น้ำผึ้งบ้านไพร # ชุดนางฟ้าจำแลง

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 34.2 พูดถูกใจดำเข้าหน่อยทำเป็นหน้างอ

น้ำผึ้งกลับมาถึงห้องพักเร็วกว่ากำหนด หญิงสาวจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเสียใหม่ น้ำผึ้งเลือกที่จะหยิบชุดเดรสยาวคลุมเข่าสีเนื้อไม่มีแขนแต่ปิดคอมิดชิด ส่วนทรงผมนั้นก็ปล่อยให้ยาวสลวยเผยให้เห็นความเงางามอย่างเป็นธรรมชาติอย่างที่ได้โฆษณาไว้ในจอโทรทัศน์ กระทั่งพิชญาที่มาถึงก่อนวรรณศุกร์โทรขึ้นมาตาม

เดินออกจากลิฟท์มาแล้วน้ำผึ้งก็มองหาพิชญาตามโซฟาของล็อบบี้ แต่คุณเติ้ล พิชรัฎ ผู้เป็นน้องชายซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับการแสดงกองละครของพี่อ๊อดยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้น้ำผึ้งเห็น น้ำผึ้งจึงเดินยิ้มบาง ๆ เข้าไปหา ก่อนจะยกมือไหว้เพราะว่าพิชรัฎนั้นมีอายุมากกว่า

“พี่ติ๋วไปเข้าห้องน้ำ”

น้ำผึ้งทรุดตัวลงนั่ง เพราะกับพิชรัฏนั้นคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว ด้วยมีคุณติ๋วและเรื่องงานละครที่มีกำหนดเปิดกล้องหลังจากที่น้ำผึ้งอำลาตำแหน่งเป็นตัวกลาง นอกจากนั้นวรรณศุกร์กับคชาพัฒน์ก็ได้ฝากฝังให้พิชญาช่วยดูแลน้ำผึ้งยามที่ต้องอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อปฏิบัติหน้าที่นางงามยอดพธูไทยซึ่งมีกำหนดระยะเวลาหนึ่งปีอีกด้วย น้ำผึ้งจึงได้สนิทสนมกับครอบครัวของพิชญาเป็นพิเศษ

“วันนี้ไม่ได้ไปทำงานเหรอคะ”

“ทำครับ แต่เลิกกองเร็วหน่อย เพราะดาราสำคัญเบี้ยวคิว ตอนแรกว่าจะกลับบ้าน แต่พอดีพี่ติ๋วชวนมากินข้าว ก็เลยคิดว่ามาด้วยดีกว่าอยู่บ้าน” พิชรัฎนั้นผมยาวเคลียร์บ่าแต่ว่ารวบตึงไว้ด้านหลัง ใบหน้าของเขาขาวเผือด ตาหยี จุดเด่นเห็นจะเป็นคิ้วหนากับจมูกโตและริมฝีปากบางเหมือนผู้เป็นแม่...

“แล้วน้องผึ้งละครับ วันนี้ทำอะไรบ้าง”

“ไปเรียนทำอาหารค่ะ”

“พี่จะมีโอกาสได้ชิมฝีมือน้องผึ้งบ้างไหมเน้อ”

“มีซิคะ ยังต้องรู้จักกันไปอีกนาน”

“เอ้อ...ลืมไป ยังติดค้างเรื่องขิมอีกเรื่อง พี่ยังไม่ได้ฟังนะ”

“โอกาสดี ๆ คงได้ฟังหรอกค่ะ”

“เห็นพี่ที่ทำบทเรื่องเรือนร่มเย็นบอกว่านางเอกจะได้ตีขิมด้วยนะ...สงสัยบทนั้นเป็นของน้องผึ้งแน่ ๆ เลย”

“ผึ้งไปหานิยายมาก่อนดีกว่าค่ะ”

“ทำการบ้านไว้ก่อนก็ดี ถ้าเรื่องแรกมีกระแส เดี๋ยวงานก็มา เงินก็มา ต่อไปน้องผึ้งก็จะรวยไม่รู้เรื่อง”

“อ้าวผึ้ง” พิชญาที่เดินมาจากห้องน้ำร้องทัก...น้ำผึ้งสวัสดีอย่างอ่อนช้อยและสวยงามเหมือนเคย...

“อยู่ใกล้ ๆ กับนางงามก็ดีอย่างหนึ่ง อะไร ๆ ก็ดูเจริญหูเจริญตาไปหมด แต่ข้อเสียก็คือ รู้สึกว่าตัวเอง ไร้ความเป็นกุลสตรีไทยอย่างไรก็ไม่รู้” พิชญานั้นมาด้วยชุดเสื้อแขนกรุยกรายกางเกงยีนพอดีตัวดูกระฉับกระเฉง..หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างๆ น้ำผึ้งอย่างสนิทสนมเหมือนพี่กับน้องสาว
ไม่มีพิธีรีตองให้อึดอัด

“ผึ้งก็อยากเป็นอย่างพี่ติ๋วค่ะ...”

“ของแบบนี้มันคาแรคเตอร์ใครคาแรคเตอร์มัน...”

“จริง ๆ ผึ้งก็ไม่ใช่คนเรียบร้อยอะไรหรอกค่ะ”

“ผึ้งนะเรียบร้อย และก็มีความเป็นผู้หญิงไทยแท้ ๆ อยู่สูงมาก...ใช่ไหมเติ้ล”

“น่าจะใช่นะ...แต่ไปกันเหอะ ผมหิวข้าวแล้ว” ตัดบทแล้วพิชรัฎก็ลุกขึ้น แต่พิชญากลับดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าสะพาย...

“โทรหาคุณศุกร์ก่อนถึงไหนแล้ว ...เติ้ลเข้าไปสั่งอาหารก่อนเลย”

แม้พิชญาไม่บอก เขาก็จะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว พิชรัฎเดินจากไป น้ำผึ้งที่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับพิชญา ไม่ได้เดินตามพิชรัฎไป เพราะน้ำผึ้งนั้นตั้งกฎไว้กับตัวเองว่าจะไม่ไปไหนมาไหนกับผู้ชายให้เป็นข่าว...เธอไม่ต้องการกระแสเพื่อให้ได้งานให้ได้เงิน อย่างที่คนในวงการพึงปฏิบัติ เพราะรู้สึกว่าที่ได้มาก็มากพอแล้ว อีกอย่างน้ำผึ้งก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นเด็กอยู่ด้วย ประการสำคัญน้ำผึ้งไม่อยากให้คุณศุกร์นั้นมองว่าตัวเองนั้นแก่แดดเหลวไหล เพราะถ้าพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว เธอยังมีภาระที่ต้องเรียนให้จบปริญญาตรีอีกตั้งสี่ปี ส่วนงานในวงการบันเทิงนั้นคงจะค่อยดูก่อนว่าพอมีกระแสจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนเป็นดาวเด่นในวงการได้ไหม...ถ้าไม่ได้ อย่างไรเสีย เธอก็มาจากบ้านไพร



แม้พิชญาจะไม่แนะนำว่าผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยเป็นใคร วรรณศุกร์ที่หิ้วของพะรุงพะรังเข้ามาก็รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือนายเติ้ลผู้เป็นน้องชายของพิชญาเพราะเคยเห็นรูปในเฟสบุ๊คแล้ว...แต่พอพิชญาแนะนำแล้วเขาถึงได้รู้จักชื่อจริง และรู้ว่าตอนนี้ พิชรัฎนั้นกลับมาจากต่างประเทศและพร้อมเข้าทำงานกับบริษัทของพี่อ๊อดเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว...

“ไม่รู้ว่าจะเจอติ๋วเลยไม่ได้ซื้อขนมมาฝาก”

“เดี๋ยวแบ่งที่ซื้อมาให้ผึ้ง ไปก็ได้ค่ะพี่ติ๋ว ผึ้งกินไม่หมดหรอก”

“ให้พี่ พี่ก็ก็หิ้วเอาไปกองถ่าย”

“สรุปว่าของฉันกลายเป็นภาระไป” วรรณศุกร์ที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกับพิชรัฎแสร้งชักสีหน้าบึ้งตึง น้ำผึ้งที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามเห็นดังนั้นจึงรีบบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริงและงอนง้อว่า

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ คือ คุณศุกร์ซื้อมาเยอะไป ผึ้งอยู่คนเดียวกินไม่หมดหรอก แล้วเช้ามาที่โรงแรมก็อาหารเพียบเลย ออกงานก็เจอแต่ของกิน ของกิน แล้วก็ของกิน”

“ก็เห็นว่ามีพวกทีมงานกองประกวดด้วยต้องไปทำงานด้วยกันไม่ใช่เหรอ”

“แต่ละคนไว้หุ่นทั้งนั้นแหละค่ะ แล้วตอนนี้ก็เจอกันน้อยลง ๆ เพราะว่าหมดความเข้มข้นแล้ว ช่วงเดือนสองเดือนนี้ เขาเริ่มปล่อยให้ผึ้งหายใจหายคอได้บ้างแล้ว” การที่มีพี่เลี้ยงดูแลเรื่องคิวงาน การวางตัว เสื้อผ้าหน้าผมนั้นเป็นผลดีกับน้ำผึ้งเป็นอย่างมาก เพราะน้ำผึ้งนั้นเหมือนเด็กสาวตัวคนเดียวในเมืองใหญ่

“อ้วนขึ้นหรือเปล่า” ขณะกินข้าวไปวรรณศุกร์ก็เอ่ยปากถามน้ำผึ้งไปเพราะหลายเดือนแล้วที่เขาไม่ได้เจอหญิงสาว

“ไม่อ้วนหรอก เขาเรียกว่า มีน้ำมีนวล เป็นสาวเต็มตัว” พิชญาแก้ให้...

“อย่าให้อ้วนมากนะผึ้งเดี๋ยวไปขึ้นอืดที่มอนิเตอร์” พิชรัฎแทรกเข้ามา
น้ำผึ้งละช้อนใช้มือทั้งสองข้างลูบแก้มตัวเองก่อนจะบอกว่า

“งั้นผึ้งอิ่มเลยดีกว่า”

“มื้อนี้เว้นไว้ก่อน สั่งมาแล้วช่วยกันกินให้หมด” พิชญาร้องห้าม

“คุณเติ้ลสั่ง คุณเติ้ลก็จัดการ”

“ได้ ไม่ต้องห่วง เพื่อไม่ให้ผึ้งขึ้นอืดเดี๋ยวพี่กับคุณศุกร์ลุยเอง...”

“ผมก็ไม่ค่อยเท่าไหร่กับอาหารเย็นครับ อายุเยอะแล้ว เริ่มลงพุง”

“นี่นะเติ้ลถ้าย้อนเวลาได้นะ พี่ไปเอาพี่วันศุกร์มาเล่นละครแน่ ๆ หน้าพระเอกสุด ๆ”
“ติ๋วก็พูดเกินไป”

น้ำผึ้งที่ละช้อนข้าวแล้วจริง ๆ มองใบหน้าของเขาจนเต็ม ๆ ตา และเป็นครั้งแรกที่น้ำผึ้งรู้สึกว่า เธอไม่ต้องแหงนหน้าดูเขาอีกแล้ว...ตอนนี้เขาอยู่ในสายตาเธอ...พิชญาพูดทำนองว่าคุณศุกร์ยังมีเค้าความหล่อ...แต่สำหรับน้ำผึ้งวรรณศุกร์ยังคงหล่อมากอยู่เสมอ มาอยู่กรุงเทพเกือบสิบเดือน เขาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย...ดวงตาคู่สวย สันจมูก ริมฝีปากได้รูป และไรหนวดที่เขียวครึ้ม ติดตาตึงอยู่ในหัวใจของน้ำผึ้งไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลง..

และเขาก็เหมือนจะรู้ตัวว่าน้ำผึ้งมองเขาจนเคลิ้ม...เขาจึงต้องเป็นฝ่ายชวนน้ำผึ้งคุย...โดยพยายามที่จะไม่สบตาของน้ำผึ้งมากนัก
“แล้วจะยังกลับไปเรียนที่สระบุรีอีกหรือเปล่า”

“ไม่แล้วค่ะ ดูที่เรียนที่นี่แล้ว”

“มาแล้วกลับไม่ได้หรอก พี่วันศุกร์เคยฟังเพลงนี้หรือเปล่า สุดท้ายที่กรุงเทพฯ ของสุนารี ราชสีมา”

“มีใครบ้างไม่รู้จัก”

“เมื่อหงส์บินจากป่ามาสู่เมืองแล้ว หงส์ก็ต้องเป็นหงส์ทอง อยู่ในเมืองตราบนานเท่านาน”
พอพิชญาเอ่ยออกมาอย่างนั้นวรรณศุกร์รู้สึกใจหาย...แต่เขาก็เกลื่อนสีหน้าโดยการยิ้มบาง ๆแล้วพูดว่า

“หน่องเขาเคยบอกกับคุณแม่ว่า น้ำผึ้งนั้นต้องให้คนทั้งประเทศรู้ว่ามาจากบ้านไพร ไม่ใช่น้ำผึ้งที่ต้องอยู่บ้านไพร วาจาของหน่องเขาศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ”

หวนไปนึกถึงคำพูดของคชาพัฒน์แล้วน้ำผึ้งก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมา...เศร้าเพราะว่า เธอมาจากบ้านไพรเพียงแต่กาย สิบเดือนที่ผ่านมานั้นหัวใจของเธอก็ยังคงอยู่ที่บ้านไพรเหมือนเดิม...

อีกกี่ปี กี่เดือน กี่วัน เธอจึงดึงหัวใจเธอมาไว้กับตัวได้...

“เงียบไปเลยผึ้ง...คิดอะไรอยู่เหรอ” พิชรัฎร้องถามหลังจากที่เคี้ยวข้าวอย่างมีความสุข

“คิดว่าเมื่อไหร่ผึ้งจะได้กลับไปอยู่บ้านไพรทั้งตัวและใจค่ะ”

“พี่เล่นเอาว่าเธอไม่ได้กลับไปหรอกผึ้ง...พอเข้าวงการเต็มตัวแล้วเดี๋ยวก็มีโอกาสเจอนั่นเจอนี่เตรียมตัวพาแม่กับน้อง ๆ มาอยู่ด้วยกันทีกรุงเทพฯเสียดีกว่า”

“เคยถามแม่แล้วค่ะพี่ติ๋ว...แม่บอกว่า แม่จะตายที่บ้านไพร แม่จะไม่ไปไหนทั้งนั้น” เอ่ยถึงตรงนี้แล้วน้ำตาของน้ำผึ้งก็คลอหน่วยตาขึ้นมา เพราะแม่น้ำอ้อยไม่ได้บอกแค่นั้น แม่บอกว่า แม่จะอยู่กับพ่อ เพราะพ่ออยู่ที่นี่แม่จะไปไหนไม่ได้ ตายแล้วก็เอาแม่เผาที่วัดบ้านไพรเหมือนกับพ่อแล้วก็สร้างสถูปเจดีย์ไว้คู่กัน...ความรักของแม่เป็นอมตะและที่แม่ยังเข้มแข็งสู้ชีวิตอยู่ได้ก็เพราะยังมีหน้าที่เลี้ยงลูกของพ่อ

“อุ้ย ลืมไป ว่าเขาห้ามพูดเรื่องเป็นเรื่องตายตอนกินข้าว พูดแต่เรื่อง ตอนนี้ พรุ่งนี้และมะรืนนี้เท่านั้นพอ” พิชญาเห็นว่าเสียงน้ำผึ้งนั้นสั่นเครือจึงทำเริงร่ากลบเกลื่อน

และยังไม่ทันที่คนอื่น ๆ จะพูดอะไรกันต่อ โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของวรรณศุกร์ก็ส่งเสียง...เขารู้ว่าเป็นสายเรียกเข้าจากภัทริน เขาจึงเอ่ยปากขอตัวลุกออกจากโต๊ะไปรับสายนอกห้องอาหาร...

“เมียโทรตามแล้วแน่ ๆ เลย” พอภัทรินเปรยออกมาอย่างนี้น้ำผึ้งก็รู้สึกว่าเจ็บปวดขึ้นมาทั้งที่เคยคิดว่า
จะยอมให้ใจเจ็บปวดกับเขาอีกแล้ว...


แวะอาบน้ำที่คอนโดแล้ววรรณศุกร์ก็ขับรถไปเฝ้าภัทรินต่อ นางพยาบาลที่รับจ้างนอนเวรนั้นรู้ว่าวันนี้คนรักของคนไข้จะมาอยู่เฝ้าไข้จึงขอตัวออกไปนั่งคุยกับเพื่อนที่วอร์ดหลังจากวรรณศุกร์เดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงภัทริน

“ไปกินข้าวที่ไหนมาคะ” แม้จะนอนป่วยแต่ภัทรินก็มีหน่วยข่าวกรองรายงานมาว่าเห็นแฟนของตนนั้นกินข้าวอยู่กับนางงามที่โรงแรมแห่งหนึ่ง หน่วยข่าวกรองรายงานตามความเป็นจริงคือ โต๊ะอาหารนั้นมีชายสองหญิงสอง แต่ปัญหาที่ภัทรินคาใจก็คือเขาบอกกับเธอว่า เขาจะไปกินข้าวกับพิชญาที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ โรงพยาบาล แต่เขากลับไปยังโรงแรมที่น้ำผึ้งพักอยู่เขาจะต้องโกหกเธอทำไม ทำไมเขาไม่พูดตรง ๆ และหลังจากที่วรรณศุกร์ตอบไปตามตรงแล้วภัทรินก็ไม่ยอมเก็บอารมณ์ไว้

“แล้วทำไมทีแรกไม่บอกภัทตรง ๆ ทำไมต้องมีเจตนาปกปิดหลบ ๆ ซ่อน ๆ ด้วย”

“บอกว่าไปหาน้ำผึ้ง เพราะคุณแม่ฝากของมาให้ภัทก็จะ...” เขาพอเดาออกว่าภัทรินก็จะต้องว่าแม่ของเขานั้นพยายามเป็นแม่สื่อแม่ชักอย่างไม่ยอมลามือ ทั้งที่เกือบขวบปีที่ผ่านมาเขาก็แสดงให้ภัทรินเห็นแล้วว่าเขาไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับน้ำผึ้งอีกเลย ทั้งที่แม่ของเขาเพียรพยายาม แต่เขาก็หลบ ๆ หลีก ๆ เพราะรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนตัวเปล่า น้ำผึ้งไม่ใช่น้ำผึ้งบ้านไพรคนเดิม และคนของเขานั้นขี้หึงขี้ระแวงขนาดไหน
“กลายเป็นว่าภัทเป็นยักษ์เป็นมารไปแล้ว”

วรรณศุกร์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเดินไปทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา

“พูดถูกใจดำเข้าหน่อยทำเป็นหน้างอ”

“ภัทกำลังไม่สบายนะ ทำไมไม่ทำใจให้ดีๆ อย่าคิดมากอย่าเครียด”

“ก็จะไม่ให้ภัทคิดมากได้อย่างไรล่ะ ก็ผัวของภัทกำลังจะสวมเขาให้ภัท ถ้าเพื่อนภัทไม่ไปเห็น ภัทก็คงจะโง่ดักดานอยู่บนเตียง” ว่าแล้วน้ำตาของภัทรินก็ไหลออกมาอาบแก้ม...วรรณศุกร์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปกุมมือของภัทรินไว้... “ฟังผมนะภัทผมอายุมากกว่าผึ้งรอบกว่า ผมเป็นเหมือนพี่ชายเขา เป็นเหมือนพ่อเขา เป็นคนบ้านเดียวกับเขา และการที่ผมจะไปดูดำดูดีเขาบ้าง มันเป็นเรื่องที่ผมควรจะทำ...ภัทต้องเข้าใจผมบ้างนะ”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ค. 2556, 09:39:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ค. 2556, 09:39:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 1862





<< 34.1 “นางงามคนนี้ คนบ้านเดียวกับศุกร์ใช่ไหม เขาสวยเก๋ดีนะ”   35.1 อำลาตำแหน่ง >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 30 ก.ค. 2556, 09:40:11 น.
ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจนะครับ...ใกล้จบแล้ว(จริง ๆ)


เดิมเดิม 30 ก.ค. 2556, 10:38:53 น.
สงสารน้ำผึ้งจริงเลย พี่หน่องไม่มาเลยนะคิดถึง


nateetip 30 ก.ค. 2556, 11:11:59 น.
ไม่เข้าใจค่ะ.. ตอบแทนภัทร..^.^ แต่เชียร์น้ำผึ้งนะ


nunoi 30 ก.ค. 2556, 12:10:53 น.
น่าสงสาร ภัทร เหมือนกันนะ ถ้าเป็นเราก็ทำใจยากอยู่


คิมหันตุ์ 30 ก.ค. 2556, 13:06:56 น.
เลิกเลยๆๆๆๆ ฮ่าฮ่า แก่กว่าเป็นรอบเลยนะคะป๋าขา


Zephyr 30 ก.ค. 2556, 19:31:25 น.
เหมือนทั้งคุณศุกร์และภัท ดูจะมีทางไปที่ดีกว่าทั้งคู่
และเหมือนจะโน้มเอียงเห็นๆ แต่ที่ยังกั๊กๆๆๆๆ กันอยู่นี่ เพราะอารายยยย
คนอ่านขัดใจนะ ฮึ้ยยยยยยยย
ปล.ไม่ได้ส่งเสริมให้เลิกกัน แต่อยากให้ผึ้งสมหวัง อ้าวววว
ไม่ต้องเลิกก็ได้นะ แต่ แล้วผึ้งละ กัปตันละ เอ๊ะะะ งั้นก็ไม่สมหวังสินะ
ทางเดียวค่ะคุณเฟื่อง ทุกคน สมหวังชัวร์ ทั้งคนแต่งที่จบเรื่องได้ คนอ่านฟินนนน
คู่ทั้งสามมีครบ เอ๊ะ อ้าวววว ไม่ได้ยุน้าาาาาาาาา ฮ่าๆๆๆ


จุฬามณีเฟื่องนคร 1 ส.ค. 2556, 02:24:25 น.
stop!


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account