ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: บาดแผลในใจซาตาน

เกสเฮ้าส์หลังเล็ก ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในยามเช้าที่อากาศกำลังดี ลมพัดโชยบางเบากระทบร่างบึกบึนซึ่งนั่งปักหลักทำงานหน้าเขม็งมาตั้งแต่เช้ามืด โดยไม่ได้สนใจกับบรรยากาศรอบข้างมากมายนัก เหตุเพราะจะต้องรีบตรวจตรางานเอกสารที่เขาไม่ได้แตะเลยมาอาทิตย์เต็ม ๆ เพราะต้องให้เวลากับงานในหน้าที่ใหม่นั่นเอง

“คุณภาพ จะให้ป้าตั้งโต๊ะเลยมั้ยคะ ใกล้ถึงเวลาอาหารเช้าแล้วค่ะ”

เอี้ยงผู้ไม่อยากเปลี่ยนคำเรียกชื่อเขาจากเดิมนักเดินเข้ามาถามเจ้านายผู้เปรียบเสมือนลูกชาย เพราะเลี้ยงดูมาตั้งแต่วันที่เขาเกิดก็ว่าได้ คนที่เอาแต่ก้มหน้ากับงานตรงหน้า ตอบไปโดยไม่ได้หันไปมองคนถามด้วยซ้ำ

“สามารถมาถึงค่อยตั้งครับ แต่ตอนนี้ผมขอกาแฟสักถ้วยก่อนก็แล้วกัน”

“ค่ะ แต่ป้าให้แค่กาแฟนะคะ ห้ามขออย่างอื่น เพราะจะกินข้าวต้มได้ไม่มาก”

คนบอกไม่ได้สนใจจะรอฟังคำเจ้านายหนุ่มนัก เพราะรู้ดีว่าจะต้องร้องขอขนมปังปิ้งหรือไม่ก็แซนวิชซ์ด้วยนั่นเอง แต่ผิดคาดครั้งนี้เขากลับให้ความสนใจกับงานมากกว่าเรื่องไหน ๆ จนไม่รู้ว่าสามารถมาถึงเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ

“อ้าว! มานานหรือยัง” เขาเงยหน้าไปหาเมื่อเห็นสามารถมายืนอยู่ใกล้ ๆ และยิ้มให้เป็นการทักทาย

“สักพักแล้วครับ เห็นคุณแพทกำลังทำงานเลยยังไม่อยากกวนครับ”

“กินข้าวแล้วคุยไปด้วยดีกว่า ป้าเอี้ยงทำรอแล้ว” ไม่บอกเปล่าเขารีบลุกนำไปหาโต๊ะอาหารทันที เพราะรู้สึกหิวขึ้นมาแล้ว สามารถได้แต่เดินตามไปนั่งใกล้ ๆ อย่างคนสำรวม

“เรื่องนายประสงค์ไปถึงไหนแล้ว มีวี่แววหรือเปล่า” เขาไม่ยอมปล่อยเวลาให้ผ่านไปแม้แต่นาทีเดียว

“กำลังตีซี้อยู่ครับคุณแพท รายนี้อยู่ไม่เป็นที่ ไปโน่นมานี่เรื่อยเปื่อย อีกเรื่องคุณประสงค์มีกิจการหลายอย่าง อาจจะไม่อยากขายหุ้นให้เราก็ได้ครับ เพราะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน”

“ไม่เดือดร้อนนั่นล่ะดีแล้ว จะได้ขายให้เราง่าย ๆ ไง แต่นายไม่ต้องรีบหรอก เรายังมีเวลาอีกเยอะ”

“ครับ แล้วทางนี้เป็นไงครับ คุณแพทจะทำงานที่นั่นไปอีกนานแค่ไหนครับ” คนถามมีอาการลังเลเล็กน้อย เพราะไม่ใคร่จะได้ถามในเรื่องที่ไม่ได้รับมอบมาย

“บอกยังไม่ได้หรอกแล้วแต่เวลาและโอกาสอีกนั่นล่ะ แต่ได้นี่มาเอาไปจัดการ” เอกสารบางอย่างยื่นให้สามารถพร้อมใบหน้าอิ่มเอมกับสิ่งที่ได้มาจากการใช้ลลิตาเป็นเครื่องมือนั่นเอง ส่วนสามารถก็รีบอ่านดูโดยเร็วเพราะอยากรู้ว่าคืออะไร

“เล่นตามแผนได้ แค่เบาะ ๆ พอ เล่นที่ละน้อย ๆ ให้พวกมันเจ็บนาน ๆ ลึก ๆ”

เพราะเขาบอกลูกน้องด้วยความอารมณ์เย็น ยังไม่อยากให้เกมนี้จบลงง่าย ๆ จึงเลือกจะนั่งดูศัตรูค่อย ๆ จมลงช้า ๆ จะได้เจ็บลึกและนาน จนไม่อยากลืมเขาไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว เขาเองก็ไม่เคยลืมสิ่งที่ได้รับมาจากศัตรูแม้แต่วินาทีเดียวเช่นกัน ชีวิตที่ระเห็ดระเหเร่ร่อน เมื่อสิ้นพ่อ สิ้นสมบัติพัสถานทั้งหมด สิ้นบ้านเคยอบอุ่น จนแทบจะไม่มีแม้แต่ที่จะซุกหัวนอนอยู่นานนับปี จากคุณหนูผู้ไม่เคยต้องจับหยิบอะไร กลายไปเป็นเด็กชายตัวผอมตื่นขึ้นไปรับจ้างเข็นผักให้แม่ค้าในตลาดตั้งแต่เที่ยงคืนไม่ได้แม้แต่คืนเดียว



‘อุ๊ยตายแล้วคุณภาพ! หน้าไปโดนอะไรมา ทำไมบวมเปล่งขนาดนั้น มาให้ป้าดูหน่อยสิคะคนดีของป้า’เอี้ยงซึ่งกำลังห่อขนมเทียนอย่างขมักเขม้นอยู่ในห้องเช่าเก่าคร่ำครึอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเด็กชายสหภาพเดินเข้ามาด้วยอาการบอบช้ำ

‘ไม่เป็นไรครับป้า ผมแค่หกล้มนิดหน่อยเอง’ นอกจากจะไม่หันไปหาคนถามแล้ว ยังหลบไปหาหม้อข้าวแทนอีกด้วย แต่เอี้ยงผู้ซึ่งรักเขาปานลูกในไส้กลับไม่ยอม จึงลุกไปดึงเอาร่างผอมมาดูใกล้ ๆ

‘คุณภาพอย่ามาโกหกป้าเลยค่ะ นี่โดนพวกเจ้าเบิ้มกับเพื่อนรุมตีมาอีกแล้วใช่มั้ยคะ โธ่! พ่อคุณของป้า ทำไมชีวิตจะต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้นะ คุณท่านนะคุณท่านดูซินี่ เงินทองมีมากมายก็ไม่ยอมทำอะไรไว้ให้ลูกเลย มัวแต่หลงผู้หญิงจนได้เรื่อง ลูกคนเดียวแท้ ๆ แทนที่จะได้อยู่อย่างสุขสบายกลับต้องมาเป็นแบบนี้’ อดบ่นให้วิญญาณคนที่จากไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้ลูกเลยนอกจากความยากแค้นและไม่มีที่พึ่งพิงเท่านั้น

‘ป้าอย่าว่าคุณพ่อนะครับ คุณพ่อไม่ผิดซักหน่อย แต่ไอ้พวกนั้นต่างหากที่ผิด พวกมันรวมหัวกันโกงคุณพ่อ ทำร้ายท่าน จนท่านต้องตาย แล้วมันก็ทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้ คอยดูนะถ้าผมโตขึ้น ผมจะทำเหมือนกับที่มันทำกับพวกเรา ผมจะเอาทุกอย่างที่เคยเป็นของพวกเรากลับคืนมาให้ได้ ผมจะทำให้มันไม่ความสุขไปตลอดชีวิตเลย ไม่เชื่อป้าก็คอยดู’

แววตาแห่งความชิงชังมีให้คนที่เด็กชายตีค่าว่าเป็นศัตรู ทำเอาเอี้ยงถึงกับอ่อนใจ แต่ก็เปล่าประโยชน์ที่จะสั่งสอนซ้ำ ๆ ซาก ๆ และอีกอย่างเอี้ยงก็ไม่ได้คาดคิดว่าเด็กชายที่ตัวเองรักเสมือนลูก จะมีวันลืมตาอ้าปากได้อีกแล้ว เพราะนับตั้งแต่พาคุณหนูของลูกเจ้านายมาอยู่ด้วยในบ้านเช่าก็แทบจะหากินไม่คุ้มปากท้องอยู่แล้ว มีรายได้จากการขายขนมเลี้ยงตัวไปวัน ๆ นานนับปีเท่านั้น

‘คุณภาพ! แล้วนั่นพาใครมาด้วยคะ หน้าตาบวมฉึ่งเลยพอกัน ตัวก็กระจิ้ดริด’ เอี้ยงมองไปยังประตูห้อง เห็นเด็กน้อยทำตาละห้อยมองมาอย่างเว้าวอน

‘สามารถนี่ป้าเอี้ยงของฉันไห้วซะสิ นายอยู่นี่ได้ไม่ต้องไปเร่ร่อนที่ไหนอีก ฉันกับป้าเอี้ยงอยู่กันแค่สองคน แคบหน่อยนะแต่เราก็อยู่ด้วยกันมาจะสองปีแล้ว’ เอี้ยงทำหน้าสงสัยในคำพูดของเด็กชาย ไหนจะท่าทีอันมุ่งมั่น เข้มแข็งจนน่าเอ็นดูอีก

‘ป้าเอี้ยงครับ ภาพขอให้สามารถอยู่ด้วยกับเรานะครับ ขืนปล่อยให้นอนอยู่ป้ายรถเมล์เหมือนเคยคงโดนไอ้เบิ้มกับลูกน้องซ้อมตายคามือสักวันแน่ สามารถจะช่วยภาพรับจ้างเข็นผักในตลาดทุกวันครับ แล้วบ่าย ๆ เราจะไปช่วยป้าเก็บของ นะครับป้า’ คนถูกขอได้แต่ยิ้มให้ด้วยความเอ็นดูที่คุณหนูมีน้ำใจกับคนยากไร้

‘โธ่! พ่อคุณของป้า ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ สามารถมาหาป้าเร็ว ไหนดูซิไปโดนมาหนักแค่ไหน’ สามชีวิตคอยอุ้มกันและกันตามสภาพสุขบ้างทุกข์บ้างอยู่นานหลายปี



‘นี่ไงเจ้บ้านป้าเอี้ยง’

กระทั่งอยู่มาวันหนึ่งคนขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างก็เดินนำหน้าหญิงสาวแต่งกายภูมิฐาน บ่งบอกให้รู้ว่ามีฐานะทางการเงินดีแค่ไหน เดินเคียงคู่มากับชาวต่างชาติที่มีลักษณะท่าทางไม่แพ้กัน แบ้งค์สีแดงสองใบส่งให้คนนำทาง ก่อนเจ้าของร่างอรชรจะค่อย ๆ เดินเยี่ยมหน้าเข้าไปดูในห้องเช่าเก่าและสกปรกด้วยหัวใจหดหู่

‘มีใครอยู่มั้ยคะ เอี้ยงอยู่หรือเปล่าจ๊ะ’ ดวงดาวส่งเสียงเรียกอยู่หน้าประตู ทำเอาคนนั่งพัดเตาถ่านอยู่หลังบ้านจนเหงื่อท่วมตัวต้องเหงี่ยหูฟัง เมื่อรู้ว่ามีคนมาบ้านจึงเดินออกมา แล้วก็ต้องชะงักอยู่กับที่เมื่อพบว่าผู้มาเยือนเป็นใคร

‘คุณผู้หญิง!’

‘เอี้ยง!’ เพียงเท่านั้น สองร่างก็วิ่งเข้าไปกอดกันและกันด้วยความคิดถึง พร้อมทั้งน้ำตาแห่งความดีใจไหลอาบแก้มลงมา

‘คุณแม่!’ เด็กชายเองก็มีสภาพไม่แพ้เอี้ยงเมื่อชั่วโมงก่อน เพราะหลังกลับจากตลาดแล้วพบว่าแม่นั่งอยู่ในห้องเช่ารอการกลับมาของลูกอย่างใจจดใจจ่อ

‘ภาพลูกแม่ โธ่! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ลูก’

หัวอกแม่เมื่อเห็นลูกที่เฝ้าตามหามานานนับตั้งแต่รู้ข่าวว่าครอบครัวแตกสลายเมื่อสิ้นอดีตสามีไป เพราะคราบคุณภาพผู้เป็นที่รักของคนในบ้านเมื่อก่อนที่ดวงดาวจะแยกจากสามีไปกับตอนนี้ช่างต่างกันราวฟ้าดินเลยทีเดียว เด็กชายสหภาพที่รักและบูชาพ่อปานดวงใจ จนยอมยืนดูแม่เดินออกจากชีวิตด้วยความรู้สึกเฉยชาเมื่อหลายปีแล้ว

‘แม่’ แต่บัดนี้เขากลับแทบจะวิ่งเข้าไปซบอกแม่ด้วยความรักและคิดถึง เพราะห่างหายจากอกอันอบอุ่นมานานแสนนาน สองแม่ลูกยืนกอดกันกลมทั้งน้ำตา พลอยทำให้เอี้ยง ริชาร์ด ผู้เป็นสามีใหม่ต่างน้ำตาตกด้วยความปลาบปลื้มกับภาพตรงหน้า ไม่แพ้แม้แต่เด็กชายสามารถผู้เป็นลูกน้องสหภาพนับตั้งแต่มาอาศัยชายคาบ้านอยู่แล้ว

‘แม่จะพาผมไปอยู่ไหนผมก็ยอมครับ แต่ผมขอเอาป้าเอี้ยงกับสามารถไปอยู่ด้วยได้มั้ยครับแม่’

เมื่อรู้จุดประสงค์ของแม่แล้วเขาก็ดีใจจนบอกไม่ถูกที่จะได้หลุดพ้นจากสภาพแวดล้อมอันน่าเบื่อนี้ แต่ก็ไม่วายห่วงป้าผู้ไม่เคยทอดทิ้งเขาเลย ไหนจะลูกน้องคู่ใจอีก ดวงดาวหันไปหาสามีประหนึ่งลำบากใจที่จะให้คำตอบกับลูก เพราะตัวเองก็ต้องอาศัยอำนาจเงินสามีใหม่นับตั้งแต่เลิกลากับไพโรจน์ไปแล้ว แต่รอยยิ้มอันเปี่ยมไปด้วยเมตตาของเศรษฐีเมืองผู้ดีอย่างริชาร์ดสร้างความปีติให้ดวงดาวเป็นที่สุด ก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้ลูก

‘ได้สิจ้ะลูกแม่ งั้นเอาเป็นว่าพวกเราไปอยู่ที่อังกฤษด้วยกันทั้งหมดนี่ล่ะนะ’



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:34:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:34:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 1142





<< ความเป็นมาของซาตาน   แผยรุกของซาตาน >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account