอยู่กับครอบครัวแล้วกัน” เขา ปะเหลาะเช่นเคย
“ขอตัวก่อนนะครับ”
วางโทรศัพท์ลงแล้วภัทรินก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ส่วนคนอื่น ๆ นั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าภัทรินมีความรู้สึกอย่างไรกับการกลับไปของวรรณศุกร์โดยไม่กล่าวลากัน...

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ค. 2556, 07:14:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ค. 2556, 07:14:45 น.
จำนวนการเข้าชม : 1889
<< 33.ยอดพธูไทย | 34.2 พูดถูกใจดำเข้าหน่อยทำเป็นหน้างอ >> |

จุฬามณีเฟื่องนคร 29 ก.ค. 2556, 07:15:24 น.
ตอน จง มี จุด ทำ ไมละ เนี่ย...คริคริ ///เดี๋ยวจบเร็ว อยากอยู่ด้วยกันนาน ๆ
ตอน จง มี จุด ทำ ไมละ เนี่ย...คริคริ ///เดี๋ยวจบเร็ว อยากอยู่ด้วยกันนาน ๆ


mottanoy 29 ก.ค. 2556, 07:24:26 น.
เริ่มเห็นลาง
เริ่มเห็นลาง

เดิมเดิม 29 ก.ค. 2556, 08:21:26 น.
ตัวแปรมาแล้ว
ตัวแปรมาแล้ว

nunoi 29 ก.ค. 2556, 10:47:13 น.
เค้าลางว่าต้องเิลิกกันแน่ๆ มาแล้ว
เค้าลางว่าต้องเิลิกกันแน่ๆ มาแล้ว

คิมหันตุ์ 29 ก.ค. 2556, 14:25:25 น.
คุณภัทนี่ เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อยนะ ไม่ดูแลความรู้สึกของคุณศุกร์เลยอ่ะ แถมยังแนะนำ ตัวแบบกั๊กๆด้วย แฟนก็บอกแฟนดิ แหม่ะ แนะนำกับกัปตันว่าเพื่อน กั๊กเกินไปนะ
คุณภัทนี่ เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อยนะ ไม่ดูแลความรู้สึกของคุณศุกร์เลยอ่ะ แถมยังแนะนำ ตัวแบบกั๊กๆด้วย แฟนก็บอกแฟนดิ แหม่ะ แนะนำกับกัปตันว่าเพื่อน กั๊กเกินไปนะ

Zephyr 29 ก.ค. 2556, 17:15:53 น.
ภัทจะแนะนำว่าเป็นเพื่อนทำไมนะ ออกตัวประหลาดมาก
เห็นลางมาแต่ไกล แต่ภัทต้องเป็นคนจบสินะ
เพราะคุณศุกร์เคยสัญญาไว้นี่
ภัทจะแนะนำว่าเป็นเพื่อนทำไมนะ ออกตัวประหลาดมาก
เห็นลางมาแต่ไกล แต่ภัทต้องเป็นคนจบสินะ
เพราะคุณศุกร์เคยสัญญาไว้นี่

nateetip 29 ก.ค. 2556, 21:03:22 น.
รอคุณศุกร์กะน้ำผึ้งหวานกันอยู่นะคะ
รอคุณศุกร์กะน้ำผึ้งหวานกันอยู่นะคะ

loveleklek 29 ก.ค. 2556, 22:39:42 น.
เอาภัทไปเก็บที
เอาภัทไปเก็บที

จุฬามณีเฟื่องนคร 1 ส.ค. 2556, 02:24:39 น.
stop!
stop!