ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: ลูกที่ไม่เคยถูกรัก

“ผมผิดไปแล้วครับคุณเนย คุณยุทธ ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ ผมทำไปก็เพราะความจำเป็นครับ ผมต้องเลี้ยงลูกสามคน พ่อแม่ผมและพ่อแม่แฟนอีกครับ แถมตอนนี้เมียก็ถูกปลดออกจากงาน ผมหมุนไม่ทันจริง ๆ ครับ ได้โปรดอย่าไล่ผมออกเลยนะครับ จะให้ผมก้มกราบตอนนี้ผมก็ยอม ถ้าผมตกงานไปอีกคน ทั้งบ้านต้องอดตายแน่ ๆ เลยครับ ผมสัญญาครับว่าต่อไปจะไม่ทำอย่างนี้อีก ยกโทษให้ผมด้วยเถอะครับ”

คนผิดอ้อนวอนนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อจนด้วยหลักฐานที่ยงยุทธและพิมมาดาช่วยกันสืบหามาได้ และเมื่อเห็นอาการของคนนั่งอ้อนวอนและเหตุผลที่มีมูลความจริงอยู่เกือบทั้งหมดแบบนี้ บวกกับไม่เคยทำอะไรผิดมาก่อนเลย ทำให้ยงยุทธหันไปหาพิมมาดา

“เอาไงดีครับคุณเนย” ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกโดยไม่ได้รับการเคาะขออนุญาตจากเจ้าของแต่อย่างใดและนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะสไบแพรไม่เคยทำอยู่แล้ว

“แม่เนย! มีอะไรไม่คิดจะบอกฉันก่อนเลยนะ นี่ถ้าฉันไม่ถามจากเลขาหล่อนก่อนแล้วฉันจะรู้เรื่องมั้ยว่าหล่อนกำลังจะทำอะไรโดยพละการ” และการเข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุยนั้น ทำเอาคนในห้องทั้งสามตกใจไม่น้อย

“คุณแม่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ไม่เห็นบอกเนยว่าจะเข้าออฟฟิศค่ะ เนยเลยไม่อยากจะรบกวน”นั่นก็แค่เหตุผลที่พิมมาดายกมาอ้าง เพราะรู้ดีว่าขืนให้รู้เรื่องนี้ การตัดสินโทษมีเพียงสถานเดียวเท่านั้นสำหรับคนเป็นแม่ผู้เด็ดเดี่ยว

“ถ้าฉันไม่มาแล้วจะรู้เหรอยะว่าฉันกลายเป็นหัวหลักหัวตอไปแล้ว นี่ตัดสินกันไปถึงไหนแล้วล่ะ” สไบแพรถามห้วน ๆ ทำเอาคนผิดรู้ถึงชะตากรรมตัวเองดีแล้ว ว่าต่อให้อ้อนวอนแค่ไหน ถ้าลองสไบแพรเข้ามาขวางไว้ตอนนี้ก็คงจะไม่พ้นถูกไล่ออกเป็นแน่

“คุณเริงฤทธิ์ไปรอข้างนอกก่อนนะคะ” และพิมมาดากับยงยุทธก็คงรู้คำตอบไม่แพ้เริงฤทธิ์เช่นกัน จึงได้แต่เดินหน้าจ๋อยออกจากห้องไปเงียบ ๆ จากนั้นทั้งสองคนก็ถูกสไบแพรไตร่สวนประหนึ่งเป็นคนทำความผิดเสียเองกระทั่งรู้ต้นสายปลายเหตุ

“ไม่ได้นะ! ทำความผิดร้ายแรงขนาดนี้จะแค่ให้พักงานได้ยังไง รู้มั้ยว่าเราเสียผลประโยชน์มากแค่ไหน แม่เนยนี่แปลกนะ สงสารคนไม่เข้าท่า ถ้าหล่อนเป็นแบบนี้ต่อไปคนงานไม่โกงกันหมดจนฉันต้องล่มจมไปหรอกเหรอ กว่าฉันจะได้ห้างนี้มาให้หล่อนนั่งทำงานเป็นใหญ่เป็นโตได้ รู้มั้ยว่าฉันกับพ่อหล่อนลำบากแค่ไหน” สไบแพรโวยวายทันทีเมื่อได้ยินคำตัดสินจากทั้งสอง

“แต่เขาก็มีความดีกับบริษัทเราอยู่บ้างนะคะคุณแม่ เห็นใจเขาเถอะค่ะ ลูกเมียพ่อแม่ก็ต้องเลี้ยงดูอีกหลายชีวิต เนยสัญญานะคะต่อไปถ้ารู้ว่าเขาทำผิดอีกเนยจะแจ้งตำรวจทันทีค่ะ” รู้ว่าแทบจะหมดโอกาสทำให้แม่เปลี่ยนใจแล้ว แต่ก็ยังอยากจะลอง เพราะเห็นใจและเข้าใจความขัดสนอยู่มาก ซึ่งสามารถทำให้คนดี ๆ กลายเป็นโจรไปหลายต่อหลายคนมาแล้ว

“ไม่ได้! ในฐานะที่ฉันเป็นรองประธาน ฉันขอสั่งให้เธอไล่มันออกแล้วหาคนมาทำงานใหม่ทันที หรือถ้าหล่อนไม่ฟังคำสั่งฉัน จะให้ฉันไล่หล่อนออกอีกคนมั้ย แค่นี้ล่ะ” จบคำสไบแพรก็เดินออกจากห้อง ทิ้งให้พิมมาดากับยงยุทธมองตากันละห้อย

“ผมก็แล้วแต่คุณเนยนะครับ ถ้าตัดสินใจได้แล้วโทรบอกผมที่แผนกนะครับ ผมขอตัวกลับไปทำงานต่อก่อน” ดูเหมือนยงยุทธเองก็ทำอะไรไม่ได้แล้วตอนนี้



“พี่เสียใจด้วยนะ ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็โทรมานะ ช่วยได้พี่จะช่วย” สุนทรีย์และพนักงานคนอื่น ๆ ในแผนกรวมทั้งสหภาพต่างเข้ามาปลอบใจเริงฤทธิ์ เมื่อได้รับซองขาวจากฝ่ายบุคคลและมีคำสั่งให้ออกจากบริษัทก่อนเที่ยง

“แม่งใจดำว่ะ คนทำผิดก็รู้ล่ะว่าผิด แต่ไม่ได้สนใจกันเลยนะว่าเขาจะมีความจำเป็นแค่ไหน แม่งเค็มทั้งตระกูลจริง ๆ เลยไอ้พวกนี้ รวยแล้วเหยียบย่ำคนจนว่ะ” หนึ่งในลูกน้องของสุนทรีย์อดด่าเจ้านายลับหลังไม่ได้

“ใช่! แล้วพี่ฤทธิ์จะทำยังไงล่ะ มีคนรอกินด้วยเป็นร้อย ตอนแรกฉันก็ยังอดใจชื้นอยู่บ้าง เพราะคิดว่าคุณเนยคงไม่ทำถึงขั้นนี้หรอก แต่ที่ไหนได้ ร้ายทั้งบ้าน พวกเราต้องระวังตัวไว้ดี ๆ นะ ผิดเมื่อไหร่แม่งไล่ออกไม่เว้นแน่”

อีกหนึ่งอดสมทบไม่ได้ แม้สหภาพจะไม่ใคร่ชอบใจที่เริงฤทธิ์ทำแบบนี้ แต่ด้วยเหตุผลสำคัญของความผิด เขามั่นใจว่า ถ้าเขาเป็นคนตัดสินเขาจะไม่ทำถึงขั้นนี้แน่

‘ฮึ! แล้วแกจะไปเอาอะไรกับพวกอสรพิษล่ะ ถ้ามันเป็นคนดีมีศีลธรรม มันจะทำพ่อแกถึงตายเหรอ’

เพราะรู้ดีว่าคนที่เขากำลังตามมาเอาคืนเลวยังไง จึงไม่แปลกใจนัก ที่คนพ่ายแพ้อย่างเริงฤทธิ์จะถูกซ้ำเติมอย่างไม่มีความปราณี คิดได้ดังนั้นแล้ว เขาจึงต้องเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าต่อไปนี้จะต้องรอบคอบให้มากกว่าเดิม และจะต้องไม่พลาดพลั้งเสียทีก่อนจะเอาทุกอย่างที่เคยเป็นของพ่อกลับมาอยู่ในมือให้ได้



รถคันงามค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปตามตรอกแคบ ๆ ที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา เกะกะขวางการจราจรอยู่อย่างนั้น มิหนำซ้ำยังต่างพากันตั้งแผงขายของยื่นออกมากินเนื้อที่ถนนเข้าไปอีก ช่วงไหนมีรถอีกคันสวนมา ก็เป็นอันจะต้องจอดรออยู่อย่างนั้น จนกว่าจะหาทางหลบหลีกไปได้ ซึ่งใช้เวลาไม่น้อย สายตาทั้งสองคู่ของคนนั่งอยู่ในรถต่างก็มองหาจุดหมายนานนับชั่วโมงแล้ว ก็แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบ

“นั่นไงครับคุณเนย เขาบอกว่าบ้านติดกับร้านขายของชำ ใช่แล้วบ้านนี่ล่ะครับ” ยงยุทธที่นั่งเป็นผู้โดยสารหันไปบอกเจ้านายสาวที่กำลังสอดส่ายสายตาไปมาไม่แพ้กัน

“จริงด้วยค่ะ จอดเบียด ๆ แถวนี้คงได้นะคะ” เพราะตรอกแคบจนแทบจะไม่มีที่ให้รถจอดได้เลย หญิงสาวจึงตัดสินใจจอดเบียดไว้กับประตูบ้านของคนที่ตั้งใจมาหานั่นเอง

“บ้านเงียบจัง สงสัยจะไม่มีคนอยู่แน่ ๆ เลยครับ ผมลองกดออดก่อนนะครับ” จบคำยงยุทธก็ออกจากรถอ้อมไปกดออด ไม่นานเจ้าของบ้านก็โผล่ออกมาดู รู้ว่าเป็นใครจึงรีบกุลีกุจอเปิดประตูให้

“คุณเนย คุณยุทธ สวัสดีครับ” เริงฤทธิ์ทั้งตกใจ แปลกใจ และดีใจระคนกันไป ถึงแม้ยังไม่รู้ถึงสาเหตุการมาของเจ้านายเก่าป้ายแดงทั้งสองก็ตามที แต่เขาก็เดาได้ว่าคงจะเป็นเรื่องดี เพราะดูจากรอยยิ้มที่ทั้งสองส่งให้แล้ว และความคาดเดาของเขาก็ไม่ผิดเพี้ยนไปมากมายนัก เมื่อได้รู้ถึงเหตุผลของการมาจากเจ้านาย ยังผลให้หัวใจที่ห่อเหี่ยวมาทั้งบ้างแฉ่นชื่นขึ้นมาได้บ้าง

“ผมกับลูกเมียต้องกราบขอบพระคุณมาก ๆ ครับคุณเนยที่กรุณาผมถึงขนาดนี้ ผมเสียใจจริง ๆ ครับ เมื่อเที่ยงทั้งโกรธ ทั้งอดน้อยใจและเสียใจที่ถูกไล่ออก ผมน่าจะรู้จักคุณเนยดีว่าเป็นคนยังไง” น้ำใจเจ้านายสาวที่มีให้เขาด้วยการตามมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ และหยิบยื่นเงินส่วนตัวให้ก้อนหนึ่งสำหรับเอาไปทำทุนเพื่อหาเลี้ยงครอบครับต่อไป ทำให้เริงฤทธิ์ซาบซึ้งอย่างไม่รู้จะหาอะไรมาเปรียบเปรยได้

“แต่ต่อไปต้องตั้งใจทำดี ๆ นะเริงฤทธิ์ คุณเนยอุตส่าห์ห่วงนายขนาดนี้ และที่สำคัญอย่าให้คนในบริษัทรู้นะ ถ้าเรื่องถึงหูท่านรองประธานเข้า คุณเนยจะลำบาก นายก็รู้นี่ว่าท่านเคร่งครัดเรื่องระเบียบการมากแค่ไหน”

ยงยุทธไม่วายกำชับ เพราะก่อนมาได้ปรึกษากันกับพิมมาดาแล้ว ว่าจะแอบช่วยเริงฤทธิ์โดยไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด แม้กระทั่งลลิตาผู้เป็นเลขาก็ตามที

“ผมสัญญาครับว่าผมจะตั้งใจทำมาหากินและจะไม่ทำผิดอีกแล้วครับ” คนพูดสัญญาเป็นมั่นเหมาะ จนพิมมาดายิ้มด้วยความพึงพอใจ และอิ่มใจ ที่ได้เป็นผู้ให้ในครั้งนี้

“ดีแล้วล่ะ งั้นก็ขอให้โชคดีนะ เนยกับคุณยงยุทธคงต้องกลับก่อน ค่ำมากแล้ว” พิมมาดารู้ว่าขืนกลับช้ากว่านี้จะต้องถูกแม่เหน็บหนัก ๆ ให้เป็นแน่





“เดี๋ยวนี้จะกลับบ้านเวลาไหนก็ไม่คิดจะโทรมาบอกกันบ้างเลยนะยะ สงสัยคนบ้านนี้จะเป็นหัวหลักหัวตอกันหมดแล้ว ถึงปล่อยให้นั่งหิ้วท้องรออยู่แบบนี้” และก็เป็นจริงอย่างคิด สไบแพรเหน็บทันทีเมื่อหญิงสาวก้าวเข้าบ้าน

“เนยขอโทษค่ะคุณแม่ พอดีรถมันติดมาก ๆ เลยค่ะ” ไม่อาจจะบอกได้ว่าทำงานเพลินอยู่ออฟฟิศจนทำให้มาช้า ด้วยสไบแพรมักจะโทรเช็คเสมอ ๆ ว่าเธอออกจากออฟฟิศเวลาใด

“เหรอยะ! แล้วจะยืนอยู่อีกนานมั้ย ฉันหิวจะแย่แล้วนะ พ่อแกด้วย” จบคำคนพูดก็เดินลงส้นหนัก ๆ ไปยังห้องอาหาร มีจักรภพนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รออยู่แล้ว พิมมาดายังไม่รู้สึกหิวเท่าไหร่ เพราะอยากไปอาบน้ำก่อน แต่ก็จำต้องนั่งลงร่วมโต๊ะกับพ่อแม่ก่อน

“เดือนนี้แผนการตลาดที่วางไว้เป็นยังไงบ้างยายเนย” พ่อที่ไม่ใคร่จะใส่ใจนักว่าลูกจะถูกแม่ดุด่ายังไง สิ่งเดียวในหัวคือแหล่งของที่ทำเงิน เพื่อให้เขาได้มีจับจ่ายใช้สอยอย่างสะดวกมือเท่านั้น

“อ้อ! ดีนะยังมีกระจิตกระใจถามไถ่ถึงงานบ้าง ฉันคิดว่าคุณจะหลงอีพวกเรือดไรที่มาคอยสูบเลือดคนหมดซะแล้ว วัน ๆ หัดนั่งอยู่ในออฟฟิศให้มันนาน ๆ จะได้มั้ย ให้ลูกน้องมันเห็นหัวบ้างไม่ใช่ไปเซ็นแต่เอกสารแล้วก็ไปออกรอบแบบนี้ สถานะการยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่”

สไบแพรรีบอ้าปากว่าผู้เป็นสามีที่มักจะไม่ค่อยได้ใส่ใจกับงานมากเหมือนเมื่อก่อน จะด้วยวัยที่เริ่มหมดกำลังลง หรือเพราะด้วยหลงระเริงกับสิ่งยั่วยุล่อใจของเพศตรงข้ามเขาเองก็เดาไม่ถูก รู้แต่ว่าเขามาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว นอกจากหาความสุขใส่ตัว ชดเชยเมื่อสมัยยังหนุ่มที่มุทำงานหนักจนไม่ได้เห็นอะไรดี ๆ

“ถ้าคุณอยากให้ผมเข้าออฟฟิศนาน ๆ คุณก็อย่าไปยุ่งมากสิ รู้ตัวมั้ยว่าทุกวันนี้คุณทำตัวน่าเบื่อแค่ไหน ว่าไงยายเนยสถานะการเป็นยังไงบ้าง” จักรภพแทบไม่อยากอดทนกับเมียที่คอยแต่จะเป็นแม่มานานแสนนานแล้ว จึงหันไปหาลูกสาวควบคู่กับการตักอาหารเข้าปากอย่างอร่อย ไม่ทันที่พิมมาดาจะได้ตอบก็ถูกผู้แม่ชิงบ่นขึ้นอีก

“อ้อ! เห็นฉันเป็นตัวยุ่งเหรอ ใช่สิ! ก็ฉันมันแก่แล้วนี่ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ไม่มีความหมายแล้วนี่ อะไร ๆ ก็ได้มาหมดแล้วนี่ จะเห็นความสำคัญของฉันอยู่ทำไม เป็นเหมือนกันหมดเลยนะทั้งพ่อทั้งลูก คอยดูนะถ้าลูกชายกับลูกสาวฉันกลับมาเมื่อไหร่ฉันจะให้ไปนั่งตำแหน่งประธานแทนพ่อมันเลย” อดคิดถึงลูกที่ยังเรียนไม่จบอยู่เมืองนอกไม่ได้

“หุบปากได้แล้ว ยายเนยเล่ามา ก่อนที่ฉันจะไปที่อื่น เพราะเบื่อแม่แกเต็มที!” จักรภพชี้หน้าใส่ผู้เป็นเมียจนต้องรีบงับปากที่กำลังจะอ้าด่าผู้เป็นสามีและลูกสาวอีก พิมมาดาพยายามจะอยู่ในอาการสงบ แต่ก็ทำใจยากเย็นเหลือเกิน

“อาทิตย์นี้จะเริ่มแผนโปรโมทประจำเดือนค่ะคุณพ่อ การประชาสัมพันธ์สินค้าลดราคา และบัตรสะสมคะแนนกำลังเตรียมการค่ะ กลาง ๆ อาทิตย์คงจะได้ส่งออกไปหาลูกค้า”

“หวังว่าคงจะไม่ถูกฝ่ายโน้นถล่มกลับมาอีกนะ” เพราะทุกครั้งที่จัดโปรโมชั่นอะไรก็ตาม มักจะถูกคู่แข่งย้อนรอยกลับด้วยการลดให้ลูกค้ามากกว่า

“เนยก็คิดว่าน่าจะได้ผลค่ะ เพราะตอนนี้แผนการตลาดเราจะไม่ให้ใครรู้มากหรือเปิดเหมือนเมื่อก่อนค่ะ”

“กลัวจะดีแต่ปากสิไม่ว่า คอยดูเถอะถ้ารู้ถึงหูฝ่ายโน้นเมื่อไหร่ ฉันจะลดตำแหน่งหล่อนให้ไปเป็นเลขาฝ่าย ทำงานประสาอะไรเสียดายเงินส่งไปเรียนเมืองนอกเมืองนาจริง ๆ” สไบแพรไม่คิดจะเกรงใจผู้เป็นลูกและสามีเลยสักนิด จนสองคนถึงกับลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน ด้วยเบื่อที่จะฟังแล้ว โดยเฉพาะพิมมาดานั้น แม้ใบหน้าจะเรียบเฉย แต่ในใจนั้นช่างเจ็บกับคำแม่เหลือเกิน

“แล้วจะไปไหนกันทั้งสองคน”

“อิ่ม” จักรภพตอบแล้วเดินออกไปดื้อ ๆ

“เนยก็อิ่มค่ะ พอดีลืมไปด้วยว่าจะต้องโทรสั่งงานลลิตาอีกหน่อย ขอตัวนะคะคุณแม่” แม้จะเจ็บช้ำใจแค่ไหน แต่หญิงสาวก็จะพยายามอย่างที่สุด ที่จะไม่ทำอะไรให้เป็นการเสียมารยาท เพราะไม่อยากทำให้แม่ไม่พอใจมากไปกว่านี้ด้วย

“อวดดี คอยดูสักวันฉันจะไม่มองแก เลี้ยงดีแค่ไหนอีกหน่อยมันก็จะเนรคุณฉัน ไม่เห็นหัวฉันเหมือนที่พ่อมันป็นอยู่แบบนี้ไงล่ะ”

แต่กระนั้นคนเป็นแม่ก็ยังไม่วายด่าตามหลัง การเงียบแล้วเดินหนีไปเฉย ๆ เธอมักจะทำเป็นประจำเวลาถูกดุด่า หรือพูดเสียดสีให้เจ็บใจอยู่ไม่ว่างเว้น เข้าห้องนอนได้จึงปล่อยให้น้ำตาที่เอ่อเต็มเบ้าไหลรินออกมาด้วยยากจะยับยั้งเอาไว้ สองมือรีบปาดน้ำตาออกจากแก้ม เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ค้อรู้ดีว่าเธอกำลังรู้สึกยังไง เมื่อเสียงดุด่าของผู้แม่ดังแทบจะถึงครัว จึงรีบขึ้นมาดูเป็นเรื่องแรก และนั่นยิ่งเรียกน้ำตาของพิมมาดาให้ไหลพรั่งพรูออกมาเพื่อระบายความคับแค้นใจ

“คุณเนย โธ่! แม่คุณของป้า เข้มแข็งไว้นะคะ” เป็นคำที่ค้อ ผู้เปรียบเสมือนแม่ของเธอมักจะใช้ปลอบประโลมในยามถูกสไบแพรด่าว่าเป็นประจำ

“เนยจะพยายามค่ะป้า แต่ทำไมคะ ทำไมแม่จะต้องคอยดุคอยว่าเนยแบบนี้ด้วย เนยทำดีที่สุดแล้วค่ะ แต่แม่ไม่เคยรักเนยเลย ไม่เคยมองเนยเป็นลูก ทำไมคะทำไมคะป้า” ร่างบอบบางโผเข้าไปซบกับอกผู้เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูเธอมานับตั้งแต่เกิดจากท้องผู้เป็นแม่ก็ว่าได้ และเมื่อพิมพ์ผู้เป็นแม่ที่แท้จริงตายจากไป ค้อก็คือผู้ให้ทั้งความรักและเลี้ยงดูพิมมาดามาจนโต จึงไม่แปลกนัก หากเธอจะรักและเห็นเป็นเหมือนแม่คนหนึ่ง

“แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงก็มักจะเป็นแบบนี้ล่ะค่ะคุณหนู อย่าคิดมากนะคะ เราทำงานของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว อย่าไปหวังว่าเขาจะรักเราเลย แค่อย่าให้เกลียดเรามากไปกว่านี้ก็พอแล้วค่ะ” คำของค้อมักจะช่วยเตือนสติได้เสมอ ๆ แต่เธอก็ทำใจยอมรับได้ยากเย็นเหลือเกิน

“ทั้ง ๆ ที่เนยก็ทำดีกับคุณแม่มาตลอดอย่างนั้นเหรอคะป้า เนยเหนื่อยแล้วค่ะ เหนื่อยจะทน เหนื่อยจะฟังคำด่าของแม่ เนยอยากไปอยู่ที่ไหนก็ได้ จะคับแคบยังไงเนยก็ไม่สน ขอให้เนยมีความสุขใจก็พอแล้วค่ะ”

นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนาจะทำนับตั้งแต่ได้ตระหนักดีแล้วว่า แม่เลี้ยงไม่มีทางจะรักเธอเลย ตรงกันข้ามกลับเอาแต่เกลียดชังมาตลอดและนับวันจะเพิ่มขึ้น ๆ ทุกวัน ส่วนพ่อก็ไม่เคยแม้แต่จะใส่ใจว่าลูกถูกแม่เลี้ยงปฏิบัติยังไงมาตั้งแต่เด็กจนโตแล้วด้วยซ้ำ

“คุณเนยก็รู้ว่าเราไปไหนไม่ได้ หรือถ้าไปได้เราก็จะเหมือนคนเนรคุณ อย่างคำคุณผู้หญิงว่าน่ะสิคะ มีอย่างเดียวที่ทำได้คือ อดทนค่ะ อดทนเพื่อรอให้ทุกอย่างดีขึ้น” ผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนรู้ดีว่าเหตุการณ์รอบตัวเป็นยังไง

“จริงของป้า เนยนี่แย่นะคะ เอะอะอะไรก็เอาแต่ร้องไห้ ทำยังกับไม่เคยถูกคุณแม่ว่ามาตั้งแต่เด็กอย่างนั้นล่ะ งั้นเนยไปอาบน้ำก่อนนะคะ วันนี้เหนื่อยจนแทบจะเดินไม่ออก ไม่รู้อะไรมีแต่เรื่องไม่ดีทั้งวันเลยค่ะ” เธอมักจะหยุดน้ำตาเอาไว้ได้ ในทุก ๆ ครั้งที่มีค้อคอยเตือนสติ

“ดีแล้วค่ะที่คุณเนยคิดได้อย่างนี้ มาค่ะป้าจะเตรียมของให้” ค้อมักจะคอยดูแลเธอเสมอ ๆ ในทุกครั้งเมื่อโอกาส เพราะค้อเองก็รักเธอเหมือนลูกเช่นกัน ด้วยทำงานในบ้านจักรภพมาตั้งแต่สาวใหญ่สาวจนตอนนี้ห้าสิบกว่า ๆ แล้ว แต่เพราะความห่วงคุณเนยจึงไม่ยอมลาออกไปอยู่ไหน



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:37:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:37:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 1563





<< แผยรุกของซาตาน   เผชิญหน้ากับซาตาน >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account