ซาตานจำแลง

‘สหภาพ’ ชายหนุ่มผู้มี ‘ไฟแค้น’ที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตใจมานานนับสิบปีเพื่อรอคอยโอกาสเหมาะสมกับการกลับมาเอาคืนจากคนที่ทำร้ายเขาและครอบครัวเมื่อวัยเด็ก แต่แล้ว ‘ไฟแค้น’ ก็กลับกลายเป็นดาบสองคมทิ่มแทงให้เขาต้องเจ็บช้ำ เมื่อต้องมาพบกับ





‘พิมมาดา’ ผู้เปรียบเสมือนสายน้ำ ที่อาจจะมาราดรดให้ ‘ไฟแค้น’ ในใจเขามอดดับลงไปได้ หรือไม่น้ำอันฉ่ำเย็นอาจจะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำเดือดขึ้นมาแทนเมื่อถูกต้มครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาจะต้องเจ็บช้ำเพราะความ ‘ทรนง’ และ ‘ไฟแค้น’ ที่สุมอกหรือไม่ แล้วสายน้ำอย่างเธอจะช่วยเขาไว้ได้บ้างไหม ชีวิตในบั้นปลายของคนทั้งคู่จะพานพบความสุขหรือความสูญเสีย ‘ซาตานจำแลง’ มีคำตอบรอให้คุณค้นหาแล้ว
Tags: พระเอกโหดมากกกกกกกกก นางเอกน่าสงสารมากกกกกกกกก

ตอน: เผชิญหน้ากับซาตาน

รถของสหภาพจอดเทียบในช่องยังไม่ทันได้ดับเครื่อง ก็มีอีกคันขับผ่านไปในเวลาไล่เลี่ยกัน นาฬิกาบนหน้าปัดเพิ่งจะหกโมงครึ่ง ทำให้อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมพิมมาดาถึงมาทำงานเช้ากว่าทุกวัน ใจจริงอยากจะนั่งรอให้สายกว่านี้หน่อยเขาถึงจะเข้าออฟฟิศ เพราะไม่อยากให้ศัตรูเห็นหน้า แต่ด้วยข้าวของที่หญิงสาวหอบมาจนเต็มมือและบางถุงร่วงลงไปกองกับพื้น เขาจึงต้องรีบออกไปช่วย

“อุ้ย! ขอบคุณค่ะ คุณ เอ่อ...” เพราะไม่ค่อยได้เห็นหน้าและพูดคุยกับพนักงานคนนี้นัก ทำให้จำชื่อไม่ได้

“สุภาพครับ ทำไมคุณเนยมาทำงานแต่เช้าจังครับ” แม้จะเคืองอยู่บ้างที่ตัวเองมาทำงานได้สี่เดือนแล้ว แต่แม่สาวเย่อหยิ่งยังไม่เคยจำชื่อได้เลยด้วยซ้ำ

“อ้อ! คุณสุภาพอยู่แผนกจัดซื้อ ลูกน้องพี่อ๋อย” เธอทวนความจำตัวเอง ก่อนจะเดินตรงไปหาประตูออฟฟิศ เพื่อเปิดแต่มือก็ไม่ว่าง จนสหภาพต้องวิ่งไปอาสาช่วย

“ผมเปิดให้ครับ” เขารีบเดินนำประตู ส่วนพิมมาดาเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ ให้ แล้วเดินตรงไปหาห้องทำงาน เช้านี้มีเรื่องให้ต้องขบคิดอย่างหนัก เกี่ยวกับห้างคู่แข่งที่เพิ่งจะปล่อยกลยุทธเรียกลูกค้าตัดหน้าอีกแล้ว ด้วยการจัดโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ส่วนโปรโมชั่นที่เธอคิดคือซื้อสองแถมหนึ่ง

ร่างบอบบางนั่งลงกับเก้าอี้ประจำตำแหน่งมองใบปลิวของตัวเองและคู่แข่งสลับสับเปลี่ยนกันไปมาด้วยอาการครุ่นคิด เพราะเหมือนคู่แข่งจะรู้แผนการตลาดที่เธออุตส่าห์คิดหลายต่อหลายตลบ กว่าจะยอมจัดโปรโมชั่นนี้ออกมาได้ เพราะกลัวจะได้ไม่คุ้มเสีย แต่เพื่อเรียกลูกค้าให้กลับเข้ามาจับจ่ายให้มีเงินหมุนเวียนเธอจึงยอมทำแบบนี้ สุดท้ายก็ดูเหมือนจะถูกโจมตีอีกเหมือนเดิม

ไม่เข้าใจเอามาก ๆ ว่าคู่แข่งจะทำแบบนี้ไปทำไม ขาดทุนเห็น ๆ และที่ไม่เข้าใจหนักเข้าไปอีกก็คือ รายการสินค้าที่เธอเลือกมาทำโปรโมชั่นนั้น คู่แข่งนำเอาไปจัดโปรโมชั่นตัดหน้าได้จำเพาะเจาะจงแทบจะทุกรายการก็ว่าได้ หญิงสาวเอนหลังไปกับพนักเก้าอี้ช้า ๆ ปิดเปลือกตาลงเพื่อไล่ความเครียดให้ออกจากหัว สลับการนั่งตัวตรงเอามือประสานกันเพื่อช่วยค้ำหน้าผากมนเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง

สายตาคมเฝ้าจ้องมาอากัปกิริยาของคนอยู่ในห้องทำงานซึ่งเป็นกระจกใสมานานเกือบครึ่งชั่วโมง ริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างคนสะใจอยู่ในที ให้เดาก็คงไม่ยากว่าแม่สาวเย่อหยิ่งเครียดด้วยเรื่องอะไร ใจจริงเขาอยากให้ทั้งพ่อและแม่ของเจ้าหล่อนมานั่งกลุ้มด้วยกันเต็มกำลัง มันคงจะเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อยหากเขาจะมีโอกาสได้เห็น และดูเหมือนความปรารถนาของเขาจะไม่ไกลเกินความจริงแล้ว เมื่อจักรภพและสไบแพรเดินหน้านิ่วเข้ามาในออฟฟิศ แถมเดินตรงไปยังห้องทำงานคนลูกด้วย



“นี่มันอะไรกันยายเนย ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ตอบฉันมาซิ ว่าแผนการอะไรของแกถึงได้ถูกคู่แข่งตีกลับไม่เป็นท่าแบบนี้ แล้วคิดจะบอกฉันเมื่อไหร่” ใบปลิวทั้งปึกในมือคนพ่อฟาดลงไปโต๊ะทำงานคนลูก ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไปได้ สไบแพรยืนยิ้มเยาะเย้ยอยู่ด้านหลังอย่างสะใจ

“เนยก็ไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไงค่ะ ใบปลิวเราเพิ่งจะส่งออกไปเมื่อวานนี้เอง แต่ทำไมทางโน้นถึงจัดรายการเหมือนกันและส่งออกในเวลาไล่เลี่ยกับเราได้ก็ไม่รู้ค่ะ”

เพราะทันทีที่ใบปลิวโปรโมชั่นนี้ถูกส่งให้ลูกค้าทั้งทางอีเมล์ เวปไซด์ และนำออกแจกจ่ายโดยใช้เด็กเดินแจกไม่เท่าไหร่ หญิงสาวก็ได้รับอีเมล์ใบปลิวของคู่แข่งส่งมาให้หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที ประหนึ่งว่าอีกฝ่ายได้เตรียมการรอไว้ก่อนแล้วก็ไม่ปาน เป็นเหตุให้เธอนอนไม่หลับทั้งคืนจึงต้องรีบตื่นแต่เช้าออกจากบ้านก่อนจะได้เห็นหน้าพ่อกับแม่นั่นเอง

“ก็เพราะหล่อนมัวแต่สะเพร่ายังไงล่ะแม่เนย ห้างนั้นมันตั้งใจจะมาแข่งห้างเราตั้งแต่แรกแล้วหล่อนก็รู้นี่ยะ อะไรที่เป็นความลับก็ควรจะระวังให้มากกว่านี้ ไม่แน่นะเผลอ ๆ มันอาจจะให้คนของมันปลอมตัวเข้ามาฉวยความลับจากหล่อนอยู่ก็เป็นได้ หัดมองโลกในแง้ร้ายบ้างนะ ถ้ารักจะทำธุรกิจนี้อยู่ แค่นี้ต้องให้สอน” สไบแพรได้ทีรีบจัดการอย่างใจคิด

“เนยก็ระวังแล้วนะคะคุณแม่”

“แต่หล่อนยังระวังไม่มากพอ ฉันจะบอกให้หล่อนรู้ไว้นะยะ ถึงฉันจะไม่ได้มาทำงานเต็มตัวเหมือนหล่อน แต่ฉันก็รู้ระบบงานทุกอย่าง และมองเกมออกด้วยว่าคู่แข่งจะขย้ำเรายังไง เพราะฉันทำงานที่หล่อนทำอยู่นี่มาตั้งแต่หล่อนยังแก้ผ้าวิ่งเล่นอยู่เลยด้วยซ้ำ ต่อไปหัดจำคำสอนฉัน และอย่ามาละเมิดคำสั่งฉันด้วย ฝีมือระดับหล่อนน่ะ ยังจัดอยู่ในประเภทปลายแถว ทีหน้าทีหลังอย่าได้มาอวดดี ไม่คิดจะปรึกษาฉันจำเอาไว้” ทั้งสีหน้าและท่าทางของคนพูดดูจะเกลียดชังเธอเต็มประดา

“คุณแม่ เนยไม่เคยคิดแบบนั้นนะคะ เนย....”

“เอาล่ะ ๆ พอได้แล้ว ฉันเบื่อจะฟังพวกเธอทะเลาะกัน เสียเวลา เปล่าประโยชน์ ยายเนย สิบโมงรีบนัดประชุมฝ่ายการตลาดทั้งหมด ฉันจะเข้าไปประชุมด้วย และก่อนประชุมช่วยคิดแผนการตลาดสำหรับเดือนหน้าไปด้วย ฉันจะดูเองว่าใช้ได้มั้ย”

จบคำจักรภพก็เดินออกจากห้องด้วยอาการของคนหัวเสีย สไบแพรเบะปากใส่คนลูกแล้วรีบตามสามีออกไปทันที ผู้เป็นเจ้าของห้องน้ำตาปริ่ม ๆ จะไหลออกมา แต่ก็ต้องรีบหักห้ามเอาไว้ เพราะไม่อยากเผยความอ่อนแอให้พนักงานที่ทยอยกันมาทำงานบ้างแล้วได้เห็น

เครื่องแล็ปท็อปซึ่งสหภาพหอบมาทำงานด้วยทุกวัน ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางส่งข่าวคราวไปหาสามารถว่าแผนการได้ผลเกินคาด ขณะที่เขายังนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะของตัวเองโดยหันหลังให้ผนัง ทำให้สะดวกทั้งรับหรือส่งเมล์ส่วนตัวและเรื่องงานต่าง ๆ ได้ดียิ่ง ดีจนไม่เคยแม้แต่จะมีคนมาระแคะระคายใด ๆ ว่าผู้มาฉวยความลับไปนั้นเป็นเขา

‘ปลูกผักอื่นต่อไปได้ เย็น ๆ เจอกันที่บ้าน’

ข้อความสั้น ๆ เขามักจะสื่อสารกับสามารถตลอดเวลาที่ทำงานในนี้ และอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะรู้ใจเขาได้อย่างดี สายตาคมเหลือบไปเห็นสุนทรีย์กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ กำลังเดินเข้ามา จึงรีบปิดหน้าต่างงานของตัวเองและเปิดงานของบริษัทมาแทนที่ พร้อมปรับสีหน้าอันสะใจจากผลงานตัวเองให้เป็นปกติที่สุด

“โห! พี่แพทนี่ขยันตั้งแต่มาทำงานวันแรกจนถึงทุกวันนี้เลยนะคะ มาแต่เช้าเชียวสงสัยตำแหน่งพนักงานดีเด่นคงไม่หนีไปไหนแน่ ๆ เลยใช่มั้ยคะพี่อ๋อย” เด็กสาวซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานเอ่ยทักทาย ส่วนเขาได้แต่ยิ้มบาง ๆ ให้ เพราะไม่ใคร่อยากต่อความยาวสาวความยืดเป็นทุนอยู่แล้ว อีกอย่างยิ่งพูดบางทีอาจจะไม่เรื่องไม่ดีมาเข้าตัวก็เป็นได้ เขาจึงเน้นเป็นผู้ฟังที่ดีและคอยสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ มากกว่า

“เอ...พี่ไม่แน่ใจนะ เอ้อ! แพทเย็น ๆ อย่าเพิ่งรีบกลับนะ พี่ขอนัดคุยด้วยหน่อย” สุนทรีย์หันมาบอกด้วยสีหน้าอมยิ้ม ประหนึ่งมีเรื่องปกปิดเอาไว้ก็ไม่ปาน

“ครับพี่” เขารับคำแค่นั้น เพราะพอจะเดาได้ว่าหัวข้อที่หัวหน้างานจะคุยนั้นน่าจะเป็นเรื่องอะไร



ห้องประชุมที่มีประธาน รองประธาน และฝ่ายการตลาดต่างตึงเครียดมากว่าสองชั่วโมงแล้ว เพราะแผนการตลาดที่วางไว้เดิมไม่เป็นที่ถูกใจของผู้ใหญ่ทั้งสอง จนต้องปรับเปลี่ยนกันใหม่ในห้องประชุมนั้น สไบแพรอดหมั่นไส้พิมมาดาแทบไม่ได้ เสนอแผนนั้นแผนนี้อย่างคนคล่องงาน แต่ก็ออกปากเหน็บแนมไม่ได้ เพราะจักรภพไม่ปรารถนาจะให้ทำต่อหน้าพนักงานนัก ด้วยฐานะของพิมมาดาที่ทุกคนรู้จักคือเป็นลูกแท้ ๆ ของเขาและสไบแพร ไม่ใช่ลูกติดพ่ออย่างที่เป็น

และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้พิมมาดายังพอจะชื้นใจอยู่บ้าง ที่อย่างน้อย ๆ พ่อก็ไม่เคยทิ้งขว้างเธอให้แม่เลี้ยงเอาแต่รังแกไปซะทีเดียว อีกอย่างเธอรู้ดีว่าพ่อยุ่งงานมาเยอะ บวกกับความเป็นผู้ชายไม่ใคร่จะอยากใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้หญิง ถือเป็นเรื่องหยุมหยิม น่ารำคาญมากกว่าจะเก็บมาใส่ใจ

“งั้นเอาแผนนี้ดีมั้ยคะท่านประธาน ท่านรองประธาน” เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกพ่อและแม่เมื่ออยู่ในที่ทำงาน

“มีอะไรว่ามา” จักรภพรอฟังอย่างตั้งใจ เพราะต้องการหาทางออกที่ดีให้กับห้าง ด้วยหวาดหวั่นว่าจะล้มไม่เป็นท่าเหมือนเคย และแน่นอนเขาจะต้องกลายเป็นคนไม่เหลืออะไรลงไปด้วย โอกาสจะได้หาความสุขใส่ตัวในชีวิตบั้นปลายก็จะหายไปในพริบตาเป็นแน่

“เราจะยอมเจียดพื้นที่ลานจอดรถลูกค้าเอาไว้ส่วนหนึ่ง แล้วให้คนภายนอกทั่วไปมาใช้พื้นที่จัดกิจกรรมฟรี ๆ ค่ะ เพื่อดึงให้คนเข้ามาชมงานและเลยมาจับจ่ายของในห้างด้วย”

“แล้วมันเรื่องอะไรเราจะต้องให้คนอื่นมาใช้เปล่า ๆ ปลี้ ๆ ด้วยจ้ะแม่เนย ที่ทางล้วนแต่เป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น” สไบแพรอดไม่ได้จริง ๆ เมื่อได้ยินข้อเสนอของลูกเลี้ยง

“นั่นสิ เนยกำลังคิดจะทำอะไร” จักรภพก็สงสัยไม่หาย

“คืออย่างนี้ค่ะ พื้นที่นี้เราจะเชิญให้กลุ่มคนมาใช้สอยฟรี ๆ เช่น พวกขายเครื่องเสียงติดรถไงคะ เมื่อคนพวกนี้มาก็ต้องมาแสดงเครื่องเสียงพร้อมโคโยตี้สวย ๆ มาเต้นบนรถ เพื่อเรียกคนดู เราให้พวกเขาใช้สักอาทิตย์หนึ่งไปเลย อาทิตย์ต่อไปก็อาจจะ ให้พวกจัดสวนสนุกเคลื่อนที่เข้ามาติดตั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็กแล้วเปิดเพลงดัง ๆ เรียกเด็ก ๆ มาเล่น อะไรประมาณนี้ค่ะท่านประธาน ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ขอให้ฝ่ายการตลาดได้เตรียมงานก่อนค่ะ ได้อะไรที่แน่นอนแล้วเราจะแจ้งให้ทราบอีกที”

“มันจะได้ผลเหรอคะคุณ แผนเด็ก ๆ แบบนี้ จะสู้กับพวกนั้นได้เหรอ” สไบแพรหันไปหาสามีแต่ก็อดปรายตาไปหาพิมมาดาไม่ได้

“งั้นลองไปทำแผนมาดูก่อน แล้วค่อยว่ากัน แต่ผมขอย้ำว่า ต่อไปนี้แผนการตลาดทุกอย่างขอให้ทุกคนกำไว้เป็นความลับ อย่าให้รั่วไหลไปไหนได้อีก อย่าลืมว่าห้างอยู่ไม่ได้พวกคุณก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ยังไม่รวมกับคนงานอีกเป็นร้อยที่รอพึ่งพวกคุณอยู่ ขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาด้วย ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอปิดการประชุม” จบคำเขาก็ลุกออกจากห้องไปอย่างไม่แยแสสายตาพนักงานที่มองตามด้วยความกังวลไปตาม ๆ กัน

“คุณเนยจะให้ตาสั่งอาหารมาบนห้องทำงานหรือเปล่าคะ” เพราะจะบ่ายโมงแล้วยังไม่มีใครได้กินมื้อเที่ยงสักคน

“ไม่เป็นไรหรอกตา เนยจะไปกินข้างล่าง ทุกคนแยกย้ายกันไปกินข้าวเถอะ บ่ายสามมาประชุมที่ห้องเนยอีกที”

เมื่อได้ไฟเขียวจากหัวหน้า ทุกคนต่างรีบแยกย้ายกันไปทันที เพราะหิวจนไส้กิ่วกันถ้วนหน้า ไม่แพ้แม้แต่พิมมาดาที่ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า ร้านของขวัญข้าวจึงเป็นที่เดียวเพื่อคอยช่วยขจัดความหิวได้



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 08:38:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 08:38:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1241





<< ลูกที่ไม่เคยถูกรัก   แผนเริ่มถูกระแคะระคายแล้ว >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account