ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: แผยรุกของซาตาน

เสียงดังของถ้วยกระทบกับโต๊ะแก้ว เรียกความคิดของเขาให้กลับมาหางานตรงหน้าได้ในทันที แต่ก็ไม่วายหันไปยิ้มให้คนยกชากับของว่างมาให้ด้วยความขอบคุณ

“คุณภาพน่าจะพักหน่อยนะคะ ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว” เอี้ยงอดห่วงไม่ได้ เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านเช่ากับเขา ก็แทบจะไม่เห็นเขาว่างเว้นจากงานเลยสักวัน ทั้งที่เอี้ยงเองก็ไม่กล้าไตร่ถามว่าทำไมจะต้องมาอยู่บ้านเช่าแทนบ้านหลังใหญ่ และทำไมเขาถึงต้องขับรถราคาถูกแทนสองสามคันใหม่เอี่ยมแพงลิบที่จอดทิ้งไว้ด้วย มิหนำซ้ำยังต้องตื่นแต่เช้าออกไปทำงานและกลับมาค่ำมืด วันหยุดก็จะนั่งทำงานกับสามารถอีกเป็นนานสองนานขนาดนี้

“ไม่เห็นป้าเอี้ยงจะหยุดเหมือนกันนี่ครับ แล้วทำไมผมจะต้องหยุดด้วย ผมทั้งหนุ่มและแข็งแรงกว่าป้าเป็นไหน ๆ” ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาะอารมณ์ดีมาอยอกเย้ากับผู้เป็นเหมือนแม่คนที่สองแบบนี้

“ถ้าป้าหยุดแล้วคุณภาพจะได้กินอาหารสะอาด ๆ และอร่อย ๆ เหรอคะ พักบ้างเถอะค่ะ เงินทองก็มีมากมายจนจะใช้ไม่หมดแล้ว ไม่รู้จะกลับมาเปิดห้างที่เมืองไทยทำไมกัน ถ้ามาแล้วคุณภาพของป้าต้องทำงานหนักขนาดนี้ สู้ป้ายอมอยู่ที่โน่นดีกว่าค่ะ” ถึงแม้เอี้ยงจะบ่นคิดถึงเมืองไทยไม่หยุดตลอดเวลาเกือบยี่สิบปีก็ตามที แต่ถ้ามาแล้วคุณหนูต้องทำงานหนักเอี้ยงก็ขอยอมอยู่กับความบ้านเกิดคิดถึงมากกว่า

“ถ้าผมหยุดตอนนี้ คนงานก็จะตกงานกันเป็นร้อยเลยนะครับ ป้าไม่ห่วงพวกเขาเหรอ” เขารู้ดีว่าเอี้ยงเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร เจอคนตกทุกข์ได้ยากเป็นไม่ได้ ต้องควักเงินให้ทุกที

“แต่ป้าห่วงคุณภาพนี่คะ คนอื่นช่างประไร เราไม่มีงานให้ทำเขาก็ไปทำกับคนอื่นอยู่ดี คุณภาพมัวแต่มานั่งทำงานอยู่แบบนี้ คุณผู้หญิงคงอดได้เห็นหน้าสะใภ้ และอดได้อุ้มหลานเร็ว ๆ เป็นแน่เลยค่ะ”

ยกเหตุผลอื่นมาอ้างข้าง ๆ คู ๆ แล้วรีบวกกลับมาหาเรื่องนี้ เพราะได้รับมอบหมายให้คอยสืบเสาะเรื่องสะใภ้จากคุณผู้หญิง เอี้ยงจึงไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดลอย สามารถนั่งทำงานอยู่ไม่ห่างอดละสายตาจากงานแล้วหันมายิ้มแบบขำ ๆ ให้เจ้านายหนุ่มไม่ได้ ด้วยความเป็นคนเงียบขรึมของสหภาพจึงไม่ค่อยมีใครกล้าพูดเย้าแหย่เล่นด้วย เว้นแต่ดวงดาวผู้แม่ กับเอี้ยงเท่านั้น ส่วนตัวเขานานทีปีหนจะกล้า และต้องอาศัยช่วงเวลาที่เจ้านายอารมณ์ดีมากด้วย

“เย็นนี้ทำอะไรให้เรากินครับ ขอเมนูอร่อย ๆ นะ ถ้าจะให้สามารถพาไปตลาดก็บอกนะครับ ผมจะนั่งทำงานรอก็แล้วกัน” รู้ว่าถูกต้อนในเรื่องที่เขายังไม่อยากคิดตอนนี้ และรู้ด้วยว่าแม่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง จึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เอี้ยงเข้าใจได้ว่าเจ้านายหนุ่มไม่ประสงค์จะคุยต่อแล้ว ถ้ามีเรื่องนี้เข้ามาปะปนในบทสนทนา

“คุณภาพนะคุณภาพ เฮ้อ!” ถอนหายใจแรง ๆ แล้วก็เดินกลับครัวตามเดิม ยิ้มบาง ๆ มุมปากของคนที่ทำเป็นก้มหน้าลงไปหางาน เพราะรู้ดีถ้าไม่ใช้ไม้นี้ คงจะไม่มีทางเลี่ยงได้ สหภาพชำเลืองไปเห็นสีหน้าอมยิ้มของลูกน้องคนสนิทอย่างรู้ทัน

“ขำอะไรเหรอสามารถ” เสียงเข้มกับการปั้นหน้าดุในครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้สามารถหวั่นเกรงสักนิด แต่ก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำ จึงได้แต่หุบยิ้มแล้วก้มไปหางานตรงหน้าแทน



กาแฟสองถ้วยหอมกรุ่น กับถุงแคร้กเกอร์วางลงบนโต๊ะทำงานของลลิตาเหมือนทุก ๆ เช้าไม่เคยว่างเว้น แต่สหภาพก็อดแปลกใจไม่ได้ที่วันนี้เลขาฯ หน้าห้องแม่สาวเย่อหยิ่งดูจะวุ่นอยู่แต่กับเอกสารจนลืมส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มมาให้เขาเช่นเคย จึงได้คิดว่าว่าตัวเองคงตกข่าวอะไรบางอย่างไปเป็นแน่ เพราะเมื่อวานเที่ยวตะรอน ๆ หาดูสินค้าเข้าห้างกับสุนทรีย์จนเย็นย่ำ เลยไม่ได้กลับเข้าออฟฟิศ

“คุณตาทำหน้าไม่สบายเลย มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือเบื่อกาแฟของผมแล้ว” ต้องหยอดคำหวานลงไปนิด เพื่อให้ความลับหลาย ๆ อย่างหลุดรอดออกมา เพราะมันเคยได้ผลตลอดเวลานับตั้งแต่เขาเลือกเข้ามาหาแม่สาวร้อนรักคนนี้

“อุ้ย! คุณแพทอย่าเข้าใจตาผิดสิคะ พอดีวันนี้ยุ่งค่ะ คุณเนยโทรสั่งงานตั้งแต่ยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ บอกให้เตรียมไว้อีกหน่อยจะเข้ามา นี่ตายังทำไม่ครบตามคำสั่งนะคะ เอกสารเป็นแฟ้มๆ ยังไม่ได้เอาไปก๊อปปี้เลย” ปากพูดมือก็ทำงานไป สหภาพมองแฟ้มงานที่เขียนไว้ว่า ‘วาระการประชุม’ แล้วยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัยก่อนเอ่ย

“อย่างนี้นี่เอง ผมก็กลัวคุณตาจะเบื่อเลยฟุ้งซ่านไปหน่อย เอางี้ครับให้ผมช่วยก๊อปปี้เอกสารในแฟ้มนะ จะใช้กี่ชุดครับ”

“อย่าเลยค่ะ เกรงใจ แค่คุณแพทหากาแฟให้ตาทุกเช้าก็ขอบคุณมากแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวตาจัดการเอง”

“ถ้าขืนคุณตาพูดคำว่าเกรงใจผมอีกคำเดียว ผมจะโกรธและไม่มาเดินแถวนี้อีกเลย ตกลงมั้ยครับ ว่าแต่เอากี่ชุดครับ” เขารีบฉวยเอาแฟ้มไปถือไว้แล้ว

“ถ้าคุณแพทจะช่วยก็รบกวนนะคะ เอาเจ็ดชุดค่ะ อุ้ย! คุณเนยมาโน่นแล้วค่ะ” เขารีบเดินเลี่ยงไปหาเครื่องถ่ายเอกสารที่ตั้งไว้อีกมุมของออฟฟิศทันที เพราะไม่อยากให้ศัตรูมาเห็นเขามาเพ่นพ่านแถวโต๊ะเลขาฯ บ่อย ๆ

“งานที่สั่งเรียบร้อยหรือยังตา ขอโทษนะกวนแต่เช้าเลย มีเรื่องด่วนจริง ๆ” พิมมาดาเดินมาถึงหน้าโต๊ะเลขาฯ ได้ก็รีบออกตัวเพราะรู้สึกผิดที่ต้องสั่งงานแต่เช้า ดวงหน้าขาวเนียนไม่วายมองไปรอบ ๆ เพราะเมื่อครู่เหมือนเห็นใครยืนคุยกับลลิตาอยู่

“กำลังเตรียมค่ะคุณเนย ยังไม่เสร็จดีเลย ตาเพิ่งจะมาถึงตอนเจ็ดโมงนี่เองค่ะ” คนพูดรู้สึกเกรงไม่น้อย

“เหรอ ไม่เป็นไร ค่อยทำไปพอมีเวลาอยู่” เมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงเดินตรงไปประตูห้อง แต่ก็หันมาหาอีก เมื่อคิดขึ้นได้ในเรื่องที่จะสั่ง แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นถ้วยกาแฟบนโต๊ะมีถึงสองถ้วย

“ถ้าคุณยงยุทธมาให้เข้าไปได้เลยนะ แล้วค่อยเอากาแฟมาให้พร้อมกัน แต่ตอนนี้ขอเอกสารเท่าที่มีก่อน”แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรนอกจากสั่งงานที่อยากได้และเดินเข้าห้องไป เพราะมีงานอื่น ๆ อีกมากรอให้สะสาง

อาการโล่งอกของคนแอบยืนมองมายังพิมมาดาที่เพิ่งหายเข้าไปในห้องทำงานมีขึ้นกับชายหนุ่มก่อนจะรีบตรงไปหาเครื่องถ่ายเอกสารและเขาก็ไม่ลืมจะเผื่อให้ตัวเองหนึ่งชุดแล้วจัดการพับใส่กระเป๋าในเสื้อสูทอย่างดี เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็ทำตัวเป็นปกติที่สุด



“มีอะไรกันครับพี่อ๋อย ผมเอ้าท์อะไรไปหรือเปล่าครับ” สหภาพอดสงสัยไม่ได้ที่ทั้งแผนกต่างคนต่างนั่งเงียบไม่พูดคุยกันเลย กระทั่งเริงฤทธิ์ซึ่งทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยสุนทรีย์ถูกเรียกตัวให้เข้าไปพบพิมมาดาโดยมียงยุทธหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรมนุษย์อยู่ด้านในก่อนแล้ว

“ก็เริงฤทธิ์น่ะสิ ถูกจับได้ว่าโกงเงินไป” สุนทรีย์กระซิบกระซาบ ยิ้มที่มุมปากของคนถามมีขึ้น เพราะเขาเองระแคะระคายเรื่องนี้มาตั้งแต่ทำงานที่นี่ได้เดือนเศษ ๆ แล้ว พฤติกรรมของเริงฤทธิ์ซึ่งชอบซื้อข้าวของแพงให้บริษัท และไม่ยอมสืบราคาดูซัพพลายเออร์อื่นก่อนสั่งซื้อ แต่เขาไม่สนใจจะบอกใคร เพราะปรารถนาจะให้พนักงานทั้งหมดมีพฤติกรรมเหมือนกับเริงฤทธิ์นั่นเอง

“ยังไงครับ” ยังคงตีหน้าตายได้แนบเนียนด้วยการทำเหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องนี้

“พี่ก็ไม่ได้ดูงานส่วนของเขาอย่างใกล้ชิด เพราะมัวแต่ยุ่ง ป่านนี้คงถูกคุณเนยกับคุณยงยุทธเรียกไปซักฟอกซะพรุนหมดแล้วมั้ง พี่ก็รอดูว่าผลจะออกมายังไง แต่พี่ว่างานนี้เริงฤทธิ์โดนหนักแน่ ๆ คุณเนยนะเห็นเงียบ ๆ แบบนั้น เค็มไม่แพ้แม่หรอก อุ้ย! พูดปุ๊บมาปั๊บเลย ตายยากจริง ๆ นะแม่คุณนาย” สุนทรีย์ทันได้เห็นสไบแพรเดินเฉิดฉายเข้ามาในออฟฟิศจึงรีบหลบสายตา

“ทำงาน ๆ เดี๋ยวหัวขาด นางยักษ์มาแล้ว”

สุนทรีย์รีบหันไปสั่งลูกน้องทันที สหภาพเองก็รีบก้มหน้าไปหางาน แต่ไม่วายแอบชำเลืองมองไปยังผู้เข้ามาใหม่ ที่เดินผ่านใครก็ต้องลุกขึ้นและยกมือไหว้เป็นทาง โชคดีแผนกของเขาอยู่ห่างจากทางเดินมาก จึงไม่จำเป็นจะต้องทำแบบพนักงานคนอื่น



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:35:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:35:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 1038





<< บาดแผลในใจซาตาน   ลูกที่ไม่เคยถูกรัก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account