เกมรักนักสืบ
เมื่อผู้ต้องสงสัยเป็นถึงเจ้าของโรงแรมสุดหรูมาดเข้ม นักสืบสาวจึงต้องหาทางเข้าใกล้เพื่อล้วงความลับแบบเนียนๆ แต่ยิ่งสืบลึกลงไป...เธอกลับไม่อยากให้เขาเป็นฆาตกรเสียนี่
Tags: นักสืบ สาริน ลินิน
ตอน: ตอนที่ 3 100%
คะ” หญิงสาวโกหกคำโต เพราะเธอไม่มีเวลาว่างพอจะนั่งดูละคร รู้จักดาราก็เพียงแค่ผิวเผิน แต่ที่จำข่าวคราวเรื่องคู่ควงของอรนภาได้ ก็เพราะนักข่าวเล่นเขียนแซวอยู่ทุกวันกว่าสัปดาห์ ถึงไม่อยากอ่านมันก็ต้องเผลอไผลไปอ่านบ้าง
“มาก็ดีครับ ตอบคำถามแทนจนเมื่อยปาก กลับมานี่คงต้องต่อว่าสักหน่อย”
ทุกคำถามที่คเชนทร์ตอบมาดูไร้พิรุธ จนเธอจับผิดไม่ได้ ดูไปแล้วเขาเองก็กำลังรอคอยให้นางเอกสาวกลับมาเช่นเดียวกัน
“จริงด้วยสิคะ เชอร์รี่เจอพวกคุณที่ผับ ทเวนตี้ ฉลองปิดกล้องกันหรือคะ ตื่นเต้นแทบตายแหนะค่ะ พยายามมองหาคุณเอ้ แต่ก็ไม่พบ” บัวบูชาหยั่งเชิง คเชนทร์ดื่มกาแฟเข้าไปอึกใหญ่ ใช้ส้อมจิ้มขนมเค้กเข้าปากไปอีกคำ ในขณะที่เธอเพียงแค่นั่งมอง
ท่าทางผู้ชายคนนี้ปล่อยตัวตามธรรมชาติ ไม่หลุกหลิก หากเขาเป็นคนทำให้ดาราสาวหายตัวไป ย่อมไม่อดทนให้ใครซักถามถึงเธอผู้นั้นได้นานขนาดนี้
“ใช่ครับ เราเลิกกองกันตั้งแต่ก่อนเที่ยง เอ้เขาขอตัวกลับเลย แต่ก็สัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะเจอกันที่ผับตอนเย็น แล้วเขาก็เบี้ยวไปซะเฉยๆ จนถึงวันนี้ละครับ ก่อนไปเที่ยวก็น่าจะบอกกันมั่ง ผมจะได้ไม่รับงานเอาไว้” คเชนทร์บ่นขึ้นเป็นระยะให้ฟังทั้งที่พึ่งรู้จักกันไม่นาน ดูเขาไม่ใช่คนระวังตัวหรือคิดหวาดระแวงต่อคนรอบข้าง ตรงข้ามกลับปล่อยตัวตามสบาย เปิดปากพูดคุยด้วยท่าทางง่ายๆ สบายๆ ไม่มีพิธีรีตอง และเขาก็มีผลประโยชน์กับการกลับมาของอรนภา เธอคงต้องตัดเขาออกไปจากข้อสงสัย
เธอดื่มกาแฟต่อเป็นเพื่อนเขาอีกครู่หนึ่งจากนั้นจึงเอ่ยขอตัว ท่าทางเขาดูเสียดายเมื่อเธอทำท่าจะลุกขึ้นหลังเป็นคนชำระเงินตามที่บอกเอาไว้แต่แรก
“อย่าลืมไปแคสนะครับ ผมจะรอและหวังว่าคงมีโอกาสได้เลี้ยงตอบแทนคุณ”
“แน่นอนค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มหวานไปให้แล้วโบกมือลา รถของเธอจอดอยู่หน้าสถานีจึงต้องเดินกลับไปคนเดียว เพราะคเชนทร์ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมืออยู่
“รายต่อไป นายดนุกร พัทระอนันต์” บัวบูชาขีดกากบาทสีแดงไปยังชื่อของคเชนทร์ เมื่อผู้กำกับรายนี้ถูกตัดจากการเป็นผู้ต้องสงสัย เลยทำให้น้ำหนักที่เธอคาดการณ์ว่าอาจเป็นเรื่องรักสามเศร้า ระหว่างคเชนทร์ อรนภาและดนุกร พลอยเบาไปด้วย ถึงทั้งคู่จะมีปากเสียงกันมาตลอดที่เล่นด้วยกัน ก็ไม่น่าเป็นมูลเหตุสำคัญจนถึงขั้นทำร้ายหรือทำให้หายตัวไปแบบนี้ได้
หญิงสาวคิดทบทวนเหตุการณ์ก่อนการหายตัวไปของดาราสาวตามที่ภูมิชญาสืบมาให้ว่า ภายหลังเลิกกอง บ่วงมนตราราวๆ ห้าโมงเช้า อรนภาพูดคุยกับนักแสดงน้องใหม่คนหนึ่งเป็นคนสุดท้าย จากนั้นจึงไปลาผู้กำกับ และรับปากว่าจะไปงานเลี้ยงปิดกล้องที่ทเวนตี้ผับ แต่ก็ไม่ได้ไป
อรนภาไม่ได้กลับบ้าน พ่อกับแม่จึงคิดว่าพักแถวคอนโดที่ซื้อเอาไว้ใกล้ริมน้ำเจ้าพระยา เพราะสะดวกในการเดินทางมากกว่าในยามถ่ายละครดึกๆ
ภูมิชญาไปที่คอนโดดังกล่าวก่อนหน้านี้แล้ว พบว่ารถยนต์ของอรนภายังจอดอยู่ที่เดิม ยามให้การกับทางตำรวจว่า ดาราสาวกลับเข้ามาราวๆ บ่ายสอง เขาจำเวลาได้แม่นเพราะเป็นเวลาของรายการวิทยุคลื่นโปรดแต่ถูกขัดจังหวะเพราะอรนภาเดินเข้ามายืมปากกาไปจดอะไรบางอย่างลงในกระดาษแผ่นเล็ก ในระหว่างนั้นก็คุยโทรศัพท์ไปด้วย จากนั้นจึงกลับเข้าไปในคอนโด
จากกล้องวงจรปิด อรนภาหายเข้าไปในห้องพักไม่ถึงชั่วโมงก็ออกมาด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่และสวมแว่นกันแดดอำพราง เธอไม่ได้แวะไปยังลานจอดรถแต่เดินผ่านป้อมยามออกไปเรียกแท็กซี่ และไม่ได้กลับเข้ามาอีก จากนั้นพ่อกับแม่ดาราสาวจึงเริ่มเอะใจ แจ้งความและใช้บริการบริษัทนักสืบ
“มาก็ดีครับ ตอบคำถามแทนจนเมื่อยปาก กลับมานี่คงต้องต่อว่าสักหน่อย”
ทุกคำถามที่คเชนทร์ตอบมาดูไร้พิรุธ จนเธอจับผิดไม่ได้ ดูไปแล้วเขาเองก็กำลังรอคอยให้นางเอกสาวกลับมาเช่นเดียวกัน
“จริงด้วยสิคะ เชอร์รี่เจอพวกคุณที่ผับ ทเวนตี้ ฉลองปิดกล้องกันหรือคะ ตื่นเต้นแทบตายแหนะค่ะ พยายามมองหาคุณเอ้ แต่ก็ไม่พบ” บัวบูชาหยั่งเชิง คเชนทร์ดื่มกาแฟเข้าไปอึกใหญ่ ใช้ส้อมจิ้มขนมเค้กเข้าปากไปอีกคำ ในขณะที่เธอเพียงแค่นั่งมอง
ท่าทางผู้ชายคนนี้ปล่อยตัวตามธรรมชาติ ไม่หลุกหลิก หากเขาเป็นคนทำให้ดาราสาวหายตัวไป ย่อมไม่อดทนให้ใครซักถามถึงเธอผู้นั้นได้นานขนาดนี้
“ใช่ครับ เราเลิกกองกันตั้งแต่ก่อนเที่ยง เอ้เขาขอตัวกลับเลย แต่ก็สัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะเจอกันที่ผับตอนเย็น แล้วเขาก็เบี้ยวไปซะเฉยๆ จนถึงวันนี้ละครับ ก่อนไปเที่ยวก็น่าจะบอกกันมั่ง ผมจะได้ไม่รับงานเอาไว้” คเชนทร์บ่นขึ้นเป็นระยะให้ฟังทั้งที่พึ่งรู้จักกันไม่นาน ดูเขาไม่ใช่คนระวังตัวหรือคิดหวาดระแวงต่อคนรอบข้าง ตรงข้ามกลับปล่อยตัวตามสบาย เปิดปากพูดคุยด้วยท่าทางง่ายๆ สบายๆ ไม่มีพิธีรีตอง และเขาก็มีผลประโยชน์กับการกลับมาของอรนภา เธอคงต้องตัดเขาออกไปจากข้อสงสัย
เธอดื่มกาแฟต่อเป็นเพื่อนเขาอีกครู่หนึ่งจากนั้นจึงเอ่ยขอตัว ท่าทางเขาดูเสียดายเมื่อเธอทำท่าจะลุกขึ้นหลังเป็นคนชำระเงินตามที่บอกเอาไว้แต่แรก
“อย่าลืมไปแคสนะครับ ผมจะรอและหวังว่าคงมีโอกาสได้เลี้ยงตอบแทนคุณ”
“แน่นอนค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มหวานไปให้แล้วโบกมือลา รถของเธอจอดอยู่หน้าสถานีจึงต้องเดินกลับไปคนเดียว เพราะคเชนทร์ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมืออยู่
“รายต่อไป นายดนุกร พัทระอนันต์” บัวบูชาขีดกากบาทสีแดงไปยังชื่อของคเชนทร์ เมื่อผู้กำกับรายนี้ถูกตัดจากการเป็นผู้ต้องสงสัย เลยทำให้น้ำหนักที่เธอคาดการณ์ว่าอาจเป็นเรื่องรักสามเศร้า ระหว่างคเชนทร์ อรนภาและดนุกร พลอยเบาไปด้วย ถึงทั้งคู่จะมีปากเสียงกันมาตลอดที่เล่นด้วยกัน ก็ไม่น่าเป็นมูลเหตุสำคัญจนถึงขั้นทำร้ายหรือทำให้หายตัวไปแบบนี้ได้
หญิงสาวคิดทบทวนเหตุการณ์ก่อนการหายตัวไปของดาราสาวตามที่ภูมิชญาสืบมาให้ว่า ภายหลังเลิกกอง บ่วงมนตราราวๆ ห้าโมงเช้า อรนภาพูดคุยกับนักแสดงน้องใหม่คนหนึ่งเป็นคนสุดท้าย จากนั้นจึงไปลาผู้กำกับ และรับปากว่าจะไปงานเลี้ยงปิดกล้องที่ทเวนตี้ผับ แต่ก็ไม่ได้ไป
อรนภาไม่ได้กลับบ้าน พ่อกับแม่จึงคิดว่าพักแถวคอนโดที่ซื้อเอาไว้ใกล้ริมน้ำเจ้าพระยา เพราะสะดวกในการเดินทางมากกว่าในยามถ่ายละครดึกๆ
ภูมิชญาไปที่คอนโดดังกล่าวก่อนหน้านี้แล้ว พบว่ารถยนต์ของอรนภายังจอดอยู่ที่เดิม ยามให้การกับทางตำรวจว่า ดาราสาวกลับเข้ามาราวๆ บ่ายสอง เขาจำเวลาได้แม่นเพราะเป็นเวลาของรายการวิทยุคลื่นโปรดแต่ถูกขัดจังหวะเพราะอรนภาเดินเข้ามายืมปากกาไปจดอะไรบางอย่างลงในกระดาษแผ่นเล็ก ในระหว่างนั้นก็คุยโทรศัพท์ไปด้วย จากนั้นจึงกลับเข้าไปในคอนโด
จากกล้องวงจรปิด อรนภาหายเข้าไปในห้องพักไม่ถึงชั่วโมงก็ออกมาด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่และสวมแว่นกันแดดอำพราง เธอไม่ได้แวะไปยังลานจอดรถแต่เดินผ่านป้อมยามออกไปเรียกแท็กซี่ และไม่ได้กลับเข้ามาอีก จากนั้นพ่อกับแม่ดาราสาวจึงเริ่มเอะใจ แจ้งความและใช้บริการบริษัทนักสืบ
สาริน เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2556, 22:59:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2556, 22:59:01 น.
จำนวนการเข้าชม : 990
| << ตอนที่ 2 40% | ตอนที่ 4 40% >> |